ปรอทสำเร็จ ของดีจากตำนาน

ติดตามอยู่ครับ...มีอะไรดีๆภาพแปลกๆ...เป็นเนื้อหาสาระและเป็นความรู้เรื่องปรอท..มีภาพเอามาลงให้ชมกันนะครับ.....

 

ขอบคุณที่ติดตามกระทู้ครับ

 

ผมติดตามบทความอาจารย์อยู่เสมอทุกวันไม่เคยขาดครับ ขอบคุณที่นำความรู้ดีๆมาถ่ายทอดให้ได้รู้...กระทู้ดี+มีสาระครับ

 

แก้วราหูเกิดจากปรอทตัวเมีย
แก้วจักรพรรด์เกิดจากปรอทตัวผู้
แก้วทั้งสองนี้จะต้องใช้การเข้านิโรธสมาบัติด้วย4อิริยาบทและกสิน อภิญาและวิชาปรอทขั้นสูงในการทำ ส่วนแก้วโป่งขาม(ความเห็นส่วนตัว) ไม่ใช่ปรอทแต่เป็นกายสิทธิ์ไม่ก็ทนสิทธืที่มีอานุภาพตามตำราเป็ก ยันต์ คัน แสง แยง กล้วยได้กล่าวอุปเทห์และลักษณะและอานุภาพ

 

ขอบคุณคับ...*-* งั้นก้แสดงว่าแก้วโป่งข่ามมีอานุภาพด้อยกว่าปรอทกายสิทธิใช่มั้ยคับ...แล้วกายสิทธิที่อยู่ในแก้วโป่งข่ามเป็นพลังงานที่มีชีวิตเหมือนปรอทมั้ยคับ....*-* เพราะเคยได้ยินมาว่าแก้วสามารถเสด็จลอยได้

 

ขอบคุณครับพี่ที่มาติดตามกระทู้ ผมตั้งใจว่าจะขอมวลสารของอาจารย์โยธินมาให้พระอาจารย์ไพบูลย์สร้างพระสักรุ่นครับ อดใจรอหน่อย

 

แก้วโป่งข่าม จัดเป็นของทนสิทธิ์ และแก้วโป่งข่ามบางดวงมีอำนาจเป็นถึงขั้นกายสิทธิ์ได้ แก้วโป่งข่ามที่ศักดิ์สิทธิ์เกิดจากอำนาจตามธรรมชาติบวกกับเทวดาที่รักษาตัวแก้ว กายสิทธิ์ หรือ เจตสิกที่อยู่ภายในแก้ว เรียกว่าพระจักรพรรดิ์ เรื่องนี้ตอบตามความรู้ของหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ท่านกล่าวไว้อย่างละเอียด แบ่งกายในของดวงแก้วถึง ๓ ระดับคือ จุลจักรพรรดิ์ มหาจักรพรรดิ์และบรมจักรพรรดิ์ ผู้ได้สมาธิเข้าขั้นอุปจารสมาธิจะสามารถติดต่อกายในของดวงแก้วได้

กายในของดวงแก้วโป่งข่ามเหมือนกันกับปรอทสำเร็จครับ เพราะปรอทสำเร็จแต่ละชั้นก็จะมีพระจักรพรรดิ์แต่ละระดับสถิตย์อยู่ ปรอทสำเร็จชั้นสูงเป็นดวงแก้วบรมจักรพรรดิ์ มีพระบรมจักรพรรดิ์สถิตย์อยู่ ณ ภายในองค์ปรอทสำเร็จ มีอำนาจบันดาลทรัพย์ ความสุข ความเป็นทิพย์แก่เจ้าของได้เป็นอัศจรรย์


สำหรับโป่งข่ามแต่ละดวงนั้น ไม่สามารถระบุลึกถึงขนาดที่ว่ามีอำนาจมากหรือน้อยกว่าปรอท เพราะต้องดูว่าเป็นแก้วประเภทใดมาเทียบกับปรอทประเภทไหน อย่างไรก็ดี ปรอทสำเร็จซัดเป็นก้อนแข็งตัว เช่นปรอทเพชร ปรอทธาตุเมฆสิทธิ์ มีอำนาจสูงกว่าแก้วโป่งข่ามธรรมดา คือสูงกว่าแก้วปวก แก้วกาบ แก้วหมอก แก้วขนเหล็ก แก้วไหมทองครับ


