ประสบการณ์จากตัวข้าพเจ้าเอง..เรื่อง"ผีตายโหง"(ไม่ได้มีเรื่องเดียว)

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย นายเมธี12, 24 เมษายน 2013.

  1. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    [​IMG]

    ขอเกริ่นนำนิดหน่อยก่อนนะครับ ภาษาอาจจะไม่สุภาพ อาจจะผิดๆถูกๆ ก็ขออภัยล่วงหน้านะครับ และเรื่องนี้ ก็เล่ากันเฉพาะในกลุ่ม จะมีบ้างที่เล่าให้คนอื่นฟังแต่ส่วนน้อยครับ ก่อนอื่นผมจะเล่านี่คงจจะไม่ได้เป็นเรื่องผีตายโหงนะครับ แต่เรื่องนี้ก็น่าจะจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมเจอแต่เรื่องแปลกๆ ซึ่งเป็นเรื่องราวที่ตัวผมเองเฉียดตายมาแล้วเพราะเหตุเกินขึ้นเหนือจากธรรมชาติ จึงทำให้ผมใฝ่รู้ใฝ่ปฏิบัติธรรมมากขึ้น (เรื่องราวที่เขียนขึ้นมานี้เป็นเรื่องจริงทุกประการในชีวิตของผมครับไม่ใช่เรื่องเล่าที่เล่ากันต่อๆกันนะ)

    เรื่อง (ใครกันนะที่ช่วยให้รอดตาย)

    เมื่อ ประมาณ 16-17 ปีที่แล้วผม ประมาณ พ.ศ.2540-2542 ได้เรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งไม่บอกว่าเป็นโรงเรียนอะไร แต่อยู่แถวๆในตัวเมืองจังหวัดเชียงราย ชื่อคล้ายๆ โรงเรียน สามมัคคีวิทยาคม ซึ่งตอนนั้นผมอยู่ชั้น ม.1 ก็แบกกระเป๋าเป้ใหญ่ๆหนักๆ ซึ่งตอนนั้นผมเป็นคนขี้เกียจ จัดตารางสอนมากๆ ก็จับมันยัดไว้ทุกวิชานั้นแหละตื่นเช้ามาก็พร้อมที่จะไปโรงเรียนเลย เป็นคนเรียนปานกลาง ไม่เก่ง ไม่ห่วย แต่ก็ไม่ได้ดีเด่อะไร พอขึ้น ม.2 ผมก็ได้รู้จักกับเพื่อนมากขึ้น แต่ โดยนิสัยแล้วส่วนใหญ่จะเป็นคนสันโดด เพื่อนสนิทๆก็มีไม่กี่คน ไอ้เจ้าบอย กับไอ้เจ้าแม๊ค สองคนนี่สนิทกันมากทีเดียวตอนนี้ก็ยังคุยกันอยู่บ่อยๆ
    เอาล่ะมาเข้าเรื่องดีกว่าเล่าแต่น้ำๆ
    พอ ขึ้น ม.3 วันนั้น ในช่วงเช้าๆ ผมได้พูดคุยกับเด็กคนนึงที่ไม่ค่อยจะเต็มบาท ที่อยู่ในห้องก็ดูแล้วไม่ค่อยน่าไว้วางใจซักเท่าไหร่ ผมก็คุยกับเค้าแต่เค้าพูดกับผมไม่ลงเอย แล้วก็เกิดไม่ถูกคอกันเข้า แล้วพอเรียนเสร็จหลังเลิกเรียน ตอนนั้นอยู่ในช่วงโพล้เพล้ มันเป็นวันธรรมดา ไม่แน่ใจว่าเป็นวันอังคารหรือวันพฤษหัสบดี แต่วันนั้นผมไม่ได้เรียนลูกเสือ โดยปรกติแล้ว สมัยนั้น หรือแม้กระทั้งปัจจุบัน นักเรียนลูกเสือสำรองจะใช้ไม้พลองทาด้วยสีขาวแล้วมีเรียนทุกๆวันพุธหรือ วันศุกย์ แล้วแต่เวร ที่อาจารย์จัดแต่ผมจำได้ว่าวันนั้นใส่ชุดนักเรียนเสื้อสีขาวกางเกงสีกากี และก็แบกกระเป๋าหนักๆ

    มาต่อกันเลยครับว่าเกิดอะไรขึ้น
    เย็นวันนั้น ผมก็เหนื่อยกับการแบกอะไรหนักๆไว้ข้างหลังตลอดเวลา กะจะไปนั่งตรง ทาง3แยกปากหมา (เค้าเรียกกันอย่างนั้นเพราะว่า เด็กผู้ชายชอบไปนั่งแซวสาวๆ นักเรียนหญิงอยู่ตรงนั้นแล้ว ตรงที่นั่งก็เป็นรูปคล้ายๆปากด้วยแล้วมันก็เป็น3แยก) พอผมเดินมาขณะนั้น ก็ไม่มีใครนะเพราะมันโพล้เพล้ เหมือนใกล้จะมืดแล้ว ผมหันไปดูทางซ้ายและก็ขวา คนแถวนั้นก็ไม่มีจะมีก็ห่างประมาณครึ่งสนามฟุตบอล แล้วผมก็เดินตรงไปที่นั่งรูปปากสีแดง เพื่อจะนั่งแต่ยังไม่ทันนั่ง ทันใดนั้น..........(เสียงดังสนั่นและก็มีเหมือนอะไรที่เฉียดผ่านใบหูข้างขวาผมไป ดังโคร๊มมม กระด๊อกกระแด๊กๆๆๆ... ) ไอ้เจ้าเสียงกระด๊อกกระแด๊กๆๆๆ นั้นเป็นเสียงอะไรว้าาผมก็เหลียวไปมอง อ้าวมันคือไม้พลองเองนี่นะซึ่งมันก็เด้งไปเด้งมาเหมือนหล่นลงพื้น แล้วก็หันไปอีกนิด ก็เห็น เพื่อนที่มันไม่เต็มบาทที่ทะเลาะกับมันตอนเช้าซึ่งผมก็จำไม่ได้ล่ะว่าไอ้เจ้าหมอนั้นเค้าชื่ออะไร ก็ได้เอกเขนก นอนกองอยู่กับพื้น แล้วก็พยายามรีบลุกขึ้นลุกลี้ลุกลน แล้วก็ เดินกระเพกๆ หนีไป ผมเห็นในมือของเค้าถือปากกาแน่นเหมือนโกรธแค้นใครอย่ามาก กะจะฆ่าให้ตายในดาบเดียวเหมือนในหนัง แอดซาซิน ยังไงยังงั้น ผมก็ไม่ได้สนใจนักแต่ที่น่าปะหลาดใจก็คือไม้พลองอันนั้น มันเป็นไม้พลอง ที่มีชื่อผมอยู่ แล้วก็เป็นรายมือของผมเอง และมันก็เป็นอันเดียวกับที่ ผมนำไปไว้ข้างบ้านตั้งแต่วันจันทร์หรือวันอาทิตย์นี่แหละ แล้วมันมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง อีกอย่างนึง ที่น่าตกใจก็คือ หลังจากนั้นไม่นาน ผมก็มองเห็นตัวเองที่เกิดเหตุการณ์แบบนั้นแต่ เหมือน เป็นภาพวีดีโอวงจรปิดสมัยก่อน มองเห็นแค่ผมกับเจ้าหมอนั้น แล้วเค้าก็เดินเข้ามาข้างหลัง พยายามจะเอาปากกาปักหัวผมเพราะแค้นที่พูดไม่เข้าหูเค้าแต่ เพราะเหตุใดก็ไม่ทราบ ไม้กระบองอันนั้นก็โผล่มาอย่างหน้าอัศจรรย์ แล้วก็ขัดขาเค้าล้มลงไป แล้วต่อมาอีกไม่นานเพื่อนผมก็บอกเรื่องนี้เพราะมีคนเห็นเหตุการณ์แต่ก็เอาผิดอะไรไม่ได้เพราะตอนนั้นยังเด็กอยู่แถมไม่มีหลักฐานอะไร ผมก็ไม่ได้เอาผิดและไม่ได้คิดอะไรอีกด้วยเพราะเรื่องที่ผ่านมาแล้วผมก็ขออโหสิกรรมที่ผมพูดอะไรให้เค้าไม่พอใจ แล้วมารู้อีทีตอนหลังว่าเค้าติดยาบ้า(สมัยก่อนเรียกว่ายาม้า กินแล้วคึก) มันแพร่ระบาด ขนาดผมก็เจอเพื่อนเกเรๆในห้องชวนให้ซื้อแล้วก็ลองเสบดู แต่ผม ไม่อย่างเดียวเพราะ ผมจะไม่แตะเด็ดขาดเรื่องนี้ เป็นเพราะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน
    เป็นเรื่องแรกที่ผมประสบมาโดยที่ไม่มีใครรู้ แต่ตัวเราเองรู้ ว่าน่าจะมีอะไรสักอย่างนึง หรือสิ่งศักสิทธิ์ปกป้องเราอยู่หรือไม่ก็เรายังมีประโยชน์กับคนอื่นๆในภายภาคหน้าก็เลยยังไม่ถึงเวลาตายล่ะมั่ง ที่ผมคิด (ติดตามต่อไปเรื่อยๆนะครับ จะได้รู้ความจริงใน เรื่อง ใครกันนะที่มาช่วยให้รอดตาย มันจะเฉลยในเรื่องหลังจากเรื่องผีตายโหงครับ เพราะมันเป็นเรื่องที่ซับซ้อน แต่ผมประสบมาด้วยตัวเองพบเจอกับสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ในชีวิตอันสั้นนี้ของผม)

