ข้อความจากต่างมิติ - หรือว่านี่จะคือนรกและสวรรค์ตามความเชื่อของบางศาสนานะ?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 2 กรกฎาคม 2013.

  1. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    เนื้อหาในกระทู้นี้ จะเป็นเนื้อหาที่ต่อเนื่องจากเนื้อหาของกระทู้ข้างล่างนี้หนะนะครับ

    “ข้อความจากต่างมิติ-ข้อมูลเกี่ยวกับมิติต่างๆ-และ-โลกคู่ขนาน-มิติคู่ขนาน-และอื่นๆ”

    http://palungjit.org/threads/ข้อความจากต่างมิติ-ข้อมูลเกี่ยวกับมิติต่างๆ-และ-โลกคู่ขนาน-มิติคู่ขนาน-และอื่นๆ.492683/

    แต่เพราะความที่ผมเห็นว่า มันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่หลายคนอยากรู้กันมาก
    ผมก็เลยแยกออกมาโพสต์ตั้งเป็นกระทู้ใหม่ต่างหาก

    เนื้อหาของกระทู้นี้จะเป็นการพูดถึงมิติที่ 4 แบบคร่าวๆ ไม่ละเอียดมากนัก
    แต่ก็พอที่จะทำให้เราต่อติดอะไรบางอย่างอยู่บ้าง
    สำหรับผู้ที่ไม่ยึดถือกรอบและตำรามากจนเกินไปนักหนะนะครับ


    แต่อย่างไรก็ตาม ก็อย่างที่ผมได้เคยบอกท่านเอาไว้แล้ว
    และก็บอกมาตลอดนั่นแหละนะครับว่า
    เนื้อหาจากกระทู้นี้และกระทู้อื่นๆด้วย
    ผมแค่แปลเขามาแบ่งปันให้ท่านอ่านด้วยเท่านั้นเอง
    หาใช่ของผมเองไม่

    ดังนั้น ผมเองก็ยืนยันหรือตอบคำถามอะไรให้ท่านไม่ได้
    ว่ามันจริงหรือไม่จริงอย่างไรบ้าง ดังนั้น จึงขอให้ท่าน
    ใช้วิจารณญาณในการรับรู้ข้อมูลเอาเองนะครับ


    สำหรับท่านใดที่ยังไม่เคยได้อ่านข้อความจากต่างมิติมาก่อนเลย
    และก็ไม่เคยรู้เรื่องราวเกี่ยวกับมิติต่างๆมาก่อนเลย
    ผมก็อยากจะขอแนะนำว่า ให้ท่านเข้าไปอ่านเนื้อหาในกระทู้
    ที่ผมให้ลิงค์เอาไว้แล้วข้างบนนั่นก่อนนะครับ
    เพื่อให้ท่านได้มีความเข้าใจในเนื้อหาที่เขาต้องการจะสื่อมากขึ้นหนะครับ

    แต่ถ้าให้ผมสรุปคร่าวๆไว้ให้ในที่นี้ ผมก็จะสรุปสั้นๆให้ว่า:


    ในเนื้อหาชุดนี้ เขาบอกว่ามันมีมิติหลักๆอยู่ 12 มิติ
    โดยที่มิติที่ 1 นั้นจะเป็นพวกแร่ธาตุต่างๆ, ส่วนมิติที่ 2 จะเป็นพวกพืช,
    มิติที่ 3 คือมนุษย์โลก และสัตว์บางชนิด, มิติที่ 4 คือมิติในฝันและชีวิตหลังความตาย
    มิติที่ 5 คือมิติของจิตวิญญาณของพวกเรา และเป็นมิติแห่งความเป็นหนึ่งเดียวกัน
    รวมถึงนับจากมิติที่ 5 เป็นต้นไป จะเป็นมิติที่ไร้กาลเวลาทั้งหมด,
    มิติที่ 6 คือมิติแห่งพิมพ์เขียวของพวกเรา,
    มิติที่ 7 คือมิติของ “จิตวิญญาณต้นธาตุ” (Oversoul) ของพวกเรา,
    มิติที่ 8 คือมิติของชีวิตระดับดวงดาว, มิติที่ 9 – 12 เป็นของ Elohim
    หรือพระผู้สร้างในระดับต่างๆกัน ตั้งแต่ระดับระบบสุริยะ ไปจนถึงระดับจักรวาล


    หมายเหตุ:

    ในขณะที่ท่านอ่านบทความนี้ ขอให้ท่านนึกเทียบเคียงไปด้วยนะครับว่า
    รายละเอียดบางส่วน เท่าที่เขาจะอธิบายเอาไว้ในนี้ มันมีส่วนเหมือน
    หรือแตกต่างจากความเชื่อเรื่องนรก-สวรรค์ของบางศาสนาอย่างไรบ้าง

    แต่ในข้อความนี้ เขาก็ไม่ได้บอกออกมาชัดๆแบบนั้นหรอกนะครับ
    เพียงแต่ว่าตามความเข้าใจของผมแล้ว ผมคิดว่าน่าจะใช่นะครับ
    และมันก็เลยทำให้ผมได้คำตอบแบบหายสงสัยเลยด้วยว่า
    ทำไม “นรก” และ “สวรรค์” ตามความเชื่อของแต่ละศาสนา
    จึงมีความแตกต่างกันได้ ซึ่งคำตอบมันก็จะประมาณว่า


    เพราะว่า “ความคิด” + “อารมณ์” = สิ่งสรรค์สร้าง นั่นเอง

    ซึ่งถ้าจะให้อธิบายเพิ่มเติมอีกหน่อย ผมก็จะบอกว่า ในระนาบต่างๆที่อยู่ในมิติที่ 4 นี้
    เราคิดอะไร เชื่ออะไร แล้วใส่อารมณ์ความรู้สึกเข้าไปให้กับมันแล้ว
    มันก็จะกลายเป็นสิ่งนั้น และแบบนั้น ออกมาให้เราทันทีเลย

    ดังนั้น จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมชาวโลกที่มีความเชื่อต่างกัน
    จึง “สร้าง” นรก และ สวรรค์ ขึ้นมาในรูปแบบที่แตกต่างกันไงหละครับ

    และอีกประเด็นหนึ่งที่ทำให้ผมเคยอึ้งและทึ่งมาก่อน ก็คือ
    เรื่อง “กายต่างๆ” ของพวกเรานี่แหละ ที่ข้อความจากต่างมิติทั้งหลาย
    จะพูดถึงอยู่เสมอ และก็พูดตรงกันหมดซะด้วย

    ว่าเราไม่ได้มีแค่กายทางกายภาพนี้กายเดียวเท่านั้น
    แต่เรายังมีกายอื่นๆอยู่อีกในทุกๆมิติอีกด้วย
    ดังนั้น จึงเป็นจิ๊กซอตัวหนึ่ง ที่ทำให้ผมได้คำตอบคร่าวๆแล้วว่า
    ทำไมพุทธศาสนาบางนิกาย จึงมีการพูดถึง “กายต่างๆ” กันอย่างจริงจังนัก

    ผมเข้าใจว่าอย่างนั้นนะครับ ผิดถูกอย่างไร ก็ต้องขอประทานอภัยไว้ ณ.ที่นี้ด้วยนะครับ – ผู้แปล


    ปล.:

    ผู้ที่อธิบายเนื้อหาของบทความนี้ คือ Mytre ซึ่งเป็นรูปธรรมชีวิตที่อยู่ในมิติที่ 5 หนะนะครับ

    ...............................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2022
  2. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารจาก Mytre เรื่อง: ท่องไปในมิติที่ 4

    วันที่ 16/6/13

    ที่มา:
    Awakening with Suzanne Lie: Pleiadian/Earth Alliance - Journey Through Fourth Dimension



    ตอนที่ 1:


    JASON:

    Mytre ที่รัก Sandy และ ผมฝันเหมือนกันเมื่อคืนนี้ แม้ว่าจริงๆแล้ว
    ในฝัน พวกเราจะมองไม่เห็นกันก็ตาม แต่เมื่อพวกเรานำความฝันของตัวเองมาเล่าสู่กันฟังแล้ว
    พวกเราพบว่ามันเป็นฝันเรื่องเดียวกัน ดังนั้น ตอนนี้พวกเราก็เลยกำลังนั่งสมาธิร่วมกันอยู่
    และผมก็กำลังพิมพ์ข้อความที่ได้รับจากคุณไปด้วย คุณจะบอกผมได้ไหมว่า
    เกิดอะไรขึ้นในฝันของพวกเราเมื่อคืนนี้?



    Mytre:

    Jason ที่รัก ผมดีใจที่พวกคุณรู้วิธีที่จะติดต่อสื่อสารกับผม โดยใช้จิตสำนึกร่วมกันของพวกคุณทั้งสองคนแล้ว
    เพราะว่าความจริงก็คือเมื่อพวกคุณทั้งสองคนทำสมาธิร่วมกันแบบนี้ Sandy ก็จะทำหน้าที่
    กราวด์ข้อความของผมเอาไว้ ในขณะที่ตัวคุณเองก็จะพิมพ์มันลงไปในคอมพิวเตอร์

    และคำตอบของผมสำหรับคำถามของพวกคุณก็คือ เมื่อคืนนี้ทั้งคุณและแซนดี้
    ได้ท่องเที่ยวไปในมิติที่ 4 พวกคุณอยากจะให้ผมพาพวกคุณเดินทางท่องเที่ยวเข้าไปในมิติที่ 4
    ผ่านตัวอักษรในตอนนี้เลยไหม๊?


