คนคิดมาก

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย เจคส์, 15 พฤศจิกายน 2007.

  1. เจคส์

    เจคส์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +260
    ทำไมเป็นคนที่คิดมากอย่างนี้ คือคิดไปหมดชอบคิดแต่เรื่องไม่ดี และเป็นไปไม่ได้ แต่ก็ชอบที่จะคิด และส่วนมากก็จะคิดในทางที่ไม่ดีกับพ่อแม่และสามี
    เพราะบางทีเขาทำงานเหนื่อยแล้วไม่ถามถึงเราก็จะคิดมากไปใหญ่เลย หรือบางทีพ่อกับแม่ บางทีไปใหนนาน ๆ พ่อก็จะโทรตามหรือคุยกับใครนาน ๆ ก็จะเรียกบ่อบ ๆ จนทำให้บางทีก็โมโหพูดไม่ดีไปเหมือนกัน แต่เรื่องคิดมากจะคิดตลอดเมื่ออยู่คนเดียว (คิดในทางไม่ดี) จะเป็นบาปมากใหมแล้วมีวิธีแก้อย่างไร บางครั้งก็ท่องพุทโธแต่ใจหนึ่งท่องแต่เหมือนมีอีกใจก็คิดไปพร้อม ๆ กันเหมือนกัน ใครที่รู้ช่วยชี้ทางสว่างให้ด้วยค่ะ
     
  2. mn123

    mn123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +353
    คงต้องพยายามสวดมนต์นั่งสมาธินะครับ จะช่วยลดอาการฟุ้งซ่านได้ หากิจกรรมอะไรอย่างอื่นทำก็ช่าวยได้นะครับ
     
  3. radius

    radius เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +194
    ความคิดถ้าเป็นเพียงสิ่งที่คิดและยังไม่ได้แสดงออกมาตามความเห็นส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะบาปนะ
    เพราะความคิดเป็นอนัตตา เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป
    ฉะนั้นอย่าไปคิดมาก หาอะไรทำที่จะเบี่ยงเบนความคิด
    อาจจะอ่านหนังสือธรรมะก็ได้ จิตใจก็จะสบายขึ้น
    หรืออีกอย่างจะให้ดีในระยะยาว อาจใช้ลมหายใจช่วย
    เมื่อเกิดผัสสะกระทบเกิดปฏิกิริยาทางใจขึ้นเมื่อไร
    ก็ให้รู้ว่าชอบหรือไม่ชอบและนับลมหายใจว่าอาการนั้นเกิดขึ้นนานเท่าไร
    กี่ลมหายใจจึงจะหายไป แรกๆ ก็จะรู้สึกอึดอัดเพราะความรู้สึกเป็นสิ่งที่เกิดภายใน
    แต่ว่าลมหายใจเป็นสิ่งที่เกิดภายนอก ฉะนั้นย่อมขัดแย้งกันก่อให้เกิดความอึดอัด
    แต่ถ้าทำไปนานๆ จนชำนาญและเริ่มชินก็จะไม่อึดอัดและจะช่วยให้เราไม่ทำอะไรผลีผลาม เกิดสติก่อนจะลงมือทำอะไร
    และถ้าทำจนชินแล้วก็ไม่จำเป็นต้องมีลมหายใจเข้ามาช่วย
    แต่ถ้าคิดฟุ้งขณะอยู่คนเดียวก็ให้กำหนดลมหายใจไปเรื่อยๆ ลมเข้าก็รู้ ลมออกก็รู้ ลมยาวหรือลมสั้นก็รู้ เป็นการเห็นตามจริง
    แต่ถ้าหากท่องพุทโธมันก็คือการเอาคำบริกรรมมากดจิตเราไว้เท่านั้นเอง
    ซึ่งเราก็เคยทำแล้วเช่นกันแต่ว่ามันก็ไม่ได้ผล
    แต่พอมาดูลมหายใจแล้วช่วยได้กว่ามาก
    ลองทำดูแล้วกันนะ เอาใจช่วยจ๊ะ
     
  4. เจคส์

    เจคส์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +260
    ขอบคุณมาก ๆ ทั้งสองกระทู้ค่ะ ที่ให้ข้อชี้แนะจะลองเอาไปปฏิบัตดูค่ะ
     
