รบกวนคุณ The Third Eyes ช่วยอธิบายหน่อยครับ ..

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=tcat colSpan=2>ข้อความส่วนตัว: Re: ขอเรียนถาม</TD></TR></TBODY></TABLE><!-- post # --><TABLE class=tborder id=post cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: 0px; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"><!-- status icon and date --> วันนี้, 12:46 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: 0px; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right></TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: 0px; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: 0px" width=175>Placebo<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>
สมาชิก



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 01:16 AM
วันที่สมัคร: Oct 2007
ข้อความ: 1 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 0 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 0 ครั้ง ใน 0 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 0



</TD><TD class=alt1 id=td_post_ style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->
ในเคสของ John Nash นั้นถือว่าเป็นคนละโรคกับชายผู้นี้ครับ

ในกรณีของ John Nash นั้นเป็นโรค Schizophrenia (โรคจิตเภท) ใน Subtype Paranoid Type ครับ

ซึ่งในกรณีของคุณ....นั้น จากที่ได้อ่านแนวการคิดโดยรวมของเขา พอจะวิเคราะห์เบื้องต้นได้ว่าเป็นโรค Delusional Disorder (โรคจิตหลงผิด) ซึ่งความความรุนแรงน้อยกว่า
Schizophrenia

แต่ก็ไม่อาจสรุปได้แน่ชัด เนื่องจากได้แค่อ่านความเห็นแต่ไม่ได้เคยได้พูดคุยกับเขาครับ

เนื่องจากหนึ่งในอาการบ่งชี้ว่าเป็น Schizophrenia นั้นก็มีอาการหลงผิดรวมอยู่ด้วย แต่ต้องเป็นร่วมกับอาการอื่นอีก

รวมแล้วอย่างนี้ 2 อาการ เป็นระยะเวลาเกิน 1 เดือนครับ

ส่วนเรื่องบุคคลอื่นที่ถูกชักจูงโดยชายผู้นี้นั้น คงต้องดูเป็นรายบุคคลไปครับ

แต่หากยังคงถูกชักจูงไปในทางที่ผิดอย่างต่อเนื่องหรือสภาพจิตใจและความเชื่อเอื้ออยู่ก่อนแล้ว

ก็มีโอกาสสูงที่จะมีอาการผิดปกติทางจิต เช่นโรค Delusional Disorder หรืออาจหนักถึง Schizophrenia หรืออื่นๆได้ครับ

ขึ้นกับสภาพจิตใจและสภาพแวดล้อมการเป็นอยู่และพื้นฐานความเชื่อของบุคคลนั้นๆ ครับ


ปล. PM นี้ถ้าเห็นว่าเป็นประโยชน์จะ quote ไปใส่ในกระทู้ก็ได้ครับ
<!-- / message --><!-- sig -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ขอสมาชิกทุกท่าน ร่วมอนุโมทนากับคุณหมอPlacebo ด้วยครับ

ขอบคุณ คุณสิกขิมเทวาลัยที่นำข้อความหลังไมค์ที่มีประโยชน์มาโพส

 

ขนาดไม่สบายนะเนี่ย รับเงินไปเท่าไหร่แล้ว เอาเงินไปให้หมอรักษาแล้วตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติธรรมให้ถึงนิพพานในชาตินี้เถิด ไม่เช่นนั้นอเวจีถามหาแน่ทำไมจึงเป็นเช่นนั้นก็ไอ้สิ่งที่นำมาสอนนำมาพูดมันนอกเหนือจากที่พระพุทธองค์ทรงตรัส ให้มีสิบตาก็ไม่พ้นอเวจีเป็นแน่แท้ถึงตอนนั้นไม่มีใครช่วยได้แน่ ผลของการชวนคนให้ออกนอกธรรมหรือทำให้คนไขว้เขวสับสนเสียเวลาในการปฏิบัติธรรมมันรุนแรงยิ่งนักชาติหน้าเมื่อเจอแค่เศษกรรมก็อย่างน้อยเป็นคนปัญญาอ่อนผลจากการแหกตาคนอื่นเพื่อหวังอามิสและชื่อเสียง
ขอให้เลิกเถอะครับ ทางเดินไปสวรรค์ยังมีอยู่ไม่เห็นจะต้องไปหาทางเดินไปนรกโดยใช่เหตุเลยครับ

 

เหอๆๆๆ ตาที่สามอีกแล้วเหรอ...
หนทางทำมาหากิน....
แต่ที่รับไม่ได้คือ เขาเคยเล่าว่า ไปใต้แล้วไปช่วยเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวด้วยจิ
เคยช่วยหลวงปู่ทวดด้วย.....
พลังสุดยอดดดดดด

 

นี่ๆ ไอ้ที่อัดพลังเข้าพระเครื่องน่ะ มันต้องมีเทวดาคุ้มครองนะครับ ถึงจะเป็นผลไม่ใชพลังของเรานะครับ(ละมั้ง(หลังจากที่อ่านเรื่องมหาวิทยาลับแฮรี่พ็อตเตอร์น่ะครับ)ถ้าไม่เกี่ยวก็ขอโทษด้วยนะครับ)

และอีกอย่างดิสเครดิตน่ะก็ดีอยู่หรอก งมงายไปหน่อยเพราะขนาด"พระพุทธเจ้ายังโดนกฎแห่งกรรมเล่นงาน"เองเลย...

