เจริญกรรมฐานอโหสิกรรมได้...จะได้ไม่มีกรรมเวรกันไปในชาติหน้า

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 12 พฤศจิกายน 2007.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,444
    [​IMG]

    คนผัดวันประกันพรุ่งนะ นอนตื่นสาย หน่ายทำกิน
    ไปหมิ่นเงินน้อย ไปนั่งคอยวาสนา วาสนามาหาเองไม่ได้
    ต้องทำต้องสร้างความดี ไม่สร้างไม่ได้หรอก
    ความชั่วไม่ต้องสร้าง มาเอง มันชั่วอยู่ทุกวัน
    จิตใจมันหลั่งไหลไปสู่ที่ชั่วทุกวันตลอดเวลากาล
    ไม่ต้องสร้างนิดเดียวมันก็ไปแล้ว
    จิตเลเพลาดพาด หละหลวม เหลวไหลตลอดรายการ
    แต่ความดีนี่ทำยากต้องสร้างสรรหาแสวงหาความดีให้แก่ตนเอง
    และก็ตัวเองมีความดีอยู่แล้ว ๑๐๐% จิตประภัสสร
    แต่เราเอาความดีในตัวไปทิ้งเสีย
    น่าเสียดายเอาความชั่วมาแทนที่ ความดีก็มีไม่ได้

    นี่แหละสร้างความดีนี่ต้องสร้างต้องเสริม ต้องส่งในกุศลให้แก่ตน
    มีจิตมั่นคง คือ สมาธิภาวนา มีปัญหาแก้ไขปัญหาได้
    คนที่สร้างความชั่วนี่นะไม่ต้องมีตำราหรอก เพราะเราตามใจตัวเอง
    จิตใจก็เหลวแหลก แตกไปในทางต่ำ
    ยกตัวอย่างว่าจิตมันเป็นน้ำ โยมลองเทน้ำดูซิ
    มันจะไหลไปที่สูงหรือที่ต่ำ จิตมันชอบต่ำ ชอบไอ้โน่น ชอบไอ้นี่

    อาหารของจิต ก็คือ กิเลส ความโกรธ ความโลภ ความหลง
    ความหายนะ เป็นอาหารของจิต
    แต่เราต้องฝืนไม่ให้มันกินอย่างนั้น
    ต้องฝืนใจอย่างมากกว่าจะได้ดี

    ขอเจริญพรว่า ความขยันได้มาจากความขี้เกียจ
    กว่าจะขยันได้ ขี้เกียจมาก่อน
    ความสุขเราได้มาจากความทุกข์
    ต้องมีความทุกข์ร้อนใจเหลือเกิน
    กว่าจะพบกับความสุขที่แน่นอนเช่นดังกล่าวมาแล้ว
    มันมีแต่ความทุกข์ระทบขมขื่นต้องผ่านทุกข์ก่อน
    จึงจะพบความสุขที่แน่นอน
    อาตมาผู้หนึ่งขี้เกียจที่สุด บัดนี้เราต้องฝืนใจ
    กว่าจะขยันกว่าจะทำอะไรให้สำเร็จ
    ฝืนใจจนขยัน บัดนี้จะกลับไปขี้เกียจคงไม่ได้แล้ว ไม่ได้แน่
    ถ้าโยมเคยขี้เกียจแล้ว ไม่ฝืนใจ ไม่ขยัน
    มันก็แค่นั้น ทำอย่างไรก็แค่นั้น ดีไม่ได้แน่นอน
    เหมือนหมากรุก ๖๔ ตา เดินตาเดียวอยู่ตลอดกาลเวลา
    จะดีได้อย่างไรเล่า เพราะฉะนั้น ทาน ศีล ภาวนา นี้ครบ
    ทานการให้แต่ศีล ก็คือ สติกรรมฐาน
    ถ้าเราเจริญสติกรรมฐาน แล้วจะพบทาน ๓ อย่าง
    ถ้าได้สติสัมปชัญญะแล้วจะพบทาน ๓ อย่าง

    ทานข้อ ๑ คือ ให้แล้วไม่หวังผลตอบแทน

    ทานที่ ๒ คือ ธรรมทาน ให้ธรรมะเป็นทาน
    พิมพ์หนังสือสวดมนต์บ้าง พิมพ์หนังสือธรรมะแจกกัน
    เรียกว่า ธรรมทาน มันก็ได้ผล
    ทานกรรมฐานเป็นสังฆทานแน่ เพราะจิตไม่หวังผล
    ก็ต้องให้สาธารณประโยชน์ สาธารณชนทั่วไป

