ขอความรู้และประสบการณ์เรื่องพญาครุฑ

ครุฑอาจารย์วราห์

การบูชาเทพนั้น ถือเอาสัจจะอย่างยิ่ง แทนที่จะเชื่อใครหรือกังวลใจอะไรนั้น ไม่สู้คุณเอาความเชื่อของคุณเองเป็นที่ตั้ง แล้วอารธนาแขวนคอไว้เลยดีกว่า ไม่ต้องจรดๆจ้องๆ..ครุฑของอ.วราห์ ดีทั้งมหาอำนาจ และเมตตา เวลางานไหว้ครูของวัดโพธิ์ทอง ถ้าพญาครุฑลงประทับ อ.วราห์ จะได้ยินเสียงลมเหมือนกับครุฑกระพือปีก ดังเข้ามาที่ไมค์ เสียงออกลำโพง ได้ยินกันทั่ววัด ก็เป็นเรื่องแปลกดีเหมือนกันนะครับ

 

เคยเห็นในฝันตอนนั้นเด็กมาก แม้ผ่านมานานก็ยังจำได้ พญาครุฑกายาสีแดง แต่งกายครบองค์ เกาะอยู่บนกำแพง ของบ้านตรงข้าม หลังศาลพระภูมิ ที่มีคลองส่งน้ำไหลลงสู่ทะเลสาบ ตอนเด็กจนถึงเดี๋ยวนี้ไม่ชอบนก ไม่ชอบไก่ ไม่ชอบปากมันเลย แต่ตัวเองก็เป็นข้าราชการ คนที่บูชาครุฑที่เคยเห็นมักเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ครุฑใจร้อนก็จริงแต่อภัยได้ง่ายๆ และมีเหตุผล มีคนเคยพิสูจน์ไล่ผีโดยใช้เหรียญบาทรูปครุฑในสมัยก่อน กับใช้หัวเข็มขัดรูปครุฑของราชการมาแล้วได้ผล

 

ผมอยากรุ้ว่าสัก พญาครุฑเตมหลัง ห้อยเต็มคอ สวดคาถาภาวนาพญาครุฑแล้วเดินไปในดงงูจงอางจะโดนกัดไหม

 

ท้าให้ลอง...

รับประกันได้ครับว่า "โดนเต็มๆ" ไม่มีเหลือ อันนี้ลองดูได้ ถ้ามีชีวิตรอดกลับมาได้ก็มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ

 

ขอบคุณนะคะ สำหรับข้อมูลใหม่ๆ

 

งูไม่ใช่ลุกน้อง ของพญานาคหรอครับ

 

น้องสาวอยู่กรุงเทพ พญาครุฑพาเหาะเที่ยวประจำ

สาธุ สาธุ นะโมพุทธายะ

โมทนาสาธุ
ขอให้มีเมตตาและเจริญในธรรม
ข้าพเจ้าเกิดมาต้องตาย ชีวิตไม่เที่ยง ความตายเป็นของเที่ยง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

 

เคยเห็น พระนารายณ์ทรงครุฑหลังพระนาคปรก เจ้าคุณธงชัย วัดไตรมิตรฯ แสดงว่าครุฑกับพระนาคปรกห้อยรวมกันได้ ไม่มีปัญหา
ผมเพิ่งมารู้ว่าครุฑกับนาคไม่ถูกกัน ผมเดินข้างฟุตบาท เก็บพระนาคปรกหลวงปู่ไปล่ได้ จากนั้นไม่นาน ผมก็ไปเช่าครุฑมา หลังจากนั้นเปิดกระทู้ดูไปเรื่อยๆ ได้อ่านเจอว่าครุฑกับนาคไม่ถูกกัน แต่ผมห้อยทั้งสองเลยครับ แต่คนละเส้นกัน และครุฑห้อยด้านหลัง แต่พระนาคปรกห้อยด้านหน้า และมีทั้งพระสงฆ์ พระพุทธเจ้า เทพ และกษัตริย์ไทยด้วย ไม่เป็นอะไรแน่นอน และจัดตำแหน่งในสร้อยพระทั้ง 2 เส้นได้อย่างเหมาะสม

