พระนิพพานจากคำครูอาจารย์

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย softkid9, 3 สิงหาคม 2013.

  1. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    แดนพระนิพพานเป็นสิ่งที่สูงสุดสำหรับผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ เช่นพวกเราทุกคนในเว็บพลังจิต ปฏิบัติกันก็เพื่อให้บารมีเต็มเหมือนที่หลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำของพวกเรา)ได้กล่าวไว้เสมอ แต่นักบวชบางคนกล่าวว่านิพพานเป็นที่ที่ดับ เปรียบเหมือนควันไฟที่ลอยขึ้นไปในอากาศแล้วก็หายไปเลย ไม่มีสำนึกที่จะรับรู้ใดๆ แต่หลวงพ่อของพวกเรายืนยันอยู่เสมอว่านิพพานนั้นเป็นแดนที่มีอยู่จริง

    ผมมีข้อความบางตอนของหลวงปู่มั่น พระสงฆ์ที่พวกเราต่างก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าท่านเป็นพระอริยสงฆ์ ท่านได้กล่าวถึงพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ที่เสด็จมาอนุโมทนา หลังจากวันที่ท่านได้สำเร็จธรรมะแล้ว โดยหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน (ที่มา : หนังสือประวัติท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ โดยหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน หน้าที่ 104-108) ท่านได้เล่าว่า

    [​IMG]


    "หลังจากท่านเดินทางถึงแดนแห่งวิมุตติแล้ว คืนต่อๆ มามีพระพุทธเจ้าพร้อมพระสาวกจำนวนมากเสด็จมาอนุโมทนาวิมุตติธรรมกับท่านเสมอ มิได้ขาด คืนนั้นพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นกับพระสาวกบริวารเป็นจำนวนหมื่นเสด็จมาเยี่ยม คืนนั้นพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นมีสาวกเท่านั้นเสด็จมาเยี่ยมอนุโมทนา จำนวนพระสาวกที่ตามเสด็จพระพุทธเจ้ามาแต่ละพระองค์นั้นมีจำนวนไม่เท่ากัน ทั้งนี้ท่านว่าขึ้นอยู่กับวาสนาของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ไม่เหมือนกัน ที่พระสาวกตามเสด็จมาด้วยแต่ละพระองค์นั้น มิได้ตามเสด็จมาทั้งหมดในบรรดาพระสาวกของแต่ละพระองค์ที่มีอยู่ แต่ที่ตามเสด็จมามากน้อยนั้นต่างกันนั้น พอแสดงให้เห็นภูมิพระวาสนาบารมีของแต่ละพระองค์นั้นต่างกันเท่านั้น บรรดาพระสาวกจำนวนมากของแต่ละพระองค์ที่ตามเสด็จมานั้น มีสามเณรติดตามมาด้วยครั้งละไม่น้อยเลย? ท่านสงสัยจึงพิจารณาก็ทราบว่า คำว่าพระอรหันต์ในนามธรรมนั้นมิได้หมายเฉพาะพระ แต่สามเณรที่มีจิตบริสุทธิ์หมดจดก็นับเข้าในจำนวนสาวกอรหันต์ด้วย ฉะนั้น ที่สามเณรติดตามมาด้วยจึงไม่ขัดกัน ในพระโอวาทของพระพุทธเจ้าทั้งหลายที่ประทานอนุโมทนาแก่ท่านพระอาจารย์มั่น นั้น ส่วนใหญ่มีว่า

