กริ่งเจ้าสัวน้อยฯ ภาพงานหล่อซ่อม ๒๐ เม.ย.-บอกบุญสร้างเศวตฉัตร หน้า ๔๖

พี่เค้าอาจจะยุ่งมั้งคับ รอ ฟัง พี่นาวีออกมาบอกทุกคนสักหน่อย

 

9999999999999999999999999

 

สวัสดีครับ

ไม่ได้หายไปไหนนะครับ เพียงแต่กว่าจะได้ไปโรงงานใหม่ มีหลายๆ อุปสรรคทำให้งานช้าลงจริงๆตั้งใจจะหล่อวันมาฆบูชา แต่ช่างก็ทำงานให้ไม่ทัน

หุ่นปั้นเสร็จจะไปดูงานอีกรอบหนึ่งแล้วถ่ายภาพให้ดู

กะประมาณคร่าวๆ เอาชัวร์ๆ เวลาที่เสร็จแน่นอนคือ หลังสงกรานต์จากนั้นก็นำพระไปปลุกเสกได้ตอนนี้องค์ประกอบพร้อมเหตุพร้อม ผลก็จะสำเร็จตามมา


********************************

หลังจากที่เหตุการณ์ชุลมุนจบ ผมก็ได้ปฏิบัติมากขึ้น เจออะไรหลายๆ อย่าง

พอตอนที่จะไปโรงงานก็มีหลายเหตุการณ์มาขวาง วันนึงได้เหตุผลจากการทำสมาธิสั้นๆ ว่า"ถ้าให้สมบูรณ์ต้องรออีกหน่อย" ผมก็ยังสงสัยว่าคืออะไร

จนมาเมื่อปลายเดือน ก.พ. รุ่นน้องได้ชักชวนให้เป็นคนเริ่มสร้างเศวรฉัตรถวายพระประธานที่วัด พอเซ็ทงานเสร็จไปขออนุญาตหลวงพ่อเจ้าอาวาสเรียบร้อย มีคำตอบนึงที่ได้รับในใจคือ "งานพระกริ่งเดินต่อให้จบได้แล้ว"

ไม่รู้ทำไม ถึงขนาดที่ผมภาวนาแทบจะทุกลมหายใจที่นึกได้ ก็ยังไม่พอที่จะทำให้งานสำเร็จได้เชียวหรือ ??? แต่ก็มองก็คิดไปเองว่า งานซ่อมพระกริ่งนี้ผมต้องมีบุญอื่นมาช่วยหนุน ไม่อย่างนั้น พระเทออกมาไม่สมบูรณ์ดีไม่เต็มอย่างที่เคยมีเสียงมาบอก


งานกริ่งเจ้าสัวน้อย เบื้องบนมาบอกให้สร้าง อีกทั้งมาทราบภายหลังว่า กรรมการที่ร่วมสร้างด้วยกัน ฝันถึงพระกริ่งเจ้าสัวน้อยมาหา ๒ ครั้ง ฝันเหมือนๆ กัน

ผมก็ไม่ได้เก่ง ไม่ได้วิเศษอะไร ทำตามที่พอจะทำได้ สมาธิก็ไม่ได้แข็งแรงอะไร คงทำให้งานช้าลง


ให้ด่าว่ากล่าวอย่างไร ยินดีรับนะครับ ไม่ว่ากัน ให้อภัยคนที่ค้นหาทางดำเนินในการปฏิบัติคนนี้ด้วยแล้วกันครับ


พระที่เทมาได้ผมว่าทุกคนคงพอใจ ใช้ดินไทยขี้วัวแท้ๆ ไม่หลอกลวงเหมือนเจ้าเดิม คนทำคนปั้นเป็นคนจิตใจดี ขนาดจะจ่ายเงินมัดจำก็ไม่รับ ตอบกลับมาว่า งานยังไม่ได้ทำให้เลย จะรับเงินได้ยังไง ผมว่างานนี้คงจบได้ด้วยดี


*************************************


งานสร้างพระทุกงานที่ผ่านมาก็มีแต่เบื้องบนบอกให้สร้าง งานแรกหลวงปู่ทวดมานิมิต งานที่ ๒ พระพรหมองค์บรมครู ๑ ใน ๑๐๘ มากำกับให้สร้าง รวมถึงงานนี้ ......