ประกอบกับชีวิตของปรอทนั้นซับซ้อนและมีฤทธิ์เดชมากกว่าเจตสิกในดวงแก้ว วิชาและชั้นเชิงของปรอทนั้นเทียบได้กับเหล็กไหลครับ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ว่าทำไมวิชาปรอทจึงเป็นตำนานเร้นลับเกี่ยวข้องกับหลวงปู่เทพโลกอุดร และเป็นตำนานสร้างชื่อให้พู่พู่อ่อง แห่งเมืองมอญมาตราบจนทุกวันนี้

 

แก้วโป่งข่ามไม่ใช่ปรอทสำเร็จครับ เป็นผลึกที่ก่อเกิดเองตามธรรมชาติ ตามตำรากล่าวถึงโป่งข่ามไว้หลายชนิด เช่นแก้วน้ำหาย แก้วหมอกมุงเมือง แก้วเข้าแก้ว แก้วฝนแสนห่า แก้วขนเหล็ก แก้วเหล่านี้ล้วนเป็นแก้วโป่งข่ามทั้งสิ้น

แก้วจักรพรรดิ์กับแก้วราหู ลองไปเปิดอ่านดูจากหลวงพ่อฤๅษีลิงดำที่ท่านกล่าวถึงครูบาชุ่ม วัดวังมุย จ.ลำพูน การทำแก้วจักรพรรดิ์และแก้วราหู เวลาทำใช้ปรอทมาหุง ตอนเอาปรอทมาหุงยังไม่มีการแบ่งครับว่าปรอทตัวผู้ตัวเมีย แต่เมื่อสำเร็จแล้วถ้าสำเร็จสูงสุดเป็นแก้วจักรพรรดิ์ จัดเป็นแก้วตัวผู้มีฤทธิ์สูงสุด รองลงมาเป็นแก้วราหูลูกเล็กย่อมลงมาและประกายไม่เท่า จัดเป็นแก้วตัวเมีย

 

ความรู้พิเศษสำหรับเรื่องแก้วโป่งข่ามกับปรอทวิเศษ

แก้วโป่งข่ามเป็นสิ่งที่งอกขึ้นเองตามธรรมชาติ ชีวิตในระดับแรกของแก้วโป่งข่ามเทียบเท่ากับชีวิตเบื้องต้นของต้นไม้ มีเจตสิกรับรู้ถึงอุณหภูมิ ความชื้น ความสั่นสะเทือนและธรรมชาติรอบๆได้ เสพเอาไอธาตุดิน แร่ในดินเป็นอาหาร

ในขณะที่ปรอทมีชีวิตที่มากกว่าต้นไม้และแก้วโป่งข่าม เพราะชีวิตปฐมภูมิหรือชีวิตเบื้องต้นของปรอทนั้น รู้จักเที่ยวหาอาหาร ด้วยความที่มันเป็นภูติประเภทหนึ่ง นอกจากนี้ยังรู้จักการหลบหนี รู้จักไปตามสถานที่ต่างๆ โดยกลายสภาพไปตามสภาพแวดล้อมเช่นเป็นไอน้ำ ไอหมอก เป็นลิ่ม เป็นก้อนเหลว และเป็นก้อนแข็ง

สำหรับแก้วโป่งข่ามนั้นต้องอาศัยระยะเวลายาวนานกว่าจะมีฤทธิ์เดชถึงขั้นถอดเจตสิกไปเที่ยวได้ ไม่เหมือนปรอทที่สามารถไปไหนต่อไหนได้ตั้งแต่เริ่มต้นวงจรชีวิต

ดวงแก้วเสด็จ ที่กล่าวขวัญกันนั้น ก็มาจากสองประการคือ ดวงแก้วที่เกิดจากปรอทกายสิทธิ์และดวงแก้วที่มาจากแก้วผลึกเป็นยอดแก้วตามธรรมชาติ ถ้าดวงแก้วที่เป็นยอดแก้วตามธรรมชาติ แก้วชั้นนี้มีฤทธิ์เป็นแก้วจักรพรรดิ์ มีอำนาจไม่ด้อยไปกว่าแก้วปรอทสำเร็จครับ วันนี้ขอตอบเพียงเท่านี้ก่อนวันหน้ามาเล่าให้ฟังกันใหม่ครับ

