ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ สาธุๆๆ ช่วงนี้เงียบจังเลยครับ คุณน้ำใส ไปร่วมบุญแห่งใดหนอ ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ
ผมรอร่วมบุญอยู่นะครับ ด้วยมโนอันเป็นกุศลแท้จริง

 

มีเรื่องราวดีๆ มาให้อนุโมทนาบุญกันค่ะ

“ สวดมนต์ข้ามปีทำความดีส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ”

เมื่อวันที่ 31 ที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันสิ้นปี ดิฉันกับพี่น้ำใสได้ไปสวดมนต์ข้ามปี ที่วัดเขาวง สระบุรีมาค่ะ
บรรยากาศสบายๆ อากาศเย็นกำลังดี พิธีเริ่มตอน
• ห้าโมงเย็น เป็นพิธีบวงสรวงขอสร้างพระปัจเจกพุทธเจ้า
• หกโมง สวดมนต์เย็น จนถึงสองทุ่ม นั่งสมาธิ
• เริ่มสวดมนต์ข้ามปีเวลา ห้าทุ่มครึ่งจนถึงเที่ยงคืนสิบห้านาที เป็นอันจบพิธี

มีความสุขมาก บรรยากาศโดยรอบของวัดเงียบสงบ และสวยงาม ผู้ที่เข้ามาสวดมนต์เป็นระเบียบเรียบร้อย
ที่สำคัญนอกจากอิ่มบุญแล้วยังอิ่มท้องด้วยค่ะ (มีข้าวต้มรอบดึกพร้อมน้ำเต้าหู้ร้อนๆ กับขนมปังกรอบใน
บรรยากาศเย็นๆ ที่ผู้ใจบุญนำมาออกโรงทานค่ะ)

และในช่วงบ่ายของวันที่ 1 หลวงตาทำพิธีสะเดาะเคราะห์ ให้โชคดีรับปีใหม่ตลอดปีและตลอดไป







อานิสงค์ที่เกิดจากการสวดมนต์ในครั้งนี้ขออุทิศถวายแด่ท่านท้าวสหสบดีพรหม, องค์เทพเทวา ประจำ
ครอบครัวและธุรกิจของข้าพเจ้า รวมถึงกัลยานมิตรทุกๆท่าน ผลบุญทั้งหมดทั้งมวลนี้จะมีประโยชน์และ
ความสุขแก่ข้าพเจ้าเพียงใด ขอให้ท่านทั้งหลายพึงได้รับผลนั้นเช่นเดียวกับข้าพเจ้านับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ

 

ขออนุโมทนาบุญด้วยน่ะครับ ปิดกองบุญ วันที่ 31 มกราคม 2556 นี้ครับ ^^
สาธุ ๆ

 

ขออนุโมทนาบุญกับคุณหมอและครอบครัวด้วยค่ะ ขอให้สำเร็จตามความปรารถนาทุกประการค่ะ

Numsai

 

ขออนุโมทนาบุญกับเจ้าภาพ และทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

Numsai

 

..สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๖ อีกครั้งค่ะ...

เปิดดูไฟล์ พระพุทธวิปัสสี.bmp ​

ก่อนอื่น ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ ที่หายไปหลายวัน ติดภารกิจหลายอย่าง ตั้งแต่วันที่ ๒-๓ มกราคม ๒๕๕๖ ได้อุปัฏฐากพระภิกษุ ๒ รูป ที่เพิ่งผ่านการอบรมวิปัสสนาจารณ์ ณ.วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม จ.ราชบุรีมาค่ะ

ดิฉันได้ถวายปัจจัยเป็นเจ้าภาพช่อฟ้ามหาเจดีย์ วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม จ.ราชบุรี กองละ ๕๐๐๐ บาท ได้กองที่ ๒๒๘ โดยนำปัจจัยจากกองบุญแก้วบรมจักรพรรดิ ถวายแด่พระทศพล ปัญญาสิริ ในวันที่ ๓ มกราคม ๒๕๕๖ ที่ผ่านมาค่ะ

นอกจากนี้ยังได้ถวายภัตตาหารเพล น้ำปานะ และถวายค่าพาหนะ รูปละ ๑๐๐๐ บาท โดยนำปัจจัยจากกองบุญฯ มาร่วมบุญครั้งนี้ อีก ๒๐๐๐ บาท เพื่อให้ท่านทั้งหลายได้มีส่วนในบุญครั้งนี้ด้วยค่ะ

