เพื่อการกุศล นิ่มป่าแดง...ตามอ่านประสบการณ์จริง

...............................................

พี่นิ่มแจ้งผมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ว่าเงินกองทุนที่เพื่อนสมาชิกรวบรวมกัน บวกกับของท่านฯสุวิระ
ได้ไป 125,000 บาท นั้น เมื่อไปรวมกับกองอื่นเป็นผ้าป่าสุทธิได้ทั้งสิ้น 820,574 บาท เพียงพอต่อการซ่อมสร้าง
อาคารที่พักผู้ป่วย ที่ตั้งงบประมาณไว้ที่ 800,000 บาท พอดิบพอดี
พี่นิ่มยังคุยว่า "แค่งานเล็กๆ...ไม่ได้บอกใคร..."

ผมก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมตัวไปอยุธยา เลยไม่ได้แจ้งยอดให้เพื่อนสมาชิกร่วมโมทนากัน ต้องขออภัย

..............................................

หลวงปู่ฯ ไปงานพิธีพุทธาภิเษกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาที่วัดบวรฯ กลับมาก็เหนื่อยอ่อน และเพลียมาถึงวันอาทิตย์
ให้นึกเป็นห่วงอยู่ แต่ท่านฯยังเมตตารับแขกเป็นปรกติอยู่ และยังอธิฐานจิตและจารแผ่นพระยันต์ ทำชนวนมวลสาร
ให้เราอีกด้วย

.............................................

แวะพาคุณพุทโธภควา กับครอบครัวคุณchatchai รับประทานอาหารที่ร้าน "นิรมิต" อาหารดี ดนตรีไพเราะ
บรรยากาศย้อนยุคนิดหน่อย
พี่ศรีเป็นผู้จัดการร้าน รักกันดีกับผม แอบลดราคาให้อยู่ตลอด เป็นร้านโอท๊อปประจำอ่างทอง
้ร้านอยู่ใกล้แยกวิเศษฯ ติดกับวัดนางใน
อาหารรสชาดพื้นบ้านแท้ๆ และห้องน้ำที่สะอาดมากๆ แนะนำเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ
ถ้าเป็นช่วงกลางวัน สามารถหามุมบันทึกภาพลง facebook ได้ดีเลยเชียว






..........................................

ไปถึงวัดโพธิผักไห่ก็สามทุ่ม ได้พระอาจารย์พิจารณ์ช่วยคัดแยกโลหะ

ผมทิ้งหนุ่มๆไว้ข้างหลัง แต่ไปขอต่อวิชาโหราศาสรต์กับพระอาจารย์อภิสิทธิ์ วัดยานนาวา
ที่ท่านฯสละเวลามาเป็นเจ้าพิธีฯให้กับวัดโพธิผักไห่ เพราะถูกชะตากับพระอาจารย์พิจารณ์

พระอาจารย์อภิสิทธิ์ อดีตนักกฎหมาย หันเหชีิวิตมาเอาดีทางธรรม เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการวางฤกษ์สำคัญๆใหักับทางวัดยานนาวา
ผมแกล้งถามว่าเคยวางฤกษ์ปฏิวัติหรือไม่.... ท่านฯก็ยิ้มๆ

คุณchatchai พาแฟนมาด้วย ผมทบทวนวิชากับท่านฯแล้ว ก็เปิดโอกาสให้สาวเข้าดูดวงกับท่านฯ
แต่เนื่องจากมากันหลายคน และดวงเจ้าชะตาเป็นหญิง เหมาะที่จะทายเป็นการส่วนตัวมากกว่า ก็บอกใบ้ให้ไว้ไปรบกวนกันเอง
ถ้าท่านฯจำหน้าไม่ได้ ก็อาจต้องอ้างชื่อพระอาจารย์พิจารณ์ ท่านฯก็อาจจะดูให้ (เพราะไม่ดูให้ใครมานานแล้ว)

ในดวงน้องหญิง มีจุดเปราะอยู่ เรียกว่าบุพกรรมแห่งดาว ทุกครั้งที่ผมดูดวงใครแล้วเห็นจุดเปราะหนักๆ ก็จะนึกหดหู่
เลยถามท่านฯว่า นึกเบื่อนึกปลงบ้างไหม ท่านฯก็ยอมรับ และเอ่ยว่าที่ไม่ดูให้ใครมานานแล้ว ก็เพราะอย่างนี้

ในดวงของแต่ละคน บางคนก็เหมือนเกิดมาเสวยบุญแต่เพียงอย่างเดียว
แต่บางคนก็มาไถ่บาปโดยเฉพาะ จะดีจะเด่นแตกต่างกัน ก็ตรงจิตใจ
จิตใจเป็นตัวบอกรับขนาดของความทุกข์
ดวงบางคน โดนนิดๆหน่อยๆ แต่จิตใจเปราะบางมาก เหมือนตัวร้ายในละครไทย นิดหน่อยก็กรี๊ดๆๆ
ดวงบางคน โดนขนาดหนัก ยังยิ้มได้ เพราะจิตใจเข้มแข็งมาก เหมือนนางเอกโฆษณา ศรี-สีทนได้

คนที่อยู่เหนือดวง คือคนที่ฝึกฝนจะทำใจยอมรับกับความไม่เที่ยงไม่แน่นอนของชีวิตได้ ไม่ยึดมั่นถือมั่น แต่รู้จักปล่อยวาง

หลังจากคณะฯที่มาส่งผมกลับไปหมดแล้ว ผมก็ย้ายมานอนที่ศาลากับท่านพระครูหลวงพ่ออภิสิทธิ์
แต่กว่าจะนอนกันได้ ก็ทบทวนวิชากันยันตีหนึ่ง ต้องยอมรับในภูมิรู้ของท่านฯจริงๆ ถามแค่1 ตอบผมได้แต่ยอดยันรากเลย
แล้วยังอ้างอิงข้อมูลให้ผมสืบค้นได้อีกต่างหาก

........................................

