รบกวนคุณ The Third Eyes ช่วยอธิบายหน่อยครับ ..

http://www.komchadluek.net/column/pra/2004/08/19/01.php


จับพลังพระเครื่องและวัตถุมงคล...



อำนาจพุทธคุณและพลังวิเศษของพระเครื่อง พระบูชา รวมทั้งเครื่องรางของขลัง ถือว่าเป็นปัญหาโลกแตก ไม่มีคำอธิบายเป็นที่สิ้นสุด ผู้มีประสบการณ์เชื่อว่า มีจริง ส่วนผู้ยังไม่มีประสบการณ์ก็หวังเพียงว่า สักวันหนึ่งจะเกิดขึ้นกับตัวเองบ้าง และความสงสัยนี้เองจึงเป็นที่มาของการ "รับตรวจพุทธคุณและพลังวิเศษขององค์พระ"
นายอาชาวิน จิรจินดา ตามนามบัตรระบุไว้ว่า เป็นผู้เชี่ยวชาญแสงออร่าและกายทิพย์ (วศ.บ เครื่องกล จุฬาฯ) รับวิเคราะห์ ออร่า กายทิพย์ และรักษาโรคกายทิพย์ ซึ่งได้เปิดรับตรวจพุทธคุณและพลังวิเศษขององค์พระ อยู่ที่ร้านค้าบริเวณของสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินกำแพงเพชร ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับตลาด อ.ต.ก.ทุกวันอาทิตย์
สำหรับความเป็นมาของการรับตรวจพุทธคุณและพลังวิเศษขององค์พระ นายอาชาวิน บอกว่า การจับพลังเกิดจากการฝึกจิตที่เป็นสมาธิ เป็นความสามารถและพรสวรรค์เฉพาะตัว โดยเอาจิตจับที่โคนก้านสมอง เมื่อพลังเข้าจะรู้สึกชา จากนั้นจะรู้สึกว่า ตัวเองเรืองแสง เมื่อมองใครจะเห็นเป็นคลื่น
คนเราเมื่อจิตเป็นสมาธิจะมีพลังพิเศษ ซึ่งเป็นคลื่นชนิดหนึ่ง เมื่อถ่ายภาพด้วยออร่าจะปรากฏเป็นสีต่างๆ เช่น แดง เขียว เหลือง เป็นต้น
สีแดง เป็นพระเครื่องที่มีพุทธคุณด้านคงกระพันชาตรี สีเหลือง แคล้วคลาด สีม่วง ป้องกันคุณไสย
นอกจากนี้แล้วอำนาจพุทธคุณยังมีระยะคุ้มครองด้วย ในขณะที่พระเครื่องบางองค์มีพุทธคุณในระยะอินฟินิตี้ ทั้งนี้พลังขององค์พระจะเป็นการคุ้มครองเฉพาะตัว ซ้อนกันอยู่เป็นเกราะใครเกราะมัน
เขาบอกด้วยว่า ถ้าเป็นพระกรุที่สร้างสมัยโบราณส่วนใหญ่จะมีพุทธคุณด้านคงกระพันชาตรี ส่วนพระที่ปั๊มออกมาก็มีพุทธคุณ แต่จะมีเพียงระยะ ๑-๒ เมตรเท่านั้น พระแท้ราคาแพงเป็นการเล่นทางพุทธพาณิชย์ พุทธคุณอาจจะเท่ากับพระองค์ละไม่กี่บาท พลังอำนาจพุทธคุณไม่ได้มีมากหรือน้อยตามราคาพระ การเช่าซื้อพระราคาแพงเป็นการโอ้อวดทางพุทธพาณิชย์
ผู้ที่จะแขวนพระให้มีพุทธคุณนั้น ต้องประกอบด้วย ๓ ปัจจัย คือ ๑.กายทิพย์ของผู้แขวน ๒.แสงแห่งความรู้สึกนึกคิด และ ๓.พุทธคุณในองค์พระ
ถ้าคนไหนเป็นคนดี เมื่อแขวนพระอำนาจพุทธคุณขององค์พระจะคุ้มครอง แต่ถ้าเป็นคนไม่มีศีลธรรม ต่อให้แขวนพระมีพุทธคุณทุกด้านพระก็ไม่คุ้มครอง
"รายได้จากการจับพลังนั้น ๗๐% จะถวายวัดทำบุญ ส่วนอีก ๓๐% เป็นค่าเช่าแผง ค่าน้ำ และค่าไฟ รายได้ประมาณวันละ ๗,๐๐๐ บาท นอกจากนี้แล้วรายได้ส่วนหนึ่งยังมาจากการให้เช่าพระเครื่องซึ่งได้มาจากผู้ที่มาจับพลัง โดยจะให้เช่าในราคา ๕๐-๑๐๐ บาท แต่ละสัปดาห์จะขายได้ประมาณ ๗,๐๐๐-๘,๐๐๐ บาท รายได้ส่วนนี้จะทำบุญถวายวัดทั้งหมด" นายอาชาวิน กล่าว
อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจจะมองเรื่องการจับพลังพระเครื่อง และวัตถุมงคลเป็นเรื่องเหลวไหลนั้น นายอาชาวิน ถือว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล พระเครื่องทุกองค์แม้ไม่ปลุกเสกก็มีพุทธคุณอยู่ในตัว เพราะเป็นองค์แทนของพระพุทธเจ้า แต่จะมีพลังพุทธคุณออกมาให้เห็นหรือไม่นั้นอยู่ที่บุญบารมีของผู้แขวนด้วย นอกจากนี้แล้วรูปภาพของพระเครื่องยังแสดงพุทธคุณได้เช่นกัน มีพลังพุทธคุณเท่ากับพระแท้องค์ละเป็นล้านบาท เพื่อความชัดเจนในเรื่องดังกล่าว "คม ชัด ลึก" ได้นำพระเครื่องและวัตถุมงคล ๗ ชนิด ไปทดสอบการจับพลัง โดยไม่ได้บอกว่ามีอะไรบ้าง และเกจิรูปใดเป็นผู้สร้าง ปรากฏว่ายางรัดผมธรรมดาๆ ซึ่งมีลักษณะเหมือกำไลมือประคำ มีพุทธคุณสามารถป้องกันผีได้ แคล้วคลาด และประสบความสำเร็จ มีรัศมีพลังถึง ๑๒ เมตร ในขณะที่ดินธรรมดาซึ่งคลุกกับผงทองคำเปลวปั้นเป็นลูกกลม กลับมีพุทธคุณด้านรักษาโรคและทำน้ำมนต์ โดยมีรัศมีพลังถึง ๑๐ เมตร

 

ผมไม่ได้จะโจมตี หรือ ลบหลู่ ประการใดนะครับ ..

เพียงแต่สนใจ การจับพลังพระเครื่อง เลยลองเสริซ์ดูในกูเกิ้ล เจอบทความนี้จึงอยากซักถามท่านว่าเรื่องราวมันเป็นประการใดครับ ..

แล้วทำไมยางรัดผมถึงมีพุทธคุณป้องกันผีได้ครับ ..

ไม่ได้ลบหลู่นะครับ แค่อยากรู้ ..

 

ยักษ์ที่ผมใช้เป็นรูปแทนตัว ทำไมดูแล้วมีพลังแรงจังครับอาจารย์ เป็นยักษ์ชื่ออะไรหรือครับ..

หรือว่าไม่มีพลังอะไร ผมอุปาทานไปเองครับ
แต่ผมดูแล้วมันมีความรู้สึกว่ามีพลังจริง ๆ

 

เรื่องแบบนี้เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคลครับ ผู้ที่สัมผัสได้เขาก็เชื่อในสิ่งที่เขาสามารถสัมผัสได้ แต่ผู้ที่สัมผัสไม่ได้ มีอยู่มากมายมหาศาล การที่จะบอกว่าพระที่เช่าหากันราคาสูงๆ มีพุทธคุณดี และพระใหม่ที่สร้างออกมาราคาไม่กี่สตางค์มีพุทธคุณมากกว่าพระเก่าที่ราคาแพง ย่อมเป็นเรื่องที่รับกันไม่ได้อยู่แล้วครับ แล้วถ้าคุณสัมผัสได้แล้วคุณจะเชื่อไหมครับว่ามีอยู่จริง ถึงบอกว่าเป็นความเชื่อของแต่ละบุคคลครับ

 

พลังรุนแรงมากครับ

 