 

ขอบคุณคับคุณทิพยจักร...*-*
ได้ความรู้มากขึ้นจริงๆจากที่เคยรู้...ปรอทเป็นธาตุที่น่าหลงไหลจริงๆ ผมว่าเค้ามีเสน่ห์ในตัวเองอย่างมาก หากมีคนนำเหล็กไหลกับปรอทสำเร็จมาให้ผม
เลือก..ผมคงจะตัดสินใจได้ในขณะนั้นเลยว่าผมจะเลือกปรอทสำเร้จเป็นแน่แท้
ตอนเด็กๆต้นเหตุที่ทำให้ชอบปรอทสำเร็จเพราะได้ยินมาว่าเมื่ออมไว้แล้วเดินทางต่อให้ไกลแค่ไหนภูเขาจะกี่ลูกก้ไม่มีเหนื่อยเลย ที่สำคัญภูติผีแลยาพิษอย่าได้มากร่ำกรายเลยแลกันได้อย่างชงัดนัก! และยิ่งมาฟังเรื่องที่คุณพ่อเล่าว่าปรอทเค้ามีชีวิตนะ หากนำไปฝังหรือบรรจุไว้ในวัตุอย่างเช่นรูปปั้นช้าง ปรอทสามารถพาช้างนั้นเหาะไปเที่ยวกันทองที่ป่าหินมพานต์ก้ยังได้ ประหนึ่งเหมือนช้างนั้นมีชีวิตก้ไม่ปาน...ผมเองพอได้ยินว่าปรอทสามารถพาเหาะไปป่าหินมพานต์ได้แถมไปเจอแหล่งที่เป้นทองคำอีกทีนี้แหละหูผึ่งเลย...นับแต่นั้นมาจึงชื่นชอบและหลงไหลปรอทสำเร็จมาตั้งเด็กๆเลย บอกไม่ถูกว่าทำมัยถึงชื่นชอบปรอทมากขนาดนี้มันเหมือนคนไม่เคยได้เจอกันมานานแสนนานแล้วมาพบเจอกันใหม่จึงดีใจเป้นอันมากเลยทีเดียว..มันเหมือนเรากับเค้าเคยเป็นเจ้าของเป็นคนสนิทที่คุ้นเคยกันยังงัยไม่รู้คับบอกไม่ถูก...อาจารย์ที่ท่านสอนกรรมฐานที่วัดมเหยงค์เคยบอกผมว่า "เอ็งมันพวกฤษีเคยอยู่แถวป่าเชียงรายกับป่าพม่า"*-*:'(

 

ปรอทที่คนโบราณนำไปใส่ไว้ในตุ๊กตาหิน เป็นปรอทสำเร็จชั้นอะโลมะประสิทธิ์ เรื่องเล่าตำนานที่โด่งดังคือ สิงโตหินของหลวงปู่ปาน วัดบางเหี้ย สมุทรปราการ เจ้าตำรับเขี้ยวเสือแกะ เล่าลือกันว่าตุ๊กตาหินของหลวงปู่ปานท่านสามารถหายไปในตอนกลางคืน ร่ำลือกันว่ามันไปกินทองคำในป่าหิมพานต์ กินอิ่มแล้วก็เหาะกลับมาที่เดิม ที่มันกินทองจริงๆก็คือปรอทมันต้องการเสพทองนั่นเองครับ เรื่องเล่าลักษณะนี้ยังมีอีกมาก เกี่ยวกับตุ๊กตาหินบินไปกินทอง ทั้งหมดคือความลับเรื่องปรอทสำเร็จทั้งสิ้น

ครูบาอาจารย์กล่าวว่าคนเราชอบสิ่งใดมันก็ของเก่าที่เคยชอบมาแล้วทั้งนั้นคนชอยทางนี้ก็เพราะเป็นลูกหลานนักสิทธิ์วิทยาธรกลับชาติมาเกิด จึงได้มาเพียรศึกษาเรื่องเหล่านี้อีกครั้ง

ขอบคุณที่คอยติดตามกระทู้ครับ

 