    JASON: ใช่ครับ พวกเราคิดว่ามันน่าจะวิเศษมากเลย


    Mytre:

    ถ้าพวกคุณมีคำถามอะไรในระหว่างที่กำลังท่องเที่ยวอยู่นี้ โปรดแจ้งให้ผมทราบได้เลย
    เจสัน ถ้าคุณมีคำถามอะไรก็ให้พิมพ์ลงไปได้เลย เพื่อที่มันจะได้ไม่ไปขัดจังหวะ
    การรับข้อมูลสื่อสารทางโทรจิตของคุณ ส่วนแซนดี้ ถ้าคุณมีคำถามอะไร ก็ให้พูดออกมาดังๆได้เลย
    เพื่อที่ทั้งผมและเจสันจะได้ได้ยินมันได้

    ผมจะเริ่มต้นโดยการให้ข้อมูลเกี่ยวกับมิติที่ 4 แก่พวกคุณก่อน
    แต่ก่อนอื่น ผมอยากจะเตือนความทรงจำของพวกคุณว่า
    โลกแห่งความเป็นจริงที่อยู่ในมิติที่สูงๆกว่าทั้งหมด
    ล้วนดำรงอยู่ภายในจิตสำนึก/ความตระหนักรู้
    ของตัวตนหลากมิติของพวกคุณเองทั้งสิ้น
    แม้ว่าความคิดแบบมิติที่ 3 ของพวกคุณ จะสอนพวกคุณว่า
    ทุกสรรพชีวิตล้วนอยู่แบบแยกขาดจากตัวคุณทั้งสิ้นก็ตาม

    แต่ว่าเมื่อพวกคุณสามารถปรับตัวให้เข้ากับ
    ความคิดแบบหลากมิติได้อย่างเต็มที่แล้ว
    พวกคุณก็จะเข้าใจว่า
    “โลกแห่งความเป็นจริงนั้น มันอยู่ภายในตัวพวกคุณเอง”
    เช่นเดียวกันกับที่
    “พวกคุณเอง ก็อยู่ภายในโลกแห่งความเป็นจริงด้วย”



    มันมีระนาบย่อยของมิติที่ 4 อยู่ 7 ระนาบด้วยกัน ซึ่งแต่ละระนาบย่อยเหล่านี้
    ก็จะมีระดับความสั่นสะเทือนที่แตกต่างกันไป คือระนาบย่อยที่อยู่สูงกว่า
    ก็จะมีระดับคลื่นความถี่ที่สูงกว่าตามไปด้วย ส่วนระนาบย่อยที่อยู่ต่ำกว่า
    ก็จะมีระดับความสั่นสะเทือนของคลื่นความถี่ที่ต่ำกว่าด้วยเช่นเดียวกัน

    ซึ่งถ้าเรียงลำดับระนาบย่อยเหล่านี้ จากสูงสุดไปหาต่ำสุด ก็จะเป็นดังนี้:

    1). ระนาบแห่งจิตวิญญาณ (Spiritual Plane):
    เป็นระนาบของ “สะพานสายรุ้ง” (Rainbow Bridge) และ I AM Present

    2). ระนาบแห่งเหตุและผล (Causal Plane): เป็นระนาบของการเป็นเจ้าแห่งพลังงาน
    (mastery of energy) และเป็นระนาบของ “กายแห่งเหตุและผล” (Causal Body)

    3). ระนาบแห่งความคิด/จิตใจ (Mental Plane): เป็นระนาบของการปลดปล่อยความคิด
    ที่มีการตัดสินชี้ถูกผิด และเป็นระนาบของ “กายแห่งความคิด/จิตใจ” (Mental Body)

    4). ระนาบแห่งอารมณ์ (Emotional Plane): เป็นระนาบของกระจกสะท้อนอารมณ์
    (Mirror of Emotion) และเป็นระนาบของ “กายแห่งอารมณ์” (Emotional Body)

    5). อาณาจักรแห่งเทพนิยาย (Kingdom of Faerie): เป็นระนาบแห่งจินตนาการ,
    การพักผ่อน และการสร้างสรรค์

    6). ระนาบแห่งโลกทิพย์ชั้นล่าง (Lower Astral Plane): เป็นระนาบของความกลัว
    และ อารมณ์ด้านลบทั้งหลาย

    7). ระนาบแห่งพลังงานชีวิต (Etheric Plane): เป็นระนาบของ “กายแห่งพลังงานชีวิต”
    (Etheric Body) ซึ่งทำหน้าที่เชื่อมประสานอยู่ระหว่างมิติที่ 3 และมิติที่ 4

    ระนาบแห่งพลังชีวิต หรือ Etheric Plane นี้ จะทำหน้าที่เชื่อมประสานร่างกายเนื้อของพวกคุณ
    เอาไว้กับมิติที่ 4 ซึ่งโดยอาศัย etheric body นี้เอง จึงทำให้ “พลังปราณ” (prana)
    สามารถไหลเข้ามาในร่างกายเนื้อของพวกคุณได้

    แต่ระนาบแห่งพลังงานชีวิตนี้ ก็ไม่ใช่ทั้งมิติที่ 3 และมิติที่ 4 ด้วย
    เพราะว่ามันเป็นคลื่นความถี่ ที่อยู่ระหว่างกลางของมิติทั้ง 2 นี้
    และทำหน้าที่ผสานเชื่อมมิติทั้ง 2 นี้เข้าไว้ด้วยกัน

    .................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2022
  3. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารจาก Mytre เรื่อง: ท่องไปในมิติที่ 4

    วันที่ 16/6/13

    ที่มา:
    Awakening with Suzanne Lie: Pleiadian/Earth Alliance - Journey Through Fourth Dimension


    ตอนที่ 2:

    ระนาบย่อยแต่ละระนาบ ที่อยู่ในมิติที่ 4 นี้ จะมีระดับของการเป็นวัตถุธาตุทางกายภาพ
    และระดับของความเป็นสสารที่แตกต่างกันออกไป และอันที่จริงแล้ว ภายในระนาบย่อยแต่ละระนาบนี้
    ก็จะมีโลกแห่งความเป็นจริงต่างๆที่มีระดับคลื่นความถี่ที่แตกต่างกันออกไปแทรกอยู่ภายในอีกด้วย
    ซึ่งระดับความสั่นสะเทือนของโลกแห่งความเป็นจริงเหล่านี้ ก็จะค่อยๆเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
    เมื่ออยู่ในระดับที่สูงขึ้น

    ตัวอย่างเช่น ในระนาบแห่งอารมณ์ ก็จะมีระนาบย่อยๆอยู่ภายในอีกมากมาย
    โดยที่ระนาบย่อยๆเหล่านี้ ก็จะมีระดับความสั่นสะเทือนที่แตกต่างกันไป
    นับตั้งแต่ระนาบย่อยที่มีคลื่นความสั่นสะเทือนของความกลัวมากกว่าความรัก
    จนไปถึงระนาบย่อยที่มีคลื่นความสั่นสะเทือนของความรักมากกว่าความกลัว

    แต่ระนาบย่อยๆทั้งหมดนี้ ก็จะมีระดับความสั่นสะเทือนอยู่ภายในขอบเขตของ
    “ระนาบแห่งอารมณ์” เท่านั้น

    แต่อย่างไรก็ตาม ระนาบย่อยๆทั้งหลายเหล่านี้ ก็ไม่ได้อยู่อย่างแยกขาดจากกัน
    เหมือนกองหนังสือบนชั้นหนังสือแต่อย่างใดเลย เพราะว่าพวกมันจะแทรกซึม
    และเหลื่อมซ้อนกับระนาบย่อยอื่นๆ ที่อยู่ข้างบนและข้างล่างพวกมันด้วย

    ดังนั้น โลกแห่งความเป็นจริงทั้งหมดที่อยู่ภายในมิติที่ 4 นี้

    จึงเกยทับ หรือคาบเกี่ยว (overlap) ซึ่งกันและกันอยู่

    โลกแห่งความเป็นจริงของมิติที่ 4 ที่อยู่สูงกว่า
    ก็จะอยู่สูงจากพื้นโลกมากกว่า
    ส่วนโลกแห่งความเป็นจริงที่อยู่ต่ำกว่า
    ก็จะอยู่ใกล้พื้นโลกมากกว่า

    ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ระนาบแห่งโลกทิพย์ชั้นล่าง
    หรือ the Lower Astral Plane นั้น
    จริงๆแล้ว มันมีระดับความสั่นสะเทือน
    ต่ำกว่าระดับความสั่นสะเทือนของโลกด้วยซ้ำไป


