ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย พันวฤทธิ์, 29 พฤศจิกายน 2007.

  1. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,789
    ค่าพลัง:
    +16,101
    วันนี้สืบหาพระเครื่องดีมาตามนัดตามเวลาคือวันศุกร์ครับ อย่างที่สัญญาไว้ สืบหาพระเครื่องวันนี้ เป็นการสืบหาพระที่ค่อนข้างหรือว่ากันง่ายๆ เลยก็คือ หนักไปทางบู๊แบบไม่ต้องหาเมตตาเจือปนเลยครับ ผมเองก็พบเจอโดยบังเอิญ โดยที่ลูกน้องเป็นคนราชบุรี นำเหรียญมาให้ดู พอเอ่ยชื่อท่านผมบอกว่า ไม่รู้จักจริงๆ เพราะพระสายราชบุรีนั้น เคยได้ยินชื่อแต่หลวงพ่อแทน วัดธรรมเสน เท่านั้น ลูกน้องก็เลยส่งมาให้ดู บอกว่า ผมเช่ามาพันสอง พอได้ยินราคา ผมก็คว้าใส่มือตามที่ชอบ ปากก็คุยไปคุยมา แต่มือก็ลูบคลำเหรียญไปเรื่อย แรกๆ ก็ไม่มีอะไร แต่พอเหลือบตามองไปยังสนามบอล แวบนึง แวบเดียวแท้ๆ กระแสท่านขึ้นมาแรงมาก แรงจนแทบเจ็บปลายมือ เลยถามว่า เฮ้ย ท่านดุรึ ลูกน้องเลยเฉลยให้ฟังว่า ชาวบ้านเค้าเล่นกันเพราะท่านกันปืน กันระเบิดได้ฉมังนัก ประสบการณ์เพียบ ยังไม่ทันได้พิจารณาเหรียญว่าท่านมีนามว่าอย่างไร ลูกน้องเลยบอกให้ดี ท่านชื่อ "หลวงปู่หนู วัดทุ่งแหลมครับ" ที่ผมได้มานี่ราคาถูกแล้วน๊ะ แถวพื้นที่เล่นกันแพงกว่านี้อีก แต่เหรียญรุ่นนี้มีปลอมแล้ว ของแท้ต้องโค๊ตชัดๆ ครับ วันนี้ได้โอกาสเลยถามครูอาจารย์เพื่อตรวจสอบกระแสจิตของท่านอีกครั้ง ก็เลยเป็นอย่างข้างต้นเพราะท่านได้อภิญญามาทางด้านนี้ กระแสจิตท่านแข็งแกร่งมาก ยิ่งพอมาเห็นประวัติของท่านแล้วก็ถึงบางอ้อ ครูอาจารย์ของท่านเบากันซะที่ไหน สุดๆ เหมือนกัน ลองมาอ่านประวัติของท่านดู แล้วท่านจะรู้เองว่า เป็นอย่างที่ผมเขียนไว้มั๊ย

    หลวงปู่หนู ฉินนกาโม

    หลวงปู่หนู ฉินนกาโม ชื่อเดิมว่า “หนู เจริญวิทยา” เกิดเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๔๓๘ ที่หมู่ ๕ ต.หนองโพ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี โยมบิดาชื่อ “นายฮง” มารดาชื่อ “นางบาง” จบชั้น ป.๔ โรงเรียนวัดหนองโพ แล้วช่วยบิดา - มารดาทำงานทางบ้าน

    จากนั้นได้บวชเป็นสามเณร ณ วัดหนองโพ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ศึกษาพระปริยัติธรรมจนสอบได้ นักธรรมโท แล้วหันมาสนใจวิชาทางไสยศาสตร์ และเวทมนตร์คาถาพุทธาคม จึงได้ไปเรียนวิชาการต่างๆ กับ หลวงพ่อหลาบ วัดเนินตอ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี จนเชี่ยวชาญ แล้วจึงไปเรียนกับ หลวงพ่อหลุง วัดทุ่งสมอ อีก ๓ ปี

    กระทั่งอายุครบบวชในปี พ.ศ. ๒๔๕๘ จึงทำการอุปสมบทที่ วัดใหม่เจริญผลโดยมี หลวงพ่อปลิว เป็นพระอุปัชฌาย์ แล้วไปจำพรรษาที่ “สำนักคร้อ” หนึ่งพรรษา จึงไปเรียนวิชาพุทธาคม และวิปัสสนากับ หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน จ.สุพรรณ บุรี จากนั้นก็ไปเรียนวิชากับ หลวงพ่อจันทร์ วัดบ้านยาง, หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง จ.นคร ปฐม ซึ่งระหว่างเรียนวิชากับ หลวงพ่อแช่ม ได้พบกับศิษย์อีกคนหนึ่งของหลวงพ่อแช่มที่มาเรียนด้วยคือ หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม จ.นคร ปฐม

    จากนั้นจึงไปจำพรรษาที่ สำนักสงฆ์เขาคร้อ จนคณะสงฆ์เห็นในศีลาจารวัตรของท่านเหมาะสม จึงนิมนต์ไปเป็นเจ้าอาวาส วัดกระต่ายเต้น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี อยู่ได้ไม่นานมีความเบื่อหน่ายกับการบริหารจัดการวัดร่วมกับกรรมการจึง ลาสิกขาออกไปใช้ชีวิตฆราวาสอยู่ที่ อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ระหว่างเป็นฆราวาสก็ปฏิบัติธรรมอย่างสม่ำเสมอ

    ต่อมาเมื่อถึงวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๐๒ ท่านจึงได้ตัดสินใจอุปสมบทอีกครั้ง ณ วัดกุฎบางเค็ม อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี โดยมี พระครูเกษมสุตคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหาเปรย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ฉินนกาโม” และไปจำพรรษาปฏิบัติธรรม ณ วัดไทยธรรมาราม อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ๕ พรรษา จึงได้กลับมาวัดกุฎบางเค็ม

    ชาวบ้านทุ่งแหลมเลื่อมใสในศีลาจารวัตร จึงนิมนต์ให้ไปจำพรรษาที่ วัดทุ่งแหลม อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี โดยได้ทำการพัฒนาวัดทุ่งแหลมจนเจริญก้าวหน้าเป็นลำดับมา ระหว่างอยู่วัดทุ่งแหลมนี้เองมีประชาชนเลื่อมใสศรัทธามาก จึงได้สร้างมงคลวัตถุออกแจกจ่ายมากมายหลายรุ่น แต่ละรุ่นล้วนมีประสบการณ์มากมาย

    การปลุกเสกวัตถุมงคลของหลวงปู่หนู บางครั้งท่านจะยกบาตรซึ่งเต็มไปด้วยเหรียญแต่ละรุ่นที่ท่านสร้าง หรือศิษย์สร้างถวาย ลงไปปลุกเสกใต้ลำน้ำลำภาชีข้างวัด ในเวลายามดึกๆ ของคืนที่ฤกษ์ยามดี หายลงไปในน้ำพักใหญ่ๆ ก็ขึ้นมาจากลำน้ำ โดยที่จีวรไม่เปียกน้ำ เช้ามาท่านจะเรียกลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดเข้ามาหาในกุฏิ ตรงหน้าท่านมีบาตรบรรจุเหรียญเต็มไปด้วยน้ำ ท่านสั่งไห้ลูกศิษย์ไปหยิบบาตรเปล่าอีกใบมาวางไว้ตรงหน้าบาตรเปล่าลูกนั้น แล้วนั่งสมาธิเสกเหรียญ จนเหรียญในบาตรน้ำ กระโดดลงไปในบาตรแห้ง กระโดดได้เหมือนลิง เหมือนหนุมาน มีชีวิตได้จริง นี้เป็นหนึ่งในปาฏิหาริย์ ของ หลวงปู่หนู

    ในส่วนของประสบการณ์จากมงคลวัตถุของท่านที่ได้รับการกล่าวขานอย่างมากและร่ำลือกันมาจนถึงทุกวันนี้ อย่างที่บอกแต่ต้น ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องแคล้วคลาดจากภยันตรายภัยพิบัติทั้งหลายทั้งปวง และคงกระพันชาตรี โดยเฉพาะประสบการณ์ด้านระเบิด

    “ระเบิด” นับเป็นอาวุธร้ายแรงที่มีอานุภาพการทำลายล้างสูงกว่าอาวุธชนิดใด ๆ เพราะฤทธิ์เดชของมันสามารถสร้างความเสียหายให้กับทุกสิ่งทุกอย่างได้ในวง กว้าง แม้แต่ชีวิตผู้คนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงก็แหลกเหลวราพณาสูรได้ด้วยอานุภาพ ของมัน แต่แม้ฤทธิ์เดชของระเบิดจะร้ายแรงปานใด บางครั้งก็ไม่อาจสามารถทำอันตรายใด ๆ ต่อผู้ที่มี “สิ่งศักดิ์สิทธิ์” ได้ ซึ่ง ก็มีให้เห็นอยู่เสมอ นับเป็นเรื่อง “เหนือลิขิต ประกาศิตฟ้าดิน” ที่ท้าทายเป็นอย่างยิ่ง

    อย่างเช่น เมื่อปี พ.ศ. 2524 มีครอบครัวของ “อาสาสมัคร” รายหนึ่งคือ นายกู้เกียรติ บัวบาน ครอบครัวนี้มีอยู่ด้วยกัน 4 ชีวิตประกอบด้วย นายกู้เกียรติ ผู้เป็นสามีพร้อมทั้งภรรยา และบุตรชายอีก 2 คน ชื่อ ด.ช.สมเกียรติ และ ด.ช.เกียรติยศ มีบ้านพักอาศัยอยู่ที่ หมู่บ้านมะขามเอน ต.ป่าหวาย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี

    นายกู้เกียรติ ปกติมีอาชีพทำไร่และเป็นอาสาสมัครของรัฐบาล มีหน้าที่คอยคุ้มครองหมู่บ้านจึงได้รับแจกอาวุธที่ใช้ในราชการสงคราม ซึ่งมีทั้ง ปืน และ ระเบิดสังหาร ไว้ใช้สำหรับการปฏิบัติงานตามหน้าที่ เนื่องจากที่ อ.สวนผึ้ง ในสมัยนั้น มีผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ชุกชุมมาก ซึ่งอาวุธเหล่านี้ยามเมื่อไม่ได้ใช้งานก็จะเก็บไว้ที่บ้านตลอดเวลา

    ในวันเกิดเหตุอันเป็นที่มาของเรื่องนี้ตรงกับวันพระขึ้น ๑๕ ค่ำ นายกู้เกียรติ และภรรยาได้ไปทำบุญที่ วัดทุ่งแหลม ตั้งแต่เช้าโดยปล่อยให้บุตรชายทั้งสองทำหน้าที่เฝ้าบ้านกระทั่งเวลาประมาณ ๐๘.๓๐ น. ผู้คนที่มาทำบุญในวัดต่างได้ยินเสียงคล้ายระเบิดดังสนั่นขึ้นเพราะวัดทุ่ง แหลมอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้าน

    ครู่ต่อมาก็มีคนขี่มอเตอร์ไซค์มาด้วยสีหน้าตื่นๆ พร้อมร้องบอกนายกู้เกียรติ ว่าที่บ้านเกิดระเบิดขึ้น และเห็นลูกชายของนายกู้เกียรตินอนจมกองเลือดทั้งสองคน ได้ยินเช่นนั้นนายกู้เกียรติ และภรรยารีบซ้อนรถมอเตอร์ไซค์ของผู้ที่มาบอก ข่าวตะบึงกลับบ้านทันที

    เมื่อถึงบ้านจึงได้เห็นสภาพของลูกชายทั้งสอง ทำให้ทั้งนายกู้เกียรติ และภรรยาแทบจะเป็นลม เพราะเด็กชายทั้งสองสลบไม่ได้สติจากแรงระเบิด นายกู้เกียรติ รีบนำบุตรชายขึ้นรถไปโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ซึ่งพอหมอและพยาบาลของโรงพยาบาลเห็นสภาพลูกชายทั้งสองของนายกู้เกียรติแล้ว กลับไม่ยอมรับตัวไว้รักษาเพราะเกรงจะช่วยเด็กไม่ได้ เนื่องจากมีเครื่องไม้เครื่องมือไม่พร้อมที่จะรักษานั่นเอง จึงแนะนำให้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลในตัวเมืองจังหวัดราชบุรี

    นายกู้เกียรติ ไม่รอช้ารีบบึ่งไปโรงพยาบาลประจำจังหวัดราชบุรี ซึ่งพอไปถึงหมอรีบนำตัวเข้าห้องฉุกเฉินเป็นขณะที่เด็กทั้งสองเริ่มรู้สึกตัว แล้วแต่ยังคงร้องโอดโอยอย่างคนที่อยู่ในอาการเจ็บปวดเพราะพิษสะเก็ดระเบิด ที่ฝังอยู่ตามร่างกาย เพราะหลายคนที่เห็นสภาพของเด็กแล้วต่างระบุว่า อาการของเด็กคงหนักมากและอาจไม่รอดชีวิตด้วยซ้ำ

    แต่หลังจากหมอได้ทำการชำระล้างบาดแผล เพื่อหาสะเก็ดระเบิด ปรากฏว่ามีสะเก็ดระเบิดตามร่างกายน้อยมาก สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ที่เห็นเหตุการณ์เป็นอย่างมาก และหลังจากนำสะเก็ดระเบิดออกพร้อมใส่ยาเสร็จเรียบร้อยแล้ว เด็กทั้งคู่ก็แทบจะไม่มีอาการอย่างใดเลย มีอาการเจ็บปวดก็เพราะบาดแผลระบมเท่านั้นเอง หมอจึงอนุญาตให้นำเด็กกลับบ้านได้

    หลังจากกลับถึงบ้านและได้นอนพักเป็นเวลาเกือบค่อนวัน เด็กทั้งคู่จึงบอกเล่าเหตุการณ์ให้นายกู้เกียรติ ผู้พ่อฟังว่า นำลูกระเบิดมาแกะเล่นจึงทำให้เกิดระเบิดขึ้น และแรงระเบิดก็ทำความเสียหายให้ตัวบ้านไม่น้อย แต่เด็กทั้งคู่กลับมีบาดแผลจากสะเก็ดระเบิดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อเหตุกลับเป็นเช่นนี้นายกู้เกียรติ จึงเชื่อว่าเป็นเพราะ “พุทธบารมี” ของ “เหรียญหลวงปู่หนู วัดทุ่งแหลม” อย่างแน่นอน เพราะทั้งคู่ต่างแขวนคอไว้คนละเหรียญ.

    อาราธนานัง-รายงาน
    ที่มาหนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    http://www.dailynews.co.th/newstartp...ontentId=15483

    หมายเหตุผู้โพสท์ ส่วนเหรียญกันระเบิดของท่านนั้น ลองหาเช่ากันเอาเอง แต่ขอเน้นที่โค๊ตชัดๆ ครับ โดยเฉพาะที่ตัวเลข ถ้าเบลอๆ ถอยก่อน อย่าเอา ถ้าอ่านชัด ค่อยว่ากัน แต่อย่างที่บอก อิทธิคุณท่านเด่นชัดทางมหาอุด แคล้วคลาด แต่ถ้าจีบสาว รึว่าจะให้นายรัก ซอรี่จริงๆ ครับ



    [​IMG]

    [​IMG]

    ขอบคุณตัวอย่างเหรียญจาก พระเครื่องเมืองราชบุรี : หลวงปู่หนู วัดทุ่งแหลม รุ่นประสบการณ์"ระเบิด"!!!!!!!!!!!!!!!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กุมภาพันธ์ 2013
  2. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,118
    [​IMG]
    ผู้มาร่วมบุญปีแรก


    [​IMG]ผู้มาร่วมบุญเดือนม.ค.2556 ล้นเฟรมกล้องก็มีอีกหลายท่านครับ
     
  3. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,789
    ค่าพลัง:
    +16,101
    กิจกรรมที่ รพ.สงฆ์ ประจำเดือนนี้คือวันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2556 โดยนัดพบเพื่อจัดเตรียมสังฆทานอาหารที่โรงอาหารด้านข้าง รพ.สงฆ์ในเวลา 7.30 น.-8.00 น. เหมือนเช่นเคย

    จึงขอแจ้งให้ผู้ที่สนใจได้ทราบทั่วกัน โดยผมและกรรมการของทุนนิธิฯ ได้เบิกเงินจากบัญชีของทุนนิธิฯ และได้ทยอยบริจาคไปยัง รพ.ต่างๆ โดยเรียบร้อยแล้วในวันนี้ โดยมีรายละเอียดการบริจาคสำหรับเดือนกุมภาพันธ์ 2556 มีดังนี้ (สำเนาการโอนเงินจะได้นำมาลงให้อนุโมทนากันต่อไปครับ)

    1 รพ.สงฆ์
    - ถวายค่าสังฆทานอาหาร 6,000.- (ประมาณการพระสงฆ์ไว้200 รูป โดย
    จะถวายเป็นอาหารกล่องๆ ละ 30.-)
    - ถวายค่าเวชภัณฑ์ส่วนกลาง 5,000.-
    - ถวายค่าโลหิต 5,000.-

    รวม 16,000.-
    2 รพ.ภูมิภาค
    - รพ.แม่สอด จ.ตาก 8,000.-
    - รพ.สมเด็จพระยุพราชปัว 5,000.- จ.น่าน
    - รพ.สมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย 8,000.- จ.เลย
    - รพ.มหาราช จ.เชียงใหม่ 8,000.-
    - รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น 8,000
    - รพ.50 พรรษาฯ จ.อุบล 5,000.-
    - รพ.สงขลา จ.สงขลา 8,000.-
    - รพ.ปัตตานี จ.ปัตตานี 5,000.-

    รวม 55,000.-
    รวมประมาณการเงินบริจาคของทุนนิธิฯ ตามข้อ 1.+2.+ = 71,000.- (เจ็ดหมื่นหนึ่งพันบาทถ้วน)


    ขอขอบคุณทุกๆ ท่านที่ไ้ด้บริจาคเงินช่วยพระสงฆ์อาพาธโดยผ่านกระทู้นี้ด้วยครับ จะมากจะน้อยไม่เป็นไร ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ

    พันวฤทธิ์
    20/2/56



    เพิ่มเติมหลักฐานการโอนเงินและสำเนาใบอนุโมทนาบัตร เท่าที่ได้รับมาตอนนี้ครับ

    พันวฤทธิ์
    22/2/56
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กุมภาพันธ์ 2013
  4. ต้นแก้ว

    ต้นแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2007
    โพสต์:
    828
    ค่าพลัง:
    +3,569
    ผมและครอบครัวโอนเงินร่วมบุญทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธฯ 300 บาทครับ 20/02/56 อนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ
     
