เกาะติดสถานการณ์ ดิน น้ำ ลม ฝน พายุ **เฝ้าระวัง !!!!2556(2013)**

เดือดน้ำท่วมหนัก! ฮือปิดถนน บีบเปิดประตูน้ำ
วันอังคารที่ 24 กันยายน 2556 เวลา 09:19 น.


12จังหวัดอ่วมอพยพหนี 3นิคมอุตสาหกรรมผวาหวั่นซ้ำรอยเดิม รถไฟ-ทางหลวงแจ้งเปลี่ยนเส้นทาง

จากกรณีเกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่จังหวัดภาคอีสานและภาคกลาง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมหลากในพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งบางแห่งอยู่ในเขตเศรษฐกิจ การสัญจรถูกตัดขาด วานนี้ (23 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยหลังเกิดฝนตกมาอย่างหนักในหลายพื้นที่ว่า ขณะนี้เกิดสถานการณ์อุทกภัยใน 21 จังหวัด 114 อำเภอ 496 ตำบล 4,025 หมู่บ้าน 164,551 ครัวเรือน 604,788 คน

โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือท่วม 7 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา สุรินทร์ กาฬสินธุ์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ และบุรีรัมย์ ภาคเหนือ 4 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์ ภาคกลาง 7 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ สระบุรี ลพบุรี กาญจนบุรี นครนายก พระนครศรีอยุธยาและอ่างทอง ภาคตะวันออก 2 จังหวัด ได้แก่ ปราจีนบุรี และสระแก้ว ภาคใต้ 1 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ซึ่ง ปภ.ได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดวางแผนปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเชิงรุกครอบคลุมทุกมิติ จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ส่วนหน้า โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ทำหน้าที่อำนวยการสั่งการแก้ไขปัญหา พร้อมร่วมกับส่วนราชการอื่น ๆ

ร้องเปิดประตูน้ำ 3 แห่ง

ในส่วนของสถานการณ์น้ำท่วมตามจังหวัดต่าง ๆ เริ่มที่ จ.ปราจีนบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีกลุ่มชาวบ้านเขตเทศบาลตำบลกบินทร์บุรี ที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม กว่า 50 คน รวมตัวกันปิดถนนสายสุวรรณศร ทั้ง 2 ฝั่งการจราจร บริเวณเทศบาลตำบลกบินทร์บุรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พร้อมนำ เก้าอี้ และปูนเกาะกลางถนน มาทำการปิดกั้นผิวจราจร ทำให้รถไม่สามารถผ่านไปมาได้ เพื่อเรียกร้องให้ นางสาวจิตรา พรหมชุติมา ผวจ.ปราจีนบุรี เปิดประตูน้ำทั้ง 3 แห่ง คือ ประตูน้ำเพชรเอิม ต.วังดาล อ.กบินทร์บุรี ซึ่งเป็นประตูน้ำหลักที่อยู่ใต้ อ.กบินทร์บุรี ประตูน้ำตะกุดอ้อม (วังทะลุ) ต.วังดาล อ.กบินทร์บุรี และประตูน้ำบางกระพ้อใหญ่ ต.บ้านทาม อ.ศรีมหาโพธิ เพื่อเป็นการลดระดับน้ำในเขตเทศบาลตำบลกบินทร์บุรีหลังต้องทนกับสภาพน้ำท่วมขัง ซึ่งบางแห่งสูงกว่า 1-2 เมตร ทั้งนี้นายปลอดประสพ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน กบอ. ได้ลงพื้นที่ตรวจสภาพน้ำท่วมพร้อมเข้าเจรจากับกลุ่มชาวบ้านโดยยอมรับเงื่อนไขด้วยการเปิดประตูระบายน้ำทั้ง 3 แห่ง ขึ้น 30 เซนติเมตร เพื่อลดระดับน้ำในพื้นที่ท่วมขังหลังจากพบว่ามีระดับสูงกว่า 1.20 เมตร ส่วนจะเปิดเพิ่มหรือลดลงนั้นให้เป็นดุลพินิจของทาง ผวจ.ปราจีนบุรีต่อไป

ภาคกลางน้ำเริ่มท่วมสูง

ที่ จ.พิจิตร สถานการณ์น้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ และน้ำป่าจากเทือกเขาวังทอง จ.พิษณุโลก ได้หลากเข้าท่วมพื้นที่วังพูนทราย ทับคล้อ ไหลหลากเข้าสู่ลำคลองมุ่งหน้าเข้าเมือง

ที่ จ.สระบุรี ได้เกิดฝนตกหนักมีน้ำท่วมขังในเทศบาลตำบลวิหารแดงสูงกว่า 30 เซนติ เมตร ทำให้พื้นที่เศรษฐกิจได้รับความเสียหาย ส่วนที่สะพานข้ามคลองในหมู่บ้านพื้นที่ ต.กุดนกเปล้า อ.เมือง ถูกน้ำป่าซัดคอสะพานขาดเจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมแล้ว ขณะที่ จ.สุพรรณบุรี แม่น้ำท่าจีนเพิ่มระดับสูงขึ้นเข้าท่วมถนนสายสุพรรณบุรี-บางปลาม้าสายเก่า วัดมเหยงคณ์ ในพื้นที่ ต.ท่าระหัด อ.เมืองแล้ว 20 เซนติเมตร ส่วนบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำต่างได้รับความเดือดร้อนกว่า 80,000 ครอบครัว ซึ่งทาง ปภ.จังหวัดได้ให้ความช่วยเหลือแล้ว ในส่วนของที่จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีน้ำท่วมหลากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะใน อ.บางบาล พบว่ามีน้ำท่วมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง บางรายต้องเลี้ยงลูกหลานท่ามกลางน้ำท่วมขัง อีกทั้งช่วงน้ำหลากยังได้พัดพาเอาขยะเน่าเหม็นลอยเข้าบ้านจนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก

เดือดร้อนพายเรือเก็บของ

ขณะที่วัดอัมพวา หมู่ที่ 1 ต.บางหัก อ.บางบาล ที่ถูกน้ำท่วมหลากทั้งวัดนั้นพระสงฆ์ยังประสบปัญหาเรื่องเรือที่ใช้บิณฑบาต และยังต้องช่วยกันพายเรือไปขนเอาโต๊ะหมู่บูชา และข้าวของภายในอุโบสถขึ้นที่สูง ส่วนที่บริเวณทิศใต้ของวัดไชยวัฒนาราม ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา ได้กั้นเขื่อนดินเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางนายเอนก สีหามาตย์ อธิบดีกรมศิลปากร ได้กำชับเฝ้าระวังพร้อมเตรียมกระสอบทราย 3 หมื่นใบไว้ในสถานการณ์ฉุกเฉินด้วย ส่วนที่ โรงเรียนวัดบุญกันนาวาส นักเรียนต่างได้รับความเดือดร้อน ต้องเข้าแถวเคารพธงชาติด้วยการพายเรือ ขณะที่ ต.เกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำนั้น น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อเข้าท่วมแล้วในช่วงเวลาเย็นไปจนถึงเช้ามืด เนื่องจากเป็นช่วงที่น้ำขึ้นสูง แต่ชาวบ้านมีการเตรียมตัว เร่งขนทรัพย์สินไว้ในที่สูงจนหมดแล้ว ส่วนที่ จ.ปทุมธานี ชลประทานจังหวัดแจ้งเตือนประชาชนว่า ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูง ทำให้ชุมชนตลาดบางเตย อ.สามโคก ถูกน้ำท่วมขังแล้ว สถานที่ราชการหลายแห่งในพื้นที่ต้องเร่งนำกระสอบทรายมากั้น และนำเครื่องสูบน้ำมาสูบน้ำที่ขังออกไปเป็นการด่วน

อีสานอ่วมท่วมหลายแห่ง

สถานการณ์น้ำท่วม ที่ จ.นครราชสีมา อ.ด่านขุนทด น้ำลดลงแล้ว 50 เซนติเมตร หลังจากถูกน้ำป่าเทือกเขาพังเหยไหลบ่าลงมาล้นอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนบน ส่วนที่ จ.สุรินทร์ เจ้าหน้าที่ได้เร่งผันน้ำในอ่างเก็บน้ำลำพอก อ.ศีขรภูมิ ซึ่งเป็นจุดรับน้ำจากพื้นที่ อ.สังขะ อ.ศรีณรงค์ และ อ.เมือง บางส่วน ลงสู่พื้นที่ อ.สำโรงทาบ และ อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ เนื่องจากมีปริมาณน้ำท่วมเอ่ออีกเป็นจำนวนมาก ทำให้น้ำที่ท่วมในพื้นที่ อ.ศีขรภูมิ เริ่มลดระดับลงแล้ว อย่างไรก็ตาม จ.ศรีสะเกษ กลับมีน้ำป่าจากเทือกเขาพนมดงรัก ชายแดนไทย-กัมพูชา อ.ภูสิงห์ ไหลท่วมลงพื้นที่เขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ จนสูงกว่า 10 เซนติเมตร ชาวบ้านไม่ทันได้เตรียมตัวจึงถูกน้ำท่วมทรัพย์สินเสียหายเป็นจำนวนมาก ขณะที่ปภ.จังหวัดออกแจ้งเตือนพื้นที่ประสบอุทกภัยแล้ว 18 อำเภอ ส่วนที่ จ.สระแก้ว ระดับน้ำคลองพระสะทึง ยังคงไหลแรงจนพัดเอาสะพานข้ามคลองขาดหลายแห่ง ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถอพยพทางรถยนต์ได้ ต้องอาศัยเรือท้องแบนเท่านั้น

ป้องกัน 3 นิคมเสี่ยงน้ำท่วม

ด้าน นายประเสริฐ บุญชัยสุข รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า ได้สั่งการให้ นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เร่งติดตามพื้นที่นิคม เขตสวนอุตสาหกรรมทุกแห่ง ที่คาดว่า จะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมมีปัญหาอะไรบ้าง โดยเฉพาะนิคมอุตสาหกรรมใน จ.พระนครศรี อยุธยา และ จ.ปทุมธานี ที่ประสบภัยน้ำท่วมเมื่อปี 54 แม้จะมีการสร้างเขื่อนป้องกันน้ำแล้ว แต่ยังเหลือนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร ที่ยังก่อสร้างเขื่อนกันน้ำ คืบหน้าเพียง 30% เท่านั้น เบื้องต้นจึงให้ กนอ. ขนย้ายแนวป้องกันน้ำแบบเคลื่อนที่เร็ว สำรองไว้ที่นิคมดังกล่าวแล้ว

สำหรับแนวกั้นน้ำแบบขนย้ายเคลื่อนที่เร็ว ขณะนี้เก็บอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมบางพลี ลาดกระบัง และสมุทรสาคร สามารถกันน้ำได้ยาวกว่า 20 กิโลเมตร จึงได้สั่งการให้ขนย้ายแนวป้องกันดังกล่าวมาไว้ที่นิคมที่มีความเสี่ยงก่อน เบื้องต้นได้รับรายงาน 3 แห่งที่อาจอยู่ในจุดเสี่ยงคือ สหรัตนนคร นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน และนิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.ปราจีน บุรี ซึ่งมีนิคมอุตสาหกรรมใกล้เคียงคือ นิคมอุตสาหกรรมกบินทร์บุรีนั้น ยืนยันว่าจะไม่ได้รับผลกระทบแน่นอน แต่ก็ได้ให้ติดตามรายงานสถานการณ์อย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นยังไม่พบว่ามีผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมใด ยื่นร้องขอความช่วยเหลือ หรือ ข้อเสนอมาที่ กนอ. และกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งมั่นใจว่ายังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อยู่ ยังไม่ได้เข้าสู่ภาวะที่น่าวิตกกังวลใด ๆ

