สนทนาสบายๆ ตามประสา

ตามด้วย1องค์

 

อย่าลงเฉยๆ ดูนะครับ ไอ้เขียวๆโดยเฉพาะที่ ฐานบัว ชี้เป็นชี้ตายได้เลยนะครับ

สงสัยมั้ยว่า ทำไมคนมีพระกริ่งเขาจึงไม่ล้างคราบออก ก็เพราะ สนิมก็จะหลุดแล้วทำให้ตัวชี้หายไปด้วย ดูดีๆนะครับ จุดนี้แน่นอนกว่าจุดตายอีกฃ

ช่วงนี้อากาศภายนอกร้อนหลบเข้าบ้านดีกว่า

อีกนิดนะครับ มวลสารสมเด็จใช่จะมีแล้วจะเเท้ หรือทัน มันขึ้นว่าเป็นอะไร ไม่ใช่มีแดงๆดำ ขาวๆแล้วโอ้ย จะเเท้เเน่นอน ต้องรู้ว่ามวลสารที่ ขาวๆแดงๆนั้นนะอะไร
พระที่มาดี ก็ใช่ว่าปลอมไม่ได้ ท่านที่ให้เรามา อาจได้รับพระปลอมมาโดยมิรู้ตัว หรือ พระอาจโดนสับเปลี่ยนโดยคนใกล้ตัวท่าน เมื่อไรก็ไม่รู้
คนที่ดูเนื้อดินเป็น และเก่ง น่าจะดูมวลสารที่เป็นส่วนผสมของพระสกุลเหนือ ที่มีอยู่ในสมเด็จได้ ดีกว่า
เนื้อในพระสมเด็จที่เป็นสีขาวซุยๆร่วนๆ ไม่แน่ว่าจะปลอม แต่ถ้าขาวเป็นพรืดไปแน่
พระเนื้อผงถูกเร่งด้วยความร้อนการปริจะปริจากด้านหน้าลงไป บางทีก็จะเป็นแค่ผิว หรือเรียกว่าแตกลายงา ระเเหง ไม่ได้ลั่นลาน แยกให้ดีครับ เนื้อพระที่ค่อนข้างกรอบมาจากการอบร้อนแน่นอน ผิวพระจะกระด้าง
อ้อ อ่านเจอมาหลายรอบ ต้องขอแก้ คุณทิน นิดนึง พระไม่ว่าเนื้ออะไร นำไปแช่น้ำแล้วยังไงนะครับ แบบ แห้งช้า หรือมีฟองเดือดปุดๆ ไม่จำเป็นนะครับ พระแห้งๆก็เดือดครับ ลองดูได้ ที่เขาดูนะครับ เขาดูลักษณะพรายน้ำที่ขึ้นนะครับ ดูว่า การขึ้นแบบค่อยๆนะครับถ้าตรงไหนแน่นๆ พรายฟองไม่ค่อยขึ้นก็จะส่องนานหรือสงสัยว่าซ่อมนะครับ แล้วก็ไม่ได้ลงน้ำเป็นชั่วโมงน่าครับ พระบางองค์มีครบแป้งจะไปหมดน่าครับ
คุณน้ำข้าว ขอบพระมีความสำคัญ ไม่น้อยกว่าหลังหรือหน้า การดูพระดูแค่บางส่วนไม่ได้แล้วๆๆเนื้อกะลา คือผงคลุกรัก จุ่มรัก แล้วเก่าแห้งจนสีคล้ายกะลา แต่ไม่ใช่ว่าเนื้อจะเป็นแบบนั้น

 

โดนเขกหัวอีกแล้วเรา อิอิ รับทราบครับพี่..เดี๋ยวกลับไปศึกษาอีกชักหน่อย..ไอ้เขียวๆเนี้ยถ้าจำไม่ผิดพี่เคยคุยกะคุณหมอทีนึงแล้วถ้าผมจำไม่ผิด เนื้อกะลาเดี๋ยวจัดกาลครับ..เดี๋ยวหลง

 

5555555..เชื่อเถอะท่าน...ท่านพี่เค้าเห็นใครบ้านโดนตัดไฟ...เค้าทนไม่ได้หรอกท่านต้องไปจ่ายค่าไฟให้ทุกคนแหละครับ..เอ..แต่บ้านผมใช้เทียนมานานละ..ท่านไม่เคยเห็นผมอยู่ในสายตาเลยซักที..หรือเห็นผมมีเทียน.สว่างหรอมแหรมละ555555555