  5. SilentSoar

    SilentSoar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    481
    ค่าพลัง:
    +2,384
    แจ้งโอนเงินทำบุญครับ ^_^ 100 บาท

    โอนเงินต่างธนาคาร - สถานะการทำรายการ
    สถานะการทำรายการ ธนาคารได้ทำรายการของท่านเรียบร้อยแล้ว
    หมายเลขอ้างอิง KBKR130222323144791
    รายละเอียดการทำรายการ
    วิธีโอนเงิน ออนไลน์ (ตลอด 24 ชั่วโมง)

    ธนาคารเจ้าของบัญชี ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
    เพื่อเข้าบัญชี 348-1-23245-9 ศ. ทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร
    ชื่อเจ้าของบัญชีในฐานข้อมูล PRATOM F.
    จำนวนเงิน (บาท) 100.00
    ค่าธรรมเนียม (บาท) 25.00
    วันที่โอนเงิน 22/02/2013 [18:47:47]
    บันทึกช่วยจำ ร่วมทำบุญและร่วมเป็นเจ้าภาพทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ รวมถึงร่วมทำบุญทุกอย่าง รวมร่วมบุญจำนวน 100 บาท




    แจ้งโอนเงินทำบุญครับ ^_^ 100 บาท

    ร่วมทำบุญและร่วมเป็นเจ้าภาพทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ
    รวมถึงร่วมทำบุญทุกอย่าง
    รวมร่วมบุญจำนวน 100 บาท

    และขอร่วมทำบุญเป็นสังฆทาน และเพื่อชำระหนี้สงฆ์ นับตั้งแต่อดีตชาติถึงปัจจุบันชาติ
    ขออนุโมทนาบุญ ทั้งหลายทั้งปวงให้พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พรหม เทพ เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายที่มีตั้งแต่ต้น บิดามารดาของข้าพเจ้าทั้งชาตินี้และทุกๆชาติ
    พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์
    พระโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ พระยายมราช เจ้าการบัญชี ลุงพุฒิ
    พระศรีอารียเมตไตรย และสมเด็จองค์ปฐมอันเป็นที่สุด

    ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุขสมหวังในเรื่องความรักทุกประการ นับตั้งแต่บัดนี้ตลอดเท่าเข้าสู่พระนิพพาน
    ขอให้ข้าพเจ้ามีดวงตาเห็นธรรม และเป็นคนดีนับตั้งแต่บัดนี้ตลอดเท่าเข้าสู่พระนิพพาน
    ขอให้ ความไม่มี ความไม่รู้ และความไม่ได้ จงอย่าได้บังเกิดกับข้าพเจ้านับตั้งแต่บัดนี้ตลอดเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วย เถิด สาธุ สาธุ สาธุ ...

    ขอร่วมอนุโมทนาบุญกับผู้ร่วมทำบุญทุกท่านด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ...
    อนุโมทนาบุญครับ,
    SilentSoar
     
  6. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,789
    ค่าพลัง:
    +16,101
    เป็นบทความที่น่าสนใจมาก และขอนำมาฝากในคอลัมภ์สืบหาพระเครื่องดีในค่ำคืนวันศุกร์นี้ โดยหากที่เป็นพระเครื่องที่ผ่านการอธิษฐานจิตจากท่านเจ้าคุณนรฯ แล้ว เชื่อขนมได้เลยว่า "ใช้ได้เป็นอย่างดี" เพราะท่านเข้าใจในเรื่องจิตศาสตร์ อย่างลึกซึ้ง เข้าใจในเรื่องการขอบารมีจากเบื้องบนอย่างลึกซึ้ง พระของท่านจึง "ขอได้" เสมอ ส่วนเรื่องถึงคราวบ่งอับบ่งรา หรือคับขันนั้น ให้เรียกชื่อท่าน ว่า "ธัมมวิตักโก" แล้วท่านจะมาช่วยให้พ้นภัยได้ อันนี้ก็เป็นเรื่องจริงเสมอสำหรับพระผู้ทรงอภิญญาทั้งหลาย รวมถึงอริยบุคคลชั้นอนาคามีขึ้นไป เพราะจิตท่านนั้นมีความบริสุทธิ มีกำลังสูง มีกำลังมาก เป็นอณูละเอียดรับรู้ได้แม้จะอยู่คนละมุมโลก หรือคนละภพภูมิ ขอให้นึกถึงไว้เสมอๆ ครับ เผื่อฉุกเฉินจะได้เป็นนิสสัยไว้ไม่ลืม เช่นเดียวกันกับการภาวนาพุทโธ ไว้ตลอดเวลาเพื่อให้เกิดความเคยชินไว้นั่นเอง

    [​IMG]



    การอธิษฐานจิตของท่านเจ้าคุณนรฯ

    พระเถระผู้ทรงคุณธรรมเป็นพิเศษในอดีตเป็นอันมาก
    เมื่อจะถือกำเนิดในครรภ์โยมมารดานั้น
    มักจะสำแดงนิมิตให้ปรากฏแก่โยมบิดาและโยมมารดาต่างๆ กัน
    เป็นต้นว่า สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวโร)
    อดีตเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาสองค์สำคัญยิ่ง
    ซึ่งเป็นสมเด็จอุปัชฌาย์ของ “ท่านธมฺมวิตกฺโก”
    และเชื่อกันว่าท่านเป็นพระอริยบุคคลรูปหนึ่งนั้น
    เมื่อปีที่ท่านจะเกิดโยมบิดาก็ฝันไปว่ามีผู้นำช้างเผือกมาให้

    หรือเมื่อตอนที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)
    แต่ครั้งยังเป็นสามเณร จะย้ายเข้าไปอยู่วัดระฆังโฆสิตาราม
    เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรมนั้น
    ก็เล่ากันว่าพระอาจารย์ของท่านฝันในคืนวันที่ท่านจะไปถึงว่า
    มีช้างเผือกเชือกหนึ่งเข้าไปกินคัมภีร์พระไตรปิฎกในตู้จนหมด ฯลฯ

    โดยเหตุที่เคยมีเรื่องราวเล่ากันมาดังกล่าวนี้
    จึงทำให้ผู้เขียนสนใจสืบถามนิมิต
    เมื่อตอนที่ ท่านธมฺมวิตกฺโก จะถือกำเนิดอยู่เหมือนกัน
    เพื่อจะได้ “เกร็ด” ประวัติตอนสำคัญของท่านมาเผยแพร่
    แต่ก็มิได้ความกระจ่างแต่อย่างไร

