เทวดาประจําตัว

บิดา มารดา...สิ่งเหล่านี้อาจไม่ได้เรียกว่า พรหม แต่อาจเรียกได้ว่าท่านเป็น พระอรหันต์ และพระโพธิสัตว์ประจำบ้าน เลยก็ว่าได้ เพราะท่านสั่งสอนแต่สิ่งดีงาม(อารมณ์ของอรหันต์) หาแต่สิ่งดีๆให้ลูก แม้ตัวเองจะลำบากสักเพียงไรก็ไม่เคยปริปากบ่น ขอเพียงให้ลูกสบายก็พอ(อารมณืพระโพธิสัตว์) สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งผลักดันให้ลูกที่กตัญญูต่อบิดามารดา มีความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต โดยที่ไม่ต้องไปหากราบไหว้พระดีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เด่นทีไหนให้มากมาย ขอเพียงแค่เรากตัญญูต่อบิดามารดา ไม่ทำให้ท่านเสียใจ ทำนุบำรุงท่านเมื่อเรามีโอกาส ถึงแม้ว่าผมจะนับถือ เทพ พรหม เซียน และพระโพธิสัตว์ก็ตาม แต่สิ่งที่ผมนับถือและเคารพศรัทธายิ่งกว่าก็คือ พ่อ และแม่ ทุกครั้งก่อนที่ผมจะไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ ก็จะนึกถึงพระคุณของพ่อและแม่ก่อนทุกครั้ง และผมก็เชื่อว่าสิ่งดีๆที่ผมได้รับในชีวิต อาจไม่ได้มากจากอำนาจวิเศษของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่เป็นเพราะความกตัญญูที่ผมได้แสดงออกต่อพ่อและแม่ทั้ง กาย วาจา ใจ มากกว่า หรือไม่งั้น อาจเป็นการอวยพรจากคนรอบข้าง และพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่อนุโมทนากรรมดีที่ผมกระทำต่อพ่อแม่ทุกครั้ง ผมเชื่อแบบนี้นะ เราท่านทั้งหลายก็ควรจะรักพ่อแม่ให้มากไว้ กราบเท้าท่านสักครั้งหนึ่ง เชื่อเถอะ แล้วสิ่งดีๆต่างๆจะเข้ามาในชีวิตอย่างไม่น่าเชื่อ กราบท่านเถอะครับ ไม่น่าอาย ดีกว่าที่เราจะได้กราบ ตอนที่ท่านนอนในโลงศพ ที่เต็มไปด้วยเสียงสวดของพระในศาลาวัดยามค่ำคืนนะครับ...

...................................

 

ผมก็ขออนุโมทนาด้วยครับที่เห็นพ่อแม่ของเราเป็นพระอรหันต์ แต่ที่ผมบอกว่าพ่อแม่เป็นพรหมของลูกก็เพราะว่าท่านใช้พรหมวิหารธรรมมาเลี้ยงเรา คือท่านเลี้ยงเราด้วยความเมตตา กรุณา มุทิตาและอุเบกขา ครับเพราะสิ่งเหล่านี้เป็นธรรมของพระพรหมครับ แต่ก็ดีครับที่พ่อกับแม่เราเป็นพระอรหันต์ ผมว่าสูงกว่าพรหมอีก ดีแล้วครับ จะได้เลิกนับถือเทวดา แล้วหันมาปฏิบัติธรรม พวกเทวดา ยกตัวอย่างนะครับ จตุคามรามเทพเนี่ยก้อเป็นเทพเป็นเทวา เหมือนกัน สะท้อนให้เห็นว่าเราหันมานับถือเทพแทนพระพุทธเจ้าแล้วหรือ หรือว่ามันเข้าสู่ยุคเสื่อมของศาสนาแล้วหรือ ไม่จริง ศาสนาจะต้องอยู่ครบ 5000 ปี เราต้องนับถือและศรัทธาในพระพุทธเจ้า นอกนั้นบารมีไม่เท่าพระพุทธเจ้าของเราหรอก คนที่เอาจตุคามมาแขวนมีอยู่สองอย่างคือหนึ่ง ตามกระแส กับสอง นับถือเทพ ซึ่งทั้งสองอย่างเขาเรียกว่ามิจฉาทิฎฐิ คือความเห็นผิด เห็นกลีบดอกบัวนึกว่าเป็นดอกบัว หรือการนั่งสมาธิก็เหมือนกัน พอนั่งได้ปฐมฌาณก็ติดสุขนึกว่าปฐมฌาณ เป็นนิพพาน ก็เลยไม่พัฒนาเลย มันก็เสื่อม เพราะฉะนั้น ผมอยากให้เรามีสัมมาทิฎฐิครับ นับถือและศรัทธาในพระพุทธเจ้าเป็นหนึ่งไม่มีที่สองครับ แล้วเราจะเห็นธรรมของพระพุทธองค์อย่างน่าอัศจรรย์

 

ดีจังค่ะที่เรามีเทวดาคุ้มครอง ขอให้ท่านปกปักเรา
อย่าให้มีโอกาสทำบาปทำกรรมต่างๆได้อีกเลย สาธุ สาธุ สาธุ




[b-wai] [b-wai] [b-wai]

 

อยากรู้จักเทวดาประจำตัวเหมือนกันครับ ได้แต่แผ่เมตตาให้ทุกวัน บางทีมีเรื่องเดือดร้อนนึกถึงท่านบางทีก็รอดไปได้ครับ

 

อย่าลืมเทพยดาผู้มีคุณทั้งหลายครับ

ผมว่า เราต้องไม่ลืมบุญคุณทุกคน(ทุกดวงจิต) ที่เคยสงเคราะห์เรานะครับ ผู้มีพระคุณทั้งหลายนั้นได้ช่วยเหลือพวกเรามานับชาติไม่ถ้วนทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งเราอาจจะจำไม่ได้ว่าชาติก่อนๆมีใครบ้างเคยมีพระคุณกับเรา ซึ่งท่านเหล่านั้นก็ไม่แน่ว่าจะเสวยภพภูมิใดในชาตินี้ครับ ชาตินี้ท่านอาจเป็นเทพยดามาคอยสงเคราะห์เรา โดยที่เราไม่รู้ตัว ให้พ้นภัย อันตราย มีความก้าวหน้าในอาชีพ มีกินมีใช้ รายการผู้มีพระคุณหลักๆของเรามีดังนี้ครับ

1. พระพุทธเจ้าทุกองค์ พระธรรม พระอริยเจ้าทั้งหลาย
2. พ่อแม่,ญาติพี่น้อง,ครูบาอาจารย์ของเราในชาตินี้
3 เทพยดา(เทวดา พรหม พระวิสุทธิเทพ) ที่ท่านช่วยรักษาเราในชาตินี้ ชาติก่อนๆเราอาจเคยผูกพันกับท่านในหลากหลายฐานะ ท่านอาจเคยเป็นพ่อแม่เรา ญาติพี่น้องเรา ครูบาอาจารย์เรา เพื่อนฝูง หรือ ผู้มีอุปการคุณต่อเราไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
4. เทพยดาท่านอื่นที่แม้จะไม่ได้รักษาเราโดยตรง แต่ได้เคยช่วยรักษาผืนแผ่นดินไทย ทำให้เรามีที่อยู่ ที่อาศัย สุขสบายกันตามอัตภาพ
5. อื่นๆอีกมากมาย

และการนึกถึงบุญคุณของเทพยดาและคุณธรรม ความประพฤติ ทั้งหลายที่ทำให้ท่านได้เป็นเทพยดา ก็จัดเป็นกรรมฐานกองนึงที่พระพุทธเจ้าท่านทรงสรรเสริญคือ "เทวตานุสสติกรรมฐาน"

ขอพวกเราจงอย่าลืมพระคุณ ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ที่ต้องเคยได้สงเคราะห์เรามาในชาติใดชาติหนึ่งแน่นอน

 

ขออนุโมทนาครับ
"ถ้าเราอุทิศส่วนบุญให้เทวดาบ่อย ๆ เทวดาองค์นั้นก็จะมีพลังมากขึ้นครับ"
<!-- / message -->

 

เคยได้ยินหลวงปู่จันทร์แรมเทศน์ที่บ้านลานทองว่า วันธรรมดามนุษย์มีเทพรักษา 2 องค์ วันพระมีเทพรักษา 4 องค์ จริงเท็จไม่ทราบเพราะตาสามยังไม่เปิด แต่มีเทวดารักษาย่อมดีกว่าไม่มีแน่นอน ตัวเองรอดพ้นจากอุบัติเหตุอย่างหวุดหวิดหลายครั้ง เชื่อว่าเกิดจากเทวดาช่วยเหลือเพราะรอดมาได้แบบแปลกๆ ทุกวันนี้ทำบุญคราวใดก็นึกถึงท่านทุกครั้งไป ขอบคุณที่มาคุ้มครองรักษาและให้ความช่วยเหลือค่ะ

 

การที่เราได้เคยเวียนว่ายตายเกิดมาแล้วหลายแสนหลายล้านชาติ เป็นไปได้หรือไม่ว่าเทวดาประจำตัวเราคือญาติพี่น้องเพื่อนที่เคยปฎิบัติธรรมร่วมกันมา และคอยดูแลรักษาและดลจิตใจเราให้ยึดมั่นในการทำความดีเสมอๆ เพื่อสร้างบารมีให้มากขึ้น คงต้องพยายามปฎิบัติต่อไปแล้ววันหนึ่งคงจะรู้เหตุผลความเป็นจริงที่ชัดเจน...

 

ได้ความรู้เพิ่มเติมนอกเหนือจากหลักการวิทยาสตร์อีกแล้ว ขอบคุณ ครับ ^.^

 

นานาทัศนะ
ผมยอมรับว่าตัวเองเป็นเกย์ ไม่ใช่กระเทย
แล้วก็เป็นร่างทรง แต่ผมก็ไม่เปิดเผยกับใคร ผมแปลกใจตัวเองว่า
เวลาคุยโทรศัพท์กับคนอืีนโดยที่ไม่เคยเห็นหน้ากลับนึกภาพเขาออก
และพอเจอก็เป็นจริงหน้าตาเหมือนที่นึกไว้เลยแปลกมากๆ พยายามที่จะ
ไม่ยอมรับร่างทรงเพราะเป้นคนสมัยใหม่ แต่ยิ่งหนีก็ยิ่งเจอ
ในครั้งผมยังเด็กอายุประมาณ สัก ป 3 ป4 สมัยนั้นไม่มีทีวี แต่ผมก็ชอบฝันเหลือเกิน ฝันว่า สู้กับหมู่มาร เปรต และก็ชอบมาก เวลามาร เปรตมาทีไรผมจะเล่นกับมัน และผมก็จะชนะมันทุกครั้ง ชอบฝันเหาะบ้าง
พอโตไม่เคยฝันอีกเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้

ผมไม่กินเนื้อสัตย์ใหญ่ วัวควาย มาตั้งแต่เด็กๆมันคาวไม่ชอบ แม้ในวิถีชีวิตปัจจุบัน ทุกย่างกว้าวเต็มไปด้วยคำว่า ห้าม ห้ามโน้น ห้ามนี่ ห้ามอะไรก็ไม่รุ้เต็มไปหมด ชอบที่จะนอนกับพื้นไม่ชอบนอนบนที่นอน ชอบเห็นอะไรในสิ่งที่คนมองไม่เห็น หรือจะเป็นแรงบุญของชาติก่อนก็ไม่รู้
ในนรอบอายุ 33 ปี ท่านมา ประทับร่างแค่ครั้งเดียว และในการประทับร่างผมจะรู้สึก จะรับรู้สิ่งต่างๆได้
ต่างกับร่างทรงอื่นที่ จำอะไรไม่ได้ บางครั้งก็จะมองเห็นในสิ่งที่คนธรรมดามองไม่เห็น เวลาท่านมาประทับมือจะเย็นเฉียบโดยทันที ผมก็ไม่รู้ว่าคืออะไร
เพราะศรัทธาที่แรงกล้า หรือว่าอะไรผมไม่ทราบ แต่ผมยึดมันในศาสนา และความดีงาม เคร่งครัดในศีล ความกตัญญูต่อผุ้มีพระคุณเสมอ
มีอยู่ครั้งหนึ่งผมให้หวยแจกกระจาย และแต่ละครั้งที่หวยถูกผมก็อุทิศส่วนกุศลไปให้
คนอืีน ผลคือมีกลิ่นหอมกลับมาโดยทันทีภายในไม่กี่วินาที

ว่างๆจะไปเปิดตาที่ 3 (คงต้องฝึกอภิญาอีกนาน) เพื่อจะได้เห็นว่าท่านที่มาประทับเป็นเทพจริงหรือมารกันแน่ จักได้เห็นได้ถามให้หายประจักษ์ใจซักที
และที่แปลกไปกว่านั้น ร่างกายผมท่อนบน ดูเป็นผู้หญิง แขนเรียวยาว
เล็บมือ นิ้วสวยเรียว ซึ่งพ่อและแม่ก็ไม่มีมือเรียวสวยแบบนี้ และน้องมือและเล็บก็ไม่เรียวสวยแบบนี้เช่นกัน แม้จะเล่นกล้ามมันก็ไม่ออก

ต่างกับท่อนล่างดูแข็งแรง บึกบึ้น ดูสมชาย ผมงงกับตัวเองจริงๆ
ยิ่งออกกำลังกายท่อนล่างยิ่งบึกบึน มึนตึบเลย

ข้อมูลใหม่ลอกเขามานะ
[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]ข้อสังเกตระหว่างเทวดากับผี
1. เทวดาจริงๆ ยิ่งอยู่ในภพที่สูงๆ ยิ่งไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับมนุษย์ทั่วไป ยกเว้นผู้มีคุณธรรม
2. เรื่องเข้าทรงสิงร่าง ถ้าขออาหารกินเหมือนมนุษย์ เป้นอสุรกายชั้นดี
3. ถ้าขออาหารชั้นเลว เช่น ของสดคาว สุรา เนื้อสัตว์ดิบของบูดเน่า เป็นเปรตชั้นเลว อสุรกายชั้นเลว
4. ถ้าขอให้ทำบุญแล้วอุทิศส่วนกุศลให้ เป้นเปรตชั้นดี ( เทวดากินข้าวทิพย์เป็นอาหาร ลักษณะเป้นข้าวเม็ดใสๆ )
5. สำหรับเปรตชั้นเลว มักมีร่างกายวิปริตไปต่างๆ หลายรูปแบบ ส่วนเปรตชั้นดีมักมีรู)ร่างหน้าตาคล้ายตอนมีชีวิตอยู่ แต่จะสวยงามหรือน่าเกลียด แล้วแต่มีกรรมมากน้อยต่างกันเพียงใด เปรตชั้นดีเยี่ยมจริงๆ คือเวมานิกเปรต และมหิทธืเปรต มีความเป็นอยู่ใกล้เคียงเทวดาชั้นต้น
6. สัตว์ในภูมิเหล่านี้บางรายมีฤทธิ์มาก
7. อำนาจพระศรีรัตนตรัยมีอานุภาพสูง ผีทุกชนิดเกรงกลัว
8. ตามที่คนถูกผีหลอกด้วยการเห้นรู)ร่างหรืออาการที่น่าเกลียดน่ากลัวต่างๆ ส่วนใหญ่ไม่ใช่ผีหลอก แต่เป็นความทุกข์ยากลำบากที่เขากำลังถูกทรมานอยู่ ต้องการความช่วยเหลือจากมนุษย์ จึงแสดงสิ่งเหล่านั้นให้ดู เช่น ทำกรรมไว้เรื่อง วจีกรรม ๔ อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง ทำให้มีเข็มหรือตะปูหรืออาวุธอื่นเชือดเฉือนทั้งสิ้น คนถูกหลอกจึงเห็นผีแลบลิ้นยาวๆ ผีที่มีความเจ็บปวดเพราะถูกผ่าอกอยากแสดงให้คนเห็นจะได้ช่วยเหลือ คนก็เห้นเป้นผีแหกอก ฯลฯ ดังนี้ เป็นต้น
9. คนไม่ควรกลัวผี แต่ควรรู้สึกสงสารผี เพราะผีเป็นสัตว์ที่ทุกข์ยากลำบากแสนสาหัสยิ่งนัก

[/FONT][FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]กรณีที่เกิดจากสัมภเวสี
หรือการลงผี ฟ้อนผีในบ้านเรา
1. ปวดศีรษะเป็นประจำ บางครั้งทนไม่ไหว หมอว่าเป็น
ความดันบ้างก็แล้วแต่ ควรตรวจเช็คแก้ไข เพราะอาจถูกสัมภเวสี
เกาะที่ศีรษะได้
2. ปวดไหล่เป็นประจำ หมอว่าเป็นเส้นเอ็นอักเสบ กินยาทายา
ไม่หาย ตึงไปหมด ถือว่าผิดปกติ
3 .มือเท้าชาเป็นซีก จากไหล่ หรือตะโพก หัวเข่าก็ตาม
4. แน่นหน้าอกมากผิดปกติ
5. ปวดบริเวณกระเบนเหน็บ บางที่การแพทย์ระบุว่า
หมอนรองกระดูกทับเส้น เว้นแต่กรณีการเกิดอุบัติเหตุ ลื่น
หกล้มจนกระแทกพื้นอย่างแรง นั่นก็จะต้องพิจารณาเป็นกรณีไป

ถ้าหากท่านใดมีอาการเหล่านี้ควรจะพิสูจน์ด้วยตัวเอง นานนับปี อย่าพึ่งกระทำการใดๆ
เพราะถ้าเป็นร่างเทพจริง ท่านจะมีอาการที่สังเกตุได้ง่ายคือ
ไปไหว้พระ หรือสถานทีศักดิ์ ท่านจะขนลุก และปิติยินดีกับธรรมะ
ต่างกับผีหรือมาร
และในตัวท่านเองจะใผ่ธรรมะและปฏิบัติ เพราะหากเป็นร่างเทพจริงท่านจะอยู่กับเราตลอดเวลา แต่ถ้าถ้าเป็นผี
เขามักจะไม่ทน พอเราไม่รับเขาก้จะไปหาร่างใหม่ สรุปไม่มีความอดทนกับการที่มนุษย์จะทดสอบ
ร่างเทพ จะผูกพันกันทางสายสัมพันธ์มาจากชาติปางก่อน เช่นเราอาจะเคยเกิดเป็นเทวดา ใฝ่ในพระธรรมตั้งแต่ยังเด็ก อะไรเหล่านี้เป็นต้น
คือพูดง่ายๆจะมีจิตสัมผัสมาแต่ยังเด็กนะครับง่ายๆ
วิเคราะห์ตัวเองให้ดีนะครับ เป็นร่างทรงใช่ว่าจะดีใครๆก็ไม่อยากเป็นแต่เป็นเพราะ
ชะตาฟ้าลิขิตกำหนดไว้ เปลี่ยนไม่ได้ พยายามเปลี่ยนและไม่ต้องการก็ไม่ได้
กลับมีผลร้ายกับตัวเอง อย่าสักแต่ว่าฉันเป็นร่างทรงแล้วจะดี
ถ้าคุณยอมรับร่างเทพได้ คุณต้องประพฤติปฏิบัติได้ ใฝ่ในธรรมะ หลายๆอย่างที่ต้องฝืนความเป็นธรรมดา การช่วยเหลือเป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติเสมอ

ผมเห็นร่างทรงบางคนหรือจะส่วนมาไม่เข้าใจในความเป็นร่างทรงที่แท้จริง จริงๆแล้ว
เขามิได้มาให้เราร่างทรงแสดงอิธิฤทธิ์โอ้อวดให้คนอื่นทราบ แต่มนุษย์เองกลับแอบอ้าง
เอาไปใช้ในทางที่เสียหาย เขาให้มาช่วยเพื่อนมนุษย์โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน กลับเรียกร้องเงินจากผู้อื้นมากเกินความจำเป็น และมีการชุมนุมกันสังสรรค์ กินเหล้า
ดังเห็นตามรายการทีวีมันช่างน่าเศร้าจริงๆ หลงในรูปและรส จริงๆแล้วมันมาจากพื้นฐานความรู้ของแต่ละบุคคล ลองคิดดูว่าถ้าร่างทรงคนนั้นไม่ได้เรียนหนังสือแต่เขาใฝ่ในธรรมะและปฏิบัติตัวดี เขาถูกจัดอยู่ในระดับชั้นเอก แต่ถ้าร่างคนนั้นเรียนจบปริญญาโทแต่หลงในรูปและรสโดยแยกไม่ออกก็ถูกจัดในชั้นต่ำสุดเช่นกัน
ดังจะเห็นในวงการไฮโซทั้งหลายมีข้อประจักษ์อยู่มากมาย โอ้มันช่างน่าสงสารเสียจริง

