เพื่อการกุศล เบี้ยแก้ ตะกรุดไม้ครู วัดพุทธโมกข์ ตัดยอดถึงพรุ่งนี้(๓๑ มีค. ๕๖)เที่ยงคืน

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย woottipon, 5 กุมภาพันธ์ 2013.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. woottipon

    woottipon เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2005
    โพสต์:
    11,773
    ค่าพลัง:
    +83,788
    เบี้ยแก้มหาลาภมหาป้องกันสะท้อนกลับ
    จำนวนการสร้าง 200 องค์(จองครบแล้ว) บูชา 1,000 บาท

    ตะกรุดไม้ครู
    จำนวนการสร้าง 800 ดอก บูชา 500 บาท
    วัตถุประสงค์การสร้างวัตถุมงคลชุดพิเศษนี้
    ๑.สมทบทุนร่วมสร้างพระปัจเจกพุทธเจ้า ณ วัดพุทธโมกข์
    ๒.สมทบทุนสร้างพระปัจเจกพุทธเจ้าขนาดแขวนคอบูชา ถวายวัดพุทธโมกข์
    ๓.สมทบทุนสร้างวัตถุมงคลงานปฏิบัติธรรม ปี ๒๕๕๗​
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มีนาคม 2013
  2. woottipon

    woottipon เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2005
    โพสต์:
    11,773
    ค่าพลัง:
    +83,788
    .................ชนวนมวลสารเบี้ยแก้......................
    มวลสารทางคุณชัยวิทย์ที่ ในส่วนของปรอทมี
    1.ปรอทดำ
    2.ปรอทแดง
    3.ปรอททะเล
    4.ปรอทยวง
    5.ปรอทตาวัว
    6.ปรอทน้ำเน่า
    7.ปรอทเสกโดยหลวงปู่ยาท่านสวน
    8.ปรอทที่แกะจากเบี้ยแก้หลวงปู่ญาท่านสวน
    9.ปรอทสายหลวงปู่ศุข
    10.ปรอทวิท


    ของพรอาจารย์สมบูรณ์ที่ได้รับมามี
    11.ปรอททอง คุณสมบัติ แข็งแรง
    12.ปรอทเหล็ก คุณสมบัติเหนียว
    13.ปรอทเงิน คุณสมบัติวาสนา
    14.ปรอทดิน คุณสมบัติเย็น
    15.ปรอทไฟ คุณสมบัติเป็นพญาปรอทหายากมากเป็นปรอทของพระฤาษี
    16.ปรอทไม้ คุณสมบัติยั่งยืน
    17.ปรอทลม คุณสมบัติเป็นอาวุธของคนธรรพ์
    18.ปรอทนาค คุณสมบัติรวดเร็ว
    19.ปรอทแก้ว คุณสมบัติเป็นปรอทพิเศษคุณดั่งแก้วสารพัดนึก


    ผงมหากันหลวง เป็นผงที่ทำตามตำราโบราณสายสมเด็จลุ่น เป็นผงที่ทำได้ยากยิ่งเพราะต้องหาตามที่ตำราบอกไว้ซึ่งต้องไปเอา ตามเขา ตามป่า ตามทะเล ตามจุดที่ได้ระบุไว้ เหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตก ใช้ทั้งทุน ใช้ทั้งแรง อาจใช้ทั้งชีวิตเลยก็ได้ เพราะของส่วนมากทั้งสือสารกับพวกที่เฝ้ารักษาเทพ พวกผี อานุภาพจึงสูง ได้ใช้ผสมรวมกับชันโรง

    ตอนนี้นี้อยู่ขั้นตอนในการจัดสร้างเบี้ยแก้ครับ โดยโยมชัยวิทย์
    เรื่องมวลสารรวบรวมปรอทได้มากชนิดที่สุดอย่างขั้นต้นที่ได้มา 7 - 8 ชนิด ยังไม่รวมของทางโยมชัยวิทย์ซึ่งเป็นปรอทที่หลวงปู่ญาท่านสวนท่านได้อธิฐานจิตไว้และที่ได้มาใหม่


    ได้สอบถามจากคุณชัยวิทย์ ชันโรงที่นำมาอุดเบี้ยนั้น ได้รวบรวมได้ทุกชนิด ถือว่าเป็นการยากที่จะหาได้ทุกชนิด มีอะไรบ้างจะนำมาบอกอีกที

    ชันโรงเกือบทุกสายพันธุ์มี
    1.ชันโรงเพียงดิน
    2.ชันโรงใต้ดิน
    3.ชันโรงกลางหาว
    4.ชันโรงใต้น้ำ
    5.ชันโรงบนน้ำ
    6.ขี้ผึ้งร้างรังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ
    7.ขี้ผึ้งเทียนชัยพิธีสำคัญๆเช่นของหลวงปู่ญาท่านสวน
    8.รวมถึงของอาถรรพ์ต่างๆอีกมาก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2013
  3. woottipon

    woottipon เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2005
    โพสต์:
    11,773
    ค่าพลัง:
    +83,788
    วิชาแปลธาตุ (ปรอท)