 

ผมก็เพิ่งได้องค์พญาครุฑของพระอาจารย์วราห์มาที่ท่านแจกมาพร้อมหนังสือของท่าน ก่อนหน้านี้ผมแขวนเหรียญพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่9 ตอนที่ท่านทรงพระผนวช อยู่ก่อนแล้วและพอได้องค์พญาครุฑก็ห้อยพร้อมกันเลย ก็รู้สึกว่าสวยดีครับ

ส่วนเรื่องที่บางท่านกังวลว่าห้อยองค์พญานาคกับองค์พญาครุฑพร้อมกันจะมีปัญหาอะไรไหมนั้นส่วนตัวผมมองว่าทั้งองค์พญานาคกับองค์พญาครุฑท่านก็คอยปกป้องและอุปถัมภ์คำชูพระพุทธศาสนาและผู้ที่ประพฤติตนในศีลในธรรมอยู่แล้ว การที่จะบูชาท่านทั้ง2องค์ ก็ถือเป็นสิ่งที่ดีและเป็นมงคล ส่วนท่านใดจะมีความเชื่ออย่างไรนั้นก็ไม่อาจทราบได้ครับ ก็คงแล้วแต่ความเชื่อของแต่ละท่าน

และผมเชื่อว่าถ้าเป็นสิ่งที่ดีที่เป็นมงคลก็ไม่เสียหลายที่เราจะเคารพบูชาไว้กับตัวกับใจ ทุกวันนี้เวลาไหว้พระสวดมนต์เสร็จตอนที่ผมอุทิศส่วนบุญกุศลก็จะอุทิศให้กับทั้ง 2 เหล่าด้วย ก็รู้สึกดีครับ ให้ไปเถอะครับบุญกุศล ให้ไปใจเราก็สบายครับ

 

เข้ามาหาความรู้พอดีเจอกระทู้แสนวิเศษนี้ค่ะ ก็ได้ทั้งความรู้ และบันเทิงด้วย นอกจากเคารพ สักการะ
พระพุทธคุณ ของพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยะสงฆ์แล้ว ยังเคารพ นับถือท่านพญาครุฑด้วยค่ะ
หลังจากที่ได้บูชาพญาครุฑหลวงปู่ผาดมาครบหนึ่งเดือน เมื่อตอน ปลาย ก.พ.ปี55 พญาครุฑท่านก็มาเข้าฝัน บอกว่าท่านมีตัวตนอยู่จริง สิ่งที่เห็นในฝันคือ องค์ท่านใหญ่มากปกคลุมเต็มท้องฟ้า แต่กายที่ได้เห็น
ท่านมีกายสีดำมะเลื่อม ไม่ดำสนิท มองเห็นที่เท้าขององค์ท่าน เป็นสีทองอร่าม และที่ปากของท่าน
ก็เป็นสีทองเช่นกัน ท่านบอกว่า "เรามาบอกว่า เรา(พญาครุฑ)มีตัวตนอยู่จริง ขอให้เจ้าทำความดีไว้มากๆ
เราต้องไปแล้ว เพราะยังมีคนรอเราอยู่อีกมาก" ท่านกล่าวแค่นี้ แล้วก็เหาะหายไปในท้องฟ้า หลังจากวันนั้น ดิฉันก็ติดตามเสาะหาพญาครุฑ ขนาดองค์บูชา เพื่อมาบูชาที่บ้านและไม่ได้เจาะจงว่าต้องเป็นของพระเกจิ
หรือวัดใดสร้าง แต่ก็ผ่านมาเป็นปีๆ ก็ยังหาไม่ได้ จนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พอดีว่าน้องชาย ซึ่งก็เป็นคนที่สนใจใฝ่ธรรมะ และชอบสะสมบูชาพระพุทธรูป ทั้งใหม่และเก่า เขาได้รู้จักกับบุคคลผู้หนึ่ง และได้ตกลงเช่าพระจากท่านผู้นี้ เป็นจำนวนหลายองค์ในระยะเวลาไม่นาน เป็นเรื่องที่แปลกมาก ที่จู่ๆท่านคนที่น้องติดต่อเช่าพระด้วย บอกว่ามีพญาครุฑของอาจารย์วราห์อยู่องค์หนึ่ง ใหญ่พอสมควร สนใจจะเช่าไหม ปกติน้องชายเค้าจะชอบแต่พระพุทธรูปอย่างเดียว แต่เขานึกได้ว่า พี่สาวอยากได้ จึงบอกความประสงค์ไป และได้ตกลงเช่าบูชากัน จึงเป็นที่มาขององค์พญาครุฑ ที่ตัวเองได้เสาะหามานาน และไม่คิดว่าจะมีบุญได้บูชาพญาครุฑของท่านพระอาจารย์วราห์ เพราะเห็นว่าราคาแพงเอาเรื่องอยู่ แต่องค์ที่ได้มาราคาก็พอเช่าได้ จึงตัดสินใจเช่าบูชา ไม่ผิดหวังเลย ถูกใจมาก เพราะสีองค์ท่านเหมือนในฝันเลย ต่างกันนิดเดียวตรงที่ขากับปากท่านไม่ได้เป็นสีทอง (ปิดทองได้ในภายหลัง) ดีใจมากที่ท่านมาโปรด แต่เรื่องการบูชาองค์ท่าน ยังไม่ค่อยมีความรู้ ท่านใดที่มีความรู้เกี่ยวกับการบูชาองค์ท่าน เมตตาช่วยแนะนำหน่อยนะคะ จักขอบคุณมากค่ะ และเกิดปีมะเส็งค่ะ
แต่เคารพ และศรัทธาทั้งพญานาคและพญาครุฑ ค่ะ ขอบคุณเจ้าขอกระทู้นี้ด้วยนะคะ