ด้วยความยินดีเข้ามารับชมคราบบ๋ม..*-*
เข้ามาแล้วยิ่งทำให้ได้รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับปรอทมากยิ่งขึ้น..ชอบคับ
งัยคุณทิพยจักรอย่าลืมหาเรื่องเล่าของปรอทมาลงอีกนะคับ...*-*

 

ปรอททนสิทธิ์ลูกนี้อาจารย์โยธินต้มด้วยว่านยาอยู่นาน เมื่อแกะห่อผ้าดูปรากฏว่าปรอททอสีออกเป็นสีแดงอย่างที่เห็น ทีแรกนึกว่าคราบว่านยา แต่ไม่ใช่กลับเป็นเนื้อของปรอทเอง ปรอทลักษณะนี้ค่อนข้างหายาก ท่านอาจารย์เรียกว่าปรอทแก้มแดง ตอนผมไปถ่ายภาพ ปรอทบางลูกที่อาจารย์กำลังต้มลองขออนุญาติเอาขึ้นมาดูก็พบว่าเมื่อแกะห่อผ้าออกมาจะมีสีอมแดงเรื่อๆ แต่พอโดนอากาศนานๆจะค่อยๆหายไปไม่เป็นสีแดงเหมือนตอนที่ขึ้นมาจากน้ำต้มว่านยาใหม่ๆ จะมีเพียงบางลูกเท่านั้นที่จะยังคงสีแดงเรื่อๆอยู่

สนทนากับอาจารย์โยธินเกี่ยวกับการต้มว่านยาซัดปรอททำให้รู้ว่าปรอทที่แข็งตัวจากการเคี่ยวครั้งแรกเมื่อผ่านการต้มด้วยว่านยาครั้งที่สองและครั้งที่สาม ที่สี่ ที่ห้าเรื่อยๆ ปรอทจะค่อยๆเปลี่ยนแปลงตัวเองไปเรื่อยๆ อย่างสมัยอาจารย์หล่อ ขันสวนแก้ว ท่านต้มว่านยาซัดปรอทนั้น ท่านได้ปรอทมาหลายแบบ ดังนี้คือ
๑ ปรอทกระจก คือปรอทที่ใส มันวาว ถูมือไม่ดำ และไม่ค่อยกินทอง ใช้คาดเอวแก้ปวดเมื่อยได้ชะงัดนักแล
๒ ปรอทเพชร ทำได้ยากที่สุด มีอำนาจทางหนุนดวงชะตาเพิ่มสง่าราศรีแก่เจ้าของ
๓ ปรอทปีกแมลงทับ เป็นปรอทที่ทอสีออกเป็นสีเขียวอมทองเมฆสิทธิ์ หายากไม่น้อยไปกว่าปรอทเพชร เด่นเรื่องค้ำคูณดวงชะตากันภูติผีปีศาจคุณไสยมนต์ดำเช่นกัน

ส่วนในปัจจุบันท่านอาจารย์โยธินสำเร็จปรอทไม่ด้อยน้อยหน้าไปกว่าอาจารย์หล่อ ท่านสำเร็จปรอทดังนี้คือ ปรอทชีปะขาว เป็นปรอทแข็งตัวเบื้องต้นกินทองมาก เป็นการแข็งตัวแบบไม่มีตะกั่วผสม

ปรอทเมฆสิทธิ์ คล้ายปรอทกระจก มันวาว ถูมือไม่ดำ ไม่ค่อยกินทอง

ปรอทเพชร เป็นปรอทที่ผ่านการหุงจนเกิดการตกผลึก เกิดประกายเพชรรอบๆตัว เด่นเรื่องค้ำคูณดวงชะตา

ปรอทแก้มแดง เป็นปรอทที่อาจารย์โยธินท่านขนานชื่อให้เอง เกิดขึ้นโดยบังเอิญขณะนี้ทราบว่าเกิดขึ้นแค่สององค์ครับ

ปรอทที่ผ่านการหุงขึ้นมาไม่ว่าชนิดใดอำนาจจากว่านยาและการให้ปรอทกินเงินหรือทองลงไปนั้นจะทำให้ปรอทเกิดฤทธิ์เดชในตัวสูงขึ้นตามลำดับ ดังนั้นปรอทหุงที่ถูกวิธีตามว่านยาจึงสรุปได้ว่าอำนาจปรอทนั้นมาจากการทวีอำนาจในตัวของมันเองโดยธรรมชาติประการหนึ่งและอำนาจของมันยังทวีขึ้นจากธาตุเหล็ก ธาตุเงิน ธาตุทอง ธาตุทองแดงเป็นต้นในทั้งหมดนี้ธาตุทองดีที่สุด