    ทานที่ ๓ ของกรรมฐาน คือ อภัยทาน
    ให้อภัยได้อภัยโทษไม่โกรธกัน เรียกว่า ทานกรรมฐาน
    ถ้าโยมไม่เจริญกรรมฐานรับรองหมื่นเปอร์เซ็นต์
    จะให้อภัยใครไม่ได้ ผูกพยาบาทตลอดเวลา

    ถ้าท่านไม่มีกรรมฐานแล้ว ท่านจะให้อภัยทานได้ยาก
    อโหสิกรรมกันได้ยาก มีแต่ผูกใจโกรธ ผูกพยาบาท ฆ่ารันฟันแทงกัน
    ถึงคนนั้นจะบริจาคทาน สร้างวัดสร้างวากี่วัดก็ตาม
    ก็ยังให้อภัยทานไม่ได้

    ท่านต้องมีจิตสูงในกรรมฐาน ต้องมีสติปัฏฐานกำหนดจิต
    รู้หนอ ๆ รู้อย่างไร รู้ว่า เราโกรธเขา
    รู้หนอ ๆ อย่าโกรธเขาเลย ให้อภัยเขาเถอะ
    มันด่าเรา กำหนดต่อไป ด่าเรายังโกรธก็โกรธหนอ ๆ
    อ๋อบัดนี้ข้าพเจ้าไม่โกรธแล้ว ข้าพเจ้ามีกรรมฐาน
    ข้าพเจ้าจะไม่ขอโกรธท่าน เรียกว่า อโหสิกรรม
    กรรมนั้นจะไม่ต่อให้ยืดยาว เรียกว่า ตัดให้มันสั้น
    เหมือนรถหมดน้ำมัน ไม่วิ่งอีกแล้ว
    กรรมไม่ต่อกรรมอีกแล้ว เรียกว่า อโหสิกรรม

    นี่แหละกรรมฐานจึงแก้กรรมได้ เจริญกรรมฐานอโหสิกรรมได้
    จะได้ไม่มีกรรมเวรกันไปในชาติหน้า
    เราจึงนิยมการที่จะลากรรมฐานขออโหสิกรรม
    ขอขมาลาโทษพระรัตนตรัย มี พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์
    อาจจะเจตนาไม่ดี คิดไม่ดี อาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์
    เป็นบาปเป็นกรรมทั้งนั้น จึงต้องให้อภัยทาน ให้อภัยโทษ
    เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า อโหสิกรรม จะไม่เอาเวรกรรมกันต่อไปอีก
    กรรมสิ้นกันเสียที นับตั้งแต่บัดนี้ คือ การเจริญพระกรรมฐาน
    ถ้าโยมไม่เจริญกรรมฐาน กรรมไม่รู้จักสิ้น จะแก้กรรมอะไรไม่ได้
    จะต่อเวรต่อกรรมให้มันยืดยาวออกไป
    จะไปถึงลูกหลาน ลูกหลานก็จะลำบาก
    กระเสือกกระสนในอนาคต ตรงนี้สำคัญ
    ถ้าโยมหญิง โยมชาย รู้ตัวว่า สร้างกรรมไว้กับใคร
    ก็ขอประทานโทษโปรดอภัยเถิดนะเจ้าคะ
    ขอเจริญพรว่า ภรรยาเคยว่าสามี หรือ คิดในใจว่าสามีของข้านี้ไม่ดี
    เท่านี้ก็บาปนะ กระทั่งสามีไม่ได้เป็นเช่นนั้น สามีก็เช่นเดียวกัน
    ไปนินทาว่า ภรรยาของเราไม่ดี เท่านี้บาปนะ
    จะทำกรรมฐานไม่ได้ผลหรอก ด่าสามี มาทำกรรมฐานไม่ได้ผล
    จะได้ผลต้องอโหสิกรรมเสีย อภัยทาน อภัยโทษได้ผลแน่นอน
    ก็ขอเจริญพรฝากญาติโยมไว้ อย่าโกรธอย่าลงโทษกันเลย
    ให้อภัยกันเถิด หนักนิดเบาหน่อยให้อภัย
    บางคนมาที่วัดนี้นานแล้ว ตั้ง ๒๐ ปี จำได้ คนมันแน่น
    มีงานขึ้นในวัด เขาเหยียบเท้ากัน เหยียบเท้าลงไปที่เท้าคนอื่นนะ
    เขาก็รู้ตัวว่าไปเหยียบเท้าคนอื่น เขาขอโทษครับ
    คนนั้นมันเมามันไม่อโหสิ ชกกันเลย ต่อยกันแหลกไปเลย
    คนที่ขอขมาลาโทษก็หนีไป เห็นไหม คนไม่มีกรรมฐาน
    คนที่เจริญสติได้ เขาจะให้อภัยทุกประการ นี่ขอฝากไว้