เสร็จงานนี้ผมคงวางมือกับการสร้างพระ เพราะคงไม่ใช่ born to be เพียงแต่เป็นคนนึงที่อยากทำบุญเท่านั้นเองครับ

 

คุณนาวี มีอะไรคืบหน้าหรือมีปัญหาติดขัดก็แจ้งกันเรื่อยๆดีกว่าสมาชิกจะได้สบายใจและเห็นความคืบหน้า ส่วนตัวเป็นกำลังใจให้รอเห็นผลงานเทซ่อมอยู่ครับ เพราะผมอยากได้องค์ที่เทใหม่ อิอิ

 

ท่านสุดยอดมากๆครับ ผมเพิ่งได้เหรียญรุ่นแรก เศรษฐีใหม่ ของหลวงตามาทดลองใช้ครับ รู้สึกเย็นกายเย็นใจมาก ๆ

 

แจ้งความคืบหน้าครับ

ช่อดินไทยขี้วัวแบบโบราณสูตรวัดสุทัศน์ เสร็จแล้วครับ


หล่อวันศุกร์ที่ 19 เม.ย. 56 เวลา 13.39 น.


พรุ่งนี้ไปนิมนต์พระเกจิมานั่งปรก 1 รูป (ก็เกินพอครับ)







​

 

​

 

ภาพภายในโรงงานที่หล่อครับ ให้ดูนิดหน่อยนะครับ เพราะแอบถ่ายมา
เพื่อให้เห็นว่าทำจริงๆ ไม่ใช่ไปถ่ายเบ้าของใครมา​

​

 

กว่าจะมาถึงตรงนี้ได้ เจออะไรหลายอย่างมากๆ มีเรื่องเล่าเป็นกระบุง

หล่อเสร็จ แต่งอีกไม่เกิน 5 วัน ก็ได้รับพระมาแล้ว

งานเสกวันแรก 5 พ.ค. วันฉัตรมงคลครับ​

 

วันนี้เดินทางไปนิมนต์พระเกจิ นั่งปรกตอนเททองมาครับ

พระอาจารย์ดำ วัดศรีสินมา บ้านแพ้ว สมุทรสาคร​

เนื่องจากผมได้โทรไปปรึกษากับพระอาจารย์ที่เคารพว่าต้องการนิมนต์พระเกจิมานั่งปรกตอนเททอง ท่านจึงได้แนะนำชื่อพระอาจารย์มา 4-5 รูป เผอิญว่าเพื่อนผมว่างพาไปพอดีจึงได้เดินทางไปกราบนิมนต์พระอาจารย์ดำ ซึ่งท่านรับนิมนต์ในวันศุกร์ที่ 19 เม.ย.แล้ว กำหนดการเททองหล่อพระประมาณ 16.09 น. ครับ

แต่เนื่องจากไปพบท่านครั้งแรก ผมเกรงใจท่านจึงไม่ได้ขออนุญาตถ่ายภาพมา ขอนำภาพจาก uamulet.com ให้ชมแทนนะครับ

​

 

ประวัติพระครูธรรมธร สิทธิพร ชิตงฺกโร หรือพระอาจารย์ดำ

เจ้าอาวาสวัดศรีสินมา ตำบลสวนส้ม อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร

(เจ้าอาวาสรูปแรก)​

ศิษย์เอกหลวงพ่อเกษม สุขวณฺโณ วัดสุนทรสถิต (อำแพง) ศิษย์เอกหลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ

ศิษย์เอกหลวงปู่อินทร์ ธมฺมโชติ วัดหนองรี สายหลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน

ศิษย์เอกหลวงพ่อตี๋ ปสาโท วัดบางโตนด สายหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว หลวงปู่อ้น วัดบางจาก

ศิษย์เอกหลวงพ่อสง่า อนุปุพฺพโพ วัดบ้านหม้อ สายหลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้



ชาติภูมิ
มีนามเดิมว่า สิทธิพร (ดำ) นามสกุล สีโหน เกิดเมื่อวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๐๗ ณ ตำบลอำแพง อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร ปัจจุบันมีอายุ ๔๗ปี เป็นชาวอำแพงโดยกำเนิด


เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์

อุปสมบทเมื่ออายุ ๒๒ ปี ณ พัทธสีมา วัดสวนส้ม เมื่อวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๒๙ โดยพระครูปลัดสุวัฒนวรคุณ เจ้าอาวาสวัดสวนส้ม (อดีตเจ้าคณะตำบลสวนส้ม) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูอดุลย์วิริยกิจเจ้าอาวาสวัดแคราชานุวาส (เจ้าคณะตำบลท่าวาสุกรี เขต 2 พระนครศรีอยุธยา) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูสาครปัญญาคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองนกไข่ (อดีตเจ้าคณะตำบลท่าเสา) เป็น พระอนุสาสนาจารย์


การศึกษาหนังสือขอมไสยเวทย์พุทธาคม

หลังจากอุปสมบทแล้วประมาณ ๒๐ กว่าวันได้เดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อเกษม สุขวณฺโณ วัดสุนทรสถิต (อำแพง) ซึ่งท่านเป็นศิษย์หลวงปู่รุ่ง วัดท่ากระบือ กับหลวงปู่โชติ วัดตะโน ท่านได้เริ่มเรียนกัมมัฏฐานและเรียนหนังสือขอมกับหลวงพ่อเกษม หลังผ่านไปประมาณหนึ่งเดือนเศษก็สามารถอ่านออกเขียนได้อย่างแตกฉาน รวมถึงสามารถอ่านคัมภีร์เทศขอมใบลาน จนหลวงพ่อท่านชมเชย ท่านจึงเริ่มถ่ายทอดพุทธาคมให้ โดยพรรษาแรกหลวงพ่อเกษมท่านสอนให้เรียนยันต์ตรีนิสิงเห เพียงอย่างเดียวตลอดพรรษา ท่านบอกว่าเรียนให้ชำนาญเป็นอย่างๆไป พรรษาที่ ๒ ท่านสอนให้เรียนทำผงปถมัง พรรษาที่ ๓ ท่านสอนให้เรียนทำผงมหาราช ในระหว่างที่เรียนทำผงมหาราชอยู่นั้น หลวงพ่อบอกพระอาจารย์ดำว่าตั้งใจเรียนให้ดีถ้าเรียนสำเร็จเรานึกอยากได้อะไรก็ได้อย่างที่เรานึก หลังจากนั้นได้เรียนวิธีลงตะกรุด เรียนวิธีลงปลัดขิก เรียนลงนะ ๙จันทร์ เด่นด้านเมตตามหานิยม เรียนวิธีปลุกเสกตามสูตรหลวงปู่รุ่ง เรียนทำน้ำมนต์เสดาะห์พระเคราะห์ต่อชะตาเสริมบารมีซึ่งเป็นของเก่าโบราณ เรียนยันต์ยศการพรหมหรือยันต์จันทร์เพ็ญ มีอยู่ ๓ แบบ ตามสูตรของหลวงปู่นิ่ม อดีตเจ้าอาวาสวัดสุนทรสถิต (อำแพง) ซึ่งเป็นอาจารย์หลวงปู่รุ่ง วัดท่ากระบือ และหลวงปู่ฮะ วัดดอนไก่ดี ต้นปี๒๕๓๒หลวงพ่อเกษมท่านสุขภาพไม่ค่อยดีท่านจึงให้พระอาจารย์ดำช่วยลงผ้ายันต์หัวเสา(ตรีนิสิงเห) ที่มีโยมมาฝากให้ลงแทนท่าน พร้อมลงปลัดขิก,ลงตะกรุดโทน,ลงตะกรุดฝนแสนห่า,ลงตะกรุด พระเจ้าสิบหกพระองค์ พระเจ้าห้าให้หลวงพ่อเกษมท่านปลุกเสก พอเข้าพรรษา พ.ศ. ๒๕๓๒ ขณะนั้นพระอาจารย์ดำมีพรรษได้ ๔ พรรษาหลวงพ่อเกษมท่านก็อาพาธเรื่อยมาจวบจนมาถึงเดือนกันยายนท่านก็อาพาธหนักและมรณะภาพลงในวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๓๒ สิริอายุได้ ๗๐ ปี หลังจากหลวงพ่อเกษมมรณะภาพลงพอออกพรรษารับกฐินแล้ว พระอาจารย์ดำท่านไปจุดธูปหน้าศพหลวงพ่อเกษม เพื่อขออนุญาตเดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์อีกสามพระอาจารย์กับอีกหนึ่งอาจารย์ฆราวาส ที่จังหวัดราชบุรี คือ


๑ หลวงปู่อินทร์ ธมฺมโชติ อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองรี อำเภอโพธาราม เรียนกัมมัฏฐาน เรียนคาถาคุณพระ คือ พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ เรียนลงตะกรุด ตะกรุดสาลิกาเมตตาค้าขาย ลูกอม เรียนวิธีอธิษฐานจิตพระเครื่องวัตถุมงคลต่างๆ และที่สำคัญยิ่งคือ เรียนวิชาปลุกเสกเขี้ยวเสือปลุกเสกเสือ ตามตำหรับของหลวงพ่อปาน วัดคลองด่านอีกด้วย หลวงปู่อินทร์ท่านสำเร็จอภิญญา ท่านอธิษฐานจิตปลุกเสกพระเครื่อง วัตถุมงคลเพียงไม่เกินหนึ่งนาทีเท่านั้น หลวงปู่อินทร์ท่านยังอธิษฐานจิตพระเครื่องรุ่นแรก เสาร์ห้า พ.ศ.๒๕๓๙ ให้พระอาจารย์ดำมาสร้างวัดอีกด้วย ซึ่งรุ่นนี้มีประสบการมาก เด่นคงกระพันสุนัขกัดไม่เข้า แคล้วคลาดอุบัติเหตุรถชนกันไม่เป็นไร บางคนถูกยิงไม่ออก เหรียญเนื้อเงินท้องถิ่นปัจจุบันเช่าหากันองค์ละหกพันถึงเจ็ดพันบาทแล้ว หลวงปู่อินทร์ท่านมรณภาพเมื่อวันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๓๙ สิริอายุได้ ๙๗ ปี โดยหลังจากมรณภาพสังขารของท่านไม่เน่าปื่อย


๒ หลวงพ่อตี๋ (เซ้ง) ปสาโท อดีตเจ้าอาวาสวัดบางโตนด อำเภอโพธาราม หลวงพ่อตี๋ท่านเรียนมาหลายอาจารย์ ท่านเป็นศิษย์หลวงปู่ไว ธมฺมธโร วัดดาวดึงษ์ สมุทรสงคราม หลวงปู่แทน ธมฺมโชติ วัดแก้วฟ้า (ธรรมเสน) หลวงปู่เกิด วัดสะพาน นครนายก ซึ่งหลวงปู่ไวเป็นศิษย์หลวงปู่อ้น วัดบางจาก หลวงปู่ตาดวัดบางวันทอง หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว หลวงปู่อ่วม วัดไทร พระอาจารย์ดำเรียนยาสมุนไพรวิธีลงก้นหม้อปากหม้อยา เสกยาภาวนาเอายาลงหม้อ เสกน้ำลดยา ทำเฉลวปักปากหม้อยา เรียกว่ายาคุณพระ เรียนตะกรุดโทน ตะกรุดมหาระงับตำหรับหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว ตะกรุดลบถม ตะกรุดไม้รวก เรียนลงผ้าประเจียด เรียนสักยันต์ หลวงพ่อตี๋ท่านฝึกให้พระอาจารย์ดำสักยันต์ เรียนขั้นตอนวิธีปลุกเสกวัตถุมงคล เรียนลงนะหน้าทอง ตามสูตรหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน เรียนทำผงมหาราชตามสูตรหลวงปู่อ่วม วัดไทร ซึ่งเป็นอุปัชฌาย์ของหลวงปู่ไว วัดดาวดึงษ์ เป็นต้น ในสมัยที่หลวงพ่อตี๋ท่านยังมีชีวิตอยู่นั้น (พ.ศ.๒๕๓๘) ท่านเคยเดินทางมาพักอยู่กับพระอาจารย์ดำเพื่อถ่ายทอดวิชา ขั้นตอนวิธีในการปลุกเสกเลขยันต์วัตถุมงคลต่างๆที่ท่านได้รับการถ่ายทอดมาจากครูบาอาจารย์ของท่านให้พระอาจารย์ดำ จนหมดสิ้นโดยไม่ปิดบังแต่อย่างใด หลวงพ่อตี๋ท่านมรณภาพเมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๓๙ สิริอายุได้ ๗๔ ปี


๓ หลวงพ่อสง่า อนุปุพฺโพ วัดหนองม่วง ซึ่งขณะนั้นท่านย้ายมาอยู่วัดบ้านหม้อแล้ว อยู่อำเภอโพธารามเหมือนกัน เรียนวิชาลงตะกรุดโทน ตะกรุดลูกอม ตามตำหรับหลวงปู่เปลี่ยน วัดใต้ผ้าประเจียด เรียนวิธีปลุกเสกเลขยันต์พระเครื่องวัตถุมงคลต่างๆ วิธีลงของวิธีปลุกเสก ท่านบอกกับพระอาจารย์ดำว่า สมัยก่อนเขาไปแสวงหาครูบาอาจารย์เล่าเรียนกัน เขาไปเรียนวิธีลงของ และวิธีปลุกเสกเลขยันต์เครื่องรางของขลังกัน ถ้ารู้วิธีลงรู้วิธีปลุกเสกแล้วจะใช้คาถาบทไหนปลุกเสกก็ได้ คาถาเยอะแยะไปใช้ตามที่เราต้องการก็แล้วกัน หลวงพ่อสง่าท่านเรียนมาหลายอาจารย์ ท่านเป็นศิษย์หลวงปู่เปลี่ยน วัดใต้ เมืองกาญจน์ กับหลวงปู่จันทร์ วัดบ้านยางเป็นต้น หลวงพ่อมรณภาพเมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๔๗ สิริอายุได้ ๘๘ ปี