ระหว่างเรียนกันอยู่นั้น ผมถามตามประสา ว่าหากชีวิตเป็นไปตามดวง พระพิชัยสงคราม หรือพระบูชาดวงชะตา
จะสามารถอุ้มชูดวงชะตาของผู้เป็นเจ้าของได้จริงหรือไม่
ท่านฯยืนยันว่าได้จริง เพราะมีดวงที่อุ้มชูเจ้าของดวงไว้ถึง 6 ชั้น โดยท่านฯแยกระบุให้ผมเข้าใจได้โดยตลอด
ท่านฯบอกว่า นี่แค่เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับทางโหราศาสรต์ ยังมิรวมถึงอาถรรพ์ และอานิสงค์ขององค์พระฯ
แต่เรื่องรายละเอียดนี้ มิอาจเผยแพร่ได้ เพราะจะกลายเป็นช่องทางของคนใจร้าย ก็ได้แต่จะบอกเพื่อนสมาชิกว่า
พระบูชาดวงชะตาพิชัยสงครามนี้ ให้หาโอกาสเป็นเจ้าของเถิด หากรู้เห็นขั้นตอนการจัดสร้างแล้ว จะไม่นึกเสียดายตังค์เลย

........................................

ใกล้ตีหนึ่งแล้ว ผมแกล้งถามท่านฯก่อนจะนอน ว่าเราสามารถคำนวนหวยได้หรือไม่ (วันรุ่งหวยจะออกแล้ว จะได้ไปบอกเมีย)
ท่านฯก็คำนวนแบบง่ายๆให้ดู ว่าเลขเด่นนั้นจะเป็น ๔ เลขรองจะเป็น ๗ ตามกำลังของดาว
แต่ทางกองสลาก ก็จะใช้วิธีใช้วงล้อ ในการสลับกันออกรางวัล ทำให้คำนวนล่วงหน้าได้ยากขึ้น
หากแต่เมื่อมีความชำนาญแล้ว และไม่มีความละโมบ ย่อมไม่เกินวิสัย

นอนหลับสบาย...ผีไม่กวน

.........................................

 

ดูขลังดีจังครับ

 

สมัยก่อน วัดโพธิผักไห่ เป็นจุดรับส่งผู้โดยสารทางน้ำ ถ้าเปรียบกับสมัยนี้ ก็สถานีขนส่งนั้นเอง
เก๋งที่เห็น ท่านเจ้าจอมฯ รัชสมัย ร.๕ เป็นผู้จัดสร้างถวาย





ริมฝั่งน้ำยามเช้า ก็สดชื่นดี แต่ดูไม่กว้างเท่าไหร่ เพราะการสัญจรทางน้ำลดลง ก็ตื้นเขิน แถมยังมีผักตบชวาลอยเป็นสวะ ให้เสียทัศนียภาพอีกด้วย





เิดินชมวัดยามเช้า เห็นกุฏิไม้ริมน้ำ ก็ให้นึกถึง คุณวรุฒ กับนางดาวผีสาว ในภาพยนต์เรื่อง "ภูติพิศวาส"
ใครมาพัก ก็อย่าเผลอเปิดประตูรับหลังเที่ยงคืน ดาวเธอจะมาเอาชีวิตไปสังเวยนายใหญ่

 

เทหล่อโบราณครับ
เมื่อแรก พระครูอภิสิทธิ์ จะให้เติมชื่อพระอาจารย์พิจารณ์ไว้หลังเหรียญ
แต่ อ.พิจารณ์ไม่ยอม เลยละไว้ จะลงจารทีละองค์จนครบหมื่นองค์



หลวงพ่อเฒ่า เดิมท่านฯอยู่ที่พระอุโบสถหลังเก่า แต่เมื่อย้ายมาแล้ว
ก็นำท่านฯมาประดิษฐ์ไว้หน้าพระอุโบถสถหลังใหม่

มีคนตกทุกข์ได้ยากอยู่หลายคน ก็มาถามหาหลวงพ่อเฒ่าเป็นที่ผิดสังเกต

ล่าสุดมีคณะจากนครสวรรค์ เจอปัญหารถคันแรกแย่งผู้โดยสารรถสองแถว จนจะไม่มีกิน ฝันเห็นชายแก่ชุดขาว แนะนำให้ไปกราบหลวงพ่อเฒ่าที่วัดโพธิผักไห่ ชีวิตจะได้ดีขึ้น
ก็คลำทางมาจะเจอวัดฯ แล้วได้กราบไหว้สมใจ.....

ตัวเหรียญผิวสวยมาก และชนวนสุดยอดจริงๆ ไว้รอพี่ไพรัชส่งรูปงานพิธีฯมาเพิ่ม
ตัวเหรียญไม่เปราะเลย ลองบิดงอดูแล้ว เนื้อแดงสวยดีจริงๆ
ฝนตกทั้งคืน พอถึงฤกษ์เหลือมีแต่เมฆ

พี่ไพรัชขับรถจากกรุงเทพฯเจอแต่ฝน พอเข้าเขต ถนนไม่เปียกเลย....

 

ท่านพระครูอภิสิทธิ์ กับพระอาจารย์พิจารณ์ แสดงมุทิตาหลวงพ่อแม้น วัดหน้าต่างนอก



องค์นี้รักพระอาจารย์พิจารณ์มาก หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดงใต้ แม้แค่เสกชนวน ก็ยังเอาจริงเอาจังเสมอ



เด็กนักเรียนโรงเรียนนี้ ได้รางวัลพุทธศาสนาทุกปี ไม่แปลกใจเลย ...พระสวดเจริญพุทธมนต์ ก็โดนเกณท์มานั่งฟังสวด หาผู้ใหญ่ไม่เจอเลย....