ปรอททวีอำนาจขึ้นด้วยว่านยาที่ซัดลงไป เรียกว่าเมื่อว่านยาทำให้มันชำระพิษออกมาเท่าไหร่ เมื่อความบริสุทธิ์ของปรอทมากขึ้นก็ทวีคุณวิเศษเพิ่มขึ้นด้วย

ที่สำคัญอีกประการหนึ่งปรอทมีฤทธิ์ขึ้นมาด้วยอำนาจแรงครูจากเทพเทวดา ฤๅษีผู้เป็นต้นตำรับ

และสำคัญที่สุดในตำราเขียนเอาไว้ว่าปรอทจะมีฤทธิ์ มีกำลังนั้นผู้หุงต้องทรงศีล ทรงสัตย์ มีคุณธรรม มีวิเวกกาย วิเวกใจ มีสมาธิ นี่แหละที่ทำให้ปรอทมีความขลังความอัศจรรย์ขึ้นมา

 

ปูเสื่อรอครับ

 

ได้ความรู้ดีมากครับ เข้ามาติดตามอ่านตลอดครับ
แล้วปรอทห้อยหรือแขวนรวมกับพระได้มั้ยครับคุณทิพยจักร

 

ถ้าจะหุงปรอทจนถึงขั้นสูงนี่คงต้องใช้ทั้งเวลา และทุนทรัพย์จำนวนมหาศาลเลยนะครับ

 

ปรอทห้อยคล้องกับพระได้สบายมากครับ ดูอย่างเบี้ยแก้ซิ ข้างในบรรจุปรอทเหลวก็สามารถพกไว้กับพระเครื่องได้

สำหรับปรอทไม่เหมาะที่จะพกไว้กับพระสายพรายสายต่ำมนต์ดำ วิญญาณ ปรอททนสิทธิ์ก็ดี พระปรอทที่ขึ้นรูปด้วยตะกั่ว เบี้ยแก้บรรจุปรอท ของเหล่านี้ข่มอำนาจภูติผีปีศาจไสยเวทย์เสน่ห์ยาแฝดทั้งปวงครับ จึงไม่ควรเอาไว้ใกล้กันหรือพกรวมกัน อนึ่งสำหรับปรอททนสิทธิ์ที่หุงขึ้นรูป ไม่ควรพกเข้าสถานที่อโคจรเพราะจะทำให้ปรอทแตก หรือเสด็จหนีหายไปครับ

ผู้บูชาปรอทควรหมั่นสวดมนต์นั่งสมาธิถือศีล อำนาจจากปรอทธาตุนอกจากค้ำชูดวงชะตาของท่านยังมีอำนาจเรียกกายสิทธิ์ชนิดอื่น เช่นเหล็กไหล คต แก้วต่างๆและทรัพย์สินเงินทองมาสู่ความครอบครองของท่านด้วย

 

วันนี้ได้สนทานทางโทรศัพท์กับอาจารย์โยธินท่านเล่าว่า ปรอทไอ้งั่งตามตำนานก็น่าจะหมายถึงปรอทแก้มแดงนี่เอง ปรอทไอ้งั่งมีสองสาย ถ้าสายมนต์ดำเขาจะหัดปรอทให้เสพเงือดและของคาว ทำขึ้นรูปเป็นไอ้งั่งใส่ปรอทแดงไว้ที่ตาทั้งสองข้างอำนาจปรอททำให้ไอ้งั่งมีชีวิตและชอบเสพเลือดและของคาวของเหม็น กลายเป็นสายดำไป ส่วนปรอทไอ้งั่งสีแดงทั่วไปไม่ได้ถูกหัดให้เสพเลือดมาแต่เดิมจะมีอำนาจทางคงกระพัน คุ้มครองมนต์ดำ แต่ไม่เสพเลือดสดหรือของคาวแบบไอ้งั่งทั่วไปครับ

