{{หลวงพ่อคูณ257}}ศึกษาพระสมเด็จ/เบญจภาคีองค์ครู26ขุนแผนพรายกุมาร4ลพ.พรหม68พ่อท่านคลิ้ง105

ขอบพระคุณมากครับ พี่เค
พี่ชายที่แสนดีของผม (f)

 

บรรยากาศวัดละหารไร่ 4

 

ขอบพระคุณครับ พี่ Amuletism
สำหรับพรอันประเสริฐ และพระชุดงาม

ขออวยพรให้เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่านเช่นกันครับ

 

แพะเขาควายเผือกแกะ
(ถูกฟ้าผ่าตาย) หลวงพ่ออ่ำ
วัดหนองกระบอก จ.ระยอง



เครื่องรางของขลังประเภทแกะเป็นรูปสัตว์ อดีตพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง นิยมทำแล้วมอบให้แก่ลูกศิษย์ลูกหา เครื่องรางบางอย่างท่านไม่ได้แกะด้วยมือของท่านเอง แต่จะให้ช่างชาวบ้านช่วยแกะให้ และบางคนก็แกะมาถวายให้ท่านอธิษฐานจิตปลุกเสก ต่อมาก็กลายเป็นสิ่งมงคลที่ได้รับความนิยม

เช่น แพะเขาควายเผือกแกะ ปลุกเสกโดย หลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง "แพะ" เป็นเครื่องรางของขลัง มีความผูกพันกับคติความเชื่อของสังคมโลก และสังคมไทยมาเป็นเวลาช้านาน เรียกว่า เกิดคู่กับมนุษย์เลยก็ว่าได้

ถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ช่วยทำให้มีขวัญและกำลังใจ คล้ายกับเป็นเกราะกำบังจิตใจในสิ่งที่เกิดขึ้นจากการกระทำของศัตรู หรือการกระทำทางธรรมชาติ และนอกเหนือจากอำนาจที่ชาวโลกไม่สามารถควบคุมได้ด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ หรือป้องกันภัยพิบัติต่างๆ

แรกๆ มนุษย์จะสังเกตจากสิ่งต่างๆ ตามธรรมชาติ เช่น เวลาล่าสัตว์เหตุใดสัตว์บางตัวจึงคงทนจากอาวุธ พืชบางชนิดเมื่อมีไว้ติดตัวแล้วทำให้ปกป้องคุ้มครอง หรือเป็นเสน่ห์เมตตามหานิยม หรือหินต่างๆ เมื่อครอบครองแล้วทำให้มีลาภสักการะ หรือเป็นเสน่ห์เมตตามหานิยม หรือหินต่างๆ เมื่อครอบครองแล้วทำให้มีลาภสักการะ หรือดินในบางพื้นที่เมื่ออยู่แล้วทำให้มั่งมีศรีสุข ต่อมาจึงได้มีการประยุกต์หรือมีคติความเชื่อเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่สำหรับมนุษย์บนโลกใบนี้ก็ยังมีความเชื่อในเรื่องเครื่องรางของขลังสืบต่อมาไม่เว้นแม้ประเทศมหาอำนาจ

คณาจารย์ที่สร้างเครื่องรางของขลัง แต่ครั้งโบราณโดยสร้างจากคติความเชื่อโบราณ สำหรับเหตุผลที่ใช้เป็นรูปลักษณ์ของแพะ ถือว่าเป็นเครื่องรางของขลังที่ศักดิ์สิทธิ์ มีความเชื่อกันว่า ถ้ามีแพะแล้วไม่มีอาคมเวทมนตร์คาถาใดๆ จะมาทำคุณไสยเข้ากับตัวเจ้าของแพะได้ เพราะเข้ามาแล้วแพะจะรับไปเองและจะทำให้เจ้าของปลอดภัย