พระอาจารย์พิจารณ์โดนโจมตีเรื่องสร้างโรงเรียนไม่จริง ครูใหญ่รู้ข่าวก็เจ็บร้อนแทน หากวัดฯมีงาน ก็จะเกณท์เด็กๆมาช่วยงานเสมอ
เป็นการอุปการะระหว่างชุมชน
เด็กนักเรียนโรงเรียนนี้ ได้รับทุนการศึกษา จากพระอาจารย์ฯทุกปี ปีละ 50,000-60,000 บาท
และทางโรงเรียน จัดชั่วโมงสอนกรรมฐาน ให้กับพระอาจารย์ฯอบรมจิตใจ บ่มเพาะปลูกฝังคุณภาพ ให้เป็นน้ำดีแก่สังคม

 

สองวันที่ผ่านมา ขอไว้อาลัย หลวงปู่เรือง สำนักปฏิบัติธรรมเขาสามยอด ด้วยครับ

ปีนี้เกจิอาจารย์ละสังขารเยอะจัง T T

 

ระหว่างพิธีฯ มีค่าใช้จ่ายเฉพาะหน้า ผมสอบถามพระอาจารย์ฯ ว่าต้นทุนต่อเหรียญเท่าไหร่
"30 บาท"
"แพง" ผมว่า
"แต่ได้ยินว่าฝีมือดี" พระอาจารย์ แก้ตัวให้

แต่เมื่อถึงเวลา ไฟร้อนจะไม่ทันเททอง พระเกจิก็มาถึงแล้ว
ท่านพระครูฯ ผู้มีประสบการณ์งานพิธีฯ เฉพาะวัดยานนาวาก็ร่วมพันพิธีฯ เจอแบบนี้แล้วก็ไม่นิ่ง เข้าไปเตือนพระอาจารย์ฯ และตำหนิกับนายช่างโดยตรง "โยมทำงานแบบผีถึงป่าช้า ไม่รู้รึว่าทางวัดฯนิมนต์พระมากี่โมง"
ผมก็เกรงจะเสียงาน ค่อยๆโอบเอวท่านฯพระครู
ทางช่างตุ๊ ก็ขอเททองนำฤกษ์ให้ก่อน และจะเร่งไฟให้ทันภายในฤกษ์

ผมประคองท่านฯพระครูเดินเลี่ยงออกมา แล้วปรึกษากันว่า หากพระเกจิติดภาระกิจ ช่วงสาย ต้องมีมือวางอันดับมาทดแทน จะนิมนต์ใครและช่วงเวลาใดดี
ท่านฯพระครู กำหนดฤกษ์ให้ ว่ายาม๕ แล้วให้ผมนิมนต์หลวงปู่ฯ เป็นมือวาง
ผมติดต่อคุณหนุ่ม ให้ช่วยรับหลวงปู่ฯมาให้หน่อย ทางนี้ช่างเดินงานสาย พระเกจิที่รับมาช่วงเช้า เสกได้แค่นำฤกษ์ไม่กี่องค์ ช่วงสายจะติดนิมนต์ที่อื่น
คุณหนุ่มถามผมว่าช่างเป็นใคร พอบอกว่าใคร ก็ได้รับการยืนยันว่า ฝีมือดี แต่ปากไม่ดี

ช่างตุ๊ เป็นทหารเก่า ลูก3 เมีย4 เดินทางขึ้นเหนือล่องใต้ เททองให้หลวงปู่คำบุแทบทุกรุ่น
แม้ทางใต้ ก็เคยไปเททอง เทไปฟังเสียงปืนปะทุไป จนงานเสร็จ แต่หาเจ้าภาพไม่เจอ แผ่นแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

คุยอวดกับผมไว้มาก ท้าให้ผมไปตรวจสอบดูได้ ผมบอกว่าเช็คกับเพื่อนแล้ว
"แล้วเพื่อนคุณว่าไง"
"เพื่อนบอกฝีมือดี แต่ปากไม่ดี"
".........................."
"ฝีมือน่ะ ยังไม่เห็น แต่ขี้คุย เห็นแล้ว จริง"
"........................."
ดีที่ผมยังไม่โดนกระทืบ แต่ช่างกลับชอบใจผม ทำให้งานออกมาราบรื่นขึ้น
และเอ่ยปากจะทำการตอกโค๊ตให้ทางวัดฯโดยไม่คิดมูลค่าอีกด้วย

สรุปต้นทุนเบื้องต้นอยู่ที่องค์ละ 35 บาท ยังไม่รวมค่าพุทธาภิเษกที่จะจัดขึ้นภายหลัง
ตัวเลขเต็มที่ต้องจ่าย ผมจำไม่ได้ แต่ลงท้ายสามตัวจำได้ เพราะอาจารย์พิจารณ์เดินมาบอกผมว่า
"งวดนี้จะออก 574 เพราะค่าใช้จ่ายฉันมันเท่านี้" พระอาจารย์ฯ
"ได้ยินหลวงพ่ออภิสิทธิ์ ก็ว่าจะมี 4 กับ7 เหมือนกันครับ แต่พอดูนวางค์แล้ว ก็อาจจะมี1" หนุ่มทิพย์
"แต่อย่าประมาท 2-3-6-8"
"0-9 ก็ทิ้งไม่ได้ครับ"
"สรุปครบทุกตัวเลย...." พี่ไพรัชฟังอยู่ด้วย
คุยเล่นกัน จนไม่ได้เอามาเป็นสาระเลย......