 

เป็นนิมิตที่ดีครับ แสดงว่าพญาครุฑมีตัวตนจริงๆ เหมือนกับผมที่ฝันเห็นพระพิฆเนศวรและพระปางนาคปรก ทำให้ผมคิดว่าสิ่งศักดิ์เหล่านี้มีตัวตนจริงๆ ไม่ใช่แค่สิ่งที่มนุษย์อุปโลกน์ขึ้นมาเองอย่างแน่นอน

 

ขออนุโมทนากับท่านด้วยนะคะ กับเรื่องที่ท่านได้เจอพระพิฆเณศ และพระปางนาคปรก โดยส่วนตัวก็เชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงค่ะ เพราะมีหลายเหตุการณ์เป็นเรื่องที่อธิบายให้คนอื่นฟังไม่ได้ เช่น บางเรื่อง ครูบาอาจารย์ท่านก็มาเตือนก่อนที่จะเกิดเหตุไม่ดีขึ้น และบางเรื่องที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านมาเตือนในฝัน แต่ตอนแรกไม่กล้าปักใจเชื่อเพราะไม่ได้เกี่ยวกับตัวเองโดยตรง และไม่กล้าบอกคนใกล้ชิดเกรงว่าหากเขาไม่เชื่อแล้วจะหาว่าเรางมงาย จึงไม่ได้บอก เหตุการณ์ที่ไม่ดีจึงเกิดกับพวกเขา แต่ก็ผ่านมาได้แบบสาหัสอยู่เหมือนกันค่ะ ปัจจุบัน มีโอกาสก็ทำบุญถวายทานเรื่อยๆตามโอกาสที่มี และปฏิบัติภาวนาตามโอกาสที่ได้ค่ะ หวังพระนิพพานเป็นเบื้องหน้า หากท่านมีประสบการณ์ดีๆ ก็นำมาแบ่งปันกันนะคะ

 

เมื่อเราสร้างบุญ สร้างกุศล ท่านก็มาโมทนาบุญด้วยค่ะ
แสดงว่า ท่านก็ ใฝ่บุญและสะสมบุญบารมีเช่นกัน..