"หลวงพ่ออ่ำ" ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองกระบอก ปู่ย่าตายายเล่าต่อกันมาว่า ท่านมีอาคมเข้มขลัง เป็นพระเกจิอาจารย์รูปหนึ่งของเมืองระยองเมื่อเกือบ 150 ปีที่แล้ว มีลูกศิษย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังต่อมา คือ หลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกระเชอ จ.ชลบุรี หลวงพ่อลัด วัดหนองกระบอก ระยอง สมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่ สร้างเครื่องรางของขลังรูปแพะจนมีชื่อเสียง และเป็นที่ต้องการของผู้เลื่อมใสศรัทธา

โดยสร้างจากเขาควายฟ้าผ่าตาย มีความเชื่อกันว่าเขาอันนั้นได้รับพลังจากเทพ แล้วนำมาแกะเป็นแพะ ท่านบรรจุวิชาอาคมเวทมนตร์คาถาที่ได้ศึกษาเล่าเรียนมา โดยวางไว้บนถาด บางทีก็แช่น้ำมันหอม น้ำมันว่านสมุนไพร น้ำมันจันทน์ พอท่านจะมอบให้แล้วจะทำพิธีปลุกเสกอีกครั้ง จนปรากฏว่าแพะที่วางไว้บนถาดหรือแช่ไว้ในน้ำมัน เคลื่อนไหวและมีชีวิตได้และท่านจะหยิบขึ้นมาจากโหลหรือขวด แจกกับบุคคลนั้น

คุณวิเศษของแพะตัวผู้ ซึ่งหนึ่งตัว สามารถดูแลปกครองแพะตัวเมียได้เป็นสิบๆ ตัวด้วยความรู้รักสามัคคีและเกื้อหนุนจุนเจือซึ่งกันและกัน ทุกคนจึงมีความเชื่อกันว่า ผู้ใดมีแพะแกะจากเขาควายเผือกของหลวงพ่ออ่ำ ไว้พกพาผู้นั้นจะเป็นนักปกครองที่ยิ่งใหญ่ และนักรักที่มีคนนิยมชมชอบมากมาย และมีเสน่ห์เมตตามหานิยมทุกด้าน

จากตำราสมุดข่อยที่คณาจารย์โบราณท่านได้จารึกไว้ว่าการสร้างแพะโดยใช้เขาควาย และเขาควายเผือกที่ถูกฟ้าผ่าตาย ซึ่งมีความเชื่อกันว่าได้รับพลังจากมหาเทพ คือ สวรรค์ทุกชั้น ทุกวิมาน

พระเกจิอาจารย์และผู้มีวิชาอาคมจึงได้นำมาเป็นวัสดุในการแกะ เป็นรูปลักษณ์ของแพะ เพราะมีความเชื่อว่าในตัวแพะ โดนฟ้าผ่าตายนั้นได้มีการพลีจากสรวงสวรรค์ ว่ากันว่าผู้ที่มีแพะหลวงพ่ออ่ำไว้อยู่ในความครอบครอง จะเป็นผู้ที่มั่งคั่งสมบูรณ์เมตตามหานิยม ค้าขายเจริญรุ่งเรืองและอายุยืน

อ้างอิง มุมพระเก่า อภิญญา

 

สวัสดีปีใหม่ที่จะมาถึงครับ พี่Amuletism พี่กรุพระ พี่captainzire พี่โอ พี่โอ๋ พี่soul power พี่ๆน้องๆทุกท่าน

พรใดอันประเสริฐขอจงมีแด่ทุกท่าน คิดการสิ่งใดสำเร็จทุกประการ คิดเงินได้เงิน คิดทองได้ทอง ลาภผลพูนทวี มั่งมีศรีสุข สุขภาพแข็งแรง ครอบครัวมีแต่ความสุขตลอดกาลตลอดไปครับผม

ของขวัญปีใหม่ ปีนี้ขอนำภาพสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองมาเพื่อเป็นสิริมงคล แบ่งปันกับพี่ๆน้องๆ ครับ