เมื่อยามห้า หลวงปู่ฯมาไม่ไหว เพราะยังอ่อนเพลียอยู่ ได้หลวงพี่เอ ศิษย์หลวงพ่อสมภพ สนป.สาลีโข หลวงพ่อหล่อ วัดหน้าต่างนอก หลวงพ่อสาโรช ศิษย์พี่พระอาจารย์พิจารณ์ หลวงพ่อตุ๋ย ศิษย์หลวงพ่อเจริญ เจริญธาตุตอนเททอง



ระหว่างพิธีฯ มีคณะศรัทธานำพระพุทธรูปมาถวาย ก็ฝากโมทนาร่วมกัน


ที่พระอุโบสถ ยังมีเจ้าภาพที่ยังไม่สะดวกเข้ามารับพระบูชาฯอยู่นิดหน่อย และยังคงขาดเจ้าภาพจัดสร้าง
ห้องเรียน ที่จะได้รับพระบูชาขนาดองค์ใหญ่ทรงเครื่องอยู่ไม่กี่องค์ ปิดทองแล้วสวย

 

เรื่องเล่า : เล่าเรื่องที่เอามาจากวัดฯ

ตอน : จริยธรรมแบบถูไถไปข้างๆ คูๆ

ผมเคยนึกเสียดายแทนพ่อแม่,ปู่ย่า,ตายาย และญาติๆ ผู้ใหญ่ทั้งหลาย ที่เสียเวลารอเสียเงินเสียทองจำนวนมาก เพื่อบวชลูกบวชหลาน หวังได้พึ่งใบ

บุญ ปรากฎว่าเมื่อลูกหลานสีกจากพระออกมาเป็นฆราวาสแล้ว พอมีงานทำบุญบ้าน เจริญพุทธมนต์ ทำบุญถวายสังฆทาน เรียกลูกหลานที่บวชเรียน

ให้แล้วมาช่วยอาราธนาศีลหรืออาราธนาธรรม ปรากฏว่าหนีหายไปไม่เห็นตัว เพราะคิดไปว่าบวชมาแล้วคงทำได้ แต่ไม่ได้ เพราะเราไปคิดกันแต่ว่า

ต้องบวชแล้วถึงจะรู้ถึงจะทำได้ ความจริงแค่อ่านหนังสือออก พูดได้อายุสักสิบห้าปีก็น่าจะได้แล้ว ไม่ต้องรอให้บวชก่อนถึงจะทำได้ เวลาก่อนจะบวช

ก็สอนนาคให้ถือธูปแพเทียนแพไปขอขมา ขออโหสิกรรมผู้หลักผู้ใหญ่ที่นับถือ ผู้หลักผู้ใหญ่ก็ให้อโหสิ นาคก็มองหรือตั้งคำถามในใจว่า ใส่ซองมา

เท่าไหร่(ขออภัยไม่ได้ว่าทุกคน แต่มีอย่างนี้จริง ได้มาจากวัดตามชื่อเรื่อง) ทำไมไม่ทำหน้าที่กันให้ถูกทั้งคนที่จะบวชและคนที่เป็นผู้ใหญ่ที่เด็ก

ไปขอขมา ขออโหสิกรรม ผู้ใหญ่ในฐานะที่ผ่านอะไรมามากถ้าเป็นผู้หญิง ก็ควรจะสอนนาคว่าบวชแล้ว ก็ให้หมั่นศึกษาธรรมเช่นธรรมะในการครอง

เรือน สึกออกมาจะได้เอามาปฎิบัติจะได้ทำให้การครองเรือนเป็นไปด้วยดี ส่วนที่เป็นผู้ชายในฐานะที่เคยบวชเรียนมาแล้วก็ควรจะสอนนาคให้รู้เรื่อง

การวางตัวการปฏิบัติตัว จะลุกจะนั่งจะพูดจะคุยก็ให้ระลึกว่าเราเป็นพระแล้ว คนเฒ่าคนแก่เขายังไหว้เราควรทำตัวให้น่าไหว้ ควรทำตัวให้น่าใส่บาตร

ให้กิน เปล่าเลยไม่มีหรือแทบไม่มีที่จะสอนกันอย่างที่ผมกล่าวมีเคยได้ยินแต่น้อยมาก อย่างน้อยก็น่าจะกำชับกันบ้างว่า ให้เรียนรู้พิธีกรรมต่างๆที่จะ

เอามาใช้ในทางพุทธพิธี เพื่อจะได้เอามาช่วยๆงานญาติๆ เวลาทำบุญหรือเวลามีพิธีกรรมทางสงฆ์ เสียดายจริงๆ กับเงินทองและเวลาที่เสียไป ยังทัน

นะครับท่านที่เป็นผู้ใหญ่แล้วทั้งฆราวาสและบรรชิต ตอนนี้เข้าพรรษาอยู่รีบเข้าไปยัดเยียดให้พระที่เป็นญาติและจะสึกเมื่อออกพรรษา ได้เตรียมตัวจะ

ได้หมั่นสังเกตว่าเขาทำกันอย่างไร? ถ้าทำได้และได้มาสักองค์สององค์จะได้กุศลและความขลังมากกว่าห้อยพระเป็นสิบๆองค์ ตอนผมบวชก่อนออก

บิณฑบาตรเคยถามพระด้วยกันว่า หลวงพี่เสกบาตรใช้บทอะไร(เพราะเห็นท่านเอามือไปวนๆ ในบาตรทำปากหมุบหมิบ) ท่านก็ตอบแบบขำๆ ว่า ผมก็

บอกว่าเอาแกงเนื้อแกงไก่ หรือได้แกงตะภาพก็ดี ความจริงท่านเป็นเด็กวัดนับสิบปี เป็นหลานรองเจ้าอาวาส เวลาสวดมนต์ก็คล่องแคล่ว แต่ต้องเอา