    เรื่องต่อมา ท้าซิ่งนรกยังไม่รับ

    เรื่องนี้สั้นๆครับสักประมาณ1-2ปีต่อมา ก็ พอดีได้รถใหม่ๆตอนช่วงผมเรียน ปวช แต่เป็นรถมือสอง ชอบขับซิ่งมากๆ ตอนนั้น อยู่ในเมืองครับ ขับมา100กว่ากิโลเมตร เกือบจะถึงทางโค้ง ตอนนั้น ผมเอาน้องอีกคนนึงซ้อนท้ายไปด้วย เป็นเด็กที่อยู่แถวๆบ้านผมนี่แหละรุ้จักกันอยู่ พอมาถึงทางโค้งผมก็ไม่ชอบเบรคชะลอ เท่าไหร่จะผ่อนคันเร่งมากกว่า แต่มันก็ยังเร็วอยู่ดี เกือบ100กิโลเมตร แล้วผมก็แซงรถทางซ้าย แต่ไม่เห็นรถว่ามีรถจอดอยู่คันนึง เบรคไม่ทันครับ ชนอย่างจัง ผมก็ไม่รู้ว่าตอนนั้นมันเกิดขึ้นได้ยังไง เพราะ เหตุการณ์นี้ผมจำได้แม่นทีเดียวเพราะ ว่าถ้าหากชนด้วยความเร็วขนาดนั้น 1 คนซ้อน จะต้องกระเด็นไปข้างหน้า ผม จะต้องมุดเข้าไปใต้รถกระบะ (ตอนนั้นชนรถกระบะ) ชนแรงมาก เพราะ ชนแป๊ปเดียวคนมุงกันเต็มเลย เสียงดังสนั่น แต่ เหตุการณ์ ณ ตอนนั้น มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นครับ เพราะว่า ทุกอย่าง เหมือนหยุดไปแป๊ปนึงแล้วก็ค่อยๆเคลื่อนไหวเหมือนภาพสโลโมชั่น ช้ามากๆน้องที่นั่งหลังรถก็ไม่ได้กระเด็นนะทั้งที่จับเอวผมพอหลวมๆไม่ได้แน่นอะไร ชนกันดังปั๊งแล้วรถผมก็เหมือนกันมันมีแต่เสียงเครื่องยนต์แต่ล้อไม่หมุนซะอย่างงั้น แล้วผมกับน้องก็ค่อยๆเอนลงไปนอนแบบว่า เอนตัวล้มข้างๆช้าๆ ไม่มีบาดแผลอะไร แล้ว คนก็มาดู อย่างเดียวจริงๆ ไทยมุง สักพักผมกับน้องคนนั้นก็ลุกขึ้น ผมถามเค้าว่าเป็นไรไหมเค้าก็ตอบว่าไม่เป็นอะไรคับพี่ บาดแผลไม่มีแม้แต่น้อย สักพักเจ้าของรถกระบะที่ผมไปชนเค้าก็เข้ามาถามผมว่าเป็นอะไรไหม ผมก็บอกว่าไม่ครับ แล้วเค้าก็รีบขับรถออกไป ผมมานึกดูอีกที ตรงนั้นมันเป็นทางโค้งซึ่งตำรวจคงจะห้ามจอด เค้าผิดก็เลยรีบขับรถหนีไปเลย ตอนขับรถออกไปผมมองเห็นกันชนรถเค้า ยุบแค่ นิดเดียว รถผมล้อเบี้ยวนิดหน่อย ผมกับน้องก็ไม่เป็นอะไร งงมากกับเหตุการณ์ในครั้งนี้

    มาถึงสักที่เรื่อง "ผีตายโหงหลังสุสารคนจีน" ในจังหวัดเชียงราย ก่อนที่จะออกจากเมืองไปนั้นจะมีสุสานของคนจีนที่ว่า ข้างหน้าเป็นแอ่งน้ำข้างหลังเป็นภูเขา ที่ตรงนั้นเหมือนในตำราเป๊ะ ก็เลยมีสุสานพอสมควรขับรถผ่านทีไรเย็นวาบๆทุกที เอาล่ะ เดี๋ยวก่อนที่จะเข้าเรื่องนี้
    มันก็จะมีสมาชิกในกลุ่มผม มีชื่อเพื่อนผม คือ เจ้าบอย เจ้าแม๊ค เจ้าโอม เจ้าอัง เจ้าตั้ม เจ้าโห อีกคนชื่อบ่วง แล้วก็ผม
    ตอนนั้น เราเรียนมหาลัยกันแล้วผมหน่ะ ไม่ค่อยสนิทกับพวกที่เหลือเท่าไหร่เพราะผมเรียนถึงแค่ ม.3 หลังจากนั้นผมก็ไปเรียนต่อ ปวช. สายอาชีพแล้วก็มหาลัย จะสนิทกันมากๆแค่2คน คือเจ้าแม๊คกับเจ้าบอย
    ตอนที่แยกย้ายกันไปเรียนต่างที่ต่างถิ่นกัน พอช่วงปิดเทอม ก็ชวนกันมานั่งกินหมูกะทะที่ร้านฟ้าใส มีมอเตอร์ไซกัน4กัน
    ช่วงนั้น TVมีรายการๆนึง ที่ฮิตกันมาก ผมจำไม่ได้ว่าอยู่ช่องไหนแต่มันเป็นช่วงลองของยุคแรกๆ ที่ออกรายการทีวี ลองของตามที่ต่างๆ แล้วพอดีกับที่มานั่งกินหมูกะทะกัน พอกินหมูกันอิ่มหนำสำราญแล้วก็พุงกาง ผมก็นึกรายการทีวีนั้นขึ้นมาได้แล้วก็พูดขึ้นมาว่า "เห้ยพวกเอ็งไปลองของกันไหม" ทุกคนก็หันไปมองหน้ากันอย่างฉงนแต่ก็ไม่มีใครปฏิเสธ ไอ้เจ้าแม็ค มันก็พูดขึ้นมาว่า "ก็ดี แล้วจะไปลองของกันที่ไหนล่ะ"
    ผมกับเพื่อนๆอีก5-6คน ในร้านหมูกะทะ ก็นั่งคิดกันอยู่สักพักว่าจะไปลองของกันที่ไหนดี ตอนนั้น บ้านล้าง ก็มีหลายแห่ง ที่จำได้ตอนนั้นไปลองของด้วยกันทั้งหมดอยู่4ครั้ง 4ที่ด้วยกัน(พักแปปนะคับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 25 เมษายน 2013
  2. Jasmin99999