๔ ท่านอาจารย์หนู ทองสิริ วัดท่าสุวรรณ อาจารย์ฆราวาสที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่ราชบุรีด้านสักยันต์ ทางอยู่ยงคงกระพันธ์แคล้วคลาด หนึ่งในอาจารย์ของอาจารย์หนูคือหลวงพ่อชุ่ม วัดราชคาม จังหวัดราชบุรี ท่านเป็นศิษย์หลวงปูศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท ในสมัยที่อาจารย์หนูมีชีวิตอยู่นั้นมีชื่อเสียงโด่งดังมาก ถึงขนาดหาเงินสร้างอุโบสถถวายวัดท่าสุวรรณจนแล้วเสร็จ ซึ่งท่านได้เรียนสักยันต์ เรียนเลขยันต์คาถา การเสกพรหมสี่หน้า เรียนยาสมุนไพร ตอนที่พระอาจารย์ดำไปเรียนกับอาจารย์หนูนั้นท่านก็ไปพักอยู่ในอุโบสถที่อาจารย์หนูสร้าง บ้านอาจารย์หนูอยู่ข้างวัดท่าสุวรรณ อำเภอเมืองราชบุรี เสียชีวิตเมื่อวันที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๓๗ สิริอายุได้ ๘๗ ปี


ทั้งนี้เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๓ เดินทางไปเรียนทำลูกอมกับหลวงพ่อลำเจียก วัดศาลาตึก อำเภอกำแพงแสน นครปฐม ผู้สร้างหวายอาคมอันโด่งดัง ซึ่งเป็นลูกศิษย์สายหลวงพ่อม่วง วัดบ้านทวน หลวงปู่ยิ้มวัดนองบัว พ.ศ. ๒๕๓๘ เดือนมกราคม เดินทางไปอำเภอบางมูลนาก นครสวรรค์ ไปเรียนวิธีทำตะกรุดใต้น้ำกับตะกรุดสาลิกา เมตตาค้าขายกับท่านอาจารย์บุญ แต้ช้าง ซึ่งเป็นลูกศิษย์ฆราวาสหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ตอนนั้นท่านอายุ ๙๗ ปีแล้ว อยู่เลยวัดถ้ำขุนเณรไปหน่อย


หลังจากหลวงปู่อินทร์กับหลวงพ่อตี๋มรณภาพลงแล้วพระอาจารย์ดำท่านคิดได้ว่าว่ากำลังแบกภาระอันหนัก อายุยังน้อยการสร้างวัดขึ้นมาใหม่ให้สำเร็จนั้นเป็นเรื่องที่แสนยาก สมควรที่จะต้องแสวงหาครูบาอาจารย์เพื่อให้ช่วยประคับประคองสั่งสอนและขอบารมีของท่านช่วนในการสร้างวัด ท่านจึงเดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์กับหลายพระอาจารย์ที่เป็นที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในปัจจุบันดังนี้


เรียนวิชาฝังเข็มทอง สายหลวงพ่อพิมพ์มาลัย มาลโย วัดหุบมะกล่ำ จากท่านอาจารย์เกริ่น พวงทอง บ้านท่าซิก เลยวัดเขื่อนเพชรไป ท่านอาจารย์เกริ่น เป็นศิษย์หลวงพ่อพิมพ์มาลัย ติดตามมาจำพรรษาที่วัดหุบมะกล่ำ และได้ศึกษาวิชาฝังเข็มทองไปจากหลวงปู่พิมพ์มาลัย สมัยอยู่วัดหุบมะกล่ำยังช่วยสอนพระปริยัติธรรมต่อมาภายหลัง ท่านอาจารย์เกริ่น ลาสิกขาบทออกไป


ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่ออุ้น สุขกาโม วัดตาลกง ไปเรียนกัมมัฏฐาน เรียนนะ เรียนลงตะกรุดกันกระทำ เรียนยาสมุนไพรบางขนาน เรียนเป่าพ้นขับไล่ผีทักทายผีเทียบ ท่านบอกว่าถ้าเด็กเจ็บป่วยจะดูว่าถูกผีดังกล่าวหรือไม่ ให้จับใบหูดู ถ้าเด็กตัวร้อนแต่ใบหูเย็นๆ ท่านบอกว่านั้นแหละเขาล่ะ ให้ภาวนาคาถาเป่าเด็กก็จะหายป่วย ตลอดจนถึงวิธีปลุกเสกเลขยันต์ และวิธีนั่งปรก หลวงพ่ออุ้นท่านเมตตาพระอาจารย์ดำมาก ถึงกับอนุญาตให้ออกเหรียญรูปท่านและออกพระกริ่งพระชัยวัฒน์ รุ่นสร้างอุโบสถของวัดศรีสินมา พร้อมเดินทางมาเป็นประธานเททองหล่อพระกริ่งพระชัยวัฒน์และเป็นประธานพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลรุ่นนี้ที่วัดศรีสินมา ให้พระอาจารย์ดำอีกด้วย


ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อเจือ ติสฺสโชโต วัดโคกหิรัญ อำเภอบางบาล พระนครศรีอยุธยา เรียนทำน้ำมนต์จินดามณี เสกแป้งผัดหน้า เมตตามหานิยม เมตตาค้าขาย ตามสูตรหลวงปู่โบ เรียนลงตะกรุด ”พ” พระ เด่นทางแคล้วคลาด ตามสูตรหลวงปู่สุ่น วัดบางปลาหมอ ซึ่งเป็นอาจารย์โยมตาของหลวงพ่อเจืออีกทีนึกและสืบทอดมาถึงท่าน


ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดงใต้ อำเภอท่าเรือ พระนครศรีอยุธยา ศึกษาวิชาลงตะกรุดโทนดอกเล็ก ดอกใหญ่ วิชาลงหนังเสือ ตามสูตรของหลวงปู่ตาบ วัดมะขามเรียง และหลวงปู่นอ วัดกลางท่าเรือ หลวงพ่อเอื้อนท่านยังเมตตา ถ่ายทอดเคล็ดลับวิธีลงของ และวิธีปลุกเสกพระเครื่อง และเครื่องรางของขลัง อย่างละเอียดเริ่มตั้งแต่ต้นจนจบให้พระอาจารย์ดำเป็นพิเศษอีกด้วย


ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อสะอาด วัดเขาแก้ว อำเภอพยุหะคีรี นครสวรรค์ ซึ่งเป็นศิษย์เอกหลวงพ่อกัน ศึกษาวิชาทำมีดหมอปราบผีตามตำหรับหลวงพ่อเดิม พุทธสโร วัดหนอง พร้อมวิธีปลุกเสกมีดและปลุกเสกวัตถุมงคลตามตำหรับวัดเขาแก้ว


ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อเจือ ปิยสีโล วัดกลางบางแก้ว นครปฐม เรียนวิธีทำเบี้ยแก้ตามตำหรับหลวงปู่บุญ ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่แย้ม ปิยวณฺโณ วัดตะเคียนนนทบุรี เรียนวิธีทำตะกรุดโทน ตะกรุดใต้น้ำ นะเมตตา หลวงพ่อแย้มท่านเป็นคนบ้านแพ้วบวชที่วัดหลักสองราษฎร์บำรุง เป็นศิษย์หลวงปู่สาย วัดหนองสองห้อง บ้านเดิมของท่านอยู่ห่างจากวัดศรีสินมาไปประมาณหกกิโลเมตร


นอกจากพระอาจารย์ดำจะฝากตัวเป็นศิษย์จากครูบาอาจารย์ทั้งหลายดังกล่าวมาแล้ว ท่านยังศึกษาตำราเลขยันต์คาถาโองการอาบน้ำมนต์ไล่ผี ตำรายาสมุนไพร ตำราสร้างพระปิดตา สร้างหนุมาน และยังศึกษาวิธีทำ ผงอิทธิเจแฝด จากตำราของโยมปู่ของแท้ๆของพระอาจารย์ดำ อันโยมปู่ท้านชื่อสง่าเป็นคนอัมพวาบ้านเดิมอยู่หน้าวัดดาวดึงส์ ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม หลวงปู่ช่วง วัดปากน้ำ หลวงพ่อหรีด วัดเพลง โดยมีหลวงปู่ช่วงท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ของโยมปู่ของพระอาจารย์ดำ และศึกษาค้นคว้าวิชาทำผงมหาราช เลขยันต์คาถา นะมหาอุด นะเมตตา จากตำราของหลวงปู่เซ่ง วัดน้อยนางหงษ์ ซึ่งเป็นอาจารย์ของหลวงปู่รุ่ง วัดท่ากระบือ อีกท่านหนึ่งด้วย


ที่ผ่านมานับตั้งแต่ปี ๒๕๓๙ ท่านได้สร้างพระเครื่องและเครื่องราง มาหลายวาระ อาทิ พระเครื่องชุดเสาร์๕ ๒๕๔๓ (พระเนื้อผง),พระเครื่องรุ่นทรัพย์สินมา ๒๕๕๑ (พระเนื้อว่าน),ตะกรุดโทน,ตะกรุดจันทร์เพ็ญ,ตะกรุดมหาระงับพอกผง,ตะกรุดหนังเสือ,เขี้ยวเสือ ซึ่งมีประสบการณ์และเป็นที่ยอมรับทั้งในพื้นที่และกรุงเทพไม่น้อย


ความเป็นมา ”วัดศรีสินมา”