    แต่ว่า เพราะว่ามิติที่ 4 คือมิติที่อยู่นอกเหนือขอบเขตการรับรู้ของพวกคุณ
    ผู้ซึ่งอยู่ในมิติที่ 3 นี้ ดังนั้น พวกคุณจึงไม่สามารถที่จะรับรู้ถึงมันได้ อย่างมีสติสัมปชัญญะ

    แต่ในขณะที่พวกคุณกำลังยกระดับจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของตัวเอง
    ให้สูงขึ้นเรื่อยๆอยู่นี้ ความสามารถในการรับรู้ของพวกคุณ ก็จะค่อยๆเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย
    จนสามารถรับรู้โลกแห่งความเป็นจริง ที่มีระดับคลื่นความถี่ที่สูงกว่าได้
    ซึ่งโลกแห่งความเป็นจริงที่อยู่ภายในมิติที่ 4 ทั้งหลายแหล่เหล่านี้
    ก็จะกว้างใหญ่ไพศาล และไร้ขอบเขต มากพอๆกับจินตนาการของพวกคุณเลยทีเดียว


    แต่อย่างไรก็ตาม โลกแห่งความเป็นจริงที่อยู่ภายในมิติที่ 4 ทั้งหมดนี้
    “ไม่ใช่เป็นแค่จินตนาการของพวกคุณเองเท่านั้น เพราะว่ามันคือของจริงจริงๆ”


    Sandy:

    คุณหมายความว่าโลกแห่งความเป็นจริงเหล่านี้ อยู่ภายในตัวของพวกเราเองอย่างงั้นเหรอคะ?
    มันเป็นไปได้ยังไงกันคะ?


    Mytre:

    ภายในร่างกายของมนุษย์นี้ มีพลังอำนาจที่ซ่อนเร้นอยู่
    ในอันที่จะรับรู้, ตอบสนอง และท่องเที่ยวไปในมิติที่ 4 ได้

    อันที่จริงแล้ว พวกคุณก็ทำแบบนั้นอยู่เป็นประจำทุกคืนอยู่แล้วด้วย
    ในขณะที่พวกคุณนอนหลับ

    และ ไม่ว่าพวกคุณจะรับรู้หรือไม่ก็ตาม
    แต่พวกคุณทุกๆคน ก็มี “กาย” อยู่ในระนาบย่อยๆ ทุกๆระนาบ
    ของมิติที่ 4 นี้ อยู่อีกด้วย


    ดังนั้น พวกคุณแต่ละคนจึงมีกายแห่งพลังชีวิต (etheric body),
    กายทิพย์ (astral body), กายแห่งอารมณ์ (emotional body),
    กายแห่งความคิด/จิตใจ (mental body), กายแห่งเหตุและผล (causal body),
    และกายแห่งจิตวิญญาณ (spiritual body)
    หรือที่รู้จักกันอีกชื่อหนึ่งว่า I AM Present นั่นเอง อยู่อีกด้วย

    นอกจากนี้ พวกคุณทุกๆคน ยังมีกายต่างๆ อยู่ในดินแดนแห่งเทพนิยายอีกด้วย
    และรวมถึง พวกคุณทุกๆคนก็ยังมีกายอีกกายหนึ่ง ที่อยู่ใน “โลกทิพย์ชั้นล่าง”
    (Lower Astral Plane) หรือที่รู้จักกันในนามของ “ด้านมืดของตัวพวกคุณเอง” อยู่อีกด้วย


    เมื่อใดที่พวกคุณลงมาเกิดบนโลกมนุษย์ที่อยู่ในมิติที่ 3 นี้ กายทุกๆกายของพวกคุณ
    ก็จะ “มีชีวิต” ขึ้นมาพร้อมกันด้วย และกายเหล่านี้ ก็จะทำหน้าที่เป็น “กระจกสะท้อน”
    ที่อยู่ในมิติที่สูงกว่าของตัวพวกคุณเอง และก็จะทำหน้าที่เป็น “ทีมงานสนับสนุน” ให้กับพวกคุณด้วย

    เมื่อใดที่พวกคุณท่องเที่ยวเข้าไปในมิติที่ 4 พวกคุณจะสามารถเข้าไปในระนาบใดได้
    พวกคุณก็จะต้องใช้ “กาย” ที่มีระดับความสั่นสะเทือนเท่ากับระนาบนั้นๆ หรือสูงกว่าระนาบนั้นๆเท่านั้น

    หรือจะพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ พวกคุณจะสามารถเข้าไปในโลกทิพย์ได้
    พวกคุณก็จะต้องใช้กายทิพย์ หรือ กายแห่งความคิด/จิตใจ หรือ กายแห่งเหตุและผล เท่านั้น
    แต่พวกคุณจะไม่สามารถเข้าไปใน “ระนาบแห่งความคิด/จิตใจ” ได้ โดยใช้กายทิพย์ของตัวเอง

    มันจะเป็นการดีที่สุด ที่จะท่องเที่ยวเข้าไปในระนาบย่อยๆที่อยู่ต่ำกว่า
    โดยใช้กายที่มีระดับคลื่นความถี่ที่สูงกว่าของพวกคุณเอง
    เพราะว่าพวกคุณอาจจะต้องใช้แสงสว่างที่มีมากกว่าของกายระดับสูงของตัวเอง
    เพื่อปกป้องตัวพวกคุณเองก็ได้

    โดยเฉพาะเมื่อเข้าไปในโลกทิพย์ชั้นล่างด้วยแล้ว การปกป้องที่ว่านี้
    ก็ยิ่งจะมีความจำเป็นมากขึ้นไปอีก เพราะว่าแสงสว่างและความรักจากกายที่อยู่ในมิติที่สูงกว่าของพวกคุณ
    จะเป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุดของพวกคุณ จากความมืด และ ความกลัว ที่อยู่ในโลกทิพย์ชั้นล่างนั้น

    ......................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2022
  4. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารจาก Mytre เรื่อง: ท่องไปในมิติที่ 4

    วันที่ 16/6/13

    ที่มา:
    Awakening with Suzanne Lie: Pleiadian/Earth Alliance - Journey Through Fourth Dimension


    ตอนที่ 3:

    Jason: แล้วพวกเราจะสามารถเคลื่อนที่ผ่านระนาบย่อยๆเหล่านี้ไปได้อย่างไร?

    Mytre:

    การเคลื่อนที่จากระนาบย่อยหนึ่ง ไปยังอีกระนาบย่อยหนึ่งนั้น มันจะไม่เหมือนกับ
    “การเคลื่อนที่” บนโลก 3 มิติของพวกคุณ เพราะว่าพวกคุณจำเป็นจะต้อง “คิด”
    เพื่อให้ “ความตระหนักรู้” ของตัวเองย้ายจากโลกแห่งความเป็นจริงโลกหนึ่ง
    ไปสู่โลกแห่งความเป็นจริงอีกโลกหนึ่งเท่านั้นเอง

    ซึ่งก็จะคล้ายๆกับการที่พวกคุณส่งต่อไม่คทาให้กัน ในการวิ่งผลัดนั่นแหละ
    และเมื่อพวกคุณย้ายความตระหนักรู้ของตัวเอง ไปอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงอีกโลกหนึ่งแล้ว
    พวกคุณก็จะค่อยๆมีการตอบสนองต่อการรับรู้ทั้งหลาย ที่อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง
    ที่ตัวเองกำลังอยู่ในขณะนั้นๆน้อยลงเรื่อยๆ และก็จะไปตอบสนองต่อการรับรู้
    ที่อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงที่พวกคุณกำลังท่องเที่ยวไปอยู่นั้นมากขึ้นเรื่อยๆแทน

    พวกคุณทุกๆคน ล้วนเคยมีประสบการณ์แบบนี้กันมาแล้วทั้งนั้น ในขณะที่พวกคุณกำลังค่อยๆเคลิ้มหลับไป
    เพราะว่าในตอนแรกนั้น พวกคุณก็จะยังรับรู้ถึงโลกทางกายภาพของตัวเองอยู่
    แต่หลังจากนั้น โดยไม่รู้ตัว พวกคุณก็จะค่อยๆรับรู้ถึงความฝันแบบแว๊บๆก่อน
    โดยส่วนมากแล้ว ความฝันแบบแว๊บๆเหล่านี้ ก็จะมาในระหว่างที่พวกคุณยังตื่นอยู่
    แต่ในท้ายที่สุดแล้ว พวกคุณก็จะรับรู้โลกแห่งความเป็นจริงทางกายภาพของตัวเองแบบแว๊บๆแทน
    แล้วโลกแห่งความฝันก็จะมาเป็นใหญ่แทน

    กระบวนการที่คล้ายคลึงกันนี้ ก็จะเกิดขึ้นในขณะที่พวกคุณทำสมาธิด้วย
    ซึ่งโดยการทำสมาธิ พวกคุณก็จะสามารถยกระดับจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของตัวเอง
    ให้มีระดับความสั่นสะเทือนสูงขึ้นได้ โดยการจดจ่อความตระหนักรู้ของตัวเอง
    ให้ไปอยู่ในมิติที่สูงกว่าทั้งหลาย


    Jason: แล้วพวกเราจะสามารถท่องไปในโลกภายในเหล่านี้ได้อย่างไร?