    Jasmin99999 วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    971
    ค่าพลัง:
    +3,332
    รอติดตามจ้า
     
  3. Pukku

    Pukku เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2012
    โพสต์:
    327
    ค่าพลัง:
    +899
    มาต่อเร็วๆนะอยากฟัง
     
  4. buakwun

    buakwun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    2,830
    ค่าพลัง:
    +16,613
    ขออนุโมทนาบุญในการนำมาเล่าให้ฟ้งค่ะ อ่านแล้วสนุก แล้วก็เพลิดเพลินดีค่ะ มีประสบการณ์อะไรก็มาเล่าให้ฟังเรื่อย ๆ นะคะ
     
  5. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    มาต่อกันล่ะคับเพื่อไม่ให้ต้องรอนาน ผมมีภาพประกอบด้วยนะแต่ต้องรอให้ถึงตอนที่4 ^^;

    สถานที่ 1 ("บ้านเช่าใจกลางเมืองเชียงราย")

    แต่ละคนก็โหวตกัน แต่ละที่ แล้วก็ลงเสียงกันว่าจะไปที่ไหนก่อนเลยโหวตกัน
    หลังจากที่มีผลโหวตในโต๊ะหมูกะทะเสียงเป็นเอกฉันท์ ว่าคือสถานที่บ้านเช่าเก่าอยู่ใจกลางเมืองเชียงราย ใครเป็นคนเชียงรายหรืออยู่เชียงรายคงจะรู้จักดี จะมีเส้นๆนึงที่ไม่ไกลจากถนน มากนัก รถก็ผ่านพลุกพล่านอยู่แต่ลองมองไปข้างๆ ลึกเข้าไปอีกหน่อย จะเป็น กำแพงเก่าๆมีเถาวัลย์พันอยู่น่าจะทิ้งล้างมานานหลายปีแล้ว พวกเรานึกกันออกแล้ว คงจะเคยเห็นห้องเช่าที่เป็นห้องชั้นเดียวแล้วเรียงเป็นแถวยาว มีประมาณ 5ห้อง
    เอาล่ะมากันต่อที่ร้านหมูกะทะ หลังจากที่ได้ลงมติแล้ว ก็พากันขับมอเตอร์ไซค์ พากันไปสถานที่นั้น แต่จะเข้าทางนั้นไม่ได้เพราะกำแพงสูงและก็มีต้นไมยราบเถาวันต่างๆ เต็มไปหมดเข้าลำบาก ตอนแรกก็เกิบจะล้มความตั้งใจแล้ว แต่ มันมีเพื่อนอีกคนนึงบอก แกเข้าข้างหน้าไม่ได้แกก็อ้อมไปเข้าด้านหลังสิฟะ
    ทุกคนก็ขับรถอ้อมไปด้านหลัง ผมบอกได้คำเดียวว่าขนลุกซู่ทั้งตอนนี้และตอนที่กำลังนั่งเขียนอยู่นี้ด้วย
    เอาล่ะมาต่อ พออ้อมไปด้านหลังแล้ว มันจะมีบ้านหลังนึงกั้นอยู่ บ้านหลังนี้พุพังมากซะจนจะเหลือไม้เป็นแผ่นๆ พื้นก็เป็นรู ต้องเดินเล๊อะ เข้าไป เพราะ ข้างๆก็จะมีท่อระบายน้ำ เดินมาเกือบจะถึงจุดที่จะปีนข้ามเข้าไปได้ แต่ มันมองไม่เห็นมืด และทุกคนก็ไม่มีไฟฉาย ผมก็ได้ทีล่ะ พูดว่า"เห้ยพวกเอ็งข้าว่ามันมืดมองไม่เห็นวะอันตรายเดียวก็ผลัดตกลงไปทางระบายน้ำหลอก กลับกันดีกว่าไหม(เกิดอาการปอดขาวขึ้นมาทันใดยอมรับเลยว่าตอนนั้นเริ่มกลัว)"(ทางระบายน้ำเชี้ยวมากน้ำไหลแรง และลึกด้วย ไม่มีอะไรกันต้องเดินเล๊อะกำแพงเข้าไป)
    และใครก็ไม่รู้พูดขึ้นมาว่า "เอ้ยเมิงจะกลับทำไมวะ แถวนี้ก็มี เซเว่น ก็ไปซื้อเทียนมาดิ "
    ผมคิดในใจ(ไอ้บ้าเอ้ย กะจะหาข้ออ้างกลับซักหน่อย ยังจะมาโรแมนติกถือเทียนเข้าไปลองของกันอีกนะพวกเมิงนี่)
    พอไปซื้อเทียนเสร็จกลับมาอีกรอบนึง
    อยู่หน้าบ้านล้างนั้นผมก็พูดขึ้นมาว่า "เห้ยแล้วใครนำวะ"
    เพื่อนมันก็ประสานเสียงกันโดยที่มิได้นัดหมาย ว่า "ก็เอ็งไง"
    ผมซึ่งเป็นคนเริ่มคนต้นคิด (คิดในใจว่า "ไม่น่าเลยตู") คนต้นคิดแกก็นำดิ เสียงเพื่อนลอยๆมาอีก ทีนี้ เถียงมันไม่ออก ก็ต้องจำใจไปทั้งๆที่กลัว
    ถึงกำแพงปุ๊บก็เอามือปีนขึ้นไป ชะเง้อ มองเข้าไป บรรยากาศ มันจะอยู่ในลักษณะ ซ้ายมือจะเป็นเหมือนบ้านเช้ายกสูง เหมือนบ้านไม้คนไทยสมัยก่อน ยังไงยังงั้นแหละ แต่ยกไม่สูงมาก ผมก็ปีนลงมาก่อนที่จะเดินไปบ้านไม้นั้นผมเดินไปทางขวาก่อน ซึ่งมันจะเป็นลักษณะ ห้องแต่ โล่งๆมีกำแพงแค่ 2ด้าน ด้านบนกับด้านหน้าเปิดโล่งเหมือนห้องโดนทุบกำลังจะทำใหม่ และพื้นก็เต็มไปด้วย ใบไม้ ที่บ่งบอกว่า ทิ้งล้างมานานนับหลายปี
    มาต่อกันคับ
    ผมต้องเดินนำ ผมเดินผ่านห้องที่ 1.... แบบเสียวๆ ก็ไม่มีอะไร ห้องที่ 2.....ก็ไม่มีอะไรแต่ว่า พอเดินไปห้องที่3ห้องสุดท้ายผมก็ได้เจอ............... กลิ่นเหม็นเน่าเหมือนอะไรตาย เน่าๆแต่พอเดินกลับมาห้องที่สองกลับไม่มีกลิ่นอะไรเลย ผมสงสัย ว่ามันจริงรึเปล่า ก็เลยกลับไปห้องที่3อีกรอบ ก็มีกลิ่นเหม็นเหมือนเดิม คิดในแง่ดี "หนูคงจะตายแถวนี้มั้ง" แต่ห้องทั้ง3ก็ไม่เจออะไรมันโล่งๆ
    พอสำรวจข้างขวาเสร็จแล้ว ก็เดินไปสำรวจด้านซ้ายต่อ ที่พวกผมมองเห็นว่าเป็นบ้านไม้เก่าๆยกสูง พอเดินไปใกล้ๆ จะสังเกตุตามกำแพงจะมีเหมือนรอยขีดขั่ว รอยต่อสู้ รอยเขียนต่างๆนาๆ แล้วเพื่อนก็ดันๆ ให้ผมเดินขึ้นไปชั้น2
    ผมก็พูดขึ้นมาว่า "เห้ยพวกเมิงอย่าดันซิกูรู้แล้วขอทำใจแป๊ปนึงเดี๋ยวจะขึ้นไปดูให้" ทำใจอยู่ครู่หนึ่งก็รวบๆสติที่มีเหลือน้อยนิดกัดฟันเดินขึ้นไปปรากฏว่าเจอ .................. ประตูที่ถูกล๊อกอย่างแน่นหนาเปิดไม่ได้แต่ก็มีรอยขีดเขียนตามฝาที่เป็นไม้ มีรอยเหมือนจะเป็นรอยมีดด้วย หลายๆอย่างปนเปกันไปมองไม่ค่อยออกเพราะแสงเทียนมันก็สลัวๆอยู่แล้ว อ่ะ จริงๆมันยังไม่หมดหรอกนะ ด้านหน้าถ้าเราเปรียบเทียบว่าเราปีนเข้ากำแพงแล้วก็ยืนอยู่เฉยๆ ก็ด้านหน้าจะมีห้องเช้าอีก5ห้องซึ่งมีประตูทุกห้องแต่!!!! มันไม่ได้ล๊อค และแล้วผมก็เป็นคนแรกที่ต้องเปิด
    ห้องที่5นับจากขวาไปซ้าย เพราะเราเดินตรงไปห้องเช่ามันจะอยู่เยื้องๆทางซ้าย ก็เลยเข้าจากทางด้านขวาก่อน เอาล่ะ ห้องที่5 หลับตาเปิดประตูแล้วก็พยายามๆค่อยๆลืมตา ปั๊ป ก็ไม่เจออะไรแต่ ฝุ่นนี่หนาหลายนิ้วเลยทีเดียว
    ต่อมาห้องที่4 เปิดมาปั้ง................ ก็ไม่เจออะไร
    ต่อไปห้องที่3 เป็นห้องที่ผมรู้สึกแปลกๆเป็นห้องเดียวที่ผมรู้สึกขนลุกเป็นอย่างมากเหมือนจะมีเซ้นส์ อะไรสักอย่างแต่เปิดมาก็ไม่มีอะไร
    ห้องที่ 2 และ 1 ก็ไม่เจออะไร
    แต่ห้อง 3 เนี่ยสิ ขนลุกมากๆความรู้สึกบอกได้เลยว่า เหมือนมีแมลงตัวเล็กๆวิ่งพลุกพล่านไม่รู้กี่ตัว ในร่างกายเลยทีเดียว
    พอสำรวจเสร็จหมดแล้วเป็นอันว่า ภาระกิจนี้ Mission Complete