ในปี พ.ศ.2530 ชาวบ้านจำนวนหนึ่ง ต้องการสร้างวัดขึ้นมาใหม่ในละแวกที่พักอาศัยของตน เพื่อเป็นที่พึ่งทางด้านจิตใจและประกอบพิธีกรรมทางศาสนาพุทธ จึงได้นำเรื่องนี้ไปปรึกษากับ คุณพ่อเห่ง-คุณแม่อับ สินมาและคุณไพบูลย์ สินมา ซึ่งก็ได้รับการอนุเคราะห์ซื้อที่ดินจำนวน " 10 ไร่ 2 งาน 28 ตารางวา" ถวายในการสร้างวัด จึงเริ่มมีพระมาจำพรรษา


จนกระทั่งในปี พ.ศ ๒๕๓๗ คณะชาวบ้านได้ไปขออนุญาตจาก พระครูปลัดสุวัฒนวรคุณ เจ้าอาวาส วัดสวนส้ม จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นอุปัชฌาชย์เพื่อขออาราธนานิมนต์ พระอาจารย์ดำ ซึ่งเป็นพระสงฆ์อยู่ในสังกัดของวัดสวนส้ม (ซึ่งในขณะนั้นจำพรรษาอยู่ที่วัด น้อยนางหงษ์ ต.ท่าจีน อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ขณะกำลังศึกษาตำราของหลวงปู่เซ่ง วัดน้อยนางหงษ์ ซึ่งเป็นอาจารย์ของหลวงปู่รุ่ง วัดท่ากระบือ) มาเป็นพระปกครองดูแลสำนักสงฆ์ ณ แห่งนี้ โดยได้รับความเห็นชอบจาก


หลวงพ่อตี๋ (เซ้ง ปสาโท) เจ้าอาวาสวัดบางโตนด อ.โพธาราม จ.ราชบุรี หลวงปู่อินทร์ ธมฺมโชติ อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองรี อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

โดยได้รับอนุญาตให้สร้างวัดได้เมื่อวันที่ 25 ก.ย.2539 และได้รับประกาศตั้งเป็นวัดในพระพุทธศาสนาเมื่อวันที่ 24 ม.ค.2541 มีนามว่า "วัดศรีสินมา"

แต่เนื่องด้วยในปัจจุบัน อุโบสถวัดศรีสินมาอยู่ในระหว่างดำเนินการก่อสร้าง ยังขาดทุนทรัพย์เพื่อให้เสร็จสมบูรณ์ จึงขอเชิญชวนชาวพุทธศาสนิกชนและผู้ใจบุญทั้งหลาย ได้ร่วม สร้างอุโบสถ วัดศรีสินมาให้สำเร็จสมบูรณ์ โดยการสั่งจองเหรียญรุ่นแรกของพระอาจารย์ดำ เพื่อเป็นสมบัติของพระพุทธศาสนาตลอดไป

credit: uamulet.com

 

โดยส่วนตัวที่ไปกราบพระอาจารย์ดำ ท่านเป็นผู้ที่มีเมตตาธรรม รวมถึงเป็นผู้มีระเบียบอย่างมาก สมถะ เรียบง่าย ไม่อวดตัว

สาเหตุที่พระอาจารย์ของผมให้มานิมนต์พระอาจารย์ดำ เพราะท่านบอกว่า "พระรูปนี้ท่านเก่งมาก ๆ"

เหรียญรุ่นแรกของท่านสร้างปีที่แล้ว 2555 ราคาจอง 36,000 บาท ตอนนี้เล่นหากันเหรียญละ 100,000 บาทแล้วครับ​

​

 

เรื่องเล่า .............

วันนี้งานซ่อมพระใกล้สำเร็จแล้ว ผมจึงออกมาประชาสัมพันธ์ได้เต็มที่ ที่หายหน้าหายตาไป ไม่ได้ไปไหน แต่ไปทบทวนจิตใจตัวเอง รวมถึงการปฏิบัติจิตใจของตนเอง ตบให้เข้าร่องเข้ารอย รวมถึงเรื่องงานเมื่อพร้อมจริงๆ แล้วค่อยออกมาประกาศทีเดียว


พระกริ่งเจ้าสัวน้อยฯ ชุดนี้ เบื้องบนดลใจให้สร้าง มีเรื่องราวแปลกๆ หลายอย่างเกิดขึ้น ก็ได้เล่าเป็นลำดับๆ ก่อนหน้านี้ไปแล้ว ในวันหล่อพระ พุธที่ 31 ต.ค. 2555 วันเปิดโลกพุทธชยันตี ก็มีเรื่องแปลกและสำคัญอย่างหนึ่ง


ในการหลอมโลหะเบ้านวะผสมทองคำตามสูตร อ.เทพ สาริกบุตรนั้น ผมได้ใส่โลหะทองแดง เงิน ฯลฯ ตามสูตร และใส่ทองคำเป็นลำดับสุดท้าย