    "เราตถาคตทราบว่าเธอพ้นโทษจากอนันตรทุกข์ในที่คุมขังแห่งเรือนจำของวัฏฏทุกข์ จึงได้มาเยี่ยมอนุโมทนา ที่คุมขังแหล่งนี้ใหญ่โตมโหฬารและแน่นหนามั่นคงมาก และมีเครื่องยั่วยวนชวนให้เผลอตัวและติดอยู่รอบตัวไม่มีช่องว่าง จึงยากที่จะมีผู้แหวกว่ายออกมาได้ เพราะสัตว์โลกจำนวนมากไม่ค่อยมีผู้สนใจกับทุกข์ที่เป็นอยู่กับตัวตลอดมา ว่าเป็นสิ่งที่ทรมานและเสียดแทงร่างกายจิตใจเพียงใด พอจะคิดเสาะแสวงหาด้วยวิธีต่าง ๆ เหมือนคนเป็นโรคแต่มิได้สนใจกับยา ยาแม้มีมากจึงไม่มีประโยชน์สำหรับคนประเภทนั้น ธรรมของเราตถาคตก็เช่นเดียวกับยา สัตว์โลกอาภัพเพราะโรคกิเลสตัณหาภายในใจเบียดเบียนเสียดแทง ทำให้เป็นทุกข์แบบไม่มีจุดหมายว่าจะหายได้เมื่อไร สิ่งตายตัวก็คือ โรคพรรค์นี้ถ้าไม่รับยาคือ ธรรมจะไม่มีวันหายได้ ต้องฉุดลากสัตว์โลกให้ตายเกิดคละเคล้าไปกับความทุกข์กายทุกข์ใจ และเกี่ยวโยงกันเหมือนลูกโซ่ ตลอดอนันตกาล ธรรมแม้จะมีเต็มไปทั้งโลกธาตุก็ไม่สามารถอำนวยประโยชน์ให้แก่ผู้ไม่สนใจ นำไปปฏิบัติรักษาตัวเท่าที่ควรจะได้รับจากธรรม ธรรมก็อยู่แบบธรรม สัตว์โลกก็หมุนตัวเป็นกงจักรไปกับทุกข์ในภพน้อยภพใหญ่แบบสัตว์โลก โดยไม่มีจุดหมายปลายทางว่าจะสิ้นสุดทุกข์กันลงได้เมื่อใด ไม่มีทางช่วยได้ ถ้าไม่สนใจช่วยตัวเองโดยยึดธรรมมาเป็นหลักใจและพยายามปฏิบัติตาม