    แต่เดี๋ยวก่อนยังไม่จบ เพียงแค่นี้ หลังจากเหตุการ ลองของครั้งที่1ผ่านไปประมาณ3-4เดือนก็มีเพื่อนคนนึงบอกกับผมว่า ที่ๆเราไปลองของกันหน่ะ เคยมีผู้หญิง นักศึกษา โดนฉุดเข้าไปรุมข่มขืน แล้วก็ถูกฆ่าปิดปากในบริเวณบ้านล้างแห่งนั้น เมื่อผมรู้แล้วผมก็แผ่เมตตาให้เลยครับ แล้วครั้งแรกก็จบด้วยประการฉะนี้
    ยังเหลืออีก 3ที่เอาไว้ต่อพรุ้งนี้ละกันครับง่วงมั๊กๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 25 เมษายน 2013
  6. เนยนพนะโม

    เนยนพนะโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +429
    :cool:มีบางอย่างคุ้มครองคุณอยู่ หรือยังไม่ถึงคราวเคราะห์ก็ได้ แต่ตอนรถชน สิ่งที่เขาคุ้มครองคุณคงจะเจ็บเหมือนกัน ว่างๆ ก็ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นๆ ด้วยนะคะ:cool: สาธุ...
     
  7. buakwun

    buakwun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    2,830
    ค่าพลัง:
    +16,613
    ช่างกล้าไปเปิดประตูดูทีละห้องเลยนะ ถ้าเป็นข้าพเจ้าล่ะก็ โกยตั้งแต่ปีนกำแพงไปแอบดูแล้วล่ะ.. ฮ่า..ฮ่า..
     
  8. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    มาในสถานที่2 กันครับ
    แต่ก่อนที่จะเล่า ผมมีอะไรจะบอกครับ ความจริงแล้วผม หน่ะ ทำงานเป็นกราฟฟิกดีไซด์อยู่ แต่ตอนนี้ก็ตกงาน กำลังจะไปหางานที่ กทม.(อีกรอบ) อันนี้คงจะไม่เกี่ยวแต่ที่บอกว่าเป็นกราฟฟิกหน่ะ ความฝันของผม คือ จะทำ animation ที่เป็น เสมือนจริง(ไม่ใช่การ์ตูนนะ) ในผู้ปฏิบัติที่ได้ไปประสบพบเจอได้เห็นมา(โดยให้คนทั่วไปได้เห็นด้วยแต่เป็นตาเนื้อ ไม่ว่าจะเป็นสวรรค์ นรก นิพพานหรือ เทพพรมต่างๆ ที่อยู่ในรูปแบบ VDO) และตัวผมจะทำให้มันเป็นจริงแต่อยู่ใน ตู้สี่เหลี่ยมที่เห็นเป็นภาพได้ ก็เพราะว่า
    มี เทวดา กับ นางฟ้าคู่นึง เหมือนกับท่านบอกให้ผม ทำ เป็น จำลองตัวท่าน โดยทำให้เครื่องไหว อากับกิริยาต่างๆให้เหมือนท่าน องค์นั้น พร้อมกับนางฟ้า ให้คนอื่นๆได้เห็น ว่า เทวดาเป็นแบบไหน ผมหน่ะ ทำได้แต่ ปัญหาในตอนนี้ก็คือ เวลากับเงินทุนไม่มีต้องเก็บเงินซื้อคอมเพื่อที่จะมาทำ เพราะต้องใช้เครื่องที่ต้องแรงพอสมควรจึงจะทำออกมาให้เสมือนจริงได้
    พูดง่ายๆก็คือ ผมปฏิบัติธรรม ไปเจอทางเข้าพระนิพพาน (สมมุติ "แต่ในความเป็นจริงผมก็เคยไปมาแล้ว") แล้วก็ทำออกมาให้อยู่ในรูปแบบ vdo animation เสมือนจริง ทำให้ทุกคนเห็นว่าเป็นแบบไหนลักษณะอย่างไร แต่การทำแบบนี้ มันมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและผู้ที่ไม่เห็นด้วย ผมจึงตัดสินใจแล้วว่า ผมจะทำ และต้องปรึกษาพระอาจารย์ด้วย (ผมเป็นพุทธภูมิ) หากทำความฝันนี้เสร็จสิ้นลงแล้วผมก็จะบวชไม่สึกเป็น พระป่า เพราะเป็นคนชอบปฏิบัตินั่งสมาธิ

    และอีกไม่นาน ผมจะทำให้ทุกคนได้เข้าไปอยู่ในบรรยากาศในสิ่งที่ผมเคยเจอมา ผมจะย้อนเวลาผ่านคอมพิวเตอร์นี่และแล้วพาทุกท่านได้เห็นครับ แต่ตอนนี้ ผมจะขอ เล่าเรื่องให้จบก่อน

    เอาล่ะเพื่อไม่ให้เสียเวลา มาต่อกันครับ

    [​IMG]
    ภาพเอามาจากเว็บอื่นนะครับ แต่สถานที่ใกล้เคียงกับบ้านหลังนี้ครับ
    ในตอนที่2 บ้านร้างนอกกำแพงสนามกีฬา