  5. nutnun_k

    nutnun_k เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    182
    ค่าพลัง:
    +1,021
    คุณเจคส์ช่วงนี้เครียดไปหรือป่าวคะ บางทีร่างกายที่เครียดก็มีผลต่อจิตใจ บางทีอาจจะเรียนหนัก ทำงานหนัก หรืออยู่ในเมืองหลวง พอร่างกายมันเครียดมันเพลีย สภาพจิตใจมันก็ตามร่างกาย มันเป็นธรรมดาของจิตที่ไม่ได้โดนฝีก จิตมันอ่อนแอ เลยโดนกิเลสชักจูงได้ง่าย วิธีพอจะช่วยได้ถ้าว่างๆวันหยุด สุดสัปดาห์ลองไปเดินแถวสวนสาธารณะ ที่มีธรรมชาติ นกร้อง ลมพัดอ่อนๆ แสงแดดอ่อนๆ หรือไปนั่งที่ชายทะเล ที่มีธรรมชาติผ่อนคลาย หรือไปนวดก็ได้ ให้ร่างกายจิตใจเขาได้ผักผ่อน อย่าเพิ่งไปปฏิบัติธรรมเช่น กำหนดพุทธ โธ อะไรทำนองนั้น เพราะจะยิ่งเครียดเพราะจิตเรายังไม่พร้อมต่อการฝึก เราต้องเพิ่มพลังบวกให้จิตโดนใช้ธรรมชาติบำบัดก่อน ร่างกายเราก็เป็นของธรรมชาติ จิตก็เป็นของธรรมชาติ เขาเคลื่อนไหวขั้วกันได้ เหมือนไฟฟ้า แต่ที่สำคัญต้องเข้าหาธรรมชาตินะคะ พอร่างกายจิตใจเราพร้อมแล้ว เอาละลองเข้าไปฝึกจิตใจโดนใช้ธรรมมะของพระองค์ดู ไม่ว่าจะวิธีไหนก็เลือกตามชอบนะคะ หรือถ้าไม่มีจริงๆเวลาลองเอารูปพระพุทธติดตัวไว้ พอเริ่มคิดมากก็ควักรูปพระองค์ขึ้นมา จ้องมองท่านแล้วระลึกถึงความดีของท่านลองจินตนาการตอนที่ท่านมีชีวิตอยู่ว่าท่านมีชีวิตอย่างไร ท่านเริ่มต้นยังไง เดินทางยังไง สั่งสอนมนุษย์ยังไง รับรองว่าความคิดในแง่ลบจะจางหายไป เพราะพระองค์เป็นสัญลักษณ์แห่งความสงบ แห่งความดีดูแล้วยังไงก็ชื่นใจขึ้นมา ยังไงก็ลองปฏิบัติตามดูนะคะ โชคดีค่ะ
     
  6. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676
    ม่ายรู้วิธีแก้เพราะผมก็คนคิดมากเหมือนกัน
     
  7. tenis

    tenis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    343
    ค่าพลัง:
    +1,228
    ลองทำกิจกรรมอาสาสมัคร ช่วยเหลือคนอื่นดูสิคะ
    จะได้ไม่ว่างมากเกินไป เช่น ที่ รพ. รามา จะให้มีอาสาสมัคร ที่เรียกว่า blue angle คอยให้คำแนะนำกับคนที่มาคะ
    หรือว่า สอนหนังสือเด็กตาบอดก็ได้คะ หรือว่า ทำความสะอาดลานวัด ทำบุญ เช่น นำน้ำปานะไปให้พระเณร หรือว่า ลองไป โรงพยาบาลสงฆ์ ตอนเช้า ๆ นะคะที่ผู้ป่วยนอก จะมีพระเณรมากันตั้งแต่ตีห้า เราก็ไปช่วยเสิรฟ น้ำ สิคะ