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2016
  2. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    [FONT=&quot]พระพุทธเจ้าจะมาตรัสรู้เพิ่มจำนวนองค์และสั่งสอนมากมายเพียงไร[/FONT] [FONT=&quot]ผลที่ได้รับก็เท่าที่โรคประเภทคอยรับยามีอยู่เท่านั้น[/FONT] [FONT=&quot]ธรรมของพระพุทธเจ้าไม่ว่าพระองค์ใด มีแบบตายตัวอยู่อย่างเดียวกัน[/FONT] [FONT=&quot]คือสอนให้ละชั่วทำดีทั้งนั้น ไม่มีธรรมพิเศษและแบบสอนพิเศษไปกว่านี้[/FONT] [FONT=&quot]เพราะไม่มีกิเลสตัณหาพิเศษในใจสัตว์โลกที่พิเศษเหนือธรรมซึ่งประกาศสอนไว้[/FONT] [FONT=&quot]เท่าที่พระพุทธเจ้าทั้งหลายประทานไว้แล้วเป็นธรรมที่ควรแก่การรื้อถอนกิเลส[/FONT] [FONT=&quot]ทุกประเภทของมวลสัตว์อยู่แล้ว[/FONT] [FONT=&quot]นอกจากผู้รับฟังและปฏิบัติตามจะยอมแพ้ต่อเรื่องกิเลสตัณหาของตัวเสียเอง[/FONT] [FONT=&quot]แล้วเห็นธรรมเป็นของไร้สาระไปเสียเท่านั้น[/FONT] [FONT=&quot]ตามธรรมดาแล้วกิเลสทุกประการต้องฝืนธรรมดาดั้งเดิม[/FONT] [FONT=&quot]คนที่คล้อยตามมันจึงเป็นผู้ลืมธรรมไม่อยากเชื่อฟังและทำตาม[/FONT] [FONT=&quot]โดยเห็นว่าลำบากและเสียเวลาทำในสิ่งที่ตนชอบ[/FONT] [FONT=&quot]ทั้งที่สิ่งนั้นให้โทษ[/FONT] [FONT=&quot]ประเพณีของนักปราชญ์ผู้ฉลาดมองเห็นการณ์ไกลย่อมไม่หดตัวมั่วสุมอยู่เปล่าๆ[/FONT] [FONT=&quot]เหมือนถูกน้ำร้อนไม่มีทางออก[/FONT] [FONT=&quot]ต้องยอมตายในหม้อที่กำลังเดือดพล่าน[/FONT] [FONT=&quot]โลดเดือดพล่านอยู่ด้วยกิเลสตัณหาความแผดเผา[/FONT] [FONT=&quot]ไม่มีกาลสถานที่ที่พอจะปลงวางลงได้[/FONT] [FONT=&quot]จำต้องยอมทนทุกข์ทรมานไปตาม ๆ[/FONT] [FONT=&quot]กันโดยไม่นิยมสัตว์น้ำ[/FONT] [FONT=&quot]สัตว์บก[/FONT] [FONT=&quot]สัตว์อยู่บนอากาศและใต้ดิน[/FONT] [FONT=&quot]เพราะสิ่งแผดเผาเร่าร้อยอยู่กับใจ[/FONT] [FONT=&quot]ความทุกข์จึงอยู่ที่นั่นที่นี่ เธอเห็นพระตถาคตอย่างแท้จริงแล้วมิใช่หรือ[/FONT] [FONT=&quot]พระตถาคตแท้คืออะไร[/FONT] [FONT=&quot]คือความบริสุทธิ์แห่งใจที่เธอเห็นแล้วนั้นแล[/FONT] [FONT=&quot]ที่พระตถาคตมาในร่างนี้มาในร่างแห่งสมมุติต่างหากเพราะพระตถาคตและพระอรหันต์[/FONT] [FONT=&quot]อันแท้จริงมิใช่ร่างแบบที่มากันนี้[/FONT] [FONT=&quot]นี่เพียงเป็นเรือนร่างของตถาคตโดยทางสมมุติต่างหาก[/FONT] [FONT=&quot]ท่านพระอาจารย์กราบทูลว่า[/FONT] [FONT=&quot]ข้าพระองค์ทราบพระตถาคตและพระสาวกอรหันต์อันแท้จริงไม่สงสัย[/FONT] [FONT=&quot]ที่สงสัยก็คือ[/FONT] [FONT=&quot]พระองค์ทั้งหลายกับพระสาวกท่านที่เสด็จไปด้วยอนุปาทิเสสนิพพานไม่มีส่วน[/FONT][FONT=&quot]สมมุติยังเหลืออยู่เลย[/FONT] [FONT=&quot]แล้วเสด็จมาในร่างนี้ได้อย่างไร[/FONT]

    [​IMG]