รถไฟวิ่งถึงศีขรภูมิ

นางนวลอนงค์ วงษ์จันทร์ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า การรถไฟฯได้ประกาศปิดทางในช่วงสถานีสำโรงทาบ-ห้วยทับทัน ระหว่าง สทล.476/9-478/9 ตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย. 56 ไปแบบไม่มีกำหนด หลังจากเกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันในจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้เกิดกระแสน้ำไหลบ่าท่วมรางรถไฟ และพัดหินรองรางจนไม่ปลอดภัยต่อการเดินขบวนรถไฟ นอกจากนี้ในวันที่ 23 ก.ย. ยังประกาศงดขบวนรถสายอุบลราชธานี ขบวนรถเร็วที่ 145 (รถไฟฟรี) กรุงเทพฯ-อุบล ราชธานี และขบวนรถเร็ว 139 ขณะที่ขบวนรถด่วนที่ 67 กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี เดินรถได้ถึงปลายทางแค่สถานีศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ เท่านั้นโดยไม่มีการขนถ่ายผู้โดยสาร ส่วนขบวนรถสายหนองคายที่ต้องเดินขบวนรถที่ต้องผ่านจุดน้ำท่วมจะต้องเปลี่ยนเดินขบวนรถเลี่ยงไปทางชุมทางบัวใหญ่-แก่งคอย ต่อไปจนถึงสถานีหนอง คาย โดยผู้โดยสารสามารถนำตั๋วมาเลื่อนการเดินทางหรือติดต่อขอรับเงินคืนได้ที่นายสถานีรถไฟทุกแห่งสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง

น้ำท่วมผ่านถนนไม่ได้ 3 สาย

นายชัชวาลย์ บุญเจริญกิจ อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักในช่วงนี้ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมหนักในหลาย ๆ พื้นที่ 13 จังหวัด ทำให้ถนนทางหลวงเสียหายกว่า 27 สายทาง ซึ่งในจำนวนนี้มีเส้นทางที่เสียหาย แต่ประชาชนในพื้นที่ยังใช้สัญจรผ่านไปมาได้ 24 สายทาง และมีสายทางที่ได้รับความเสียหายจนทำให้ไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ 3 สายทาง ได้แก่ เส้นทางในนครราชสีมา ทางหลวงหมายเลข 201 หินหล่อง-ด่านขุนทด ท้องที่อำเภอด่านขุนทด ช่วง กม.ที่ 37-38 ระดับน้ำสูง 45 ซม. ดังนั้นเพื่อความสะดวกให้ประชาชนหลีกเลี่ยงไปใช้ทางของทางหลวงชนบท เส้นทางปราจีนบุรี ทางหลวงหมายเลข 3627 โคกหอม-คลองแห่ ท้องที่อำเภอกบินทร์บุรี ช่วง กม.ที่ 3-4 ระดับน้ำสูง 50 ซม.ให้หลีกเลี่ยงไปใช้ทางหลวงชนบทแทน และ จ.สุรินทร์ ทาง หลวงหมายเลข 226 ลำน้ำชี-สุรินทร์ ท้องที่อำเภอเมืองสุรินทร์ ช่วง กม. ที่ 163-164 ระดับน้ำสูง 80 ซม.ให้ใช้ทางหลวงชนบทแทน โดยสอบถามสายด่วนกรมทางหลวง ตลอด 24 ชั่วโมง 1586

นายกฯ ยันน้ำน้อยกว่าปี 54

ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดขณะนี้ ว่า สถานการณ์ปีนี้ต่างจากปี 54 ในปี 54 ปริมาณน้ำโดยรวมมีเยอะมาก ไหลลงมาจากทางเหนือ แต่สำหรับปีนี้ ปริมาณน้ำเกิดจากพายุและมรสุมต่าง ๆ โดยลงมาใต้เขื่อน ทำให้พื้นที่ตอนล่าง และภาคอีสานบางส่วนได้รับผลกระทบ แต่ปริมาณน้ำในเขื่อนยังสามารถกักเก็บไว้ได้ เมื่อถามย้ำว่าคิดว่าน้ำจะมาถึงพื้นที่ กทม.หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า น้ำท่วมขังคงมีอยู่ ก็ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพในการระบาย ซึ่งเราคงต้องสำรวจตามท่อและคูคลองต่าง ๆ ถ้ามีการขุดลอกกันตลอดเวลาก็ไม่น่าจะมีการท่วมขังนาน

ปลอดโวตั้งวอร์รูมดูน้ำ 24 ชม.

ทางด้าน นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) กล่าวว่าได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวกับการบริหารจัด การน้ำทั้งในระดับกระทรวงและระดับกรม ตั้งศูนย์เฉพาะกิจขึ้นในหน่วยงานของตัวเองและส่งตัวแทนมาที่ศูนย์บัญชาการ (ซิงเกิ้ล คอมมานด์ เซ็นเตอร์) ของสำนักงานนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (สบอช.) ภายในทำเนียบรัฐบาล เพื่อตั้งเป็นวอร์รูมติดตามสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชั่วโมง เป็นเวลา 2 เดือน เนื่องจาก ขณะนี้สถานการณ์อยู่ในระดับกึ่งวิกฤติ

เร่งผันน้ำเจ้าพระยาลงทะเล

นายปลอดประสพ กล่าวอีกว่า กรมชลประทานได้เตรียมแผนบริหารจัดการน้ำ เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมหลากในหลายจังหวัดภาคกลาง โดยจะเน้นการระบายลงเจ้าพระยาเป็นหลัก เนื่องจากยังรับน้ำได้และเป็นทางออกทะเลที่เร็วที่สุด ซึ่งได้มีการส่งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำไปติดตั้งตามจังหวัดรอบนอก และปริมณฑล เช่น จ.นนทบุรี และในคลองพระยาบันลือ อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรี อยุธยา รวมถึงที่ จ.ปทุมธานี เพื่อเร่งดันน้ำออกทะเลให้ได้มากที่สุดก่อนเข้าสู่เดือน ต.ค.นี้ที่น้ำทะเลจะหนุนขึ้นสูง และจะทำให้ดันน้ำไม่ออก นอกจากนี้จะผันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาบางส่วนลงคลองชัยนาท-ป่าสัก แม่น้ำสุพรรณบุรี และแม่น้ำน้อย เพื่อแบ่งน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ออกมา แต่จะเป็นแค่ส่วนน้อย เพื่อไม่ให้กระทบกับพื้นที่ทำการเกษตร ซึ่งขณะนี้เป็นช่วงฤดูเก็บเกี่ยว อย่างไรก็ตามเชื่อว่าหลังจากสัปดาห์นี้ไป ถ้าไม่มีฝนตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่องเหมือนสัปดาห์ก่อน สถานการณ์น่าจะค่อย ๆ ดีขึ้น.