 

หลบบ้างครับ ผมยอมถูกแบน เพื่อขจัดตัวป่วนในเวปนี้ครับ

ถ้าจำได้ผมเคยลง พระพิมพ์สมเด็จองค์นึงในกระทู้นี้ ที่ด้านหลังมวลสารจัด แต่พิมพ์ยังกังขาอยู่ และที่สำคัญคือองค์เล็กกว่ามาตรฐานหน่อยนึง ซึ่งจะบอกว่าที่มาที่เดียวกันกับอีกกระทู้นึง มวลสารก็เหมือนกัน แต่รูปอยู่อีกคอมนึงดึงมาไม่ได้แล้วครับ ผมไม่คิดว่าจะมีจอมมารมาท้าท้าย และ หมิ่นประมาณผมขนาดนี้ ไม่คิดเลย :'(

 

พระกริ่งองค์ที่ว่า คุณธณตเคยวิเคราะห์ไปแล้วครับ

 

55555555...คนที่คิดเป็น...เค้ารู้กันทั้งนั้นแหละท่าน...อย่าคิดมาก...มีอีกไม่เยอะหรอกท่านแบบนี้....คนที่เข้าใจมันมีเยอะมากกว่าสัดส่วนเทียบกันไม่ได้หรอกท่าน.......

 

.ขอบคุณมากนะครับ อ.ธณต





____________
ดูไม่เป็น เน้นการศึกษา

 

ปล่อยไปเถอะครับพี่หมอ
ต่อล้อไปก็เลอะตัวเปล่า
ผมเห็นแนวแต่ต้นแล้วครับ เลย ตีตั๋วนั่ง
อยู่เฉยๆดีกว่าครับ

 

อย่าคิดมากเลยครับ อ.paper_white ใจเย็นๆนะครับ...(k)




____________
ดูไม่เป็น เน้นการศึกษา

 

ดูข้อความเก่าในกระทู้นี้ เจอะแต่ด้านหลังอะครับ

 

ไอ้หรอมแหรม เนี๋ยะใช้กับเทียนได้ด้วยเหรอ จะไปเห็นได้ยังไงก็ไฟหรอมแหรม

 

อ.ธณต ครับ เมื่อกี้กลับไปดูที่กระทู้นั้นมา...ที่ว่ามีฟองเดือดปุดๆ...ไม่มีนะครับอาจารย์...(k)





____________
ดูไม่เป็น เน้นการศึกษา

 

ข้อเเรก ผมไม่ได้สอนหนังสือ ผมจึงไม่ใช่อาจารย์ โดยปกติผมจะค่อนข้างเคืองเมื่อมีใครเรียกอาจารย์ด้วย

ข้อสอง มันเป็นคำที่เข้าใจง่ายเพื่อไม่ให้คนที่อ่านเข้าใจในทำนองว่าต้องมีฟองเยอะพระจะแท้นะครับ

 

อ้อผมลืม คือผมไม่เนะนำให้เอาพระเนื้อผงไม่ว่า พระอะไรแช่น้ำครับ การดูพระดูด้วยตาฟังด้วยหู วิเคราะห์ด้วยสมองพอแล้ว ไม่ต้องหาวิธีพิสูจน์ครับ ถ้าพระเราพอทำเนา พระชาวบ้านมีเรื่องแน่ ไอ้เรื่องเคาะกับกระจก ถูหน้า เตะลิ้น หรืออะไรที่ต้องพิสูจน์ด้วยการกระทำกับองค์พระ เลิกเถอะครับ มันไร้ฝีมือ คนจะหยามหยัน แล้ว มันอาจนำภัยมาสู่ตัวครับ อีกอย่างมันไม่แน่เสมอไปครับ

 

รับทราบแล้วครับ...โดนดุอีกและ...pig_cryy





____________
ดูไม่เป็น เน้นการศึกษา

 

ชอบครับน้า
ผมว่าวิธีที่ดีที่สุดคือวิเคราะห์จากสภาพเดิมๆ อาจคิดมากสักหน่อย แต่จะเข้าใจธรรมชาติพระอย่างลุ่มลึกมากขึ้น จะวิเคราะห์พระได้ทุกสภาพ

 

ตอนผมหัดเล่นหยิบผิดองค์เดียวโดนด่าเจ็ดวันไม่ซ้ำ

 

อิอิอิ ผมยังดีโดนวันเดียว

 

บอกเองนะ.....ว่าจัดเต็ม