เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย พี เสาวภา, 7 เมษายน 2008.

  1. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    กำลังใจต้องมาก่อน เงินมันเรื่องหลัง..อยู่กับหลวงตา เดี๋ยวมาเอง ไม่มีหมด
     
  2. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289

    เดี๋ยวรวยแล้วค่อยมาช่วยก็ได้...... เพราะรวยแน่ๆ
     
  3. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    สถานะการณ์การประมูล เข้มข้นมากครับ ....ล่าสุด ดูที่หน้าประมูลครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กุมภาพันธ์ 2013
  4. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    ขอแก้น่ะครับ พิมพ์ผิด

    จะสร้างภูเขาทอง อย่าไปมองกองขยะ
     
  5. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    ตะโพนหลวงพ่อทรงอย่าไปซื้อส่งเดชเลยครับ

    โดนแน่นอน ของมีอย่างเก่ง ไม่เกินพันใบ คนอยากได้ หลักหมื่นคน..... ใครได้ก็ไม่ออกหรอกครับ...ของท่านดี...แหะๆ


    IMG_0076.JPG IMG_0077.JPG IMG_0078.JPG


    สวัสดีครับ น้าพี

    --------------------------------------------------------------------------------

    ผมเองนะครับน้าพี ที่เรียนอยู่พระจอมเกล้า พระนครเหนือ ที่เคยโทรไปขอความเมตตาให้น้าพี ช่วยวิเคราะห์ตะโพนหลวงปู่ และได้เคยถ่ายรูปส่งไปให้น้าพีดู น้าพีบอกว่ารอยจารเป็นของหลวงพี่xxxx โดยรวมถือว่าดี แต่น้่าพีบอกว่าอยากส่องโค๊ด ท จากของจริง เพราะผมถ่ายโค๊ดไม่ชัด ผมเลยอยากรบกวนขอความเมตตาจากน้าพีอีกครั้งได้ไหมครับ อยากให้น้าพีช่วยดูโค๊ดจากของจริง

    xxxx/089-99xxxxxxx

    ขอบคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กุมภาพันธ์ 2013
  6. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,322
    ***มารับพรครับ อ.พี แหะๆ***
     
  7. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,437
    ก่อนอื่นต้องขอบพระคุณมากๆสำหรับความรู้ต่างๆและสิ่งดีๆในหลายสิ่งอย่างที่พี่ได้ี่แนะนำทางโทรศัพท์เมื่อสักครู่นี้ที่ได้คุยกันครึ่งชั่วโมงกว่าๆนะครับพี่พี.. (^_^)

    เมื่อกี้ที่เราได้สนทนาเรื่องหลวงพ่อคูณในบางช่วง...ก็เหรียญนี้อ่ะครับที่ พ.ศ. ลึกหน่อยที่ได้มาจากหิ้งที่บ้าน ตจว. เป็นเหรียญที่เห็นอยู่ในขันบนหิ้งมาตั้งแต่ประถมครับ...

    แต่ไม่มีรอยจารดั่งที่พี่พีกล่าวไว้... รบกวนพี่พีลองช่วยพิจารณาด้วยนะครับ.. ขอบคุณครับ.. (^_^)


    [​IMG]

    [​IMG]
     
  8. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    กำลังลุ้นให้น่ะครับ รอยจารท่านอาจจะเส้นเล็ก ค่อยๆดู

    อาจจะจารว่า ยะ นะ ยะ ( อย่า นะ อย่า ) น่ะครับ

    เอาล้างให้สะอาด มีวิธีครับ เลี่ยมให้สวย ขึ้นคอได้เลย
     
  9. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,437

    ขอบคุณครับพี่พี....
    เรื่องการล้างพระเครื่อง..ผมกังวลมาตั้งแต่แรกเลยล่ะครับ .. เพราะพระแต่ล่ะองค์ที่มีคราบเขียวๆที่ติดมาจากบนหิ้งที่บ้านตจว.แต่ล่ะองค์นั้นไม่เคยกล้าล้างเลยอ่ะครับ...
    เด่วต้องไปหาข้อมูลการล้างพระจาก Google เพิ่มเติมแล้วล่ะครับ.. ^^
     
  10. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    อย่าขัดผิวโดยเด็ดขาด

    ใช่ ผงชูรสครับ แต่มีเทคนิคนิดหน่อย ต้องโทรมาคุยน่ะครับ
     
  11. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    ผมเล่าเรื่อง หลวงพ่อคูณไปหลายครั้ง ก็อบเอามาลงที่นี่ เดี๋ยวต้องไปหาดู

    ท่านเหมือนอาจารย์ของผมอีกคนน่ะครับ ได้ของดี ได้พระคาถา ดีๆ ได้คำแน่ะนำ คำทำนายพยาการณ์ที่แม่นยำ ที่เปลี่ยนชีวิต ก่อนที่ผมจะได้มาเจอหลวงตาเล็กหลายปีครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กุมภาพันธ์ 2013
  12. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,437
    ขอบคุณครับพี่พี... ผมเกือบจะเตรียมแปลงสีฟันเก่าๆไว้ขัดพอดีเลยอ่ะ..แหะๆ..( ดีนะพี่พีรีบเตือนก่อน ) ^^

    ไว้ผมจะโทรไปปรึกษานะครับพี่พี....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กุมภาพันธ์ 2013
  13. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    ห้ามขัดเด็ดขาด หมดราคาทันที

    หาพู่กัน สง่า มะยุระ เบอร์ ๕ ตัดปลายให้เท่ากันเอาไว้ลูบๆ แค่นั้นพอครับ
     
  14. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,437
    หากนำมาลงให้น้องๆได้อ่านกันอีกรอบ..จะเป็นพระคุณมากเลยครับพี่พี...

    อนุโมทนาสาธุครับ...
     
  15. BaByUltraMan

    BaByUltraMan เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,919
    ค่าพลัง:
    +4,647
    น้ำ แสวงหา xabaha67@hotmail.com Tel.086-5886541


    แฮะๆ เห็นแล้วก็นะ ศิษย์สถาบันเดียวกัน แฮะๆ อย่างที่ พี่ พี บอกครับว่า ไม่แม่น ไม่แน่ใจ อย่า เด็ดขาดเพราะโดนเอา ง่าย ๆ
     
  16. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    ไปเขียนไว้ นำมาให้อ่านแนวคิดของผม

    พระเครื่องปลุกเสกโดยคนเดียวกันก่อนบรรลุธรรมและหลังบรรลุธรรม แตกต่างกันไหม ?