 

คาถาบูชาแพะหลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก ระยอง อีกหนึ่งในเครื่องรางของขลังที่สุดยอดด้านเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ สำหรับผู้ที่จะใช้แพะหลวงปู่อ่ำ ให้ใช้ คาถาแพะหลวงพ่ออ่ำ ดังนี้ โดยตั้ง นะโม 3จบก่อน


อิทธิฤทธิ์ พุทธะนิมิตตัง อิมังคงกระพันธะนัง อธิฐามิ

และก่อนจะนำแพะหลวงพ่ออ่ำ มาสวมคอให้กล่าวพระคาถาดังนี้

อากาเสจะปีปังกะโร  (คาถากันฟ้าผ่า)

 

ขอบพระคุณมากครับ พี่ทิพย์มงคล
ภาพนี้เป็นสุดยอดความเป็นสิริมงคลจริงๆ ครับ

 

ขอบคุณมากครับ พี่ทิพย์มงคล
ขอให้พรทั้งหลาย ได้เกิดขึ้นกับ
พี่และครอบครัวดุจเดียวกันครับ

 

เข้ามารับพรครับ และขอให้คุณ soul power
และคุณtee_tores ประสบแต่ความสุข ความเจริญครับ

 

หนุมาน จารก้น อุดผงขาว
หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

 

งดงามมากครับ เป็นเครื่องรางที่ดูง่าย
เพราะมีโค๊ตเป็นมาตรฐาน และพุทธคุณก็ยอดเยี่ยมด้วย

 

สุดยอดครับ สวยจริงๆ ดูจบด้วย
ราคาถึงได้แรงวันแรงคืน
เพราะเครื่องรางยุคเก่า บางทีเถียงกันไม่จบครับ
มีแบบเก่าถึงยุค แต่รอยจารไม่ใช่อีก

 

สุดสวยเลยครับ พี่กรุพระ ดูง่ายสบายตาจริงๆ

 

ลิง หลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว



อ้างอิง thaipra

 

สวัสดีปีใหม่ครับพี่ Amuletism

ขอให้มีความสุข เเล ได้รับกรรมดี จากผลของการเป็นผู้ให้ อย่าเจ็บอย่าจน เป็นขวัญใจ ชาวพระกรุ ตลอดไปครับ

 

ขุนกระบี่วานรรณฤทธิ์
พิชิตศัตรูพ่าย
หนุมาน (ลิง) หลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว


 
    "เครื่องรางของขลัง" เป็นสิ่งที่นักนิยมสะสมพระเครื่องเรื่องคุณพระ พกพาติดตัวคู่กายเสมอ และที่มีพุทธาคมแกร่งกล้ามีอยู่มากมายและหลากหลายคณาจารย์ ซึ่งแต่ละรูปก็จะมีเคล็ดลับวิชาที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น ลูกอม ตะกรุด เบี้ยแก้ ผ้ายันต์ เขี้ยวเสือ และอีกจิปาถะ ตามแต่ศรัทธาของแต่ละบุคคลในพระเกจิคณาจารย์แต่ละรูป และในบรรดาเครื่องรางของขลังต่างๆ นั้น จะมีอยู่ชนิดหนึ่งที่เรียกกันว่า "ลิงแกะ" หรือ "หนุมานแกะ" ที่เลื่องชื่อลือชามีอยู่เพียง 3 สำนัก  พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง คือ ลิงแกะหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว จ.ฉะเชิงเทรา , หนุมานแกะหลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน จ.นนทบุรี , องคต หลวงพ่อปาน วัดบางกระสอบ สมุทรปราการ แต่สำหรับ ณ ที่นี้ขอนำเสนอ "หนุมาน ไม้แกะ หลวงพ่อดิ่ง" แต่พวกชาวบ้านมักจะเรียกกันติดปากว่า "ลิงหลวงพ่อดิ่ง" นั่นเองครับ
หลวงพ่อดิ่ง คงคสุวัณโณ หรือพระครูพิบูลย์คณารักษ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดบางวัว  ท่านเป็นพระภิกษุที่เคร่งในวัตรปฏิบัติและเชี่ยวชาญแตกฉานในทุกสาขาวิชา รวมถึงพุทธาคมต่างๆ มีเมตตาจิตเป็นที่รักเคารพและศรัทธาของบรรดาพุทธศาสนิกชน มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย
        วัตถุมงคลของหลวงพ่อดิ่ง มีอยู่มากมายหลายอย่าง เช่น เหรียญ ตะกรุดโทน และตะกรุด 7 ดอก ผ้ายันต์ เสื้อยันต์ ลูกอมผงดำเจ็ดพญาช้างสาร และหนุมาน ที่เรียกกันว่า ลิงหลวงพ่อดิ่งนั่นแหละครับ สามารถจำแนกแยกเป็น 5 พิมพ์ คือ พิมพ์ถือพระขรรค์ , พิมพ์ถือกระบอง , พิมพ์ถือตรีสามง่าม , พิมพ์นั่งสมาธิ (ลิงจำศีล) , สุดท้ายเป็นพิมพ์พิเศษ ปิดตาอธิฐานลาภ ซึ่งจะมีน้อยที่สุด เท่าที่ผู้เขียนเคยเห็นไม่เกิน 3 องค์เท่านั้น ท่านสร้างรุ่นแรกนั้น แกะโดยผู้ใหญ่โป ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.บางวัว เป็นการแกะคนเดียวทั้งหมด ส่วนใหญ่จะแจกให้กับทหารเรือ รุ่นต่อมาสร้างในพิธีวันเสาร์ห้า คือวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ.2483 ซึ่งสร้างมากที่สุด ผู้แกะมีอยู่ 4-5 คน คือ พระสมุห์สนิท พระอาจารย์แอ่ม นายบุญเชิญ หุนสวัสดิ์ ผู้ใหญ่เสริมศักดิ์ ชัยปุณณะ คุณสำเนียง ทองสุวรรณ ปัจจุบันนั้นหนุมานหลวงพ่อดิ่งหายากมากครับ