คนที่มีตาที่สามน่ะไม่มีในยุคนี่หรอกนะครับ ยุคหน้าน่ะยังไม่แน่เลย เชื่อพุทธครับ

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=tcat colSpan=2>ข้อความส่วนตัว: Re: การประกอบอาชีพและภาวะทางจิต</TD></TR></TBODY></TABLE><!-- post # --><TABLE class=tborder id=post cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: 0px; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"><!-- status icon and date --> วันนี้, 08:37 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: 0px; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right></TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: 0px; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: 0px" width=175>Placebo<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>
สมาชิก



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 02:35 PM
วันที่สมัคร: Oct 2007
ข้อความ: 1 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 0 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนาบุญ 2 ครั้ง ใน [ARG:2 UNDEFINED] โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 0



</TD><TD class=alt1 id=td_post_ style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->Re: การประกอบอาชีพและภาวะทางจิต
<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ตามที่ได้เรียนถามมานั้น ขอตอบเป็นรายข้อดังนี้ครับ

1.ได้ครับผู้มีความผิดปกติทางจิตจำนวนมาก สามารถทำงานหรือหน้าที่ของตัวเองได้อย่างปกติโดยเฉพาะในกลุ่มของ Delusional Disorder ที่เคยกล่าวถึงนั้น ผู้ป่วยส่วนมากหากไม่ได้พูดหรือแสดงสิ่งที่คิดอยู่ออกมา

หากไม่ใช่บุคคลที่อยู่ด้วยกันตลอดเวลายากที่จะดูออกครับ เพราะมีการเปลี่ยนแปลงการแสดงออกทางด้านอารมย์นั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากเหมือนกับโรค Schizophrenia ครับ

หากแต่แนวหรือวิธีการคิดจะแตกต่างออกไปจากคนปกติ นี่เองเป็นอาการหลักที่จะสามารถบ่งบอกได้ว่าเป็นโรคนั้นหรือไม่ครับ แต่ในกรณีของคุณ.....นั้นอยู่ตรงกลางระหว่าง Delusional Disorder และ Schizophrenia

เนื่องจากอาการหลงผิดของเขาเป็นจำพวก Bizarre แต่ยังไม่ครบองค์ประกอบของโรค Schizophrenia ครับ ซึ่งเกรงว่าหากปล่อยไว้แบบนี้ต่อไปจะกลายเป็น Schizophrenia ได้ครับ

2.ใช่ครับ ยังคงมีศักยภาพในการคิดวิเคราะห์และวางแผนงานต่างๆได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในกลุ่มโรคที่ไม่ได้ส่งผลต่อสภาวะทางอารมย์หรือการแสดงออกมากนัก

หรืออยู่ในระยะเริ่มมีอาการหรือระยะแรกของ ระยะกำเริบ ในกลุ่มนี้นั้นความสามามารถในการคิดวิเคราะห์-วางแผน แทบจะไม่แตกต่างจากคนปกติครับ

3.ไม่จำเป็นครับ แค่มีพื้นฐานความเชื่อใกล้เคียงกันก็เพียงพอแล้วครับ เนื่องจากในบุคคลบางกลุ่มมีพื้นฐานความเชื่อฝังลึกอยู่ในจิตใต้สำนึกอย่างแรงกล้า

เมื่อมาเจอผู้ป่วยที่มีอาการหลงผิดในเรื่องของความเชื่อนั้นๆ แล้ว โอกาสสูงมากครับที่จะเชื่อถือตามผู้ป่วยไป

โดยเฉพาะในเคสที่ความสามารถทางอารมย์และสังคมของผู้ป่วยอยู่ในระดับเกือบปกติ เนื่องจากผู้ป่วยโรคจิตเภทและโรคจิตหลงผิดนั้นคิดว่าตัวเองเป็นแบบนั้นจริงๆ

การแสดงออกท่าทางและความที่เขาไม่คิดว่าเขาโกหกทำให้สถานะการดูน่าเชื่อมากสำหรับคนที่จิตใจอ่อนไหว และมีความเชื่อเรื่องนั้นฝังอยู่ในจิตใต้สำนึกอยู่แล้วถูกชักจูงได้ง่ายขึ้นมากครับ

ในกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเพราะมีโอกาสจะเป็นโรคจิตหลงผิดหรืออื่นๆ ตามผู้ป่วยไปด้วยค่อนข้างสูงครับ ขึ้นอยู่กับพื้นฐานทางจิตใจของบุคคลนั้นๆ
<!-- / message --><!-- sig -->
____________________________________________________________
Maybe someone told you a lie or maybe you're just being shy keep wondering why.