    ปรอทเป็นสรรพยามีสรรพคุณมากมากจึงมีกระบวนการทำตามแบบโบราณดังนี้ใช้วิธีการดักจับปรอทตามน้ำคลำน้ำที่เน่าเหม็นปรอทจะมากินสิ่งที่เน่าเหม็นมีกรรมวิธีการดักจับหลายวีธี
    > >
    การทำปรอทให้บริสุทธิ์ >>
    นำปรอทมาใส่ในชามกระเบี้องเคลือบนำข้าวที่หุงสุกใหม่ๆทิ้งเอาไว้ให้เย็นแล้วนำมาใส่ให้ท่วมปรอทคลุกเคล้าข้าวสุกกับปรอทให้เข้ากัน ด้วยไม้หรือกระเบื้องเคลือบพยายามบี้บดให้ปรอทแตกตัวสัก 15 นาทีหรือจนปรอทแตกตัวเป็นเม็ดละเอียดจะเห็นว่าข้าวสุกจะติดสีดำมากมายสุดท้ายล้างด้วยน้ำสะอาดโดยการเทน้ำสะอาดใส่ลงไปล้างหลายๆครั้งแล้วถ่ายน้ำออกหรือเทน้ำออกให้ระมัดระวังตามสมควรเนื่องจากปรอทมีน้ำหนักมากจะไม่เกาะติดสิ่งใดๆการล้างออกจึงทำได้ไม่ยากนัก >>

    นำปรอทมาแช่น้ำปลาร้าหมั่นคนสักพักหนึ่งคนบ่อยๆทิ้งเอาไว้สัก 1 คืน รุ่งเช้าให้ล้างน้ำปรอทด้วยน้ำสะอาดเหมือนกับขั้นตอนแรกหลายๆครั้ง
    ให้นำเอาตะใคร้ทั้งต้นทั้งใบมาตำให้ละเอียดนำไปคลุกเคล้ากับปรอทคนให้เข้ากันทิ้งไว้อีก 1 คืนนำมาล้างออกด้วยน้ำสะอาดแบบเดียวกับการล้างน้ำในขั้นตอนแรก
    เอาปรอทมาแช่น้ำมะดันหรือมะกรูดหรือน้ำมะนาวหมั่นคนบ่อยๆทิ้งเอาไว้ 1 คืนวันรุ่งขึ้นให้นำไปล้างด้วยน้ำสะอาดเสร็จแล้วนำเอามาใส่เอาไว้ในขวดแก้วปิดฝาให้แน่นเพื่อกันมิให้ปรอทดูดเอาสิ่งที่เป็นพิษเข้ามาปะปนอีกปรอทที่ได้มานี้ยังเป็นของเหลวเชื่อกันว่าปรอทที่ผ่านวิธีการกรองเอาพิษออกแล้วนี้มีความบริสุทธิ์ 90 กว่าเปอร์เซ็นต์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2013
  4. woottipon

    woottipon เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2005
    โพสต์:
    11,773
    ค่าพลัง:
    +83,788
    ขั้นตอนการทำเบี้ยแก้ของหลวงปู่ญาท่านสวน วัดนาอุดม

    --------------------------------------------------------------------------------

    มวลสารและวิธีการสร้างเบี้ยแก้

    1. ตัวเบี้ย เบี้ยตามความหมายของพจนานุกรม คือ ชื่อหอยน้ำเค็มกาบเดียวมีอยู่หลายชนิดผิวแข็ง ผิวเป็นมัน หลังนูนท้องแบนเรียกรวมๆว่า

    หอยเบี้ยแต่หอยชนิดที่นำมาทำเบี้ยแก้นี้ ท่านให้เอาเบี้ยจั่น เพราะคนโบราณท่านถือว่าเป็นวัตถุกลางที่ใช้สำหรับซื้อขายแลกเปลี่ยนสิ่งของ ก่อนการใช้เหรียญกษาปณ์หรือธนบัตรใน
    ปัจจุบันแต่คำว่าเบี้ยก็ยังเป็นคำที่ใช้ แทนสื่อความหมายของเรื่องเงินๆทองๆมาจนถึงปัจจุบันนี้ เช่นเบี้ยเลี้ยง เบี้ยบำนาญ เบี้ยหวัด เบี้ยประกัน เป็นต้น เมื่อได้เบี้ยตามต้องการแล้วก็นำ
    มาปลุกธาตุหรือปลุกเสกเพื่อเรียกวิญญาณคืน เบี้ย