    ผมอ่านเพลินทุกความเห็น มีมุมมองที่น่าสนใจครับ ขอแสดงบ้างน่ะครับ

    พุทธแท้ๆ ไม่มีเครื่องรางของขลังครับ พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนจนมีการบันทึกไว้ในพระไตรปิฎก ทั้ง ๔๕ เล่ม การบรรลุธรรมตามหลักพุทธ ไม่มีการ ปลุกเสก เลข ยันต์ ธรรมมะ ไม่มีอะไรเกี่ยวกับอิทธิปาฏิหาริย์ จากการปลุกเสกเลขยันต์ ไม่ได้มีเปิดหลักสูตรสอนสิ่งเหล่านี้ แต่สอนให้เลิกซ่ะด้วย และไม่เกี่ยวอะไรกับ การบรรลุ ธรรม หรือ ด้านวิปัสสนา เลยครับ

    แต่การมีฤทธิ์เป็น ฝ่ายที่ฝึก สมถะ มีได้ และ ศาสนาอื่นก็มีได้ครับ มีมาก่อนพุทธซ่ะอีก สมาธิแบบสมถะ ญาน กสิน โดยเฉพาะด้านพราหมณ์ พระครูฤาษี บรรพบุรุษเรารับศาสนาพราหมณ์มาก่อน ก่อนที่พุทธจะตามมา พวกเราเลยเป็นพุทธแบบพราหมณ์ เต็มๆครับ การตั้งชื่อ ตามหลักมหาทักษา การตั้งชื่อเมือง ชื่อเจ้า พระราชพิธี และพิธีต่างๆ เป็นของพราหมณ์ และ ศาสนาอื่นครับ แม้การตั้งชื่อ เจ้าชายสิทธัตถะ พราหมณ์ก็เป็นคนตั้ง ตามหลักมหาทักษาครับ

    เราไปคิดเองว่า ผู้บรรลุธรรมจะต้องมีฤทธิ์ แต่จริงๆผู้ที่บรรลุธรรม คือ ผู้ที่ล่ะความมีตัวตน ล่ะและกำจัดกิเลสของตัวเองได้หมดจด ฤทธิ์ก็เป็นกิเลสอย่างหนึ่งที่ต้องล่ะ ทิ้งไปให้หมด ไม่งั้นจะติดอยู่แบบนั้น ตามแบบศาสนาพราหมณ์ ที่เชื่อว่าผู้ที่ปฏิบัติชั้นสูง จะได้เป็นเทพ เป็น พรหม ผู้สร้างโลก เมื่อหมดบุญก็กลับมาเกิดอยู่ดี แต่อาจจะนานหน่อย

    พอองค์พระศาสดามาสอน ท่านกลับสอนให้เลิกในฤทธิ์ ปลุกเสก เลขยันต์ พระเวท วิทยาคม การสวดมนต์อ้อนวอนบูชาเทพ แต่ให้มาดูที่จิตตัวเอง และ ล่ะสิ่งที่มาเกาะที่จิตให้หมดไป เน้นที่จิต ไม่ได้เน้นที่พิธี บทสวด และ มีฤทธิ์ให้ขลังกว่าคนอื่น

    ผู้ที่บรรลุธรรม อาจจะมี ฤทธิ์ หรือ ไม่มีก็ได้ ถ้ามาแนวสุขวิปัสโก ไม่มีแน่นอน ไม่เหาะ ไม่เห็น ไม่ปลุกเสก เพราะทำไม่เป็นครับ เน้นแต่วิปัสสนา ไม่เน้น สมถะ ถ้ามาแนว เตวิชโช, ฉฬภิญโญ หรือ ปฏิสัมภิทับปัตโต มีฤทธิ์ ครับ แต่พอสำเร็จ เป็นพระอริยบุุคล ถึงพระอรหันต์ จึงได้เลิก ล่ะ ได้เด็ดขาด ถึงข้ามฟากมาได้ครับ

    แต่ถ้าจะเเสดงฤทธิ์อีกต้องมีเหตุครับ และ พระพุทธเจ้าห้ามครับ ตามพระวินัย ไปทำเล่นๆ เผลอๆ จะโดนชาวบ้านกล่าวหา ข้อหาปาราชิกได้ในข้อที่สี่ คือ อวดอุตริ หรือ อย่างน้อยๆ อาจจะเป็นโลกวัชระ ที่ชาวบ้านติเตียนได้ครับ และพระอรหันต์ไม่มีเผลอครับ เพราะหมดเชื้อ

    การที่จะมาทำเหมือนในอดีต พุทธกาล ที่มีพระอรหันต์เหาะโชว์เพราะชาวบ้านขอร้อง จนพระพุทธเจ้าทรงทราบ และทรงสั่งห้าม เมื่อมีพระภิกษุต้นบัญญัติ กระทำผิด ก็บัญญัติเป็นพระวินัยได้ครับ พระที่บรรลุไปแล้วจริงๆ ไม่มีใครทำผิดพระวินัยหรอกครับ ...ฟันธงครับ

    ผมมีความเชื่อว่า ผู้บรรลุธรรมจริงๆมีน้อย เอาแค่พระโสดาบัน ก็ยากแล้วครับ ไม่ต้องว่าพระอรหันต์หรอกครับ เคยอ่านที่ท่านเจ้าคุรนรฯ เทศไว้ มีผู้บันทึก ถ้าจริง ในยุคนั้น ท่านบอกว่ามีผู้บรรลุธรรม มีทางเหนือ สององค์ และ ถ้าเจ้าคุณนรฯ พูดไว้แบบนั้นจริง ก็มีแค่นั้นครับ ซึ่งนับว่าเยอะแล้วครับ และบรรลุระดับไหน ไม่ทราบ เพราะถ้าจริง ต้องบรรลุ ขนาดท่านเจ้าคุณนรฯ ขึ้นไปครับ และการที่เรามาบอกว่าท่านเจ้าคุณนรฯ บรรลุอะไร เป็นการเดาทุกคนครับ เพราะมีผู้เดียวที่บอกได้ คือ องค์สมเด็จบรมครู ครับ

    แต่ถ้าถามว่า มีพระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ มีญาณ สมาบัติ เชื่อครับว่ามี และ เชื่อว่ามีเยอะด้วย ที่เรานับถือกัน ส่วนมากเป็นแบบนี้ครับ อย่าไปเอาเรื่องธรรมมาปนกับฤทธิ์ เพราะท่านจะถูกจิตท่านหลอกเอาได้อีกครั้ง เหมือนกับที่เคยโดนมาหลายครั้ง

    และ การเอาพราหมณ์มาปนกับพุทธ เรื่องเครื่องราง ของขลัง ด้านพราหมณ์ และ เอามากำหนดมาตรฐาน เรื่องการบรรลุธรรม ด้านพุทธ มา กำหนดด้านฤทธิ์ ว่าขลัง หรือไม่ เป็นการเรียนคนล่ะปริญญา และเอามาตรฐานคนล่ะ ปริญญา มากำหนด เกรงว่าแม้จะฟังเป็นเรื่องเดียวกัน ถนนต้นสายเหมือนกัน แต่ถนนปลายสาย คนล่ะสายครับ เป็นการแยกเรียนต่างจากกัน โดยเด็ดขาด ไม่มีความเหมือนกันเลยครับ ต่างกัน ๑๐๘ องศา ตามประวัติที่ องค์เจ้าชายสิทธัตถะ ได้ออก แสวงหา โมกข์ธรรมด้วยตัวเอง หลังจากร่ำเรียนสมถะ กสิน อาณาปนสติ ได้ ญาน ได้สมาบัติ มาจากพระฤาษีมาแล้วโดยเรียนมาจาก ท่านพระอาจารย์ฤาษี พระดาบส อาฬารดาบส และ อุทกดาบส ท่านเจ้าชายสิทธัตถะ ก็แยกไป แสวงหาธรรมที่ แตกต่างจากสิ่งที่เรียนจนชำนาญ ไม่มีใครมาสอนให้ได้

    หลังจากบรรลุธรรมแล้ว ผู้ที่องค์พระศาสดานึกถึงท่านแรกๆ คือ ท่านอาฬารดาบส และ อุทกดาบส พระครูฤาษีนี่เอง ว่าจะไปโปรด โมกข์ธรรมให้บรรลุ แต่ท่าน ทั้งสอง สิ้นบุญไปซ่ะก่อน ไปเป็นพรหม ซึ่งตามไปสอนยาก องค์พระศาสดา เลยเปลี่ยนเข็มมาสอน ท่านปัญจวัคคีย์ ที่เข้ามาในข่ายพุทธญาณแทน

    ทางพุทธ เป็นจิตล้วนๆ ไม่มี คาถา เลขยันต์ครับ เพราะล่ะไปแล้ว เลิกไปแล้ว ไปไกลกว่ามากที่สุด ตามข่ายญาณ แต่การอธิษฐานมีครับ และผู้ที่สำเร็จทางธรรมได้ ย่อมมีบารมี เป็นที่เคารพ เกรงใจต่อ ผีสาง เทพ เทวดา การที่อธิษฐาน เพราะโปรด ชาวบ้านครับ และ เป็นไปตามกฏแห่งกรรม อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แต่เป็นของดี ที่ผีสาง เทพ เทวดา ให้ความเคารพและช่วยเหลือ ผู้ได้ได้ครอบครองจัดว่ามีโชค แต่ไม่ใช่ไสยศาสตร์ เหนียว อุด คงกระพันแบบ ด้านพราหมณ์ แต่ถ้าเกิดได้ผล ก็ตามกรรมของท่านครับ ที่ครูบาอาจารย์สายพราหมณ์ช่วยเหลือ แต่ของที่อธิษฐานโดยผู้บรรลุธรรม จะทำให้ชีวิตรุ่งเรือง ร่มเย็นเป็นสุข ตามบารมีของ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ซึ่งเหนือโลกครับ

    แต่ถ้าจะบอกว่าพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง ตามหลักไสยศาสตร์ ตามหลักพราหมณ์ ตามหลัก ปลุกเสก ด้วย ญาณสมาบัติ เสกด้วยพลังจิต มีหรือไม่ ผมมีความเชื่อ ๑๐๐ % ว่ามีครับ มีบารมี แรงครู คอยอาลักษณ์ มี เทพ เทวดา มาอาลักษณ์ มีพลังของ สัจจะ ความดี ญาณสมาบัติช่วยหนุน สมัยโบราณ เขาก็ทำเครื่องรางของขลังแบบนี้แหละครับ ทำให้ ของขึ้น มีเหนียว มีคงกระพัน ทำให้ไทย ยังเป็นไทยมาได้จนถึงบัดนี้ ไม่แพ้พม่า แพ้อังกฤษ แพ้ฝรั่งเศษ ( แม้จะเพลี่งพล้ำ ยอมๆ เขาบ้าง แต่ไม่ถึงกับเป็นเมืองขึ้นเขาครับ...แหะๆ ยกเว้นพม่า แต่แก้คืนได้ทุกที )

    เราลืมรากเหง้าแบบ พุทธ ปน พราหมณ์ ของเราไม่ได้หรอกครับ คนไทยเป็นแบบนี้แหละครับ ไทยเเท้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กุมภาพันธ์ 2013
  17. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    พี เสาวภา 09-07-2008, 02:45 PM

    หลวงพ่อคูณกับปลาสลิดบางบ่อ

    หลายเรื่องเกี่ยวกับหลวงพ่อมันเลือนลางไป ตอนนั้นน่าจะ พ.ศ. ๒๕๒๘/๓๐ แต่หลายเรื่องโดยเฉพาะเรื่องใหญ่ๆมันชัดเจน เล่าทางโน้นที ทางนี้ที ตามสไตล์ผมก็แล้วกันน่ะครับ อย่าว่ากันเลย

    ในช่วงที่ผมไปหาหลวงพ่อบ่อยๆ เรียกว่าพอคุ้นหน้าบ้างไปแทบทุกอาทิตย์ แต่ก็ยังไม่เท่าศิษย์ใกล้ชิดชาวบ้านแถววัด พวกนั้นจะเข้านอกออกในได้ เรียกว่าผมยังไม่ถึงขั้นคนใน แต่ก็ไปหาบ่อย แทบทุกอาทิตย์ ออกจากบ้านประมาณ ตีสาม ถึงวัด ประมาณตี๕กว่าๆ หรือ ๖โมงเช้า ไปบางที ท่านยังไม่ออกมาเลย บางทีไปถึงบ่ายๆ เรียกว่าว่างก็ไป และถ้าท่านว่าง ท่านก็นั่งคุยด้วย ผมสังเกตุคนรอบข้างตามนิสัย ในตอนหนึ่งที่นั่งคุยกันอยู่ ว่างๆ ท่านก็พูดเปรยๆมาแบบ ไม่มองหน้าว่า


    กูอยากได้ปลาสลิด

    ผมก็มองหลวงพ่อ นึกว่าท่านอยากฉัน เลยถามว่าหลวงพ่อจะฉันเหรอครับ จะเอากี่กิโลล่ะ ผมจะไปซื้อมาถวาย ท่านบอกว่า


    กูจะเอาเป็นๆ


    ผมถามท่านว่าหลวงพ่อจะเอามาทำไมครับ ท่านบอกว่า กูจะเอามาทำเชื้อ แถวนี้ ( ด่านขุนทด ) ไม่มีปลาสลิด ท่านว่าคนอีสานไม่มีใครเลี้ยงปลาสลิด อาจจะเพราะอยู่บนที่ราบสูง ตอนพ.ศ.นั้นน่ะครับ ( ประมาณ ยี่สิบกว่าปีมาแล้ว ตอนนี้ผมไม่ทราบ) ตอนนั้นท่านขุดบ่อหลังวัดแล้วน่ะครับ ผมไม่ทราบขนาด แต่กว้างใหญ่มาก เอาไว้เป็นแหล่งน้ำให้ชาวบ้าน มีปลาหลายชนิดอยู่ในนั้น ปลาหายากๆก็มี พวกปลาจีนต่างๆ ผมเรียกชื่อไม่ถูก ที่มีคนนำมาถวาย จรเข้ก็ได้ข่าวว่ามี อันนี้ผมไม่ทราบตอนนั้นว่าทำไมท่านถึงเลือกผมให้หาปลาสลิดให้ท่าน ผมไม่มีความรู้เรื่องปลาสลิดเลย เคยแต่กินที่เขาตากแห้ง ของชอบด้วย ไม่เคยเลี้ยงปลาสลิด อาจจะมีปลาตู้บ้างพวก ปลากัดลูกหม้อ ( เคยเพาะเป็นฟาร์มตอนรุ่นๆ ออกขายเขาหาตังค์ใช้ ) ปลากัดจีน ปลาออสการ์ ปลาเทวดา ปลาหางนกยูงในตุ่มบัว แต่เคยไปซื้อลูกปลานิลไปปล่อยหลายครั้งเพราะหาง่าย ก็นึกว่ามันง่าย เขาแค่ช้อนใส่ถุงปลาสติกใบใหญ่ เลยบอกท่านว่าเอาปลานิลไหมหลวงพ่อ ท่านบอกไม่เอากูมีเยอะแล้วแล้วมันหาง่าย ผมเลยถามหลวงพ่อจะเอาปลาสลิดกี่ตัว ท่านบอกตามใจมึงขนมาได้กี่ตัว อยากได้ตัวเมียเยอะๆ เอามาทำเชื้อ ผมก็รับปากท่านด้วย ด้วยความนึกไม่ถึง นึกว่าไปซื้อลูกปลาตามร้านให้เขาอัดแก็ส ออกซิเจนมาถวายท่านสักหลายร้อยตัว ก็แค่นั้นเอง นึกว่าของหมูๆ ท่านก็ไม่ว่าอะไรต่อ ได้แต่สูบยาต่อไป เราก็คุยกันไปตามปกติ เรื่องอะไรบ้างผมจำไม่ได้แล้ว


    แต่เหตุการณ์ไม่เป็นดังนั้นครับ หลังจากวันนั้นเมื่อกลับมา เมื่อผมว่างได้จำสัญญาที่ให้ไว้กับหลวงพ่อ ผมเลยขับรถไปหาบ่อปลาแถวบางบ่อ เขาบอกไม่มี ผมตระเวณหาบ่อปลาทุกบ่อแถวนั้นในตอนแรกริมถนนใหญ่( บางนา – ตราด ) ก่อน สมัยนั้นถนนยังไม่เหมือนอย่างนี้ แล้วเขามีป้ายบ่อปลาบอกไว้ ทุกแห่งมีคำตอบเหมือนกันคือไม่มีลูกปลา ลูกปลาเศรษฐกิจแทบทุกชนิดเขาหาให้ได้ ขนาดปลาบึกยังมี ( ตอนนั้นเราเพาะจากไข่ได้แล้วดังไปทั่วโลก คนไทยมีของดีๆเยอะน่ะครับ เราไม่สามัคคีกันเองน่ะแหละ ) ลูกปลาเสือตอ สัตว์น้ำต้องห้ามยังมี แต่ไม่มีปลาสลิดครับ ผมตระเวณไล่ขึ้นมาถึง ดอนเมือง รังสิต สมัยนั้นยังมีบ่อปลาน่ะครับ คำตอบคือไม่มี ปลาอื่นเขามีเพาะแทบทุกอย่างแต่ปลาสลิดไม่มี ผมช็อบหาในหน้าเหลืองทุกหน้า ทุกบ่อปลาที่ไม่ไกลเกินไป ขนาดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม คำตอบคือแบบเดียวกัน คือไม่มี ในยุคนั้นก็ยังไม่มีมือถือด้วย ผมและแฟนก็ช่วยกัน ถามเพื่อนทุกคน คนรู้จักทุกคน ลูกน้องคนที่บริษัท แต่คำตอบคือแบบเดียวกันว่า ไม่มีหาไม่ได้ ใช้เวลาเป็นอาทิตย์ แต่ก็ไม่คืบหน้า เรียกว่ายังไม่มีอะไรคืบหน้าผมก็ไม่กล้าไปหาหลวงพ่อ เพราะรับปากกับท่านไว้ แต่ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย

    เรื่องชักจะยุ่งแล้วซิ ต้องมานั่งคิด ตั้งสติใหม่ อย่างที่ผมเรียนให้พวกท่านทราบ ที่ตามอ่านเรื่องของผมมาบ้าง ผมเป็นคนตั้งใจทำอะไรแล้วไม่เลิกครับ เป็นสันดานต้องทำให้ได้ ถ้าไม่สุดวิสัยแบบต้องไปหาบนดาวอังคาร เวลามีให้พยายามเสมอ ผมกลับไปบางบ่อใหม่ เพราะเป็นแหล่งปลาสลิด ค่อยๆ ขับรถตระเวณดู ค่อยๆคิดไป ตลอดระยะเวลาที่ผมหาปลาสลิดเป็นๆมาใช้เวลาเป็นอาทิตย์เพราะทำตอนว่าง งานก็ต้องทำ บางทีลาบ้าง ออกตอนบ่าย ไปขับรถตระเวณหา แต่ตลอดเวลาที่ตระเวณหา ได้ถามเขาดู ผมพอได้ความรู้มาบ้างคือ ปลาสลิดเขาไม่สามารถเพาะได้ ต้องให้มันเพาะตามธรรมชาติ เรียกว่ามันอาย พ.ศ.นั้นน่ะครับ (ส่วนพ.ศ.นี้ผมไม่ทราบครับ) คนบางบ่อบอกผมว่า คุณเขาไม่เพาะกันหรอก เขาเลี้ยงในบ่อเลย พอวิดบ่อก็จับแต่ตัวใหญ่ๆ กลางๆเล็กๆก็ปล่อยกลับไป ให้มันแพร่พันธ์ในนั้น อืม ผมพึ่งรู้นี่ครับ

    ผมกลับไปบางบ่อ ที่นี้เข้าไปจากถนนใหญ่ บางนา - ตราด ขับไปตามถนนเส้นทางข้างในแถวตัวไร่นา บริเวณเขตบางบ่อเลย สมัยนั้นยังเป็นถนนลูกรัง ผมไม่ได้ไปหาปฐวีธาตุที่บางบ่อตามที่พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณนรฯ สั่งลูกหลานมาหาน่ะครับ.....แฮะๆ แต่มาหาปลาสลิดเป็นๆตามที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อคูณสั่ง ระยะเวลาคงห่างกันหลายสิบปี ตอนนั้นขับรถไป ผมยังคิดเลย ว่ามาหาปฐวีธาตุถ้าจะยังง่ายกว่าเพราะเห็นมีกองทรายหลายกอง มันก็มีบ่อเลี้ยงปลาสลิดข้างทางเยอะ แต่เอาตัวไม่ได้ จะเอาอย่างไร ที่นี้ต้องหยุดแล้วเดินเข้าไป ถามเขาด่ะไป คำตอบก็คือเหมือนกัน มันอยู่ในบ่อ ต้องรอหน้าเขา รอเวลาเขาวิดขาย เขาถึงวิด แล้วขายกันทีเขาขายทั้งบ่อ หรือ บางบ้านก็อาจจะทำเค็มเอง ตากเอง

    ท่านที่ไม่มีความรู้เรื่องการเลี้ยงปลาสลิด คงสงสัยทำไมไม่ให้เขาเอา แห หรือสวิงช้อน ....แหะ มันไม่ง่ายอย่างนั้นน่ะครับ เพราะบ่อปลาสลิดแต่ล่ะบ่อ ขนาดใหญ่มาก มีเนื้อที่หลายไร่ อาจจะเป็นที่นาเก่า และจะไม่ลึกมา เกือบเมตร หรือ เมตรกว่าหน่อยๆ ปลูกด้วยหญ้าเต็มไปหมด อาจจะมีรอบๆ ตรงขอบๆ ที่เขาจะขุดร่องไว้ เอาไว้วิดน้ำ หรือเอาไว้พายเรือ ตรวจดู แต่โดยปกติบ่อจะเดินรอบได้ เพราะมีคันดิน ท่านที่เห็นบ่อแล้วจะรู้ว่าการลงไปจับปลาสลิดสัก ร้อยสองร้อยตัวไม่ใช่เริ่องง่ายเลย แล้วเขาจะทำ ทำไมแค่จับไม่กี่ร้อยตัว วิดทั้งบ่อขายเป็นพันเป็นหมื่นตัวดีกว่า คุ้มกว่า

    ผมคงไม่มีปัญญาไปซื้อปลาสลิดเป็นๆ หมื่นตัวแล้วขนไปด่านขุนทดได้ และอีกอย่างเพราะหญ้าเยอะ เขาไม่ทำกัน เมื่อถึงหน้าเขา หรือถึงเวลาเขาจะวิดทั้งบ่อ ซึ่งใช้เวลาหลายวัน ส่วนการปลูกหญ้าท่านคงสงสัยว่าทำไม ไม่ถอนให้เรียบเหมือนบ่อปลาธรรมดา บอกเลยก็ได้ ปลาสลิดชอบกินหญ้าเน่าครับ อันนี้อาจจะเป็นเหตุผลว่าทำไม่เนื้อมันถึงอร่อย.....แหะๆ เขาเลยปล่อยให้มันขึ้น และเน่าอยู่อย่างนั้น อันนี้ที่ต้องเล่าเพราะมันมีเรื่องตอนหลังครับ ส่วนเรื่องที่ผมเล่าถ้าไม่ใช่หรือจำเลือนไป ท่านที่มีความรู้ทักมาได้น่ะครับ ผมอาจจะลืมเรื่องลายละเอียดไปบ้าง แต่เค้าโครงเรื่องไม่มีทางลืมจนวันตายครับ