</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=tcat colSpan=2>ข้อความส่วนตัว: Re: พัฒนาการ</TD></TR></TBODY></TABLE><!-- post # --><TABLE class=tborder id=post cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: 0px; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"><!-- status icon and date --> วันนี้, 08:45 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: 0px; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right></TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: 0px; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: 0px" width=175>Placebo<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>
สมาชิก



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 02:35 PM
วันที่สมัคร: Oct 2007
ข้อความ: 1 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 0 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนาบุญ 2 ครั้ง ใน [ARG:2 UNDEFINED] โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 0




</TD><TD class=alt1 id=td_post_ style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->Re: พัฒนาการ
<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">

</TD></TR></TBODY></TABLE>
ในกลุ่มของผู้ป่วยโรค Delusional Disorder (โรคจิตหลงผิด) นั้นหากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการบำบัด อาจเกิดอาการประสาทหลอนทางสัมผัสหรือกลิ่นที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาความหลงผิด และหากนานไปกว่านั้นมีความเสี่ยงสูงที่จะกลายเป็นโรคที่ร้ายแรงขึ้นอย่าง Schizophrenia (โรคจิตเภท)

หรือโรคอื่นๆ ซึ่งในส่วนนี้เป็นส่วนที่เป็นผลเสียโดยตรงต่อผู้ป่วย เพราะความสามารถในการแยกจริงเท็จ การดำเนินชีวิต สภาวะทางอารมย์จะแย่ลงตามลำดับ แต่ในแต่ละเคสช้าเร็วไม่เท่ากันครับ

และบางส่วนอาจเป็นอันตรายต่อสังคมเนื่องด้วยในเคสของคุณ.....นี้มีการพยายามสอนหรือทำให้ผู้อื่นคิดว่าสัมผัสได้เหมือนตัวเอง หากบุคคลที่ถูกเหนี่ยวนำนั้น มีพื้นฐานทางจิตใจและความเชื่ออำนวยแล้วมีโอกาสที่จะกลายเป็นโรค Delusional Disorder ตามไปด้วยค่อนข้างสูงครับ
<!-- / message --><!-- sig -->
____________________________________________________________
Maybe someone told you a lie or maybe you're just being shy keep wondering why.

<!-- / sig -->

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

จากลิงค์
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=kalip
ผมเอาข้อความจาก Blog นี้ มาให้อ่านกันไปเลยครับ เป็นข้อความที่คุณตาที่สามเคยไปโพสไว้
เพื่อให้ทุกท่านลองพิจารณากันดู
โปรดสังเกตข้อความสีแดงที่ผมขีดเส้นใต้ไว้ด้วยนะครับ

เมื่อเช้าโปสขึ้นที่ห้องเก่า ในชื่อเก่า แต่ถูกตามลบทิ้ง จึงขอลองขึ้นที่ห้องนี้ดู ว่า จะตามมาลบทิ้งอีกใหม ได้พยายามเข้าไปในบล๊อก ถามตอบกาหลิบ ปรากฏว่าเข้าไม่ได้ จึงขอโปสตรงหน้าบ้านนี้ก็แล้วกัน..คุณ กาหลิบ ถ้าองค์กฤษณะ ไม่ช่วย ตรีมูลติ แล้ว จะไปช่วยใครล่ะ..จริงใหม?? ขอโปสส่วนที่ถูกลบไป ดังนี้

ผมปิดจอไปนาน เพราะคิดว่า ช่วงหลังในห้องลึกลับนี้ไม่เหมาะ ที่จะเล่าเรื่องลึกลับแปลกกๆ อีกต่อไป เรื่องที่เล่าส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องในอีกมิติ คือโลกแห่งวิญญาณ โดยอาศัยตาทิพย์ หรือ ตาที่สาม

เรื่องที่เล่าไม่ได้มีเป้าหมายที่จะให้คนเชื่อ เพียงแต่ให้ผ่านสายตา มีความจำอยู่บ้าง ว่า มีเรื่องอย่างนี้ในโลก และในชีวิตประจำวัน จะจริงแท้แค่ใหน ก็ขึ้นอยู่กับ วิจารณญาณของเขาผู้นั้น

ปิดไปนาน โดยไม่อยากจะเกี่ยวข้องอีกต่อไป แต่เมื่อวันอาทิตย์ ที่ผ่านมา 3 กค 48 มีคนมาบอกว่า ในห้องลึกลับมีการกล่าวถุงผมมากมายในแง่ลบ ผมจึงแวะเข้ามาดู ก็พบว่าเป็นจริง

เหมือนฝ่ายค้านกำลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาล โดยใช้ข้อมูลที่จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง ตัดต่อให้เข้าทางของผู้ต้องการอภิปราย จนดูเป็นที่น่าเชื่อถือ

ผมเข้ามาในห้องลึกลับนี้ประมาณ 3 เดือน และได้ทำกิจกรรมหลายอย่าง ผู้ที่ติดตามมาตลอด ก็จะมองเห็น

1. ผม พยายามให้ความรู้ในเรื่องลึกลับ ของ อวกาศ จานบิน มนุษย์ต่างดาว พญานาค เรื่องลึกลับ ต่างๆๆ ที่มองเห้นด้วยตาที่สาม และมักจะแทรกด้วยหลัก ของธรรม มาตลอด