เดือดน้ำท่วมหนัก! ฮือปิดถนน บีบเปิดประตูน้ำ | เดลินิวส์

 

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงาน
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.วันที่ 24 ก.ย.56 ว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้บริเวณภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กที่มีความยาวน้อยกว่า 10 เมตร หรือ 5 วา ควรงดออกจากฝั่งในวันนี้ ไว้ด้วย
ส่วนในช่วงวันที่ 25-27 กันยายน 2556 ร่องมรสุมจะพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง
อนึ่ง พายุดีเปรสชัน “อุซางิ” (USAGI) บริเวณมณฑลกวางสี ประเทศจีน ได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำแล้ว ส่วนพายุโซนร้อน “ปาบึก” (PABUK) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกจะเคลื่อนตัวไปทางประเทศญี่ปุ่น โดยไม่เคลื่อนมาทางประเทศไทย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน ตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดราชบุรี และกาญจนบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดนครนายก จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง และพังงา
อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
มีเมฆมาก โอกาสมีฝนตก ร้อยละ 70
โดยกลุ่มฝนจะเคลื่อนจากทางด้านตะวันตกไปทางตะวันออก
อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

 

หนองคายพายุฝนกระหน่ำยอดฉัตรทองพระธาตุเสียหาย
วันอังคารที่ 24 กันยายน 2556 เวลา 00:11 น.















เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 23 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่ อ.เมือง จ.หนองคาย ได้เกิดลมพายุพัดอย่างรุนแรงและมีฝนตกฟ้าคะนองอย่างหนักนานกว่า 30 นาที ด้วยความแรงของพายุทำให้ยอดฉัตรทองเหนือองค์พระธาตุอรหันต์ หรือพระธาตุยักษ์ ด้านหน้าพระอุโบสถที่ประดิษฐานองค์หลวงพ่อพระใส พระพุทธรูปบ้านคู่เมืองหนองคาย วัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง ในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย กระเด็นหลุดออกจากยอดพระธาตุตกลงมาจนได้รับความเสียหายทั้งหมด นอกจากนี้ยังพัดเอาป้ายและต้นไม้ใหญ่ภายในวัดล้มระเนระนาดอีกหลายต้น ทำให้ชาวหนองคายแตกตื่นกันทั้งเมือง หน่วยกู้ภัยประจักษ์ได้ระดมกำลังช่วยกันตัดต้นและกิ่งไม้เพื่อไม่ให้กีดขวางพร้อมทั้งนำแผงเหล็กมากั้นองค์พระธาตุและจัดเวรยามรักษาความปลอดภัยตลอดทั้งคืน จากเหตุการณ์ที่ฉัตรพระธาตุอรหันต์ตกลงมาจนได้รับความเสียหายนั้น เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางว่า พระธาตุองค์มีอายุหลายร้อยปี เดิมไม่มียอดฉัตรทอง เพิ่งมาทำขึ้นภายหลังซึ่งเป็นการเพิ่มเติมที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ถูกต้องก็อาจเป็นได้

ขณะเดียวกัน ที่บริเวณสถานีขนส่งจังหวัดหนองคาย (บขส.) ด้วยความแรงของพายุทำให้ต้นไม้ใหญ่อายุเกือบร้อยปีโค่นล้มลงหลายต้นและทับรถยนต์จนได้รับความเสียหาย

นายกำภล เมืองโคตร นายกเทศมนตรีเมืองหนองคาย ได้ระดมกำลังพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยออกตัดต้นไม้อย่างเร่งด่วน และทำให้ไฟฟ้าบริเวณกลางตัวเมืองดับมืดสนิททั้งคืน เนื่องจากสายไฟฟ้าถูกต้นไม้พาดและล้มทับ โดยมีพนักงานไฟฟ้าต้องระดมกำลังออกแก้ไขอย่างเร่งด่วนเช่นกัน.

หนองคายพายุฝนกระหน่ำยอดฉัตรทองพระธาตุเสียหาย | เดลินิวส์

 

"ปลอดประสพ" ฟุ้ง! สถานการณ์น้ำภาคกลางไม่น่าห่วง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 กันยายน 2556 10:25 น.

นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย หรือ กบอ. กล่าวถึงสถานการณ์น้ำภาคตะวันออกขณะนี้ว่า หากไม่มีปริมาณน้ำฝนจำนวนมากในช่วง 3 วันนี้ สถานการณ์ต่างๆ จะคลี่คลาย ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะตัวเมืองเป็นที่ราบลุ่ม น้ำถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งไปประเทศกัมพูชา อีกส่วนไหลเข้าประเทศไทย แต่ด้วยบริเวณดังกล่าวมีแม่น้ำสายเล็กเพียง 3 สาย ประกอบกับก่อสร้างบ้านเรือนริมแม่น้ำ เมื่อน้ำมาจำนวนมากจึงไหลเข้าเมือง โดยส่วนนี้จะระบายน้ำลงแม่น้ำปราจีนบุรีเป็นหลัก
นายปลอดประสพ ยังกล่าวถึงสถานการณ์น้ำในภาคกลางว่า มีปริมาณน้ำมาก จึงต้องเร่งระบายน้ำออกจากลุ่มน้ำเจ้าพระยา อาจมีผลกระทบกับประชาชนที่อยู่นอกคันกั้นน้ำ แต่เชื่อว่า ภาพรวมสถานการณ์ไม่น่าเป็นห่วง


*********************

เรื่องน้ำไม่น่าห่วงเท่ากับความคิดของผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ เพราะประเมินสถานการณ์แบบนี้ไงจึงไม่เคยป้องกันได้ ทำได้แค่แก้ไขไปวันๆ แล้วก็แบบลูบหน้าปะจมูก เหมือนกันหมด กรรมของประชาชนจริงๆ

 

เทศบาลเมืองอุบลฯ เปิดศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 กันยายน 2556 10:36 น