    ต้องปูพื้นเรื่องอีกนิดน่ะครับ บ่อแต่ล่ะบ่อน่ะ จะมีบ้านอยู่ห่างๆกันแบบบ้านนอก ใน พ.ศ.นั้น คงเป็นที่นาเดิมๆ ไม่ใช่รวมกันแบบหมู่บ้าน และแต่ละบ้านจะเลี้ยงหมาไว้ บางบ้านไม่ใช่ตัวสองตัว แต่หลายตัว และแต่ล่ะตัวโคตรมหาดุเลยครับ เอาไว้เฝ้าบ้าน เฝ้าขโมย เป็นหมาไทยตัวโตสูงประมาณหัวเข่านี่แหละ ถ้าตัวๆไม่น่ากลัวเท่าไหร่ เตะกระเด็นได้ แต่มาเป็นฝูงล่ะก็โทษทีน่ะครับ ผมว่าถ้าล้มแล้วมันรุมทึ้งได้ อาจจะถูกหมาฟัดตายได้ ท่านที่ปลูกสวน มีหมาเฝ้าสวน จะรู้ว่าหมาพวกนี้ดุมาก เพราะไม่คุ้นคน ดุแบบไม่กลัวคนน่ะครับ เห็นคนแปลกหน้าเป็นศัตรูมันหมด ยกเว้นเจ้าของถ้าดุมันๆ จะหงอแล้วกระดิกหางให้ แค่นั้น ถ้าเป็นคนอื่นอย่าแหยมครับ ยิ่งหมาหมู่แล้วผมว่าเหมือนพวกไฮยีนาที่ดูในหนังสารคดีอาฟริกาน่ะครับ

    เมื่อผมไปตระเวณแถวนั้นบ่อยเข้ายังไม่สำเร็จก็มีอยู่วัน ขับรถไปเรียบๆเคียงๆเผื่อเขาวิดบ่อจะได้เข้าไปซื้อ มีน้าคนหนึ่งแกโบกรถให้หยุด แกจำรถผมได้น่ะ แล้วคงสงสารผมน่ะครับ เห็นมาหลายวันแล้ว แล้วแกรู้ว่าจะเอาไปถวายวัดหลวงพ่อคูณ เพราะผมบอกเอง บอกทุกที่ ที่ไปถาม เรียกว่าเอาบารมีหลวงพ่อนำหน้า แกบอกทางว่า มีบ้านอยู่หลังกำลังวิดบ่อชื่ออย่างนั้น อยู่ที่นั้น คุณลองไปติดต่อสิ อาจจะสำเร็จ ผมเหมือน วานรได้แก้ว รีบบึ่งรถไปทันที ชื่อแกน่ะ ตอนนี้ผมลืมไปเรียบร้อยแล้ว พอไปถึงสถานที่ที่เขาบอก ผมจอดรถ ถามเขาไป บ้านจุดหมายน่ะไกลจากถนนใหญ่เป็นกิโล ต้องเดินไปตามทาง และคันนา มือถือไม้ยาวๆสองอันคอยไล่หมา ขอโทษ ผมพกปืนไปกระบอกด้วยเพราะมันเปลี่ยว เป็นสมิทชีพ .๓๘ ลูกโม่ห้านัด เพราะพกแล้วมิดชิดดี กระบอกไม่ใหญ่ แค่ขับรถเข้ามาก็เปลี่ยวแล้ว แล้วยังเดินมาจากถนนใหญ่อีก ยิ่งเปลี่ยวใหญ่ ถ้าเป็นยุคน้ำมันแพงนี่ ผมว่าผมคงโดนจี้แล้ว ปืนน่ะแค่เอามาแค่ให้อุ่นใจ เกิดมีอะไรมาจะได้แลกกันได้ แล้วประการสำคัญเอาไว้ยิงขู่หมาได้ ผมกะว่าแค่เอาเสียงขู่เลยใส่ลูกซ้อม หัวตัดมา แต่ถ้ายิงคนน่ะ ถ้าไม่ตกใจลนลานล่ะก็ และยิงถูกที่สำคัญ นัดเดียวอยู่แน่นอนน่ะครับ

    การไล่หมานี่ต้องมีวิธีด้วยน่ะครับ เพราะผมชำนาญขึ้นเรื่อยๆ เพราะไปบ่อย เมื่อโผล่ไป พวกหมามันเห็นเราเห็นแต่ไกลก็จะเห่าเรียกพวกและแห่กันมา วิ่งกรูกันมาเชียว อย่าวิ่งน่ะครับ ผมท่องคาถากันหมา ที่จริงท่องกันงู ที่พ่อสอนไว้ด้วย เป็นคาถาหลวงพ่ออี๋วัตสัตหีบ อาจารย์พ่อผม เวลาท่องให้เอาลิ้นดุนเพดานปาก ( อันนี้บอกใครไม่ได้น่ะครับ เขาห้าม แต่ถ้าอยากรู้จริงๆ เจอกันจะแอบบอกให้ แล้วตอนนั้นผมไม่มีตะกรุดกันงูหลวงปู่อั้บน่ะครับ ยังไม่รู้จักท่าน แต่แถวนั้นน่ะ งูชุมครับ ขนาดเดินไป ยังพอเห็นเลื้อยผ่านไปบ้าง จำไว้น่ะครับ ถ้าเลื้อยเร็วน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเลื้อยช้าๆน่ะ ระวังตัวไว้น่ะครับ เรียกว่าชุมทั้งหมาทั้งงูพอสมควร) พอหมามาใกล้ ทำเป็นก้มลงเก็บหินน่ะครับ จะมีหินหรือเปล่าช่างมัน อันนี้เป็นเคล็ด หมามันจะกลัวก้อนหิน เป็นธรรมชาติมัน พอมันเห็นเราเก็บหินมันจะหยุดกึก และเราทำเดินใส่เข้าไปเรื่อยๆ ทำใจดีสู้เสือน่ะ ว่าไม่กลัวมัน เรียกว่าใจข่มใจ มือก็แยกถือไม้ยาวๆที่เตรียมไปสองอัน พอมันหายตกใจ มันก็กรูเข้ามา เราก็เหวี่ยงไม้ไล่ แต่อย่าตีให้ถูกตัวน่ะครับ อย่าทำให้มันเจ็บ ขู่ให้มันกลัวเฉยๆ เพราะถ้าบางตัวถ้ามันเจ็บขึ้นมาละอาจจะเป็นเรื่อง ดีไม่ดี มันสู้แล้วงับไม้ได้ แล้วรุมเข้ามาล่ะ แย่เลย เรียกว่าคอยกวาดตีไล่ อย่าให้มันเข้าใกล้ อย่าตกใจ ปากก็ตะโกนเรียกเจ้าของเขาให้ดูหมาด้วย ว่าพี่ๆ มาดูหมาด้วยครับๆ พอหยุดตะโกนต้องเอาลิ้นดุนเพดานปากไว้ ท่องคาถาไป เจ้าของเขาพอได้ยินเสียงคนเขาก็รีบมาดู เพราะกลัวหมาเขาจะกัดเราตาย ท่าทางพวกเขาแปลกใจแน่ที่ ผมคนแปลกหน้าบุกมาคนเดียวจนถึงบ้านเขา กว่าจะมาถึง ผ่านมาหลายบ้าน หมาหลายกลุ่ม ใช้วิธีเดียวกันน่ะครับ คืออย่ากลัวมัน ทำก้มหยิบหิน ทำเดินใส่พวกมันซ่ะอีก หมามันจะงง หยุกกึก ท่าทางลังเล เราก็เดินไปเรื่อยๆ มันจะเห่าปล่อยมันไป มือก็ถือไม้สองอันกวาดไปมากันมันเข้าใกล้ หลวงพ่อก็พกไปด้วยน่ะครับ เผื่อต้องให้ท่านช่วย...แหะๆ