    Mytre:

    พวกคุณจะสามารถท่องไปในมิติที่ 4 ได้
    ก็โดยอาศัย การผสานรวมกัน
    ของ “อารมณ์” และ “ความคิด” ของตัวเอง
    ให้กลายไปเป็น “คลื่นความถี่ที่อัดตัวกันแน่นของความตระหนักรู้”
    (cohesive frequency of consciousness)


    ซึ่งความตระหนักรู้/จิตสำนึกที่สูงกว่า ก็จะสั่นสะเทือนด้วยคลื่นความถี่ที่สูงกว่า
    ส่วนความตระหนักรู้/จิตสำนึกที่ต่ำกว่า ก็จะสั่นสะเทือนด้วยคลื่นความถี่ที่ต่ำกว่าตามไปด้วย


    ความเชื่อของพวกคุณ จะไปทำให้
    ความตระหนักรู้/จิตสำนึกของพวกคุณ
    อยู่ในสภาวะใดสภาวะหนึ่งดังกล่าวมาแล้วนั้น

    และสภาวะจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของพวกคุณ
    ก็จะไปทำให้พวกคุณเกิดความคาดหวังขึ้นตามมา

    และความคาดหวังดังกล่าวนี้ ก็จะเป็นตัวกำหนดทิศทาง
    ให้กับการรับรู้ของพวกคุณอีกต่อหนึ่งด้วย

    และโลกแห่งความเป็นจริงใด ที่พวกคุณกำลังรับรู้อยู่นั้น
    ก็นั่นแหละ จะคือโลกแห่งความเป็นจริงที่พวกคุณกำลังอาศัยอยู่หละ


    ตัวอย่างเช่น ถ้าพวกคุณเชื่อว่าพวกคุณสามารถท่องเที่ยวไปในดินแดนแห่งเทพนิยายได้
    พวกคุณก็จะเคลื่อนเข้าไปอยู่ในความตระหนักรู้/จิตสำนึกของมิติที่ 4 ตอนกลาง
    ที่ๆพวกคุณมีความคาดหวังว่า พวกคุณจะได้มีประสบการณ์กับเทพในนิยายทั้งหลาย

    แล้วจากนั้น ความคาดหวังของพวกคุณ ก็จะนำพาความสนใจของพวกคุณ
    ให้เข้าไปอยู่ในคลื่นความถี่ของโลกแห่งความเป็นจริงอันนั้น
    และโลกแห่งความเป็นจริงที่พวกคุณกำลังรับรู้อยู่นั้นแหละ
    ก็คือโลกแห่งความเป็นจริงที่พวกคุณกำลังอาศัยอยู่หละ

    แต่ถึงแม้ว่าพวกคุณจะสามารถท่องเข้าไปในมิติที่ 4 ได้
    โดยอาศัยการผสานรวมเอาความคิดและความรู้สึกของตัวเองเข้าไว้ด้วยกันแล้วก็ตาม
    แต่ถ้าระดับความสั่นสะเทือนของพวกคุณ ไม่สอดคล้องกับระดับความสั่นสะเทือน
    ของที่ๆพวกคุณอยากจะไปหละก็ พวกคุณก็จะไปไม่ถึงระนาบนั้นๆ

    ตัวอย่างเช่น ถ้าพวกคุณตั้งใจที่จะไประนาบแห่งเหตุและผล
    แต่ว่าพวกคุณยังมีความรู้สึกกลัวอยู่ ดังนั้น ความรู้สึกกลัวที่ว่านั้น
    ก็จะไปจำกัดระดับความสั่นสะเทือนของพวกคุณเอาไว้
    และเพราะฉะนั้น ระดับจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของพวกคุณ ก็จึงถูกจำกัดไปด้วย
    ดังนั้น มันจึงจะเป็นไปได้มากกว่าว่า พวกคุณจะไปถึงโลกทิพย์ชั้นล่างแทน
    ซึ่งเป็นที่ๆดาษดื่นไปด้วยความกลัว และ ความโกรธ

    ในทางกลับกัน หากพวกคุณเข้าไปในโลกทิพย์ชั้นล่าง
    ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อเข้าไปให้ความช่วยเหลือ และด้วยความรักหละก็
    ระดับจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของพวกคุณ ก็จะสั่นสะเทือนอยู่ในระดับเดียวกัน
    กับของระนาบแห่งอารมณ์ส่วนบน ซึ่งเป็นที่ๆมีความรักและแสงสว่างมากกว่า

    ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าพวกคุณท่องเที่ยวเข้าไปในมิติที่ 4 ด้วยความตั้งใจ
    ที่จะไปเรียนรู้สัจธรรมของเอกภพ และ เพื่อติดต่อสื่อสารกับรูปธรรมชีวิตที่อยู่ในมิติที่สูงกว่าหละก็
    ระดับจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของพวกคุณ ก็จะสั่นสะเทือนอยู่ในระดับเดียวกันกับ
    ระดับความสั่นสะเทือนของระนาบแห่งความคิด/จิตใจ หรือ ของระนาบแห่งเหตุและผลแทน
    ซึ่งเป็นที่ๆความสว่างไสวรอคอยพวกคุณอยู่

    แน่นอนว่า การยกระดับจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของพวกคุณเอง
    ให้ไปอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงของมิติที่ 4 ที่อยู่สูงกว่านั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
    และมันก็จะต้องใช้การฝึกฝน, การลงมือปฏิบัติอย่างมากด้วย
    และที่สำคัญมากที่สุดก็คือ มันจะต้องอาศัย “ความรัก” ด้วย

    การที่จะทำให้สามารถยกระดับจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ให้สูงขึ้น
    จนมากพอที่จะทำให้สามารถท่องเที่ยวไปในระนาบย่อยส่วนบน
    ของมิติที่ 4 ได้นั้น พวกคุณก็จะต้องเข้าไปในส่วนลึกของตัวเอง
    พวกคุณจะต้องรักตัวเองมากพอ จนทำให้สามารถท่องเข้าไป
    ในส่วนที่เป็นด้านมืดของตัวเอง หรือโลกทิพย์ชั้นล่างของตัวเองได้
    อย่างมีสติสัมปชัญญะ

    แต่การที่จะทำให้สามารถท่องเที่ยวเข้าไป
    ในระนาบที่อยู่สูงกว่าขึ้นไปให้ได้นั้น
    พวกคุณก็จะต้องยิ่ง “รักตัวเอง” ลึกลงไปอีก
    จนถึงระดับ “จิตไร้สำนึก” เท่านั้น


    ซึ่งการรักตัวเองจากภายในนี้ หมายความว่า พวกคุณจะต้องรัก และ ให้อภัยตัวเอง
    ในสิ่งที่พวกคุณเป็นอยู่ และ ในสิ่งที่พวกคุณกำลังประสบอยู่ทั้งหมด
    เพราะว่าถ้าพวกคุณไม่สามารถที่จะรักตัวเองแบบนี้ได้แล้ว
    จิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของพวกคุณ ก็จะไม่สามารถท่องเข้าไปในโลกแห่งความเป็นจริง
    ของมิติที่ 4 ที่อยู่สูงกว่าขึ้นไปได้

    ..............................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2022
  5. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารจาก Mytre เรื่อง: ท่องไปในมิติที่ 4

    วันที่ 16/6/13

    ที่มา:
    Awakening with Suzanne Lie: Pleiadian/Earth Alliance - Journey Through Fourth Dimension


    ตอนที่ 4:

    Sandy: มันมีวิธีไหนไหมคะ ที่จะทำให้สามารถเปลี่ยนแปลงสภาวะจิตสำนึกของพวกเราเองได้?

    Mytre:

    การเปลี่ยนแปลงสภาวะของจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของพวกคุณนั้น
    จะคล้ายๆกับการเปลี่ยนแปลงสภาวะของน้ำที่กำลังเดือดอยู่ในกะทะ
    โดยที่ในตอนแรก น้ำจะมีอุณหภูมิปกติ และโมเลกุลของน้ำก็จะมีการเคลื่อนที่ค่อนข้างช้า
    แต่เมื่อไฟที่อยู่ใต้กะทะใบนั้น ทำให้น้ำร้อนขึ้นมาแล้ว โมเลกุลของน้ำก็จะมีการเคลื่อนที่เร็วขึ้น
    และเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนน้ำเดือด และเมื่อน้ำเดือดแล้ว ส่วนหนึ่งของมันก็จะระเหยกลายเป็นไอไป
    และลอยขึ้นไปในอากาศ และถ้าเรายังคงให้ความร้อนกับกะทะใบนั้นอยู่ต่อไปหละก็
    น้ำทั้งหมดที่อยู่ในกะทะ ก็จะเปลี่ยนแปลงสถานะ กลายไปเป็นไอน้ำจนหมดสิ้น
    แล้วกะทะใบนั้นก็จะว่างเปล่าลง

