คุณคิดว่า ภายใน 11 ปี น้ำแข็งจะละลายจนท่วมเมืองชายทะเลหรือไม่

ผมตั้งกระทู้นี้มาเพราะ มีดร. อาจอง ได้ทำนายไว้ว่า น้ำทะเลมีระดับสูงขึ้น ภายใน 11 ปีเพราะน้ำแข็งขั้วโลกละลาย ทำให้น้ำท่วมเมืองสำคัญชายทะเล แต่ ผมไปเจอ web ของ NASA ได้ส่งดาวเทียมขึ้นไปสำรวจ ระดับน้ำทะเลโดยเฉพาะ ตรวจอย่างสม่ำเสมอมา 5 ปีแล้ว จนล่าสุดข้อมูลเมื่อ เดือนที่แล้ว ไม่ปรากฏว่า มีน้ำทะเลสูงขึ้นเลยสักนิดเดียว และข้อมูล ย้อนหลังที่เก็บได้เป็นร้อย ปี น้ำทะเลก็ไม่เคยสูงขึ้น ถึงแม้ว่า ภายใน 10 ปีที่ผ่านมา น้ำแข็งขั้วโลกจะละลายอย่างมากก็ตาม อย่างนี้ อีก 11 ปีน้ำจะท่วมไหมเนี่ย

http://topex-www.jpl.nasa.gov/science/jason1-quick-look/

 

msn นะครับ rukava6_6@hotmail.com

 

ถ้าดูสถานการณ์ข่าวเกี่ยวกับสภาวะโลกร้อน ... ย่อมเป็นเช่นนั้น !!!

 

ิิิิbbc

 

NASA ใช้ดาวเทียมและเทคโนโลยีในการพยากรณ์

แต่ทางดร. อาจอง ใช้อธิปัญญาในการพิจารณาและพยากรณ์

ใครผิดใครถูกก็ไปคิดกันเอง แต่มีข้อสังเกตดังนี้

1. ดร. อาจอง ย้ายบ้านจากกรุงเทพฯไปอยู่ที่ รร.สัตยาไส ที่ลำนารายณ์ จ. ลพบุรี ซึ่งสูงกว่ากรุงเทพมาก
2. หลวงปู่ดู่ บอกให้หลวงตาม้า ไปหาวัดอยู่ทางเหนือ ถ้ำเมืองนะ อยู่สูงระดับหลังคาประเทศไทย ทั้งๆที่อยุธยามีวัดให้อยู่เยอะแยะไป
3. เจ้าของนิคมอุตสาหกรรมขนาดยักษ์ในบ้านเราที่ประกาศว่าจะไม่ตัดผมอีกต่อไป และปฏิบัติตนเหมือนฤาษี ประกาศแล้วว่าจะไม่ลงทุนอะไร ในที่ราบภาคกลางอีกต่อไป ตัวเองก็ไปต่อแพอยู่บนเขาใหญ่ โคราช
4. ญี่ปุ่นสร้างเมืองรับการท่วมของน้ำทะเล เป็นเหมือนแพขนาดใหญ่
5. ท่านที่ดูหนังสือ Popular Machinic จะเห็นว่า UAE จะสร้างเกาะขนาดยักษ์ไว้เพื่อลอยในทะเล รองรับคนทั้งประเทศ
6. เนเธอร์แลนด์ ยอดวิชาชลประทาน มีหลายบริษัทแข่งกันสร้าง "เรือนแพ" ออกจำหน่าย ขายดิบขายดี ยิ่งนัก
7. มนุษย์น้ำแบบ Nirvana ไปหาที่อยู่ใหม่เป็นถ้ำบนที่ราบสูงโคราชแล้ว

ท่านผู้เจริญจะพิจารณายังงัยก็คิดเอาเองเถิด

 

คุณสัณฐ์เธียร ย้ายสำมโน ไปอยู่ อุบลราชธานี และจะไปอยู่หนองคายต่อในอนาคต อิอิ....(เอากับเขาบ้าง)....