     หนุมานของหลวงพ่อดิ่งนั้นตามตำรา แกะมาจากรากพุดซ้อน หรือรากรักซ้อน ที่รากชอนไปทางทิศตะวันออก จึงจะใช้ได้ ก่อนจะทำการขุด หลวงพ่อดิ่งท่านจะให้ลูกศิษย์ของท่านทำการพลีเสียก่อน โดยผู้ที่จะทำพิธีการพลีนั้นจะต้องสมา ทานศีล นุ่งขาวห่มขาว หลังจากที่เสร็จสิ้นพิธีการพลีแล้วก็จะทำการขึ้นมาเพื่อที่จะเอารากที่ชี้ไปทางทิศตะวันออก สิ่งที่ต้องระวังคือในช่วงเวลาที่ขุด ห้ามให้เงาของคนที่ขุดทับไปที่ต้นพุดซ้อน หรือ รักซ้อน เมื่อได้รากไม้ดังกล่าวแล้ว ที่ถูกต้องตามตำรามาแล้วก็จะนำมาตากลมให้แห้ง พอแห้งแล้วก็นำมาแกะเป็นหนุมานถือตรี ถือพระขรรค์ หรือถือกระบอง อย่างใดอย่างหนึ่งตามที่หลวงพ่อดิ่งจะสั่ง ขนาดของหนุมานจะต้องมีความสูงไม่เกินหนึ่งองคุลี ลักษณะของหนุมานจะมีขนาดใหญ่อ้วนผอมไม่เป็นไร เพราะขนาดของรากพุดซ้อนเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน เมื่อลูกศิษย์แกะลิงตามที่หลวงพ่อดิ่งสั่งจนครบตามจำนวนแล้ว หลวงพ่อดิ่งจะตรวจดูว่าลิงจับหลักที่แกะมานั้นถูกต้องตามตำราหรือไม่ เมื่อดูแล้วถูกต้องก็จะหาฤกษ์ยามในการปลุกเสก คือวันเสาร์หรือวันอังคารข้างขึ้น การปลุกเสกลิงจับหลักจะต้องปลุกเสกจนครบ “เจ็ดเสาร์เก้าอังคาร” โดยเวลาปลุกเสก หลวงพ่อดิ่งจะนำลิงจับหลักไม้แกะทั้งหมดใส่ลงในบาตรและท่านจะนั่งปลุกเสกจนลิงจับหลักนั้นกระโดดออกจากบาตร ลิงจับหลักตัวที่กระโดดออกจากบาตรได้นั้นถือว่าสำเร็จสามารถนำไปใช้บูชาติดตัวได้ และถ้าตัวไหนไม่กระโดดออกจากบาตร หลวงพ่อดิ่งท่านจะใช้เหล็กจารจิ้มที่ก้นเป็นเชิงสัญญลักษณ์และจึงทำการปลุกเสกต่อจนลิงจับหลักนั้นจะสามารถกระโดดออกจากบาตรได้ทั้งหมด บางครั้งพบว่าหลวงพ่อดิ่งปลุกเสกลิงแกะหลังจากฉันเช้าไปจนถึงเย็นโดยมิได้ฉันเพล ทำเช่นนี้อยู่หลายวันจนพิธีกรรมเสร็จสิ้นลง