มือเคาะจังหวะกับพื้น ถ้าไม่เคาะจังหวะสวดไม่ได้ แม้แต่พรพระก็ตาม เลยเมตตาสอนท่านไปว่าการเสกบาตรก็เพื่อให้ท่านดูในบาตรของท่านเอง ว่า

มันสะอาดไหม? มดขึ้นหรือเปล่า ไม่ใช่ท่านล้างบาตรไม่สะอาดพอเปิดบาตรให้บ้านแรกก็เจอมดเต็มทั้งในบาตรและฝาบาตร พอกลับมาฉันเช้าเสร็จ

ท่านองค์นั้นยังไม่ยอมจบ เข้ามาหาผมที่กุฏิและบอกว่า หลวงพี่ช่วยบอกหน่อยจริงๆ หลวงพี่เสกบาตรใช้บทอะไร ก็เลยบอกไปว่าคาถาเสกบาตรคือ

อิมัง โคจะรัง ปิณฑปาตัง นิสสัย ปัพพชา แปลเราตัวเราจะเดินทางไปบิณฑบาตรซึ่งเป็นเครื่องอาศัยของบรรพชิต เพื่อมันจะได้เตือนตัวเองว่ากำลัง

ไปขอเขากิน จะได้ทำตัวทำกิริยาให้น่าใส่บาตรให้กิน ท่านถามต่อว่าแล้วเวลากลับเข้าวัดผมเห็นหลวงพี่เอาอาหารให้ปลาในคลองหน้าวัด แล้วพูด

อะไรหรือ ก็ตอบว่าอันนั้นผมคิดว่า คนเขาทำบุญมาแล้ว เราเอาทำทานต่อ เจ้าของอาหารเขาก็ได้บุญมากขึ้น อย่าคิดมากผมคิดของผมเอง ส่วนที่

ว่าผมพูดอะไร อันนั้นผมกล่าวคำพิจารณาอาหารว่า อาหาระเว ติทุกขัง เป็นการเตือนตัวเองว่าอย่าโลภในอาหารเพราะมันจะเป็นทุกข์ ถ้าท่านไม่

เตือนตัวเองก่อน เวลาฉันไม่ได้แกงเนื้อแกงไก่ หรือแกงตะพาบตามที่ท่านเสกบาตรตามแบบของท่าน ท่านจะหงุดหงิดเป็นทุกข์ พระองค์นี้มีตัวตนอยู่

จริง น่าเสียดายที่ท่านเสียชีวิตตั้งแต่วัยหนุ่ม ท่านพระอาจารย์พยุงฯเจ้าอาวาสวัดองค์ปัจจุบัน ซึ่งเป็นอาจารย์ของคุณ"คนวิเศษ" เคยสกิดให้ผมดูเวลา

ท่านนอน แล้วถามผมว่าหลวงพี่เวลาพระพุทธเจ้าบรรทมเราเรียกว่าอะไรนะ ผมพาซื่อตอบไปว่า สีหไสยาสน์ ท่านพูดต่อและชี้ไปที่พระองค์นั้น

และพูดกับผมว่า อย่างนี้น่าจะเรียกว่า"เดรัจฉานไสยาสน์" ถ้าเราไม่อยากให้ลูกหลานเป็นอย่างนั้นก็ควรจะทำอะไรสักอย่าง อย่าคิดว่าธุระไม่ใช่

เพราะเราเป็นผู้ใหญ่กันขึ้นทุกวัน เราเคยได้ยินได้ฟังได้อ่านหนังสือพิมพ์กันมาในช่วงหนึ่ง ที่มีการเรียกร้องหรือถามหาจริยธรรมกัน ถ้ามีคนพูดสิบคน

ลองไปถามเถอะอธิบายหรือพูดย่อๆ ให้เราเข้าใจได้ง่ายๆ จะได้สักกี่คน อย่าเถียงในใจว่าไม่จำเป็น เพราะเรานับถือศาสนาพุทธ และเคยบอกไปแล้ว

จำไม่ได้ว่าตอนอะไร แต่บอกไปว่าเด็กพม่าอายุ 8 ขวบ รู้เรื่องขันธ์ 5 เป็นอย่างดี เพราะเขาถูกอบรมอย่างน้อยอาทิตย์ละ 2 ครั้ง และที่ผมเห็นก็คือ

อบรมโดยฆราวาสเสียเป็นส่วนใหญ่ ที่ประเทศสิงคโปร์ครอบครัวที่นับถือพุทธศาสนา พ่อแม่จะพาลูกไปรับการอบรมศาสนาพุทธทุกอาทิตย์.....ฯลฯ

ที่ผมเอาเรื่องนี้มาเขียนก็เพราะติดพันมาจากตอนที่แล้วคือ ไม่มีเหตุให้อ้างว่าไม่รู้กฎหมายหรือระเบียบแล้วจะทำให้พ้นผิด ลองนึกดูว่าถ้าเราจะถามคน

ที่นั่งใกล้ๆเรา หรือคนในบ้านเรา ให้เขาจำกัดความคำว่าศีลธรรมให้เราฟังแบบเข้าใจได้ง่ายๆ จะมีสักกี่คนที่ทำให้เราเข้าใจได้ง่ายๆ หรือจะเอาญาติที่

กำลังบวชอยู่ก็ได้ บางท่านก็อาจจะเพ้อเจ้อแบบเปิดพจนานุกรมเอามาอธิบาย พอจบแล้วก็ได้พอกันทั้งคนฟังทั้งคนพูด ความจริงรู้แต่ไม่รู้จะพูดให้คน

ฟังเข้าใจง่ายๆ ได้อย่างไร ผมเคยเขียนเล่นๆ ไปในตอนไหนก็จำไม่ได้ว่า เชิญเทวดามาแล้วก็อย่าลืมส่งท่านกลับด้วย มีสมาชิกท่านหนึ่งแสดงความ

เห็นมา(ขออภัยผมจำไม่ได้ว่าเป็นใคร เพราะตอนนั้นผมเพิ่งเข้ามาใหม่ๆ)ว่าท่านไปสัมนาหรืออบรมที่ชอำ มีคนถามพระผู้เป็นปาฐกว่า ส่งเทวดาใช้

บทอะไร มหาเปรียญท่านนั้นต้องติดค้างคำตอบไว้ 1 วัน ความจริงท่านใช้อยู่แทบทุกวัน เวลาสวดมนต์เช้าสวดมนต์เย็น หรือไปงานตามกิจนิมนต์

แต่ไม่มีใครบอกท่านว่าบทที่ใช้เขาใช้ส่งเทวดากลับ ท่านเป็นมหาท่านเป็นอาจารย์สอนเพราะท่านเรียน และถ้าไม่มีตำราเขียนไว้ท่านก็ไม่รู้ ซึ่งก็ไม่

ผิดแต่ไม่เป็นข้ออ้างได้......ต้องใช้หลักวิชาครูเบื้องต้นไปค้นคำตอบมาให้....

ตอนผมบวชผมมีอาจารย์ดี คือโยมเต๊ะ โยมเกี๊ยม โยมผูก ซึ่งเป็นอดีตเจ้าอาวาสบ้างเคยรั้งตำแหน่งเจ้าอาวาสบ้าง จะมีทั้งเรื่องทางโลกทางธรรม

และการเปรียบเทียบมาเล่าให้ฟังสนุกๆ แบบมีสาระน่ารู้น่าฟัง ก็ทำให้ได้อะไรๆ มาพอสมควรกับฐานะของตนเอง มีอยู่มากมายที่ไม่รู้ก็อาศัยพระ

ไตรปิฎกฉบับสำหรับประชาชน ซึ่งก็ไม่จำเป็นนัก เพียงเหมือนกับเรามีหนังสือกฎหมาย ถ้าไม่สงสัยจริงๆ ชนิดที่ต้องรู้ก็ไม่เคยเปิด ถ้าเราใช้ชีวิต

อย่างปรกติสุขตามศีลธรรม ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ทั้ง 2 เล่ม ทั้งหนังสือกฎหมายและพระไตรปิฎก อะไรคือปรกติสุขแบบมีศีลธรรม ถ้าเข้าใจมันก็ง่าย

ทั้งเรื่องหน้าที่ศีลธรรมและกฎหมาย กฎหมายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแบบจารีตประเพณี หรือเป็นลายลักษณ์อักษร(แบบโรมานิค : แบบของไทย)ก็เอามา

จากหลักศีลธรรมกันทั้งนั้น คือไม่ทำในสิ่งที่ไม่ดีไมถูกและทำในสิ่งที่ดีที่ถูก เอาง่ายๆ อธิบายให้เด็กเล็กเข้าใจง่ายว่า ศีล ก็คือการละเว้นไม่ทำความ

ชั่ว อะไรที่ชั่ว ที่ผิด ดูแล้วไม่ดี เราไม่ทำ เรียกว่ามีศีล...ธรรม คือทำให้งาม นอกจากไม่ทำชั่วทำผิดแล้วเรายังเสริมด้วยทำความดี เช่น เราไปพบเจอ

ปลาตกคลักตามรอยตีนควาย ถ้าเราไม่จับมันไปแกง ก็เรียกว่าเรามีศีล คือไม่คิดฆ่าสัตว์ แต่ยังไม่มีธรรม ถ้าเราจับเอามันไปปล่อยแม่น้ำลำคลองจึง

จะเรียกว่ามีธรรม รถแท็กซี่พบกระเป๋าเงินผู้โดยสารตกบนรถแล้วไม่คิดเอาเรียกว่ามีศีล เอาไปมอบให้ตำรวจหรือประกาศหาตัวเจ้าของเรียกว่ามีธรรม

นอกจากเราไม่มักมากในกามแล้วยังครองเรือนด้วยดีอยู่ในธรรมการครองเรือนเรียกว่ามีทั้งศีลและธรรม เราไม่พูดปดไม่พูดส่อเสียดแล้วเรายังมี

มธุรสวาจา ก็คือมีศีลธรรม ฯลฯ.....อธิบายอย่างนี้เด็กเข้าใจง่าย ดีกว่าไปเปิดตำรา พจนานุกรม แล้วเอามาแสดงโวหาร สอนแทบตายไม่รู้เรื่อง แต่

ในโลกนี้ก็มีหลายแง่หลายมุมเพราะมันมีหลายคน เขาว่ากันว่า(เขียนอยู่ในตำรากฎหมาย)ถ้ามีกฎหมายออกมา แทนที่คนจะคิดและศึกษาเพื่อปฏิบัติ

ตามจะได้ไม่ทำผิดกฎหมาย กลับคิดและศึกษาว่า มันมีช่องว่างตรงไหนบ้าง ที่จะหลีกเลี่ยงได้ เรียกว่าเอามาแหก...ถูๆไถๆ ไปข้างๆ คูๆได้....

ลองมาดูเรื่องเล่าที่ผมตั้งใจเล่าเกี่ยวกับเรื่องที่เอามาจากวัด ที่เรียกว่าถูไถไปข้างๆคูๆดูบ้างดีกว่า อารัมภบทเสียยาวกว่าจะเข้าเรื่องได้ เรื่องแรก ถ้า

พระไปพบงูกำลังคาบลูกเขียดจะกลืนกิน พระควรจะทำอย่างไร ถ้าไม่ช่วย...อ้างว่าปล่อยไปตามกรรม...ถ้าช่วย...เป็นการทำให้งูอดอาหารหรือไม่...