ปรอทเป็นสิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติมันพยายามเพิ่มฤทธิ์ให้ตัวเอง โดยของเพิ่มฤทธิ์ให้ปรอทมีด้วยกัน ๔ อย่างคือ

๑ ปรอทเพิ่มฤทธิ์ด้วยการเสพทองคำ อันนี้ดีที่สุดรองลงมาคือเงินและทองแดง และเหล็ก

๒ ปรอทเพิ่มฤทธิ์ด้วยการเสพของสดของคาวของเน่า อันดับหนึ่งคือกินศพมนุษย์ รองๆลงไปคือการเสพซากสัตว์รองลงไปคือซากพืชและของเน่าต่างๆ

๓ ปรอทเพิ่มฤทธิ์ให้ตัวเองด้วยการเสพยาพิษ อันดับต้นๆคือ การเสพเกสรดอกลำโพง รองๆลงไปคือสารพัดพิษที่มันจะหาได้

๔ ปรอทเพิ่มฤทธิ์ให้ตัวเองโดยการเสพธาตุของว่านยา ว่านต่างๆเช่นไพล พะตะบะ พญาผีดิบ ว่านโพง เป็นต้น

ตอนหุงปรอทถ้าเอาธาตุใดเข้าปรอทก็เท่ากับว่าเป็นการหัดให้ปรอทเสพธาตุนั้น โดยมากเราจะได้ยินการให้ปรอทเสพทองเพราะเป็นมงคลที่สุด และหลีกเลี่ยงไม่ให้ปรอทเสพพิษหรือของคาว ในสายดำเข้าเลี้ยงปรอทด้วยของคาวให้ปรอทเพิ่มฤทธิ์ครับ มีฤทธิ์แรงแต่ควบคุมภายหลังไม่ค่อยได้ เท่ากับเลี้ยงพรายเลี้ยงผี แต่มีฤทธิ์กว่าผีตายโหงหลายเท่าครับ ส่วนวิธีการก็ง่ายกว่าการเข้าปรอทกับทอง เงิน ทองแดงหรือเหล็กซึ่งซับซ้อนยากและสิ้นเปลืองทรัพย์และเวลา สายดำเลยไม่ค่อยทำกันครับ อย่างไรก็ตามปรอทที่สำเร็จจาก ทองคำ เงิน ทองแดงและเหล็กจะมีอานุภาพบริสุทธิ์และเก่งกว่าปรอทที่เสพของคาว

เอามาลงเป็นความรู้เพิ่มเติม ตอนนี้อาจารย์ส่งข่าวว่าท่านหุงปรอทได้มาอีกรุ่นหนึ่งมีไม่กี่องค์ครับ ถ้าว่างจะไปบ้านอาจารย์แล้วถ่ายรูปมาให้ชมกันครับ

 

ขอบคุณครับที่ให้ความรู้ อยากได้มาบูชามั่งแล้วครับ

 

การเสกโป่งข่าม ถ้าได้ใช้คาถาจักรพรรดิ์ หลวงปู่ดู่แล้วก็ถือว่าสุดยอด รวมทั้งปรอทด้วย ยิ่งถ้าได้นำมาสวดมนต์ภาวนา ทำสมาธิร่วมกับผู้เป็นเจ้าของก็ยิ่งเสริมบารมีแก้วโป่งข่ามยิ่งๆขึ้นไป การเพิ่มพลังให้กายสิทธิ์ ไม่ว่าเหล็กไหล แก้วโป่งข่าม หรือปรอทวิเศษ ให้ใช้การอาบแสงจันทร์คืนวันเพ็ญ แต่ที่ดีที่สุดคือการนำมานั่งสมาธิ หรือการกำไว้ในมือขณะนั่ง วิธีนี้นอกจากวัตถุมงคลไม่ว่าแก้วหรือปรอทหรือพระเครื่องจะมีพลังสูงขึ้นแล้วยังเป็นการสื่อระหว่างเรากับวัตถุมงคลนั้นๆด้วย เรียกว่าจิตสื่อจิต จิตเราจะสื่อกับธาตุและความสั่นสะเทือนที่อยู่ในรูปของแม่เหล็กไฟฟ้าภายในวัตถุ ถ้าจิตละเอียดขึ้นไปจิตจะสามารถสื่อกับเทวดาที่รักษาวัตถุชั้นนั้นๆได้ครับ