หากท่านติดตามกระทู้กองบุญจะเห็นได้ว่า ปัจจัยที่เหลือจำนวนไม่มากนัก นับแต่นี้ไป

ดิฉันเองตั้งใจว่า จะนำปัจจัยในแต่ละปี ต่อบุญให้ทุกท่าน เหลือค้างบัญชีต่อปี ไม่เกิน ๕๐๐ บาท เพื่อต่อบุญในปีต่อไป เว้นแต่มีกิจต้องใช้ปัจจัยก้อนใหญ่ เพื่อสร้างบุญเฉพาะกิจในปีนั้น ๆ หรือถึงเวลาที่จะสร้างพระพุทธรูป อันเป็นตัวแทนของสมเด็จพระพุทธวิปัสสีในอนาคตข้างหน้า

ทั้งนี้ เนื่องจากพิจารณาว่า ชีวิตคนเรานั้นไม่แน่นอน หากมีอะไรเกิดขึ้นในวันข้างหน้า อย่างน้อยจำนวนที่ติดหนี้สงฆ์ไม่มากนัก

จึงเรียนมาเพื่อให้ทุกท่านทราบ และขออนุโมทนาบุญมา ณ.ที่นี้ด้วยค่ะ

Numsai

 

..จากสำนักพระยายมราช ....ที่มาของพระภิกษุ ๔๓ รูป...

เรื่องนี้ เป็นปัจจัตตัง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๕ ที่ผ่านมา

ดิฉันได้รับโทรศัพท์จากกัลยาณมิตรท่านหนึ่งว่า กัลยาณมิตรชายท่านหนึ่งที่เรารู้จักคุ้นเคยกันมา เสียชีวิตแล้ว ขณะที่ไปทำบุญทางภาคเหนือ

เมื่อได้ทราบข่าวก็รู้สึกใจหายเล็กน้อย แต่คิดว่า ท่านผู้นั้นมีบุญมาก ได้อุปัฏฐากพระอริยเจ้าหลายรูป บุญนี้น่าจะส่งผลให้ไปสุคติภูมิ จึงได้พูดปลอบใจกัลยาณมิตรท่านนั้นว่า

"อย่าเสียใจไปเลย ท่านไปดีแล้ว เราต่างหากที่ต้องพิจารณาให้ดี หากมีเวลาพี่จะตามไปดูให้ท่าน ท่านอยู่ที่ไหน"

จากนั้นก็เป็นเรื่องแปลกว่า ติดภารกิจหลายอย่าง ผ่านไปถึงสองวัน ขณะนั้นเป็นเวลาค่ำ (ขออภัยที่จำเวลาแน่นอนไม่ได้ค่ะ) นึกถึงกัลยาณมิตรผู้เสียชีวิต เมื่อนึกถึงท่านก็ปรากฏที่บ้าน แล้วถามว่า "ครูครับ ครูเรียกผมหรือครับ" จึงกล่าวกับท่านว่า

" ขอให้โมทนาบุญกับพี่ก่อนนะ" ยังไม่ได้คุยกันต่อ ปรากฏว่า ท่านผู้นั้นก็หายไป จึงได้สอบถามเทพธิดาผู้นั้น (ปัจจุบันอยู่สวรรค์ดุสิต) ท่านบอกว่า

"ขณะนี้มีการพิพากษาอยู่ หากจะไปเป็นพยานบุญให้รีบไป"

จึงนั่งสมาธิกำหนดจิตทันที ขออาราธนาบารมีองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปปรากฏต่อหน้าท่านพระยายมราช ได้พบพระอริยเจ้าหลายรูป แต่รู้จักเพียง ๒ รูปเท่านั้น พระอริยเจ้าทั้งหลาย จะมีเก้าอี้นั่ง อยู่ฝั่งขวามือของท่านพระยายมราช (คนละส่วนที่ดิฉ้นยืนอยู่)

ส่วนตำแหน่งที่ดิฉันยืน จะติดกับท่านสุวรรณ นายบัญชีฝ่ายความดี เพื่อเป็นพยานบุญ ตรงข้ามจะเป็นท่านสุวาร ฝ่ายพยานบาป

