ไครรู้จักบ้านสวน พีระมิด มั่งครับ

บางคน เคยรู้จักบ้านสวน ครั้งเดียว ก็สรุป
บางคน ไม่เึคยรู้จักบ้านสวน เลยแม้แต่ครั้งเดียว ก็สรุป
บางคน ฟังเค้าว่ามา เชื่อเลย ก็สรุป
แต่คิดว่า หลายๆคน ที่เค้ามาบ้านสวน แล้วได้เจอ ของจริง พิสูจน์ก่อน แล้ว สรุป
ขอทุกท่านโปรดมีวิจารณญาน ในการรับสื่ออย่าง ไม่อคติ ไม่เอนเอียง ใช้ปัญญา ของตัวท่านเองนะครับ
เท่าที่ผมรู้จักบ้านสวนมานี่ ไม่ใช่ว่าใครจะมาก็มาได้ง่ายๆ นะครับ
อีกอย่างที่มาของการตั้งกระทู้ ก็ไม่ใช่ คนบ้านสวนแน่ๆ แต่สิ่งที่หลายๆคน ออกมาเล่าประสบการณ์ "จริง" ที่ได้สัมผัสกับตัวเอง ไม่ใช่ "คาดเดา สุ่มเอา คิดเอาเอง"(เคยไปบ้านสวนสักครั้งหรือเปล่า?)
ถ้ายังมองไม่เห็นอะไรมันละเอียดๆ ก็ อย่าเผลอละเมิดผู้อื่น เดี๋ยวจะเป็นบาปเอานะครับ ด้วยความหวังดี

 

วัตถุมงคลใดๆ ก็ตาม จะช่วยคนก็ต่อเมื่อคนๆ นั้นมีความศรัทธา
ไม่ลบหลู่เคลือบแคลงสงสัยในตัวครูบาอาจารย์ ตรงกันข้าม
หากคนๆ นั้นยังสงสัย จ้องจะจับผิด มีอคติ
จะด้วยความริษยา หรือใดๆ ก็ตาม
วัตถุมงคลนั้นต่อให้มีพุทธคุณอย่างไร หรือใครๆ
จะใช้ได้ผล มีอานุภาพแค่ไหน แต่เมื่อคนคนนั้นนำไปใช้
ก็เป็นแค่ก้อนหิน ก้อนดินธรรมดาเท่านั้นเองค่ะ
อยากใช้ได้ผล ก็ลองหันมาเปลี่ยนตัวเอง
เปลี่ยนความคิด หันมารักษาศีล 5 ดูก่อนนะคะ
แล้วสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านถึงจะคุ้มครองค่ะ​

 

วัตถุมงคลทั้งหลายไม่ว่าที่ไหน ถ้าเรามีไว้ครอบครองเพื่อตอบสนองกิเลสความอยากของตัวเอง เช่น ให้การงานดี การเงินดี หายทุกโรค

แต่ไม่เชื่อมั่น ไม่มีความศรัทธา ไม่ใช้ควบคู่กับความดี

แฝงไว้ด้วยความอิจฉาริษยา คิดร้ายกับเจ้าของวัตถุมงคล แล้วสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนจะมาช่วยคุณล่ะค่ะ

 

วัตถุมงคลต่าง ๆ จะใช้ได้ผลก็ต่อเมื่อ ผู้สร้างมีความปราถนาดีต่อผู้อื่น
และผู้ใช้ก็ต้องมีศรัทธา และทำร่วมกับความดี ถึงจะเห็นผล ถ้าผู้นำไปใช้
ไม่ศรัทธา ก็ไม่เกิดประโยชน์ เพราะการไม่ศรัทธาคือปิดกั้นตัวเอง ทำให้ไม่สามารถ
รับพลังดี ๆ ได้ เปรียบเหมือนพระอาทิตย์ที่ส่องแสงสว่างไปทุก ๆ ที่
หากที่ใดไม่มีสิ่งปิดกั้น ที่นั้นก็จะได้รับแสงของพระอาทิตย์ แต่ถ้าที่ใดมีสิ่งปิดกั้น
ที่นั้นก็จะไม่ได้รับแสงอาทิตย์ มันเป็นเช่นนี้เอง