นางสาวสมปรารถนา วิกรัยเจิดเจริญ นายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี เปิดเผยว่า เนื่องด้วยกรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศ เรื่อง พายุดีเปรสชั่นบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ซึ่งส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากในช่วงวันที่ 18-21 กันยายน 2556 โดยจังหวัดอุบลราชธานีได้รับผลกระทบจากพายุดังกล่าว คือมีฝนตกต่อเนื่องและปริมาณน้ำมาก ส่งผลให้มีน้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้างในเขตพื้นที่เทศบาลนครอุบลราชธานี
เบื้องต้นเทศบาลนครอุบลราชธานีได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ออกไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้ความเดือดร้อน เช่น การขนย้ายสิ่งของ ตัดเก็บกิ่งไม้ที่หักโคล่น จัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทศกิจอำนวยการจราจรในชั่วโมงเร่งด่วน และติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อระบายน้ำบริเวณประตูระบายน้ำห้วยม่วง และหมู่บ้านบัวทอง และในภาวะเฝ้าระวังน้ำท่วมจากพายุฝน ดังนั้น เทศบาลนครอุบลราชธานีจึงแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่อาศัยบริเวณริมแม่น้ำและพื้นที่เสี่ยงภัยทราบเกี่ยวกับภัยที่อาจเกิดจากฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน โดยให้เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ เทศบาลนครอุบลราชธานี ได้เปิดศูนย์เฉพาะกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ณ อาคารฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยศูนย์เฉพาะกิจฯ ดังกล่าว ได้เตรียมเจ้าหน้าที่พร้อมอุปกรณ์ เครื่องสูบน้ำ เรือยาง และอุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำ ไว้คอยให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนภายในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี ที่ประสบภัยน้ำท่วมได้อย่างทันท่วงที หรือตามที่ได้รับการร้องขอ โดยเปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง โทร 045-245500 หรือที่สายด่วน 199

 

กรมชลฯ ยันเอาอยู่น้ำไม่ท่วมนิคมฯ ซ้ำรอยปี 54

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 กันยายน 2556 10:27 น.

นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน ยืนยันว่า นิคมอุตสาหกรรมต่างๆ มีเครื่องมือช่วยในการบริหารจัดการน้ำที่ดีขึ้นมาก แม้ว่านิคมฯ บางแห่งยังทำเขื่อนกั้นน้ำไม่เสร็จ โดยเฉพาะนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ ทางกรมชลประทานได้มีการปรับปรุงประตูน้ำคลองข้าวเม่าแล้วเสร็จ พร้อมจะมีการช่วยป้องกันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาไว้ได้ ขณะที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังก็มีปริมาณน้ำในขณะนี้ไม่มาก จึงเชื่อว่าจะไม่เกิดปัญหาซ้ำรอยปี 2554
นายเลิศวิโรจน์ กล่าวยืนยันด้วยว่า น้ำที่เอ่อท่วมหลายพื้นที่และหลายจังหวัด ขณะนี้ไม่ใช้ลักษณะของน้ำท่วมแต่เป็นน้ำล้นตลิ่ง ซึ่งแตกต่างจากปี 2554 ที่มีภาวะน้ำเหนือไหลหลากลงมาผสม
ขณะที่ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีการระบายอยู่ 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะที่ปี 2554 มีการระบายน้ำถึง 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที


**********************
"น้ำที่เอ่อท่วมหลายพื้นที่และหลายจังหวัด ขณะนี้ไม่ใช้ลักษณะของน้ำท่วมแต่เป็นน้ำล้นตลิ่ง"

ฟังแล้ววังเวงจริงๆบ้านนี้เมืองนี้ เก่งกันแต่เรื่องสรรหาคำพูดมาพูดให้ตัวเองดูดีพ้นผิด

ไม่รู้จะพูดยังไงดีการที่น้ำล้นตลิ่งนั่นล่ะที่เขาเรียกน้ำท่วมครับท่าน หากน้ำมันไม่ล้นตลิ่งก็แสดงว่าน้ำไม่ท่วม ง่ายๆแค่นี้ครับ กรรมของประเทศของประชาชนจริงๆ

ขึ้นต้นตัวเองก็บอกอยู่เองว่า"น้ำที่เอ่อท่วมหลายพื้นที่และหลายจังหวัด" ตัวเองก็บอกว่าน้ำท่วมแต่พูดไปพูดมาบอกน้ำท่วมน่ะไม่ใช่น้ำท่วม สงสัยท่านจะบอกว่าเป็นน้ำท่วมเทียมมั้ง

 

โศกนาฏกรรมกับว่า อุบัติเหตุ
วันที่ประธานาธิบดีคลินตันไปเยี่ยมชมโรงเรียน ในห้องเรียนของชั้นป.1 คลินตันถามเด็กเกี่ยวกับคำว่า "โศกนาฏกรรม"
"เอาล่ะพวกหนู ใครพอจะยกตัวอย่างโศกนาฏกรรมได้บ้าง"
เด็กชายคนหนึ่งยกมือขึ้น "โศกนาฏกรรมก็คือ วันหนึ่ง เพื่อนที่ผมรักที่สุดกำลังเล่นอยู่ริมถนน แล้วก็มีรถบรรทุกคันใหญ่ ขับมาชนเขา แล้วเขาก็ตายฮะ"
"โอ นั่นไม่ได้เรียกว่าโศกนาฏกรรมนะหนู เขาเรียกว่า "อุบัติเหตุ" ต่างหาก เอาล่ะ ใครยกตัวอย่างได้ดีกว่านี้บ้าง"
เด็กผู้หญิงอีกคนยกมือ " โศกนาฏกรรมก็คือ รถบรรทุกเด็กนักเรียน 50 คน วิ่งตกเหว ทุกๆ คนในรถตายหมดเลยค่ะ"
"นั่นก็ไม่ใช่โศกนาฏกรรมอีกนั่นแหละ เขาเรียกว่า "ความเสียหายใหญ่หลวง" นะหนู เอ้า คนต่อไปว่ามาอีกซิ"
คราวนี้ ห้องทั้งห้องเงียบ ไม่มีใครกล้ายกมืออีก
"เอ้า ทำไม ในห้องนี้ไม่มีคนรู้จักโศกนาฏกรรมเลยเหรอเนี่ย" คลินตันเริ่มหงุดหงิด
ทันใดนั้น เด็กผู้ชายใส่แว่นหนาเตอะท่าทางเหนียมอายค่อยๆ ยกมือขึ้น พร้อมกับพูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า
"เครื่องบินที่บรรทุกประธานาธิบดี คลินตันกับฮิลลารี คลินตัน ระเบิดกลางอากาศ นั่นแหละฮะคือโศกนาฏกรรม"
"ยอดมาก" คลินตันพอใจกับคำตอบ "ยอดเยี่ยม เอาล่ะ ไหนลองบอกหน่อยสิว่าทำไมถึงเรียกเหตุการณ์นั้นว่าเป็นโศกนาฏกรรม"
"ครือว่า.." เด็กชายเงียบไปสักครู่ "ผมว่ามันไม่ใช่อุบัติเหตุ แล้วก็ไม่ได้เป็นความเสียหายใหญ่หลวงฮะ"