วันนั้นสำนักพระยายมราช สว่างไสวเป็นพิเศษ ด้วยแสงแห่งพระอริยเจ้าทั้งหลาย (ของดเรื่องการละเอียดการพิพากษา เนื่องจากท่านไม่อนุญาตค่ะ)
หลังการพิพากษาแล้ว มีราชรถมารับเทพบุตรใหม่ขึ้นไปอยู่ดาวดึงส์ เพียงชั่วคราว เพื่อเรียนรู้วิปัสสนาญาณ จากนั้นก็จะเคลื่อนไปพระนิพพานต่อไป

ท่านพระยมราช กล่าวว่า "ลูกอย่าเพิ่งไปนะ พ่อมีเรื่องจะคุย" จากนั้นภาพท่านก็หายไป ได้รออยู่ที่เดิม เมื่อพระอริยเจ้ากลับ บรรยากาศโดยรอบ สู่สภาวะปกติ คือ มืด ๆ ทึม ๆ น่ากลัว มีเพียงแสงไฟตั้งอยู่เป็นระยะ ๆ พอมองเห็น คล้ายเวลาตีห้า

สักครู่ใหญ่ ท่านพระยายมราชกลับมา กล่าวว่า "ลุกเอ๋ย..ลูกจะเต็มใจช่วยมั๊ย" จึงกราบเรียนท่านว่า "ลูกเต็มใจช่วย หากสามารถช่วยได้เจ้าค่ะ "

ท่านจึงกล่าวว่า "ขณะนี้มีพระประมาณ ๔๐ กว่ารูป เพิ่งขึ้นมาจากขุมนรกในยมโลก รอเปลี่ยนขุมใหม่ ลูกจะช่วยมั๊ย"

จึงกราบเรียนท่านว่า "หากไม่เกินกำลัง ลูกก็จะช่วยเจ้าค่ะ ไม่ทราบว่า จะช่วยอย่างไรเจ้าคะ " ท่านกล่าวต่อไปว่า

"เห็นแก่พุทธบุตรที่ตั้งใจบวช เพื่อสืบต่อพระศาสนา พระภิกษุเหล่านี้ไม่ได้มีกรรมหนัก เพียงแต่ก่อนตายจิตเศร้าหมอง นึกถึงบาปที่เคยทำก่อนบวช ทำให้จิตเศร้าหมองไปใช้กรรมในนรกก่อน เวลานี้ขึ้นมาจากขุมนรกย่อย รอพิพากษาใน ๑๕ วัน ให้สร้างพระ ๒๑ ศอก วัดท่าขนุนให้ท่านเหล่านั้น ก็จะไม่ต้องพิพากษาอีก"

เมื่อท่านกล่าวจบ เห็นภาพพระภิกษุหลายรูป นั่งเป็นแถวอยู่ในห้องมืดสลัว ๆ กำลังหลับตานั่งสมาธิ บางรูปบริกรรมคาถาอยู่ ทุกรูปมองเห็นเป็นภาพไม่มีเลือดเนื้อ หน้าซีด แบบคนตาย บางรูปแก่ บางรูปหนุ่ม แต่สภาพไม่ต่างกัน

เมื่อเห็นแล้วรู้สึกสงสาร จึงกราบเรียนถามท่านว่า "ไม่ทราบว่า พระภิกษุเหล่านี้ เคยเป็นญาติของลูกหรือไม่เจ้าค่ะ "

ท่านตอบว่า "มีเพียงรูปเดียว ตั้งแต่สมัยหลังพุทธกาล ๓๐๐ กว่าปี เคยเป็นญาติของลูก นอกจากต่างกรรมต่างวาระ"


จึงรับปากกับท่านว่าจะอุทิศบุญให้ จึงเรียนถามท่านว่า มีกี่รูป เดิมทีมี ๔๒ รุป ภายหลังเพิ่งขึ้นมาอีก ๑ รูปรวมเป็น ๔๓ รูป

ท่านพระยายมราชกล่าวว่า "ลูกมีเวลานับแต่นี้ไป ๑๕ วัน(ตามอายุขัยมนุษย์) เพื่ออุทิศบุญให้ท่านเหล่านี้ พ่อขอขอบใจมากที่ช่วยนะ"

จากนั้นจึงได้ถวายบุญให้ท่านพระยายมราช และนายนิริยบาล จากนั้น จึงกราบลาท่าน และออกจากสมาธิ

ผลบุญใดที่ได้จากการให้ธรรมทานครั้งนี้ ขอน้อมถวายบุญแด่ท่านพระยายมราช ท่านสุวรรณ ท่านสุวาร และนายนิริยบาลทุก ๆ ท่านด้วยเถิด สาธุ...

เรื่องของพระภิกษุ ๔๓ รูป ขอจบเพียงเท่านี้ค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

Numsai

 

วันนี้ได้ไปกราบท่านพระยายมราช ท่านกล่าวว่า...

"พระภิกษุทั้ง ๔๓ รูป ไปพรหมโลกบ้าง ไปสวรรค์บ้าง ตามกำลังบุญของแต่ละท่าน บัดนี้ได้เข้าสมาบัติรอจุติในยุคพระยาธรรมิกราชต่อไป เพื่อรักษาพระศาสนาให้ครบ ๕,๐๐๐ ปี พระภิกษุบางรูป เป็นพระโพธิสัตว์ ขณะนี้อยู่ที่พรหมโลก"


หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงว่า.. "เราขอบใจพวกเธอมากนะ ที่ช่วยอุทิศบุญให้ครั้งนี้ ขอให้เธอทั้งหลาย จงเจริญในธรรม รักษาใจไว้อย่าให้จิตเศร้าหมอง ทำจิตให้แจ่มใส เพื่อไม่ให้ตกสู่อบายภูมิ เรารู้ซึ้งถึงโทษของการไม่รักษาจิตแล้ว ขอเธอจงนำเรื่องนี้ เพื่อเป็นธรรมทานต่อไป"

ขอผลบุญแห่งการให้ธรรมทานครั้งนี้ จงบังเกิดแด่อดีตพระภิกษุทั้ง ๔๓ รูป ด้วยเถิด สาธุ...

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

Numsai


หมายเหตุ เดิมทีตั้งใจว่า จะทำบุญนี้เป็นการส่วนตัว แต่เมื่อพิจารณาแล้ว การนำปัจจัยจากกองบุญ ฯ จะยังประโยชน์ให้แก่ท่านที่มีส่วนในบุญในอนาคต จึงได้โอนปัจจัยจากกองบุญแก้วบรมจักรพรรดิ ๒๐๐๐ บาท

ท่านพระยายมราช กล่าวว่า การสร้างบุญนี้มิได้อยู่ที่จำนวนเงิน แต่อยู่ที่จิตอันเป็นกุศลที่บริสุทธิ์ ส่งผลให้ได้มากกว่า ท่านบอกว่า ทำเพียง ๒๐๐ บาทก็ได้ ดิฉันพิจารณาว่า ปัจจัยส่วนนี้ ยังประโยชน์แก่วัดท่าขนุน เนื่องจากทางวัดต้องใช้ปัจจัยจำนวนมาก จึงโอนไปทั้งสิ้น ๒๐๐๐ บาทค่ะ

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบค่ะ

 

อนุโมทนาในบุญกุศลและธรรมทานกับ พี่น้ำใส ด้วยนะครับ
ได้รับความรู้จากพี่น้ำใส อีกแล้วครับ ขอบคุณมากครับ

 

ขออนุโมทนาบุญกับน้องธรรมวิวัฒน์เช่นกันค่ะ เรื่องนี้ทำให้พี่ต้องรีบโอนจากกองบุญให้เหลือในบัญชีน้อย ๆ จ๊ะ

เรื่องของการเจริญภาวนาเป็นเรื่องสำคัญมาก บางท่านอาจจะว่า เราสร้างพระใหญ่เกิน ๔ ศอกแล้ว ชำระหนี้สงฆ์แล้ว ได้มีชื่อในบัญชีทองแล้ว ไม่ต้องนั่งสมาธิก็ได้ นี้ถือว่า ยังประมาทอยู่ค่ะ

เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ได้อย่างดี ท่านพระยายมราชกล่าวว่า พระภิกษุทั้ง ๔๓ รูปนั้น ขณะที่ท่านดำรงขันธ์อยู่นั้น ไม่เคยละเมิดในศีลเลย รักษาศีลบริสุทธิ์ เพียงแต่ก่อนมรณภาพ จิตฟุ้งซ่านไปนึกถึงบาปเก่าก่อนบวชเข้า และไม่เคยฝากบุญกับท่าน จึงพลาดลงนรกขุมย่อยในยมโลกทันที