 

คุณรู้ตัวว่า บาปหนา เลวจัด ก็เปลี่ยนแปลงตัวเองสิครับ

คนที่เรียนแล้วสอบไม่ผ่าน
หากมัวแต่ตัดพ้อต่อว่า ตัวเองหัวไม่ดี
แต่ไม่เคยคิดว่า ที่สอบตกน่ะ
เพราะวัน ๆ มัวแต่รอคนอื่นมาช่วย มาติวให้
แต่ไม่เคยคิดขยันอ่านหนังสือ หรือสอบถามอาจารย์ในสิ่งที่ไม่เข้าใจ
ก็สอบตกวันยังค่ำ

ถ้าคนทั้งประเทศเป็นแบบนี้ ประเทศไทยจะเป็นอย่างไร

ต้องการให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านช่วย
ก็ต้องเคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยความจริงใจ

ต้องการเรียนหนังสือ ปฏิบัติธรรมได้ดี
ก็ต้องเคารพครูบาอาจารย์ด้วยความจริงใจ เช่นกัน

แปลกนะครับ คนเราส่วนใหญ่มักชอบว่า ตำหนิคนอื่น
แต่ก็ชอบไปขอให้คนนั้นเค้าช่วยเหลือตนเองในยามทุกข์ยาก

พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
จะไปนรก สวรรค์ พรหม นิพพาน ก็อยู่ที่ตัวเราทั้งสิ้น

 

มา้บ้านสวนแล้วรู้แต่ว่า ปัญหาทุกๆอย่างในชีวิตเกิดจาก ที่เรา ทำกรรมมา เห็นหลายๆคนที่ป่วยหนัก ทั้ง มะเร็ง SLE โรคไต ซึ่งเป็นโรคที่บางที คนที่เขาไม่มีเงิน ก็ไม่มีสิทธิ์ จะรักษาได้ แต่ที่้บ้านสวน เน้นให้ทำบุญด้วยแรงกายเพราะเป็นบุญที่บริสุทธิ์ เพื่ออุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร ให้เราสารภาพสิ่งที่ทำผิด สำนึกผิด ขอขมา เป็นการดับที่เหตุ ส่วนวัตถมงคลต่างๆ ก็ต้องใช้ควบคู่กับศรัทธา และ ความดี เคยได้ยินว่า ถ้าเป็นคนที่รักษาศีล 5 ได้บริสุทธิฺจริงๆ ไม่ต้องมีสิ่งเหล่านี้ก็ได้

 

ถ้าศรัทธาจริงทำไมไม่เข้าไปหาคนจริง หรือ ของจริง หรือพวกที่เขาศรัทธาจริง ได้ผลจริงๆ ล่ะ เข้ามาในนี้ทำไม

 