หรือจะอ้างว่าไม่ใช่กิจของสงฆ์...สมาชิกคงมีคำตอบแล้ว...หรืออย่างน้อยก็มีวิธีพิจารณา...ผู้รู้ก็เอาศีลธรรมมาจับประเด็นทั้งเหตุและผล...อันดับ

แรก...งูอะไร...ถ้าเป็นงูเห่าถึงง้างปากเอาเขียดออกมาได้...เขียดก็ตายอยู่ดี...ถ้าไม่ใช่งูมีพิษ...ถ้าช่วยเขียดออกมาจากปากงูแล้ว...งูเป็นลมตาย

เพราะขาดอาหารมื้อสำคัญไหม? หรือช่วยเขียดออกมาได้แต่มีบาดแผลถึงตายได้...เรื่องนี้ไม่สำคัญอะไร...แต่เขาต้องการที่จะเริ่มต้นสอนให้รู้จัก

พิจารณาแล้วหาเหตุผล เพื่อเอามาปฏิบัติด้วยความรอบคอบ โดยต้องได้ทั้งศีลและธรรม เรื่องที่สอง แม่ชีที่วัดสังเกตเห็นพระเจ้าอาวาสไปยืนดูต้น

มะขามที่กำลังออกฝักอยู่ทุกๆ วัน ทำให้แม่ชีคิดว่า สงสัยหลวงพ่อคงอยากฉันแกงส้ม ก็เลยไปตลาดเพื่อหาซื้อปลา เมื่อเดินผ่านแม่ค้าปลาเห็นปลา

ดิ้นกระแด่วๆ ก็เดินผ่านไป แม่ค้ารู้ว่าแม่ชีไม่ซื้อปลาเป็น พอแม่ชีเดินผ่านไปก็ทุบหัวปลาให้ปลาตาย พอแม่ชีเดินกลับมาอีกทีเห็นปลาตายก็เลยซื้อ

เอาไปแกงส้มถวายพระ...เรื่องนี้คำถามคือใครผิด...ใครบาป...สมาชิกคงมีคำตอบ บางคนก็ว่าพระบาปไปยืนดูต้นมะขามเป็นการบอกใบ้แม่ชี พระก็

ว่าแม่ชีคิดไปเอง ชีก็ว่าถ้าพระไม่ไปยืนดูต้นมะขามบ่อยทุกวันๆ ก็คงไม่คิด และว่าฉันเดินหาซื้อปลาตายไม่ได้สั่งให้แม่ค้าทุบหัวปลาเสียเมื่อไหร่ ไม่มี

ปลาตายฉันก็ไม่ซื้อ แม่ค้าก็ว่าถ้าแม่ชีไม่มาฉันก็ไม่ทุบห้วปลาหรอก...ก็ลองเอาคำว่า"ศีลธรรม"มาจับประเด็นก็ได้คำตอบ เรื่องที่สาม พระองค์หนึ่งนั่ง

อยู่ที่ศาลาริมถนนหน้าวัด เห็นคนต้อนควายพ้นทิวไผ่เหนือวัดผ่านหน้าไปพอลับตา ก็นึกขึ้นได้ว่าไม่เคยเห็นหน้าคนต้อนควาย น่าจะเป็นการขโมย

ควายของชาวบ้านมาแน่ๆ ก็พอดีเห็นกลุ่มคนเดินพ้นทิวไผ่ที่กลุ่มคนก่อนหน้านี้ผ่านไป พร้อมอาวุธครบมือ ก็กลัวว่าจะถูกกลุ่มคนที่ตามมาถามหาคน

ต้อนควายที่ผ่านไป ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรเพราะกลัวจะเป็นบาปหรืออาบัติ จึงลุกขึ้นหันหลังเดินเข้าวัด กลุ่มคนที่ตามมาก็ตะโกนนิมนต์ให้หยุดรก่อน

เมื่อเข้ามาถึงก็ถามว่า ท่านยืนอยู่นี่เห็นคนต้อนควายผ่านไปบ้างไหม? พระก็ตอบว่าไม่เห็น...ถามว่าพระโกหกไหม? อาบัติไหม? คำตอบแบบถูๆ

ไถๆ ไปข้างๆ คู คือ พระไม่ได้โกหก พระไม่ต้องอาบัติ เหตุผลเพราะคำถามที่ถามกำหนดลงไปว่า ท่านยืนอยู่นี่เห็นคนต้อนควายผ่านไปบ้างไหม?

ตอนที่พระเห็นคนต้อนควายผ่านไปเป็นตอนที่พระท่านนั่งอยู่ เมื่อคนต้อนควายลับตาไปแล้วท่านจึงยืนขึ้น คือตอนยืนไม่เห็นแล้ว...นี่คือคำพูดที่เราได้

ยินบ่อยๆ ว่า"ตีความตามตัวอักษร"คนมักจะวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่า พวกเรียนกฎหมายเจ้าเล่ห์ แต่ความเป็นจริงไม่ใช่ เพราะหลักการจริงๆ คือต้องตี

ความตามตัวอักษร(ไม่เข้าถ้ำเสือไม่มีทางได้ลูกเสือ : โกวเล้ง ดังนั้นต้องลองเรียนกฎหมาย) บางครั้งก็ต้องพิจารณาตามข้อเท็จจริง รวมทั้งข้อ

กฎหมาย แต่ถ้าทำตาม"ศีลธรรม" ก็ไม่น่ามีปัญหา เห็นว่าเข้าพรรษาเลยหาธรรมาธิษฐานมาเขียนให้อ่านกันสนุกๆ..... ขอขอบคุณมากครับ....