ถ้ามีความสงสัยมาก ให้ไปทดลองวัดพลังพระเครื่องได้ที่บู๊ตโดยตรงดีที่สุดครับ ทุกครั้งที่มีการวัดพลัง เราทำด้วยความเคารพสุงสุด น้อมรำลึกถึง พระพุทธคุณเป็นที่สุด และมีการ ขออนุญาติและขอขมาทุกครั้ง เป็นเรื่องปัจจะตังจริง ๆ คนที่สัมผัสได้ ก็บอกว่ามีจริง คนที่สัมผัสไม่ได้เลยก็บอกโกหก ไปทดลองเองดีที่สุดครับ อ. ท่านเปิดกว้างอยู่แล้วไม่ว่าบุคคลนั้น จะมองว่าเป็นเรื่องเหลวไหล ก็ตามครับ

 

เรื่องทำนองนี้ถ้าเป็นนักชีววิทยาก็อาจจะไม่ค่อยยอมรับ แต่ถ้าเป็นนักฟิสิกส์ก็ไม่แน่ครับ เพราะเดี๋ยวนี้หลังจากมีการค้นพบในเรื่องของอะตอม เรื่องควอนตัม และความรู้ในเรื่องอื่นๆในลักษณะเดียวกันนี้ติดตามมา ก็ทำให้เริ่มมีนักวิทยาศาสตร์บางคนเริ่มที่จะหันมาสนใจศาสตร์ทางด้านจิตวิญญาณ และเรื่องของมิติ กันมากขึ้น เพราะรู้สึกว่าเริ่มจะเป็นเรื่องที่สามารถพิสูจน์ได้อย่างเป็นรูปธรรมแล้วล่ะครับ (มันเหมือนวนเวียนกันไปเป็นวัฏจักร ที่สุดของความเจริญทางด้านวัตถุก็ต้องย้อนกลับมาพัฒนาในเรื่องจิตวิญญาณอยู่ดี)

 

อย่าไปเน้นแค่วัตถุเลยครับ...พลังพระพุทธคุณแค่กล่าวคำ"พุทโธ"บรรดาผีทั้งหลายแหล่ก็หนีกระเจิงแล้วครับ...
ขอให้มีความเชื่อมั่นในพระพุทธคุณและถีงพร้อมด้วยศีลอันควรแก่ฐานะ (มนุษย์ศีล 5 เณรศีล 10 ภิกษุศีล 227 ฯลฯ)..เมื่อปฏิบัติดีและเป็นผู้ถึงพร้อมแล้วแม้ไม่มีวัตถุมงคลติดตัว ทั่วฟ้าจบดินย่อมคุ้มครอง..

 

ไม่ได้มีเจตนาจะขัดแย้งหรือมาป่วนแต่อย่างใดนะครับ คือผมมีเพื่อนคนหนึ่ง มีประสบการณ์เจอผีบ่อยๆ มีอยู่ครั้งหนึ่งพอเจอผีแล้ว เธอก็ท่องบทสวดมนต์ ซึ่งแน่นอนว่ามีคำว่าพุทโธอยู่ด้วยแน่นอน ผลปรากฏว่าผีท่องตามเธอได้ครับ แถมยังหัวเราะเยาะเธออีกต่างหาก ที่สุดเธอเลยต้องขู่ว่าถ้ายังไม่ยอมไป เธอจะแช่งนะ เท่านั่นแหละผีตัวนั้นถึงยอมไปครับ

หรือว่าผี(วิญญาณ)ตนนั้นจะกลัวคนแช่งมากกว่าก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะครับ (ตามข้อสันนิษฐานของผมคิดว่า อาจจะเป็นวิญญาณที่ดีเคยสวดมนต์ไหว้พระตอนยังมีชีวิตอยู่ก็เป็นได้ หรืออาจจะเป็นเจ้าที่ เลยไม่กลัวคำสวดมนต์น่ะครับ คงแค่มาหยอกๆหรือมาแกล้งเพื่อนผมเล่นๆเท่านั้นเอง......)