 

น้ำท่วม
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

น้ำท่วม เป็นการไหลล้นของห้วงน้ำซึ่งทำให้แผ่นดินจมอยู่ใต้น้ำ คำว่า "น้ำเอ่อล้น" (flowing water) ยังอาจใช้กับการไหลเข้าของกระแสน้ำ น้ำท่วมอาจเป็นผลของปริมาตรน้ำภายในแหล่งน้ำ เช่น แม่น้ำหรือทะเลสาบ ซึ่งไหลล้นหรือทลายคันดิน เป็นผลให้น้ำบางส่วนออกจากขอบเขตตามปกติของมัน

ขณะที่ขนาดของทะเลสาบหรือแหล่งน้ำอื่นมีความแตกต่างกันตามการเปลี่ยนแปลงหยาดน้ำฟ้าและการละลายของหิมะตามฤดูกาล แต่น้ำนั้นมิใช่อุทกภัยที่สำคัญเว้นแต่น้ำนั้นออกมาคุกคามพื้นที่ดินที่มนุษย์ใช้ เช่น หมู่บ้าน นครหรือพื้นที่อยู่อาศัยอื่น

น้ำท่วมยังสามารถเกิดในแม่น้ำได้ เมื่อการไหลนั้นเกินความจุของฝั่งน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่หัวเลี้ยว (bend) หรือทางน้ำโค้งตวัด (meander) อุทกภัยมักทำความเสียหายแก่บ้านและธุรกิจหากตั้งอยู่ในที่ราบน้ำท่วมถึงตามธรรมชาติ ขณะที่ความเสียหายอันเกิดจากอุทกภัยนั้นแท้จริงแล้วหมดไปได้โดยการย้ายออกจากแม่น้ำหรือแหล่งน้ำอื่น หากตั้งแต่สมัยโบราณ ผู้คนได้อาศัยและทำงานอยู่ริมน้ำเพื่อการยังชีพและได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวและการพาณิชย์ที่ถูกและง่ายโดยอาศัยอยู่ใกล้น้ำ การที่มนุษย์ยังคงอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมนั้นเป็นหลักฐานว่า มูลค่าที่สัมผัสได้ของการอาศัยอยู่ใกล้น้ำมีมากเกินมูลค่าของน้ำท่วมที่เกิดซ้ำเป็นเวลา

 

3 วันจากนี้เร่งระบายน้ำลงสู่ทะเลได้เพิ่มขึ้น
วันอังคารที่ 24 กันยายน 2556 เวลา 11:19 น.





เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 24 ก.ย. นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยถึงสถานการณ์ในวันนี้ว่าน้ำในลุ่มน้ำป่าสัก ระดับน้ำได้ลดลง จากที่ล้นตลิ่งได้กลับคืนสู่สภาพเดิม และน้ำลงไปอยู่ในตลิ่งหมดแล้ว รวมถึง น้ำจากเขื่อนพระราม 6 และเขื่อนป่าสัก จะไม่ระบายเพิ่มในช่วงนี้ จึงรอให้น้ำมวลดังกล่าวผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยาไปก่อน ส่วนแม่น้ำลพบุรีวันนี้เพิ่มขึ้น 10-15 เซนติเมตร ซึ่งแม่น้ำลพบุรีมีตลิ่งรองรับอยู่ประมาณกว่า 1 เมตรสามารถรองรับได้ ขณะที่ แม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย น้ำทรงตัว อย่างไรก็ตาม จากการประเมิน แม่น้ำลพบุรีและแม่น้ำป่าสัก ภายใน 3 วันจากนี้ไป น้ำจะเพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิม และหากภายใน 3 วันนี้น้ำในจังหวัดระบายลงสู่ทะเลผ่านกรุงเทพมหานครได้เพิ่มขึ้น จังหวัดพระนครศรีอยุธยาก็จะมีพื้นที่รองรับน้ำที่จะมาถึงในวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์นี้ โดยเฉพาะน้ำที่มาจากจังหวัดสุโขทัย นครสวรรค์ กำแพงเพชร เชื่อว่า จะมีผลกระทบกับประชาชนไม่มากนัก

3 วันจากนี้เร่งระบายน้ำลงสู่ทะเลได้เพิ่มขึ้น | เดลินิวส์

 

เทศบาลเมืองกรุงเก่าเร่งตั้งเครื่องสูบน้ำพร้อมระดมกำลังป้องกันน้ำท่วมเกาะเมือง
วันอังคารที่ 24 กันยายน 2556 เวลา 11:47 น.







เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 ก.ย. นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา และ ว่าที่ ร.ต.สมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่ประตูน้ำปากคลองมหาไชย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ข้างตลาดหัวรอ ทางทิศเหนือของเกาะเมืองกรุงเก่า พร้อมนำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 2 เครื่อง ไปติดตั้งเพิ่ม หลังจากแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำลพบุรี ที่ไหลล้อมรอบเกาะเมือง มีระดับเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
โดยยืนยันว่า เกาะเมืองของ อ.พระนครศรีอยุธยา มีเนื้อที่ 18 ตารางกิโลเมตร ยังไม่ถูกน้ำท่วม เพราะถนนอู่ทองรอบเกาะเมืองยาว 12 กิโลเมตร ซึ่งเป็นคันกั้นน้ำในตัว ยังสูงกว่าระดับน้ำในแม่น้ำอีก 1 เมตร แต่เพื่อความไม่ประมาท ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ เพิ่มอีก 20 เครื่อง ที่ประตูน้ำทั้ง 7 แห่งและหากระดับน้ำสูงกว่านี้ จะมีการเสริมคันดิน บนถนนอู่ทองสูง 2.5 เมตร เพื่อป้องกันน้ำท่วมเกาะเมือง ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ การคมนาคม การศึกษา และสถานที่ราชการ รวมถึงเป็นเมืองมรดกโลก มีโบราณสถานสำคัญจำนวนมากตั้งอยู่

เทศบาลเมืองกรุงเก่าเร่งตั้งเครื่องสูบน้ำพร้อมระดมกำลังป้องกันน้ำท่วมเกาะเมือง | เดลิน

 

"ปู"ลั่น!"เอาอยู่" น้ำไม่ท่วมซ้ำปี 54 ประสานทุกฝ่ายรับมือ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 กันยายน 2556 14:47 น.

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้รับทราบรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในทุกพื้นที่ แต่ปริมาณน้ำฝนโดยภาพรวมยังน้อยกว่าปี 2554 และพบว่า มีฝนตกท้ายเขื่อนในปริมาณมาก ประกอบกับมีน้ำทะเลหนุน จึงทำให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมเกิดขึ้น ซึ่งคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) รวมทั้งกระทรวงมหาดไทยได้ประสานทุกหน่วยงานในพื้นที่โดยยึดหลักให้ชะลอน้ำในพื้นที่ตอนบน และเร่งระบายน้ำออกทั้งฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก เพื่อไม่ให้กระทบพื้นที่ปลายน้ำและพื้นที่สำคัญ
ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยอมรับว่า ห่วงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี แต่ทาง กบอ.โดยนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์แล้ว และได้มีการพูดคุยในการเปิด-ปิดประตูระบายน้ำ ทำให้เชื่อว่า 3-4 วันนี้ ปริมาณน้ำจะลดลง รวมทั้งยืนยันว่า สถานการณ์น้ำท่วมปีนี้จะไม่หนักเหมือนปี 2554
ส่วนการสร้างพนังกั้นน้ำในพื้นที่อุตสาหกรรม จ.พระนครศรีอยุธยา ยอมรับว่า บริเวณนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนครมีความน่าเป็นห่วง เพราะยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ แต่ในพื้นที่อื่นโดยรอบได้ดำเนินการก่อสร้างไปแล้ว จึงเชื่อว่า ในภาพรวม จ.พระนครศรีอยุธยา จะมีความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำในปีนี้ได้

 

ทบ.สั่งเพิ่มกำลังทหาร-รถ-เรือ ช่วยผู้ประสบอุทกภัยพื้นที่วิกฤต

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 กันยายน 2556 15:00 น.

พ.อ.(หญิง) ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยใน 22 จังหวัด ที่ยังคงสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน และพื้นที่ทางการเกษตร กองทัพบกได้จัดกำลังพลเพิ่มขึ้นเป็น 3,950 นาย รถบรรทุก 145 คัน เรือท้องแบน 63 ลำ พร้อมชุดแพทย์เคลื่อนที่เข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยการช่วยเหลือส่วนใหญ่ยังคงอยู่ที่การใช้กำลังทหารเพื่อขนย้ายสิ่งของไปยังพื้นที่ปลอดภัย การกรอกกระสอบทราย และสร้างพนังกั้นน้ำ รวมถึงการใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่ และเรือในการรับส่งประชาชน
สำหรับพื้นที่ที่ระดับน้ำยังคงท่วมสูง และเป็นจุดวิกฤต ซึ่งหน่วยทหารได้เข้าอำนวยความสะดวกในทุกๆ ด้าน ร่วมกับส่วนต่างๆ ที่สำคัญ ประกอบด้วย จ.ปราจีนบุรี ใน อ.กบินทร์บุรี ศรีมหาโพธิ และ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ใน อ.เมือง และเส้นทางหลวงหมายเลข 226 อ.เมือง ถึง อ.อุทุมพรพิสัย จ.สุรินทร์ ที่ อ.เมือง อ.สำโรงทาบ
ส่วนพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล กองทัพภาคที่ 1 ได้ส่งชุดประเมินภัยพิบัติ เข้าประเมินสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว

 

น้ำน่านกัดเซาะริมตลิ่งพังชาวบ้านโวย
วันอังคารที่ 24 กันยายน 2556 เวลา 12:53 น.





เมื่อเวลา 10.30 น. เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน วังยาง หมู่ 1 ต.วังน้ำคู้ อ.เมืองพิษณุโลก ว่าถนนริมแม่น้ำน่านเชื่อมระหว่างหมู่บ้านพังเสียหายยาวกว่า 20 เมตร เนื่องจากถูกกระแสน้ำในแม่น้าน่านที่เพิ่มปริมาณขึ้นกัดเซาะ มาเป็นเวลานาน จนเหลือแต่แผ่นคอนกรีต ทำให้ชาวบ้านกว่า 140 หลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก รวมถึงนักเรียนที่ใช้เส้นทางจะเดินทางไปเรียนที่โรงเรียนบ้านวังยาง ต้องเดินทางด้วยความยากลำบาก โดยต้องใช้เส้นทางอ้อม ซึ่งเป็นระยะทางที่ไกลกว่าเดิม

นายเต็ง เรืองสุกใส อายุ 79 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93 หมู่ 1 บ้านวังยาง ต.วังน้ำคู้ กล่าวว่า หลังจากน้ำได้ท่วมอย่างหนักเมื่อปี 2554 ที่ผ่านมาทำให้น้ำในแม่น้ำน่านได้กัดเซาะตลิ่งบริเวณนี้จนพังเสียหายเป็นแนวยาว หลังจากนั้นหน้าดินได้เริ่มทรุดตัว เหลือแต่แผ่นคอนกรีต หนาประมาณ 20 ซม. ชาวบ้านจึงได้นำป้ายมาปักเตือนประชาชนที่สัญจรไปมาให้ระมัดระวัง เนื่องจากถนนสายดังกล่าว ได้พังเสียหาย และชำรุดจนอาจทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ขับขี่ได้ อีกทั้งชาวบ้านได้ทำหนังสือร้องเรียนไปทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มานานกว่า 2 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่มีหน่วยงานใดๆเข้ามาดูแล จึงอยากวิงวอนผ่านให้สื่อมวลชนเป็นสื่อกลางสะท้อนให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ เข้ามาดูแลแก้ไขโดยการซ่อมแซมอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ถนนสายนี้กลับมาใช้ได้อย่างปกติ เพื่อเป็นการ เพราะป้องกันความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ของประชาชนอีกด้วย.