 

สวัสดีค่ะ คุณ คะรุทา เมื่อไรจะมาเล่าเรื่องท่านพญาครุฑให้ฟังอีกคะ เมื่อตอนเปิดเจอกระทู้ของคุณครั้งแรก ดิฉันตามตามจนจบทุกหน้าเลยค่ะ
ขอบคุณมากๆนะคะ สำหรับกระทู้ดีๆนี้ค่ะ

 

มารอฟังเรื่องเล่า...พญาครุฑด้วยคนค่ะ ^^

 

.

แนะนำเพื่อนให้รู้จักซักคนนะครับ
เมื่อคืนนี้เอง อยู่ๆ ก็มีกลอนสองบรรทัดแรก หล่นใส่หัว
เลยต้องนั่งเขียนต่อกลอนให้จบ ได้มาสองบท
แต่ตอนเขียน อยู่ๆ ลมก็พัดแรงมากๆ เสียงดังเกินเหตุ
นั่งอยู่ขนลุกเลยล่ะท่านทั้งหลาย
ออกมาดูนอกศาลาวัด เห็นลมแรงเป็นระยะ
พัดถึงยอดไม้ โยกไปก็โยกมา

(กินหัวหรือกินหาง กินกลางตลอดตัว)
แล้วไอ้นี่มายังไงฟะ อยู่ๆ ก็เขียนออกมา
ทำลายบรรยากาศชะมัด ช่างหัวมัน อยากออกมาก็เชิญ





...ยะโส โอหัง และบังอาจ
ทุ่มเท มุ่งมาด ปราถนา
ดื้อด้าน เกินใคร ในโลกา
ตัวข้า ท้าทาย ไปทั่วแดน

...ทุกแคว้น แผ่นดิน ทุกถิ่นหน
ทุกตน ทนสู้ กูไม่ถอย
ปักหลัก บากบั่น มั่นใจคอย
เราสู้ ไม่ถอย จนก้าวเดียว


ค้างคาวแห่งแสง
.

 

พญาครุฑ

คือเพิ่งได้องค์พญาครุฑมาค่ะ ตัวเองเป็นคนปีมะโรงค่ะ อยากทราบว่าบูชาได้มั้ยค่ะ แล้วเมื่อคืน (คืนที่ 2) ได้ยินเสียงนกร้องเยอะมากค่ะข้างนอกบ้าน อันนี้เกี่ยวกันมั้ยค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

พญาครุฑ กับพญานาค เป็นพี่น้องกันไม่ถูกกันก็จริงในอดีต
ถ้าไม่ถูกกันก็คง เป็นเทพไม่ได้ ลองอ่านตามนี้ครับ


พระกัศยปมุนี เป็นฤษีที่มีฤทธ์อำนาจมาก มีมเหสี 15 พระองค์ซึ่งเป็นธิดา ของพระทักษะประชาบดีแห่งพระพรหม

มาหาสงครามระหว่างนาคกับครุฑ เกิด ขึ้นจาก มเหสีที่ชื่อ วินดา กับ กัทรุ โดยนางกัทรุ ได้ขอพรจากสามี ขอให้มีลูก จำนวนมาก ต่อมานางได้กำเนิดพญานาค 1000 ตน อาศัยในบาดาล ส่วนนางวินตาขอพรจากสามีให้มีลูกสอง องค์และขอให้ลูกของนางมีวาสนา ต่อมานางได้คลอดลูกออกมาเป็นไข่สองฟอง แต่นางทนรอไม่ไหวจึงทุบไข่หนึ่งฟอง ปรากฏเป็นเทพบุตร ที่มีกายแค่ครึ่งบนชื่อว่า อรุณ

