ประสบการณ์ ตำนาน หลวงปู่สรวง สวรรค์มีตา เทวดาเดินดิน

หลวงปู่สรวง เทวดาเดินดิน ในปัจจุบันท่านเป็นตำนานที่เล่าขานไม่รู้จบ ทั้งประสบการณ์จากผู้ที่เคยพบเจอท่าน ประสบการณ์จากการกราบไหว้ขอพร ทั้งจากสังขารที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดไพรพัฒนาหรือแม้กระทั่งการกราบไหว้ขอพรจากหน้ารูปภาพของท่าน และประสบการณ์จากพระเครื่องวัตถุมงคลต่างๆ สิ่งเหล่านี้ได้สร้างปาฏิหาริย์มาโดยตลอด ถึงแม้ว่าท่านจะทิ้งสังขารมานานกว่า ๑๐ แล้ว แต่ปาฏิหาริย์ของหลวงปู่สรวงยังปรากฏขึ้นอย่างสม่ำเสมอ กระทู้นี้ขอเชิดชูบูชาองค์อริยะหลวงปู่สรวง ท่านใดมีประสบการณ์เข้ามาพูดคุยกันได้ครับ

 

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมามีโอกาสสนทนากับพระอาจารย์อดิศักดิ์ วัดราษฏ์บูรณะ ท่านเป็นชาวศรีษะเกศครับ ท่านเล่าว่า มีญาติโยมที่รู้จักคนหนึ่งป่วยเป็นมะเร็ง ตรวจพบเนื้อมะเร็ง ต่อมาได้มีโอกาสไปกราบหลวงปู่สรวงที่วัดไพรพัฒนา ได้ไปลอดใต้โรงของหลวงปู่ ปรากฏว่าเมื่อกลับมาถึงบ้านอาการป่วยดีขึ้นจึงย้อนไปตรวจเซลล์มะเร็ง กลายเป็นว่าคราวนี้แพทย์ตรวจไม่พบเนื้อมะเร็งร้าย จึงพิศวงว่า มันหายไปได้อย่างไร ถ้าไม่ใช่บารมีหลวงปู่สรวง

 

ผมขอเล่าต่อบ้างนะครับ ผมีอยู่ช่วงนึงที่ผมฝันเห็นหลวงปู่สรวงกับหมอดูETชื่อดัง
ในฝันผมเห็นหลวงปู่นั่งบนรถ2แถวเล็กหมอดูETนั่งข้างล่าง แต่ในฝันเหมือนไม่ใช่นั่บนรถ2แถวเล็กเลยเพราะดูพื้นที่มันกว้างมากจากนั้นก็มีญาติโยมมาถวายเงินให้หลวงปู่150บาทหลวงปู่สรวงยื่นให้ผมแล้วถามต่อว่าเอาไหม ผมตอบท่านไปว่าไม่เอาเพราะไม่ใช่เงินผมหลวงปู่ท่านก็โยนเงินขึ้นฟ้า พอผมตื่นขึ้นมาต้องรีบไปแปดริ้ว ว่าจะหาซื้อหวยแต่ก็ไม่ได้ซื้อพอหวยออกเท่านั้นแหละแทบช็อกเลย หลวงปู่มาให้หวยนี่เอง ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อละครับผมเคยเช่าขุนแผนอุ้มไก่จากสำนักหลวงปู่สรวงแถวสำโรงตอนนี้ให้เพื่อนไปแล้ว

 

กราบแทบเท้าหลวงปู่สรวง ออยเตียนสะลูน ออยเพิ่มพูน บายติ๊กเจีย นะมะพะทะ อะหังนุกา

 

อนุโมทนาทุกท่านที่เข้ามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และแวะเข้ามาชมครับผม

 

หลวงปู่สรวงนับว่าท่านเป็นหนึ่งในตำนานของพระอภิญญา ที่จับต้องได้มีตัวตนจริง ที่สำคัญคือมีครูบาอาจารย์หลายท่านที่ได้พบเห็นได้สัมผัส รวมถึงมีผู้คนหลากหลายที่ได้เห็นถึงความพิเศษในองค์หลวงปู่สรวง

ในด้านของพ่อแม่ครูอาจารย์ที่มีโอกาสได้สัมผัสหลวงปู่สรวงนั้น มีอยู่หลายท่าน เช่นหลวงปู่ฤทธิ์ หลวงปู่หงษ์ วัดเพชรบุรี หลวงพ่อสร้อย วัดเลียบราษฏฺบำรุง หลวงปู่โป๊ะ วัดบ้านบิง หลวงปู่เจียม วัดกะมอล หลวงปู่สาย วัดตะเคียนราม หลวงพ่อทองพูล วัดป่าโคกชาติ และยังมีอีกหลายต่อหลายท่านที่มีโอกาสได้สัมผัสถึงองค์หลวงปู่สรวงและยืนยันว่าท่านเป็นพระแท้พระทองคำ แม้ว่าพฤติกรรมของหลวงปู่สรวงจะเป็นที่พิศวงของคนทั่วไป

 

เหรียญหลวงปู่สรวง เทวดาเดินดิน ออกวัดป่าโคกชาติ โดยพระอาจารย์ทองพูน

 

เหรียญหลวงปู่สรวง ออกวัดป่าโคกชาติ พระอาจารย์ทองพูน หนึ่งในศิษย์หลวงปู่สรวง

 

เหรียญหลวงปู่สรวง รุ่้นมีกินไม่หมด วัดป่าโคกชาติ ครับ

 

ด้านหน้าและด้านหลังของเหรียญ

 

เหรียญหลวงปู่สรวงของวัดป่าโคกชาติ ซึ่งสร้างโดยพระอาจารย์ทองพูน เป็นอีกหนึ่งเหรียญของหลวงปู่สรวงที่มีประสบการณ์มาก การสร้างก็ดีมีความหมายในตัวลึกซึ้งครับ

พระอาจารย์ทองพูนได้ออกแบบเหรียญรุ่นนี้ โดยด้านหลังของเหรียญนำเอาลายมือของหลวงปู่สรวงที่เขียนลงในเสื้อแดงมาประทับไว้ อ่านได้ว่า อายุ.. อาเปรี๊ยะพุธ

หมายความว่าอายุ..ไม่มีเป็นอกาลิโก หลวงปู่สรวงท่านเขียนเป็นปริศนา เขียนแค่อายุ แต่ไม่มีตัวเลขไม่มีจำนวน เหมือนว่าอายุแต่ไม่มีอายุ ก็คือ อกาลิโก หรือธรรมของพระพุทธองค์ ส่วนอาเปรี๊ยะพุธ แปลว่าอายุพระพุทธศาสนาคือ ๕ พันปี

คำนี้หลวงปู่เขียนด้วยหมึกลงในเสื้อแดง ซึ่งองค์หลวงปู่สรวงท่านใส่เสื้อแดงตัวนี้อยู่ระยะหนึ่งเลยทีเดียวต่อมาท่านมอบเสื้อตัวนี้ให้พระอาจารย์ทองพูน

ทางพระอาจารย์ทองพูนเห็นว่าเป็นสิริมงคลจึงนำคำนี้มาใส่ด้านหลังเหรียญ นอกจากนี้จะมีรูปของช้อนที่ผูกเชือกเอาไว้ ช้อนนี้มาจากสมัยที่หลวงปู้่สรวงท่านดำรงสังขารอยู่ท่านจะคล้องช้อนเอาไว้ครับ ต่อมาท่านมอบช้อนผูกเชือกนี้ให้กับพระอาจารย์ทองพูนเช่นกัน ตอนที่ท่านมอบให้ท่านกล่าวว่า มีกินไม่หมด เทื่อพระอาจารย์ทองพูนท่านสร้างเหรียญจึงเอาคำว่า มีกินไม่หมดมาเป็นชื่อรุ่น พร้อมทั้งเอารูปช้อนของหลวงปู่มาประทับไว้เป็นสิริมงคล

 

พระอาจารย์ทองพูนท่านเป็นพระปฏิบัติกรรมฐาน ท่านได้ล่วงรู้วันมรณะภาพของตัวเอง

เมื่อปี ๒๕๔๔ ท่านได้กำหนดรู้วันมรณะภาพของตนเองว่าจะมรณะภาพในปี ๒๕๔๕ ในปีนั้นท่านจึงทำสังฆทานครั้งใหญ่ ตั้งใจว่าขอต่ออายุเพื่อปฏิบัติธรรมให้เจริญยิ่งๆขึ้น พอเข้าปี ๒๕๔๕ ท่านผ่านพ้นมรณะครั้งที่ ๑ ได้ แต่ท่านได้กำหนดรู้ต่อไปว่า จะมรณะภาพแน่ในปี ๒๕๔๗ ท่านได้บอกลาญาติโยมสั่งเสียไว้หมดทุกประการ ในวันที่ ๙ มกราคม ปี ๒๕๔๗ ท่านมีกิจนิมนต์ ในวันนั้นท่านนึกอย่างไรไม่ทราบได้ ได้อาราธนาช้อนที่หลวงปู่สรวงมอบให้พร้อมทั้งเสื้อแดงที่หลวงปู่สรวงจารไว้ว่า อาเปรี๊ยะพุธ ติดตัวไป คราวนั้นเกิดอุบัติเหตุทางรถยันต์เป็นผลให้ท่านกระโหลกศีรษะแตก ใครๆนึกว่าท่านมรณะภาพแน่ แต่ปรากฏว่าท่านกลับรอดอย่างปาฏิหาริย์ พักรักษาอยู่ในโรงพยาบาลเพียง ๙ วันเท่านั้น ท่านมั่นใจว่าเหตุที่ท่านรอดจากมรณะภัยครั้งที่ ๒ นี้ก็ด้วยบารมีธรรมของหลวงปู่สรวงอย่างแน่นอน