น้ำน่านกัดเซาะริมตลิ่งพังชาวบ้านโวย | เดลินิวส์

 

ใช้เรือย้ายศพออกจากบ้านไปบำเพ็ญกุศล
วันอังคารที่ 24 กันยายน 2556 เวลา 14:05 น.



เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 24 ก.ย.ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากนายนิรันดร์ สุดใจ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลบางบาล อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ว่านายกิ๊ม สามารถ อายุ 87 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 หมู่ 2 ต.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ได้เสียชีวิตด้วยโรคชราอยู่บนบ้านที่ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 2เมตร ต้องการจะนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดยม ทางญาติไม่มีเรือ จึงได้ประสาน หน่วยกู้ภัยอยุธยารวมใจ และเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ ใช้เรือเข้าไปเคลื่อนย้ายผู้เสียชีวิตออกจากบ้าน เป็นไปด้วยความยากลำบาก ซึ่งวัดต่างๆที่อยู่ใกล้บ้านถูกน้ำท่วมหมดต้องไปวัดยมซึ่งไม่ถูกน้ำท่วม.

ใช้เรือย้ายศพออกจากบ้านไปบำเพ็ญกุศล | เดลินิวส์

 

ผู้ว่าฯอยุธยายันนิคมอุตสาหกรรมยังไม่น่าวิตก
วันอังคารที่ 24 กันยายน 2556 เวลา 14:41 น.



เมื่อวันที่ 24 ก.ย. นายวิทยา ผิวผ่อง ผวจ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า สำหรับนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนครที่หลายฝ่ายกังวล นั้น ทางจังหวัด ได้ร่วมกับกระทรวงคมนาคม ยกถนนริมแม่น้ำป่าสัก แม่น้ำลพบุรี และคลองบางพระครู ซึ่งกั้นอยู่ระหว่างแม่น้ำและคลองกับนิคมอุตสาหกรรม ขึ้นสูงมากแล้ว คาดว่าจะสามารถรับระดับน้ำที่สูง 4 เมตรขึ้นไปได้อย่างแน่นอน ส่วนนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค นิคอุตสาหกรรมบางปะอิน ได้มีการสร้างแนวป้องกันเสร็จทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี 55 สามารถรับสถานการณ์ได้

ทั้งนี้ น้ำในลุ่มแม่น้ำป่าสัก น้ำได้ลดลง จากที่ล้นตลิ่งได้กลับคืนสู่สภาพเดิม และน้ำลงไปอยู่ในตลิ่งหมดแล้ว รวมถึง น้ำจากเขื่อนพระราม 6 และเขื่อนป่าสัก จะไม่ระบายเพิ่มในช่วงนี้ จึงรอให้น้ำมวลดังกล่าวผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยาไปก่อน ส่วนแม่น้ำลพบุรีวันนี้เพิ่มขึ้น 10-15 เซนติเมตร ซึ่งแม่น้ำลพบุรีมีตลิ่งรองรับอยู่ประมาณกว่า 1 เมตรสามารถรองรับได้ ขณะที่ แม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย น้ำทรงตัว อย่างไรก็ตาม จากการประเมิน แม่น้ำลพบุรีและแม่น้ำป่าสัก ภายใน 3 วันจากนี้ไป น้ำจะเพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิม และหากภายใน 3 วันนี้น้ำในจังหวัดระบายลงสู่ทะเลผ่านกรุงเทพมหานครได้เพิ่มขึ้น.

ผู้ว่าฯอยุธยายันนิคมอุตสาหกรรมยังไม่น่าวิตก | เดลินิวส์

 

ตามโมเดลคำนวนเมื่อวานนี้ของ ECMWF วันที่ 29 ก.ย. อาจมีกลุ่มฝนหนัก (อาจจาก LPA หรือ TD) เติมเข้ามาจากทางภาคอีสาน

 

พบการก่อตัวของหย่อมความกดอากาศต่ำ 93W ในทะเลจีนใต้ แนวโน้มคงที่

 

<a href="http://pic.free.in.th/id/8ae36d2fe6136e4ab9b6b9b4e25b47d0" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/is/130924043357.gif" alt="images by free.in.th" /></a>

 

ปภ.จ.อ่างทองเตือนเรือบรรทุกสินค้าระวังอันตรายจากการเดินเรือ


ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังคงเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือนเรือบรรทุกสินค้าให้ระมัดระวังอันตรายจากการเดินเรือ

เจ้าของเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่กว่า 100 ลำ จอดทอดสมอในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหน้าวัดท่าสุทธาวาส อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง หลังระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น และกระแสน้ำไหลเชี่ยว จึงกลัวว่าจะเกิดอันตราย ซึ่งการหยุดเดินเรือดังกล่าว เริ่มส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการที่ใช้บริการขนส่ง

นายฉัตรณรงค์ ศิริพร ณ ราชสีมา ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอ่างทอง เตือนเรือบรรทุกให้เพิ่มความระมัดระวังการเดินเรือในระยะนี้ นอกจากนี้คลื่นจากการเดินเรืออาจสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนริมน้ำ สำหรับระดับน้ำน้ำแม่น้ำเจ้าพระยายังสูงขึ้น ล่าสุดระดับน้ำบริเวณ หน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทอง วัดได้ 7 เมตร 85 เซนติเมตร ส่งผลให้พื้นที่ราบลุ่มในต.จำปาหล่อ อ.เมือง และต.โผงเผง อ.ป่าโมก ถูกน้ำท่วมแล้วกว่า 400 หลังคาเรือน

ไทยพีบีเอส Thai PBS