    [FONT=&quot]พระพุทธเจ้าตรัสว่า[/FONT] [FONT=&quot]ถ้าอีกฝ่ายหนึ่งแม้มีความบริสุทธิ์ทางใจด้วยดีแล้ว[/FONT] [FONT=&quot]แต่ยังครองร่างอันเป็นส่วนสมมุติยังเหลืออยู่[/FONT] [FONT=&quot]ฝ่ายอนุปาทิเสสนิพพานก็ต้องแสดงสมมุติตอบรับกัน[/FONT] [FONT=&quot]คือต้องมาในร่างสมมุติซึ่งเป็นเครื่องใช้ชั่วคราวได้ ถ้าต่างฝ่ายต่างเป็นอนุ[/FONT][FONT=&quot]ปาทิเสสนิพพานด้วยกันแล้วไม่มีส่วนสมมุติยังเหลืออยู่[/FONT] [FONT=&quot]ตถาคตก็ไม่มีสมมติอันใดมาแสดงเพื่ออะไรอีก[/FONT] [FONT=&quot]ฉะนั้นการมาในร่างสมมุตินี้จึง[/FONT] [FONT=&quot]เพื่อสมมุติเท่านั้น ถ้าไม่มีสมมุติเสียอย่างเดียวก็หมดปัญหา[/FONT] [FONT=&quot]พระพุทธเจ้าทั้งหลายทรงทราบเรื่องอดีตอนาคตก็ทรงถือเอานิมิต[/FONT] [FONT=&quot]คือสมมุติอันดั้งเดิมของเรื่องนั้น ๆ เป็นเครื่องหมายให้ทราบ เช่น[/FONT] [FONT=&quot]ทรงทราบอดีตของพระพุทธเจ้าทั้งหลายว่าทรงเป็นมาอย่างไร เป็นต้น[/FONT] [FONT=&quot]ก็ต้องถือเอานิมิตของพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น และพระอาการนั้น ๆ[/FONT] [FONT=&quot]เป็นเครื่องหมายพิจารณาให้รู้ ถ้าไม่มีสมมุติของสิ่งนั้น ๆ เป็นเครื่องหมาย[/FONT] [FONT=&quot]ก็ไม่มีทางทราบได้ในทางสมมุติ เพราะวิมุตติล้วน ๆ ไม่มีทางแสดงได้[/FONT] [FONT=&quot]ฉะนั้นการพิจารณาและทราบได้ต้องอาศัยสมมุติเป็นหลักพิจารณาดังที่เราตถาคตนำ[/FONT] [FONT=&quot]สาวกมาเยี่ยมเวลานี้ ก็จำต้องมาในรูปลักษณะอันเป็นสมมุติดั้งเดิม[/FONT] [FONT=&quot]เพื่อผู้อื่นจะพอมีทางทราบได้ว่า พระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ๆ[/FONT] [FONT=&quot]และพระอรหันต์องค์นั้น ๆ มีรูปลักษณะอย่างนั้น ๆ[/FONT] [FONT=&quot]ถ้าไม่มาในรูปลักษณะนี้แล้ว[/FONT] [FONT=&quot]ผู้อื่นก็ไม่มีทางทราบได้เมื่อยังต้องเกี่ยวกับสมมุติในเวลาต้องการอยู่[/FONT] [FONT=&quot]วิมุตติก็จำต้องแยกแสดงออกโดยสมมุติเพื่อความเหมาะสมกัน ถ้าเป็นวิมุตติล้วน[/FONT] [FONT=&quot]เช่นจิตที่บริสุทธิ์รู้เห็นจิตที่บริสุทธิ์ด้วยกันก็เพียงแต่รู้อยู่เห็น[/FONT][FONT=&quot]อยู่เท่านั้น ไม่มีทางแสดงให้รู้ยิ่งกว่านั้นไปได้[/FONT] [FONT=&quot]เมื่อต้องการทราบลักษณะอาการของความบริสุทธิ์ว่าเป็นอย่างไรบ้าง[/FONT] [FONT=&quot]ก็จำต้องนำสมมุติเข้ามาช่วยเสริมให้วิมุตติเด่นขึ้นพอมีทางทราบกันได้ว่า[/FONT][FONT=&quot]วิมุตติมีลักษณะว่างเปล่าจากนิมิตทั้งปวง มีความสว่างไสวประจำตัว[/FONT] [FONT=&quot]มีความสงบสุขเหนือสิ่งใด ๆ เป็นต้น[/FONT] [FONT=&quot]พอเป็นเครื่องหมายให้ทราบได้โดยทางสมมุติทั่ว ๆ ให้[/FONT][FONT=&quot]ผู้ทราบวิมุตติอย่างประจักษ์ใจแล้ว[/FONT] [FONT=&quot]จึงไม่มีทางสงสัยทั้งเรื่องวิมุตติแสดงตัวออกต่อสมมุติในบางคราวที่ควรแก่[/FONT] [FONT=&quot]กรณี และทรงตัวอยู่ตามสภาพเดิมของวิมุตติ ไม่แสดงอาการ[/FONT] [FONT=&quot]ที่เธอถามเราตถาคตนั้น ถามด้วยความสงสัยหรือถามพอเป็นกิริยาแห่งการสนทนากัน[/FONT] [FONT=&quot]

    ท่านกราบทูลว่า[/FONT] [FONT=&quot]ข้าพระองค์มิได้มีความสงสัยทั้งสมมุติและวิมุตติของพระองค์ทั้งหลาย[/FONT] [FONT=&quot]แต่ที่กราบทูลนั้นก็เพื่อถวายความเคารพไปตามกิริยาแห่งสมมุติเท่านั้น[/FONT] [FONT=&quot]แม้พระองค์กับพระสาวกจะเสด็จมาหรือไม่ก็มิได้สงสัยว่าพระพุทธเจ้า พระธรรม[/FONT] [FONT=&quot]และพระสงฆ์ อันแท้จริงมีอยู่ ณ ที่แห่งใด[/FONT] [FONT=&quot]แต่เป็นความเชื่อประจักษ์ใจอยู่เสมอว่า ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต[/FONT] [FONT=&quot]อันแสดงว่าพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์[/FONT] [FONT=&quot]มิใช่ธรรมชาติอื่นใดจากที่บริสุทธิ์หมดจดจากสมมุติในลักษณะเดียวกันกับพระ[/FONT][FONT=&quot]รัตนตรัย

    พระพุทธเจ้าตรัสว่า การที่เราตถาคตถามเธอ[/FONT] [FONT=&quot]ก็มิได้ถามด้วยความเข้าใจว่าเธอมีความสงสัย[/FONT] [FONT=&quot]แต่ถามเพื่อเป็นสัมโมทนียธรรมต่อกันเท่านั้น[/FONT]"
    [FONT=&quot]

    บรรดาพระสาวกที่ตามเสด็จพระพุทธเจ้ามาแต่ละพระองค์และแต่ละครั้งนั้น[/FONT] [FONT=&quot]มิได้กล่าวปราศรัยอะไรกับท่านพระอาจารย์มั่นเลย[/FONT] [FONT=&quot]มีพระพุทธเจ้าประทานพระโอวาทพระองค์เดียว[/FONT]
    [FONT=&quot][FONT=&quot]เท่านั้น[/FONT] ส่วนพระสาวกทั้งหลายเป็นเพียงนั่ง[/FONT][FONT=&quot]ฟังอยู่อย่างสงบเสงี่ยม น่าเคารพเลื่อมใสมากแม้แต่สามเณรองค์เล็ก ๆ[/FONT] [FONT=&quot]ที่น่ารัก[/FONT]
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มีนาคม 2014
  3. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    พระเดชพระคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ สิริจนฺโท จันทร์
    พระอาจารย์ของพระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล
    โดยพระอาจารย์เสาร์เป็นพระอาจารย์ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโตอีกทีครับ

    "พระนิพพานเป็นพระมหานครอันใหญ่เป็นที่บรมสุขหาที่เปรียบมิได้ อย่าเข้าใจว่าจะไปนิพพานด้วยกำลังกาย"

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2014
  4. Allymcbe222

    Allymcbe222 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +1,445
    นิพพานสูญ เป็นปัญหาใหญ่ของพระพุทธศาสนาหลังกึ่งพุทธกาล
    นอกจากทำให้หลายคนไม่อยากถึงพระนิพพานแล้ว
    ยังปรามาสครูบาอาจารย์ที่ยืนยันว่าพระนิพพานเป็นดินแดน
    นอกจากไม่ถึงนิพพาน ยังกรรมหนักอีก

    ปัญหานี้ใหญ่หลวงยิ่งนักครับ
     
  5. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    อนุโมทนาและเป็นอย่างที่คุณ Allymcbe222 ว่าเช่นนั้นครับ

    [​IMG]
     
  6. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี

    "นิพพาน คือว่างจากกิเลส จิตวิญญาณของพระอรหันต์ไม่สูญ ที่วิญญาณสูญนั่นคือวิญญาณในขันธ์ ๕ เท่านั้น "

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2014
  7. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    หลวงพ่อเกษม เขมโก

    พระพุทธเจ้าอยู่ที่ไหน
    นี่เป็นอีกเรื่องหนึ่งของคุณปู่ก๊กจึง เหตุการณ์เมื่อนานมามากแล้วเช่นกัน จู่ๆ วันหนึ่ง เมื่อคุณปู่ไปนมัสการหลวงพ่อ ท่านได้ถามว่า

    "สามก๊ก...รู้ไหม ว่าพระพุทธเจ้าอยู่ที่ไหน? "
    (หลวงพ่อเรียกคุณปู่ก๊กว่า สามก๊ก มานานแล้ว)

    คุณปู่ก๊กจึง สมัยนั้นประณมมือไหว้หลวงพ่อพลางตอบว่า
    "ผมไม่ทราบครับ หลวงพ่อ"

    ทันใดนั้นหลวงพ่อได้ชี้นิ้วเฉียงไปบนฟ้า พลางกล่าวว่า

    "พระพุทธเจ้าไม่ได้อยู่ในโลกนี้ ท่านอยู่นอกโลก"

    จาก อนุสรณ์ ครบรอบ ๘๐ ปี หลวงพ่อเกษม เขมโก ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๓๔ หน้า 146



    [​IMG]

    [​IMG]

    คำสอนจากบันทึกลายมือหลวงพ่อเกษม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤษภาคม 2014
  8. ฑิตณัฐ

    ฑิตณัฐ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +46
    คำกล่าวโต้ตอบกันระหว่างพระอาจารย์มั่นกับพระพุทธองค์ ช่างไพเราะจับใจน่าฟังจริง ๆ ครับ อ่านแล้วเกิดปีติขึ้นมาในใจทันทีเลย อนุโมทนาสาธุกับเจ้าของกระทู้ด้วยครับ
     
  9. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม

    "พระนิพพานมีอยู่ไม่เสื่อมสูญ พระพุทธเจ้าเข้าพระนิพพานก็มีอยู่ในพระนิพพานนั้นแล ถ้าเราเป็นพระอรหันต์ พระโสดาบันเมื่อไร เมื่อนั้นแหละจึงจะเห็นจะรู้ที่อยู่พระพุทธเจ้า ที่อยู่ของพระอรหันต์เจ้าทั้งหลาย"

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กุมภาพันธ์ 2014
  10. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    หลวงปู่ชอบ ฐานสโม

    "นิพพานไม่ได้สูญ ไม่ได้อยู่ตามที่โลกคาดคะเนหรือเดากัน ทำจริงจะได้เห็นของจริง รู้จริง และจะเห็นนิพพานเอง เห็นพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เห็นครูบาอาจารย์ที่ท่านบริสุทธิ์เอง และหายสงสัยโดยประการทั้งปวง"

    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มกราคม 2016
  11. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    อนุโมทนากับคุณฑิตณัฐ เช่่นกันครับ ผมอ่านทีไรก็ขนลุก ปิติทุกทีไป

    [​IMG]
     
  12. ผู้ไกล

    ผู้ไกล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +4,752
    " นิพพานสูญ สูญจากการเวียนว่ายตายเกิด "
     