2. ผม จัดกิจกรรม พาคนเข้าวัด ไปไหว้พระ ล่าสุด ไป แล้ว 9 กลุ่ม จำนวนคนที่พาเข้าวัด มากกว่า 120 คน การพาเที่ยววัดผู้ที่ไป ไม่มีการเสียค่าใช้จ่ายใดๆๆ มิหนำซ้ำ ทุกครั้งเราจะเสียค่าใช้จ่ายซื้อน้ำแจกทุกคนที่ไปเสียด้วยซ้ำ เป้นเงินจาก ผมและสมาชิกชมรมคนตาทิพย์

การเที่ยววัดสังฆทาน ผู้ที่ไปจะได้เห้น โบสถ์แก้วที่สวยงาม ชมโบสถ์ไม้ที่มีเสาแกะสลักอย่างงดงามพิศดารจำนวนกว่า 36 ต้น การแกะสลักเป็นรูปพุทธประวัติ และ ศาสนาอื่นๆๆทั่วโลก

การเที่ยววัดแก้วฟ้า ผู้ที่ไปจะได้เห้น ภาพพุทธประวัติเขียนด้วยสีอันงดงาม ขนาด 2 คูณ 2.5 เมตร จำนวน 40 ภาพ

ภาพเหล่านี้เป็นภาพพิเศษ ที่ผู้ที่ปฏิบัติดี มีสมาธิจิตดีจะสามารถเข้าไปในภาพ ย้อนยุคกลับไป กว่า 2500 ปี จะได้เฝ้าพระพุทธองค์ได้ นับว่าเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในชีวิตของคนๆหนึ่งที่เดียว

คนที่ตั้งใจพาคนเข้าวัด พาคนไปไหว้พระ ทำบุญ และตั้งใจจะทำต่ออีกนานเท่าที่จะมีแรง บัดนี้ถูก บิดเบือนว่า เป็นคนหลอกลวง เป็น คนลวงโลก...สังคมขณะนี้เป็นเช่นนี้..หรือ????? ผมกำลังคิดว่าจะพาคนเข้าวัด รุ่นที่ 10 11 12 13 .....จะทำได้อย่างไร เมื่อมีกลุ่มคนและขบวนการมาขัดขวาง ดังที่เห็น

3. กิจกรรมที่บูธ 053 บนสถานีรถไฟฟเต้ดิน กำแพงเพชร
3.1 กิจกรรมแรก ตรวจพลังพระเครื่อง
พระเครื่องนั้นคนไทยแทบทุกคนจะใส่พระเครื่อง แต่ไม่รู้ว่า มีพลังหรือไม่ และเป็นพลังแบบใด
ที่บูธจึงมีการบริการ ตรวจให้ การตรวจนั้น จะให้ตัวเจ้าของสัมผัสพลังนั้นด้วยตัวเองตลอดมา ว่าเป็นพลังแบบใด คงกระพัน(ยิงไม่เข้า) แคล้วคลาด เมตตามหานิยม พุทธบารมี โภคทรัพย์ร่ำรวย ฯลฯ

เจ้าของที่สัมผัสพลังพระได้ เมื่อแขวนพระ ก็ไม่กล้าทำบาปอีกต่อไป เพราะ จะมีความรู้สึกว่า ถึงแม้เมื่อทำผิด จะไม่มีใครเห็น แต่ก็รู้ว่า พระที่แขวนจะเห็น แล้วใครจะกล้าทำบาป เป็นการสอนคนให้กลัวบาป ยิ่งกว่าไปฟังพระเทศน์เป็นไหนๆๆ

3.2 ตรวจออร่า กายทิพย์ รัศมีกายทิพย์ เพื่อให้เจ้าตัวรูว่า กายและวิญญาณ จริงๆๆ ของเขาเป้นเช่นไร ควรจะแก้ไขอย่างไร

การตรวจออร่า จะมีผลพลอยได้คือเป้นการตรวจโรคกายทิพย์โดยปริยาย เมื่อกายทิพย์ป่วย จะทำให้กายหยาบป่วยตามในที่สุด โรคบางโรคจะไม่มีอาการ แต่เมื่อมีอาการ ก็แปลว่า เป็นขั้นสุดท้ายแล้ว การตรวจออร่าจะทำให้รู้ก่อน

การตรวจออร่า มีผลพลอยได้ อีกอย่างคือ เห็นองค์ใน หรือเทพที่คุ้มครองตัว เมื่อ เห็นก็จะเชิญท่านออกมาให้เจ้าของร่างนั้นสัมผัส เมื่อเขารู้ว่ามีเทพเทวดา อยู่ในตัว เขาผู้นั้นก้จะไม่ทำบาป อีกต่อไป

การตรวจออร่า และพระเครื่อง มีคนมาให้ดูไปแล้ว มากกว่า หนึ่งหมื่นคน ตลอดระยะเวลา 3ปีที่ผ่านมา ไม่เห็นมีใครมาป่วน มีแต่คนจะมาเพิ่มขึ้นทุกวัน

แต่ก่อน ทำกิจกรรมเพียง วันเสาร์ วันอาทิตย์ แต่ในปัจจุบันแน่นมาก จนต้อง ทำ 5 วัน ต่อสัปดาห์ หยุดเพียงวัน จันทร์ และวันอังคารเท่านั้น

และที่ ฮ๊อตและพูดกันมากมีอยู่สามเรื่อง คือ หลอกโฆษณาขายของ อัศวินเจได และการดูดพลัง จึงขออธิบายดังนี้

การขายของ
แรกเริ่ม ที่บูธไม่มีการขายหินสี (ตามตลาดเรียกเพชรพญานาค อัญมณีใต้น้ำ ฯลฯ) แต่ในระยะหลังมีการถามหาหินสี โดยเฉพาะคนที่เข้าใจและเล่นพลัง

ที่บูธเรามีสาวสวยหนึ่งคน เป็นคนตกงานมาจากโรงงานทำลูกปัด ชำนาญการร้อยลูกปัด เป็นคนมีพลังพิเศษ ภายในมีองค์ที่มีพลังมาก

ชมรม คนตาทิพย์ จึงให้เธอไปหาหินสี เอามาใส่พลัง เธอมีความสามารถใส่พลังชนิดใด ก็ได้ตามที่ผู้มาซื้อต้องการ
เธอได้ราคามาจากโรงงานตรง จึง ขายในราคาต่ำกว่า ตลาดมาก คนที่ซื้อ จึงให้หมดไม่เอาเงินทอน เพราะราคาต่ำกว่าธรรมดา

การซื้อนั้น ผู้ที่ซื้อ จะมาเลือก ชนิด สี และพลัง โดยให้เขาสัมผัสพลังและความชอบเอาเอง ดังนั้นการซื้อ คือการซื้อพลังนั่นเอง
ที่มีปัญหาคือ มีสมาชิกสองคน ถกเถียงกันบนจอว่า มีหินสีหายากอยู่สองสีคือ สีเขียว กับสีน้ำเงิน มีจำนวนน้อย ทำท่าจะแย่งกัน เธอจึงขอให้ผมบอกไปบนจอว่า ไม่ต้องแย่งกัน ยังมีอีก 2-3 เม็ด

แค่นี้แหละครับ คนที่จ้องอยู่ก็เอาไปขยายความว่า ผม แอบแทรกการขายของมาบนจอ โฆษณาขายของมาตลอด..และก็ขยายวงเรื่องหลอกขายหินสีออกไป จนกว้าง เกินไกล..ดังที่ได้เห็นได้ยิน นั่นแหละครับ

การโฆษณาจะต้องบอก ชนิด สี ราคา..มีบนจอหรือเปล่า
คุณภาพของหินสี เพชรพญานาค ว่าสีใหนให้คุณอย่างไร คนอื่นเอามาเสริมเป็นความรู้ให้เป็นกรณีย์พิเศษ

ผู้ที่เอามาเสริม ก็เลยตก อยู่ร่วมในขบวนการ กลายเป็น สมุนไปอย่างน่าสงสารที่สุด สองท่านที่โปสเรื่องแย่งหินสีหายากสองท่าน คงจะจำเรื่องของตัวเองได้ ที่เป้นต้นเหตุให้เกิด การขยายความว่า ผม หลอกขายของชาวบ้าน

ดาบเจได
โดยทั่วไป คนทุกคนอยากมีตาที่สาม เพื่อจะได้มีตาทิพย์เห้นอนาคต เห้นอดีต ระลึกชาติได้ ฯลฯ

ตามปกติคนจะมีตาทิพย์ได้จะต้องมีการทำสมาธิภวนา นานแก่กล้า จน มองอะไร ก็เห็นของแปลกๆวูบวาบ หรือ ที่จุดหว่างคิ้วนั้นจะเต้น ตุ๊บๆๆ ซึ่งแปลว่า ตากำลังจะทะลุเจาะออกมาแล้ว เจาะเมื่อใด ตาก็จะทิพย์ทันที

ผมพบคนที่ตาใกล้เจาะก็จะช่วยเขาได้ โดยการเจาะให้ตาที่สามทะลุออกมา ทำโดยอัญเชิญพลังพุทธบารมีมาอยู่ที่มือ สองข้าง

แล้วไปวางที่ ท้ายทอย (ก้นกระบอกตาที่สาม) และอีกมือวางที่ หน้าผากหว่างคิ้ว (ปลายกระบอกตาที่สาม)

ตั้งจิตให้แสงสีขาวของพุทธบารมีวิ่งผ่านจากมือขวาไปยังมือซ้าย แสงขาวนั้นจะทะลุทะลวงทำความสะอาดลำกล้องกระบอกตาที่สาม

เมื่อมองด้วยตาทิพย์จะเห็นว่ามีการล้างทำความสะอาด ลำกล้องตาที่สาม เมื่อสะอาดดีก็ยกมือออก เมื่อลำกล้องสะอาดไม่มีอะไรขวาง เขาก็จะมีตาทิพย์ทันที

ระยะแรกจะไปได้ไกลไม่เกิน 5 เมตร และ สาดกระจาย ต้อง จัดปรับให้เป็นลำแสงตรง แสงจึงจะวิ่งไกล เขาผู้นั้นจะต้องฝึกปฏิบัติสมาธิจนกว่า แสงจะไปไกลมากกว่า 100 เมตร จึงจะใช้ได้
การที่ต้องเอามือสองมือมาจับที่หัวนี้เอง เป็นที่มาของ การบิดเบือนว่า ผม เป็นคนมีพลังมาก ใช้พลังจาก จักระที่1 เอามือมาดูดหัว จะทำให้ น้ำในหัวแห้ง เขาผู้นั้นจะตาย
ให้ระวังผมไว้ผมเป็นฆาตกรเลือดเย็น

คนที่ถูกเจาะ หน้าผากให้มีตาที่สาม นั้น เมื่อตาเกิด ตานั้นจะมีพลังมาก เมื่อ เอามาจ้องมือ ข้างใดข้างหนึ่งที่ถนัด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นมือขวา

เมื่อจ้อง มือนั้นจะเรืองแสงเป็นแสงสีเหลืองมองเห็นได้รางๆๆตอนแรก และจะเข้มเมื่อฝึกปฏิบัติจนได้ที่ จนยาวเกือบ 1เมตร เป็นมือที่สวยงามเมื่อมองในที่มืด

มือที่มีแสง ทีแรกก็ไม่ได้เน้นอะไร แต่พอดีขณะนั้น มีภาพยนต์เรื่อ งสตาร์วอ เข้ามา มีดาบแสงเลเซอร์อยู่ในมือ สวย งาม จึงเรียกว่า ดาบเจได เพื่อให้ทันยุค และคนที่มีดาบนี้เรียกว่า "อัศวินเจได" นั้นเอง

ดาบเจได มีประโยชน์อย่างไร มือที่มีแสงคือมีคลื่นที่คล้ายพลังคลื่นในเครื่องไมโครเวบ มีความถี่ สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ จึงใช้ทำการรักษาคนได้โดยไม่มีอันตราย รักษาโดยเอามือนั้นมาเพ่งจนเรืองแสงแล้วเอามือนั้นไปจับร่างกายส่วนที่เจ็บ ก็จะทำให้หายเจ็ยป่วยได้ จับนานประมาณ 10 วินาทีสำหรับผู้ใหญ่และ 1-2 วิ สำหรับทารก

คนที่กล่าวว่า เรื่องนี้เป้นเรื่องโกหกหลอกลวง อยากให้มาดูมือที่เรื่องแสงได้ที่นี่ และในปัจจุบันได้ เปิดตาที่สาม และติดดาบเจไดไปแล้ว 67 คน กะว่า ชุดแรก ติดเพียง 100 คนก่อน ดูว่าไดผลมากน้อยประการใด

น้ำมนต์ เป็นอีกเรื่องที่ บิดเบือนกันมาก
การเปิดตาที่สาม และติดดาบเจได โดยการเจาะกระบอกตาเป็นเพียงการเริ่มต้น เขาผู้นั้นจะต้องปฏิบัติต่อ ไม่ใช่ ติดแล้วได้เลย การปฏิบัติคือการทำสมาธิ

ถ้าบอกให้เพ่งเฉยๆๆ ดูง่าย แต่ปฏิบัติยาก จึงต้องมีสิ่งจูงใจ จึงมีกลอุบาย ทำน้ำมต์ แล้วให้แตะที่คอ หน้าผาก และท้ายทอย เมื่อแตะแล้ว คนที่จะทำจิตจะทำได้ง่าย โดยกำหนดจิตไปที่จุดที่แตะนน้ำมนต์นั้น

เขาพูดกันว่า ผมหลอกขายน้ำมนต์ ถ้าใครอยากมีตาทิพย์ก็ให้มาหาผม ผมขายน้ำมนต์ให้แล้วเขาจะตาทิพย์ ผมจะรวยด้วยการขายน้ำมนต์ ตามกิเลสคน

จริง ครับ ผม ขาย น้ำมนต์
ราคาเท่าใด ???

ทุกคนที่มาติดดาบเปิดตาที่สามผมจะบอกเขาว่า ให้เอาเงินไปซื้อของถวายสังฆทานที่วัดไกล้บ้านหนึ่งชุด ถวายวัดแล้วแผ่กุศลให้เจ้ากรรมนายเวรของเขาเอง

ที่ต้องให้เจ้ากรรมนายเวร เพราะในการทำความสะอาดลำกล้องกระบอกตาที่สามนั้น ในบางกรณีย์ อาจจะมี เขาแอบอยู่ในกระบอกตาที่สาม เมื่อ ทำความสะอาดก็จะเท่ากับขับไล่เขาออกไป

จึง จำเป้นที่จะต้องแผ่กุศลเผื่อไว้ก่อน ครับ เป็นการให้เขาเอาเงินไปทำบุญ สร้างวัดโดยปริยาย..นี่คือ ค่าน้ำมนต์ครับ

การดูดพลัง
การดูดพลัง สำหรับคนนอกวงการจะไม่เข้าใจ แต่คนในวงการจะเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดา

หลักการมีว่า ในโลกสังคมของเรา เราก็มีคนไม่ดี คนขโมย
คนที่จะขโมยก็ต้องจ้องเหยื่อที่มีทรัพย์ ใส่สร้อยทองคำหนักๆๆ แหวนทองเต็มตัว ถ้าเผลอเมื่อใด ก็ขโมยเมื่อนั้น