เทพบุตร อรุณ โกรธมารดา ที่ทำให้ตน ออกจากไข่ก่อนกำหนด จึงสาบนางวินตา เป็นทาสนาง กัทรุ 500 ปี และให้บุตรคนที่สองเป็นผู้ช่วย นางให้พ้นจากคำสาป จากนั้นจึงขึ้นไปเป็นสารถีให้กับพระอาทิตย์ หรือสุริยเทพ เมื่อนางวินตา ต้องคำสาป นางจึงไม่กล้าทุบไข่ใบที่สอง ได้แต่เฝ้ารอ วันที่ลูกจะออกมาจากไข่เอง

ตามตำนานกล่าวว่าเมื่อพญาครุฑแรกเกิดมานั้น มีร่างกายขยายตัวออกมาใหญ่จรดฟ้า ดวงตาเมื่อกระพริบเหมือนฟ้าแลบ เวลาขยับปีกคราใด ขุนเขาจะตกใจ หนีหายไปพร้อมพระพาย รัศมีที่พวยพุ่งออกจากกายมีลักษณะดั่งไฟไหม้ทั่วทิศ จนเหล่าเทวดาเข้าใจผิดนึกว่าเป็นสุริยเทพ ต่างน้อมเคารพด้วยยำเกรง

วันหนึ่งนางกัทรุ และนางวินตาได้พนันถึงสีม้าของพระอาทิตย์ เมื่อคราวกวนเกษียรสมุทร ซึ่งเป็นหมู่ม้าเทียมรถ ของพระอาทิตย์ โดยมีเงื่อนไขว่าใครแพ้จะต้องเป็นทาสให้กับอีฝ่าย 500 ปี นางวินตา แม่พญาครุฑทายว่าสีขาว ส่วนนางกัทรุทายว่าเป็นสีดำ แต่นางรู้ดีม้าเป็นสีขาวจึงวางอุบายให้ลูกนาคทั้ง1000 ตนแปลงกายเป็นขนสีดำเข้าไปแซมตามขนม้า นางวินตาไม่ทราบกลอุบายนั้นจึงแพ้พนันในคราวนั้น ต้องตกเป็นทาสแม่ของนาคผู้ริษยานับแต่นั้นมา

ในกาลต่อมาเมื่อพญาครุฑล่วงรู้กลอุบายที่นางกัทรุได้ลวงหลอกมารดาของตน ด้วยจิตกตัญญูจึงมีความประสงค์ ที่จะช่วยให้มารดาหลุดพ้นจากการเป็นทาส พญาครุฑจึงได้ทำการตกลงกับพญานาคที่ต้องการเป็นอมตะ โดยจะนำน้ำอมฤติที่เกิดจากพระนารายณ์ทำพิธีกวนเกษียรสมุทร และไปไว้ที่พระจันทร์มามอบให้เป็นการไถ่ถอนอิสรภาพมารดา เพื่อทำตามความประสงค์พญาครุฑจึงผาดโผนขยับปีกบินสู่สรวงสวรรค์คว้าพระจันทร์มาซ่อนไว้ใต้ปีก

เมื่อหม้อ น้ำถูกพญาครุฑถูกช่วงชิง พระอินทร์ และทวยเทพ ต่งออกติดตามพญาครุฑ จนเกิดมหาสงครามกลางเวหาขึ้น เหล่ากองทัพเทวดาและทวยเทพ ไม่อาจเอาชนะพญาครุฑได้ พระอินทร์ผู้ทรงฤทธิ์จึงใช้วัชระ (สายฟ้าฟาด)โจมตีพญาครุฑ แต่ศาตราวุธ แห่งมหาเทพ มิได้ระคายเคืองผิวกายพญาครุฑให้บาดเจ็บแต่อย่างใด พญาครุฑจำได้ว่าวัชระเป็นอาวุธทีพระอิศวรประทานให้แก่พระอินทร์ จึงสลัดขนของตนหล่นลงไปเส้นหนึ่งเพื่อแสดงความเคารพต่อวัชระ (เป็นที่มาของชื่อหนึ่งว่า “สุบรรณ” แปลว่าขนวิเศษ) และเพื่อเป็นการรักษาเกียรติ ของพระอินทร์ผู้เป็นใหญ่ในหมู่เทพ