    เห็ฯไหมกิจกรรมตั้งแยะ สร้างสรรค์เรียกตามถนัดเลยคะ
     
  8. ngern42

    ngern42 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +588
    คิดแต่เรื่องไม่ดีก็จะเป็น มโนกรรม ยิ่งถ้าเราคิดกับผู้มีพระคุณแล้วยิ่งบาป ส่วนที่คุณไปไหนนานๆแล้วพ่อโทรตามเนี่ยเพราะด้วยความเป็นห่วงลูกยิ่งถ้าเป็นผู้หญิงแล้วคุณพ่อจะเป็นห่วงขึ้นเป็นหลายเท่าตัวนั่นเพราะความหวังดีไว้คุณมีลูกเองคุณจะรู้ว่าความเป็นห่วงของพ่อแม่นั้นมากมายแค่ไหน ให้คุณแก้ด้วยการนั่งสมาธิภาวนา สัมมาอะระหัง สวดมนต์ไหว้พระ แผ่เมตตาบ่อยๆ เจริญพรหมวิหาร ๔ คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ให้เป็นนิจครับ อยากให้คุณไปดูสรรเสริญพระคุณพ่อแม่ครับที่
    http://www.oknation.net/blog/ngern42/2007/09/19/entry-3
    แล้วคุณจะรู้ว่าพ่อแม่เป็นห่วงและรักเราแค่ไหนครับ กว่าที่จะเลี้ยงเราให้โตมาจนป่านนี้ได้ต้องประคบประหงมเราขนาดไหนครับ และนำบทกลอนเตือนสติมาฝากด้วยครับ


    พ่อแม่ก็แก่เฒ่า จำจากเจ้าไม่อยู่นาน

    จะพบจะพ้องพาน เพียงเสี้ยววานของคืนวัน

    ใจจริงไม่อยากจาก เพราะยังอยากเห็นลูกหลาน

    แต่ชีพไม่ทนทาน ย่อมร้าวรานสลายไป

    ขอเถิดถ้าสงสาร อย่ากล่าวขานให้ช้ำใจ

    คนแก่ชะแรวัย คิดเผลอไผลเป็นแน่นอน

    ไม่รักก็ไม่ว่า เพียงเมตตาช่วยอาทร

    ให้กินและให้นอน คลายทุกข์ผ่อนพอสุขใจ

    เมื่อยามเจ้าโกรธขึ้ง ให้นึกถึงเมื่อเยาว์วัย

    ร้องไห้ยามป่วยไข้ ได้ใครเล่าเฝ้าปลอบโยน

    เฝ้าเลี้ยงจนโตใหญ่ แม้เหนื่อยกายก็ยอมทน

    หวังเพียงจะได้ยล เติบโตจนสง่างาม

    ขอโทษถ้าทำผิด ขอให้คิดทุกๆยาม

    ใจแท้มีแต่ความ จ้องติดตามช่วยอวยชัย

    ต้นไม้ที่ใกล้ฝั่ง มีหรือหวังอยู่นานได้

    วันหนึ่งคงล้มไป ทิ้งฝั่งไว้ให้วังเวง

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2007
  9. เนยยะ

    เนยยะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +35
    คุณเจ้าของกระทู้ เป็นเหมือนเนยยะเลยครับ
    อ่านแล้วนึกว่า ตัวเองมาโพสซะเอง แต่ต่างกันที่เนยยะไม่มีสามีครับ

    แต่ที่ผมผ่านมาได้ เพราะอาศัยอ่านหนังสือธรรมะมากๆ
    แล้วลองปฏิบัติตามที่เค้าแนะนำ
    เคยอ่านเจอว่า "คนที่ทุกข์ เพราะใจเราเอง"
    ใจเราไปปรุงแต่งมันเองครับ หยุดปรุงแต่ได้ก็ทุกข์น้อยครับ

    อีกอย่างอยู่กับปัจจุบันให้มากๆ ครับ
    เพราะอดีตมันผ่านไปแล้วจริงๆ อนาคตก็ยังมาไม่ถึง
    ยังไม่ต้องไปคิดถึงมันครับ คิดก็ทุกข์เปล่าๆ
    เราคิดไม่ดีกับคนใกล้ตัว ก่อนนอนก็สวดมนต์ ขอขมาพระรัตนไตร
    พ่อแม่ ผู้มีพระคุณทุกท่าน (แบบหลวงพ่อฤๅษี) ทุกคืนก่อนนอนครับ
    ก็พอจะช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น

    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมว่าคุณเจ้าของกระทู้ นี่ดีมากๆนะครับ "ที่รู้เท่าทันจิตตัวเอง" ครับ เพราะบางคนที่ฟุ้งซ่านจริงๆ เค้าไม่รู้ตัวว่าเค้าฟุ้งซ่านครับ
    แต่คนที่รู้ว่าจิตตัวเองกำลังคิดอะไร ผมว่า เค้ามีสมาธิครับ

    อีกอย่าง แนะนำเรื่องการออกกำลังกาย ให้ได้เหงื่อครับ
    จะช่วยเรื่องสมาธิและการมองโลกในแง่ดี ได้ดีทีเดียวครับ
    แถมช่วยเรื่องความมั่นใจในตัวเองครับ