    2. ปรอท เป็นธาตุโลหะลักษณะเป็นของเหลวสีเงิน สารประกอบปรอทเป็นพิษ แต่บางเบาเป็นยาโดยปริยาย หมายถึงอาการที่เป็น
    ไปอย่างรวดเร็วว่องไว ปรอทที่นำมาบรรจุในเบี้ยแก้ครั้งนี้ เป็นปรอทที่ไปดักตามธรรมชาติ ผู้ที่เดินทางไปดักปรอทธรรมชาตินี้ ท่านเป็นอาจารย์ฆารวาสที่มีอำนาจจิตสูงท่านหนึ่ง ซึ่งได้
    มีโอกาสเดินป่าอยู่เป็นประจำ อีกทั้งท่านยังได้เล่าเรียนและสืบทอดวิชา การสร้างเบี้ยแก้นี้จากครูบาอาจารย์สายอีสานแถบลุ่มแม่น้ำโขงอีก ด้วย ท่านต้องใช้ความพยายาม และวิริยะ
    อุตสาหะ อย่างยิ่งที่จะนำปรอทมาถวายหลวงปู่ญาท่านสวน ซึ่งก่อนที่จะเข้าไปดักปรอทในป่านั้น จะต้องบวงสรวงเจ้าป่าเจ้าเขา เทพยาดา เทวดาผู้พิทักษ์รักษาป่าแห่งนั้นเสียก่อน จึง
    จะเข้าไปดักปรอทได้ จากนั้นจึงนำไข่มาเสกด้วยคาถาไชดักปรอท แล้วใช้เข็มเจาะรูเล็กๆ คราวนี้จะต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัวสังเกตว่าที่แห่งใดจะมีปรอทอาศัยอยู่ ซึ่งส่วนมากจะ
    เป็นบริเวณที่มีซากพืชเน่าเปื่อย บริเวณที่มีปรอทจะสังเกตุเห็นเป็นพรายน้ำเรืองแสง เมื่อมั่นใจแล้วจึงนำใข่ที่เจาะรูแล้วไปฝังในดินบริเวณนั้นสัก 2-3 วัน จึงกลับมากู้ไข่ดักปรอท
    เมื่อมีปรอทอยู่ในบริเวณนั้นก็จะลงไปกินใข่เน่าแล้วจะออกไม่ได้เพราะได้ลง คาถาปิดปากไชเอาไว้ ในการดักแต่ละครั้งในไข่แต่ละฟองจะได้ปรอทเท่ากับหัวไม้ขีดสถานที่ที่ได้มา
    ของปรอทคือ ภูหางสง ภูงอย อยู่ในประเทศลาว และ ภูผักแพรว อ.ช่องแม็ก อุบลราชธานี เมื่อได้ปรอทจำนวนมากแล้วนำมาเทรวมกัน และบรรจุใส่ในกระเพาะวัวรัดปากใว้แล้วนำ
    ไปต้ม ผูกเชือกแขวนที่ปากปี๊ปสุมไฟตลอด พร้อมกันนั้นจะต้องสวดด้วยคาถาคุมปรอท ซัดว่านด้วยว่านคางคก ว่านทรหด และว่านอื่นๆ ที่ไม่สามารถนำมาเผยแพร่ได้ ทำจนปรอท
    แข็งตัวเป็นก้อน เป็นการกันไม่ให้ปรอทหนี ก่อนที่จะนำปรอทไปบรรจุในตัวเบี้ย ก็จะต้องนำปรอทที่แข็งตัวก้อนนั้นมาขยำด้วยน้ำมะนาวสด เพื่อล้างเอาขี้ปรอทออกอีกครั้ง จากนั้น
    ปรอทที่แข็งตัวก็จะกลับเป็นของเหลวกลายเป็นปรอทบริสุทธิ์

    3. ขั้นตอนการบรรจุปรอทเข้าไปในตัวเบี้ย ในขณะบรรจุปรอทต้องภาวนาคาถากำกับ เช่น พุทธังบรรจุ อธิษฐานมิ
    ธัมมังบรรจุ อธิษฐานมิ สังฆังบรรจุ อธิษฐานมิ จากนั้นจึงปิดทับด้วยชันโรง

    4. ชันโรง คือชื่อผึ้งขนาดเล็ก ซึ่งมีลำตัวยาวไม่เกิน 10 มิลลิเมตร ชอบกินน้ำหวานจากเกสร ดอกไม้มัก
    อยู่รวมกันเป็นฝูง โดยปกติแล้วตัวชันโรงจะชอบอยู่ตามที่ที่มีความเงียบสงบไม่ชอบให้ใครรบกวน เมื่อถ่ายออกมาจะเป็นสีดำ มีความเหนียว และมีกลิ่นหอมน้ำหวาน ด้วยเหตุนี้เอง
    โบราณจารย์ท่านจึงนำมาปิดปากเบี้ยเพื่อกันปรอทไหลออกมา สำหรับชันโรงที่นำมาประกอบพิธีกรรมในครั้งนี้เป็น ชันโรงเพียงดิน ซึ่งเป็นชันโรงที่อยู่กลางแจ้ง ไม่สะทกสะท้านต่อ
    สิ่งแวดล้อมต่างๆ เชื่อกันว่าชันโรงชนิดนี้มีคุณในตัวเองและหายากมาก ก่อนนำไปปิดปากเบี้ยให้นำชันโรงมาเสกด้วยเสกด้วยคาถาเดียวกันกับคาถาบรรจุ ปรอท

    5. นำแผ่นตะกั่วบางๆ
    มาลงอักขระ ด้วยยันต์นะซ่อนหัว หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่านะใต้น้ำ ล้อมรอบด้วยธาตุสี่คือ นะมะพะทะ เสร็จแล้วจึงนำไปปิดทับปากเบี้ยอีกชั้นหนึ่ง

    6. เมื่อเสร็จตามขั้นตอนดังกล่าว
    แล้วให้นำมาปลุกเสกด้วยธาตุ จนปรอทแข็งตัวเป็นเม็ดจะสังเกตุได้ว่าก่อนนำมาปลุกเสกเมื่อเขย่าจะมีเสียง ดังขลุกๆเป็นเสียงน้ำกลิ้งไปกลิ้งมา แต่เมื่อปลุกเสกสำเร็จแล้วจะมีเสียง
    แซ็กๆคล้ายดั่งเสียงเม็ดทราย หรือบางตัวเสียงค่อนข้างทึบเพราะอาจมีปรอทมากไป

    7. จากนั้นจึงนำมวลสารมาบรรจุเพิ่มเติม คือผ้าอาบน้ำของหลวงปู่ ผงปถมังที่หลวงปู่ท่านเขียนและ
    ลบเอง ชานหมาก ผงพุทธคุณต่างๆ ผงแร่ใต้น้ำ แร่บนเขา เส้นเกศา ตะกรุด 1 ดอก เข็มโลกธาตุ 1 เล่ม ยังได้อัญเชิญ พระอุปคุตเถระ (เหรียญกลีบบัว ปี2540 เป็นเหรียญสุดยอด
    ประสบการณ์) มาประดิษฐานอยู่บนตัวเบี้ย จากนั้นจึงทำการถักเชือกหุ้มตัวเบี้ย

    8. นำชันโรงแข็ง ซึ่งได้มาจากปล่องทางเดินของตัวชันโรง จากใต้น้ำและที่ขึ้นสู่อากาศ และ ชันโรง
    เพียงดินซึ่งอยู่กลางแจ้ง จะมีลักษณะแข็งคล้ายครั่ง แต่มีสีน้ำตาล นำมาตำให้ละเอียดกับตัวทำละลายให้เหลวเป็นน้ำ แล้วนำไปชุบตัวเบี้ย ผึ่งลมให้แห้ง

    9. นำเบี้ยทั้งหมดไปถวาย
    ให้หลวงปู่ญาท่านสวน อธิฐานจิต ปลุกเสกเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2547 เป็นอันเสร็จพิธี การสร้างเบี้ยแก้นั้นมีมาตั้งแต่โบราณกาล แต่จะมีเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อ ใดไม่มีหลักฐานระบุอย่าง
    แน่ชัด จุดมุ่งหมายในการสร้างเบี้ยแก้ของบูรพคณาจารย์ แต่ละสำนักนั้นมีจุดมุ่งหมายอันเดียวกัน นั่นก็คือ เครื่องรางที่ใช้สำหรับป้องกันการทำคุณไสยยาสั่ง แก้เหตุร้ายให้กลับกลาย
    เป็นดี อีกทั้งยังมีพุทธคุณทางด้านเมตตามหานิยมอยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาดและป้องกันอันตรายทั้งปวง แต่สำหรับการสร้างเบี้ยแก้ของวัดนาอุดมในครั้งนี้ นอกจากจะมีจุดมุ่งหมาย
    อันเดียวกันกับสำนักต่างๆแล้ว เบี้ยแก้ยังเป็นสัญลักษณ์ของความมั่นคง ทำให้บังเกิดโชคลาภสักการะ เรียกทรัพย์ เรียกเงิน เรียกทอง สื่อถึงความร่มเย็นเป็นสุข อีกทั้งยังเป็น
    ตัวแก้และกัน สิ่งชั่วร้ายต่างๆ ป้องกันภูตผีปีศาจ ผีพราย ป้องกันไข้ป่า ป้องกันสัตว์มีพิษต่างๆ ป้องกันตัวทากมิให้เกาะในขณะเดินป่า โดยเฉพาะผู้เดินป่าสมัยก่อนอันตรายมาก
    ในขณะนั่งทำภารกิจส่วนตัว พวกตัวทากจะกระโดดเกาะและดูดเลือด การสร้างเบี้ยแก้ในครั้งนี้นอกจากจะสร้างตามตำราที่กำหนดโดยเคร่งครัดแล้ว ยังได้เพิ่มมวลสารศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ
    บรรจุในเบี้ยแก้เช่น ผ้าอาบน้ำหลวงปู่ญาท่านสวน ผงปถมังที่หลวงปู่ท่านลบเอง ผงชานหมาก ผงพุทธคุณต่างๆเส้นเกศา ผงแร่ใต้น้ำ ผงแร่บนเขาต่างๆ ตะกรุด1ดอก เข็มโลกธาตุ 1 เล่ม
    และที่สำคัญได้อัญเชิญ พระอุปคุตเถระ ผู้ปราบพญามารซึ่งเชื่อกันว่าท่านยังทรงพระชนม์ชีพอยู่ และสถิตอยู่ ณ.วิมานแก้วเจ็ดชั้น ใต้สะดือทะเล ซึ่งมีกุ้งหอยปูปลาเป็นบริวาร มา
    ประดิษฐานที่ปากเบี้ยแก้ด้วยความมั่นใจและปรารถนาที่อยากให้เบี้ยแก้นี้ ทรงอนุภาพศักดิ์สิทธิ์ ปกป้องคุ้มครองและใว้เป็นสมบัติอันหวงแหนแก่ผู้ที่นำไปสักการะบูชา และจะเป็นที่
    สืบเสาะแสวงหาภายในอนาคตข้างหน้า เบี้ยแก้องค์ครู ด้านหลังปิดด้วยพระอุปคุต ตอกโค๊ตกันปลอม ถักเชือกหุ้มลงรักยางไม้ แบบนี้สร้างไว้น้อยมาก(แจกกรรมการ) มีทั้งถักแบบมี
    หูและไม่ไมีหู มักมีใช้กันเฉพาะหมู่ศิษย์ ส่วนเบี้ยแก้แบบธรรมดานั้นด้านหลังไม่มีพระอุปคุตครับถักเชือหุ้มหลังปิดหมด ฉนั้นเบี้ยแก้องค์ครูนี้ต้องห้อยคอนะครับ ห้ามแขวนเอว
    พุทธานุภาพของเบี้ยแก้ใช้ได้สารพัดยิ่งกว่าฝอยท่วมหลังช้าง เป็นโชคลาภ ดูดเงินดูดทรัพย์ ป้องกันภัยอันตรายต่างๆ ป้องกันอาถรรพ์ร้ายและภูตผีปีศาจ ขึ้นชื่อว่าเบี้ยแก้ แก้ได้ทุก
    ชนิด เช่นแก้พิษ แก้ดวงตก แก้คุณไสย์ดำ ฯลฯ ยิ่งได้บารมีพระอุปคุตมาด้วยแล้วยิ่งแรงไปใหญ่ หาไว้ใช้ติดตัวเถิดดีแน่นอนครับ ไม่ต้องไปตามหาเบี้ยแก้พระเกจิดังในอดีตให้เหนื่อย
    ได้มาก็ดูไม่เป็นไม่มั่นใจ ใช้เบี้ยแก้รุ่นใหม่ของญาท่านสวนนี่แหละครับ รับรองไม่เป็นรองใคร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2013
  5. woottipon

    woottipon เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2005
    โพสต์:
    11,773
    ค่าพลัง:
    +83,788
    มีคนโบราณเขียนถึงสรรพคุณของเบี้ยแก้ไว้ว่า...

