ปรอทสำเร็จ ของดีจากตำนาน

ขอบคุณสมาชิกทุกท่านที่เป็นห่วงผมนะครับ

 

ไม่ลองเอาปรอทวางบนมือแล้วนั่งสมาธิอธิษฐานจิตดึงธาตุปรอทเข้าตัวโดยเดินธาตุ 4 แล้วใช้ธาตุในร่างกายหุงจนปรอทเป็นอากาศธาตุหรือวิญญาณธาตุ จะเป็นการทำให้ร่างกายปรับเปลี่ยนธาตุให้สมดุลย์ คุณวิเศษเหนือธรรมดา เหนือโลก เหนือวัฏฏะ น่าทึ่งค่ะ

ตอนนี้ลองดูแล้วค่ะ ผลก็คือตัวเองเข่าซ้ายข้อเข่าเสื่อม ปวดมากเวลานั่งนานๆ พอจะยืนไม่สามารถหยั่งน้ำหนักได้ ต้องเดินขาลากไประยะหนึ่ง เขาเรียกว่าโรค osteoarthritis ซึ่งจะรักษาหายเพียงวิธีเดียวคือการผ่าตัด ตั้งแต่ได้ปรอทมาปัจจุบันเข่าซ้ายหายแล้วเดินเป็นปกติไม่ปวดเลย แต่ยังพอมีอาการขัดบ้างเป็นบางครั้งแต่เป็นแค่ 2-3 ครั้งเองหลังจากใช้ปรอท

 

ไม่ว่าเป็นสาย หลวงปู่ละมัย ปรอทหลวงปู่ถิร หลวงปู่ลือ ท่านให้หุงด้วยไฟธาตุได้คือการกลืนลงไป....จะทำให้ขลังและศักดิ์สิทธิ์ขึ้น...และยังให้เอาไปแช่น้ำผึ้งจะทำให้ปรอทมีพลังเพิ่มขึ้นและแรงขึ้น....ปู่ละมัยบอก(ข้อมูลจากลูกศิษย์ที่เคยบวชและธุดงค์กับหลวงปู่บอกว่าหลวงปู่บอกไว้)ใครมีก็รองทดสอบดูได้ครับ....

 

ถ้าอยากจะฝึกเดินธาตุ 4 ให้ศึกษาจากหนังสือมูลกัมมัฏฐานที่นำมาเผยแพร่ค่ะ เป็นการฝึกกรรมฐานแบบมัชฌิมาแบบโบราณ ซึ่งแตกต่างจากสายสมเด็จพระสังฆราช(สุก ไก่เถื่อน)สายวัดพลับ ถ้าลองฝึกดูคงได้ประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ

 

คุณ พรหมณี ใช้ปรอท จากที่ไหนในการปรับธาตุครับ...

 

เป็นปรอทที่ครูบาอาจารย์มอบให้มาเมื่อไม่นานมานี้ค่ะขอสงวนที่มาที่ไปค่ะ

 

ตำราฉบับนี้ได้มาจากกัลยาณมิตรที่ได้มาโดยบังเอิญ เห็นว่าเป็นตำราที่มีคุณค่าจึงได้สแกนออกมาเป็นไฟล์ภาพ pdf แล้วมอบให้ดิฉันฉบับหนึ่ง อีกฉบับหนึ่งได้มอบให้เก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติไม่ได้เผยแพร่ จึงมีเพียง 2 ฉบับเท่าที่ปรากฏในยุคปัจจุบันนี้ ดิฉันจึงนำมาเผยแพร่เพื่อให้ท่านที่สนใจในกัมมัฏฐานมัชฌิมา แบบบริสุทธิ์ที่ได้แปลจากอักษรขอมจากใบลานเดิมต้นฉบับที่เก็บไว้ในตู้ที่วัดสมอราย ถ้าหลายท่านสนใจคงต้องศึกษาประวัติวัดสมอรายหรือวัดราชาธิวาสว่ามีความเป็นมาอย่างไร

http://www.oknation.net/blog/t-vee/2010/01/03/entry-1

ตำราฉบับนี้ได้ถูกแปลเมื่อมีการแปลตำราครั้งใหญ่เมื่อครั้งสมเด็จพระสังฆราช(แพ) วัดสุทัศน์ ตำรานี้จึงถูกแปลและจัดพิมพ์ขึ้นเพียง 1,000 เล่มเท่านั้นในปี พศ. 2477...หลังจากกัลยาณมิตรสแกนตำราเล่มนี้ได้ไม่นาน ตำราก็กลายสภาพเป็นผุยผง...นับเป็นความโชคดีของวิทยาการสมัยใหม่ที่สามารถนำมา print ออกมาเป็นตำราได้อีกครั้งหนึ่ง

กัลยาณมิตรดิฉันได้ไปฝึกกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับที่วัดพลับแล้วเล่าให้ฟังว่าฝึกไม่เหมือนกัน...หลังจากนั้นดิฉันลองฝึกแล้วเห็นว่าดี และได้ไปเทียบกับกัมมัฏฐานสายสมเด็จลุนจากกัลยาณมิตรอีกท่านหนึ่งที่เป็นศิษย์สมเด็จลุน ในหลายตอนเนื้อหาของตำรากัมมัฏฐานนั้นตรงกัน จึงนับว่าเป็นทางเลือกทางหนึ่งของผู้ที่สนใจจะศึกษาวิชากัมมัฏฐานสายตรงจากอยุธยา แต่ไม่มีเวลาไปฝึกที่วัดพลับ ก็ลองฝึกดูได้ตามอัชฌาสัย และขึ้นอยู่กับวาสนาของแต่ละท่านด้วยค่ะ