ก่อนที่ดิฉันจะได้รู้จักท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด ดิฉันก็เป็นคนหนึ่งที่ฝักใฝ่ในการทำบุญ
ร่วมบุญทุกอย่าง นั่งสมาธิ ว่างก็ไปวิปัสสนา แต่ก็ยังทำผิดศีลทุกข้ออย่างมาก
ทำให้ชีวิตถึงต้องทุกข์ทั้งปัญหากรรมผิวพรรณ ปัญหาความรัก สุขภาพ การเงิน
แต่เมื่อได้มาสร้างบุญที่บ้านสวนพีระมิด สารภาพบาปที่ทำเพื่อขอดับเหตุ
ผลที่เกิดขึ้นก็คือ อาการเจ็บป่วย ปวดหลัง ปวดหัว ปวดขาหาย โดยทันที
ซึ่งเป็นการพิสูจน์ให้รู้ว่าทำผิดศีลทำให้เราต้องป่วย
ทำให้ดิฉันหันมาตั้งใจรักษาศีล ลดการเบียดเบียน หันมาทานมังสวิรัติ
และไม่เคยป่วยอีกเลยมา 2 ปีแล้วค่ะ จากเมื่อก่อนป่วยอาทิตย์เว้นอาทิตย์
สิ่งที่ทำให้ดิฉันต้องทุกข์ที่สุดในทุกเรื่องก็คือ การขับรถชนคนตาย ไม่สำนึกผิด
แล้วท่านอาจารย์เมตตาให้มีค่ายสร้างบุญใหญ่สำหรับคนบาปหนักในศีลข้อ 1
ท่านเมตตาให้ได้สัมผัสเห็นวิญญาณ ซึ่งดิฉันก็ได้ยินเสียงของความอาฆาตที่เค้าพูดออกมา
ว่ามึงไม่ได้สำนึกผิดด้วยใจจริงที่มึงฆ่ากู และได้ข้อคิดจากท่านอาจารย์ถึงได้สำนึกผิด
ด้วยหัวใจ และด้วยความเมตตาจากท่านอาจารย์ที่ช่วยส่งบุญทั้งหมดที่ได้มาทำที่บ้านสวน
ส่งให้คนที่เราขับรถชนเค้าตาย และท่านยังเมตตาให้ได้เห็นภาพที่ชัดเจนมากๆ คือ
ภาพผู้ชายตัวใสเป็นแก้ว มีชฎา มีวิมานแก้ว
ก็เลยทราบด้วยว่าคนที่เราขับรถชนเค้าตาย เค้าปล่อยเราแล้ว เค้าไปดาวดึงส์แล้ว
หลังจากนั้นชีวิตดิฉันก็ได้รับการปลดล็อก ได้ย้ายกลับบ้าน
การเงิน การงาน ผิวพรรณดีขึ้น
ทุกวันนี้หันมาตั้งใจรักษาศีล 5 เพราะรู้ว่าการทำผิดศีลทำให้เราต้องทุกข์
ไม่อยากสร้างเหตุแห่งทุกอีกค่ะ
สิ่งที่ได้เมื่อตั้งใจรักษาศีล รู้สึกว่าสติปัญญาดีขึ้น เข้าสมาธิได้มากขึ้น
เพราะกำลังของศีลทำให้เกิดสมาธิ สมาธิทำให้เกิดปัญญา
ไม่ผิดศีลข้อ 5 ไม่ดื่มสุรา ปัญญาก็ดีไม่ขี้หลง ขี้ลืม
ทุกวันนี้มีความสุขมากๆๆๆค่ะ
ศึกษาเข้าถึงธรรมมากขึ้นเรื่อยๆๆ เพราะ ท่านอาจารย์นำคำสอนพระพุทธเจ้ามาสอนเข้าใจง่าย
นำมาปฏิบัติอยู่ในชีวิตประจำวัน ทำให้ชีวิตดีขึ้นเรื่อยๆๆในทุกด้านค่ะ
กราบขอบคุณท่านอาจารย์อุบล ที่ทำให้ดิฉัน พ้นจากความทุกข์ พบความสุข หนูรักท่านอาจารย์ค่ะ

 

ยินดีด้วยค่ะที่พบทางประเสริฐที่ถูกจริตได้ผลดีกับชีวิต อนุโมทนาค่ะ

 