[/FONT][FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]1.การที่ท่านจะมาประทับได้ต้องมีพิธีกรรมหลายอย่าง
เช่นพระในวัดแขก เขาต้องถือศีล 3 เดือน
และปีหนึ่งได้แค่ ไม่กี่ครั้ง
2.อีกอันคือการประทับของพระแม่กวนอิมในเทศกาลกินเจ
คนที่จะทรงได้ต้องถือศีลเคร่งครัดก่อนเข้าร่วมพิธี
และพระแม่ก็ไม่มีร่างประทับแบบถาวร แบบว่า
ใครศัทธาท่านก็มาหาทุกคนได้

3.แล้วใยคนไทยถึงประทับทรงกันง่ายๆทุกเวลา ทุกสถานที ตามความต้องการ ผมละงงจังเพราะการที่เทพจะผ่านมาหามนุษย์เขามายากนะ
ไม่ใช่มาได้ง่ายๆ งั้นเขาจะแบ่งเป็นภูมิ เป็นภพ เหรอ ต้องขออนุญาตหลายด่านเหลือเกิน ต้องผ่านภูมิตั้งหลายภุมิแล้วมันจะมาได้ง่ายๆภายในไม่กี่วินาทีเหรอ
แถมทรงก็ไม่ปฏิบัติอย่างเครครัด โอ๊ยเวรกรรม

จากประสบการณ์ แม้จะเป็นมาร หรือ ผี หรือสัมภเวสี เมื่อเขาได้รู้ซึ้งถึงรสพระธรรม ผ่านกาลเวลามานับร้อยปี พันปี เขาก็มีสิทธิ์เป็นเทพได้เช่นกัน
[/FONT]
[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]
[/FONT]

 

อ่อใช่มันเป็นอย่างนั้น บางทีผมดูหนังที่เกี่ยวกับพระพุทธเจาอย่างเช้น องคุลีมาล ตอนที่พระองท่านตรัสเพีงพยางค์แรก ดูมาจะท้ายเรื่องแล้ว อยู่ดีดีผมกลับมีอาการ เหมือนเจอคนที่เรารักมาก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ความรู้สึกมันดันออกมาสะอึกสะอัก แล้วควบคุมไม่ได้ น้ำตาไหลเลย

 

กับอีกเรื่อง ที่เป็นเด้กฝรั่งแสดง กับพระทิเบต อาการออกแบบเดียวกันเลย

 

เหมือนกับว่ามีความตื้นตันใจในการกระทำ
บางครั้งมันเหมือนว่า วันนี้ เวลานี้เคยเกิดขึนกับเรามาแล้วครั้งหนึ่ง
แต่นึกไม่ออกว่าวันไหนเวลาไหน แต่เหตุการ์มันจำได้
มัน โอ๊ยบอกมะถูก จะนึกๆๆๆออกมักน็ไม่ออก แต่เหตุการณ์มันเหมือนเกิดขึ้นมาแล้ว ตอนสัก 20-27 เป็นบ่อยๆมาก
ตอนนี้ไม่คอ่ยจะมีละ นานๆที

 

ขอบคุณค่ะ ที่ให้ความรู้(b-smile) เรื่องนี้

 

กระทู้แนวเทพมาอีกแล้ว...อิอิ

 

อย่าเอาอะไรมายึดเหนี่ยวจิตใจนอกจากพระรัตนตรัยเท่านั้น

 

ไม่ว่าเราจะเชื่อ หรือจะนับถือสิ่งใดก็ตาม ขอให้อยู่บนพื้นฐานของสุจริตกรรมนะ

 

อิทังสัพพะเทวานังโหตุ สุขิตาโหตุสัพเพเทวา

ขออนุโมทนาบุญกับท่านผู้ตั้งกระทู้ และทุกๆท่านที่ร่วมอนุโมทนาด้วยครับ<O</O
สาาาาา ธุ<O</O
สาาาาา ธุ<O</O
สาาาาา ธุ<O</O
ให้ดังไปถึงพระนิพพาน<O</O

 

ใครเป็นคนคิดทฤษฎีนี้ขึ้นมาหรอครับ แล้วรู้ได้ไงว่าถูก???.....เข้าใจคำถามม๊ะ