    ถ้าคนขอโทษอย่าโกรธเขานะโยมนะ มาขอโทษโปรดอภัย
    รับผิดแล้ว ให้อภัยเขาเถอะ เรียกว่าอภัยทาน อภัยโทษ อย่าโกรธกันไว้ในใจทำไมเล่า พกความโกรธไว้ในใจเหมือนไฟเผาหัวจิตหัวใจเศร้าหมองทำใจร้อนรน ทนไม่ไหว
    กินไม่ได้ นอนไม่หลับ เป็นบาป เหมือนตกนรกทั้งเป็นเลยนะ อย่าไปมั่วสุมเช่นนั้นเลย...


    คัดลอกจาก...
    http://www.jarun.org
     
  2. HipPo*

    HipPo* เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    3,101
    ค่าพลัง:
    +7,908
    อนุโมทนาคับ สุดยอดแห่งนักโพสจิงๆ เรื่องดีๆทั้งนั้นเลยคับ
     
  3. 2499

    2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    450
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +6,033
    อภัยทาน อภัยทานนี้เป็นการให้ทานที่ไม่ต้องลงทุนด้วยวัตถุ แล้วก็เป็นทานสูงสุด พระพุทธเจ้ากล่าวว่า ใครเป็นผู้มีอภัยทานประจำใจ คนนั้นก็เป็นผู้เข้าถึงปรมัตถบารมีแล้ว คำว่า ปรมัตถบารมีนี้ เป็นบารมีสูงสุดเป็นบารมีที่จะทำให้เข้าถึงซึ่งพระนิพพาน คำว่า อภัยทาน ก็ได้แก่ การให้อภัยซึ่งกันและกัน หามายความว่าคนใดก็ตาม เขาทำให้เราขุ่นเคือง ทำให้เราไม่ชอบใจ ด้วยกรณีใดๆก็ตาม ถ้าหากเราคิดพิจารณาเข่นฆ่าจองล้างจองผลาญ ถ้าเขาด่าเรา เราคิดว่าโอกาสสักวันหนึ่งข้างหน้าเราจะด่าตอบ เขาลงโทษเรา เราจะลงโทษเขาตอบ เขาตีเรา เราคิดว่าเราจะตีตอบ แต่โอกาส มันยังไม่มี คิดเข้าไว้ในใจว่า เราจะทำอันตรายตอบ อย่างนี้พระพุทธเจ้ากล่าวว่า เป็นอาฆาต คือ พยาบาท เป็นไฟเผาผลาญดวงจิต เพราะคนที่เรากำลังคิดจะฆ่าก็ดี คิดจะประทุษร้ายก็ดี นี่เขายังไม่ทันรู้ตัว เขามีความสุข เราคนที่คิดจะทำเขานั่นแหละ ตั้งแต่แรกหาความสุขไม่ได้ คบไฟแห่งความพยาบาทมันเข้าเผาผลาญ มีแต่ความร้อนรุ่มกลุ้มใจ คิดวางแผนการต่าง ๆ ว่า เราทำยังไงถึงจะแก้มือเขาได้ โดยคนอื่นเห็นว่าไม่มีความผิด อารมณ์ที่คิดอยู่อย่างนี้ ยังตัดสินใจไม่ได้ ยังทำไม่ได้ มันเป็นไฟเผาผลาญคนคิดนี่แหละ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ เพราะอำนาจโทสะเข้าสิงใจ นี่เอำนาจโทสะหรือพยาบาทมันเริ่มเผาผลาญตั้งแต่คิด แต่คนที่ถูกคิดประทุษร้ายนั้น เขายังมีความสุข ทีนี้ถ้าเราไปทำเขาเข้าอีก ไอ้โทษมันก็จะหนักขึ้น ทำเขาเข้าอีก เขายิ่งจะแก้มือใหญ่ ถ้าเขาไม่แก้มือ ทางกฏหมายก็จะยื่นมือมาช่วยเหลือ ความทุกข์ใหญ่ก็จะเกิดขึ้น


    ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ ๑๐๖ หน้า ๗๕-๗๘<!-- / message -->
     
  4. 2499

    2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    450
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +6,033
    การขอโทษ และ ให้อภัย ..พระนิพนธ์ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร.
    <HR style="COLOR: #cccccc" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->การขอโทษและการให้อภัย