    ทั้งหมดที่ผมแนะนำมา ผมลองแล้วครับ
    มันใข้ได้ผลกับผม
    คุณเจ้าของกระทู้ยังไม่ต้องเชื่อก้อได้ครับ แต่ให้ลองทำดู แล้วสังเกตุตัวเองดูครับ

    เป็นกำลังใจให้ครับ ในการรู้เท่าทันกิเลสตัวเองครับ ;)
     
  10. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    คนเราไม่ว่าจะรู้สึกทุกข์หรือสุข จุดกำเนิดเริ่มต้นมาจาก ความคิด

    คนที่คิดมากและกลุ้มใจเป็นเพราะกรรมเก่าเดินทางมาทำให้เรารู้สึกทุกข์ใจ

    วิธีทางแก้จะต้องเริ่มต้นดูที่สาเหตุ คือ ตัวเราเอง

    การที่เราใช้ชีวิตอยู่ในสังคม ย่อมมีเรื่องเข้ามากระทบกระทั่งได้เสมอ

    ดังนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้เราไม่หวั่นไหว ก็ คือตัวเอง
     
  11. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    ความคิดเป็นสิ่งที่ดีนะครับ แต่ต้องมีสติกำกับไว้ คิดดีก็รู้ คิดชั่วก็รู้
    แต่เมื่อรู้ว่าคิดชั่วเมื่อใด ให้มีสัมปชัญยะรู้ตัว ดึงจิตกลับมาอยู่กับบริกรรมนิมิต บริกรรมภาวนา ตามวิธีการภาวนาที่เรายึดเป็นแนวทางอยู่ เช่น
    - นึกถึงกสิณนิมิต + บริกรรมภาวนา "สัมมาอะระหัง" หรือ "พุทโธ"
    - กำหนดรู้ลมหายใจที่ปลายจมูกหรือที่ลิ้นปี่ + บริกรรมภาวนา "สัมมาอะระหัง" หรือ "พุทโธ" หรือ "ยุบหนอ พองหนอ"
    เป็นต้น
    พยายามทำบ่อยๆ รู้ตัวเมื่อใดทำทันที แต่ยอมรับครับว่ายากจริงๆ เป็นงานที่ยากมาก ธรรมชาติของจิตที่ไม่เคยฝึกฝนอบรมย่อมคิคมากว่าหยุดคิดในวันหนึ่งๆ

    สู้ต่อไปครับ (verygood)
     
  12. มณีอินทร์

    มณีอินทร์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +20
    เราก้อเป็นอีกหนึ่งที่มักจะคิดมาก และความคิดของเราก็มักจะทำร้ายตัวเราเองเสมอเลย...ร้องไห้คนเดียวบ่อยๆ และมักจะโทษโชคชะตาเสมอๆ ความคิดมันจะวนไปวนมา บางทีร้องไห้แบบไม่มีเหตุผล ทำให้เป็นต้นเหตุในการขุดค้นปัญหาต่างๆทั้งที่เกิดขึ้นแล้ว และกำลังจะเกิดขึ้นบ่นกันยุ่งไปหมด...ไม่อย่างเป็นอย่างนี้เลย ทรมานค่ะ ช่วยแนะนำทางออกให้ที อย่างหลุดพ้นเหลือเกิน
     
  13. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    หนทางแก้ไข

    1. มีสติก่อน คิด ก่อน ทำ
    2. อบรมจิต พิจารณาถึง ความถูก ความผิด เป็นไปได้ เป็นไปไม่ได้
    3. หาหนังสือ ของหลวงพ่อจรัล วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี มาอ่าน ซะ
    เขียนโดย คุณ สุทัสสา อ่อนค้อม สนุกประเทืองปัญญา ไม่น่าเบื่อแล้วได้
    ข้อคิดเอามาปฏิบัติได้จริง

    ทุกข์ทั้งหลายในโลกนี้ จะพ้นทุกข์ได้ก็ด้วยการการใช้ปัญญามาอบรมจิต
    หากเพียงแต่คิดให้หายทุกข์ ก็ไม่มีทางพ้นทุกข์ เพราะจิตยังหาทางออกไม่เจอ

    ทำจริง เห็นจริง ปฏิบัติได้จริง.....ก็พ้นทุกข์ได้จริง ไม่ต้องไปอ้อนวอนใครมาช่วย
     

แชร์หน้านี้

Loading...