 

http://www.thai-interelectric.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=135534&Ntype=4


สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ได้นำเสนอผลงานวิจัยเกี่ยวกับปัญหาการกัดเซาะพื้นที่ชายฝั่ง พบความเสียหายเป็นระยะทางกว่า 300 กิโลเมตร ตลอดแนวชายฝั่งทะเลทั้งด้านอ่าวไทยและอันดามันรวมถึงปัญหาการเปลี่ยนแปลงของแนวชายฝั่งทะเลที่มีการย่นระยะทางเข้าสู่แผ่นดินมากขึ้น โดยพบว่ามีสาเหตุหลักมาจากการทรุดตัวของแผ่นดิน

จากการวิเคราะห์พื้นที่ที่เกิดการกัดเซาะชายฝั่งทะเลบริเวณอ่าวไทยตอนบนพบว่า ผลกระทบของการทรุดตัวของแผ่นดินนั้น มีผลต่ออัตราการกัดเซาะชายฝั่งทะเล สำหรับพื้นที่บริเวณกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีอัตราการทรุดตัวของแผ่นดินมากกว่า 10 เซนติเมตรต่อปี ในบริเวณชานเมืองย่านตะวันออกมีอัตราการทรุดตัวประมาณ 5-10 เซนติเมตรต่อปี

จากการศึกษาความสัมพันธ์ของวิวัฒนาการชายฝั่งทะเลและการทรุดตัวของแผ่นดินพบว่า การเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำทะเลในอดีต ประมาณ 12,000

 

ครับ ถึงแม้น้ำทะเลจะไม่สูงขึ้น แผ่นดินมันก็อาจทรุด น้ำมันก็ท่วมได้อยู่ดี

 

คงอีกนานครับ

 

บ้านผมน้ำแข็งละลายแล้ว วันนี้โดนตัดไฟ ว่าจะไปจ่ายตอนเที่ยง แต่ฝนดันตกเอาๆ
เลยไม่ไปดีกว่า ไว้พรุ่งนี้ละกัน มันคงไม่รีบมาวุ่นวายกับชาวบ้านตาดำๆนักหรอกน่า

ผิดคาด ตัดเฉยเลย เหตุเพราะ ลืมไปจ่าย เพราะปรกติจะสะดวกไปจ่ายที่ 7-11
แต่ลืมจนเลยรอบบิล ต้องเดินทางไปจ่ายที่ กฟน. โคตรไกลเลย ค่าน้ำมันเป็นลิตรๆ

มองในแง่ดี ได้ลองใช้ชีวิตแบบไม่มีกระแสไฟฟ้า สักสองสามวันดู ว่าจะพอไหวมั๊ย
แบบว่าร้อนชิบ ลมดันไม่มาปรกติจะมาก็ดันไม่มา ซวยซ้ำซวยซ้อน พรุ่งนี้จ่ายมันละ

 

(deejai)(deejai)(deejai)

7 ปีผ่านไป น้ำทะเลสูงขึ้นกี่ ซม. แล้วครับเนี่ย มีใครมีข้อมูลบ้างครับ
คงไม่น่าจะสูงขึ้นเพราะน้ำแข็งจากตู้เย็นบ้านคุณ spammer ละลายมามากเกินไปนะ


.

 

7 ปีผ่านไป ภัยใหญ่เมื่อไหร่จะมา...

.

 

ไม่ชอบพูดลอยๆ ต้องหาข้อมูลมาแบ็คอัพ
จากกราฟ ระดับน้ำทะเล 22 ปี ของสถานีที่เกาะฮาวาย กลางมหาสมุทรแปซิฟิก
ก็ยังไม่สูงขึ้น อย่างที่คนทั่วโลกกังวลกัน เคยเอาข้อมูลของ IPCC มาลง เขาทำนายว่า ปี 2100 ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้น 80 ซม. เองนะ

.

 

รู้แต่ว่าประเทศไทยถูกน้ำเซาะแผ่นดินไปเยอะ หลายจังหวัดด้วย

 

สำหรับกรุงเทพ, จังหวัดที่อยู่ในเขตปริมณฑล และพื้นที่รอบๆอ่าวไทย ปัญหาการทรุดของพื้นดิน จะมากกว่า การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล ครับ พื้นดินทรุดเฉลี่ย 1-3 ซม. ต่อปี

จากข้อมูล 32 ปี จะเห็นว่า เขตบางกะปิ พื้นดินทรุดสะสมมากที่สุด 110 ซ.ม.