    การรู้จักขอโทษนั้นเป็นมารยาทอันดีงามสำหรับตัวผู้ทำ เอง และเป็นการช่วยระงับหรือช่วยแก้โทสะของผู้ถูกกระทบกร ะทั่งให้เรียบร้อยด้วยดีในทางหนึ่ง หรือจะกล่าวว่าการขอโทษคือการพยายามป้องกันมิให้มีกา รผูกเวรกันก็ไม่ผิด

    เพราะเมื่อผู้หนึ่งทำผิด อีกผู้หนึ่งเกิดโทสะเพราะถือความผิดนั้นเป็นความล่วง เกินกระทบกระทั่งถึงตน แม้ไม่อาจแก้โทสะนั้นได้ ความผูกโกรธหรือความผูกเวรก็ย่อมมีขึ้น ถ้าแก้โทสะนั้นได้ก็เท่ากับแก้ความผูกโกรธหรือผูกเวร ได้ เป็นการสร้างอภัยทานขึ้นแทน อภัยทานก็คือการยกโทษให้ คือการไม่ถือความผิดหรือการล่วงเกินกระทบกระทั่งว่าเ ป็นโทษ

    อันอภัยทานนี้เป็นคุณแก่ผู้ให้ ยิ่งกว่าแก่ผู้รับ เช่นเดียวกับทานทั้งหลายเหมือนกัน คืออภัยทานหรือการให้อภัยนี้ เมื่อเกิดขึ้นในใจผู้ใด จะยังจิตใจของผู้นั้นให้ผ่องใสพ้นจากการกลุ้มรุมบดบั งของโทสะ...

    โกรธแล้วหายโกรธเอง กับโกรธแล้วหายโกรธเพราะให้อภัย ไม่เหมือนกัน โกรธแล้วหายโกรธเองเป็นเรื่องธรรมดา ทุกสิ่งเมื่อเกิดแล้วต้องดับ ไม่เป็นการบริหารจิตแต่อย่างใด แต่โกรธแล้วหายโกรธเพราะคิดให้อภัย เป็นการบริหารจิตโดยตรง จะเป็นการยกระดับของจิตให้สูงขึ้น ดีขึ้น มีค่าขึ้น

    ผู้ดูแลเห็นความสำคัญของจิต จึงควรมีสติทำความเพียรอบรมจิตให้คุ้นเคยต่อการให้อภ ัยไว้เสมอ เมื่อเกิดโทสะขึ้นในผู้ใดเพราะการปฏิบัติล้วงล้ำก้ำเ กินเพียงใดก็ตาม พยายามมีสติพิจารณาหาทางให้อภัยทานเกิดขึ้นในใจให้ได ้ ก่อนที่ความโกรธจะดับไปเสียเองก่อน

    ทำได้เช่นนี้จะเป็นคุณแก่ตนเองมากมายนัก ไม่เพียงแต่จะทำให้มีโทสะลดน้อยลงเท่านั้น และเมื่อปล่อยให้ความโกรธดับไปเอง ก็มักหาดับไปหมดสิ้นไม่ เถ้าถ่านคือความผูกโกรธมักจะยังเหลืออยู่ และอาจกระพือความโกรธขึ้นอีกในจิตใจได้ในโอกาสต่อไป

    ผู้อบรมจิตให้คุ้นเคยอยู่เสมอกับการให้อภัย แม้จะไม่ได้รับการขอขมา ก็ย่อมอภัยให้ได้

    ในทางตรงกันข้าม ผู้ไม่เคยอบรมจิตใจให้คุ้นเคยกับการให้อภัยเลย โกรธแล้วก็ให้หายเอง แม้ได้รับการขอขมาโทษ ก็อาจจะไม่อภัยให้ได้ เป็นเรื่องของการไม่ฝึกใจให้เคยชิน

    อันใจนั้นฝึกได้ ไม่ใช่ฝึกไม่ได้ ฝึกอย่างไดก็จะเป็นอย่างนั้น ฝึกให้ดีก็จะดี ฝึกให้ร้ายก็จะร้าย...