ดั่งพ่อแม่ครูอาจารย์เคยพร่ำสอนว่า กิเลศแท้นิพพานแท้ หาใช่จะอยู่ที่ ภูเขา ต้นไม้ สายลม หรือวัตถุใดๆ แต่กิเลสแท้ นิพพานหรือธรรมแท้ อยู่ที่ใจ ........ ตามความคิดของผมไม่เชื่อคำสอนใดๆ ของบ้านสวนพีระมิดและอาจารย์อุบล ...... เพราะส่วนตัวแล้วไม่ถูกกับจริตและแนวทางแต่เดิมที่เคยปฏิบัติมา.....จึงอยากแลกเปลี่ยนความเห็นในเรื่องนี้ว่า....สิทธิในการนับถือศาสนาเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนไทยทุกคนตามรัฐธรรมนูญ......ใครจะเชื่ออะไรก็เชื่อได้หากไม่เป็นการละเมิดต่อสิทธิของผู้อื่น....... แนวทางและคำสอนของบ้านสวนพีระมิดอาจเป็นเรื่องไม่จริง เรื่องหลอกลวง หรืออาจเป็นเรื่องจริงที่สามารถนำผู้เชื่อถือไปถึงจุดหมายที่คำสอนระบุไว้ ..... เมื่อใบไม้มีมากมายทั้งป่า เต็มภูเขา แต่ผมขอเพียงแต่ใบไม้เพียงกำมือเดียวที่อยู่ในพระหัตถ์ขององค์พระพุทธเจ้าสมณโคดมเท่านั้น เพราะเชื่อได้อย่างสนิทใจว่าใบไม้กำมือเดียวแต่มากด้วยสรรพคุณเปรียบเป็นทิพย์โอสถ...เพื่อรักษาโรคกรรม โรคทุกข์ ที่เป็นวัฏจักร เกิด-ดับ มานานนับชาติไม่ถ้วน ไม่ใช่ใบไม้ ใบหญ้านิรนาม ที่อาจมีคุณเป็นยาวิเศษ หรือ มีโทษ น้อย กลาง มาก ตามแต่จะสุ่มเดาเก็บมา.....เชื่อด้วยใจ....เมื่อเห็นใจก็จะเห็นกิเลส....และเห็นธรรมในที่เดียวกัน.....แล้วขึ้นเวทีระหว่างธรรมและกิเลส สู้กันให้ขาดสะบั้นจากกัน......เป็นจุดมุ่งหมายสุดท้ายของกระผม

 

ก็รู้แล้วของจริงคือธรรมะ และคำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้น ก็จะไม่หลงเดินผิดทาง ศึกษาธรรมะดีกว่า แล้วก็จะไม่ออกความเห็นใดๆทั้งสิ้นแค่บอกประสบการณ์ของตัวเองให้คนอื่นรู้ก็แต่นั้น

 

อ่านจบแล้วด้วยความขอบคุณค่ะ
เห็นกระทู้นี้มานาน เพิ่งได้มีโอกาสมาอ่านค่ะ

 

อัศจรรย์อานุภาพพุทธคุณ รูปภาพของ จี้รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี ทำให้หายป่วยได้

ข้าพเจ้าขอบอกตามความเป็นจริงว่าข้าพเจ้าไม่ใช่ลูกบ้านสวนพีระมิดและไม่เคยไปบ้านสวนพีระมิด ข้าพเจ้าไม่ใช่หน้าม้าและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับท่านอาจารย์อุบลแต่อย่างใด ข้าพเจ้าเขียนเรื่องนี้ขึ้นมาเพี่อต้องการเผยแพร่เป็นธรรมทาน ข้าพเจ้ารู้จักบ้านสวนพีระมิดจากเว็บไซด์และได้ศึกษาเว็บไซด์ของบ้านสวนพีระมิดมาหลายเดือน ข้าพเจ้าได้ save รูปภาพของจี้รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี ลงในคอมพิวเตอร์ของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าป่วยเป็นโรคคันศีรษะเนื่องจากศีรษะเป็นแผลติดเชื้อไวรัส ไปหาหมอรักษาก็ไม่หายขาด เป็นๆ หายๆ เวลาทำงาน มีเหงื่อออกที่ศีรษะจะคันมาก หมอให้ยามากิน และสเปร์ ฉีดแก้คัน ก็จะหายแบบชั่วคราว เป็นแบบนี้อยู่หลายเดือน และข้าพเจ้าป่วยเป็นโรคเผื่อนคันที่หลังด้านซ้าย รู้สึกว่าคันมาก ใช้โลชั้นและครีมแก้คันทาก็ไม่หาย เป็นมาหลายอาทิตย์
ใน วันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๑๒ ข้าพเจ้าได้อธิฐานจิตต่อหน้ารูปภาพของจี้รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี ว่า ท่านอาจารย์อุบลช่วยด้วยขอให้ลูกหายจากโรคคันศีรษะนี้ด้วยเทอญ พออธิฐานเสร็จโรคคันศีรษะของข้าพเจ้าก็หายทันที เป็นที่น่าอัศจรรย์มาก ข้าพเจ้าดีใจมาก แต่ก็ยังเหลือโรคเผื่อนคันที่หลังด้านซ้าย ข้าพเจ้าก็เลยอธิฐานจิตต่อว่า ท่านอาจารย์อุบลช่วยด้วยขอให้ลูกหายจากโรคเผื่อนคันที่หลังด้านซ้าย นี้ด้วยเทอญ พออธิฐานเสร็จโรคเผื่อนคันของข้าพเจ้าก็หายทันที ข้าพเจ้ารู้สึกทึ้งและข้าพเจ้าดีใจมาก ลูกขอกราบขอบพระคุณต่อสิ่งศักสิทธ์ทุกพระองค์ของบ้านสวนพีระมิดและท่านอาจารย์อุบลที่เมตตาสงเคราะห์ช่วยให้ลูกหายป่วยในครั้งนี้