    พอกินหมูอะไรเสร็จแล้วก็พากันออกมา โดยลงมติเห็นชอบว่า เอาสถานที่ ที่นี่แหละ คราวนี้ เจออะไรแปลกๆครับ แม้แต่ตอนนี้ที่ผมกำลังพิมพ์อยู่นี้ผมก็นึกย้อนกลับไปขนก็ลุกขึ้นมาทันที เอาล่ะ ทั้ง7หนุ่มหล่อชายฉะกัน พากันไปลองของ(อีกแล้ว) คราวนี้ ไม่ได้มาแค่กลิ่นหรอกนะ เห็นกันจะๆ เริ่มต้นที่ ขับรถวน สนามกีฬา (ขอบอกว่า สนามกีฬาแห่งนี้มีคนตายมาเยอะมากๆ) เพราะสาเหตุอะไรผมก็ไม่ทราบ มันมีหลายที่ครับ บางคนจมน้ำตายในสระว่ายน้ำของสนามกีฬา บางคนก็ตกท่อ บางคนก็ถูกยิง เพราะ สมัยก่อน คนที่นี่ ดุมากนะครับ เค้าไม่พอใจกันแค่มองหน้าก็ยิงกันตาย เห็นออกบ่อยๆ เอาล่ะ อ่อ แล้วอีกเรื่องนึงครับ ข้างๆสนามกีฬาเยื้องๆไปด้านหน้า จะเป็นเมรุเผาศพ รอบก็จะปกคลุมไปด้วยป่าไม้รกๆสูงถึง 2ช่วงตัวเลย ถัดมาอีกหน่อยก็จะเป็นต้นไม้ที่มีศาลพระภูมิเต็มไปหมดแล้วก็ต้นไม้ที่พันด้วยผ้าหลากสี แต่ พวกเราไม่ได้ไปด้านหน้าตรงนั้นครับ
    เราขับรถอ้อมไปด้านหลัง ฝั่งตรงข้าง ยืนอยู่ข้างนอกมองเข้าไปจะเห็นหลังคาบ้าน ลิบๆ คือเห็นอยู่หลังพุ่มไม้

    บ้านหลังคนเป็นบ้านธรรมดาร่วมสมัยคือ ข้างล่างจะเป็นปูนส่วนชั้น2จะเป็น ไม้ เอาล่ะมาเริ่มกันครับ
    เมื่อทุกคนจอดรถไว้ข้างทาง แล้วคราวนี้ ผมให้ไอเจ้าแม๊กนำครับ เรียงลำดับนะ 1.เจ้าแม๊ค 2. ผม 3.เจ้าบอย 4.อัง 5.โอม 6.โห
    อ่อ ผมลืมบอกไปคราวนี้มากันแค่ 7 คนครับ เอ๊ย 6คนครับ
    ก็ต้องเดินเรียงกันเป็นแถวเรียง1เพราะป่าสูงท่วมหัวเลย เดินเข้าไปประมาณ (ผมนับก้าวเอาล่ะกัน) 15ก้าว เห็นจะได้ ไม่ไกลมาก ป่าขึ้นรก เอาล่ะ
    ผมอยู่คนที่สองในขณะที่ทุกคน มัวแต่เอามือปัดกิ่งไม้ที่ขวางทาง ผมก็ตกใจ และก็หยุดเพราะผมเห็นอะไรบางอย่าง แบบค้างไปเลย ตัวแข็งอ่ะครับที่ผมเห็นคือ.......................กลุ่มก้อนสีขาวๆใสๆ ยาวประมาณ1คนนอน 1.6เมตรผ่านหน้างผมประมาณ2ศอกมาจากทางขวามือของผมไปทางซ้าย แล้วผมก็สะกิดไอเจ้าแม๊คแล้วก็พูดแบบๆกระสิบเบาๆว่า "เห้ยไอแม๊ค มึงเห็นอย่างที่กูเห็นรึเปล่าวะ" ไอเจ้าแม๊คมันอยู่ข้างหน้าผมหันมาแล้วมันก็ไม่พูดอะไรแต่ พยักหน้า ผมก็คิดว่าคงไม่ได้ตาฝาด เพราะ มันไม่ใช่เมฆแน่นอน ล้านเปอร์เซ็นเพราะว่า ตอนนั้น ไม่มีลมสักนิด ก่อนที่จะถึงบ้าน กลุ่มก้อนที่เหมือนคล้ายๆก้อนเมฆนั้น ก็ลอยจากทางซ้ายมาทางขวาอีกที อูยๆขนลุกครับแต่ผมก็ไม่ได้หันไปถามไอเจ้าพวกที่อยู่ข้างหลัง แต่ผมเหลียวไปมองพวกนั้นมันก็กำลัง ปัดกิ่งไม้กันอยู่อย่างเมามัน พวกนั้นมันไม่ได้สนใจอะไร ก็เลยครั้งที่2นี้ผม เห็น2คนกับเจ้าแม๊ค แต่พอไปถึงบ้านหลังนั้น ไม่มีทางเข้า แต่หน้าต่างตรงกับทางที่เราเดินเข้าไป ก็ต้องปีนขึ้นอีกหน่อย เอาล่ะ ข้างในเป็นไงบ้างนะก็เดินมองหาคือ เดินกระจายกันมองดูรอบๆ และก็มี2-3คนขึ้นไปชั้น2 รวมทั้งผมด้วย แต่ด้านบนของบ้านหลังนั้น เปิดโล่งเห็นท้องฟ้า คือไม่มีหลังคา แล้วผมก็ลงมา โดยที่อีก2คนยังอยู่ข้างบน แต่ความรู้สึกของผมคือ ตอนนี้ ทำไมมีอยู่ 7 คน โอยขนลุกเลย ผมลงมาแล้วแต่ความรู้สึกผมนะตอนนั้น เหมือนมีใครอยู่ข้างบนอีกคนนึง พอเวลาผ่านไป 5-10นาที มองไปรอบๆก็มีแต่ป่าไม้รกๆ ไม่มีอะไรก็เดินทางกันกลับไปยังที่เราเอารถไปจอด
    เป็นอันว่าเสร็จสิ้นภาระกิจ ครั้งที่2 (ครั้งแรก มีแต่กลิ่น ครั้งที่2เห็นเป็นเหมือนวิญญาณลอยให้เห็น) ตอนต่อไปครั้งที่ 3 นี่ โหดมากๆครับ เกือบ โดนกัดกินด้วย น่ากลัวมากๆ เพื่อนผมเกือบตาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 25 เมษายน 2013
  9. mild37naruk

    mild37naruk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    118
    ค่าพลัง:
    +192
    รอฟังอยู่ค่ะ >.<~
     
  10. buakwun

    buakwun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    2,830
    ค่าพลัง:
    +16,613
    อ่านเรื่องราวการทำงานของคุณ และเรื่องความหวังที่ตั้งใจไว้อนาคต ก็ขออนุโมทนาบุญ และขอให้สำเร็จสมดังปรารถนาด้วยนะคะ

    แล้วจะมารออ่านต่อค่ะ
     
  11. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    ขอบคุณครับ สำหรับกำลังใจ และโมทนาบุญด้วยครับ

    เอาล่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา
    ผมมาเล่าต่อเรื่องครั้งที่3 นะครับ

    ครั้งที่3 "บ้านร้างในชานเมือง"