    ฉันใดก็ฉันนั้น กะทะใบนั้น ก็เหมือนกับร่างกายเนื้อของพวกคุณ
    ส่วนไฟก็คือพลังกุณฑลิณีที่กำลังตื่นขึ้นของพวกคุณ
    และน้ำในกะทะก็คือจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของพวกคุณนั่นเอง

    และก็เหมือนกับการที่กะทะและไฟยังคงอยู่บนเตาต่อไป
    ร่างกายเนื้อของพวกคุณ ก็จะยังคงอยู่บนโลกใบนี้ต่อไปด้วยเช่นกัน
    ในขณะที่ความตระหนักรู้ของพวกคุณ จะถ่ายเทไปยังกายที่อยู่ในมิติที่สูงๆกว่าขึ้นไปอีก

    และถ้ากะทะที่ว่างเปล่าใบนั้น ยังคงอยู่บนไฟต่อไปอีกหละก็
    มันก็จะค่อยๆเสื่อมสภาพลง ถ้าจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ทั้งหมดของพวกคุณ จากไปเสียแล้ว

    เพราะว่าจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของพวกคุณ ก็คือ “พลังชีวิต” ของพวกคุณเองนั่นเอง
    มันคือนักบินของยานพาหนะทางโลกลำนี้ของพวกคุณ ดังนั้น ถ้าหากปราศจากนักบินแล้ว
    ยานพาหนะลำนี้ก็จะต้องร่วงตกลงมา

    และก็เหมือนกับการที่ตึกระฟ้า จะต้องมีเสาเข็มที่หยั่งลงไปลึกมากๆ
    เพื่อที่จะทำให้มันสามารถที่จะตั้งตระหง่านสูงเสียดฟ้าแบบนั้นได้
    พวกคุณเองก็เช่นเดียวกัน ที่จะต้องหยั่งรากของตัวเองลึกลงไปในดาวเคราะห์โลกดวงนี้
    เพื่อที่จะทำให้ตัวเอง สามารถยกระดับจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของตัวเอง
    ให้สูงขึ้นไปสู่มิติที่สูงๆกว่าได้

    และสิ่งที่จะช่วยให้พวกคุณสามารถกราวด์ตัวเอง
    เอาไว้กับดาวเคราะห์โลกดวงนี้ได้
    ก็คือ “การรักตัวเอง” และ “การรักโลกใบนี้” นั่นเอง

    ยิ่งพวกคุณสามารถรักตัวเองได้มากเท่าไหร่
    จิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของพวกคุณ
    ก็จะยิ่งท่องเที่ยวไปได้สูงเท่านั้น

    “ความรัก” คือยาต้านพิษของ “ความกลัว”
    ที่คอยแต่จะทำให้ระดับความสั่นสะเทือนของพวกคุณลดต่ำลง
    และทำให้จิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของพวกคุณมีข้อจำกัด


    ดังนั้น กุญแจสำหรับการเปลี่ยนแปลงสภาวะ
    ของจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของพวกคุณเอง
    ก็คือ “การรักตัวเอง” นั่นเอง!


    Sandy และ Jason ถามพร้อมกันว่า: คุณจะสามารถพาพวกเราไปเที่ยวในมิติที่ 4 ได้ไหม?

    Mytre:

    ได้สิ..เพราะว่าการพาพวกคุณไปมีประสบการณ์ในมิติที่ 4 อย่างมีสติสัมปชัญญะนี้
    ก็คือวิธีที่ดีที่สุดสำหรับผม ที่จะสอนพวกคุณเกี่ยวกับมัน

    ซึ่งในแต่ละระนาบย่อยที่อยู่ระหว่างระนาบทางกายภาพ กับระนาบแห่งจิตวิญญาณนี้
    จะมีกายอยู่กายหนึ่ง (หรือหลายกาย) ที่พวกคุณจะสามารถเข้าไปอาศัยอยู่ได้
    เพื่อการเดินทางท่องเที่ยวในมิติที่ 4 ของพวกคุณ

    และหลังจากพูดประโยคนี้จบแล้ว ผมก็จะเริ่มการเดินทาง ณ.บัดนี้


    ..............................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2022
  6. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารจาก Mytre เรื่อง: ท่องไปในมิติที่ 4

    วันที่ 16/6/13

    ที่มา:
    Awakening with Suzanne Lie: Pleiadian/Earth Alliance - Journey Through Fourth Dimension


    ตอนที่ 5:

    1). ระนาบแห่งโลกทิพย์ชั้นล่าง (The Lower Astral Plane):
    คือระนาบย่อยที่อยู่ต่ำที่สุดของมิติที่ 4 ซึ่งส่วนหนึ่งของมันจะอยู่บนพื้นผิวโลก
    แต่อีกส่วนหนึ่งของมันจะอยู่ลึกลงไปใต้พื้นโลก

    a.png
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

    แต่จงจำไว้ว่ามิติที่ 4 นี้ เป็นมิติที่อยู่นอกเหนือการรับรู้ของประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของพวกคุณ
    และพวกคุณ ก็จะไม่สามารถรับรู้ถึงมันได้ ในขณะที่พวกคุณ
    ยังอยู่ในระดับจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของมิติที่ 3 นี้

    เพราะฉะนั้นแล้ว จงผ่อนคลายอยู่ในร่างกายเนื้อของตัวเอง
    และจงทำความรู้สึกถึงความรักอันยิ่งใหญ่ ที่พวกคุณมีให้ต่อกัน
    (ระหว่าง Jason และ Sandy ซึ่งเป็นคู่รักกัน – ผู้แปล),
    ที่มีให้ต่อดาวเคราะห์โลก และ ที่สำคัญมากที่สุดก็คือ ที่มีให้แก่ตัวพวกคุณเอง

    ระนาบแห่งโลกทิพย์ชั้นล่างนี้ เต็มไปด้วยอารมณ์แห่งความกลัว,
    ความโกรธ, ความโศกเศร้าเสียใจ, ความรู้สึกผิด, และความเจ็บปวด
    ซึ่งอารมณ์ความรู้สึกด้านลบเหล่านี้
    ทำให้ระดับความสั่นสะเทือนของระนาบนี้ลดต่ำลง
    และทำให้แสงสว่างของมันลิบหรี่ลงไปด้วย

    การมองเห็นในสถานที่แห่งนี้จะเหมือนกับว่ากำลังมองผ่านกล้องอินฟาเรดอยู่
    ซึ่งสีที่จะเห็นก็จะมีแต่สีดำ, สีเทา และสีแดงคล้ำเท่านั้นเอง


    โลกทิพย์ชั้นล่างนี้ ไม่ใช่สถานที่ในจินตนาการเท่านั้น
    และมันก็มักจะเป็นที่รู้จักกันในนามของ “นรก” อีกด้วย


    มันมีวัตถุประสงค์ในการดำรงอยู่ของมัน
    แต่ว่ามันก็ไม่ใช่สถานที่ชั่วร้ายด้วยตัวมันเองหรอกนะ
    เพียงแต่ว่ามันมีระดับความสั่นสะเทือนสอดคล้องกับของผู้ที่อาศัยอยู่ที่นี่
    และสะท้อนให้เห็นถึงความชั่วร้ายของผู้ที่อาศัยอยู่ที่นี่เท่านั้นเอง

    การที่จะเคลื่อนผ่านโลกแห่งความเป็นจริงอันนี้ไปให้ได้นั้น
    พวกคุณจะต้องสยบความกลัวของตัวเองลงให้ได้ซะก่อน
    โดยอาศัยพลังอำนาจของความรักที่พวกคุณมีให้กับตัวเอง
    และที่มีให้กับทุกสรรพชีวิตด้วย เพราะว่าพลังงานแห่งความรักนี้
    จะไปคลุมตัวพวกคุณเอาไว้ ด้วยกายทิพย์ที่มีระดับคลื่นความถี่ที่สูงกว่า

    ซึ่งด้วยระดับความสั่นสะเทือนที่สูงกว่าของกายทิพย์กายนี้
    ก็จะทำให้พวกคุณสามารถเดินทางข้ามผ่านโลกแห่งความเป็นจริงโลกนี้ไปได้
    และ/หรือ จะทำให้พวกคุณสามารถให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่น่าสงสารทั้งหลาย
    ที่อาศัยอยู่ที่นี่ได้

    อันที่จริงแล้ว มันก็มีชาวโลกผู้ที่เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณจำนวนมากมาย
    ที่มักจะมาใน “กายฝัน” ของพวกเขา เพื่อมา “ช่วยชีวิต” ผู้ที่อยู่ที่นี่อยู่
    ผู้ที่พร้อมแล้วที่จะมองขึ้นไปด้านบน และร้องเรียกขอความช่วยเหลือ

    ..................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • hell.png
      hell.png
      ขนาดไฟล์:
      263.4 KB
      เปิดดู:
      1,629
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2022
  7. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารจาก Mytre เรื่อง: ท่องไปในมิติที่ 4

    วันที่ 16/6/13

    ที่มา:
    Awakening with Suzanne Lie: Pleiadian/Earth Alliance - Journey Through Fourth Dimension


    ตอนที่ 6:

    2). เอาหละ..คราวนี้พวกคุณจะได้เข้าสู่
    “ดินแดนแห่งเทพนิยาย” (The Land of Faerie) กันแล้ว


    a.jpg
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

    แสงสว่างที่อยู่ในดินแดนแห่งเทพนิยายนี้ จะสว่างเจิดจ้าอย่างมาก
    จนดูเหมือนว่าพวกคุณกำลังออกมาจากถ้ำที่มืดมิด
    แล้วเข้าไปสู่ท้องทุ่งที่สว่างไสวเจิดจ้าอย่างนั้นแหละ

    และสภาพของดินแดนในเทพนิยายแห่งนี้ส่วนใหญ่
    ก็จะเหมือนกับสภาพของระนาบทางกายภาพนั่นแหละ
    เพียงแต่ว่า มันก็จะมีพืชบางชนิด, สิ่งมีชีวิตบางชนิด
    และมนุษย์บางสายพันธุ์ ที่ไม่มีอยู่ในมิติที่ 3 อาศัยอยู่ที่นี่ด้วย

    ดังนั้น เรื่องราวในเทพนิยาย และในนวนิยายแฟนตาซีของพวกคุณ
    จึงคือเรื่องจริงที่บอกเล่าถึงชีวิตในดินแดนแห่งเทพนิยายแห่งนี้


    ............................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2022
  8. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารจาก Mytre เรื่อง: ท่องไปในมิติที่ 4

    วันที่ 16/6/13

    ที่มา:
    Awakening with Suzanne Lie: Pleiadian/Earth Alliance - Journey Through Fourth Dimension


    ตอนที่ 7:

    3). คราวนี้..พวกเราจะไปกันต่อที่ “ระนาบแห่งอารมณ์” (Emotional Plane)

    a.jpg
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

    ด้วย “กายแห่งอารมณ์” ของพวกคุณ พวกคุณก็จะสามารถรับรู้ถึงโลกทิพย์ชั้นล่าง
    และ โลกทางกายภาพของตัวเองได้

    และด้วยมุมมองของกายทิพย์ของพวกคุณ พวกคุณก็จะสามารถมองเห็นโลกในมิติที่ 3
    จากมุมมองที่สูงกว่าได้ แต่ก็จะเป็นแค่ในมุมมองด้านอารมณ์เท่านั้นเองนะ

    แต่อย่างไรก็ตาม พวกคุณก็จะสามารถมองเห็น
    “กายแห่งพลังชีวิต” (etheric body)
    หรือก็คือ สนามพลังออร่า ของทุกสรรพชีวิต
    และของวัตถุทุกๆชิ้น ได้ด้วย

    และรวมถึงพวกคุณจะสามารถมองเห็น "พลังปราณ"
    ที่กำลังไหลเวียนอยู่ข้างบน-อยู่ข้างล่าง-อยู่รอบๆ-
    และอยู่ภายใน ทุกสรรพชีวิต และวัตถุทุกๆชิ้นได้ด้วย

    อันที่จริงแล้ว จากมิติที่ 4 นี้ มันจะกลายเป็นว่า
    วัตถุทุกๆชิ้น ล้วนมีพลังชีวิตด้วยกันทั้งสิ้น


    เมื่อพวกคุณเคลื่อนขึ้นมาสู่ระนาบย่อยๆที่อยู่สูงขึ้นไปอีก
    ของ “ระนาบแห่งอารมณ์” นี้แล้ว
    โลกก็จะยิ่งสว่างไสวมากขึ้นตามไปด้วย
    และสีสันต่างๆ ก็จะสดใสมากขึ้นอย่างมากด้วย
    รวมถึงวัตถุสิ่งของต่างๆ ก็จะมีความชัดเจนมากขึ้น อย่างมากด้วย

    เมื่อใดที่พวกคุณไปถึงที่นั่นแล้ว
    การมองเห็นดาวเคราะห์โลกที่อยู่ในมิติที่ 3 นี้ของพวกคุณ
    ก็จะหายไปอย่างรวดเร็ว
    และพวกคุณก็จะเพลิดเพลินหลงไหล
    อยู่กับกระบวนการรับรู้อันน่าประทับใจและมีเสน่ห์
    ที่ชีวิตจะเต็มเปี่ยมไปด้วยสีสันสดใสและความมีชีวิตชีวา
    และเต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์แห่งความสุขและความรัก


    ระนาบแห่งอารมณ์นี้ จะทำหน้าที่เป็นกระจกสะท้อน
    ของอารมณ์ต่างๆ ของร่างกายมนุษย์ ของพวกคุณเองด้วย
    เพราะว่าอารมณ์ความรู้สึกทั้งหมดของมิติที่ 3
    จะถูกขยายให้มีความเข้มข้นมากขึ้น อย่างมาก ในอาณาจักรแห่งนี้

    ซึ่งอารมณ์ที่ถูกขยายให้เข้มข้นมากขึ้นแล้วเหล่านี้
    ก็จะไปส่งผลกระทบย้อนกลับมายังโลกทางกายภาพอีกทีหนึ่ง
    ในแบบที่วนกลับไปกลับมาอยู่ตลอดเวลา
    เหมือนกับคลื่นที่สะท้อนกลับไปกลับมาอยู่ระหว่างกำแพงทั้ง 2 อะไรแบบนั้น

    แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าพวกคุณใช้ “ความรักที่มีต่อตัวเอง” ที่อยู่ในมิติที่ 4 นี้
    เพื่อทำให้อารมณ์ทิพย์เหล่านี้สงบลงได้หละก็ อารมณ์ที่อยู่ในมิติที่ 3 ของพวกคุณ
    ก็จะแจ่มใสและอยู่ในสมดุลตามไปด้วย

    .................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • heaven-21.jpg
      heaven-21.jpg
      ขนาดไฟล์:
      175.3 KB
      เปิดดู:
      1,472
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2022
  9. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารจาก Mytre เรื่อง: ท่องไปในมิติที่ 4

    วันที่ 16/6/13

    ที่มา:
    Awakening with Suzanne Lie: Pleiadian/Earth Alliance - Journey Through Fourth Dimension


    ตอนที่ 8:

    4). ดินแดนแห่งความเฟื่องฟู (Summer Land):

    a.jpg
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

    เป็นระนาบย่อยระนาบหนึ่งที่อยู่ภายใน
    “ระนาบแห่งอารมณ์” (Emotional Plane)
    เป็นที่ๆผู้คน ที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองได้ตายไปแล้ว
    ใช้เป็นที่อยู่อาศัยชั่วคราว


    เป็นเพราะว่าผู้คนเหล่านี้ไม่ได้ติดต่อสื่อสารกับ “ตัวตนที่สูงส่งกว่า” (Higher Self) ของพวกเขาเอง
    และก็ไม่ได้ติดต่อสื่อสารกับ “ผู้นำทางทางจิตวิญญาณ” (Spiritual Guidance) ของพวกเขาเองด้วย
    หรือไม่ก็..อาจเป็นเพราะว่าพวกเขา “ยังไม่พร้อม” ที่จะยอมรับว่า
    ชีวิตที่อยู่ในโลกทางกายภาพของพวกเขา ได้จบสิ้นลงแล้ว

    ในดินแดน Summer Land แห่งนี้ พวกเขาจะสามารถทำกิจต่างๆ
    ที่พวกเขายังทำคั่งค้างเอาไว้อยู่ ในโลกทางกายภาพ ให้เสร็จสิ้นลงไ
    ด้

    แต่ว่าถ้ากิจหรือเป้าหมายนั้นๆคือการทำร้ายผู้อื่น
    หรือ เป็นกิจที่ทำให้เกิดความกลัวขึ้นมาหละก็
    พวกเขาก็จะไม่สามารถอยู่ในดินแดนแห่งนี้ได้อีกต่อไปแล้ว
    เพราะว่าระดับความสั่นสะเทือนของจิตสำนึก/ความตระหนักรู้
    ของพวกเขา จะตกต่ำลง และจะฉุดดึงให้พวกเขา
    ดิ่งลงไปสู่ “ระนาบแห่งโลกทิพย์ชั้นล่าง” (Lower Astral Plane) ในทันที

    ระดับความสั่นสะเทือนของดินแดน Summerland แห่งนี้
    จะเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก มันเป็นสถานที่อยู่อาศัยหลังความตาย
    ของผู้คนที่มีความรักและความเมตตา
    แต่ยังไม่สามารถหลุดพ้นจากมายาการได้
    และยังทำกิจทางโลกของตัวเองไม่สำเร็จ

    ซึ่ง ณ.ดินแดนแห่งนี้ พวกเขาก็จะสามารถสร้างสรรค์
    “ชีวิตในฝัน” ของตัวเองขึ้นมาได้
    ซึ่งก็จะทำให้พวกเขารู้สึกว่า ตัวเองได้บรรลุเป้าหมายแล้ว
    และได้ทำกิจที่ควรทำ เสร็จสิ้นสมบูรณ์ลงแล้วนั่นเอง