 

ข้อความเดิม Chaiyaboon
.........................เพื่อความชัดเจนในเรื่องดังกล่าว "คม ชัด ลึก" ได้นำพระเครื่องและวัตถุมงคล ๗ ชนิด ไปทดสอบการจับพลัง โดยไม่ได้บอกว่ามีอะไรบ้าง และเกจิรูปใดเป็นผู้สร้าง ปรากฏว่ายางรัดผมธรรมดาๆ ซึ่งมีลักษณะเหมือกำไลมือประคำ มีพุทธคุณสามารถป้องกันผีได้ แคล้วคลาด และประสบความสำเร็จ มีรัศมีพลังถึง ๑๒ เมตร ในขณะที่ดินธรรมดาซึ่งคลุกกับผงทองคำเปลวปั้นเป็นลูกกลม กลับมีพุทธคุณด้านรักษาโรคและทำน้ำมนต์ โดยมีรัศมีพลังถึง ๑๐ เมตร


เวลาว่างๆไม่มีอะไรทำ เคยเล่นกับลูกชาย
เอากระดาษทีซซู่ มาห่อพระบ้าง ก้อนหินบ้าง ประมาณสัก 7-8 ก้อน แล้วให้ลูกชายทดลองจับพลังดู ว่ารู้สึกอยางไร ลูกชายก็สามารถแยกออกได้ว่อะไรเป็นอะไร
ตอนหลังพอมันเพลอ เอบอัดพลังลงในหินก้อนเดิมนั่นแหละ แล้งลองให้มันจับพลังดู ไอ้เจ้าลูกชายมันก็ตรวจออกอีกนั่นแหละว่า ของชิ้นนี้มีพลังผิดจากเดิม

ตอนหลังแกล้งมันอธิฐานขอแบ่งพลังจากพระ(COPY) องคที่อยู่ข้างๆมาใส่ในกระดาษทิซซู่เปล่าๆที่ขยำเป็นก้อนกลม แล้วให้มันทดสอบ ปรากฎว่ามันก็ยังจับได้แถมบอกว่าพลังในทิซซุ่ก้อนนี้เหมือนกับพระองค์นั้นเลย

เอ้....งานนี้มีอะไรซ่อนเงื่อนหรือเปล่าหว่า....
ของง่ายๆแบบนี้เรายังเล่นกันได้นี่หว่า
และพวกเราในเวฟนี้ก็ยังเคยเล่นกันเป็นกีฬาทางจิตกันอยู่

ยิ่งคุณโคมฉาย ไม่ต้องพูดถึง ท่านอัดพลังลงในวัสถุต่างๆให้เห็นกันจะๆต่อหน้าเลย แล้วให้พวกเราตรวจเช็คประสาทสำผัสกันดู
โดยเฉพาะกำไรข้อมือ(ริสแบน) มีผู้ชอบให้อัดพลังให้เป็นประจำ

 

จริงค่ะ..เจอมากับตัวเหมือนกัน...
สวดอิติปิโส ยังงัยก็ไม่ไปหนึบหนับจับขาอยู่นั่นแหละ - -"

แต่ถ้าสวดคาถาบทนึงที่ชื่อว่า คาถาพญายม อันนี้รับรองเลยค่ะ ผีกระเจิงจริงๆ^^

 

ถ้าเป็นผีที่มาประสงค์ร้าย...ยังไงเจอคำว่า"พุทโธ"ก็อยู่ไม่ได้ครับ...ยังไงผมก็รับรอง 100% เพราะเคยเจอกับตัวมาแล้ว ขอให้มีความเชื่อมั่นในพระพุทธคุณจริงเท่านั้นแหละครับ...อย่าท่องมนต์ไปแล้วกลัวไป..กว่าจิตจะเริ่มมีกำลังไล่ผีได้..ก็ท้ายของบทสวดแล้วครับ

 

คุณ Chaiyaboon ครับ ผมคิดว่า อาจารย์คงไม่มาตอบอีกหรอกครับ เพราะอาจารย์เคยตอบคำถามนี้มาแล้ว (ถ้าผมจำไม่ผิด) ตั้งแต่สมัยที่เล่นอยู่ในห้องลึกลับ เวบพันทิป หลายปีมาแล้วครับ...ความเชื่อ ความศรัทธา เป็นเรื่องส่วนบุคคลครับ..

 

เรียนทุกท่าน ..

ผมว่าผมอยากจะรอคำตอบของอาจารย์ดีกว่าครับ ..

การที่ทุกท่านที่เข้ามาตอบว่า เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง

และคิดว่าอาจารย์ต้องมีเหตุผลของท่านมากกว่าจะพูดว่าเป็นความเชื่อส่วน

บุคคล คนเราจะเชื่ออะไรก็ย่อมเชื่อได้ แต่ความจริงมีอยู่ เช่น หม่ำมีความเชื่อ

ว่าจะไปกาฬสินธุ์ แต่คนขับรถพาไปกาญจนบุรี คุณหม่ำจะเดินทางไปถึง

กาฬสินธุ์อย่างที่ตั้งใจไว้หรือเปล่าครับ เชื่อคือเชื่อ จริงก็คือจริง ..

หรือบางคนสมัยก่อนเชื่อว่าการดื่มโค้กช่วยทำให้สมรรถภาพทางเพศดีขึ้น แล้ว

มันจริงที่ไหนล่ะครับ มันก็เป็นความเชื่อแบบผิด ๆ

หรืออาจจะกล่าวว่าเป็น "มิจฉาทิฐิต" ก็ย่อมได้

ผมว่าอาจารย์คงไม่พูดแบบไม่มีเหตุผลแบบนี้แน่ ๆ ครับ ผมพร้อมที่จะฟัง

เหตุผลมากกว่าจะเชื่อแบบงมงาย

ปล. ผมไม่ทราบเรื่องพันทิพย์ครับ ไม่ทราบพอจะมีใครทำลิงค์ให้ผมไปอ่านได้

หรือเปล่าครับ

ขอบคุณครับ

 

การที่คุณ Suwi พูดแบบนั้น จะให้ผมเข้าใจว่า ทางทีมงานคมชัดลึก ก๊อบปี้

พลังพระเครื่องใส่ลงไปยางรัดผม หรือ ก้อนดินหรือครับ

 

ศรัทธา คือ ความเชื่อ
ถ้ามีความศรัทธาคุณคงเชื่อ
ไม่ผิดหรอกถ้าคุณจะพิสูจน์คุณไปสัมผัสได้อย่างที่คุณ chaya บอก
ถามว่าผมเคยไปรึยัง ตอบว่ายัง
แล้วทำไมถึงเชื่อ เพราะ ศรัทธา
ง่ายๆมีส้มเขียวหวานหนึ่งเข่งมันมีทั้งบางลูกเปรี้ยวบางลูกหวานคละกันอยู่ในเข่ง
คุณชิมเองคุณก็รู้เอง

 

เว็ปพุทธศาสนา ยอดนิยมอันดับที่ 1


ผมกำลัง งงกับตัวเองว่าเข้าเวปถูกหรือเปล่า ..


ไม่ใช่ว่าผมบอกว่า ผมไม่เชื่อ หรือตั้งใจมาหาความ เพียงแต่ผมพบข้อความนี้จากการเสริซกูเกิ้ล

ผมอยากจะได้คำตอบแบบ "ปกิจจสมุปบาท" ว่าเพราะเหตุใดอาจารย์จึงบอกว่า ยางรัดผมหรือ

ก้อนดินคลุกแผ่นทองถึงมีพลังได้ แต่คุณบอกให้ผมไปเลือกส้มมากิน งง..

ผมลองเข้าพันทิพย์ไปหาแล้ว ไม่เจอครับ อยากทราบจริง ๆ ว่าอาจารย์อธิบายเหตุ ไว้ว่าอย่างไร

ใครทราบลิงค์ช่วยลงให้ด้วยนะครับ

ขอบคุณครับ

 

ศรัทธาควรเจริญคู่กับปัญญาครับ พระพุทธองค์ท่านทรงสอนไว้..

 

เดิม ผมเป็นวิศวกร ไม่เคยเชื่อเรื่องราวเหล่านี้เลย
บังเอิญได้ไปพบผู้เฒ่าท่านหนึ่ง ท่านได้สอนวิธีการฝึกสามาธิให้ และพร่ำสอนอยู่เสมอว่า สิ่งที่รู้ที่ห็นจากสมาธิ อย่าเพิ่งเชื่อ ให้ทดสอบแล้วทดสอบอีก ทดสอบในหลายแง่หลายมุม ทดลองทำซ้ำอีกหลายๆครั้ง แต่ละครั้งให้ผลเหมือนเดิมหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ เป้นเพราะเหตุใด ผลจึงเพี้ยนไป ต้องอธิบายได้อย่างหมดจด