    เคยมีผู้สนใจซักถามโยมบิดาของท่าน
    (พระนรราชภักดี-ตรอง จินตยานนท์) ว่าประพฤติตนเช่นไร
    สวดมนต์อย่างไร ท่องคาถาบทไหน ฯลฯ
    จึงได้มีบุตรที่ดี (หมายถึงท่านธมฺมวิตกฺโก) เช่นนี้
    โยมบิดาของท่านก็ได้ตอบไปว่า
    เห็นจะเป็นด้วยเหตุที่ท่านได้ใส่ใจภาวนา
    สวดพระคาถามงคลสูตรอยู่เสมอนั่นเอง


    อันพระคาถามงคลสูตรนี้
    ตัวท่านธมฺมวิตกฺโกเองก็นิยมท่องบ่นเจริญภาวนาอยู่เสมอเช่นกัน
    ตลอดทั้งได้แนะนำผู้ใกล้ชิดบางคน เช่น คู่หมั้นของท่าน
    ให้หมั่นสวดภาวนาทุกวัน ทั้งเวลาเช้าตื่นนอน และเวลาค่ำก่อนเข้านอน

    โดยท่านได้ให้อรรถาธิบายว่า
    “มงคลคาถานี้ เป็นพระสูตรที่คัดมาจากพระไตรปิฎก
    ผู้ใดเล่าบ่นหรือสวดและปฏิบัติตาม
    ย่อมเป็นสิริมงคลอันประเสริฐ จึงเรียกว่าคาถามงคลสูตร”

    ในตอนปีท้ายๆ ก่อนที่จะถึงแก่มรณภาพนี้
    รู้สึกว่าท่านธมฺมวิตกฺโกได้ตั้งใจอธิษฐานจิต
    และแผ่เมตตาลงในพระเครื่องมากมายเป็นพิเศษ
    ยิ่งในปี พ.ศ. ๒๕๑๓ ด้วยแล้ว ถึงกับมีพิธีสวดอธิษฐานจิตครั้งใหญ่
    ในวัดเทพศิรินทราวาสถึงสองครั้งสองหน
    คือเมื่อเสาร์ห้า ตรงกับวันที่ ๒๕ เมษายน ครั้งหนึ่ง
    กับวันที่ ๕ ธันวาคม อีกครั้งหนึ่ง

    โดยเฉพาะวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๑๓
    ซึ่งเป็นพิธีสวดอธิษฐานจิตครั้งสุดท้ายของท่านนั้น
    ได้มีผู้นำพระเครื่องพระบูชา และวัตถุสิ่งของต่างๆ
    ไปให้ท่านอธิษฐานจิตให้อย่างมากมายเป็นประวัติการณ์
    มงคลวัตถุเหล่านั้นวางเต็มอาสนะสงฆ์ในพระอุโบสถ
    จนดูแทบจะทานน้ำหนักไม่ไหว
    มีผู้กล่าวกันว่าน้ำหนักสิ่งของทั้งหมดที่นำไปให้ท่าน
    อธิษฐานจิตในวันนั้น คะเนรวมแล้วเห็นจะไม่ต่ำกว่า ๓ ตัน !

    นอกจากนี้ยังมีการถวายให้อธิษฐานจิตและแผ่เมตตาย่อยครั้งละไม่กี่นาที
    ในพระอุโบสถบ้าง ข้างกุฏิท่านบ้างอีกนับครั้งไม่ถ้วน
    จนเกือบจะไม่มีการยกเว้นว่าบุคคลใดจะเป็นพระสงฆ์หรือฆราวาสก็แล้วแต่
    หากมีประสงค์จะสร้างพระเพื่อหารายได้ไปใช้ในการกุศลแล้ว
    ท่านก็จะอนุโลมตามความปรารถนา อธิษฐานจิตให้ทุกรายไป

    เป็นเรื่องที่บุคคลบางคนเห็นเป็นเรื่องแปลกประหลาด
    เพราะแต่ก่อนมานั้นท่านไม่ยอมอธิษฐานจิตสิ่งของให้แก่ใครได้ง่ายๆ
    เป็นเรื่องนอกลู่นอกทาง มิใช่แนวของพระพุทธศาสนาโดยตรง

    เชื่อกันว่าการที่ท่านยอมอธิษฐานจิตและแผ่เมตตา
    ลงในพระเครื่องอย่างมากมายในระยะหลังๆ นี้ ก็เพื่อเป็นสิ่งของที่ระลึก
    เป็นเครื่องหมายแทนตัวท่านสืบต่อไปในอนาคตอีกนานแสนนาน
    เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะดึงคนให้หันเข้ามาสู่ศาสนา
    เข้าสู่หลักธรรมคำสั่งสอนของสมเด็จพระบรมศาสดา
    เพราะคนที่นิยมสะสมพระ
    หรือที่ชอบเรียกกันติดปากว่า “เล่นพระ” นั้น
    ในที่สุดก็หันมาปฏิบัติธรรมด้วยกันทั้งสิ้น
    โดยมีพระเครื่องนั้นเป็นสื่อจูงใจในเบื้องต้น

    นอกจากนี้ท่านยังเคยกล่าวว่า
    “ให้เขาได้ทำบุญทำกุศลกันเสียบ้าง
    ดีกว่าเอาเงินไปสุรุ่ยสุร่าย เที่ยวตามบาร์ตามไนท์คลับกัน”

    เพราะเงินรายได้ที่ได้จากการจำหน่ายพระเครื่องเหล่านี้
    ท่านผู้สร้างก็นำไปใช้จ่ายในการกุศล สร้างโรงเรียน สร้างโบสถ์
    เป็นทุนการศึกษาของพระภิกษุสงฆ์สามเณร ฯลฯ
    อันเป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่การศึกษาและการศาสนาทั้งสิ้น

    อีกประการหนึ่ง สถานการณ์ทั้งภายในและภายนอกโดยรอบประเทศของเรา
    ในระยะนั้นก็มีแต่ความคับขันและอันตรายรอบด้าน
    ต้องส่งทหารไปร่วมรบในสมรภูมิสาธารณรัฐเวียดนาม
    สถานการณ์ในลาวและเขมร ประเทศเพื่อนบ้าน
    ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประเทศเรา กำลังผจญกับสงครามอย่างหนัก
    อันจะส่งผลกระทบกระเทือนมาถึงประเทศชาติของเราด้วย
    และการคุกคามของผู้ก่อการร้าย ซึ่งกำลังแผ่ขยายไปทั่วประเทศ
    ทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ ฯลฯ
    บางครั้งก็รุนแรงน่าสะพึงกลัวเป็นอันมาก