    ดินแดน Summerland แห่งนี้ จะทำหน้าที่เหมือนเป็น “บ้านพักริมทาง”
    ให้กับผู้คนที่เดินทางผ่านมา เพื่อที่พวกเขาจะได้ใช้เป็นสถานที่
    ในการเตรียมความพร้อมให้กับตัวเอง เพื่อกลับมาเกิดใหม่อีกครั้งในโลกทางกายภาพ
    หรือเพื่อเดินทางต่อไปสู่ระนาบที่อยู่สูงๆกว่าขึ้นไปอีกของมิติที่ 4 นี้

    ..............................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2022
  10. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารจาก Mytre เรื่อง: ท่องไปในมิติที่ 4

    วันที่ 16/6/13

    ที่มา:
    Awakening with Suzanne Lie: Pleiadian/Earth Alliance - Journey Through Fourth Dimension


    ตอนที่ 9:

    a.jpg
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

    5). ระนาบแห่งความคิด/จิตใจ (Mental Plane):
    จะมีความหนาแน่นทึบตันน้อยกว่าระนาบทิพย์ (Astral Plane)
    และ ระนาบแห่งอารมณ์ (Emotional Plane) อย่างมาก

    อันที่จริงแล้ว ในระนาบย่อยๆทั้งหลาย
    ที่อยู่ภายใน Mental Plane แห่งนี้
    อารมณ์ทั้งหลาย จะเงียบสงบลง
    เพราะว่ามันจะเป็นอารมณ์ที่ อยู่ในภาวะสมดุลแล้ว


    ตัวอย่างเช่น ความกลัว กับ ความรัก, ความสุข กับ ความโศกเศร้าเสียใจ
    ก็จะไม่มีความเป็นขั้วและอยู่แยกขาดจากกันอีกต่อไปแล้ว
    เพราะว่าพวกมันจะถูกรับรู้ในรูปแบบของ
    “สเปกตรัมที่รวมเอาสิ่งที่อยู่สุดขั้วทั้งหมดเข้าด้วยกัน” แทน
    (spectrum encompassing all extremes)

    และเพราะว่าการปราศจากความเป็นขั้วของอารมณ์นี้เอง
    มันจึงไม่มี “ประจุอารมณ์” ที่จะมารบกวนความรู้สึกของพวกคุณ
    และที่จะมาฉุดรั้งระดับจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของพวกคุณ
    ให้ตกต่ำลงไปได้อยู่ด้วย

    เพราะฉะนั้นแล้ว พวกคุณจึงสามารถ “คิด” เกี่ยวกับอารมณ์ของตัวเองได้
    โดยปราศจากการตัดสินชี้ถูกผิด และการวิพากวิจารณ์ใดๆทั้งสิ้น
    (ซึ่งจะแตกต่างจากในมิติที่ 3 ที่มักจะมีการตัดสินชี้ถูกผิด
    และการวิพากวิจารณ์เกิดขึ้นเสมอๆจนเป็นปกติวิสัย)

    ดังนั้น “ความคิด” และ “อารมณ์” ของพวกคุณ
    จึงสามารถที่จะผสมรวมกันได้ และเนรมิตให้เกิดวัตถุสิ่งของ
    และประสบการณ์ต่างๆ ขึ้นได้อย่างรวดเร็วด้วย


    แต่อย่างไรก็ตาม เพราะว่าการรับรู้แบบที่สว่างเจิดจ้ามากๆและแจ่มชัดมากๆ
    ในแบบที่มีอยู่ในระนาบแห่งอารมณ์นั้น มันไม่ได้มีอยู่ที่นี่ด้วย
    ดังนั้น มันก็เลยจะเหมือนกับว่าพวกคุณกำลังมองผ่านผ้าม่านที่โปร่งๆอยู่แทน

    สสารต่างๆที่อยู่ในระนาบแห่งความคิด/จิตใจนี้
    จะมีความละเอียดปราณีตอย่างมาก
    และวัตถุสิ่งของต่างๆ ก็จะเป็นของชั่วคราวไปซะหมด
    เพราะว่าพวกมันจะถูกสร้างขึ้นมาจาก
    “ความสนใจ” ของพวกคุณ

    ดังนั้น พวกมันจึงจะ “หายไป”
    ถ้าในความคิด/จิตใจของพวกคุณ
    ไม่มีพวกมันอยู่อีกต่อไปแล้ว


    และก็จะเหมือนกับที่ระนาบแห่งอารมณ์ จะสร้างและสะท้อนอารมณ์ต่างๆของพวกคุณ
    ระนาบแห่งความคิด/จิตใจนี้ก็เช่นเดียวกัน มันจะสร้างและสะท้อนถึงความคิดของพวกคุณด้วย

    ระนาบแห่งความคิด/จิตใจนี้ จะบรรจุความคิดที่ขยายตัวได้ของพวกคุณเอาไว้
    และจะบรรจุกายแห่งความคิด/จิตใจของพวกคุณ และสนามพลังออร่า
    ของความคิด/จิตใจของพวกคุณเอาไว้ด้วย

    การท่องเที่ยวเข้าไปในระนาบแห่งความคิด/จิตใจนี้
    จะสามารถช่วยให้พวกคุณปลดปล่อยความเชื่อแกนหลักเก่าๆ
    ที่เต็มไปด้วยข้อจำกัดและการแบ่งแยกออกไปได้


    ................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • heaven-1.jpg
      heaven-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      43.6 KB
      เปิดดู:
      7,678
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2022
  11. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารจาก Mytre เรื่อง: ท่องไปในมิติที่ 4

    วันที่ 16/6/13

    ที่มา:
    Awakening with Suzanne Lie: Pleiadian/Earth Alliance - Journey Through Fourth Dimension


    ตอนที่ 10:

    6). ระนาบแห่งเหตุและผล (Causal Plane):
    จะมีระดับความสั่นสะเทือนสูงกว่า Mental Plane อยู่ 1 ระดับ
    เพราะฉะนั้น มันจึงมีความสวยงามมากกว่าอย่างไร้ขีดจำกัด

    ระนาบนี้จะเต็มไปด้วยแสงสว่าง, ความรัก, และความจริง
    ระนาบนี้ จะควบคุมความคิดเชิงนามธรรมของพวกคุณ
    และจะสามารถช่วยให้ความคิดในมิติที่ 3 ของพวกคุณ
    เกิดการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วด้วย
    ถ้าพวกคุณยินยอมให้ภูมิปัญญาอันนี้
    เข้ามาสู่จิตสำนึก/ความตระหนักรู้ทางกายภาพ
    ของพวกคุณเองได้

    จิตสำนึก/ความตระหนักรู้
    ในระนาบแห่งเหตุและผลนี้ของพวกคุณ
    จะเตือนความทรงจำให้พวกคุณไม่ลืมว่า

    “พลังงานที่ส่งออกไป ก็คือพลังงานที่จะย้อนกลับมา”


    ในโลกแห่งความเป็นจริงโลกนี้
    ทุกๆความคิด และ/หรือ อารมณ์
    ที่พวกคุณปลดปล่อยออกไป
    จะย้อนกลับมาหาพวกคุณอย่างรวดเร็ว

    ดังนั้นพวกคุณจึงสามารถมีประสบการณ์
    กับสนามพลังงานที่พวกคุณเพิ่งสร้างขึ้นมาอันนั้น
    ได้อย่างรวดเร็วตามไปด้วย

    และเพราะฉะนั้น ณ.ที่ตรงนี่เอง
    ที่พวกคุณจะได้เรียนรู้
    วิธีการที่จะควบคุมพลังงานของตัวเองให้ได้
    เพื่อให้พวกคุณ กลายเป็นนายเหนือความคิด หรือ อารมณ์
    ที่มีพื้นฐานมาจากความกลัวของตัวเอง
    ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

    ซึ่งเมื่อใดที่พวกคุณสามารถ
    กลายเป็นจ้าวเหนือพลังงานได้แล้ว
    พวกคุณก็จะสามารถก้าวหน้าต่อไป
    สู่ “ระนาบแห่งจิตวิญญาณ” (Spiritual Plane) ได้


    .............................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2022
  12. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารจาก Mytre เรื่อง: ท่องไปในมิติที่ 4

    วันที่ 16/6/13

    ที่มา:
    Awakening with Suzanne Lie: Pleiadian/Earth Alliance - Journey Through Fourth Dimension


    ตอนที่ 11: (จบ)

    7). ระนาบที่มีระดับคลื่นความถี่สูงที่สุดของมิติที่ 4
    ก็คือ “ระนาบแห่งจิตวิญญาณ” (Spiritual Plane)
    ซึ่งเป็นที่ๆ “กายมนุษย์ชั้นสูง” (Higher Human)
    ของพวกคุณอาศัยอยู่

    ซึ่งกายมนุษย์ชั้นสูงของพวกคุณที่ว่านี้
    จะประกอบไปด้วยแสงสว่างเป็นส่วนใหญ่
    และก็จะมีสสารเป็นองค์ประกอบอยู่ด้วย แต่น้อยมากๆ

    และด้วยทิพยจักษุของกายมนุษย์ชั้นสูงของพวกคุณนี้
    พวกคุณก็จะสามารถมองทะลุทะลวงผ่านม่านพรางทั้งหลาย
    ที่กั้นอยู่ระหว่างระนาบต่างๆได้ทั้งหมด
    และก็จะสามารถมองเห็นตัวตนที่อยู่ในมิติที่ต่ำๆกว่า
    ของตัวเองได้ทั้งหมดด้วย