    พอเจ้าของมาที่นี้สบายหน่อยแต่ก็ต้องระวังมองซ้ายมองขวาไว้ ห้ามนุ่งขาสั้นเดี่ยวมันงับน่องเหวอะ หรือได้ลองของ นุ่งกางเกงยีนท์หนาๆแล้วใส่รองเท้าผ้าใบเผื่อต้องวิ่ง พอเจ้าของเขามากันหลายคน กันหมาได้ ผมก็แจ้งความจำนง ท่าทางเขางงๆมากเมื่อผมบอกว่าต้องการซื้อปลาตัวใหญ่ๆ เป็นๆ ขนาดฝ่ามือ สองร้อยตัว เอาตัวเมียเกือบหมด ตัวผู้แค่สิบกว่าตัว แต่พอผมอธิบายถึงหลวงพ่อคูณ ว่าจะเอาไปถวายท่าน เอาไปเลี้ยง ท่าทางเขาเข้าใจ คนไทยน่ะครับ คุยเรื่องพระล่ะง่ายขึ้น เพราะตอนนั้นท่านเริ่มดังมากๆ ใครไม่รู้จักหลวงพ่อคูณนี่เชยแหลกเลย มีบางคนพอรู้เรื่อง แนๆ ยังจะมาขอเหรียญหลวงพ่อก่ะผมซ่ะอีก

    เขามีกันหลายคนกำลังวิดบ่อกัน ด้วยเครื่อง วิดน้ำจากอีกบ่อไปยังอีกบ่อ เขาพาผมไปดูบ่อปลาที่กำลังวิด โอ้โฮ้ มันใหญ่หลายไร่ ท่าทางเขาแปลกใจในความบ้าของผมที่บุกมาถึงบ้านเขา มาซื้อปลาสลิดเป็นๆแค่สองร้อยตัว เขาบอกว่าอีกสามวันน้ำถึงจะหมด เขาจะคัดปลาไว้ ใส่ตุ่มไว้ให้ เราตกลงราคา ผมลืมไปแล้ว แต่สองร้อยตัวน่ะไม่กี่ร้อยบาท ตกลงเรานัดเวลากัน ผมวางมัดจำกลัวแกเบี้ยว ย้ำแล้วย้ำอีก เขารับปากแน่นอน ผมวางเงินมัดจำให้เขา ตอนนั้นมันไม่มีโทรน่ะครับบ้านนอก มือถือก็ไม่มี จะโทรจี้ก็ไม่ได้ ต้องไว้ใจกัน สามวันน่ะผมรอตลอดเวลา นึกถึงหลวงพ่อว่าอย่าให้เขาเบี้ยว เพราะมันไม่กี่ตังค์สำหรับเขาเลย ต้องมาแยก มาคัด เก็บไว้ให้เราอีก เรียกว่าลำบากเขา เขาเหมาขายน่ะ คงได้หลายหมื่นกับแค่ของเราไม่กี่ร้อยบาท ขากลับเขาให้คนพายเรือมาส่ง ที่สะพานผมเดินกลับมาที่รถ สบายใจขึ้นหน่อย ตอนนี้ต้องหาวิธีขนไปไม่ให้ปลามันตาย

    ผมซื้อเครื่องปั้มลมแบบใส่ถ่าน พร้อมถ่านอัลคาไลด์หลายชุด ตุ่มปลาสติกสองใบ แบบใส่หลังรถ มาสด้า ๓๒๓ ได้ ผมไม่มีรถกะบะ น่ะครับ ไม่เคยคิดมี แต่ถ้ามีจะง่ายมากขึ้นเลยล่ะ ผมกะจะถ่ายปลาใส่บ่อบัวของผมไว้ก่อน เป็นบ่อที่คุณแม่ผมขุดไว้ปลูกบัว ไม่ลึกมาก กว้างสักสองเมตร ยาวประมาณสามเมตร พอถึงเวลาค่อยวิดน้ำด้วยสูบน้ำเครื่องไดรโว่ล์ ของพ่อผมที่มีไว้ตอนฝนตก น้ำจะท่วมบ้านบางส่วน เรียกว่าวางแผนไว้ แต่เวลาจริงมันไม่ง่ายอย่างนั้นน่ะครับ

    พอถึงวันนัด ผมไปถึงตอนสายๆ จะตัดตอนเหตุการณ์เดิมเกี่ยวกับเรื่องหมาน่ะครับ แต่ตอนนี้พอพวกหมามันเห็นผมแต่ไกลๆ กรู่เข้ามาผมชักปืนยิงขึ้นฟ้าขู่ไว้ก่อน ได้ผลครับ พวกมันหยุดกันกึก เจ้าของเขารีบออกมาดู แล้วก็กันหมาไว้ เรียกว่าสดวกขึ้น พอผมไปถึง เขาคัดปลาใส่ตุ่มไว้เรียบร้อย ขนาดใหญ่ตัวอ้วน โตเท่าฝ่ามือ เป็นตัวเมียส่วนใหญ่ ตัวจะโตและสีซีดกว่า( อันนี้ถ้าจำไม่ผิดน่ะครับ ) เป็นตัวผู้ไม่กี่ตัว ผมดูแล้วพอใจมาก เขารักษาสัจจะเป็นอย่างดี คนมีสัจจะนี่น่าคบน่ะครับ คบได้ ผมเอาถุงปลาสติกใบใหญ่ที่เตรียมไปให้เขาใส่ แต่มีปัญหาอีก เพราะปลามันมีเงี่ยง มันแทงถุงทะลุ ต้องเลยตามเลย เอาปลาใส่ถุงมาแล้วรีบขึ้นเรือ เขาพายมาส่งที่รถ ผมขอแรงเขาเอาตุ่มหลังรถใส่น้ำคลองแถวนั้นแล้วเอาปลาใส่ ใส่หลังรถมา ปลาสลิดนี่มันชอบกินหญ้าเน่าน่ะครับ น้ำจะเหม็นหญ้าเน่า ปลาก็เหม็นคาว เรียกว่าเหม็นไปทั้งรถ แต่เลยตามเลย ผมกลัวแต่ปลามันจะตายซ่ะก่อนน่ะครับ พอมาถึงบ้านผมรีบเอาสวิงที่ซื้อไว้ช้อนลงไว้ในบ่อ ก็สำเร็จไปเปลาะหนึ่งไม่มีใครตายเลยดีมาก ส่วนอาหารปลาน่ะผมถามเขาแล้วเขาบอกไม่ต้องมันจะกินตะใคร่ กินหญ้าเน่าตามบ่อเอง น่ะครับ ตกลงไม่ต้องเลี้ยง จัดว่าเลี้ยงง่าย

