มรดกธรรมที่หลวงปู่มั่นถ่ายทอดแก่หลวงปู่กงมา จิรปุญโญ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย lionking2512, 21 มกราคม 2013.

  1. lionking2512

    lionking2512 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,525
    ค่าพลัง:
    +7,632
    หลักธรรมที่หลวงปู่กงมา จิรปุญฺโญ
    ถือเป็นแนวทางปฏิบัติและสอนธรรมเป็นหลักธรรมที่หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโตได้วางเอาไว้หลวงปู่กงมาก็จดจำได้อย่างขึ้นใจคือธรรม ๑๑ ประการ ได้แก่

    ๑.
    การปฏิบัติทางใจต้องถือการถ่ายถอนอุปาทานเป็นหลัก

    ๒.
    การถ่ายถอนนั้นไม่ใช่การถ่ายถอนโดยไม่มีเหตุไม่ใช่ทำเฉย ๆ ให้มันถ่ายถอนเอง

    ๓.
    เหตุแห่งการถ่ายถอนนั้นต้องสมเหตุสมผลธรรมทั้งหลายเกิดจากเหตุธรรมทั้งหลายดับไปเพราะเหตุพระมหาสมณะมีปกติตรัสอย่างนี้

    ๔.
    เพื่อให้เข้าใจว่าการถ่ายถอนอุปาทานนั้นมิใช่มีเหตุและไม่สมควรแก่เหตุต้องสมเหตุสมผล

    ๕.
    เหตุได้แก่สมมติบัญญัติขึ้นแล้วหลงตามอาการนั้นเริ่มต้นด้วยการสมมติตัวของตนก่อนพอหลงตัวของเราแล้วก็ไปหลงคนอื่นหลงว่าเราสวยแล้วจึงไปหลงผู้อื่นว่าสวยเมื่อหลงตัวของตัวและผู้อื่นแล้วก็หลงวัตถุข้างนอกจากตัวกลับกลายเป็นราคะ โทสะ โมหะ

    ๖.
    แก้เหตุต้องพิจารณากรรมฐาน ๕ คือ ผม ขน เล็บ ฟัน หนังด้วยสามารถแห่งกำลังของสมาธิเมื่อสมาธิชั้นต่ำการพิจารณาก็เป็นญาณชั้นต่ำเมื่อเป็นสมาธิชั้นสูงการพิจารณาก็เป็นญาณชั้นสูงแต่อยู่ในกรรมฐาน ๕

    ๗.
    การสมเหตุสมผลคือคันที่ไหนก็ต้องเกาที่นั่นจึงจะหายคันคนติดกรรมฐาน ๕หมายถึงหลงหนังเป็นที่สุดเรียกว่าหลงกันตรงนี้ถ้าไม่มีหนังคงจะวิ่งกันแทบตายเมื่อหลงกันที่นี่ก็ต้องแก้กันที่นี่คือเมื่อกำลังสมาธิพอแล้วพิจารณาก็เห็นความจริงเกิดความเบื่อหน่ายเป็นวิปัสสนาญาณ

    ๘.
    เป็นการเดินตามอริยสัจเพราะเป็นการพิจารณาตัวทุกข์ดังที่พระพุทธองค์ตรัสว่า

    ชาติปิทุกข์ ชราปิทุกข์ พยาธิปิทุกข์ มรณัมปิทุกข์

    ใครเกิด ใครแก่ ใครเจ็บ ใครตายกรรมฐาน ๕ เป็นต้นปฏิสนธิเกิดมาแล้ว แก่แล้ว ตายแล้วจึงได้ชื่อว่าพิจารณากรรมฐาน ๕ อันเป็นทางพ้นทุกข์เพราะพิจารณาตัวทุกข์จริง ๆ

    ๙.
    ทุกขสมุทัย เหตุเกิดทุกข์เพราะมาหลงกรรมฐาน ๕ ยึดมั่นจึงเป็นทุกข์เมื่อพิจารณาละได้เพราะเห็นตามความเป็นจริง

    สมคำว่า
    รูปสฺสมึปิ นิพฺพินฺทติ
    เวทนายปิ นิพฺพินฺทติ
    สญฺญายปิ นิพฺพินฺทติ
    สงฺขาเรปิ นิพฺพินฺทติ
    วิญฺญาณสฺสมึปิ นิพฺพินฺทติ

    เมื่อเบื่อหน่ายในรูป (กรรมฐาน ๕)เป็นต้นแล้วก็คลายความกำหนัดเมื่อเราพ้นเราก็ต้องมีญาณทราบชัดว่าเราพ้น

    ๑๐.
    ทุกขนิโรธ ดับทุกข์เมื่อเห็นกรรมฐาน ๕ เบื่อหน่ายได้จริงชื่อว่าดับอุปาทานความยึดมั่นถือมั่นเช่นเดียวกับท่านสามเณรสุมนะศิษย์ของท่านอนุราชพอปลงผมหมดศีรษะก็สำเร็จเป็นพระอรหันต์

    ๑๑.
    ทุกขคามินีปฏิปทา ทางไปสู่ที่ดับ คือการเป็นปัญญาสัมมาทิฐิปัญญาเห็นชอบเห็นอะไรเห็นอริยสัจ ๔ได้แก่ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรคการเห็นจริง แจ้ง ประจักษ์ด้วยสามารถแห่งสัมมาทิฐิไม่หลงคติสุขมีสมาธิเป็นกำลังพิจารณากรรมฐาน ๕ ก็เป็นองค์มรรค

    ที่มา : หนังสือแก้วมณีอีสาน หน้า ๘-๙
     
  2. photocycling

    photocycling เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    491
    ค่าพลัง:
    +1,286
    ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันค่ะ
     
  3. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,568
    ค่าพลัง:
    +4,560
    ผมขออนุญาตมั่ว....
    ฌานสมาบัติ รูปฌาน4 เมื่อพิจารณาด้วยวิปัสสนากรรมฐานแล้ว ได้ฌานขั้นนี้ และได้ญานขั้นนี้ จึงจะสามารถดับรูปได้
    ต่อไปต้องได้ฌาน8(อรูปฌาน4) ขั้นตอนนี้ จึงจะสามารถดับ เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญานได้(จะได้ญานทั้งหมด20ญานและก้าวข้ามไป)นี่...เป็นพระอรหันต์ต้องแบบนี้...จึงพ้นทุกข์..อย่านึกว่าง่ายๆ นั่นหลงทิศแล้ว....
     

แชร์หน้านี้

Loading...