    ซึ่งกระบวนการนี้ มันก็จะเหมือนกับการมองเข้าไปใน
    “บ้านกระจก” (house of mirrors) นั่นแหละ
    ที่จะทำให้พวกคุณสามารถมองเห็น “กาย”
    จำนวนมากมายของตัวเอง
    ที่อยู่ภายในมิติที่ 3 และ 4 ได้ทั้งหมด

    และจากระนาบแห่งจิตวิญญาณนี้เอง
    ที่ “สะพานสายรุ้ง” (Rainbow Bridge)
    จะยกระดับความสั่นสะเทือนของพวกคุณขึ้น
    ให้สามารถเข้าไปสู่มิติที่ 5 ได้
    และให้สามารถเข้าไปอยู่ใน
    “กายแห่งแสงสว่าง” (Light Body)
    ของตัวพวกคุณเองได้

    ตัวตนที่ชื่อว่า “I AM Present” ของพวกคุณ
    จะทำหน้าที่พิทักษ์ทางเข้าสะพานสายรุ้งเอาไว้อยู่
    และก็กำลังรอคอยพวกคุณอยู่ที่นั่นชั่วนิจนิรันดร์
    เพื่อที่จะนำทางพวกคุณข้ามสะพานสายรุ้งนี้ไป
    เมื่อพวกคุณพร้อม

    เมื่อใดที่พวกคุณสามารถเข้าไปอยู่ใน
    “ดาวเคราะห์โลกเวอร์ชั่นใหม่ ที่อยู่ในมิติที่ 5” ได้แล้ว
    พวกคุณก็จะได้สวมใส่กายแห่งแสงสว่างของตัวเอง

    และไม่ว่ากระบวนการเปลี่ยนรูปแบบนี้
    (หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า กระบวนการเลื่อนระดับขึ้น
    หรือ Acsension – ผู้แปล) มันจะเกิดขึ้นอย่างช้าๆ
    หรือ จะเกิดอย่างรวดเร็วก็ตาม
    มันก็ขึ้นอยู่กับมนุษย์โลกทุกๆคน
    ที่จะเป็นผู้กำหนดวิถีความเป็นไปของมัน

    แต่ไม่ว่ามันจะเป็นแบบไหนก็ตาม
    เมื่อใดที่กระบวนการเปลี่ยนรูปแบบนี้ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
    ชาวโลกจำนวนมากมายก็จะรู้สึกสับสนอยู่ดี

    ดังนั้น พวกเขาจึงจะร้องเรียกหาคำแนะนำ
    จาก Light worker ทั้งหลาย เช่น พวกคุณเอง เป็นต้น

    เพราะว่า Light worker เหล่านี้
    คือผู้ที่ได้เผชิญหน้ากับด้านมืด
    และความกลัวของตัวเองมาแล้ว
    และตอนนี้ก็ยังคงเผชิญอยู่
    และก็กำลังมุมานะพยายามที่จะมุ่งหน้าไปสู่
    ระนาบแห่งความรักและแสงสว่างทั้งหลายให้ได้อยู่


    เอาหละ..ผมจะขอทิ้งพวกคุณไว้แค่ตรงนี้ก่อน
    เพื่อปล่อยให้พวกคุณย้อนกลับไป
    สู่โลกทางกายภาพของพวกคุณเหมือนเดิม

    แต่จงจำไว้ว่า มันอาจจะดูเหมือนกับว่า
    พวกคุณได้ใช้เวลายาวนานมากๆ
    กว่าที่จะขึ้นมาถึงระนาบที่สูงๆกว่าเหล่านั้นได้
    แต่ว่าตอนกลับลงไปนั้น
    พวกคุณจะใช้เวลาแค่พริบตาเดียวเท่านั้นเอง
    โดยการแค่คิดถึงโลกทางกายภาพของตัวเองเท่านั้นเอง


    ..................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2022
  13. L-Walkers

    L-Walkers เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2013
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +176
    ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ และ ขอบคุณ
     
  14. หัวมัน

    หัวมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,191
    ค่าพลัง:
    +6,946
    ดีใจจังทีี่กระทู้นี้กลับมาอีก เหมือนได้เจอเพื่อนเก่า ตามหาอยู่ตั้งนาน
     
  15. vajeemun

    vajeemun Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +34
    ถ้าเราเปิดใจเราจะเห็นความต่อเนื่องของทุกๆสารที่ส่งมา ขอบคุณอีกครั้งที่สละเวลานำสารเหล่านี้มาให้อ่านนะค่ะ^^
     
  16. Proud&Prime

    Proud&Prime Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    38
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +74
    ระนาบย่อยของมิติ ที่ 4 คือ ภูมิ ต่าง ๆ เปล่าครับ
    อาจจะจับคู่กันดังนี้ถูกผิดยังไงขอผู้รู้ชี้แนะด้วย

    1). ระนาบแห่งจิตวิญญาณ (Spiritual Plane): อรูปพรหมภูมิ

    2). ระนาบแห่งเหตุและผล (Causal Plane): รูปพรหมภูมิ

    3). ระนาบแห่งความคิด/จิตใจ (Mental Plane): เทวภูมิ ชั้นที่ ๕ และ ๖

    4). ระนาบแห่งอารมณ์ (Emotional Plane): เทวภูมิ ชั้นที่ ๓ และ ๔

    5). อาณาจักรแห่งเทพนิยาย (Kingdom of Faerie): เทวภูมิ ชั้นที่ ๑ และ ๒

    6). ระนาบแห่งโลกทิพย์ชั้นล่าง (Lower Astral Plane): อบายภูมิ ๓ คือ นรก เปรต อสุรกาย

    7). ระนาบแห่งพลังงานชีวิต (Etheric Plane): โลกมนุษย์ภูมิ
     
  17. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อ 1 - 6 คิดว่าอาจจะเป็นไปได้นะครับ ผมก็เห็นด้วยอยู่บ้าง
    แต่ว่าข้อ 7 นี่ ไม่ใช่โลกมนุษย์หรอกนะครับ
    เพราะว่าโลกมนุษย์อยู่มิติที่ 3 ครับ

    ส่วนเนื้อหาในกระทู้นี้ทั้งหมด เป็นเรื่องของมิติที่ 4 ล้วนๆครับ

    ..........................................................
     
  18. dim789

    dim789 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +14
    ว่าแล้วไม่มีพระเจ้านี่เอง ทุกสิ่งที่อย่างเป็นไปตามเหตุปัจจัยทั้งสิ้น
    ที่ผ่านมามักเกิดคำถามในหัวขึ้นมาตลอดว่าหากพระเจ้ามีจริงแล้วใครสร้างพระเจ้า นี่มันขัดกับกฏธรรมชาติชัด ๆ
     
  19. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    มันเป็นทางเลือกที่ทุกๆจะต้องเลือกเอาเองครับ
    ว่าเราจะเชื่อ หรือ ไม่เชื่อในเรื่องอะไรบ้าง

    เพราะว่าแต่ละคนก็มีพื้นฐานความรู้ และประสบการณ์ไม่เท่ากัน

    ดังนั้น จึงไม่มีใครผิดใครถูกหรอกครับ
    ไม่ว่าใครจะเชื่ออย่างไรก็ตาม

    แล้วก็..ที่สำคัญ ที่นี่เราไม่บังคับใครให้เชื่อตามเรานะครับ
    และเราก็ไม่ตัดสินชี้ถูก-ผิด ให้กับใครหรือสิ่งใดด้วยนะครับ
    (เท่าที่เราจะทำได้ อิอิ..)


    ................................................................
     
  20. ลูกแม่ปลีก

    ลูกแม่ปลีก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2012
    โพสต์:
    61
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +465

    ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง ที่ถูกต้องน่าจะเป็นลิงค์นี้ครับ


    palungjit.org/.2/ข้อความจากต่างมิติ-ข้อมูลเกี่ยวกับมิติต่างๆ-และ-โลกคู่ขนาน-มิติคู่ขนาน-และอื่นๆ-492683.html

    :cool::cool::cool::cool::cool::cool:


    "มิติที่ 5 คือมิติของจิตวิญญาณของพวกเรา และเป็นมิติแห่งความเป็นหนึ่งเดียวกัน
    รวมถึงนับจากมิติที่ 5 เป็นต้นไป จะเป็นมิติที่ไร้กาลเวลาทั้งหมด"


    เท่าที่อ่านดู..มิติที่ 5 คล้ายๆกับเป็นอมตะ หรือไม่ก็เป็นหลุมดำ(Black hole)
    คำว่า "ไร้กาลเวลา" ทำให้คิดถึงคำว่า "อกาลิโก" หรือว่า มิตินี้มีความเกี่ยวข้องกับนิพพาน
    อาจจะดราม่าไปบ้าง หาเรื่องคุยนะครับ อย่าซีเรียส
    เจ้าของกระทู้ มีความเห็นอย่างไรครับ......
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 สิงหาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...