สวัสดีครับ

 

ดูขลัง เเละสวยมากครับ

 

คุณหนุ่มทิพย์ ผมขอจองครับ

 

ขอบคุณครับ ปิดจ๊อป!
(ผมจะเข้าวัดอีกครั้งก็ปลายเดือน รอหน่อยนะครับ)

 

ฝีมือเทวดาจริง ๆ งามมาก ๆ มีให้จองเป็นเจ้าของบ้างหรือไม่

 

อืมห์...........ประหลาดจริง ๆ มีไส้ผ่านกลางปล้องด้วยพริ้วเชียว
ตกลงจะให้มองเป็นลิ้นของปากตัวอะไร เห็นเขียนเป็นฟันแหลม ๆ เอาไว้

หรือจะให้มองว่าเป็นอย่างอื่นแบบ 18+

 

เห็นว่าจะออกปีหน้า ถ้าไม่พลาดจะเปิดที่องค์ละ 300 บาท

พระอาจารย์ฯยังถามผม ว่าหนักขนาด 10,000 องค์ พี่นิ่มจะรับเป็นภาระเอาไปฝากครูอาจารย์ที่ขมังเวทย์ได้หรือไม่

พระฯงามขนาดนี้ พี่นิ่มเห็นแล้วไม่ปฏิเสธแน่
ถ้าเป็นดังตั้งใจ ผมจองไว้ส่วนตัว 100 องค์

เห็นพี่นิ่มตระเวนเสกพระฯแล้วยอม
เห็นพระอาจารย์พิจารณ์จัดสร้างแล้วนับถือ
เห็นภูมิรู้ของพระครูอภิสิทธิ์แล้วคารวะ

ถ้าได้ 3 ท่านฯนี้ ทำพระฯด้วยกันสักครั้งแบบตั้งใจ คงจะดีไม่น้อยเลย

 

หลวงพ่อลือ วัดคำหยาด เคยมาขอตัดแบ่งไปใช้
ภายในกลางปล้อง จะเห็นเป็นริ้วเหมือนครีบปลา แต่เจ้าของเดิมทาสีแดงไว้ทำไมไม่รู้...

 

มีเพื่อนเอามาฝาก ใครรักใครชอบก็ติดต่อมา แต่ไปเช็คราคากลางก่อน จะได้ไม่เจ็บตัว

 

ผมนิมนต์หลวงพ่ออุดม วัดพิชัยสงคราม มานั่งปรกฯที่วัดโพธิผักไห่ ในวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม ศกนี้ เวลาประมาณ 13.19 น.

ตามกำหนดการณ์ น่าจะมีหลวงพ่อเอียด หลวงพ่อเฉลิม หลวงพ่อเอื้อน หลวงพ่อแม้น

และน่าจะมีท่านพี่นิ่ม กับคุณอ๊อด มานั่งสัปหงกด้วย
ถ้าเพื่อนสมาชิกว่างในวันเวลาดังกล่าว ก็ขอเชิญมาร่วมงานมงคลกัน

 

ปีนี้เกิดอะไรขึ้นครับนี้ ใจหายแล้วใจหายอีก T T

หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ ได้มรณภาพแล้วเมื่อเวลา 00.45น.

ขอกราบไว้อาลัยหลวงพ่อฯครับ

 

ขอไวอาลัย

หลวงพ่อสาครเกจิชื่อดังระยองศิษย์เอกหลวงปู่ทิม มรณภาพแล้วด้วยโรคถุงลมโป่งพอง

หลวงพ่อสาคร มนุญโญ หรือ พระครูมนูญธรรมวัตร เจ้าอาวาสวัดหนองกรับ ตั้งอยู่หมู่ 3 ต.หนองกรับ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ศิษย์เอกของหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ ได้มรณภาพแล้ว จากโรคลมโป่งพอง ศิษยานุศิษย์เตรียมนำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดหนองกลับ ชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างเดินทางมาที่วัดพร้อมช่วยกันจัดเตรียมสถานที่เพื่อทำพิธีรดน้ำศพ
พระกิตติศักดิ์ กิตติสุขิตโต พระเลขาหลวงพ่อสาคร กล่าวว่า หลวงพ่อสาคร อายุได้ 75ปี ป่วยด้วยโรคถุงลมโป่งพองและเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลมาโดยตลอด เมื่อวันที่ 4 ก.ย. หลวงพ่อได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสมิติเวชศรีนครินทร์ กทม. และหลวงพ่อสาครได้มรณภาพเมื่อเวลา 00.45น. ของวันที่ 18 ก.ย. และจะเคลื่อนศพถึงวัดหนองกรับวันนี้

จากนั้นจะมีพิธีรดน้ำศพ โดยพระราชสิทธินายก เจ้าคณะจังหวัดจะเดินทางมาเป็นประธานในพิธี และจะสวดอภิธรรมในคืนนี้เป็นคืนแรก ตั้งแต่วันที่ 18 -26 ก.ย. รวมทั้งหมด 9 คืน และจะบรรจุเก็บศพไว้ที่วัดหนองกรับเป็นเวลา 100 วันเพื่อให้ญาติโยมและลูกศิษย์เข้ามากราบไหว้ร่างหลวงพ่อสาคร
จากนั้นจะประชุมหารือกันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งในวันนี้ได้มีญาติโยมที่ทราบข่าวรวมทั้งเจ้าหน้าที่ อบต.หนองบัว ได้เข้ามาช่วยกันทำความสะอาดเก็บกวาดลานวัดตัดกิ่งไม้ปรับพื้นที่ลานวัดเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ญาติโยมที่จะมาร่วมงาน พิธีการจัดงานศพของหลวงพ่อสาครนั้นหลวงพ่อเชย ชยธัมโม เจ้าอาวาสวัดละหารไร่ จะมาเป็นประธานในการจัดงานศพหลวงพ่อสาครในครั้งนี้ด้วย