 

...............................................
ยินดีกับคุณ thaiorchid ด้วยนะคะ ที่แค่เพียงใช้รหัส"อ.อุบล ช่วยด้วย"
พร้อมกับอธิษฐานต่อหน้าภาพจี้สามร่มโพธิ์ศรี
เพื่อเชื่อมญานกับท่านอาจารย์โดยตรง ก็เห็นผลชัดเจนทันที

ซึ่งความทึ่ง และความมหัศจรรย์เหล่านี้ เมื่อเราได้พบเอง
เราจึงเชื่อสนิทใจว่า พลังบุญมีจริง

พลังจี้สามร่มโพธิ์ศรีมหาศาลจริงๆ และที่สำคัญ
รหัส"อ.อุบลช่วยด้วย" ก็ใช้ได้ผลจริง สำหรับคนที่เปิดใจ
เชื่อมั่นและศรัทธา ในตัวท่านอาจารย์

แต่คนนอกที่ไม่เคยพิสูจน์ และ ไม่เคยได้สัมผัส
ความมหัศจรรย์แบบนี้ ก็คงจะ "สงสัย" ต่อไป

แต่ลูกบ้านสวนฯ หมดแล้วซึ่งความสงสัยในเรื่องเหล่านี้ค่ะ
เพราะได้พิสูจน์และสัมผัสด้วยตัวเองมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน

ดังนั้น พวกเราจึงพยายามบอกต่อ
เพื่อให้คนอื่นๆ ได้มีโอกาส พบความวิเศษ และ มหัศจรรย์
และพ้นทุกข์ พ้นโรค พ้นภัย เหมือนกับพวกเราบ้าง ก็เท่านั้นเอง...

แต่ใครจะเชืื่่อ หรือ ไม่เชื่อ ก็แล้วแต่ท่านจะพิจารณาเองค่ะ

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=zndKU4818ws]สาส์นจาก อ.อุบล ถึงพวกลบหลู่ดูหมิ่น - YouTube[/ame]

 

คุณ toptopmong จากคำที่คุณปรามาสรหัสสวรรค์ รหัสจักรวาลนี้ แสดงออกชัดเจนว่าคุณมีจิตใจที่วิปริต ต่ำช้าเกินมนุษย์ปรกติ เพราะอาจหาญกระทำสิ่งที่ไม่บังควรต่อเบื้องสูง ต้องลองสำรวจตัวเองซะเดี๋ยวนี้ดูนะคะว่ากำลังประสบเคราะห์กรรมใดใดอยู่หรือยัง อาทิเช่น ปวดหัวแทบระเบิด เป็นบ้าเสียสติ สติแตกกระทันหัน กินทางตูด ถ่ายทางปาก อะไรทำนองนี้ค่ะ ไม่น่าจะช้าเกินรอหรอกค่ะ

 

ในที่สุดก็อ่านจบซักที... เฮ้อ~ อ่านตั้งแต่ต้นจนจบ เห็นการถกเถียงกัน หลายครั้งมากๆเลย ทั้งผู้ที่เชื่อใน อ.อุบล และผู้ที่ ไม่เชื่อ