    ผมจำได้ว่ารออีกสามวันจนถึงวันศุกร์ เพราะไม่งั้นต้องลางานอีก คอยมาดูปลาทุกวัน พอวันศุกร์เลิกงานผมรีบกลับบ้าน เริ่มวิดบ่อด้วย เครื่องสูบน้ำไดรโว่ร์ เอาน้ำฝนใส่ตุ่มที่หลังรถ ทั้งสองตุ่ม เมื่อน้ำในบ่อแห้งดี ผมก็จับปลามาใส่ในตุ่ม ตอนแรกหาแผ่นไม้อัดครอบไว้กันมันกระโดด พอได้ปลาหมด เอาใส่ตุ่มแยกกันสองตุ่มไม่ให้แออัดมาก เอาเครื่องปั้มลมใส่ แล้วเอาแผ่นปลาสติกใสครอบ เอาเชือกมัดไว้ กันมันกระโดดออก ปั้มลมก็อัดอากาศไปเรื่อยๆ กันมันหายใจไม่ออก กว่าจะเสร็จก็ ดึกมากประมาณ สี่ห้าทุ่ม ผมก็อาบน้ำเข้านอน ปล่อยปลาไว้ที่ท้ายรถน่ะแหละในตุ่มพร้อมทั้งเครื่องปัมลมทำงานตลอด ในที่มืดๆปลามันจะสงบน่ะครับ ไม่ดิ้นมาก

    ผมกับแฟนตื่นตอนตีหนึ่งกว่าๆ ที่จริงนอนไม่ค่อยหลับหรอกครับ อยากไปวัดเลย แต่ไปถึงก็ดึกมากยังมืดอยู่ ก่ะว่าถึงสักตีห้า ให้หลวงพ่อตื่นแล้ว ก่อนออกจากบ้าน นึกถึงหลวงพ่อ ขอให้รเดินทางราบลื่นเพราะระยะทางไกล น้ำในตุ่มมันจะเหวี่ยงไปมากลัวปลาเมาแล้วตาย ผมบอกพวกปลาว่า พวกเอ็งอดทนหน่อยน่ะ จะพาไปปล่อยที่วัดหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ ที่นี้พวกเอ็งจะอยู่กันอย่างสบายจนแก่ตายไม่มีใครมารังแก เรียกว่าจิตวิทยาหน่อยๆ ที่จริงกับตัวเองมากกว่า

    ผมค่อยๆขับรถ กลัวน้ำในตุ่มมันกระฉอกไปมา กลัวปลาเมา กลัวปลาตาย หยุดดูเป็นระยะ ความมืดและอากาศเย็นเพราะแอร์ในรถช่วยได้มาก เพราะปลาอยู่อย่างสงบ ผมไปถึงวัดก็สางแล้ว ผมขับรถตรงไปที่สระท้ายวัดตรงหอฉัน จอดรถ แล้วมาดูปลา ไม่มีตัวไหนลอยตายเลยครับ เขาพร้อมกันอยู่อย่างสงบจริงๆ

    ผมขึ้นไปกราบหลวงพ่อ ท่านนั่งรับแขกอยู่ ( คนมาวัดหลวงพ่อจะมาแต่ตีสี่ตีห้า) พอกราบเสร็จ ก็เรียนให้ท่านทราบว่ามีปลาสลิดเป็นๆ สองร้อยตัวมาถวาย ที่แรกท่านฟังทำท่าไม่เชื่อ ( อาจจะเป็นลีลา ) ท่านรีบบอกให้พาไปดู ท่านรีบเดินตามผมมาที่รถ พร้อมด้วยลูกศิษย์ที่บนศาลาก็เดินตามกันมาหลายคน พอมาเห็นปลาในตุ่มท่าทางท่านดีใจมาก ผมดูออกเลย ผมกราบเรียนท่านว่า ปลาสลิดสองร้อยตัวนี่เขากำลังจะจับไปฆ่า ทำปลาเค็มแล้ว หลวงพ่อสั่งให้ผมไปหา ผมช่วยเขามาจากความตาย ของถวายชีวิตทั้งสองร้อยชีวิตนี้แก่หลวงพ่อ เป็นทาน

    ท่านอนุโมทนา สาธุ แล้วสั่งให้ผมเอาไปเทในสระ ท่านให้คนช่วยผมยกตุ่มเอาไปเทลงในสระเองพร้อมแฟนผม เราเทน้ำทิ้งบ้าง แล้วยกไปเทที่สระน้ำใหญ๋ ท่านยืนมองอยู่ตลอดเวลา ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ บอกว่ากูอยากได้มาตั้งนานแล้วแต่หาไม่ได้ ( พอผมฟังแล้วผมเข้าใจเลยว่าทำไม เพราะหลายอาทิตย์กว่าผมจะได้ ) เราเทปลาลงในสระหมด ผมขึ้นมาเก็บรถล้างมือ หลวงพ่อท่านยืนคอยอยู่ตลอด พอเสร็จท่านถามว่า พวกมึงกินอะไรกันมาหรือยัง ผมกราบเรียนบอกท่านว่ายังครับ ไม่กล้าแวะนาน เพราะกลัวปลาตาย ท่านบอกตามกูมานี่ ตอนนั้นเริ่มสว่างมากแล้วน่ะครับ

    ท่านพาเดินมาที่หอฉัน มีสำรับตั้งอยู่ในที่สำหรับพระฉันเป็นชั้นบน เป็นสำรับท่านเอง ท่านยกมาวางกับพื้นข้างล่าง แล้วบอกว่ามึงสองคนกินซ่ะ ผมถามว่าเป็นอาหารหลวงพ่อเหรอครับ ท่านบอกใช่ แต่กูไม่กินล่ะ กูให้มึงสองคนกิน พร้อมทั้งเปิดฝาชี ผมกราบเรียนท่านว่าของหลวงพ่อผมไม่กินล่ะ หลวงพ่อฉันก่อน เหลือแล้วผมสองคนค่อยกินก็ได้

    ท่านส่ายหน้าบอกว่าไม่ มึงกินกัน กูไม่กินด้อก มึงสองคนมาเหนื่อยๆ กินเดี๋ยวนี้กูจะนั่งดูพวกมึงกิน ผมอึ้ง แต่เมื่อท่านสั่ง กินก็กิน อาหารก็เป็นอาหารพื้นๆน่ะครับ ข้าวเหนียว น้ำพริก ผัก แกงอีสาน ผมเรียกไม่ถูก แล้วก็ผลไม้ ผมก็นั่งกินกัน ตรงนั้น ท่านก็นั่งยองๆสูบยามองอยู่ บอกตามตรงผมกินไม่ค่อยลง เพราะหลวงพ่อมานั่งมอง มันติดคอ เลยกินฉลองศรัทธาท่าน ตามที่ท่านสั่ง แล้วตอนนั้นมันอิ่มบุญ ไม่หิวหรอกครับ

    พอกินเสร็จท่านบอกให้ตามมา เราเดินตามท่านมาที่ศาลาใหญ่ ท่านไปหยิบพระรูปหล่อท่านนั่งยองๆ มาให้ผมองค์ ผมเอาพระที่เตรียมมาจากบ้านเป็นพระที่ยายผมทำมาจากสะเก็ดดาวที่เจอในจอมปลวก ให้ท่านจาร ท่านจารอยู่แต่จารไม่เข้า ท่านเลยส่งเหล็กจารพร้อมทั้งพระ มาให้ผมแล้วบอกว่ามึงลองจารซิกูจารไม่เข้า ( อันนี้ผมไม่ทราบว่าท่านรู้ได้อย่างไรว่าผมพอเขียนภาษาขอมได้แต่เด็ก ) ผมอึ้งพนมมือตอบท่านว่าผมไม่กล้าจารหรอกครับ ขอหลวงพ่อจารเป็นเคล็ดเท่านั้นแหละ ท่านก็ทำให้ แต่ไม่ติดน่ะครับ แล้วจารพระรูปหล่อให้ผม องค์นี้ผมก็เก็บไว้อย่างดี แต่เราคุยกันได้ไม่นาน ท่านต้องเริ่มฝังตะกรุดเพราะเป็นวันเสาร์ ผมกับแฟนเลยลากลับมา


