ผมสูง180 หนัก 73 ทําไงให้พุงหายครับ

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย ballbeamboy2, 19 ธันวาคม 2012.

  1. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ตอนนี้ผมมีพุงครับ (จริงถ้ายืนปกติ พุงจะมีนิดเดียว) แต่พอนั่งเนี่ย มาเป็นชั้นเลยครับ
    อ่อ ผมจากหนัก 80 ลดมา73 ก็เพราะ อย่างแรกเลยออกกําลังกาย แล้วไม่กินข้าวเย็น (บางวันอาจจะกิน ถ้าอยากตามใจปากนะอิอิ)
    ทําไงให้พุงหายครับ แล้วผมอยากมีกล้ามหน้าท้องทําไงครับช่วยตอบที
     
  2. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    สูงขนาดนั้นและหนักขนาดนี้มันก็สมส่วนแล้วนิคะ เราไม่รู้ลักษณะรูปร่างคุณว่าเป็นยังไง แต่เท่าที่อยู่เมืองนอกมา เห็นผู้ชายฝรั่งที่สูง 180 กว่าๆ และหนักแค่ 73 กิโลเนี้ยะโครต ๆผอมเลยนะ แต่ก็เท่ห์ดี เพราะกระดูกคนไทยจะเล็กกว่าฝรั่งแต่ไขมันเยอะกว่า เพราะงั้นฝรั่งจะออกไปทางหนักกระดูก แต่ไม่ค่อยมีเนื้อ

    ส่วนเรื่องพุงก็ต้องดูตามอายุด้วย ถ้าผู้ชายอายุมากๆมันจะมีพุงกันทั้งนั้นเพราะกร้ามเนื้อมันเลิกผลิต และก็คนกินเบียร์กับเหล้าก็ทำให้มีพุงเหมือนกัน คนคงต้องไปเข้าคอส ยึดพื้น หรือซิดอัฟ และหละ
     
  3. GhostHead

    GhostHead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,010
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ถ้าลดไขมันหน้าท้อง ก็ต้อง Sit up ครับ วันละ 100 - 500
    แล้วก็ลดอาหารพวกไขมัน

    วิ่งด้วยก็ดีครับ รอบสนามฟุตบอลสัก 100 รอบ

    แต่ก็อยู่ที่คุณมีเวลาว่างขนาดไหนครับ ถ้ามีเวลาน้อยก็ลดลงตามสมควรครับ เอาให้พอดีๆ
     
  4. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,730
    ตามที่ท่านหัวหน้าผีว่ามานะคะ
    การSit up จะช่วยได้เป็นอย่างดีค่ะ
    ขอให้ทำเป็นประจำสม่ำเสมอนะคะ

    ส่วนการวิ่งรอบสนามฟุตบอล ๑๐๐ รอบนั้น
    คิดว่าวิ่งแบบผ่อนส่งก็น่าจะได้นะคะ
    ถ้าวิ่งใน ๑ วัน อาจจะหนักไม่น้อยค่ะ
    ๔๐๐ คูณ ๑๐๐ = ๔๐,๐๐๐ เมตร ระยะทาง ๔๐ กิโลเมตร ไม่ใช่น้อยนะคะ
    แหะๆ.... พูดตามประสาคนไม่ค่อยได้วิ่งค่ะ
     
  5. vijit_j

    vijit_j เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    739
    ค่าพลัง:
    +2,866
    มื้ออาหาร กินผักเข้าไปรองกระเพาะก่อน แล้วกินข้าวสัก 1 ทัพพีให้อิ่มพอดี เท่านี้แหละครับ
     
  6. สหพัฒน์

    สหพัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    234
    ค่าพลัง:
    +710
    ไม่ค่อยโหดเลยน่ะท่าน 555+



    ขอให้ทุกท่านจงเจริญในธรรม...
     
  7. MarkZilla

    MarkZilla เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    134
    ค่าพลัง:
    +191
    แนะนำไปทำ detox ตับ กับ หมอณาครับน่าจะมีส่วนเกินจากภายใน หลายๆโรคก็หาย พุงก็ลด ผมน้ำหนักลงไปเยอะ แต่ตอนนี้ไม่ค่อยออกกำลังกายดูเหมือนน้ำหนักขึ้นอีกแล้ว
    หน้าแรก ค่าใช้จ่ายไม่มาก ได้ผลเกินคุ้มครับ
     
  8. เตหิณรัตน์

    เตหิณรัตน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +476
    มี 1 วิธีที่ดีเหมือนกันแต่ต้องทำตลอด

    ที่ตอบเพราะขนาดร่างกายใกล้เคียงกันครับ พี่สูง 181 หนัก 77 สัดส่วน อก38 เอว36 สะโพก37(เมื่อก่อนนะ) ใช้เวลา1ปีกว่าๆ กลายมาเป็น หนัก 77 (เท่าเดิมนะ) อก 42 เอว28 สะโพก37(เท่าเดิม) ที่บอกว่าใช้เวลาปีกว่าๆคือ พี่วิ่งครับ+ฟิตเนส(เล่นเองที่บ้าน)อุปกรณ์ก็ง่ายๆมีดัมเบล 1คู่ก็ใช้ได้แล้วครับ ดัมเบล1คู่นี่เล่นได้หลากหลายท่ามากครับไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์เยอะนะ หนังสือที่สอนเกี่ยวกับการใช้ดัมเบลอย่างเดียวในการเล่นฟิตเนสก็มีขายครับลองไปหาดู แต่ ณ ที่นี้ ขอเน้นเกี่ยวกับการวิ่งนะครับ วิ่งอย่างเดียวไม่ต้องเล่นฟิตเนสก็ลดได้เเล้วครับ ในช่วงเวลาปีกว่าจากเอว 36 มาเป็น 28นี่พี่ไม่ควบคุมอาหารเลยนะครับของควาของหวานของมันพี่กินตามปกติ ถ้าจะควบคุมอาหาร ไม่แป้ง ไม่ไขมัน ไม่นํ้าตาล เลยนี่สูตรนี้3-4เดือนก็เห็นผลแล้วครับ แต่พี่อยากให้น้องลดแบบสบายๆดีกว่า คือวิ่งทุกวันแต่ไม่ควบคุมอาหารเลย วิ่งตอนเย็นนะครับหลังเลิกงาน ยํ้าว่าทุกวันนะ ไม่ป่วยเป็นหวัด ฝนตกหนัก ไม่ติดธุระอะไรจริงๆห้ามขาดนะ (เป็นหวัดห้ามวิ่งนะครับ และหลังวิ่ง1ชม.ห้ามเข้าใกล้คนเป็นหวัดนะ เคยอ่านมาทางการเเพทย์เค้าวิจัยมาว่า ช่วงหลังวิ่ง1ชม.คือช่วงที่ภูมิคุ้มกันในร่างกายจะลดระดับตํ่าลง เพื่อจะสร้างของใหม่ หลังจากออกกำลังกาย1ชม.ไปแล้ว ภูมิคุ้มกันก็จะเพิ่มมาในระดับที่เยอะมาก) วิ่งทุกวัน ถ้ายังไม่เคยวิ่งเลย สิ่งที่ต้องทำอันดับแรกคือ รองเท้าครับ แนะนำอย่าเอาผ้าใบ หรือรองเท้าคอนเวิสใส่วิ่งนะ หัวเข่าจะเสื่อม ห้ามเด็ดขาด หารองเท้าดีๆเลยสำหรับวิ่ง ยิ่งช่วงนี้ใกล้ปีใหม่ตามห้างกำลังลดราคาเลยครับ และถุงเท้าเลือกแบบหนานะ เพราะจะไม่ทำให้หนังเท้าถลอกเวลาออกวิ่ง เมื่อได้รองเท้าแล้วก็หาสถานที่ครับ ตามสวนสาธารณะต่างๆ แถวในหมู่บ้านก็ได้ ถ้าไม่มีจริงๆบ้านติดถนนใหญ่ไม่ต้องอายครับริมฟุตบาทไปเลย(แต่ระวังรถหน่อยนะ) เมื่อได้รองเท้า ถุงเท้า และ สถานที่แล้วก็เริ่มวิ่งได้เลยครับ และสิ่งที่ต้องปฏิบัติก่อนการวิ่ง
    1.ก่อนวิ่งไม่ควรนอนตื่นสายแล้วมาวิ่งเลย(ร่างกายปรับตัวไม่ทันนะเวลาวิ่งจะเหนื่อยมาก)
    2.ก่อนวิ่งซัก15 นาทีควรดื่มนํ้าซัก1แก้วใหญ่ๆนะ เวลาวิ่งจะเหนื่อยน้อยลง
    และขณะวิ่ง ทุกๆ 2กิโลเมตรทานนํ้าได้ซัก1แก้ว อย่าเยอะนะเดี่ยวจุก
    3.ก่อนวิ่งควรเดินก่อนเดินธรรมดาซัก 1กิโลเมตรก่อน จากนั้นก็ออกกายบริหารส่วนต่างๆ ขยับขาขยับแขน ยืนนั่ง สะบัดข้อมืออะไรก็ว่าไป ซัก 5นาทีเพื่อให้กล้ามเนื้อพร้อมใช้งานนะ
    4.เชือกรองเท้าผูกให้แน่นเเละดูให้ดีก่อนวิ่งทุกครั้งนะ กรณีนี้เคยมีคนหัวแตกมาแล้วเพราะสะดุดเชือกรองเท้าตัวเองนะ
    ถ้าไม่เคยวิ่งเลย สัปดาห์เเรก วิ่งแค่ 500 เมตรพอครับ วันละ 500 เมตรพอ
    สัปดาห์ที่สอง เพิ่มเป็นวันละ 1 กิโลเมตรต่อวัน สัปดาห์ที่สาม เพิ่มเป็น 3 กิโลเมตรต่อวัน สัปดาห์ที่สี่ เพิ่มเป็น 4 กิโลเมตรต่อวัน สัปดาห์ที่ห้าเพิ่มเป็น 5 กิโลเมตรต่อวัน และจากสัปดาห์ที่ห้าไป จะเพิ่มหรือเท่าเดิมก็ได้นะ แต่พี่วิ่งวันละ 8 กิโลเมตรนะถึงลดเอวได้ 8นิ้วโดยไม่ควบคุมอาหารเลย แต่น้องวิ่งวันละ 4-5 กิโลก็พอครับไม่ต้องรีบร้อน อาศัยลดอาหารลงบ้างก็พอ สูตรวิ่งข้างบนที่บอกไว้ถ้าจำนวนกิโลเมตรเยอะขึ้นให้พักทุกๆ1 กิโลเมตรได้นะครับถ้าไม่ไหวจริงๆ ถ้าไหวก็หวดต่อเลย สูตรข้างบนพี่คิดเองนะคนอื่นเอาไปใช้ก็ได้ผลดีนะ แต่ถ้าสนใจจริงจัง เรื่องวิ่งมาราธอนเค้ามีสูตรการวิ่งอยู่อันนี้น้องต้องไปศึกษาเองนะ แต่ตัวพี่เองเวลาวิ่งก็ไม่ได้ตามสูตรที่วางไว้แต่เเรกหรอกข้ามขั้นไปเลย สัปดาห์ที่สองพี่ วิ่ง7.5กิโลเมตรได้โดยไม่หยุดพักเหนื่อย และไม่กินนํ้าเลย นี่ไม่เคยวิ่งเลยนะ เหนื่อยมากจุกมากหายใจได้เเค่ครึ่งเดียวแน่นหน้าอกเกิดมาไม่มีอะไรเจ็บปวดทางร่างกายได้เท่านี้อีกแล้วมันทรมานที่สุด แต่ใจคิดว่าถ้าขาดใจตายเดี่ยวมีคนมาเจอศพเอง ขอสร้างขันติบารมี และอีก1อาทิตย์ต่อมาก็วิ่งรวดเดียว12กิโลเมตรโดยไม่หยุดพักและไม่ทานนํ้าเลย มันทรมานที่สุดและเจ็บปวดที่สุดในชีวิต ไม่มีอะไรเจ็บปวดเท่านี้อีกแล้วที่เคยเจอมาในชีวิตนี้ พอวิ่งเสร็จพี่ก็อธิฐานขอให้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าในกาลเบื้องหน้า สำหรับคนอื่นคงคิดว่างั้นๆนะ แต่สำหรับพี่ พี่คิดว่านี่คือความเจ็บปวดที่สุดในชีวิตของเเล้ว ของคนที่แทบไม่เคยออกกำลังกายอะไรเลยตลอดอายุเกือบ30ปี อยู่ๆลุกขึ้นมาวิ่ง 7 และ12 กิโลเมตรเลยในช่วง2และ3สัปดาห์แรกโดยไม่หยุดพักและไม่กินนํ้าเลย มันเจ็บปวดมากแต่ก็ผ่านตรงนั้นมาได้ ขนาดงานหล่อพระเททองเหลืองกลางเเจ้งแดดร้อนๆแบกของหนัก2คนรวมเป็น100กิโลนํ้าทองเหลืองเดือดเป็น 1000 องศา+ หรือนั่งดู(ขอหมดดูอยากเห็นตอนแรกหมอไม่ให้ดูให้นอนปิดตา)หมอผ่าฝีสดๆขนาดเท่าลูกมะนาวที่ขาผ่าและขูดเนื้อโดยไม่ใช้ยาชา ขาบวมมากเดินเกือบไม่ได้นะ ความรู้สึกที่กล่าวมานี่ยังไม่ได้ส่วนนึงของความเจ็บปวดตอนที่วิ่ง 7 และ12กิโลคราวนั้นเลย เล่าให้ฟังนะ เพื่อเป็นกำลังใจกำลังใจแบบนี้ตอนทำใครไม่เห็นหรอก กำลังใจที่คนไม่เห็นไม่มีใครชื่นชมนี้ละทำได้ยากมาก ถ้า เช่นว่าให้เดินทางรอบโลกคนเดียวแต่มีคนออกข่าวรับรู้กันทั่วโลกนี่มันไม่ยากนะเพราะมีคนจ้องมองอยู่อันนี้ทำง่าย แต่กำลังใจทุกอย่างละที่ทำแล้วไม่คิดว่าจะมีใครรับรู้ผลความดีนี้ ไม่มีใครชื่นชมมันเลย มันทำได้ยากเพราะไม่มีใครเห็นถ้าเหนื่อยมากๆเราแอบเลิกดื้อๆก็ได้ใครจะไปรู้จะไปนินทาจริงไหม มันจะต้องใช้ความอดทนสูงจริงๆ ถ้าน้องคิดจะลดนํ้าหนักนะวิ่งนี่ดีที่สุด ไม่ต้องรีบร้อนนะค่อยเป็นค่อยไป ข้าวก็ทานตามปกตินี้ละ แต่พอรู้สึกว่าเริ่มอิ่มแล้วจะลดลงบ้างไม่ทานต่อก็กำไรไป ลดพุงได้ไวขึ้นนะ แต่อย่าอดอาหารนะไม่แนะนํา3มื้อหรือ2มื้อเท่าเดิมที่เคยทานนั้นละ
    ปล.วิ่งๆไปซักเกือบเดือนหรือเดือนนึงจะเริ่มขี้เกียจ เริ่มท้อ เริ่มพลัดวันประกันพรุ่งขึ้นมา อาการแบบนี้เกิดกับทุกคนไม่มากก็น้อยไม่ช้าก็เร็ว พูดดักไว้ก่อนถ้าคิดวิ่งจริงๆแล้ววิ่งได้แล้ววิ่งไปแล้ว เริ่มมีอาการอย่างที่พี่บอกให้นึกถึงว่าไม่มีอะไรได้มาง่ายๆนะ สุขภาพที่ดีที่เกิดจากการวิ่ง ลดความดัน หัวใจ เบาหวาน หลอดเลือตีบ เส้นสมองแตก อ้วนลงพุง .....อีกเพียบ สิ่งเหล่านี้ทั้งหลายช่วยได้ด้วยการวิ่งนะ ถึงสมมุติว่าเราจะมีเงินพันล้านรวยแบบเถ้าแก่น้อย แต่ถ้าเรามีเงินมากขนาดนั้นเราถ้าเราไม่ออกกำลังกายเราก็ซื้อสุขภาพที่ดีไม่ได้หรอกจริงไหมครับ ของแบบนี้ซื้อหากันด้วยเงินไม่ได้ แต่ซื้อหากันได้ด้วยบารมี คือ ความเพียร อดทน และสัจจะ เท่านั้น ใช้บารมี3ตัวใน10ทัศนี้ ซื้อสุขภาพที่ดีซะนะไม่มีใครหาให้ เอามาให้ได้นอกจากตัวเราเอง เป็นที่พึ่งได้เท่านั้น โชคดีนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ธันวาคม 2012
  9. ยี่แปะกง