    เหมือนเดิมครับ เจอกันที่ร้านหมูกะทะ คราวนี้ เริ่มนึกไม่ออกกันล่ะ แต่คลับคล้ายคลับคา ว่า แถวๆรอบนอกฝั่งสนามกีฬาจะมีบ้านร้างหลังนึงนะ
    พอมาถึง จอดรถกันครับ
    ไอเจ้า โหก็พูดขึ้นมาว่า "มึงแน่ใจเหรอว่า เป็นบ้านหลังนี้หน่ะ"
    ไอเจ้าแม๊คก็ตอบ "แน่ใจดิ ก็กุขับรถผ่านแถวนี้บ่อยๆ"
    ไอเจ้าบอยก็พูดว่า "ถ้าไม่แน่ใจก็ลองไปสัก 2-3คนก่อนไปดูก่อนว่าใช่ป่ะ"
    ไม่ได้จับไม้สั้นไม้ยาวหรอกครับ เอา 3-4คนที่ขับรถมารั้งท้ายหน่ะ ไปดู
    บรรยากาศบ้านหลังนี้ มันน่ากลัวจริงๆ สงสัยจะเหี้ยน(ไอแม๊คนึกในใจ) ผมรู้ได้ไงหน่ะเหรอ มันมาเล่าให้ผมฟังอีกที
    เอาล่ะ เอาก็เอาฟระ เดินเข้าไป3คน อีก4-5คนอยู่ที่รถ สักพัก เดินได้ไม่ถึง10ก้าว หมาก็หอน เห้ย มันจะหอนอะไรกันตอนที่กำลังจะเข้าไปบ้านร้างวะ ก่อนหน้าก็ไม่หอน (สามทหารเสือ)ก็เดินดุ่มๆเข้าไปพร้อมกับเสียหมาหอน บ้านหลังนั้น ก็เป็นบ้านไม้ พอเข้าไปใกล้ๆ ไอแม๊ค"เห้ยทำไมมันดูใหม่ๆจังวะ" ไอบอย"คงจะเพิ่งร้างมั้ง" ผมก็พูดว่า "มันดูแปลกพิกล??"
    สักพักได้ยินเสียงฝีเท้าราวกับตัวอะไรไวๆมาทางนี้ทันที เฮ้ย เพวกเมิงตัวใครตัวม๊าาาานนนน...วิ่งกันกระเจิงทั้งคนทั้งรถ ใจหายแว๊บ (ทุกคนหอบกันแบบหายใจไม่ทั่วท้อง)"ไม่เอาล่ะ บ้านนี้" ใครไม่รู้พูด กลับบ้านนนน (โชคยังดีนะ หมาถูกล่ามโซ่ไว้ มันมาไม่ถึงรถ)
    สรุป บ้านหลังนั้นมีคนอยู่ ครับ เลี้ยงหมาด้วยดุด้วย โอย เกือบเป็นหมูกะทะให้กับน้องหม๊ะหมา ไปซะแล้ว
    ภาระกิจ fail ครับ ครั้งนี้ เป็นครั้งที่หน่ากลัวที่สุดล่ะสำหรับพวกนั้น แต่ผมคิดว่าครั้งที่4 นี่แหละครับ เจอแบบจังๆเลย ก็คือผีตายโหง โดยจะเล่าในช่วงต่อไปครับ
     
  12. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    มาถึงครั้งที่4 ครับ
    ก็นัดกันมากินหมูกะทะตามเดิมแต่ครั้งนี้ ก็คิดกันไว้ว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายเพราะช่วงนั้น พวกวัยรุ่นเกเรที่อยู่แถบนั้น อัตรายครับเพราะว่า มีพวกวัยรุ่นชอบเอามีดดาบซามูไร ซึ่งมีด้ามยาวเหมือนซามูไร หาซื้อได้ง่ายมากครับ และ ชอบไล่ฟันชาวบ้าน ตอนกลางคืนโดยไม่มีเหตุผล คือเจอก็ตามไปฟัน เหมือนเหตุกรณีของ น.ศ. ที่ราชภัฏ แห่งหนึ่ง ขับรถไปหลัง ม. ซึ่งเป็นที่เปรี่ยว ไม่มีแสงไฟสักนิดมีแต่แสงจากรถมอเตอร์ไซ และได้มีชายวัยรุ่นอายุประมาณ 18-20ต้นๆ ขับรถตามพอกระชั้น ใกล้กับรถมอเตอร์ไซที่มีสองสาวนักศึกษาขับอยู่ข้างหน้า ก็ง้างมือฟันอย่างเลือดเย็น โดยไม่รุ้ว่าเป็นไรกุฟันหมด ประมาณนั้น พวกผมก็เลย ตกลงกันว่า เออ มันเริ่มอันตราย ซึ่งพวกเราก็ไม่ใช่ว่าเป็นคนขี้กลัวอะไรหรอกนะ แต่ไม่อยากจะมีเรื่อง เพราะพวกผมก็เป็นเด็กดีไม่สูบบุหรี่กินยา หรืออะไรทั้งนั้น นอกจากเหล้าก็มีเพื่อนๆผมกินบ้างเป็นสังคม เพราะมันจะมีปัญหาวุ่นวายตามมาทีหลังก็เลยตกลงกันไว้อย่างนั้น