    กล่องเหล็กจาร พ่อคูณ.jpg

    รูปที่เห็นถ้าท่านไปวัดบ้านไร่มาเมื่อสักยี่สิบปีก่อนจะเห็น หลวงพ่อเอาเหล็กจารใส่กล่องใบนี้ เพราะเหล็กจารท่านหนักเป็นเหล็กทั้งแท่ง ตกลงตำเท้าล่ะทะลุแน่เลยต้องใส่กล่องไว้ ท่านใช้มาหลายปีก่อนผมไปวัดบ้านไร่ซ่ะอีก เรียกว่าข้างนอกเปรอะไปด้วยขี้มือท่าน ส่วนข้างในก็เปรอะไปด้วยสนิมเหล็ก เหล็กจารหลวงพ่อจะเป็นเหล็กทั้งดุ้นน่ะครับ ไม่ใช่ไม้ เป็นเหล็กอย่างดีผมเคยจับ ข้างนอกแกะลายกันลื่นตอนเอามือจับ ตอนปลายฝนด้วยเครื่องจนแหลม เรียวเล็กน้ำหนักกำลังดี ผมไม่กล้าขอเหล็กจารหรือทำอันใหม่ไปเปลี่ยนเพราะเห็นท่านใช้เหล็กจารอันนี้สร้างบารมี แต่ตอนหลังผมก็เห็นท่านใช้เหล็กจารอันใหม่น่ะครับ อันเก่าคงมีคนมาขอเปลี่ยนไป ผมน่าจะขอมาน่ะ ....แหะๆ

    ผมเลยขอแต่กล่องมาเพราะเห็นว่ากล่องนี้อยู่กับหลวงพ่อมาหลายปี เข้านอนท่านก็ถือไปด้วย ไปนิมนต์ไหนท่านก็เอาใส่ย่ามไป จัดว่าอยู่คู่กายท่านมาหลายปี ผมเก็บไว้อย่างดีเลยครับ เก็บไว้ในที่สูง ไม่เคยโชว์ใครกลัวมาขอ เอามาโชว์ที่นี่ที่เดียวครับ

    ส่วนรถผมน่ะ หลังเสร็จงานมันเหม็นมาก ทั้งหญ้าเน่า ทั้งคาวปลา ต้องเอาไปล้างฟอกพรมตากแดด อีกนานกว่ากลิ่นจะหมดครับ แต่อิ่มบุญมากครับงานนี้ และถ้าแถวอีสาน แถวด่านขุนทด มีปลาสลิดกินกันล่ะก็ อยากจะบอกว่าผมมีส่วนในการแพร่พันธ์น่ะครับ

    รอยเท้าคูณ ๑.JPG รอยเท้าคูณ ๒.JPG รอยมือคูณ๑.JPG

    รูปรอยเท้า รอยมือ หลวงพ่อ ส่วนรอยมือนั้น ขอท่านเหยียบรอยเท้าซ้ำให้ครับ ผมเก็บไว้อย่างดี ระลึกถึงหลวงพ่อตลอดแม้จะไม่ค่อยได้ไปหาท่านแล้ว สาเหตุเพราะไม่อยากจะไปช่วยรุมท่าน สงสารท่านเวลารับแขกครับ

    หลวงพ่อคูณ หล่อ ๕ นิ้ว.jpg

    รูปหล่อ น่าจะเป็นรุ่นแรก ทำแบบนั่งสมาธิ เพราะหลังจากนั้นจะเป็นนั่งยองมานานหลายปี ก่อนจะฮิตกันทั้งประเทศ ทำแบบนั่งสมาธิ ปกติ หลวงพ่อ นั่งเสก นั่งปรก ท่านจะนั่งยอง ชักประคำน่ะครับ เป็นภาพชินตาในยุคนั้น

    หลวงพ่อคูณ.jpg

    รูปท่านกำลังฝังตะกรุด วันเสาร์ รูปนี้ผมถ่ายเอง แสงน้อย แต่ล้างออกมาแล้วชอบ เลยอัดไปให้ท่านเสกแล้วใส่กรอบไว้บูชา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กุมภาพันธ์ 2013
  18. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    เรื่องข้างบนดูไปมา ไปเล่าไว้ จะเข้า ๕ ปีแล้วครับ เลยนำมาเพราะมีคนโทรมาถาม

    และอ้อ เผอิญมีท่าน PM มาถาม ผมจะเรียนว่าสมัยหลวงตาเล็กดูแลวัดใหม่ จนได้ โฉนดที่ดิน เป็นเจ้าอาวาส แบบเป็นทางการ มีวัด มีโฉนด ท่านเป็นเจ้าบ้าน ท่านไม่เคยตั้งกรรมการวัดน่ะครับ ไม่มีกรรมการวัดยุคท่าน แม้แต่คนเดียว ให้ใครมาจับบัญชีเงิน หรือ ยึดโฉนดวัดไว้ บัญชีที่ทำส่งคณะสงฆ์ เงิน และ ทรัพย์สิน สิ่งก่อสร้าง ประจำปี ท่านเป็นคนทำเอง และ ท่านเคยให้ผมช่วยท่านทำ ๑ ครั้ง ถวายให้เจ้าคณะตำบล จะเล่าละเอียดรอให้สถานะการณ์ พร้อมที่จะเปิดเผยความจริง ให้เขาขายของเขาให้หมด หรือ เขียนให้หมด หรือ อยู่กับก๋งไปตามความเป็นจริง เพราะของมันมีปัญหาเลย ก๋งกับอยู่ น่ะครับ

    คำ อยู่กับก๋ง หรือผวนกับ ก๋งกับอยู่ เป็นคำเซียนที่พระติดตู้ ขายไม่ออกน่ะครับ...แหะๆ ชีวิตจริงๆ ค้าขายแบบหมกเม็ด มันแร้นแค้นแบบนี้แหละครับ ...

    และ ถ้าผมเล่าผมมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร ไม่ใช่ ปลอมชื้อ ปลอมตัวมาเล่ากันไปมา หาตัวตนจริงๆ ยากน่ะครับ...เหอๆๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กุมภาพันธ์ 2013
  19. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    คำสอนหลวงพ่อคูณ

    ละชั่ว ทำดี มีศีลธรรม ถือความสัจ

    ผมเคยไปขอท่านเทศ ท่านบอกว่ามึงท่องตามกู พอผมท่องท่านบอกไม่ดัง เอาดังๆ ผมเลยเล่นซ่ะ คับศาลา ท่านบอกว่า

    ละชั่ว ทำดี มีศีลธรรม ถือความสัจ

    ผมท่องตาม ท่านบอกกูเทศแค่นี้แหละ มึงเอาไปใช้
     
  20. cc5922

    cc5922 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    4,193
    ค่าพลัง:
    +16,973
    กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อคูณครับ

    หัวใจของการเป็นคนดีครับ สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...