    ..พระนิพนธ์ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร..

    http://www.samathi.com/meditation/showthread.php?p=4809
     
  5. s_thit

    s_thit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2007
    โพสต์:
    785
    ค่าพลัง:
    +3,027
    ทาน ศีล ภาวนา เจริญไว้เป็นปรกติ สติครบถ้วน อนุโมทนาครับ
     
  6. สุริยันจันทรา

    สุริยันจันทรา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    766
    ค่าพลัง:
    +4,588
    อนุโมทนาครับ...
    ___________________________________

    ใจมีสติอยู่กับกายผลลัพท์เท่ากับปกติ(ศีล)
     
  7. virot05

    virot05 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    830
    ค่าพลัง:
    +1,679
    อนุโมทนาบุญด้วยคนขอรับ ขยันโพสกันทุกวันเลย ส่วนเราได้แต่อ่าน ก็ถือว่าเป็นบุญเป็นกุศลแล้วครับ
     
  8. chotiwit

    chotiwit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,616
    ค่าพลัง:
    +1,794
    มาร่วมกันสร้งบุญกันเถิดครับ
     
  9. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    ขออนุโมทนาบุญกับท่านผู้ตั้งกระทู้ และทุกๆท่านที่ร่วมอนุโมทนาครับ
    สาาาาา...ธุ
    สาาาาา...ธ
    สาาาาา...ธุ
    ให้ดังไปถึงพระนิพพาน<O:p</O:p
     
  10. หนูแว่น

    หนูแว่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    1,188
    ค่าพลัง:
    +3,207
    อนุโมทนา หลวงพ่อสอนสั่งให้เราได้ดีมีสติ หลวงพ่อเป็นครูที่ยิ่งใหญ่มาก สาธุ
     
  11. lasomchai

    lasomchai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +2,036
    หลวงพ่อเทียน ท่านกล่าวไว้ว่า
    จะถึงนิพพานได้จาก
    คนจริง ทำจริง ถึงจะเห็นจริง

    สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
     
  12. deneta

    deneta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    2,712
    ค่าพลัง:
    +5,723
    อนุโมทนา ครับ

    ขอบคุณครับ อภัยทานเราชินจนลืมเห็นความสำคัญ มองข้ามไป ความจริงมีอนิสงค์ยิ่งใหญ่มากจังเลย ทั้งผู้ให้และผู้รับ
    สาธุ สาธุ สาธุ
    เปิดดูไฟล์ 238645
    (จะได้ผลดีไม่มีเวรกรรมกันต่อไปต้องมีการเจริญกรรมฐานด้วย )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2008
  13. hunjiun

    hunjiun สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +21
    ขออนุโมทนาค่ะสำหรับทุกข้อความและกระทู้นี้รวมถึงเวบนี้ค่ะ
     
  14. ahantharik

    ahantharik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,594
    ค่าพลัง:
    +6,347
    นักการเมืองไทยน่าจะมาเข้าหลักสูตรของหลวงพ่อจรัญ การเมืองไทยจะได้สงบ นิ่ง มุ่งพัฒนาประเทศชาติ ช่วยเหลือพี่น้องคนไทยและชาวโลก อนุโมทนา...
     
  15. deneta

    deneta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    2,712
    ค่าพลัง:
    +5,723
    คลิ๊กที่ อนุโมทนาได้ในทุกข้อความที่ด้านล่างขวาครับ เป็นการให้กำลังใจ และคะแนนไปด้วย ด้านบนสุดมีที่ให้คะแนนด้วยครับ
     
  16. สังขารไม่เที่ยง

    สังขารไม่เที่ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,943
    ค่าพลัง:
    +24,697
    อนุโมทนาสาธุค่ะ....ควรเริ่มให้อภัยคนอื่นในสิ่งที่เล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนค่ะ เพื่อเป็นการฝึกจิต
     
  17. บุษบากาญจ์

    บุษบากาญจ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    9,476
    ค่าพลัง:
    +20,271
    ขอร่วมอนุโมทนาบุญกับผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบทุก ๆ ท่านนะคะ ขออย่าได้มีเวรมีกรรมต่อกันและกันเลย อโหสิกรรมให้กันซะอย่าได้ผูกพยาบาทอาฆาตมาตรร้ายต่อกันเลย ชีวิตจะได้มีความสุขนะคะ สาธุ สาธุ สาธุ
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
  18. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    อ นุ โ ม ท น า ส า ธุ

    ไ ม่ โ ก ร ธ ดี ก ว่ า ถื อ ศี ล
     
  19. yuwarin b.

    yuwarin b. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    62
    ค่าพลัง:
    +378
    เราก็ศิษย์หลวงพ่อจรัล ขออนุโมทนาบุญด้วยเจ้าค่ะ
    เห็นรูปหลวงพ่อไม่ได้ เห็นแล้วชื่นใจและเคารพท่าน เห็นด้วยมั๊ยคะ
     
  20. jiaranai

    jiaranai Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +57
    พลังจิตฝึกกันได้ทุกคน

    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...