    เบี้ยแก้ตัวนี้สำคัญนัก พ่อค้าแม่ขายจักหมั่นไหว้บูชา จะไต่เต้าเจ้าสัวแสนทะนาน ลาภเต็มห้อง ทองเต็มไห ขุนนางใดมีไว้ในตัว ดีนักแล จะให้คุณเป็นถึงท้าวเจ้าพระยา พานทอง........

    เบี้ยแก้ เป็นเครื่องราง...อย่างหนึ่งของไทยที่คุ้นหูในสมัยก่อน แต่สมัยนี้ ไม่ค่อยมีคนรู้จักกันแล้ว เกจิอาจารย์ท่านสร้างจากการบรรจุปรอท ที่ปลุกเสกแล้ว เข้าไว้ในตัวเบี้ยจั่น แล้วหาวิธีอุดไว้ไม่ให้ ปรอทหนีออกมาข้างนอก

    เวลาเขย่าจะได้ยินเสียงปรอทกระฉอกไปมาเสียงดังขลุกๆ ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง เสียงหนักเบาขึ้นอยู่กับปริมาณมากน้อยของปรอทที่บรรจุ

    เสียงขลุกๆของปรอท ยังขึ้นอยู่กับฤดูกาล ถ้าเบี้ยแก้ตัวที่บรรจุปรอทมาก เขย่าในฤดูร้อน มักไม่ได้ยินเสียง แต่ถ้าเขย่าในฤดูหนาว เสียงจะดังฟังชัดเจน

    เบี้ยแก้บางตัว มีเสียงขลุกไพเราะ ขลุกหลายจังหวะ มีเสียงหนักเบาสลับกันไป เหมือนนักร้องมีลูกคอหลายชั้น หรือนกเขาเสียงคู่ เสียงเอกที่มีลูกเล่นหลายชั้น

    เบี้ยแก้ที่ขึ้นชื่อ มีหลายสำนัก หนังสือเปิดตำนานเครื่องรางของขลังเมืองสยาม คุณ สมชาย โตมั่น มีรายละเอียดว่า แต่ละสำนัก มีวิธีบรรจุปรอทและวิธีอุดต่างกัน

    เบี้ยแก้ของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว นครชัยศรี เมื่อท่านบรรจุปรอทลงในเบี้ยจั่นแล้ว ก็เอาชันโรงใต้ดินที่ปลุกเสกแล้ว อุดยาบริเวณปากร่องใต้ท้องเบี้ย แล้วจึงหุ้มด้วยผ้าแดงลงอักขระเลขยันต์

    จากนั้นก็เอาด้ายถักหุ้ม ใช้ลวดทองแดงขดเป็นห่วงไว้คล้องคอหรือร้อยเชือกคาดเอว

    เบี้ยแก้สำนักที่ขึ้นชื่อไม่แพ้หลวงปู่บุญ คือเบี้ยแก้หลวงปู่รอด วัดนายโรง อ.ตลิ่งชัน กทม. วิธีหุ้มเบี้ยด้านดอก อาจดูคล้ายกัน แต่ ด้านในแตกต่างกัน ของหลวงปู่รอดใช้แร่ตะกั่วหุ้ม แล้วลงอักขระลงบนพื้นตะกั่วรอบตัวเบี้ย

    คุณไชยรัตน์ โมไนยพงศ์ เป็นผู้หนึ่งที่สนใจศึกษาเบี้ยแก้ รวบรวมไว้ในหนังสือเครื่องรางของขลัง เท่าที่คุณไชยรัตน์สังเกต ยันต์ที่ลงมีทั้งยันต์ที่เป็นคาถาและยันต์ตาราง ยันต์ตารางมีทั้งสี่ช่องและเก้าช่อง

    เบี้ยแก้ตัวหนึ่ง คุณไชยรัตน์มั่นใจว่า เป็นของหลวงปู่บุญ เชือกที่ถักหุ้มผุกร่อนชำรุด จนหมดสภาพ เมื่อเปิดออกจึงเห็นยันต์ที่กำกับใต้ท้อง เป็นยันต์พุทธซ้อน และยันต์ท้อรันโต

    ยันต์ท้อรันโต ดีทางคงกระพัน ยันต์พุทธซ้อน ดีทุกด้าน หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ หลวงพ่อศุข วัดมะขามเฒ่า ใช้เป็นยันต์ครู

    นอกจาก 2 สำนักนี้แล้ว ยังมี เบี้ยแก้วัดคฤหบดี วัดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งตรงข้ามท่าเทเวศร์ คุณสมชาย โตมั่น ยังตามสืบสาวไม่ได้ชัดเจนว่าหลวงพ่อชื่อใดสร้าง