เมื่อมอบทองคำให้ช่างนำไปใส่เบ้า ช่างได้โยนทองคำลงไป แต่มีทองคำอีก 2 ก้อนได้กระเด็นออกมานอกเบ้า หล่นอยู่ใกล้ๆ เตาหลอม


ผมเองพูดกับกรรมการผู้ร่วมสร้างอีก 3 คนในงานว่า "ต้องมีอะไรแน่ๆ ไม่อย่างนั้นทองไม่กระเด็นออกมาอย่างนี้หรอก"

ส่วนในใจผมก็เห็นลางๆ ว่าพระที่เทอาจจะต้องซ่อมใหม่ ทองที่กระเด็นนี้คงได้เก็บไว้สำหรับเทซ่อมพระใหม่


แล้วก็เป็นตามนั้นจริงๆ คือ โรงงานไม่สามารถทำพระได้ตามที่ตกลงไว้

1. นำพระที่หล่อดินไทยในพิธี (ดินไทยปลอมๆ ตามที่เขาอ้าง) ทั้งนวะโลหะ และสัมฤทธิ์ ไปล้างผิวออกหมด


2. นำพระที่ล้างออกมาแล้ว ไปหลอมรวมกัน เพื่อหล่อซ่อม โดยไม่สนใจว่าองค์ไหน นวะ องค์ไหน สัมฤทธิ์ แต่มาหลอกผมว่า ชุดนี้นวะ ชุดนี้สัมฤทธิ์


3. .................. ตามที่เห็นในกระทู้ ไม่ขอกล่าวซ้ำ


ดังนั้น พระนวะโลหะที่เทซ่อมนี้ มีพระกริ่ง + พระชัย 30 กว่าองค์ พระพนัสบดี 9 องค์ น้ำเต้า 49 ลูก จะใช้โลหะไม่มากเท่าเทครั้งแรก เมื่อเทียบกันแล้วจะมีเนื้อทองคำในสัดส่วนที่มากพอสมควร ซึ่งถือเป็นเรื่องดี

​

 

ตะกรุดทองคำฝังแขนหลวงพ่อคูณจารด้วยมือของท่านเอง เก็บไว้นานมาก

โชคดีว่าคราวที่แล้วไม่ได้นำไปหลอม คงรอการซ่อมเทพระนี่เอง

​

 

น้ำเต้าเนื้อนวะโลหะที่เทในวันพิธี

ซึ่งถูกล้างเอาขี้ดินไปหมด แต่ว่าก้นเป็นรูๆ ซึ่งไม่ถูกหลักเพราะน้ำเต้าห้ามมีรู จึงจะเก็บเงินอยู่
ผมนำมาเทกลับเป็นเนื้อนวะโลหะใหม่อีกครั้ง

​

 

ก้นเบ้านวะโลหะเทในพิธี 31 ต.ค. 2555​

​

 

เนื้อสัมฤทธิ์ เทซ่อมพระพนัสบดี 9 องค์ พระกริ่ง 9 องค์ (ไม่มีพระชัย)

ชนวนก้นเบ้าเสกในพิธีโดยพระเกจิ 4 รูป มีหลวงพ่อสิริ วัดตาล เป็นประธาน แค่นี้ก็เหลือๆ ครับ



ชนวนหล่อพระพุทธโสธร ญสส สร้างประดิษฐาน 77 จังหวัด โดย อ.ศรันย์ธร

​

 

คั่นเวลา

เหรียญหลวงปู่ทวด - หลวงปู่ดู่ รุ่นอนันตคุณ

พระเครื่องแบบแรกที่ผมและคณะญาติธรรมได้ดำเนินการสร้าง "จากนิมิตหลวงปู่ทวดโดยตรง"


สร้างจำนวน 7,000 กว่าเหรียญ แจกทหาร - ตำรวจไปแล้วมากมาย ตอนนี้เหลือ 250 เหรียญสุดท้าย
จะถูกส่งไปมอบให้ทหาร 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในช่วงก่อนสงกรานต์นี้





​

 

ด้านหน้า
ด้านบนพระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา
ซุ้มซ้าย-ขวา คำภาวนา "พุทโธ"
หลวงปู่ทวด
หลวงปู่ดู่
ด้านล่างเป็นเศียรนาคราช

ด้านหลัง
ยันต์ นะซ้อน ๓ ตัว หมายถึง อธิษฐานได้ตามปรารถนา
คำภาวนา ไตรสรณาคม
ชื่อ หลวงปู่ทวด - หลวงปู่ดู่
ล่างสุด เป็นลูกแก้วประจำตัวหลวงปู่ทวด​

 

เอาใจช่วยครับ