    ด้วยเหตุดังกล่าวมานี้ที่ทำให้ท่านธมฺมวิตกฺโก
    ยอมอธิษฐานจิตและแผ่เมตตา
    ลงในพระเครื่องให้แก่บุคคลต่างๆ เป็นอันมากในระยะหลังๆ นี้
    จึงเกิดอภินิหารเป็นที่ปรากฏประจักษ์แก่มหาชนอย่างกว้างขวาง
    จนพระเครื่องที่ท่านอธิษฐานจิตและแผ่เมตตาให้นั้น
    กลายเป็น “พระเครื่องยอดนิยม”
    เป็นที่กล่าวขวัญและแสวงหาของชาวพุทธทั่วเมืองไทยในยุคนี้

    มีคนเป็นอันมากเชื่อว่าการที่ท่านอธิษฐานจิตและแผ่เมตตา
    ลงในพระเครื่องเป็นการใหญ่ในระยะหลังๆ นี้
    แสดงว่าท่านจะต้อง “สำเร็จ” อย่างหนึ่งอย่างใดแล้วแน่นอน

    หากการอธิษฐานจิตลงในพระเครื่องเป็นเรื่องเหลวไหลไร้สาระ
    ไม่สามารถประจุพลังศักดิ์สิทธิ์ลงสถิตในองค์พระปฏิมาขนาดเล็กนั้นได้จริง
    ท่านก็จะไม่ยอมแผ่เมตตาให้โดยเด็ดขาด

    ท่านได้ทุ่มเทศึกษาทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติในเรื่องเกี่ยวกับอำนาจจิต
    การทำสมาธิทั้งวิชาฝ่ายโยคะและพระพุทธศาสนา
    มาตั้งแต่วัยหนุ่มและกระทำมาตลอดชีวิตของท่าน
    ท่านได้เคยใช้พลังจิตผจญกับโรคร้าย ความเจ็บไข้ ตลอดจนอสรพิษ
    ได้ผลจนเป็นที่อัศจรรย์ใจแก่ผู้ที่ได้พบเห็นหรือที่ทราบเรื่องมาแล้ว
    ฉะนั้น ท่านจึงยินยอมอธิษฐานจิตและแผ่เมตตาลงในพระเครื่องให้

    คราวหนึ่งเมื่อพิธีสวดอธิษฐานจิตในพระอุโบสถ
    วันเสาร์ห้า วันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๑๓ ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว
    ท่านได้หันไปหา พระมหาเสริม อนุจโย
    ซึ่งเป็นพระสวดพุทธาภิเษกในวันนั้นว่า

    “เรื่องของขลังนี้ ท่านมหาเชื่อไหม ?”

    “เกล้าเชื่อ” เป็นคำตอบจากพระมหาเสริม

    อีกคราวหนึ่ง ท่านได้บอกกับนายสุวัฒน์ ซึ่งเป็นเด็กหนุ่มเชื้อจีน
    อยู่ร้านตัดเสื้อแถวสี่แยกวัดตึกที่มีความเคารพท่านมาก
    เคยฝันเห็นท่านมาก่อนระหว่างเจ็บป่วย จึงได้เพียรพยายามมาดูตัวจริง
    จนได้พบท่านแล้วก็เกิดศรัทธาเคารพมั่นในองค์ท่านยิ่งขึ้น
    เมื่อทราบว่าเขามีการสร้างพระเครื่องถวาย
    ให้ท่านอธิษฐานจิต ก็พยายามหาเช่าไว้บูชาเป็นอันมาก
    วันหนึ่งเมื่อได้มีโอกาสพบท่าน ท่านก็ได้กล่าวเป็นเชิงสั่งสอนว่า

    “คุณ พระนี่ช่วยได้นะถ้าไม่จำเป็นอย่าไปปล่อย”

    ที่ท่านว่า “อย่าไปปล่อย” ก็เพราะท่านคาดว่าจะเอาพระเครื่องนั้น
    ไปให้คนอื่นเช่าต่อ หรือขายต่อให้คนอื่นไป

    การที่ท่านกล่าวดังนี้ แสดงว่าท่านเชื่อมั่น
    ท่านทราบได้อย่างแน่ชัดปราศจากข้อสงสัยใดๆ ว่า
    พระเครื่องต่างๆ ที่ท่านอธิษฐานจิตนั้น จะต้องมีความศักดิ์สิทธิ์จริง
    คุ้มครองให้แคล้วคลาดจากอุปัทวันตรายได้จริง
    สามารถเสริมส่งให้ผู้เคารพบูชาประสบความเจริญก้าวหน้าในชีวิตได้จริง
    แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่า ท่านสั่งสอนให้คนหันมาลุ่มหลงงมงาย
    อยู่กับเรื่องพระเครื่องของขลังต่างๆ

    คราวหนึ่งท่านได้เคยพูดกับ นายอธึก สวัสดิมงคล
    นายกยุวพุทธิกสมาคมชลบุรี
    ภายหลังจากถวายของให้ท่านอธิษฐานจิตแล้ว เป็นคติน่าฟังมาก

    “ทั้งหมดนี่” ท่านกล่าวขึ้นพร้อมกับชี้มือ
    ไปยังหีบพระเครื่องต่างๆ ที่ท่านอธิษฐานจิตแล้ว
    “สู้ธรรมะไม่ได้”


    แสดงว่า ท่านยกย่องการประพฤติปฏิบัติตามหลักธรรม
    ของสมเด็จพระบรมศาสดานั้น ว่ามีความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด
    สำคัญยิ่งกว่าการมีพระเครื่องไว้ประจำตัว

    อีกคราวหนึ่งในปี ๒๕๑๓ หลังจากพิธีสวดอธิษฐานจิต
    เมื่อวันเสาร์ห้าผ่านไปเพียงเล็กน้อย
    นายแพทย์สุพจน์ ศิริรัตน์ ได้นำพระเครื่องพิมพ์นาคปรกเนื้อนวโลหะ
    ที่ท่านเจ้าคุณอุดมฯ สร้างเพื่อจำหน่ายหารายได้สมทบทุน
    สร้างโรงเรียนนวมราชานุสรณ์ นครนายกนั้น
    ราว ๔-๕ องค์ไปถวายให้ท่านอธิษฐานจิตซ้ำอีก
    ก่อนที่ท่านจะยินยอมอธิษฐานจิตให้
    ได้ถูกท่านเทศนาสั่งสอนอย่างเจ็บๆ อยู่นานร่วม ๑ ชั่วโมง

    “หมอนี่เรียนมาเสียเปล่า มาหลงงมงายอะไรกับเรื่องพรรค์นี้ !”