    แต่นัยว่า ท่านเป็นศิษย์หลวงปู่รอด วัดนายโรง ตัวเบี้ยเล็กกว่า และเบากว่า 2 วัดรุ่นอาจารย์ เส้นด้ายที่ถักหุ้มตัวเบี้ย หยาบกว่า มีทั้งลงรัก ปิดทอง และลงยางมะพลับ

    ลักษณะการหุ้มตัวเบี้ย เป็น 2 แบบ แบบแรกถักหุ้มทั้งตัวเบี้ย แบบที่ 2 ถักเหลือเนื้อเป็นวงกลมไว้หลังเบี้ย

    เสียงขลุกของปรอท มีจังหวะและน้ำหนักต่างจากสำนักวัดกลางฯและวัดนายโรง

    วิชาทำเบี้ยแก้ไม่แพร่หลายนัก นอกจาก 3 สำนักนี้แล้ว ยังมีเบี้ยแก้อีก 3 สำนักที่อ่างทอง แต่เพราะเบี้ยแก้มีจำนวนน้อย ประวัติการสร้างจึงไม่ค่อยชัดเจน

    เบี้ยแก้วัดนางใส อยู่หลังตลาด อำเภอวิเศษชัยชาญ ประวัติเท่าที่พอสืบสาวได้ หลวงพ่อผู้สร้าง มรณภาพไปนานแล้ว เป็นพระอุปัชฌาย์หลวงพ่อโปร่ง เจ้าอาวาสวัดท่าช้าง ปัจจุบัน

    เบี้ยแก้วัดนางใสไม่ได้ถักด้ายหุ้ม อุดด้วยชันโรงใต้ดินแล้วก็ให้หุ้มเลี่ยมด้วยเงิน ทอง หรือนาก เหลือเนื้อเบี้ยเป็นวงกลมไว้ด้านหลัง

    เบี้ยแก้วัดโพธิ์ปล้ำ ต.ท่าช้าง อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง หลวงพ่อผู้สร้างเป็นอาจารย์ หลวงพ่อโปร่งเช่นเดียวกัน

    เบี้ยแก้วัดท่าช้าง...ต.สี่ร้อย อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง หลวงพ่อโปร่ง ปัญญาธโร เจ้าอาวาสปัจจุบันสร้างไว้ ลักษณะเบี้ยแก้เหมือนของ 2 อาจารย์ผู้ประสาทวิชาให้

    คุณสมชาย โตมั่น บรรยายทิ้งท้ายไว้ว่า

    เบี้ยแก้เป็นอิทธิวัตถุชั้นหนึ่ง เตือนใจให้สะดุ้งกลัวภัยที่มองไม่เห็น หากบุคคลใด

    มีไว้เป็นสมบัติ นำติดตัวโดยคาดไว้กับเอวหรือโดยประการอื่น ย่อมปกป้องภยันตรายได้ทั้งปวง

    เป็นเมตตามหานิยม แคล้วคลาด มหาอุดคงกระพันทุกประการ คุ้มกันเสนียดจัญไร คุณไสย ยาสั่งและการกระทำย่ำยี ทั้งหลายทั้งปวงได้ชะงัด...นักแล.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2013
  6. woottipon

    woottipon เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2005
    โพสต์:
    11,773
    ค่าพลัง:
    +83,788
    ไม้ครูมี 3 ประเภท
    1.ตะกรุดไม้ครู(ทำอยู่)
    2.คฑาไม้ครู(ที่พึ่งทำไป)
    3.ไม้เท้าไม้ครู(กำลังหาไม้อยู่ ต้องที่พิเศษ)
    อานุภาพเหมือนๆกันครับจะต่างกันบ้างที่มวลสาร
    เครื่องยาใหญ่เป็นตำรับที่สร้างขึ้นมาที่จะแก้คุณไสยโดยเฉพาะ แก้ได้ครบทุกทาง เป็นตำรับสายหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เป็นเครื่องยาที่ทำให้เกิดขึ้นได้ยากยิ่งมากๆๆ
    เพราะต้องใช้ทั้งความพยายามและความเสียสละทุนทรัพย์ จำนวนหลายแสนบาทเมื่อ 30 ปีก่อน อานุภาพแก้ได้ทุกอย่างเกี่ยวกับคุณไสย นำมาผสมกับชันโรงและผสมเป็นมวลสารทำตะกรุดไม้ครู
    แร่ตะกลูเหล็กไหลมากกว่า 30 ชนิด นำมาบดผสมเป็นมวลสารใช้อุดปากเบี้ยแก้ และ ตะกรุดไม้ครู
    ไม้อาถรรพ์ต่างๆ
    มวลสารที่มีอานุภาพสะท้อนกลับ
    1.กระท้อนตายพรายทำพิธีพลีกรรมตามแบบโบราณ
    2.ว่านตูบมูบหายากมากๆต้องขึ้นกลางตอเท่านั้น ต้องตามตำรา ถือว่าเป็นพญาว่านมีคุณป้องกันสะท้อนกลับ
    3.ตากระท้อนหน้าสุเหร่า เป็นของอาถรรพ์ป้องกันสะท้อนกลับ
    4.แผ่นผ้ายันต์ที่เกี่ยวกับอานุภาพสะท้อนกลับและป้องกัน

    ตะกรุดไม้ครู
    เริ่มจากการหามวลสารที่จะนำมารีดเป็นแผ่น ก็ต้องหาเอามวลสารที่มีพลังที่มีอยู่ในตัวมวลสารนั้น และมีคุณวิเศษ ที่ครูบาอาจารย์ยอมรับว่าดีจริง
    1.แร่โคตรเศษรฐีของแม่ชีประทุม ที่หลวงพ่อฤาษี ท่านได้บอกไว้ว่าดี ไม่ต้องเสกก็ศักดิ์สิทธิ์ ใครมีไว้บูชาต่อไปจะป็นเศษรฐี และมีใครบอกจำไม่ได้ว่าสามารถกันรังสีนิวเคลียได้
    2.เหล็กเปียกที่หุ้มยอดองค์พระธาตุพนม อันนี้ก็ถือว่าสุดยอดกันปืนกันฟ้าได้และมีคุณอย่างอื่นอีกมาก เป็นของคุณชัยวิทย์ ใส่ผสมลงไปมาก เท่ากับขวดน้ำดื่ม
    3.หัวลูกปืนที่เป็นตะกั่ว เป็นเคล็ดโบราณ ลูกไม่ฆ่าแม่ แม่ไม่ฆ่าลูก ผ่านการเสกโดยหลวงน้าสายหยุด ศิษย์หลวงปู่ดู่
    นำไปหลอมรวมกันเป็นหนึ่ง
    ตะกรุดไม้ครูผ่านพิธีมาเหมือนกับไม้ครู เริ่มตั้งแต่พิธีเป่ายันต์เกราะเพชร วัดท่าขนุน
    เสาร์๕ วัดท่าซุง หลวงพ่อตุ๊มหาสิงห์ วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ หลวงตาม้า วัดถ้ำเมืองนะ
    ครูบาครอง ลำปาง ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อน ครูบาตั้น ตอยปู่อิน หลวงปู่เจียม กุดไห
    หลวงปู่บู่ วัดสุมังคราม หลวงพ่อหนุน วัดพุทธโมกข์ หลวงปู่สุภา ท่านย้ายมาอยู่ที่สกลนครแล้ว จะนำไปให้หลวงพ่อหนุน ท่านอธิฐานจิตวันเสาร์๕ที่ ๑๖ มีนาคม อีกทีพร้อมกับเบี้ยแก้มหาลาภมหาป้องกันสะท้อนกลับ

    ส่วนในเบี้ยแก้นั้น ก็ได้บรรจุยันต์ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า ยันต์ธงจักวาลเป็นยันต์โบราณที่มีคุณ เข้าไปได้ทุกที่ ใครที่พกเบี้ยแก้นี้ ถือเป็นคุณพิเศษ หมายความว่าที่ใดที่มีอาถรรพ์แรงก็สามารถผ่านไปได้โดยปลอดภัย โดยไม่มีอันตรายใดๆมาทำอันตรายได้เลย

    ส่วนมวลสารที่ได้นำมาบรรจุในเบี้แก้มหาลาภมหาป้องกันสะท้อนกลับและตะกรุดไม้ครูที่เหมือนกันก็มี
    1.ผงที่บรรจุสมเด็จองค์รุ่นแรกของหลวงพ่อหนุน วัดพุทธโมกข์
    2.ผงที่บรรจุในมีดฟ้าฟืน
    3.ผงที่บรรจุในพระขรรค์ไชยศรีปราบไพรีนาศ
    4.ผงที่บรรจุในพระฤาษีลัดดาบส
    5.ผงที่บรรจุในพระโมคลานะ
    6.ผงที่บรรจุในไม้เท้าพญายมราช-ท้าวเวรสุวรรณ
    7.ผงที่บรรจุในตะกรุดยันต์เกราะเพชร วัดถ้ำเขาวงศ์ 108-1009
    8.ผงตะไบมีดสายฟ้ามหาปราบไตรจักร ของหลวงปู่ญาท่านสวน
    9.ผงจักพรรดิ์ของหลวงปู่ดู่และหลวงตาม้า
    10.ผงสมเด็จโต เช่นวัดระฆัง -วัดบางขุนพรหม-วัดเกศไชโย-พระนอนจักรสี-วัดอื่นๆ
    11.ผงรวม ๓๗ ประเทศ จำนวน 10000 กว่าชนิด (ได้มาใหม่)
    12.ผงต่างๆที่เกี่ยวกับพญานาค หายาก
    13.ผงตะไบชนวนนวะฤทธิ์ของแม่ชีประทุม

    ตะกรุดไม้ครูจะผ่านพิธีมาพร้อมกับไม้ครู หลายสิบพิธีอย่างยอดเลยครับ
    ส่วนเบี้ยแก้นั้นได้นำเอาปรอทและมวลสารต่างเช่นชันโรง มวลสารที่เป็นผงรวมแล้วเข้าพิธีพร้อมกับไม้ครูครับ เพราะการทำเบี้ยมันมีหลายขั้นตอนครับ ส่วนตัวเบี้ยก็ต้องทำพิธีล้างน้ำถึง 3 น้ำด้วยกันคือ 1.น้ำเกลือ 2.น้ำส้ม 3.น้ำเหล้าใช้ถึง16 กลม ในการล้างแต่ละน้ำนั้นการต้องทำการสวดคาถากำกับไปด้วย ใช้เวลา 9 วัน หลังจากนั้นการทำพิธีสวดบังสกุล-ทำบุญอุทิศส่วนกุศล ถึงจะเสร็จ 1ขั้นตอนแรก