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/wH0Yk0vXOYHsCkj1" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/ce0/CUXqWF.jpg" /></a>

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/wH0Yogg9dLTgth1L" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/929/7gxdAc.jpg" /></a>

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/wH0Ysa1Ela8XYi4L" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/97a/WghELR.jpg" /></a>

 

ขออนุญาติ นอกเรื่องครับ
มีทีานใด มีหนังสือชื่อ
บรรลัยกัป หรือ บรรลัยกัลป์ บ้างใหมครับ
ผมหามานานยังไม่พบครับ

 

ขอความกรุณา ช่วยสอนด้วนครับว่าทำอย่างไรสนใจครับ

 

ผมลองโหลดดูแล้วโหลดไม่ได้ พอดีใช้แทบเล๊ตโหลด เดียวลองคอมพิวเตอร์ดู ถ้าได้มาแจ้งว่าได้ไหม

 

ต้องนั่งสมาธิให้จิตสงบก่อนค่ะ แล้วต้องฝึกเดินธาตุทั้ง 4 ลองดาวน์โหลดหนังสือไปศึกษาดูค่ะ ดิัฉันก็ฝึกจากเล่มนี้แหล่ะค่ะ

ถึงจะฝึกแล้วยังไม่มีอะไรปรากฏ ก็ยังถือว่าได้กุศลจากการนั่งกัมมัฏฐาน ถ้าสามารถเดินธาตุได้แล้วก็ฝึกเดินปราณ ถึงตอนนี้สามารถดึงวิญญาณธาตุจากปรอทมาหุงรวมกับธาตุเราได้ค่ะ

จะแตกต่างจากวิชาสายอื่นที่ต้องใช้อมปรอทคะ

 

ขอคุณครับ
ผมโหลดมาอ่านแล้วครับ
แต่อ่านแล้วไม่เข้าใจ เนื่องจากภาษา ในหนังสือ น่าจะเป็นภาษา ยุคเก่าครับ

 

]ระยะเวลาห่างกัน 353 ปีภาษาย่อมเข้าใจยากค่ะเพราะผู้แปลก็บอกไว้เมื่อเกือบ 80 ปีก่อน ยังต้องทับศัพท์เดิมอยู่ค่ะ....แต่ทุกสิ่งทุกอย่างต้องอาศัยความเชื่อและความศรัทธาเป็นหลัก เมื่อนั้นก็สามารถจะทำได้

ข้อสำคัญก็คือเจตนาในการหุงปรอทนั้นสายดิฉันมีไว้เพื่อวัดระดับจิต สมาธิเท่านั้น ส่วนผลหรืออานิสงฆ์เป็นเพียงผลพลอยได้จากการปฏิบัติ ฉนั้นเจตนาของการหุงจึงปราศจากซึ่งกิเลสและตัณหา และปราศจากความโลภหรือแม้กระทั่งชื่อเสียงใดๆ เหตุปัจจัยที่เกิดขึ้นจะเกิดจากธรรมชาติของจิตล้วนๆค่ะ

ข้อสำคัญก็คือเรื่องนี้ใครจะเชื่อถือหรือไม่ หรือไม่เห็นด้วยก็อ่านข้ามไปเสีย เพราะจะไม่เห็นประโยชน์อันใดในการหุงปรอทเพราะจะไม่ได้อะไรเลยเป็นการเสียเวลาเปล่า...ก็ให้ใช้ปรอทที่ครูบาอาจารย์ท่านหุงสำเร็จแล้วเถิด

ที่นำมาเผยแพร่เพียงเพื่อให้บางท่านที่อยากลองหุงปรอทเองดูสักครั้งแล้วผลจะออกมาเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับตัวท่านเองค่ะ

 

ผมกินปรอทหลวงปู่ลือบ่อยมากครับ เพราะปกติเป็นคนถ่ายากมากๆครับ แต่ถ้าปรอทหลวงปู่ลืออยู่ในท้องจะถ่ายง่ายมากๆครับ ขอบอก

 

พี่พรหมณี สุดยอดครับ

 

พี่ พรหมณี สุดยอดครับ ส่วนผมใช้แนวธรรมกายหลวงพ่อวัดปากน้ำครับ

 

มีอาจารย์ท่านหนึ่งอยู่ในป่า....อายุ 80กว่า ท่านสำเร็จวิชาต่างๆรวมทั้งปรอทด้วย...สามารถเรียกมาได้และทำให้แข็งโดยไม่ต้องใช้อะไรเลยเพียงแต่ใช้พลังจิตเท่านั้น...แต่ตอนนี้ท่านยังไม่อณุญาติให้พบ....ต้องรอไปก่อน....เผื่อได้ของดี....

 

ท่านให้พบเมื่อไรชวนด้วยนะครับพี่
อยากมีวาสนาได้ทำบุญกับท่านครับ

 

จอมยุทธทั้งหลายจ้องพบท่านกันอยู่ครับ....ท่านนี้...ยุคนี้มีจอมยุทธเยอะนะสงสัยจะรอปฏิบัติกันอยู่...เดี๋ยวได้เวลาก็เข้าป่ากันหมด....