จริงอยู่ว่า คุณมีสิทธิ์ที่จะไม่เชื่อก็ได้ คุณวิจารณ์ได้ ปรามาสซะก็ได้ แต่ขอบเขตของการวิจารณ์ และปรามาส คงไม่ต้องทะลุไปถึงคำว่า "ด่า" ก็ได้มั๊งครับ... คำว่าปัญญาอ่อน แน่นอนครับมันอาจฟังดู ตรงไป ตรงมา สำหรับคนที่ไม่เชื่อ แต่แน่นอนครับ ไม่ว่าเป็นใคร เห็นคนที่ตัวเองนับถือ ถูกกระทบด้วยถ้อยคำนี้ ก็ต้องโมโหเป็นธรรมดา แล้วสุดท้ายเป็นไงครับ? ก็เถียงกันไม่จบไม่สิ้น... กรอบ และ ขอบเขตของการวิจารณ์ นั่นมันกว้างขวางก็จริงครับ แต่เชื่อเถอะว่า มันไม่ใช่การด่าแน่นอน

ส่วนคนที่เชื่อก็เหมือนกันครับ การที่คุณเชื่อในรหัสจักรวาล หรือประสบผลสำเร็จในการขอความช่วยเหลือ จากรหัสนั้นมาแล้ว ได้เห็นคนมาปรามาส อ.อุบล ด้วยถ้อยคำหยาบๆ แต่คุณก็เกิดความโมโห และใช้ถ้อยคำนั้นด้วยเช่นกันไม่ใช่หรือครับ ทั้งดูถูก เหยียดหยาม กดเขาลงต่ำ แล้วเชิดตัวให้สูงขึ้น... อย่างนี้แล้ว คุณจะต่างอะไรกับเขาล่ะครับ? เพราะคุณเองก็ทำเหมือนกัน ไม่ใช่หรือ???

ถ้าทุกๆท่านในที่นี้ เป็นชาวพุทธ ก็ควรรู้จัก "ปล่อยวาง" ไม่ใช่เหรอครับ ? ผมเองไม่เคยสัมผัสกับบ้านสวนฯ ไม่ได้รู้จักกับ อ.อุบล เป็นการส่วนตัว แต่ในเมื่อท่านก็ทำประโยชน์ให้สังคมหลายๆด้าน ก็นับว่าเป็นสิ่งที่ประเสริฐแล้ว ไม่ใช่หรอครับ? แล้วก็เช่นกัน ผู้ที่เชื่อใน อ.อุบล ผมก็เชื่อเหลือเกินครับว่า ท่านก็ไม่เคยสอนให้ดูถูก หรือเหยียดหยามใครเหมือนกัน แม้ว่าคนๆนั้นจะทำก็เถอะ เพราะเท่าที่อ่านๆมา ท่านก็สอนให้ทำความดี รู้จักสำรวจจิตใจของตัวเองนี่นา แล้วทำไมหลายๆคนที่บอกว่า ใช้รหัสท่านแล้วได้ผล หรือ เคยสัมผัสกับท่านแล้วทราบถึงคุณงามความดีของท่าน หรือ เลื่อมใสท่าน ถึงได้ดูถูกเหยียดหยาม สาปแช่งคนที่ไม่เชื่อเสียล่ะครับ ? ปล่อยวางเถอะครับ ปล่อยวาง เขาไม่เชื่อ ปล่อยเขาไป ส่วนคนที่ไม่เชื่อ เมื่อมองดูคนที่เชื่อ ก็ไม่ควรไปหัวเราะเยาะเขานี่ครับ เขาเชื่อของเขาแบบนั้น เขาเชื่อแล้วชีวิตเขาดี เราก็ควรยินดีกับเขา ไม่ใช่เหรอครับ...