ด้านพระวิษณุหรือพระนารายณ์ เมื่อทราบความจึงได้ออกมาขวางพญาครุฑไว้ และสู้รบกับพญาครุฑกันสุดฤทธิ์ การต่อสู้ในครั้งนั้นสะเทือนเลือนลั่นไปทั้ง 3 ภพ ต่างฝ่ายต่างไม่อาจเอาชนะกันได้ทั้งสองจึงทำความตกลงยุติศึกกัน โดยพระวิษณุหรือพระนารายณ์ ให้พรแก่พญาครุฑว่าจะให้พญาครุฑเป็นอมตะ และให้อยู่ในตำแหน่งสูงกว่าพระองค์ ส่วนพญาครุฑได้ถวายสัญญา ว่าจะเป็นพาหนะของพระวิษณุ และเป็นธงครุฑพาห์ สำหรับปักอยู่บนรถศึก ของพระวิษณุ อันเป็นที่สูงกว่า จึงเป็นเหตุใดพญาครุฑจึงเป็นพาหนะของพระวิษณุ

ส่วนหม้อน้ำอมฤต นั้นพระอินทร์ ได้ตามมาขอคืน พญาครุฑบอกว่าตนต้องรักษาสัตย์ที่จะนำไปให้พญานาคเพื่อไถ่มารดาให้พ้นจากการเป็นทาส โดยจะวางหม้อน้ำอมฤตนั้นไว้ตามสัญญาให้พวกพญานาค แล้วให้พระอินทร์ รีบยกหม้อหม้อน้ำอมฤตนี้กลับไปโดยเร็ว



เหล่าพญานาคเมื่อเห็นน้ำอมฤต ต่างมีความยินดีเปรมปรีย์ยิ่งนัก ปล่อยนางวินตาแม่พญาครุฑ เป็นอิสระแล้วพากันไปสรงน้ำชำระกายเพื่อจะมาดื่มน้ำอมฤต พระอินทร์สบโอกาสขึงได้นำหม้อน้ำอมฤตกลับไปทำให้พญานาคไม่ได้ดื่มกินยิ่งเพิ่มความแค้นเป็นศัตรูกับพญาครุฑมากยิ่งขึ้น

เมื่อพระอินทร์ได้หม้อน้ำอมฤตกลับคืน จึงบันดาลพรให้พญาครุฑ จับพญานาคนาคเป็นอาหารได้ นับแต่นั้นมหาสงครามระหว่างผืนฟ้ากับผืนน้ำจึงอุบัติขึ้นในตำนาน

ในกาลต่อมาเหล่าพญานาคทั้งหลายจึงตกเป็นอาหารของพญาครุฑเรื่อยมา นับวันเผ่าพันธุ์ของพญานาคเริ่มจะสิ้นสูญเพราะพญานาคองค์ภุชงค์ได้รับความเมตตาจากพระศิวะให้ขึ้นไปประทับรอบพระศอเป็นสังวาลย์ของพระองค์ องค์อนันตนาคราช ได้บำเพ็ญเพียรเป็นบัลลังค์ให้กับพระนารายณ์ องค์พญากาฬภุชคินทร์หลับใหลอยู่ในพิภพบาดาล จะตื่นขึ้นมาสักครั้งเมื่อพระพุทธเจ้าองค์ใหม่ ส่วนองค์พญานาคมุจลินทร์ ทรงจำศีลถึง 500 ปี และได้เกิดใหม่มาเป็นพราหมณ์ ส่วนพญานาคองค์อื่นๆ ไม่ค่อยมีฤทธิ์เดชบารมีมากนัก จึงมิกล้าต่อกรกับพญาครุฑผู้เป็นใหญ่แห่งเวหา