    เอาล่ะ เข้าเรื่องกันเลย หลังจากที่ตกลงกันไม่ได้ว่าจะไปที่ไหนเพราะนึกไม่ออกกันแล้ว และก็เป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะไปลองของกัน
    พอกินอิ่มหนำสำราญใจกันครบทุกคนแล้ว
    ผมก็พูดว่า "อืมไปลองของกันเถอะเดี๋ยวมันจะดึก" เออๆๆ
    'แล้วจะไปที่ไหนล่ะ' แม๊คถาม
    "ก็ไปแถวๆนอกเมืองก็แล้วกันเผื่อมีบ้านร้าง" ผมตอบ
    "เออ ก็ได้เดี่ยวไปเอารถก่อน" คนอื่นๆตอบ
    พอขับรถออกมาแล้วนั้น ก่อนที่จะออกจากเมืองจะมีสุสานคนจีนตั้งอยู่ และเป็นทางโค้งด้วย ผมก็ไม่ได้เอะใจอะไรเพราะ ผมขับรถผ่านไปบ่อยๆ เพราะว่า ตอนเรียน ปวช ผมเรียนอยู่ วิลัย ที่ตั้งอยู่นอกเมือง ต้องผ่านเส้นนี้เป็นประจำอยู่แล้ว
    แต่วันนี้มันรู้สึกแปลกๆ ยังไงไม่รู้พิกล
    แม๊คเป็นคนขี่ ผมเป็นคนซ้อน
    และคนตามหลังมาอีก2คัน
    ตอนนั้นไปกันแค่6คน
    รถมอเตอร์ไซ 3คัน
    ในขณะ ที่รถกำลังแล่นผ่านสุสานอยู่นั้น ผมก็ไม่ได้เอะใจอะไรก็ชมนกชมไม้ตามทางไปแต่ผมเหลียวมาทางซ้าย ปรากฏว่า ......... เจอ ป่าไมยราบ และที่ตรงนั้นคนปรกติธรรมดาไม่สามารถที่จะยืนได้ ข้างล่างก็เป็นแอ่งน้ำเล็กๆ ผมได้เห็น ร่างที่เป็นคนแต่เพราะอยู่ในเงามืด ผมเห็นเป็นรูปเงา ปรกติเงาคนเราจะติดดิน แต่อันนี้มันลอยๆ คือไม่มีขา แล้วลักษณะ เป็นเหมือนผู้หญิง กำลังอุ้มลูกอยู่แต่ผมเห็นลูกตาของเขาชัดเจน เพราะ ลูกตาของเขาจ้องมองมาที่ผม ในขณะที่ผมซ้อนท้ายรถที่แม๊คกำลังขับอยู่ รถค่อยๆแล่นผ่านทางโค้ง ผู้หญิงคนนั้นก็เหลียวหันมองตามมาในขณะที่รถแล่นไป (ในเวลานี้ทำไมเวลามันช้าลงยังไงก็ไม่รู้) ผมไม่ได้กลัว ณ ตอนนั้น ก็เพราะว่า ผมกำลังงงอยู่ แววตาช่างน่ากลัวอะไรแบบนี้ คืนนั้นเป็นคืนเดือนมืด ผมเป็นคนชอบคืนเดือนมืด ก็คือ ในขณะที่เวลาดึกๆ แต่ก็มีเงาของ แสงจัน กระทบพื้น ยังกับว่าตอนนั้นเป็นตอนเย็นๆยังไงยังงั้นเลย แต่ไม่ใช่ เวลาที่ผมอยู่เหตุการณ์นั้น มันเกือบจะเที่ยงคืนแล้วตะหาก
    พอ รถผ่านไป ตาผมก็ไม่ได้ละจากผู้หญิงคนนั้น เลยสักพักจากที่ไม่กลัว ทีนี้ขนลุกแบบตั้งตัวไม่อยู่เกือบจะตกรถ พอขับมาได้สักพักนึง ก็จอดรถ รอเพื่อนอีก4คนที่ตามหลังผมมา ผมก็บอกว่า "เห้ย คงไม่มีแล้ววะ กลับกันเถอะ" ขากลับ กลับอีกทางนึงซึ่ง เป็นเส้นข้างหลัง แต่เส้นนี้ มันมีบ้านอยู่ฝั่งนึงอีกฝั่งเป็นป่า เส้นนี้แหละที่ผมเจอกับอะไรบางอย่าง .........ตอนขับรถออกมาเพื่อที่จะลองของนั้น ผมมาเป็นคันแรก แต่ ขากลับ
    ผมกับแม๊คเป้นคนสุดท้าย ตามหลัง4คนนั้น ผมเพิ่งจะรู้จักคำว่าที่เค้าว่ากันว่า กลัวจนตัวแข็งเป็นแบบนี้นี่เอง เพราะว่า สิ่งที่ผมเจอนั้น.......เหมือนมีรถอีกคนนึงขับตามมา
    ผมก็นับถี่ถ้วนแล้วนะ ว่าเราเป็นคนสุดท้ายอีกอย่าง ตอนนัั้นไม่มีใครมาขับรถเหมือนพวกเราหรอก ดึกๆแบบนี้ผมก็ข่มใจกัดฟันพยายามหันไปมองด้วยร่างกายที่แข็งทื้อ พอหันไปปุ๊บก็เจอ...........................ผี!! ผีที่ว่านั้น เป็นลักษณะ เหมือนเงาสีดำ แต่ขับรถอยู่ ไม่มีตัวมมีแต่เราแต่เงานี้คือเป็นตัว งงกันไหมครับ และความรู้สึกตอนนั้น เหมือนกับว่า คุณถูกมัดไว้แล้วผีพุ้งเข้าใส่คุณ ยังไงยังงั้นเลย ผมก็สะกิดไอเจ้าแม๊ค
    แต่พูดไม่ออกไม่มีเสียง แปลกจิง พูดปากขยับแต่ไม่มีเสียงออกมาสักแอ๊ะ แต่ผมสะกิดเจ้าแม๊คมันก็พูดว่า"เมิงสะกิดทำติงไรวะ กุขับรถอยู่ "
    สักพักมันก็เหลียวมามองที่ผม ตาของไอเจ้าแม๊คมองผ่านผมไปทางด้านหลัง สักพักมันก็หันกลับแล้วก็ขับแบบเงียบๆ ต่อไป ในขณะ ที่รถใกล้จะถึงทางออกคือทางเลี้ยวเข้ามาเชื่อมต่อกับสุสาน ผมไม่เหลียวกลับไปอีกเลย
    จนแยกย้ายกันกลับบ้าน ผมรีบวิ่งเข้าบ้านพร้อมทั้ง สลับรองเท้า (มันเป็นความเชื่อของผมเองที่ได้ยินมา คือ ถ้าหากไม่อยากให้ผีตามไปถึงที่บ้านก็ให้เอารองเท้าวางสลับหัวท้ายไว้หน้าบ้านอย่าเอาเข้ามาในบ้าน)
    และนี่คือการเริ่มต้นของสิ่งที่ผม ถูกผีอำในครั้งต่อไปที่จะเล่านี้ (ผีอำมาถามว่าจะไปอยู่ด้วยกันไหม)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 มิถุนายน 2013
  13. tassumalee

    tassumalee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    1,579
    ค่าพลัง:
    +8,825
    เข้ามาปูเสื่อรอค่ะ....อิอิ......แหมกำลังเพลินเลย ( รีบมานะคะ...อย่าช้าที )
     
  14. Secondhandlady

    Secondhandlady Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +36
    เรื่องที่ ๔ น่ากลัวสุด ๆ

    เรื่องที่ ๓ นี่ตลกใช่ไหม ๕๕๕๕
     
  15. Highlander

    Highlander เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +325
    อ่านจนเพลินเลยค่ะ
     
  16. yaka

    yaka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    647
    ค่าพลัง:
    +1,384
    หลายวันผ่านไป จะมาต่อวันไหนค่ะเนี่ย หุหุ แบบว่ารออ่านเช่นกันจ้า
     
  17. Pukku

    Pukku เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2012
    โพสต์:
    327
    ค่าพลัง:
    +899
    กำลังสนุกเลยค่ะ
     
  18. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    ขอบคุณครับ ขอโทษที่ให้รอนะครับ เพราะผมย้ายที่อยู่เลยยุ้งๆนิดหน่อย

    เอาล่ะมาเล่าต่อครับ ต่อจากครั้งที่แล้วนะครับ
    เรื่องผีอำแล้วแกจะมาอยู่กับฉันไหม

    หลังจากนั้นได้ไม่นาน ประมาณ 6เดือนเศษๆ แนะ ยังจะนับอีก ก็เพราะ เหตุการในครั้งนั้นผมจำได้ดีเลยหล่ะครับ ผ่านมาถึงตอนนี้ถึงแม้มันจะเลือนลางแต่ก็จำได้อยู่ดี เอาล่ะเพื่อไม่ให้เสียเวลา

    ณ เวลาเย็นๆ โพล้เพล้ มันเหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่น ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนหัวมันหนักๆ โงนเงนราวกับว่า เหมือนตัวเองกำลังอยู่ในน้ำที่กำลังจะหมดสติ แล้วทันใดนั้น มันวู๊ดจอภาพจากดวงตาผมเริ่มเลือนลาง แล้วก็สะดุ้ง!! อีกทีนึงเรานอนอยู่นิ เหมือนฝันเอ๊ะ แต่ไม่ใช่ฝันนิ ผมลองพยายามจะลุกขึ้นแต่เหมือนกับว่าโลกนี้มีแรงดึงดูกมากกว่า10เท่าเลย หนักมาก(แต่ก่อนผมเป็นนักกีฬาบาส) ผมพยายามฝืน ยกแขนขึ้น เอ้ย ไมมันหนักอย่างนี้ ยกขึ้นมาได้ครึ่งเดียว ตั้งฉากกับพื้น แล้วก็ถูกแรงดึงดูดดึงกลับไป แล้วก็พยายามมองไปรอบๆ ในห้องผม มันเป็นห้อง เดียว มีหน้าต่างด้านเดียว แล้ว ก็ประตูอยู่ฝั่งตรงข้างหน้าต่าง เตียงผมอยู่ติด ริมหน้าต่าง แล้วผมก็นั่งอยู่หั้นหน้าไปทางประตู
    แล้วสักพัก ทุกอย่าง มันก็ดึงทำให้ผมนั่งไม่ได้แบบฝืนเท่าไหร่มันก็เด้งกลับมาจนเราเริ่มหมดแรง (ผมเคยขึ้นครูแถบภาคเหนือคงจะรู้จักดี ผมเป็น นักลำดาบด้วยนะ เป็น ศิลปะพื้นบ้านที่สืบถอดกันมาช้านาน ตอนนั้น ของครูขึ้น ในมือผมถือดาบ ชายฉกัน5คนยังเอาแรงผมไม่อยู่เลย เดี๋ยวค่อยเล่าอีกทีนะครับว่าเป็นยังไง)

    ขออธิบายอีกนิด ครูขึ้น หรือ ประมาณว่า ของขึ้น ที่เราควบคุมตัวเองไม่ได้เหมือนกับมีครูบาอาจารย์มาเข้าสิงร่างเรา เป็นเหมือนร่างทรงละมั้ง อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจ

    เอาล่ะมาต่อกันดีกว่า
    หลังจากที่เริ่มหมดแรง เพราะฝืน มากเข้าๆ ผมค่อยๆเอนตัวลงนอนด้วยแรงกดดันอย่างมหาศาล จนผมนอนสงบแน่นิ่งลง แล้วขยับได้แต่ ลูกตา ครับ ปากขยับได้นะ แต่ ตะโกนเท่าไหร่ก็ไม่มีเสียง (นึกถึงปลาเลย ที่ขยับได้แต่ปากกับลูกตา) ผมตะโกนเรียกน้าที่อยู่ข้างบ้านผม อย่างสุดเสียง (ผมอยู่กันเป็นแบบครอบครัวบ้านจะติดๆกัน ในเครือญาติ )
    นึกในใจเฮ้ย เอาแล้วไง เสียงไม่ออก ตะโกนจนเส้นเลือดเส้นเอ็นตรงคอปูดจนจะแตกอยู่แล้ว ก็ไม่มีเสียง
    เอ๊ะมันยังไง ผมก็พยายามที่จะพลิกตัว แต่ก็พลิกไม่ได้ มันเหมือนกับว่า ถูกก้อนหินทับไว้ ยังไงยังงั้นเลย แล้วสักพัก ผมก็ วู๊บ!!! เกิดอะไรขึ้น เนียะ ผมในอีกร่างนึง เห้ย นี่มัน เรานิ ผมก็งง ขยับได้แต่อยู่ที่ไหนกันเนียะ แต่งตัวชุดขาวๆ งง และอีกในความรู้สึกนึง ผมนอนนิ่งอยู่บนเตียง ผมอีกคนนึง ไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ มันรู้สึกแปลกมากๆ เรามีสองตัวเหรอเนี๊ยะ แล้วสักพัก ผมที่ใส่ชุดขาว อยู่ ณะ ที่แห่งนึง เป็นที่มืดๆ แต่รู้สึกได้ว่า อยู่ด้านล่าง เอ๊ะ แต่ก็ไม่เชิงว่าด้านล่าง มันแปลกที่
    สักพักนึงได้ยินเสียง พร้อม ไฟแดงฉาน พวยพุ้งออกมา ล้อมรอบเปลวเพลิง อันร้อนละอุ เหมือน นรก ก็ไม่เชิงแต่มันมีแต่ไฟแดงๆเต็มไปหมด มองไม่เห็นอะไรนอกจากไฟ
    เสียงนั้นมันอะไร (ผมจำลองมันเหมือนกับใน vdo นี้ทั้งเสียงและภาพนะครับ)<iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/lsHjEGLR3js?rel=0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
    มันเสียงอะไรนะ ผมก็ไม่รู้เหมือนกับว่า เค้า พูด โน้มน้าว ชักชวนให้ผมไปอยู่ด้วยแต่เป็นภาษาอะไรไม่รู้ตามที่ผมทำ วิดีโอ นั้นแหละครับ แต่ผมรู้เรื่องนะ ณ ตอนนั้น ถึงจะฟังไม่ออกแต่ก็เข้าใจ ประมาณว่า ไปอยู่กับเขาจะสบายไรประมาณนี้ พวกสักพัก อ่อ ที่มันเป็นเปลวเพลิงล้อมรอบผมหน่ะครับ ผมไม่ได้รู้สึกร้อนเลยสักนิด มันดูร้อนก็จริง แต่ผมไม่ร้อน แปลกแฮะ
    และอีกตัวของผมที่นุ่งสีขาว คุยกับใครก็ไม่รู้ หน่ะ ไอเจ้านั้นมันไม่ยอมท่าเดียว จะชวนยังไงก็ไม่เอาไม่ไป ปฏิเสธ ลูกเดียว สักพัก นึง ก็มี แสง ซึ่ง แสงนั้นเป็นสีทองๆขาวๆ นวลๆ ผมมองไปแล้วอบอุ่นยังไงไม่รู้ แปลกๆดีไม่เคยเจอ
    แต่ก็ชอบนะ แสงนั้น มันส่องมาทางด้านบนเยื้องๆไปทางซ้ายมือของผมที่ยืนอยู่สูงประมาณ2-3เสาไฟฟ้าต่อกันเห็นจะได้แล้วผมก็หันไปดู หลังจากที่แสงนั้นผ่าน เปลวไฟ ซึ่งเปลวไฟที่โดนแสงนี้ มันหายไปเหมือนโดนยางลบ เลย ใน ขณะที่เปลวเพลิงค่อยๆหายไป เสียงที่ได้ยินตะกี้ก็ไม่มีแล้ว และ ก็ได้เห็น!!!! กับ พระพุทธรูป 3องค์ด้วยกัน ท่าน สวยมาก งามมากจริงๆ ถ้าผมถอดลูกกะตาให้ท่านดูได้นะผมถอดไปแล้ว มันอธิบายไม่ถูก เอายังงี้ผมอธิบายคร่าวๆ แล้วกัน ก็คือ ลักษณะ ของท่าน นั่งขัดสมาธิ 3องค์ มีอยู่องนึงอยู่ตรงกลาง ร่างท่านใหญ่กว่าอีก2องค์ที่อยู่ด้านหลัง นุ่งสบงค์ ประกายเพรช ผิวไม่ได้เป็นผิวมนุษย์ ก็แหงหล่ะ ผิวพรรณ ท่าน ดูอวบอิ่มขาวนวลและ ออกเหลืองๆนิดๆ เพราะสิงที่เปร่งออกมาจากตัวท่านมีสีทองด้วย สีขาวด้วย ท่านปรากฏให้ผมเห็น ท่านยิ้ม ตัวเบาหวิวเลยแหละ แล้วสักพัก ผมก็รู้สึกเหมือนกลับมาหนักๆอีกครั้ง แล้วก็รู้สึกตัว ที่ตัวแข็งๆ ก็เริ่มค่อยๆคลายทีละน้อย จนกระทั้ง แขนขยับได้ขาขยับได้(นี่เรากลับมายังโลกมนุษย์แล้วเรอะ) เท่านั้นแหละครับ ผมวิ่งไม่คิดชีวิตออกมาจากห้องของตัว เองแล้วไปยืนอยู่หน้าบ้านหันกลับมามองบ้านผมเอง ไม่กล้าเข้าไปนอน กลัวมาก จนขอไปนอนกับน้า น้าบอกไร้สาระ ไปๆๆ ไปนอนห้องแกนู๊น ขณะนั้นเวลาประมาณ 2-3ทุ่มเห็นจะได้ (เห้ย ทำไมเวลามันนานจัง ตะกี้ที่นอนอยู่นั้นเหมือนไม่กี่นาที) แล้วผมก็กลับมายืน หน้าบ้านตัวเอง ยืนดู มันแบบ กล้าๆกลัว เอาไงดีวะ นึกในใจ
    เป็นคุณจะกล้าเข้าไปนอนไหม(แต่ผม.....กล้า)
    แต่ก็กลัวคือนอนกุมโปงแต่ไม่ได้หลับ คือนอนไม่สนิท จนถึงเช้า อีกวัน ทั้งคืนแทบไม่ได้นอนเลยนึกอย่างเดียวเมื่อไหร่จะเช้า
    เพิ่งจะได้รู้จักกับคำว่าขนหัวลุกก็ตอนนี้แหละ

    เรื่องต่อไป เป็นเรื่องผียืนอำตัวดำใหญ่ๆ ใครวะมายืนอยู่ปลายเตียง(หลังจากที่ผมมาทำงานที่ กทม.แล้ว ก็คือ หลังเหตุการเรื่องผีชวนไปอยู่ด้วย ประมาณ 2-3เดือนผมก็ได้ไปอยู่หอ และทำงานอยู่ที่กทม.)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 มิถุนายน 2013
  19. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    ยังมีคนติดตามอ่านเดี๋ยววันนี้ตอนหัวค่ำผมมาเล่าต่อนะครับ
     
  20. ร้านข้าว

    ร้านข้าว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +50
    รอค่ะ เล่าได้สนุกดี
     

แชร์หน้านี้

Loading...