ในโลกแห่งวิญญาณ ก็เช่นกัน คนที่มีอำนาจบางอย่างก็เป็นขโมยได้ เขาขโมยพลัง เพราะเป็นของมีค่า

ในงานที่เกี่ยวกับมหกรรมทางจิต หรือพลังจิตที่เป็นงานใหญ่ หลายๆๆวัน เช่นงานวิทยาศาสตร์ทางจิต ที่จัดช่วง ต้น ธันวาคมของทุกปี จะมีงาน 4-5 วันติดกัน

พวกขโมยพลังจะมาสุมกัน มาก ผม จับพวกนี้ได้ทุกปี ต้องออกกำลังศาลเตี้ยนิดหน่อย เพราะไม่มีกฏหมายเอาผิด พวก ขโมยพลัง

พวกนี้ดูง่าย มักจะแต่งตัวสีขาว ซ่อมซ่อ เหมือนหมอผี พอเราเผลอก็จะมาแอบยืนข้างหลัง เอามือชูยก ดูดด้วยจิต พวกสมาชิกที่มาด้วยกันก็จะโวยวายและเข้าจับ จับได้ปีละหลายคน

ต่อมาพวกขโมยพลังมีวิธีการดีขึ้น เขาสามารถ เพ่งชื่อเรียกกายทิพย์มาให้ยืนตรงหน้า เหมือนที่ผมทำเสมอที่บางคนขอให้ดูออร่า ผมก็รียกกายทิพยฺมาจากจอ แล้วก็มอง ออร่าได้ ทันที คนที่ป่วยผมก้รักษาก่อนแล้วส่งกลับ

ผมไม่กล้าขโมย เพราะบาปหนักมาก เท่ากับ ฆ่าคนเลยทีเดียว
แล้วคนอื่นที่เรียกมาแล้วดูดพลัง โดยขัดขืนไม่ได้
ผมจึงปิดจอ และบล๊อค กายผมไว้ไม่ให้เขาดูดจากผมได้อีกต่อไป

ถ้าแวมไพร์มาเจาะดูดเลือด ร่างกายจะเสียเลือดไป ร่างนั้นจะอ่อนแอ และเจ็บป่วยถึงตายได้

ถ้าดูดพลัง คือ ดูดออร่า จากตัว จนสีตัวซีด กายทิพย์จะอ่อนแอ ไม่มีพลัง เมื่อกายทิพย์ป่วย กายหยาบก็จะป่วยด้วยเช่นกัน...นี่คืออันตรายจาก การถูกดูดพลัง

วิชาดูดพลังนั้น จริง หรือ
ถ้าเห็นการโปสกันระหว่างคนสองคน คือ คุณ เมฆครึ่งฟ้า นัดกันไปหา ครูบากำเป็งที่จะไปที่ ศูนย์โลกทิพย์เมื่อวันที่ 2กค 48 ครูบาคำเป็งท่านนี้แหละครับ เป็นต้นวิชา ดูดพลัง ตัวจริง

แต่ท่านสอนวิชา ดูดพลัง ย้ายพลัง สำหรับพระเครื่อง ห้ามเอามาใช้กับคน แต่คนที่ได้วิชาไป อย่าเอาไปดูดคน..บาปนะครับ.
.หวังว่า คุณ เมฆครึ่งฟ้า ที่ จะเรียนวิชานี้ อย่าเอามาใช้กับพวกเรานะครับ.ตกนรกแน่ๆๆ เหมือน คนที่กำลัง ทำกับพวกเราอยู่ขณะนี้

อย่างไรก้ตาม จะเห็นว่า ผมไม่ได้ อ้างหรือกล่าวชื่อของผู้ใด เพราะไม่ต้องการมีการพูกพันกันอีกหลายชาติ

กฏสวรรค์มีอยู่ข้อหนึ่ง ที่สำคัญ

ผู้ใด ทำผิดโดยตั้งใจ ชักชวนให้คนเข้าใจผิด เป็นบาป

ถ้าการทำผิดนั้น เป้นการทำผ่านหนังสือ สื่อสาร ต่างๆๆ จะผิดและมีบาปมากขึ้น ตามจำนวนคนที่ถูกชักจุงให้เข้าใจผิด

ถ้าเป็นหนังสือ หนังสือจะอยู่นาน จะมีคนมาอ่านมาก บาปก็จะมาก
บนเวบ สื่อจะอยู่นานไม่เกิน 15 วัน ก็จะหลุดไป..จำนวนบาปก็คงจะพอประมาณ

ขณะนี้ฝ่ายค้านได้อภิปรายไปแล้ว ไม่น้อยกว่า 10 คน
ฝ่ายรัฐบาล คือผม คนเดียว จึงขออภิปรายเพียงคนเดียวเป้นคนสุดท้าย และได้อภิปรายไปเรียบร้อยแล้ว

ขอท่านประธานสภาห้องลึกลับกิติมศักดิ์ คุณ FREEK
ปิดการประชุม การอภิปรายไม่ไว้วางใจ

สมัยประชุมปิดไปแล้ว ไมค์ถูกเก็บไปแล้ว
ไม่มีใครจะอภิปรายได้อีก ตามกติกา

เหลือเพียงการลงมติไม่ไว้วางใจ
ผู้ที่จะลงมติคือ สมาชิกสภาห้องลึกลับทุกท่าน

ผมยินดีรับผลการตัดสิน ของการมติ

พร้อมกันนี้ก็ขอ ลาออกจาก สภาพการเป้นสมาชิกสภาห้องลึกลับ
กลับไป
รวจพระเครื่อง
ตรวจออร่า
ตรวจโรคกายทิพย์
ตรวจองค์ใน
เปิดตาที่สาม
ติดดาบเจได
อย่างราษฎร์เต็มขั้น
เป็นคนธรรมดา
สะบายกว่ากันเยอะเลย
สวัสดี ครับ

ข้อความทั้งหมดคือ ข้อความที่ถูกไล่ลบ มาตลอด ในทันที
ก็อยากจะดูว่า จะตามเข้ามาลบในห้องนี้ได้ใหม
หวังว่า องค์กฤษณะ คงจะช่วย องค์ตรีมูลติ ได้ นะ ครับ

ฃอบคุณ เป็นที่ยิ่ง

<!-- End Comment 19 -->

<TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="100%"></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ช่วยขยายความหน่อยได้ไหมครับ
ว่าเป็นอย่างไร
อยากทราบครับ เพราะสังเกตว่าจะมีการจาบจ้วงศาสนา
และสิ่งศักดิ์สิทธิ์แทรกเป็นระยะ
อยากจะยกตัวเองจนลืมตัวครับ พูดได้ทุกอย่างจริงๆ

 

ฮ่าฮ่าฮ่า อาจมตาที่สามน่ะ ไม่ได้เป็นโรคจิตหรอกครับ แต่จงใจที่จะ เปิด(แหก)ตาที่สามชาวบ้านเขาน่ะ เพราะความเมตตาที่มีต่อชาวโลก(ครอบครัว และกระเป๋าต่างหาก)หรือจะ
เพื่ออะไรก็ไม่ทราบ ขอย้ำว่าไม่ทราบจริงๆอ่ะนะ
ที่เขาต้องการพบน่ะไม่ใช่จิตแพทย์หรอก
แต่เป็นท่านยมและที่ร้อนๆต่างหากเล่า (ซึ่งดูแล้วก็ต้องได้พบได้ไปแน่ๆ)
ฮ่าฮ่าฮ่า

 

ใช่ๆ สุดยอด สุดยอดซะจนน่าจะเอาหนังยางดีดปากเขาคนละทีน่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า

 

มุสาวาท ................ ร้อน ๆ ครับท่าน

http://palungjit.org/showthread.php?t=96568

 

...แฉกันยังกะชูวิทย์- -*

 

ชูวิทเขามี 2 ตา ตกเทรนแล้วคับ ^^

ดันๆกะทู้ เมื่อกี้หาไม่เจอแนะ นึกว่า หายไปสะแล้ว 555+
(eek) (eek) (eek) (eek)

 

^ ^

Thank ... Intah

ไปเล่นเกมส์กันดีกว่า

http://palungjit.org/showthread.php?t=96608

 

โอ้วส์ ผมไปต่างจังหวัดมาหลายวัน
กลับมาเห็นกระทู้ยังอยู่ ชื่นใจเป็นอย่างยิ่ง
หลายคนคงผิดหวังนึกว่าผมตายไปแล้วซินะ 5555555+

เอ้า กลับมาแล้ว ทำงานต่อ ดันๆๆๆ

 

<TABLE class=tborder id=post711719 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>The Third Eyes<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_711719", true); </SCRIPT>
สมาชิก ยอดนิยม



วันที่สมัคร: Mar 2005
ข้อความ: 1,216 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 144 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 29,027 ครั้ง ใน 1,230 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 3297


</TD><TD class=alt1 id=td_post_711719 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ตอนนี้ ที่บู๊ธ
มีอาวุธชนิดใหม่..ไว้ป้องกันแล้ว
เป็นระเบิด พลังจิต ประยุกต์ พลังนิวเคลียร์

พอมีตัว ดูดเข้ามา..มีกระแสคลื่นจับสัญญาณได้
ระเบิดก็จะทำงาน..ตัวดูดก็จะไม่เหลือ
กฏแห่งกรรมที่ บู๊ธ จึงเหมือน ติดจรวด

ใครที่เป็นตัวไม่ดี..ห้าม มาที่บู๊ธ..นะครับ
เดี๋ยวจะหาว่า .หล่อ..ไม่เตือน
<!-- / message --></TD></TR></TBODY></TABLE>


5555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555

ตลกแบบนี้ ถั่วแระ เชิญยิ้ม ยังอาย

 

คุณตาที่3 โดนแบนไปแล้วนี่ครับ เห็นเมื่อกี้แวปๆๆ..........

 

ข้าน้อย ขออภัย ที่โดนแบนเป็นตาที่3 ไม่มีตัว s เฮ้อ เวปนี้ไม่มาให้บ่อยๆๆๆ งง เลย ตามไม่ทัน........

 

ตกลงว่ายังสินะ
ใครจะไปแบนได้พวกเขามีเยอะขนาดนั้นเหอๆ