แม้แต่กัลยาณมิตรที่กล่าวข้างต้นของเรื่อง นั้น ท่านบอกว่า เนื่องจากจิตไม่หมองไม่ใส เป็นเหตุให้ผ่านการพิพากษาที่สำนักพระยายมราช

พี่เองก็ต้องกลับมาพิจารณาถึงเรื่องนี้เหมือนกัน เมื่อใดจิตเศร้าหมอง รีบปรับจิต ทันที นึกถึงความตายทันที อย่างน้อยก็ช่วยลดงานท่านพระยายมราชลงไปได้ก็ยังดีค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับน้องอีกครั้งค่ะ

Numsai

 

เป็นธรรมทานที่ดีมากครับ ทำให้คิดว่าต้องนั่งสมาธิให้มากขึ้น
ผมก็จะน้อมนำไปปฎิบัติเจริญภาวนาครับ เพื่อท่านพระยายมราชจะได้ทำงานได้น้อยลง
และเป็นการซ้อมตายไปในตัวครับ เพื่อความไม่ประมาทในชีวิตครับ

 

ขอกราบโมทนาบุญด้วยทุกประการครับ
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

 

ขออนุโมทนาบุญ ธรรมทานอันประเสริฐ กับคุณน้ำใสและทุกท่านครับ สาธุๆๆ

 

ขออนุโมทนาสาธุ กับธรรมทาน ของพี่น้ำใส และทุกๆท่าน คะ สาธุคะ

 

สาธุๆๆ น้องขอน้อมอนุโมทนาบุญด้วยค่ะพี่น้ำใส ได้อ่านธรรมทานแล้วได้ข้อคิดดีๆ
ได้ย้อนคิด นึกถึงตัวน้องเองว่าตัวเราทำอะไรอยู่ พิจารณาจิต รีบปรับจิตตัวเองทันที
หนูดี

 

ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 19 คน ( เป็นสมาชิก 12 คน และ บุคคลทั่วไป 7 คน ) [ แนะนำเรื่องเด่น ]
Miss Brown*, กำไรข้อมือ, fahmui, จันทระ, วัดชรา, จันทรกาล, Paktawadee, แหมบศรี, NamfonBaanfa, nouk, หน้าใส, อัคนีฯ


คึกคักจัง...

 

ขอเชิญร่วมโมทนาบุญกับ คณะคุณจันทรกาล

เนื่องจากตอนไปงานบุญกฐิน ได้ช่วยกันออกค่ารถ และ ค่าที่พักกันเอง
พอหักค่าใช้จ่ายกันแล้ว มีเงินเหลือ เลยได้นำเงินนี้ไปทำบุญต่อให้กับทุกๆท่าน ในคณะ ได้อานิสงส์เพิ่ม

วันที่ 23 ธันวาคม 2555 ร่วมถวายภัตตาหารเพล ที่วัดเขาวงถ้ำรายรายณ์ จ.สระบุรี จำนวน 500 บาท

วันที่ 28 ธันวาคม 2555
1. โอนเงินร่วมทำบุญพระนลาฎ จำนวนเงิน 500 บาท
2. โอนเงินร่วมทำบุญสร้างพระ ๒๑ ศอก ที่วัดท่านขนุน จำนวนเงิน 1,000 บาท
3. โอนเงินร่วมทำบุญสร้างฐานพระ จำนวนเงิน 4,800 บาท

โดยรายชื่อในคณะ ประกอบด้วย
คุณเจน คุณโต คุณพีระชัย พร้อมครอบครัว คุณไก่ คุณหนู๋ดี คุณแม่พี่น้ำใส คุณขาล และ เอ๋ จันทรกาล ค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่เอ่ยนามด้วยนะค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

ขอให้ทุกๆท่านคิดสิ่งใด ก็ขอให้สมความปราถนาทุกๆประการ

จันทรกาล

 

ขออนุโมทนาบุญในธรรมทาน พี่น้ำใสด้วยค่ะ

เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2555 ที่ได้โอนเงินร่วมบุญสร้างพระ ๒๑ ศอก ที่วัดท่าขนุนนี้ ขออุทิศบุญแด่พระภิกษุ ทั้ง ๔๓ รูป ด้วยเจ้าค่ะ ขอให้ทุกๆรูป จงโมทนาบุญในครั้งนี้ด้วยเจ้าค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ


จันทรกาล พร้อมคณะ

 

อนุโมทนาบุญในธรรมทานของพี่น้ำใส และ อนุโมทนาบุญกับคุณจันทกาลด้วยค่ะ
บัญชีกองบุญสำหรับสร้างฐานพระประดับเพชรในขณะนี้มียอดเงิน ณ. วันที่ 3/1/56
รวมทั้งสิ้น 10,783.70 บาท ขอให้ผู้ร่วมบุญทุกท่าน พบแต่ความสว่างไสว ทั้งทางโลกและทางธรรมค่ะ

 

..ผลพลอยได้จากการอุทิศบุญให้พระภิกษุทั้ง ๔๓ รูป..

สาธุ สาธุ สาธุ...

ขออนุโมทนาบุญกับน้องจันทรกาลด้วยค่ะ ท่านพระยายมราชได้อธิบายเรื่องผลของบุญว่า

"การที่เราทำบุญอุทิศให้แก่พระภิกษุทั้ง ๔๓ รูปครั้งนี้ ถือว่า มีบุญสัมพันธ์กัน ในชาตินี้ ผู้ที่มีส่วนในการทำบุญนี้ ส่งผลให้ หากมีความลำบาก หรือมีทุกข์ใด ๆ จะมีผู้ที่คอยช่วยเหลือพวกเธอให้ผ่านความทุกข์ยากนั้นไปได้

และที่สำคัญ พระภิกษุทั้ง ๔๓ รูปไปจุติในภูมิที่สูง เป็นพรหมบ้าง( ๒๔ รูป) เป็นเทวดาบ้าง มีฤทธิ์เยอะ ถ้าพวกเธอมีความเดือดร้อน หากไม่เกินกรรม ท่านก็จะช่วยให้พ้นภัยได้ ท่านมีจิตสภาพที่เป็นทิพย์ โดยเฉพาะพระโพธิสัตว์ ได้มีความจำตรงนี้

หากพวกเธอยังไม่เข้าพระนิพพานไม่เหลือวิสัย ท่านก็จะสงเคราะห์ได้"

อีกประการ มีเพื่อนสมาชิกได้สอบถามว่า เหตุใด พระภิกษุบางรูปได้ไปพรหมโลกได้ เนื่องจากระหว่างการรอพิพากษา สำหรับพระภิกษุนั้น จะมีสถานที่เฉพาะแยกจากบุคคลทั่วไป

เป็นห้องเฉพาะ มีการสวดมนต์หรือระลึกถึงบุญ ระหว่างนั้น หากญาติรู้ สามารถส่งบุญให้ทันที แต่เนื่องจากพระภิกษุเหล่านี้ ส่วนใหญ่ไม่มีญาติที่เป็นมนุษย์เหลืออยู่ ท่านจึงขอให้ช่วย

สำหรับเรื่องนี้ ดิฉันมีความซาบซึ้งในความเมตตาของท่านพระยายมราชเป็นอย่างยิ่ง ทุกครั้งที่ได้ทำบุญจะน้อมถวายบุญให้ท่าน ท่านสุวรรณ ท่านสุวาร และนายนิริยบาลเสมอ ๆ โดยไม่หวังผลตอบแทน

ท่านพระยายมราชได้กล่าวเพิ่มเติมว่า "ท่านใดที่ทำความดีแล้ว ความดียังไม่ส่งผล เนื่องจากบางครั้งเกิดจากอกุศลกรรมเก่าให้ผลอยู่ การทำความดีทุกครั้ง เทวดาผู้รับผิดชอบจะมีการบันทึกความดีนั้น

ขอให้มีความอดทน ต่อสู้ สร้างความดีต่อไป อย่าท้อแท้ในการทำดี วันหนึ่งฟ้าเปิด วันนั้นเราจะตั้งรับผลของกรรมดีแทบไม่ทัน

ขอให้ยึดมั่นในคำสอนของพระพุทธเจ้าเสมอ วันหนึ่งเราจะเห็นผลของกรรมดีนั้น เราขอโมทนาบุญ"

ขอฝากจากท่านพระยายมราช ขอจบเพียงเท่านี้ค่ะ

บุญรักษาทุก ๆ ท่านค่ะ

Numsai