.

 

เล่นมุขนี้ ฮาซะหงายเงิบเรย 555

ร้อน ระเหยกลายเป็นไอ กลับมาเป็นฝนและพายุ
น้ำฝนจะทำให้โลกเย็นลง แต่ปริมาณที่มากและรุนแรงจะทำให้เดือดร้อนกันมาก
ชายฝั่งถูกกัดเซาะ ผลจากพายุที่เกิดถี่ และรุนแรงขึ้น ด้วยลมผันผวน
บางพื้นที่ๆ เปลือกบางจะขยับตัว บ่อยครั้งจากแผ่นดินที่อุ่นขึ้น
เปนด้วยเหตุแล ปัจจัยเช่นนี้ ขึ้นชื่อว่าโลก มีอันต้องฉิบหายไปในที่สุด

 

เชื่อว่า ภายหลังปี 2554 ที่น้ำท่วมใหญ่ เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้แผ่นดินทรุดตัวลงมากกว่าค่าเฉลี่ยจากอดีตที่ผ่านมา

 

ปลายปีที่แล้วน้ำทะเลหนุนที่ชลบุรีขึ้นมาท่วมถนน 30 ซ.ม. ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน ปกติจะแค่ล้นมาประมาณปากท่อระบายน้ำ ผมรอดูปีนี้ครับว่าจะท่วมอีกมากน้อยแค่ไหน

 

ในความคิดเห็นส่วนตัวของผม(ย้ำว่าส่วนตัว)

น้ำแข็งขั้วโลก น่าจะละลายแบบอัตราเร่งก้าวกระโดดครับ

สมมติว่า ปีแรกละลาย 2ล้าน(ลบม.) ปีที่สอง 2.5 ปีที่สาม 2.9
ปีที่สี่ 7.2 ปีที่ห้า 20.3 ปีที่หก50.6 ปีที่เจ็ด102.5 ปีที่แปด 250.5

นี่เป็นตัวเลขสมมตินะครับ เริ่มจากปีแรกแค่ 2ล้านลูกบาศก์เมตร กลายเป็น250ล้านในปีที่แปด
ขึ้นมาเป็นร้อยๆเท่า ภายในเวลาไม่กี่ปีเท่านั้น

เหตุที่ผมเชื่อว่าการละลายของน้ำแข็งจะเป็นแบบก้าวกระโดดเพราะว่า
โลกเราเหมือนตู้กระจก ถ้าน้ำแข็งละลาย จะไปเพิ่มปริมาณฝนซะล้างหิมะให้ละลายเร็วขึ้นเป็นทวีคูณ
และทำให้อุณหภมิในตู้กระจกนี้ร้อนขึ้นเรื่อยๆ น้ำแข็งจะยิ่งละลายเร็วขึ้นเรื่อยๆ
เพราะปริมาณน้ำแข็งเกิดใหม่จะน้อยกว่าน้ำแข็งที่ละลายไปมากหลายเท่า
(ปกติโลกเราน้ำแข็งจะละลายในฤดูร้อน และโดนเติมน้ำแข็งหรือหิมะเข้าไปในฤดูหนาว)
(ละลายออกแล้วโดนเติมใหม่ เป็นแบบนี้มาตลอด และมีส่วนต่างน้อย มีความสมดุลมาตลอด)
(แต่พอโลกเสียสมดุลในจุดนี้ การละลายจะมากกว่าเติม จะทำให้ถึงจุดวิกฤตขึ้น)

เพราะฉนั้นเรื่องน้ำแข็งละลายโดยฉับพลันนี้ จะเกิดขึ้นภายในไม่กี่ปีเท่านั้น
และไม่ได้เป็นแบบเปอร์เซ็นต์สม่ำเสมอคงที่เหมือนอย่างที่เราคิด เพราะเราอยู่ในตู้กระจกครับ
อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะ