ช่วงเวลากรรมให้ผลกรรมส่งผล ท้อกันมั่งรึเปล่าครับ และผ่านช่วงนั้นมายังไงครับ

ท้อแท้อย่างที่สุด เสียใจอย่างที่สุด เหนื่อยสุด ๆ รู้สึกว่าการทำความดีกับคนบางจำพวก แล้วเขายังมองเราในแง่ไม่ดีอยู่ ก็เหนื่อยในการที่จะให้สิ่งดี กับคนพวกนั้นไป บางทีโมโหสุด ๆ (มันเหมือนกับเราเอาน้ำรดหัวตอ ทุกวันเพื่อหวังจะให้มันงอกเป็นต้นไม้ ใบไม้ขึ้นมาให้ได้) บอกเจ้าของกระทู้เลยว่าอยากจะเลิกทำความดีไปเลย ไม่รู้ว่าจะทำความดีต่อไปเพื่ออะไรแล้ว
แต่พอถึงเวลาสวดมนต์ ปฏิบัติธรรม ก็ทำให้คิดได้ว่า เอ่อ โลกนี้มันน่าเบื่อหนอ โลกนี้มันวุ่นวายหนอ แต่เราหน่ะสิที่ดันเลือกที่จะเกิดมาเอง ตัวเราเนี่ยแหละตัดสินใจจะทำงานนั้น ๆ เอง ก็ยังไม่รู้เลยว่าเกิดจากเวรกรรมอะไร เลยตัดสินใจว่าให้ตัวเราเนี่ยแหละรู้เท่าทันอารมณ์ทุกขณะจิตของตัวเองให้ได้ พยายามทำความดีเพื่อตัวเราเองให้มากที่สุด เพื่อที่ว่าเราจะได้ไม่โง่มาเกิดอีกค่ะ

 

รู้และเข้าใจยอมรับและปล่อยวาง...ไม่ใช่เราคนเดียวบนโลกที่เจอยังมีคนอีกมากมาย

คิดว่าชีวิตไม่ได้มีแค่นี้ แต่ขึ้นอยู่กับว่าช่วงเวลาที่เรามีชีวิตอยู่เราทำความดีไว้ให้กับโลกนี้บ้างหรือยัง

 

เป็นกำลังใจให้ทุกท่านครับ ยังดีที่ได้ทำ ดีกว่าทำอะไรไม่ได้เลย.. T-T

 

เพราะทุกข์ ทำให้เรารู้ว่าสุข เป็นอย่างไร

ดีกว่า เพราะสุข ทำให้ไม่รู้ว่าทุกข์ เป็นอย่างไร

ชีวิตคนเราก็เท่านี้ละครับ ไม่ทุกข์ ก็สุข ไม่สุข ก็ทุกข์

วนๆเวียนๆกันอยู่แค่นี้แหละ ตลอดชีวิตของเรา

เวลามีทุกข์.......ก็รู้สึกช่างยาวนานเหลือเกิน

เวลามีสุข.........ไหนมันมาแปปเดียวเอง

เกิดมาแล้ว ก็ต้องทนเอา ทนไปเรื่อยๆ จนกว่าหมดลมหายใจ

ใครทนไม่ได้ ทนกับจิตใจของตัวเองไม่ได้ ก็หาทางไปฆ่าตัวเอง

โลกก็มีเท่านี้ เกิด แก่ เจ็บ แล้วก็ตาย ถึงเวลาก็มาเกิด มาแก่ มาเจ็บ มาตายอีก

อยากจะพ้นทุกข์ ไม่ต้องไปเหนื่อย ไปหาวิธีแล้ว

วิธีเดียวที่จะพ้นทุกข์ ทำตามอย่างองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ที่พระองค์ได้พบหนทางไม่กลับมาเกิดอีก

ขอเป็นกำลังใจให้ท่านเจ้าของกระทู้และผู้อ่านทุกท่านครับ

ปล. ผมก็ทุกข์เช่นเดียวกัน

 

เคยท้อบ่อยๆ ตอนนี้ก็ยังมีท้อ .. และก็พยายามเข้าใจความท้ออยู่ครับ

ผมก็เป็นคนธรรมดาคนนึงครับ ท้ออยู่บ่อยๆครับ
แรกๆก็หันไปทำอะไรๆ เพื่อให้ลืมมันไปครับ
หลังๆก็แช่อิ่มอยู่กับความท้อนั้นๆ จนจิตหดและย่นยู่ไหวหวั่นวูบวาบไปหมดเลยครับ (เพราะยังไม่เข้าใจ)

พอเริ่มพิจารณาเป็นธรรมะ
และกับทั้งครูบาอาจารย์สอนมาด้วย ก็เข้าใจความท้อบ้างแล้วครับ(เข้าใจบ้าง แต่ยังไม่หมดครับ ยังอีกเยอะ) ... "ท้อ"โดยตัวมันเอง ก็เป็นแค่สภาวะธรรมอย่างนึงเท่านั้น เรามีหน้าที่พิจารณา โดยเอาสติกำกับลงไปเพื่อสร้างปัญญาครับ "เพื่อให้เข้าใจชัด"ลงไปว่า "ท้อ"นี้"แท้"จริงแล้วก็มีสภาพเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เท่านั้นแหล่ะครับ มันอยู่ในกฏไตรลักษณ์ เพราะไม่คงตัวไปโดยตลอด มีอาการหดตัวลงและวูบไหวไปตามธรรมดา และสลายตัวไปในที่สุด ไม่ยั่งยืนอะไรเลย ...

เป็นสักแต่ว่าธรรมชาติที่เป็นธรรมดาชนิดนึงที่เกิดด้วยเหตุด้วยปัจจัยบางอย่าง และเมื่อเกิดขึ้นแล้ว คงตัวอยู่ชั่วคราว และก็จะสูญสลายหายไปอย่างแน่นอนครับ ... เท่านั้นล่ะครับ ...

เป็นกำลังใจให้ทุกๆท่าน ให้สามารถเก็บเกี่ยวปัญญาสะสมความเข้าใจให้เต็มที่ให้ได้ครับ ในทุกๆปัจจุบันขณะ เพื่อไปสู่พระนิพพานให้ได้โดยไวครับ ด้วยการพิจารณาความ"ท้อ"ให้เข้าถึงธรรม ฯลฯ ได้ในที่สุด ...

(ปล. ตัวผมเอง ก็ยังต้องพยายามต่อๆไปเช่นกันครับ ... โดยทั้งหมดนี้ เป็นความเห็นส่วนตัวของผมเองนะครับ "อาจผิดพลาดได้" ... "โปรดใช้วิจารณญาณด้วยครับ")


ปรารถนาดียิ่ง
ประทีป
^_^
_/\_

 

กรรมของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน นะ ครับ ถ้าไม่เจอกับตัวเอง พูดไม่ได้ หรอกว่าจะเป็นอย่างไร ของผมจะเป็นแบบ ขึ้น แล้วลง สุด แล้วก็จะไต่ ขึ้นไป เรื่อยๆ แล้วลงสุด อีก เป็น วัฏจักร ตั้งแต่ทำงาน มา ปี43 ไล่ๆ มาเรื่อยๆ ก็ เจอปัญหาแบบนี้ ตลอด ล้มลุก คลุกคลาน
ทีแรกก็ไม่ได้สนใจ เรื่องกราฟชีวิต แต่ก็ เคยดู พอปี 48 นี่ก็ ตกงานยาว เป็นช่วง พระ อะไรจำไม่ได้ เข้า หรือ ออก หรือ แทรก นี่หละ หางานทำ ทุกเดือน ไม่ได้ สักที คนที่บ้าน ดูตำราพรหมชาติ เป็น ก็ บอกว่าปีหน้า เดือน พ.ค จะพ้นแล้ว ก็ก่อนจะถึง เดือน พ.ค ก็ไปสมัครงานไว้ ต้นปี 49 เดือน ม.ค ก.พ ก็ไม่ได้เรียกไปสัมภาษณ์ พอมาถึง เดือน พ.ค 49 ก็ พ้น ช่วง ดวงตก ก็ ปรากฏว่า มี ที่ทำงานโทรมา เรียกไปสัมภาษณ์ ให้ทำงาน ก็เลยตกลงทำ พอสิ้นเดือน ก็มี โทรมา อีก ว่าได้งานทำหรือยัง รอมาตั้งแต่ ม.ค ก.พ มีนา ไม่เรียก มาเรียก พ.ค ตรงกัน หมด แสดงว่า ศาสตร์ เรื่อง กราฟชีวิต และ คำนวน ต่างๆ มี ความน่าเชื่อถือ จริง คือไว้ ดู เป็นแนวทาง จะได้จัดการกับชีวิต ได้ ล่วงหน้า ไม่ใช่ ให้งมงาย พอมา ปี 55 นี่ก็โดนอีก ปิดกิจการ ตกงาน อีก กราฟชีวิต ก็ ดิ่งสุด
แถม ปีชง อีก 55 2 เด้ง กว่าจะผ่านไปได้ แต่ละเดือน ก็ ยาก สุดๆ เพราะมีปัญหา ตลอด การเงิน ก็ สะดุด โดนคนด่า บ้าง โดยที่ไม่ได้ ไปทำอย่างที่เขาเข้าใจ เขาเข้าใจไปเอง ก็มาว่าเรา หรือ เงินธนาณัติ รอ แล้ว รอเล่า ก็ไม่มาส่งสักที ต้องไปตามเองที่ ไปรษณีย์ บอกว่า มีคนเอาไปแล้ว จะตามให้ นี่ถ้าไม่ตาม ก็ ไม่ได้ คืน ธนาณัติ การจะไปขึ้น ก็ต้องเอาบัตรประชาชน เราไป ยื่น ด้วยว่าชื่อเดียว กัน นี่ เอาไปได้ อย่างไร งง
เจอปัญหาเยอะ มาก ทุกเดือน แต่ก็ ยังมีความหวัง ที่ การปฏิบัติ สวดคาถาเงินล้าน แขวนพระ ถูกโฉลก พระเครื่องที่ เสริมด้าน เงินทอง โชคลาภ ก็ งัดเอามา แขวน เพราะเช่าเก็บไว้ นานแล้ว ตั้งแต่ ยังทำงาน อยู่ ชอบสะสมพระ ก็ได้ มาบูชา กันคราวนี้ แต่ หลักใหญ่ใจความ ที่ผ่านมาได้ ก็เพราะ บุญ กับ การปฏิบัติ คือ สวดมนต์ไหว้พระ นั่งกรรมฐาน แล้วก็ให้ทาน ตามฐานะ ทำบุญ เสริมดวงชะตา ต่างๆ ตามที่ ท่านอาจารย์ สมศักดิ์ เทพสมบุญ แนะนำ เพราะ ช่วงก่อนตกงาน ก็ นั่งกรรมฐาน อย่างเดียว พอตกงาน ก็ เลยว่าง ได้ไปเทวสถาน ได้ไปบูชา พระ วัตถุมงคล ของ ท่าน อาจารย์ ก็ ได้ หนังสือสวดมนต์มา สมัยก่อน ก็สวด แต่ ว่า เลิกไป พอได้ หนังสือสวดมนต์มา ก็เลย ตั้งใจ สวดใหม่ ทุกวัน แล้ว ก็เลย มีสิ่ง ดีๆ ตามเข้ามา แต่ก็ต้องขยัน ไม่ได้ นั่งเฉยๆ ก็ต้องหาของมาขาย จะได้มีเงิน ได้ ไปทำบุญ ก็ ดู ประวัติท่านอาจารย์สมศักดิ์ เอา ว่า จบ แค่ ป.6 โรงเรียน วัดบางปะกอก ทำไม ทุกวันนี้ ตั้งตัวได้ มี ร้านเพชร ที่พาราก้อน และ ที่ ฮ่องกง
มีร้านกาแฟ ตรง ลาดพร้าว 107 หน้า ม.รัตนบัญฑิต ชื่อร้าน Village อาจารย์บอกว่า สมัยก่อน จน ทำงาน ตัดเศษขี้ด้าย ได้เงิน วันละ 20 อยากได้ พระแม่กวนอิมมาบูชามาก แต่ว่า ราคา 700 บาท พ่อ ก็ไม่ได้สนับสนุน อาจารย์ ก็ร้องไห้เลย เพราะเงินไม่พอเช่า ก็เลย ตัดรูป พระแม่กวนอิม จากหนังสือ พิมพ์ มาติดไว้ บูชา ที่ตู้ เสื้อผ้า เพราะกลัว พ่อ เห็น อาจารย์โดนพ่อ ตี พ่อ ด่า ไล่ออก จากบ้าน เพราะ อยากบูชา พระแม่กวนอิม อาจารย์ ก็ไม่เคย ลืม คำว่า กตัญญู บิดา ของท่าน อาจารย์เสียไป เมื่อปี 55 ทุกวันนี้ อาจารย์บอกว่า มีปัญญา เช่าพระแม่กวนอิม องค์ละ เป็นล้าน ก็มีปัญญา เพราะ อาจารย์ขยัน รู้จักไหว้ รู้จักบูชา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็มาเกื้อหนุน ทุกวันนี้ อาจารย์ สมศักดิ์ เทพสมบุญ ท่านมี ทรัพย์สินระดับ 80 ล้านบาท แล้วผ่าน มา กี่ ปี ต่อ กี่ ปี ก็ รุ่งเรือง จะชง กีปี ต่อกี่ปี ก็ ไม่เคย มีปัญหา ผ่านมาได้ ต้องดูไว้เป็นตัวอย่าง เพราะ คนยุคนี้ หันหลังให้ กับ การทำดี การปฏิบัติ หรือ การทำความเข้าใจ ในบางเรื่อง บางราว ผิดไป ทำให้ ไม่ Work เช่น บางคนมองว่า การไหว้ เทพ ไหว้เจ้า ที่ เจ้าทาง นี่ ไม่จำเป็น ก็ ดู ท่านอาจารย์ สมศักดิ์ ไว้ เป็น แนวทาง ของ คนที่ มีใจ ในการ แบ่งปัน สร้างทานบารมี แจก ให้ จริงๆ ไม่ได้สร้างภาพ

<object width="480" height="360"><param name="movie" value="http://www.youtube-nocookie.com/v/DyzZ56p8Yhg?hl=en_US&amp;version=3&amp;rel=0"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube-nocookie.com/v/DyzZ56p8Yhg?hl=en_US&amp;version=3&amp;rel=0" type="application/x-shockwave-flash" width="480" height="360" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></object>

<object width="560" height="315"><param name="movie" value="http://www.youtube-nocookie.com/v/NbITtqJD4J4?version=3&amp;hl=en_US&amp;rel=0"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube-nocookie.com/v/NbITtqJD4J4?version=3&amp;hl=en_US&amp;rel=0" type="application/x-shockwave-flash" width="560" height="315" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></object>

<object width="420" height="315"><param name="movie" value="http://www.youtube-nocookie.com/v/yijQIjGyTAk?hl=en_US&amp;version=3&amp;rel=0"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube-nocookie.com/v/yijQIjGyTAk?hl=en_US&amp;version=3&amp;rel=0" type="application/x-shockwave-flash" width="420" height="315" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></object>

<object width="560" height="315"><param name="movie" value="http://www.youtube-nocookie.com/v/Jidw4t5te54?hl=en_US&amp;version=3&amp;rel=0"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube-nocookie.com/v/Jidw4t5te54?hl=en_US&amp;version=3&amp;rel=0" type="application/x-shockwave-flash" width="560" height="315" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></object>

 

" ยามขึ้นอย่าหลง ยามลงอย่าท้อ" เมื่อก่อนก็แค่ฟังผ่านๆเพราะ ธรรม มันเข้ามาแค่หูรับรู้ที่สมอง แต่ไม่เข้าใจ พอผ่านสิ่งเหล่านั้นมาได้ ธรรม ได้เข้าไปในจิต เข้าใจและยอมรับ ที่ว่าไม่ธรรมดา ที่ว่าหนักๆ มันก็แค่นี้เอง ...

"บอกกับตัวเองสิ หายใจเข้าไว้ เดี๋ยวก็เช้าแล้ว"


เป็นกำลังใจให้ทุกๆคนค่ะ สาธุ

 

ท้อเหมือนกันครับ แต่แค่แป๊ปเดียว แล้วก็สู้ต่อไป คิดว่าพรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้ ผมมีลูกๆต้องดูแล ยอมแพ้ไม่ได้ สวดมนต์ ไหว้พระ เจริญภาวนา ให้มากกว่าเดิมยิ่งขึ้นอีก คิดดี ทำดี ผมได้องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเ่จ้า อริยสงฆ์ทุกท่าน ครูบาอาจารย์ทุกท่าน นี่แหละครับเป็นหลัก เป็นแกน ที่ยังยืนสู้อยู่ได้ แต่แอบบ่นนิดนึง บางครั้งก็มาหนักเหลือเกิน วันเดียว 3-4 เรื่อง มาเวลาเีดียวกัน แทบจะนาทีต่อนาทีเลย แปลกมาก ถึงเชื่อสนิทใจเลยครับ เรื่องบุญกรรมเนี่ย

 

มีเช่นกันค่ะและบ่อยมากกับความรู้สึกท้อ เหนื่อย เสียใจ ผิดหวัง หมดกำลังใจกับทุกสิ่งที่ประดังเข้ามา แต่ก็จะคอยบอกตัวเองเสมอๆว่าคนเราก็แค่นี้แหละ การเกิดเป็นทุกข์ และที่สุดก็จะพยายามยืนให้ได้ด้วยขาตัวเอง บ่อยครั้งที่ต้องการคนที่เข้าใจพูดคุยให้กำลังใจแต่คิดว่าคนอื่นเค้าก็ต้องการเช่นเดียวกับเราแล้วเรายังจะไปรบกวนเค้าอีกหรือ เวลาที่ท้อมากก็นั่งทบทวนตามสติให้ทันว่าทุกข์เพราะเหตุใด เมื่อรู้ว่าทุกสิ่งเกิดจากจิตของเราเอง เมื่อพิจารณาตามมันจะเบาลงและหากลอุบายมาหลอกล่อมันไว้ เป็นกำลังใจให้ทุกท่านเช่นกันค่ะ ผ่านมันไปให้ได้ค่ะสู้ๆๆ

 

อ่านแล้วมีกำลังใจค่ะ ใช้กรรมเก่าให้หมดๆไป

 

เมื่อก่อนเข้าใจผิดมากว่าเราทำบุญเราทำความดีเรื่องพวกนี้คงไม่เกิดกับเรา แต่ตอนนี่รู้แล้วว่่่าวิบากกรรมนั้นไม่เลือกว่าเป็นคนดีหรือเป็นคนเลวเมื่อถึงเวลาก็ต้องได้รับเหมือนกันเพียงแต่ใครซ้อมรับมือมามากก็ทุกข์น้อยหน่อยใครไม่ซ้อมมาเลยก็อาจจะทนไม่ไหว ตอนนี้ก็ร้องไห้สลับกับเข้มแข็ง

 

ท้อครับ มันจะไม่มีกำลังใจทำอะไร หดหู่ ไม่อยากพบใคร เบื่อหน่าย สวดมนต์ไหว้พระ

ก็มีกำลังใจดี แต่ชั่วประเดี๋ยวเดียวกลับเป็นเหมือนเดิม แต่เหมือนในช่วงภาวะที่ตกต่ำนี้

ยังมีสิ่งดีๆอยู่ ทำให้เราสนใจหันมาเข้าวัด ปฎิบัติธรรม จากที่ไม่เคยสนใจ ปฎิบัติได้สักระยะ

จิตใจเริ่มดีขึ้น กล้าคิด กล้าทำ มีกำลังใจดีกล้าสู้ปัญหา เวลาเจอสิ่งภายนอกวิ่งเข้ามากระทบ จิตไม่ตก เหมือนมีภูมิต้านทาน

 

ชดใช้กรรมไปคะ อย่าท้อ อดทน และ หมั่นให้ทาน รักษาศิล สวดมนต์ไหว้พระ เจริญกรรมฐานภาวนาไปคะ ชดใช้กรรมไปคะ ก็มีคนช่วยเหลืออุปถัมภ์ คะ ทุกอย่างมันมีเวลาของมันคะ พอชดใช้ไป หมดก็ค่อยสบายๆๆ ขึ้นคะแต่ขอให้หมั่น ให้ทาน รักษาศิล สวดมนต์ไหว้พระเจริญกรรมฐานภาวนาไปคะ เป็นการแก้กรรมคะ อดทน มันเกิดได้มันก็ดบได้คะ มันจะไม่ทุกขืและลำบากตลอดคะ บุญรักษานะคะ

 

ก็มีเหมือนทุกคน แต่มองอีกมุมได้ฝึกความอดทนอดกลั้น

และยังพยายาม ให้ทานตามกำลัง ศีลไม่ขาด ภาวนาเสมอมากบ้าง

น้อยบ้าง พยายามละความต้องการภายในใจ พยายามพิจารณา

อยู่และแก้ไขกับปัจุบันเป็นหลัก เชื่อมั่นอยู่อย่างเดียวว่าทำดีต้องได้ดี

เพียงแต่บางทีเวลายังไม่ส่งผล.: :VO

 

ผู้ใดเห็นทุกข์ ผู้นั้นเห็นธรรม

 

ปกติ ไม่โพสอะไรน่ะครับ เป็นสมาชิกก็หลายปีแล้ว ได้แต่อ่านอย่างเดียว (ไม่รวมโพสขอรับบริจาคนะครับ)
แต่วันนี้ขอโพสหน่อยครับ(โพสแรกที่ระบายความรู้สึก...) มันเป็นจังหวะเวลาที่ทุกข์ทรมาน แสนสาหัสจริงๆกับชีวิต ไม่เคยคิดว่าชีวิตจะต้องมาเจ็บปวดใจแบบนี้ ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้โชคดีกับเรื่องความรักกับใครเขาเลย ก็ทำใจครับ...... แต่เมื่อไม่นานนี้ มีคนย้ายเข้ามาทำงานที่เดียวกับผม ซึ่งเป็นคนที่ผมแอบชอบมานานแล้ว ...... เธอก็รู้ แต่ก็ไม่แคร์ผมหรอก ...... การที่ต้องมาทำงานแล้วพบกับคนที่เป็นไปไม่ได้ มาคุยกัน มากินข้าวเที่ยงด้วยกัน บางวันต้องกินข้าวค่ำด้วยกันอีก แถม การไปเที่ยว+งานเลี้ยงก็ต้องพบกันอีก(เป็นวัฒนธรรมขององค์กร ให้ทำอะไรร่วมกันครับ แยกวงไม่ได้) ....... มันทำใจรับได้ยากจริงๆน่ะครับ ทุกข์ใจมาก บางวันถึงกับร้องให้เลยก็มี ....... ใครมีวิธีช่วยผมบ้างไหม๊ครับ แนะนำผมหน่อย นอกจากการทำใจแล้ว มีวิธีทำบุญอะไรอีกไหม๊ นอกจากขอขมากรรมกับเจ้ากรรมนายเวร + ทำบุญ และถวายของเป็นคู่ สวดมนต์ ไหว้พระ ทำสมาธิ แผ่เมตตา+ ขอพรจากสิ่งสักสิทธิ์ (เพิ่งไปขอจากเทพที่แยกราชประสงค์+เขาคิษกูฏ จันทบุรี)....... อยากสู้ครับ แต่อ่อนล้าเหลือเกินครับ (ลาออกงานก็ไม่ได้ เพราะต้องใช้จ่าย+ดูแลชีวิต ครอบครัว) การทรมานทางใจนี่ มันเจ็บปวดกว่าทางกายหลายแสน พันเท่าจริงๆ เคยแม้กระทั่งไปล้างขี้ไก่ในโรงเลี้ยงไก่ ยังรับได้ ชิวๆ สบายๆ แต่เจอปัญหานี้เข้าให้ จนใจเลยครับ ....... ขอความอนุเคราะห์ท่านที่ได้อ่านข้อความนี้ โปรดช่วยอธิฐานจิต ส่งผลบุญกุศลช่วยผมด้วย ให้ผมได้หายทุกข์ใจในเร็ววัน ได้มีสุขสมหวัง...... กราบขอบพระคุณครับ

 

แรงกรรม มันส่งผลครับ

หมดช่วงเมื่อไหร่ ก็จะหายไปเอง

ไม่ต้องกลัวหรอก มันมีระยะเวลาของมัน

จะตลอดชีวิต ก็ว่ากันไป หมดอายุไข เดี่ยวก็หายเอง

 

ก็เคย ท้อครับ
วิธีแก้อาการท้อของผมก็คือ
1.นึกถึงพระพุทธเจ้าครับ ตอนที่จะตรัสรู้ท่านยังลำบากมาก่อนเลย ต่อสู้กับกิเลสกับมาร สุดท้ายด้วยความเพียรพยายาม อดทน ก็ตรัสรู้ได้สำเร็จ
2.คิดซะว่ามันเป็นประสบการณ์ เป็นบทเรียน ที่ทำให้เราเข้มแข็งขึ้น มีภูมิต้านทานมากขึ้น พอไปเจอเหตุการณ์แย่ๆอีก ความกดดันของเราก็ลดลง เพราะเราเคยเจอมาแล้ว เราเรียนรู้วิธีที่จะรับมือกับมัน
3.ทำ ทาน ศีล ภาวนา อย่างต่อเนื่องครับ ถึงวันนี้เราลำบาก ก็ให้คิดว่าเราทำความดีไว้มากๆ เมื่อถึงเวลา อานิสงค์ความดีเหล่านั้นจะกลับมาตอบแทนเราเอง ไม่ต้องซีเรียส
4.ต้องรู้จักปล่อยวาง เพราะเวลาเวลาที่เรารู้สึกท้อ เราก็จะรู้สึกทุกข์ คิดว่าสิ่งต่างๆ ในโลกนี้มันเป็นอนิจจัง เดียววันนี้สุข วันต่อไปก็อาจจะทุกข์ เราต้องเจอมันอยู่ตลอด มันไม่ใช่ตัวตนของเรา เราบังคับบัญชามันไม่ได้ให้มองโลกตามความเป็นจริง
5.ให้กำลังใจตนเอง มีความเชื่อว่ามันต้องผ่านไปได้ ลุกขึ้นสู้ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด
6.นึกถึงคนที่ประสบความสำเร็จ มีความเพียรพยายาม มีความอดทน มีความเป็นนักสู้ ศึกษาเรียนรู้จากเขา

 

เป็นกำลังใจให้ค่ะ คำพระท่านสอนว่าทุกข์สุขมันไม่จีรัง สุขทุกข์เกิด-ดับอยู่ตลอดเวลา เราเกิดมาไม่รู้กี่พันกี่หมื่นชาติแล้วผ่านความสุขความทุกข์มาไม่รู้เท่าใดบ้างยังผ่านมาได้ อย่าท้อทำความดีนะคะสะสมทุนเอาไว้ไม่ชาตินี้ก็ชาติหน้าคงได้ใช้แต่เห็นผลทันตาที่ใจเราเป็นสุข แค่เราไม่เบียดเบียนใครก็ใจเป็นสุขแล้วค่ะ กรรมยุติธรรมเสมอค่ะ ดิฉันก็เคยเป็นค่ะ ทุกคนก็เคยเป็น แต่พอศึกษาธรรมะ รักษาศีล๕เคร่งครัด ศีล๘บ้างตามโอกาส ให้ทาน ทำสมาธิภาวนา ชีวิตก็ดีขึ้น อย่าลืมกตัญญูต่อบุพการีและผู้มีพระคุณด้วยนะคะ แล้วจะพบเจอแต่สิ่งดีๆค่ะ อดทนไว้นะคะ เป็นกำลังใจให้อีกครั้งค่ะ

 

ช่วงกรรมส่งผลขอจงอย่าท้อ สู้กับกรรมให้ได้ด้วยผลบุญ หมั่นสร้างบุญสร้างทานให้ได้ทุกวัน จะมากจะน้อยขอให้อยู่ที่แรงศรัทธา การตั้งจิตอธิษฐานขออโหสิกรรม การสวดมนต์ เจริญสมาธิ แผ่เมตตา ทำให้เป็นนิสัย หากเชื่อมั่นในบารมีของพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ จะผ่านช่วงเวลาแห่งกรรมส่งผลนั้นไปได้ ขอให้เจริญกรรมฐานแผ่เมตตาให้บรรพบุรุษ เทวดาที่รักษาตัว เจ้ากรรมนายเวร น้ำดับไฟได้ฉันใด แรงกรรมก็ดับได้ด้วยแรงบุญฉันนั้น การสะสมบุญก็ไม่ต่างไปจากการสะสมความดีให้เกิดขึ้น "ผลของบุญและบาป จะหนักหรือเบาขึ้นอยู่กับเจตนาของผู้ทำ" ขอให้ทุกท่านผ่านพ้นวิบากแห่งช่วงผลกรรมด้วยการสร้างบุญและเจริญกรรมฐานให้มาก