ฝ่ายพญานาควาสุกรี เกรงว่าเผ่าพันธุ์ของพญานาคจะสูญพันธุ์ จึงตกลงทำข้อสัญญากับพญาครุฑว่าจะส่งพญานาคไปให้กินเป็นอาหารที่ชายหาด เพื่อเป็นการรักษาเผ่าพันธุ์ของตน เมื่อถึงคราวเคราะห์ของพญานาคตนหนึ่งชื่อ สัตตนาค ที่จะถูกส่งตัวไปให้พญาครุฑกินเป็นอาหาร คราวนั้นพญานาคมุจลินทร์ ที่ได้มาจุติมาเป็นพราหมณ์ได้ขออาสาไปแทน และแปลงกาย ปลอมพระองค์เป็นพญานาคสัตตนาค เซ่นสังเวยชีวิตให้แก่พญาครุฑ

เมื่อนั้นฝ่ายพญาครุฑไม่ทราบความ มองเห็นร่างพญานาคผู้สิ้นบุญก็คิดว่าเป็นอาหาร ใช้ปากจิกร่างสงบนิ่งอย่างเมามัน แต่ปากแหลมคมถล่มหินผาได้กลับไม่สามารถทำอันตราย อันใดแก่เนื้อหนังของพญานาคตนนั้นไม่ ทำได้แต่เพียงห้อเลือดตามผิวหนัง แม้แต่สังวาลเครื่องประดับก็ยังดึงไม่ขาดออกจากร่าง มิหนำซ้ำพญานาคตนนั้นกลับไม่อาทรร้อนใจ ที่จะวายปราณในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้

พญาครุฑผู้ทรงฤทธิ์ เมื่อเห็นผิดสังเกต จึงใช้ญาณเพ่งพินิจ ด้วยตาทิพย์ พบว่าร่างของพญานาคนั้นที่แท้จริงแล้วเป็นร่างของพราหมณ์ ทำให้พญาครุฑเกิดความเศร้าโศรกเสียเป็นอย่างมาก เพราะพญาครุฑ จะไม่ทำร้ายมนุษย์ และผู้ทรงศีล เมื่อรู้ว่าตนกำลังทำร้ายพราหมณ์ จึงคิดลงโทษตนเองด้วยการบินเข้ากองไฟ แต่ร่างกายของของพญาครุฑที่ไดรับพรให้เป็นอมตะ จากพระวิษณุ หาได้เป็นอันตราย ไม่ แม้แต่ระคายเคืองผิวหนังสักเล็กน้อยก็ไม่บังเกิด เมื่อความตั้งใจไม่เป็นผล

จึงบินขึ้นไปหาพระอาทิตย์ หวังให้แสงแห่งสุริยัน เผาผลาญทำลายร่างกายของตน แต่ด้วยพรอันเป็นนิรันดร์ แห่งพระวิษณุร่างกายของพญาครุฑก็หาได้มีแม้แต่รอยไหม้ไม่ ฝ่ายพราหมณ์เมื่อเห็นพญาครุฑ สำนึกผิดจึงคืนร่างกลายเป็นพญามุจลินทร์ แล้วแจ้งทางสว่างให้พญาครุฑ ตนนั้นทราบว่าหากท่านต้องการไถ่บาปที่ได้ก่อไว้เพื่อสร้างเป็นกุศล ขอให้นำน้ำอมฤตที่วิมานฉิมพลีมาโปรยปราย ชุบชีวิตเหล่าพญานาค ที่ท่านได้ดับชีวิตเขาเถอะ

เมื่อพญาครุฑรับทราบหนทางแก้กรรม ที่ได้ก่อไว้ จึงรีบเหาะไปยังวิมานฉิมพลีทันที เมื่อพญาครุฑนำน้ำอมฤตได้มาชุบชีวิตเหล่าพญานาคที่ตนได้จิกกินเป็นอาหาร ปรากฏว่าเหล่าพญานาคที่ถูกปลิดชีพไปแล้วตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันไม่รู้ว่ากีภพกี่ชาติได้ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง

 

รออ่านต่อคะ สนุกมากเลย