  13. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    หลวงปู่บุดดา ถาวโร

    "นิพพานไม่สูญ เป็นแต่อาสวะกิเลสสูญ อวิชชา ตัณหา อุปาทาน กรรม วิบาก มันสูญ แต่ สังคตะธรรม อสังคะธรรม วิราคะธรรม มันไม่ได้หมดไปด้วย"

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2014
  14. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    พระเทพสิทธิมุนี
    (พระอาจารย์โชฎก ญาณสิทธิ)

    "พระอรหันต์มี ความว่างจากตัวตน-ของตน โดยสิ้นเชิง มีอิสระเหนือทุกอย่าง ที่เรียกว่า "ว่าง" นี้ คือไม่ใช่ว่างชนิดที่เขาพูดกันว่า เช่นว่า จิตนึกคิดอะไรไม่ได้ กายก็แข็งทื่อเป็นท่อนไม้ แต่ที่ถูกนั้น เป็นความว่างจากกิเลส ว่างที่เฉลียวฉลาดที่สุด"


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2014
  15. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    หลวงปู่อ่ำ พระราชกวี (อ่ำ ธมฺมทตฺโต)

    "พระพุทธกัสสป เมื่อดับขันธ์ปรินิพพาน เข้าเมืองแสงใส ซึ่งก็คือเมืองแก้วแสงใส ชื่อไทยนี้ คนไทยคงเรียก นิพพาน มานานแล้ว ปราชญ์บัณฑิตโบราณาจารย์จึงกล่าวเสมอๆ เช่น ถึงเมืองแก้ว อันกล่าวแล้ว คือ อมตมหานครนฤพาน ดังใน มหาเวสสันดรเทศนา กุมารกัณฑ์"


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2014
  16. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    หลวงปู่ลี ธมมฺโร วัดอโศการาม

    "โลกนิพพาน ไม่มีทั้งเกิด ไม่มีทั้งตาย กายเป็นของสูญ จิตเป็นของไม่สูญ ไม่ตาย จิตที่ดับจากกาย ย่อมหายไป เหมือนกับไฟที่ดับจากเทียน"

    [​IMG]
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2016
  17. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    หลวงพ่อสด วัดปากน้ำภาษีเจริญ

    "ส่วนกายพระอรหัต ถ้าถึงพระอรหัตละก็ นิจจัง สุขัง อัตตาแท้ๆ กายธรรมมีขันธ์เหมือนกัน แต่เป็นธรรมขันธ์ ท่านไม่เรียกเบญจขันธ์ เป็นธรรมขันธ์เสีย มีธาตุเหมือนกัน เป็นวิราคธาตุ เป็นวิราคธรรม"


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2014
  18. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    พระราชพรหมยานเถระ
    (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

    "องค์สมเด็จพระบรมครูตรัสว่า ...โมกขราช เรากล่าวว่า นิพพานนั้นหมายถึงกิเลสดับ และขันธ์ ๕ ดับ... พระพุทธเจ้าไม่ได้บอกว่า จิตดับ"

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มกราคม 2016
  19. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    พระครูพัฒนกิจจานุรักษ์
    (หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา)

    " นิพพานเป็นแดนแห่งความมั่นเที่ยง นิพพานแล้วเป็นสุข นิพพานมีสาระเป็นแก่นสาร นิพพานมีความเป็นสุขอย่างยิ่ง พระนิพพานไม่ใช่อัตตา พระนิพพานเป็นปัจจัตตัง"


    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มกราคม 2016
  20. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต

    "สูญในพระนิพพานมีขอบเขต สูญจากกิเลสเท่านั้น รสของพระนิพพานมีอยู่ พระนิพพาน ไม่เกิดไม่ดับไปไหน เป็นอนัตตาธรรม เราจะเอาพระนิพพานมาเป็นอนัตตา เหมือนขันธ์ ๕ และกิเลสทั้งหลายมันก็ไม่ถูก เรียกว่าแยกอนัตตาธรรมไม่ถูก"

    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...