และเมื่อทดสอบจนมั่นใจแล้ว จึงค่อยเชื่อแล้วให้หลอมความรู้นั้นเข้าไปเป็นหนึ่งเดียวกับ กายธาตุ-จิตวิญญาณตัวเอง ยังให้เกิดสภาพธรรม "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน"

สิ่งที่ผมรู้ สิ่งที่ผมเห็น และสิ่งที่ผมเป็น สิ่งที่ผมเคยทดลองเกี่ยกับพลังพระเครื่อง การอัดพลังลงในวัสถุต่างๆ ผมเห็นกับตาตัวเอง และตัวเองก็สามารถทดสอบได้ ยากที่จะโดนหลอก

เมื่อก่อนเคยคิดว่าการอัดพลังลงในองค์พระ หรือวัสดุใดก็ตาม จะต้องทำพิธีกันเป็นเรื่องเป็นราว มีแต่พระสงฆ์เท่านั้นที่จะทำได้ แต่หลังจากเข้ามาอยู่ในแวดวง กลับพบว่าแม้แต่ฆารวาสที่มีสมาธิดี ก็สามารถอัดพลังลงในองค์พระได้ในพริบตาเดียว บางคนเพียงกวาดตามองก็สำเร็จแล้ว และในประเทศไทยเราคนลักษณะนี้มีจำนวนมากทั้งเป็นนักบวชและฆารวาส และลักษณะของพลังในวัสถุก็ขึ้นอยู่กับจริตของผู้อัดพลัง และพลังงานในวัสดุที่ถูกอัดพลังจะอยู่ประมาณ 7-15 เมตร แล้วแต่อำนาจสมาธิและการฝึกปรือของผู้อัดพลัง(และอำนาจพระอาจารย์ที่น้อมเชิญมาช่วยทำ)

ในวัสดุธรรมชาติทีมีอายุเป็นพันเป็นหมื่นปี ก็มีพลังธรรมชาติของตัวเองอยู่ เช่นหินโปงข่าม จุยเจีย หินหยก ฯลฯ แม้แต่ก้อนหินบางก้อนที่อยู่ข้างถนน ก็มีพลังประจำตัวของมันอยู่ แต่พลังมันไม่สูงมากนักจะอยู่ประมาณ 3-7-8 เมตรโดยปรมาณ

แต่ของที่ทดสอบกันมีพลังตั้ง 10-12 เมตร มันมากเกินกว่าที่จะมีเหตุบังเอิญให้ได้รับพลังโดยธรรมชาติ พลังขนาดนี้น่าจะเป็นพลังที่เกิดจากความจงใจมากกว่า

เหตุบังเอิญที่กล่าวถึงอาจเป็นไปได้ว่า วัสถุชิ้นนั้นได้ถูกรวมไว้ในห่อเดียวกันกับพระเครื่องที่มีอานุภาพสูงมากๆ และวัสถุชิ้นนั้นได้ดูดซับพลังจากองค์พระไว้ทำให้ตัวเองมีพลังไปด้วย(ในชั่วระระเวลาหนึ่ง)แต่ก็ไม่ควรจะมากไปกว่า 7-8 เมตร(นี่ให้เครดิตสูงมากๆแล้วนะ)

คนที่มีพลัง(แม้แต่ตัวผมเอง)ชอบที่จะเสาะหาสิ่งที่วิเศษกว่าสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ เพื่อที่จะพัฒนาตัวเองให้มีฝีอมืสูงขึ้น เมื่อผมพบ อ.อาชวิน แน่นอนผมต้องลองของแน่ และได้พบว่ามีหลายประการที่ท่านเหนือกว่า พอที่จะให้ความรู้เพิ่มเติมแก่ผมได้ จีงเรียกท่านว่า อาจารย์ อย่างเต็มปาก
(กราบขอขมาอาจารย์อาชวิน มา ณ ที่นี้ด้วย ที่บังอาจลองของหลายครั้งหลายหน)

 

แม้แต่ตัวคุณเอง ก็ปรารถนาความกระจ่างในเรื่องนี้

และใจลึกๆก็ปรารถนาศึกษาให้รู้ ให้เห็น ให้เป็น ในเรื่องของพลังจิตมากเท่าที่มากได้

ถ้าเป็นไปได้น้อมเชิญไปคุยกันที่บูทของอาจารย์อาชวินครับ พวกเราไม่มีใครหวงความรู้