    ท่านได้ว่ากล่าวสั่งสอน มิให้ลุ่มหลงมัวเมา
    อยู่กับเรื่องของขลังและอภินิหาร เพราะอภินิหารต่างๆ นั้น
    มิได้ช่วยให้ทุกคนรอดพ้นจากภัยอันตรายได้ทุกครั้งอยู่เสมอไป

    ตลอดเวลาที่ท่านเทศนาว่ากล่าวอยู่นานโขนั้น
    นายแพทย์สุพจน์ได้โต้แย้งท่านอยู่ไม่หยุดเช่นกัน
    โดยปกตินั้นท่านชอบคนโต้เถียงด้วยเหตุผลอยู่เหมือนกัน

    การที่นายแพทย์สุพจน์โต้เถียงท่านในเรื่องอภินิหารนั้น
    ก็เป็นด้วยนายแพทย์ผู้นี้ได้เคยเอาพระเครื่องกรุเก่า
    มาทดลองยิงด้วยปืนพกด้วยมือของตนเองมาหลายครั้งหลายหน
    จนกระสุนหมดไปหลายกล่อง ปรากฏผลเป็นที่น่าทึ่งมาก
    โดยใช้วิธีอาราธนาพระไว้ที่ตัวปลาหมอ
    ในระยะที่ยิงได้แม่นยำอย่างสบาย แล้วก็ระเบิดกระสุนใส่เข้าไป !

    ผลของการทดลอง ปรากฏว่าจากการยิงพระนางพญากรุพิษณุโลก
    ราว ๗-๘ องค์ ส่วนใหญ่ยิงถูกแต่ไม่เข้า (คงกระพัน)
    บางองค์ยิงไม่ถูก (แคล้วคลาด) มีอยู่องค์หนึ่งยิงไม่ออก (มหาอุด)
    และพระปิดทวารของหลวงปู่เอี่ยมวัดหนัง พิมพ์ใหญ่ชนิดสองหน้า
    ที่เรียกกันว่าพิมพ์พระประกับนั้น ยิงไม่ออก เป็นยอดมหาอุดจริงๆ

    จากประสบการณ์ดังกล่าวนี้เองทำให้นายแพทย์สุพจน์ ศิริรัตน์
    เชื่อมั่นในอภินิหารของพระเครื่องเป็นยิ่งนัก
    และเอาเรื่องนี้มาโต้แย้งกับท่านธมฺมวิตกฺโก
    ที่ท่านกล่าวหาว่ามาหลงงมงายอยู่กับอภินิหารไม่เข้าเรื่อง !

    “เรื่องอภินิหาร พระเดชพระคุณว่ามีจริงไหม ?”
    นายแพทย์สุพจน์ เอ่ยขึ้นตอนหนึ่ง

    “จริง” ท่านตอบ จากนั้นท่านกล่าวสืบต่อไปว่า

    “หมอเคยเห็นเคยได้ยินข่าว
    เรื่องโจรผู้ร้ายที่แขวนพระไว้เต็มคอ
    แต่แล้วก็กลับถูกตำรวจยิงตาย
    หรือไม่ก็ถูกจับได้ ต้องติดคุกไปบ้างไหม ?
    ถึงแม้จะมีพระอยู่เต็มคอก็ช่วยอะไรไม่ได้ใช่ไหม ?”

    แล้วท่านกล่าวสำทับในที่สุดว่า
    “อภินิหารนั้นหนีกฎแห่งกรรมไม่พ้น”


    เมื่อถูกท่านขนาบด้วย “ไม้ตาย” เช่นนี้
    ก็ทำเอานายแพทย์สุพจน์ต้องนิ่งงันสงบปาก
    ไม่อาจจะกล่าวโต้แย้งในเรื่องอภินิหารใดๆ กับท่านได้อีกต่อไป

    ตามที่กล่าวมานี้ จะเป็นที่เห็นได้ชัดว่า
    แม้ท่านธมฺมวิตกฺโกจะตั้งใจ “อธิษฐานจิต” และ “แผ่เมตตา”
    ลงในพระเครื่อง ด้วยความเชื่อมั่นว่า
    มีความศักดิ์สิทธิ์สามารถปกป้องคุ้มครองผู้สักการบูชาได้ก็จริง
    แต่ผู้มีพระเครื่องไว้คุ้มครองนั้น
    ก็จะต้องประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอน
    ของสมเด็จพระบรมศาสดา เจ้าของที่มาแห่งองค์พระปฏิมานั้นด้วย



    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]



    คัดลอกบางตอนมาจากกระทู้โพสต์โดย คุณลูกโป่ง
    •• ธรรมะใส่กระปุก (ท่านเจ้าคุณนรรัตนราชมานิต) ••
    ::

    บทมงคงสูตร
    http://th.wikisource.org/wiki/%E0%B8%A1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กุมภาพันธ์ 2013
  7. prapaanpong

    prapaanpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    891
    ค่าพลัง:
    +7,992
    วันนี้ติดธุระเลยไม่ได้ไปร่วมบุญด้วยครับ
    ตอนเย็นเลยขอโอนเงินร่วมบุญ 200 บาท
    เข้าบัญชีเวลา 18.21 น.
    โมทนาบุญด้วยครับ สาธุ
     
  8. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    ภาพบรรยายทุนนิธิประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2556

    [​IMG]

    ก่อนทำบุญ ก็ตั้งจิตตั้งใจให้ดีครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    สาธุครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 กุมภาพันธ์ 2013
  9. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,789
    ค่าพลัง:
    +16,101
    มาฆบูชาในประเทศไทย

    [​IMG]

    วันมาฆบูชา เกิดในสมัยรัชกาลที่ ๔

    เดิมนั้นไม่มีการประกอบพิธีมาฆบูชาในประเทศพุทธเถรวาท จนมาในสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) พระองค์ได้ทรงปรารภถึงเหตุการณ์ครั้งพุทธกาลในวันเพ็ญเดือน 3 ดังกล่าวว่า เป็นวันที่เกิดเหตุการณ์สำคัญยิ่ง ควรมีการประกอบพิธีทางพระพุทธศาสนาเพื่อเป็นที่ตั้งแห่งความศรัทธาเลื่อมใส

    จึงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้จัดการพระราชกุศลมาฆบูชาขึ้น โดยการประกอบพระราชพิธีคงคล้ายกับวันวิสาขบูชา คือมีการบำเพ็ญพระราชกุศลต่าง ๆ มีการพระราชทานจุดเทียนตามประทีปเป็นพุทธบูชาในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระอารามหลวงต่าง ๆ เป็นต้น

    โดยในช่วงแรกพิธีมาฆบูชาคงเป็นการพระราชพิธีภายใน ยังไม่แพร่หลายทั่วไป จนต่อมาความนิยมจัดพิธีมาฆบูชาจึงได้ขยายออกไปทั่วราชอาณาจักร

    ปัจจุบันวันมาฆบูชาได้รับการประกาศให้เป็นวันหยุดราชการในประเทศไทย โดยพุทธศาสนิกชนทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ พระสงฆ์ และประชาชน จะมีการประกอบพิธีต่าง ๆ เช่น การตักบาตร การฟังพระธรรมเทศนา การเวียนเทียน เป็นต้น เพื่อเป็นการบูชารำลึกถึงพระรัตนตรัยและเหตุการณ์สำคัญดังกล่าว

    ถือได้ว่าเป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงประทานโอวาทปาฏิโมกข์ ซึ่งกล่าวถึงหลักคำสอนอันเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา ได้แก่
    - การไม่ทำความชั่วทั้งปวง
    - การบำเพ็ญความดีให้ถึงพร้อม
    - การทำจิตของตนให้ผ่องใส เพื่อเป็นหลักปฏิบัติของพุทธศาสนิกชนทั้งมวล
     
  10. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    ภาพบรรยายทุนนิธิประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2556 ตอนที่ 2

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    สาธุครับ
     
  11. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    ภาพบรรยายทุนนิธิประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2556 ตอนที่ 3

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    สาธุครับ
     
  12. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    ภาพบรรยายทุนนิธิประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2556 ตอนที่ 4

    [​IMG]

    [​IMG]

    http://image.ohozaa.com/i/fe7/hDeqbf.jpg[/IMG

    [IMG]http://image.ohozaa.com/i/g1e/i7M274.jpg

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    สาธุครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 กุมภาพันธ์ 2013
  13. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    ภาพบรรยายทุนนิธิประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2556 ตอนที่ 5

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    สาธุครับ
     
  14. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    ภาพบรรยายทุนนิธิประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2556 ตอนที่ 6

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    พบกันใหม่เดือนมีนาคม 2556 นะ

    สาธุค่ะ
     
  15. คนแซ่อาว

    คนแซ่อาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2013
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +232
    ทำบุญวันมาฆบูชา

    วันนี้ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ (วันมาฆบูชา) เวลา ๑๓.๓๔ น. ได้โอนเงินร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ จากธนาคารกรุงไทย สาขาสระแก้ว จำนวน ๓๐๐ บาท ครับ...
     
  16. rung847

    rung847 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    826
    ค่าพลัง:
    +3,430
    ทำบุญวันมาฆบูชา

    --------------------------------------------------------------------------------

    วันนี้ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ (วันมาฆบูชา) เวลา ๙ น. ได้โอนเงินร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ จากตู้ATMธนาคารกรุงไทย จำนวน ๕๐ บาท ครับ...
     
  17. tidjerd

    tidjerd ตั้งใจฟังธรรม ตั้งใจฟังธรรม

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +69
    วันนี้ผมและครอบครัวร่วมทำบุญ 1500 บาทครับ

    ข้าพเจ้าขออุทิศบุญกุศลจากการร่วมทำบุญแก่ภิกษุสงฆ์ครั้งนี้ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายของข้าพเจ้า ที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินท่านไว้ ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติ ท่านจะอยู่ภพใดหรือภูมิใดก็ตาม ขอให้ท่านได้รับผลบุญนี้ แล้วโปรดอโหสิกรรม และอนุโมทนาบุญแก่ข้าพเจ้าด้วยอำนาจบุญนี้ด้วยเทอญ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • pathom.jpg
      pathom.jpg
      ขนาดไฟล์:
      3.3 MB
      เปิดดู:
      52
  18. แก้วจักรพรรดิืืื

    แก้วจักรพรรดิืืื เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +194
    ร่วมทำบุญกันกับเพื่อน โอนเงินวันที่ 26/2/13 เวลา 17.54น. จำนวน 900 บาท

    ขอโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่าน ด้วยค่ะ
     
  19. sirimanod

    sirimanod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +912
    ผมขอร่วมทำบุญประจำเดือนมี.ค.56ด้วยนะครับ

    ผมนายศิริมาโนชญ์ จันทรคุปต์ (ต๊อง) ขอร่วมทำบุญกับทุนนิธิสงเคราะห์ สงฆ์อาพาธ โดยผมจะทำเป็นประจำในทุกๆเดือน เดือนละ100 บาท ผมได้โอนเงินประจำเดือนมี.ค.56 เข้าบัญชีของทุนนิธิฯเป็นจำนวน 100 บาทเมื่อวันที่ 1มี.ค.56 และผมขออนุโมทนากับทุกๆท่านที่ได้มีส่วนร่วมในการรักษาพระภิกษุสงฆ์อาพาธด้วยครับ
     
  20. สิทธิชัยพัทยา

    สิทธิชัยพัทยา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2009
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +304
    หมายเลขบช นี้ยังใช้ได้ใช่ไหมครับ
    วันนี้โอนเงินช่วยสงฆ์อาพาธ 1,000 บาทครับ

    ธนาคารผู้รับโอน ธ.กรุงศรีอยุธยา - BAY
    เลขที่บัญชีผู้รับโอน 348-1-23245-9
    ชื่อบัญชีผู้รับโอน PRATOM F.
    จำนวนเงิน (บาท) 1,000.00
    ค่าธรรมเนียม 0.00
    กำหนดวันโอน 02/03/2013 01:03:44 PM
    หมายเลขอ้างอิงรายการ tmbi31596436
    หมายเลขอ้างอิงระหว่างธนาคาร 362204211330
     

แชร์หน้านี้

Loading...