    ยี่แปะกง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2011
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +272
    คุมอาหาร โดยใช้การนับแคลอรี่
    วิธีลดน้ำหนักแบบนับแคลอรี่ หุ่นดีโดยไม่ต้องออกกำลังกาย ไม่ใช้ยา แต่ได้ผลแน่นอน
    ถ้ารวมออกกำลังไปด้วยก็จะเฟิมแแล้ว ลดได้เร็วขึ้น
    ออกกำลังควรมีขวดน้ำเล็กๆเอาไว้จิบ แม้ว่าจะไม่รู้สึกกระหายน้ำก็ตามที อันตรายจากการขาดน้ำน่ากลัวนะครับวูปไปเลย

    จำไว้ว่า ไม่มีการลดไขมันเฉพาะส่วน
    ใครที่คิดว่า เล่นกล้ามท้องแล้ว หน้าท้องจะลด จะผิดหวัง เพราะไขมันจะลดทั้งร่างกาย ไม่มีเฉพาะส่วน
    ซึ่งจะลดได้ก็ คาออดิโอ เช่น วิ่ง ขี้จัการยาน เิดินเร็ว ครึ่งชมขึ้นไป ควบคู่ไปกับการนับแคลอรี่ หรือการคุมเลือกกินอาหาร ซึ่งเป็นหัวใจหลัก

    อีกอย่างที่สำคุญที่สุด ก็คือ หัวจิตหัวใจ ที่มุ่งมั่นต่อเนื่องยาวนาน ว่าไปผมก็ยังท้อทุกวันที่ออกกำลังกายและคุมอาหาร แต่หลังที่ทำไปแล้วก็รู้สึกภูมิใจว่า เราผ่านมาได้อีกวัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ธันวาคม 2012
  10. skincare

    skincare สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    385
    ค่าพลัง:
    +10
    Sit up เยอะๆนะคะ ทานอาหารที่มีไขมันน้อยๆ แต่โปรตีนเยอะๆคะ สองอย่างนี้พอจะช่วยนะคะ แต่ ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งยากมากๆคะ ใช้เวลาหลายเดือน อาจถึงปีก็ได้คะ










    ________________________________________
    วิตามินคือสิ่งที่ทุกคนควรรับประทานให้เพียงพอ เพราะจะช่วยเสริมสร้างให้ร่างกายแข็งแรง ทำให้สุขภาพดี วิตามินมีหลายประเภท การรับประทานวิตามิน ควรรับประทานให้ถูกสัดส่วน หากรับประทานมากเกินไปอาจก่อให้เกิดโทษได้ อย่างไรก็ตามหากรับประทาน อาหารเสริม วิตามิน อย่างถูกต้องแล้ว ก็จะให้ประโยชน์มากกว่าโทษเพราะทุกวันนี้ประชาชนส่วนใหญ่รับประทานอาหารไม่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ การอ่านรีวิว วิตามิน ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยในการตัดสินใจ
     
  11. MonkeyAstro

    MonkeyAstro เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    225
    ค่าพลัง:
    +202
    ออกกำลังกายควบคู่กับการควบคุมอาหาร ช่วยได้เยอะเลยครับ ออกกำลังกายแนวเบินไขมันนะครับ อย่างวิ่งอะไรแบบนี้
     
  12. moolekza

    moolekza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +203
    ทานอาหาร แต่พอดี มื้อสุดท้าย ห้ามเกิน 6 โมงเยน งดเครื่องดื่มแอลกอฮอลนะคะ
    และก้อวิ่งงงงงง วิ่งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
    และอยากบอกว่า แฟนหมูเล็กหนัก 125 กิโล ยัง ไหวเลย 555555
     
  13. nong7up

    nong7up สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2013
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +2
    ทำโยคะ หรือ ฤาษีดัดตน

    ประมาณวันละ 1-2 ชั่วโมง

    แนะนำว่าเป็นช่วงเช้า

    เป็นการออกกำลังกาย และ ฝึกสมาธิด้วยค่ะ

    ประมาณสัก อาทิตย์นึง จะเริ่มเห็นผลว่ากางเกงหลวมขึ้น

    สองอาทิตย์จะสังเกตว่า มีกล้ามท้องด้านบนค่ะ

    และควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินค่ะ

    ช่วงเย็นไม่ควร ทาน โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน เท่าไหร่
    ร่างกายไม่ได้จะใช้อะไรมากมายขณะนอนหลับ
    ลองดูค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มกราคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...