 

ภาพช้อนของหลวงปู่สรวง ภาพนี้บูชาไว้นะครับ หลวงปู่สรวงตอนมอบช้อนนี้ให้พี่ชายของพระอาจารย์ทองพูน (คุณไชยิ้ม กาญจนสารธนา)ท่านกล่าวไว้ว่า "มีกินไม่หมด" มีภาพนี้แล้วระลึกถึงหลวงปู่สรวงรับรองไม่มีจนครับ

 

นะโม โอม อุ อะ มะ อริยะอ็องสรวง อายุ อาเปรี๊ยะพุธ ออยเตียนสรูล ออยเพิ่มพูน บายตึ๊กเจีย

 

พ่อแม่ครูบาอาจารย์ในดวงใจ

 

ภาพเสื้อแดงที่หลวงปู่จาร อายุ อาเปรี๊ยะพุธ เชื่อกันว่าเสื้อแดงตัวนี้เป็นสิ่งที่ช่วยต่ออายุหลวงพ่อทองพูน วัดป่าโคกชาติ ภาพนี้เก็บไว้บูชากันนะครับ เป็นสิริมงคลอย่างยิ่งเรื่องพุทธคุณสูงส่งแน่นอน

 

กราบ กราบ กราบหลวงปู่สรวงครับ
มีวาสนาได้รับเหรียญกับรูปหล่อเนื้อผงจากคุณลุงที่อุบลฯ ลูกศิษย์ที่ขับรถให้หลวงปู่มาตลอด30กว่าปีครับ

 

สาธุครับ ดีทุกองค์เลย

 

ภาพแหวนพญานาค ยุคขอมโบราณ ผุดขึ้นที่ริมห้วยท้ายวัดป่าโคกชาติ พระอาจารย์ทองพูนเคยถวายให้องค์หลวงปู่สรวงพิจารณา ท่านกล่าวว่า ดีดี เก็บไว้เก็บไว้ ต่อมาเมื่อท่านสร้างเหรียญหลวงปู่สรวงรุ่นมีกินไม่หมด จึงนำเอาแหวนพญานาคมาทำเป็นโค๊ตตอกลงที่เหรียญเพื่อเพิ่มพูนความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งๆขึ้น แหวนพญานาคนี้จากการตรวจทางในของผู้รู้พบว่ามีพญานาคถึง ๔ องค์รักษา มีอานุภาพเด่นในทางคุ้มครอง โชคลาภให้ความร่มเย็นเป็นสุข ภาพนี้นำไปบูชาเพื่อระลึกถึงพญานาคทั้ง ๔ องค์ได้เลยครับ

 

คำว่า อายุ อาเปรี๊ยะพุธ เป็นภาษาเขมร ซึ่งหลวงปู่สรวงได้ลิขิตไว้อยู่บนเสื้อแดงออกศึกหลวงพ่อทองพูน อาริโย ได้เข้าไปกราบเรียนถามหลวงพ่อพุฒ วายาโม เจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา เพื่อตีความหมายลายลิขิตที่หลวงปู่ได้เขียนไว้ ได้สรุปความหมายว่า อายุเท่ากับ จุด 2 จุดและ อาเปรี๊ยะพุธ แปลว่า อายุเท่ากับจุด 2 จุด คือ ความเป็นอมตะมหาหานฤพาน ไม่มีวันตาย คือความสิ้นสุดแห่งสมมุติทั้งหลายไม่มีเกิดไม่มีตายอีกจึงไม่สามารถกำหนดเป็นตัวเลขได้ ส่วนคำว่าอาเปรี๊ยะพุธ แปลว่าอายุพระพุทธศาสนา เป็นนิมิตหมายแห่งความอยู่เย็นเป็นสุขใต้ร่มโพธิศาสนาแห่งพระพุทธเจ้าผู้เป็นศาสดา กล่าวคือผู้ใดได้กำเนิดเกิดอยู่ในดินแดนที่พระพุทธศาสนายังคงตั้งอยู่ย่อมได้รับความร่มเย็นผาสุข เมื่อนำธรรมะนั้นมาใช้มาประพฤติปฏิบัติตาม