ผมเองก็เคยใฝ่หาปาฏิหาริย์มาทั้งชีวิต ปาฏิหาริย์ที่จะทำให้ผมมีสิ่งพิเศษเหนือคนอื่น ความเหนือกว่าที่เหนือกว่าสิ่งใดๆทั้งปวง ผมเองไปมาหลายที่ ฟังมาหลายท่าน ศึกษามาหลายอาจารย์ สุดท้ายลงเอยที่อาจารย์เพียงหนึ่งเดียว ตราบจนบัดนั้นและจวบจนวันตาย อาจารย์ท่านนี้ก็จะเป็นอาจารย์ของผมตลอดไป... อาจารย์ท่านนี้ผมถือว่าเป็นผู้ที่ประเสริฐที่สุด เลิศที่สุด กว่าอาจารย์ใดๆที่ผมเคยศึกษา และไม่เคยศึกษา สูงส่งที่สุดเท่าที่บนโลกนี้จะสรรค์สร้างอาจารย์ขึ้นมาได้ แต่น่าเสียดาย ที่ท่านลาโลกนี้ไปกว่า 2,500 ปีมาแล้ว หลังจากที่ท่านได้ประกาศศาสนา และเผยแพร่ศาสนานั้นมานานหลายปี อันเป็นศาสนาของเหตุ และผล ศาสนาแห่งธรรมชาติ ศาสนาแห่งการหลุดพ้น ...ท่านผู้นั้นแหละ คืออาจารย์ของผมครับ

เลยอยากให้ทุกๆฝ่าย เข้าใจกันเถอะนะครับ จะเชื่อ หรือไม่เชื่อ คุณเองรู้อยู่ แต่ไม่ควรเอาความเชื่อ หรือไม่เชื่อ ของคนอื่นมาเป็นประเด็น ในการที่จะเป็นข้อถกเถียง อันจะทำให้มนุษย์ ไม่เป็นมนุษย์ เพราะมัวแต่แว้งกัดกันอย่างบ้าคลั่ง อันเกิดจากความเห็นต่างแบบนี้ครับ รักกันไว้เถอะ รักกันไว้ดีกว่าเนาะ ^__^

 

โอ้โห คุณไม่ใช่พระเอก .."ระบำมาร" เขียมาได้ซาบและซึ้งเหลือเกินค่ะ ในฐานะที่คุณเป็นศิษย์มีครู ขอถามหน่อยได้มั้ยค่ะ

คำว่า "ปล่อยวาง" สำหรับคุณแปลว่าอะไร??
ใช้ในสถานการณ์ไหนบ้างค่ะ??

 

สันติภาพความรักความสามัคคีคือ สิ่งที่คนดีต้องการ
กรุงศรีอยุธยาสมัยก่อนตอนเสียกรุงให้พม่า พระเจ้าตากก็ออกรบกอบกู้เอกราชและสันติภาพของบ้านเมืองกลับมา หาได้วางเฉยไม่
ยาเสพติด คอร์รัปชั่น อาชญากรโจรผู้ร้ายเต็มบ้านเต็มเมือง หากทุกฝ่ายวางเฉย ไม่ร่วมมือต่อต้าน สันติสุขของบ้านเมืองก็มิอาจจะทรงอยู่ได้
หากมีผู้คนมาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ผู้จงรักภักดีด้วยใจจริงก็มิอาจวางเฉย ต้องเข้าปกป้องปราบปราม มิอาจวางเฉย
ถ้าพระเจ้าตากสินไปพูดกับพม่าดีๆว่า "พวกท่านได้โปรดคืนกรุงศรีแก่ชาวไทยเถิด" หรือ ยืนสอนธรรมะพวกพม่า ยังนี้จะหยุดยั้งพม่าได้ไหม พระองค์ต้องเสี่ยตายรบพุ่งเพื่อแรกมาเพื่อสันติสุข
ตำรวจเมื่อเจอผู้ร้าย จะพูดดีๆ เช่น "คุณหยุดเดี๋ยวนี้ครับ ผมจะจับคุณ" หรือนิมนต์พระมาเทศน์สอนโจรให้ยอมมาเข้าคุก จะหยุดโจรได้ไหม
หากเราไม่หยุดยั้งพวกเขา พวกเขามีแต่จะถลำลึก หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง
หากมีคนลบหลู่ครูบาอาจารย์ ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบและมีเมตตาสูงต่อลูกหลาน หากลูกหลานยังวางเฉย จะเรียกว่ากตัญญูได้หรือ
หากมีคนมาลบหลู่พระพุทธองค์ โดยสร้างความหยาบคาย บิดเบือนคำสอน ผู้เป็นศิษย์ของพระพุทธองค์จะเลือก วางเฉย หรือ เปล่าครับ

 

ชักจะเพี้ยนกันเข้าไปใหญ่ละเดี๋ยวนี้