กสิณไฟใครว่ายาก.....ตำราหลวงพ่อเกษม เขมโก ง่ายจัง

เป็นตำราวิธีของหลวงพ่อเกษม เขมโก อรหันต์แห่งเมืองลำปาง ท่านสอนให้ทำง่ายๆครับ แต่ขอให้ทำเป็นประจำเท่านั้นพอ...ส่วนผลที่ได้นั้นผู้ปฏิบัติจะรู้เองครับ จุดมุ่งหมายสูงสุดคือ "ความสงบ"
....ลองเอาไปปฏิบัติกันดูครับ...


วิธีนั่งภาวนา เตโชกสิณ (กสิณไฟ)สะมะถะกัมมัฏฐาน

การฝึกภาวนาเตโชกสิณ หรือกสิณไฟ ตามแบบของหลวงพ่อเกษม เขมโก เป็นการฝึกกรรมฐานอย่างหนึ่งซึ่งหลวงพ่อเกษม เขมโก เคยสอนลูกศิษย์ติดต่อกันมาหลายรุ่นแล้วดังต่อไปนี้...
ขั้นแรก ให้จัดเตรียมเทียนที่ผึ้งมา ๑ เล่ม ขนาดเท่าแท่งดินสออาจเล็กหรือใหญ่กว่าเล็กน้อยก็ไม่เป็นไรสั้นยางเท่าเทียนไขธรรมดาหรืออาจสั้นกว่าเล็กน้อยก็ได้หาที่สำหรับปักเทียนมาหนึ่งอันจะเป็นจากกระเบื้องจานสังกะสี หรือก้อนอิฐที่สะอาดก็ได้เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟไหม้เมื่อเทียนหมดวัดจากปลายเทียนด้านที่ใช้จุดไฟให้ยาวหนึ่งข้อนิ้วมือ (นิ้วชี้)แล้วเอาไม้เล็ก ๆเหลาปลายให้แหลมปักไว้ หรือจะใช้ได้ผูกไว้พอให้รู้กำหนดที่เหมายไว้เท่านั้นหลังจากไหว้พระสวดมนต์ตามปกติเสร็จแล้วก็เริ่มฝึกภาวนา “เตโชกสิณ”ต่อไป

ก่อนจะนั่งภาวนา ให้ไหว้พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อีกครั้งหนึ่งดังนี้
อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ ( กราบ ๑ ครั้ง )
สะหวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, ธัมมัง นะมัสสามิ ( กราบ ๑ ครั้ง )
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, สังฆัง นะมามิ ( กราบ ๑ ครั้ง )
จากนั้นให้นั่งภาวนาเตโชกสิณ ผู้ชายนั่งขัดสมาธิผู้หญิงนั่งพับเพียบ จุดเทียนปักไว้ตรงหน้าให้เทียนห่างจากหน้าตักหนึ่งศอกกับหนึ่งคืบ พนมมือว่านะโม ๓ จบ แล้วอธิฐานกสิณ ๓ ครั้งดังนี้

อะมัง กะสิณัง อะธิฏฐามิ
อะมัง กะสิณัง อะธิฏฐามิ
อะมัง กะสิณัง อะธิฏฐามิ

จบแล้วเอามือลง นั่งสมาธิภาวนากสิณไฟต่อไปโดยพิจารณามองดูไฟที่เปลวเทียนพร้อมกับบริกรรมในใจอย่างสม่ำเสมอว่า“ไฟ ไฟ ไฟ...” ไปเรื่อย ๆ จนกว่าไฟที่เทียนไหม้ลงมาถึงที่กำหนดซึ่งเราเอาด้านพันหรือเอาไม้ปักหมายไว้ จึงหลับตาลงแล้วภาวนาในใจต่อไปอีกเรื่อ ๆจนก่าเราจะเลิก หรือปลงกสิณ
เมื่อจะปลงกสิณก็ให้กล่าวคำปลงกสิณ ๓ ครั้งดังต่อไปนี้

เตโช กะสิณัง ปะติฏฐิปามิ
เตโช กะสิณัง ปะติฏฐิปามิ
เตโช กะสิณัง ปะติฏฐิปามิ

จบแล้วให้กราบลาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ดังนี้

พุทธัง วะรันตัง สิระสา นะมามิ
ธัมมัง วะรันตัง สิระสา นะมามิ
สังฆัง วะรันตัง สิระสา นะมามิ

ให้ท่านปฏิบัติไปเถิดทุก ๆ วัน ตามแต่เวลาจะอำนวยให้เมื่อท่านปฏิบัติสม่ำเสมอแล้ว ท่านจะมีความรู้สึกว่าจิตใจของท่านมีความสุขสงบเยือกเย็น

 

อนุโมทนาสาธุครับ..ถ้าจากบทความที่นำลงดูแล้วเป็นกุศโลบายที่ดีมากครับเพื่อดึงให้จิตสงบให้ได้ได้ก่อน
ทำได้เลยครับ.และก็เป็นกุศโลบายที่น้อมเอากำลังสมาธิที่ได้..ไปใช้ในการยกระดับภูมิจิต
ให้ก้าวเข้าสู่การตกกะแสธรรมแบบไม่รู้ตัวได้ภายหลังได้.แม้ว่าจะไม่เกิดผลในการใช้ฤิทธิ์ในขั้นนี้และถึงขั้นใช้งานได้ช้าแต่จะ....

ได้ความละเอียดของจิตแทนจากการรักษาอารมย์ใจไม่ให้กิเลสมาเกาะได้
ในระหว่างวันจากกำลังที่ได้จากฝึกนี้.เป็นเหตุให้จิตสามารถน้อมไปสู่การตกกะแสธรรมได้.แต่ในระหว่างที่ฝึกนี้...ควรน้อมเอาความร้อนของไฟ
มาพิจารณาเปรียบเทียบทางธรรมในลักษณะที่คล้ายกับว่ากิเลสต่างๆที่เกิดขึ้นในใจ
จะร้อนมากกว่าไฟ..เพื่อเป็นอุบายที่ดึงให้จิตสงบและสามารถทรงอารมย์ที่จะคอยกั้นกิเลสไม่ให้สามารถเข้า
มาเกาะได้ง่ายๆอยู่อย่างนั้น.ก่อนที่จะถึงขั้นที่นำไปใช้งานโดยใช้งานได้หรือไม่ได้ไม่ใช่ประเด็นหลัก ณ จุดนี้..

แต่กสิณไฟถ้าสามารถนำไปใช้งานได้.ควร
เน้นพรหมวิหาร ๔ ให้มากๆนะครับ.โดยเฉพาะเรื่องเมตตา..
และระมัดระวังการนำไปใช้งานในทางอกุศลต่างๆที่ไม่ใช่ทางธรรม
.ไม่ง้ั้นจิตจะไม่วางผลของการกิริยาคงค้าง..ที่เกิดจากการใช้ฤิทธิ์ง่ายๆ.
และใช้เวลาหลายวันอยู่กว่าจิตจะกลับสู่สภาวะปกติได้..ประมาณนี้ครับ..​

 

เมื่อคืนผมลองทำตามวิธี(ซึงปกติผมจะบริกรรมแต่พุทธโธเป็นหลัก) พอเทียนหมดตามที่กำหนดผมก็นั่งหลับตาแล้วบริกรรมว่าไฟๆสักพักรู้สึกว่าตามตัวมันปวดเมือยมันตรึงแต่ก็บริกรรมต่อสักพักร่างกายเริ่มโยกไปมาทีแรกนึกว่าตัวเองทำเอาคิดว่าเรามโนไปเองลองหยุดแต่มันไม่หยุดบังคับร่างกายไม่ได้มันโยกเองแรงขึ้นๆแต่ในใจรู้สึกว่าถ้าเราโยกแบบนี้เดวหัวต้องฟาดพื้นแน่ๆ(เคยเป็นครั้งหนึงตอนที่บริกรรมพุทธโธ)แต่ก็คิดว่ามันจะฟาดกะฟาดวะบริกรรมไฟต่อมันเปลี่ยนเป็นโยกด้านข้างโยกไปมาอย่างนั้น แต่แปลกตรงรู้สึกว่าร่างกายที่ตึงที่ปวดกลับหายพอคิดว่าเอ่อหายปวดแล้วหยุดโยกเองครับ ตั้งแต่นั่งภาวนามา นี่เป็นครั้งที่สองที่ร่างกายมันโยกเอง ครั้งแรกนั่งบนที่นอนโยกจนหน้าผากฟาดที่นอนแต่ยิ้มมีความสุข ไม่มีความรู้สึกกลัวเลย อยากรู้ว่ามันคืออาการอะไรครับ

 

อาการของปีติครับ

 

อนุโมทนาสาธุครับ
ผมเคยนั้งสมาธิครั้งแรกกับพ่อ (พ่อสอนให้นั่งตอนวัยรุ่น) ตอนนั้นนั้งแล้วจิตสงบ เป็นสมาธิ แล้วจู่ รอบๆๆก็มืดแล้วเหมือนตกลงในความมืดอย่างเร็ว ซึ่งรอบๆๆ ก็มีแต่ความมืด จะว่าไปก็เหมือนตกในหุบเหวมืดแต่ยังอยู่ในท่าสมาธิ แต่สักพักก็ตกใจตื่นขึ้นมาเพราะความกลัว ในการนั่งครั้งแรก หลังจากนั้นก็ไม่กล้าที่จะนั่งสมาธิอีกเลยจนถึงปัจจุบัน ^^

* ไม่รู้ว่ามันคืออาการอะไร แต่เคยถามพ่อ พ่อบอกตอนแกนั่งครั้งแรกก็เจอ แต่เจอเป็นการนั่งสมาธิอยู่บนกองกระดูกจากนั้นแผ่เมตตา กระดูกเหล่านั้นก็หายไป

อยากรบกวนถามว่า อาการนั้นเป็นอะไร และการนั่งแบบนั้นผิดปกติหรือป่าว ช่วยแนะนำหน่อย ^^

 

ทำไมน้ำตาเทียนไหล
ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งแล้วขอรับ

หลวงพ่อยืนสงบอยู่
ใครมีคำตอบว่าท่านยืนสงบทำไม

ถามจริง
ท่านยังเหลือตัวตนอยู่หรือท่านที่เป็นศิษย์มีตัวมีตังอยู่ขอรับ

ถามอีก
ทุกวันนี้มีใครไปนอนเฝ้าสังขารหลวงพ่อบ้าง
กระผมเห็นมีทั้งจัดเวรกันเฝ้า
เพื่ออะไร..............

กลัวตู้บริจาคสตางค์หายกระมังขอรับ

ขอท่านเจริญในธรรรณณณณณมยิ่งแล้วขอรับ

 

งง....

 

ก็ไปดูสิขอรับถึงจะรู้จะริง

สังขารหลวงพ่อยังอยู่
ผมถามจริงไม่ลิง
มีใครไปนอนเฝ้าบ้างหรือไม่อย่างไร
เฝ้าอะไร
เฝ้าสังขารหรือเฝ้าทรัพย์

ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งแล้วขอรับ

ปัญญาไม่เกิด
กระผมงุน...........ขอรับ

 

เรื่องนี้มั่ว ไม่รู้จริง

 

เรื่องจริงไม่ได้อิงนิยาย
ก่อนพระท่านจะละสังขาร
มีชวดหนูฉลูวัวขารเสือมดกระต่าย
ไปขอบุญญา(ยา)ไม่ขาด
พอท่านละร่างไปแล้ว
เอามาเก็บ
สังขาราสัตตานัคถิ
สังขารนี้ไม่เที่ยงหนอ
ตายไปแล้วไม่เน่า
เที่ยงหนอ

ว่างมาทำบุญนะ
เดี๋ยวได้โลภ

ไปถามทหารที่มานอนเฝ้าสังขารท่านไหมละ
รู้จริงขอรับ
ไม่ต้องไปหาขุนช้างที่สุพรรณ

ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งแล้วขอรับ