    ตะกรุดไม้ครูจะไม่ได้บรรจุปรอทและชันโรง ขั้นตอนของการทำเบี้ยแก้จะมากกว่า
    เบี้ยแก้จะเด่นด้านป้องกันและแก้ ความพิเศษอยู่ที่ผู้ทำและผู้เสกจะกำกับอีกทีบ้างอย่างบอกได้บ้างอย่างบอกไม่ได้ เจอแล้วเดี่ยวรู้เอง ให้อ่านย้อนไปดูอีกที
    ส่วนตะกรุดไม้ครูดอกเดี่ยวคุมได้ทั้งกลุ่มทั้งบ้านด้วยบารมีของครู(พระ)มีคุณเป็นเอนกอนันต์แล้วแต่จะอธิฐานเอาเพราะเป็นของสูงครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2013
  7. 7sense

    7sense เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,482
    ค่าพลัง:
    +3,025
    ตามมา
    ขอสำรองเบี้ยแก้ 2ตัว
    ตะกรุดไม้ครู 4 อัน
    ขอบคุณครับ
     
  8. suwat.su

    suwat.su เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    7,655
    ค่าพลัง:
    +55,543
    เบี้ยแก้มหาลาภมหาป้องกันสะท้อนกลับ ตะกรุดไม้ครู วัดพุทธโมกข์

    เบี้ยแก้มหาลาภมหาป้องกันสะท้อนกลับ
    จำนวนการสร้าง 200 องค์ (จองครบแล้ว) บูชา 1,000 บาท

    ตะกรุดไม้ครู
    จำนวนการสร้าง 800 ดอก บูชา 500 บาท

    วัตถุประสงค์การสร้างวัตถุมงคลชุดพิเศษนี้
    ๑.สมทบทุนร่วมสร้างพระปัจเจกพุทธเจ้า ณ วัดพุทธโมกข์
    ๒.สมทบทุนสร้างพระปัจเจกพุทธเจ้าขนาดแขวนคอบูชา ถวายวัดพุทธโมกข์
    ๓.สมทบทุนสร้างวัตถุมงคลงานปฏิบัติธรรม ปี ๒๕๕๗

    [​IMG]

    Update กระทุ้ 7 วันที่ 5/2/56​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2013
  9. คนไม่เอาไหน

    คนไม่เอาไหน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    436
    ค่าพลัง:
    +3,368
    เพี้ยง....ขอให้มีคนใจดี สละให้ซักองค์
     
  10. wat.R

    wat.R เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    347
    ค่าพลัง:
    +745
    สำรองเบี้ยแก้ 1 เบี้ยครับ
     
  11. tassa

    tassa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2011
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +169
    ลำดับที่ 25,42 รบกวนช่วยรวมกันให้ด้วยค่ะ
    ขอบคุณค่ะ
     
  12. THATCHAKON

    THATCHAKON เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1,248
    ค่าพลัง:
    +3,250
    ในกรณีที่มีการสร้างเบี้ยแก้เพิ่มมากกว่า 200 องค์ตามที่ระบุไว้ในเบื้องต้น
    ผมขอสำรองเบี้ยแก้ไว้อีก 4 องค์นะครับ
     
  13. บีช

    บีช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    89
    ค่าพลัง:
    +366
    ขอสำรองเบี้ยแก้1ตัวครับ
     
  14. thummawichit

    thummawichit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +2,438
    ขอสำรองเบี้ยแก้ 1 องค์
     
  15. COFFEEMAX

    COFFEEMAX เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,318
    ค่าพลัง:
    +9,085
    ผมจองร่วมบุญเบี้ยแก้ไว้ 10 องค์
    ได้รับสิทธิ์แล้ว 1 องค์
    ส่วนที่เหลืออีก 9 องค์ผมยังคงต้องการร่วมบุญโดยขอลงเป็น waitinglist ไว้ครับ (ขอพี่สุวัฒน์ช่วยแก้ไขตารางให้ด้วยนะครับ)
    ขอบคุณมากครับ
     
  16. Mandala

    Mandala เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    290
    ค่าพลัง:
    +1,763
    ขอสำรองเบี้ยแก้องค์ครู 1 องค์ และบูชาตะกรุดไม้ครู 1 ดอก ค่ะ ขอบคุณค่ะ
     
  17. พ่อน้องหนุน

    พ่อน้องหนุน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +5,562
    ลำดับที่ ๔๘ พ่อน้องหนุน โอนเงินร่วมบุญแล้วครับ
    วันนี้ (๖ ก.พ. ๕๖) เวลา ๑๗.๓๕ น. ยอดเงิน ๒,๐๖๙ บาทจากกรุงไทยออนไลน์ครับ
    ที่อยู่
    นายสัญชาติ เชียงการ
    ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครพนม
    อ.เมือง จ.นครพนม ๔๘๐๐๐ ครับ./
     
  18. werapong

    werapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,633
    ค่าพลัง:
    +7,800
    โอนเงินร่วมบุญเเล้ว 1060.11 บาท
    ขออนุโมทนาบุญทุกท่านครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. api_suphot

    api_suphot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,111
    ค่าพลัง:
    +4,910
    ลำดับที่ 5.ขอยกเลิกตะกรุดไม้ครู5ดอก
    คงเหลือไว้แต่เบี้ยแก้ 2ตัวครับ
    ขอบคุณครับ
     
  20. suwat.su

    suwat.su เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    7,655
    ค่าพลัง:
    +55,543
    ผมขอลงตามนี้ก่อนนะครับ ถ้าสร้างเพิ่ม หรือท่านใดสละสิทธิ์มากเกินจำนวนก็ค่อยมาเพิ่มทีหลังนะครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...