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จากคุณมลคาดเชือก
พอดีไปอ่านเจอมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์เยอะมาก
จึงขออนุญาติ นำมาแบ่งปันกันเป็นตอนๆ ต่อไป

 

สวยสด งดงามจริงๆครับ เนื้ออะไรครับ

http://palungjit.org/attachment.php?attachmentid=2423260&stc=1&thumb=1&d=1356657168 ลิงจับหลัก องค์หลวงพ่อดิ่ง ธรรมชาติดีจริงๆครับ เข่มขลัง

 

ลิง หลวงพ่อดิ่ง (ต่อ)

จากข้อมูลพระใบฏีกาเชษฐ์ วัดบางวัว ซึ่งได้บันทึกถึงประวัติความเป็นมาจากปากคำของผู้เฒ่าผู้แก่ที่อยู่ทันยุคสมัยของหลวงพ่อดิ่ง บางท่านก็เป็นช่างที่เคยแกะลิงถวายให้หลวงพ่อดิ่ง............... ย้อนไปในปี ๒๔๘๓ หลวงพ่อดิ่งได้จัดพิธีปลุกเสกลิงจับหลักครั้งใหญ่ โดยมีการทำพิธีตัดไม้ข่มนามขึ้นด้วย ขณะปลุกเสกลิงจับหลัก หลวงพ่อดิ่งจะนั่งบนหนังเสือโคร่งที่ปูทับอาวุธ ชนิดต่างๆ ทั้ง ดาบ หอก มีด ง้าว จนกระทั่งปืน มากองรวมไว้ ซึ่งท่านจะนั่งปลุกเสกถึงสว่างทุกวันเสาร์ จนครบเจ็ดเสาร์ และทุกวันอังคาร จนครบเจ็ดอังคาร จึงจะนำลิงจับหลักนั้นมาแจกแก่บรรดาลูกศิษย์ที่ต้องการ ซึ่งมีความเข้มขลังทางด้านคงกระพันชาตรีฉมังนัก มีเรื่องเล่าขานกันว่า ครั้งหนึ่งเมื่อเกณฑ์ทหารรับใช้ชาติแถบบางปะกง ชลบุรี สัตหีบ ระยอง ชายฉกรรจ์เหล่านี้ได้ไปเป็นทหารเรือ ซึ่งอยู่ในความดูแลของ พลเรือเอกสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ผู้ทรงเป็นแม่ทัพเรือ วันที่เข้าประชุมต้อนรับทหารเกณฑ์ใหม่ หลังจากกล่าวอบรมแล้ว เสด็จในกรมฯ ทรงประพรมน้ำพระพุทธมนต์ที่พระองค์ท่านปลุกเสกเองให้กับเหล่าทหารใหม่ ทหารใหม่แต่ละคนเมื่อถูกซัดด้วยน้ำพระพุทธมนต์บางก็เฉย แต่บางคนก็มีอาการต่างๆ ประมาณ 20-30 คน ถึงกับมีอาการของขึ้น ลุกขึ้นเต้นเหมือนลิง วิ่งออกจากแถวทหารไปทันที เสด็จในกรมฯ ทรงมีรับสั่งให้ทหารช่วยกันจับทหารเกณฑ์ใหม่เหล่านั้นนำตัวมาทอดพระเนตร และทรงตรัสถามว่าเป็นศิษย์อาจารย์ท่านใด มีวัตถุมงคลอะไรติดตัวมาทหารเกณฑ์ใหม่เหล่านั้นกราบทูลว่า เป็นศิษย์ของหลวงพ่อดิ่ง มีรากไม้แกะเป็นรูปลิงติดตัวมา พร้อมทั้งนำลิงแกะจากรากไม้ถวายเสด็จในกรมฯ ทอดพระเนตร เสด็จในกรมฯ ทอดพระเนตรลิงแกะจากรากไม้แล้ว ได้ตรัสขึ้นว่า อาจารย์องค์นี้เก่ง และพระองค์ก็ทรงทดลองดังที่เคยทดลองมาปรากฏพุทธานุภาพช่างแก่กล้านัก จนเป็นที่กล่าวขานกันเรื่อยมา..."
คาถาหนุมาน หลวงพ่อดิ่ง ในตำรานั้น ให้ตั้งนะโม ๓ จบ แล้วว่าพระคาถาดังนี้ 
“หนุมานะ นะมะพะทะ”  พระคาถาดังกล่าวให้เสกตามกำลังวัน เช่น เสาร์ ๑๐ อาทิตย์ ๖ จันทร์ ๑๕ อังคาร ๘ เป็นต้น เมื่อจะไปหาผู้ใหญ่ ให้นำลิงมาจุ่มน้ำมันจันทร์เจิมหน้าผาก ถ้าไปหาคนรัก ให้นำลิงมาจุ่มน้ำมันจันทร์วนรอบสะดือข้างซ้าย(ทักษิณาวัตร) ไปหาผู้ชาย ให้นำลิงมาจุ่มน้ำมันจันทร์วนรอบสะดือข้างขวา (ทวนเข็มนาฬิกา) ถ้าจะทำให้เขาหลับทั้งบ้าน ให้เอาลิงปลุกเสกพระคาถาตามกำลังวัน แล้วนำไปวางไว้ที่เสาเอกของบ้าน คนในบ้านจะหลับหมด เพราะโดนฤทธิ์ของหนุมานสะกดไว้ ถ้าเราจะทำให้ศัตรูเคลิบเคลิ้ม ให้เอาลิงอมไว้ในปากแล้วเสกตามกำลังวัน เป่าลมออกไป ศัตรูจะงวยงงทำอะไรไม่ถูก เป็นจังงัง
      พระมงคลสุทธิคุณ (หลวงพ่อฟู อติภทฺโท) เจ้าอาวาสวัดบางสมัคร ลูกศิษย์รูปสุดท้ายของ หลวงพ่อดิ่ง ที่ยังมีชีวิตอยู่ กล่าวว่า ““จะเป็นพระเครื่องหรือลิงจับหลัก ใครก็ปลุกเสกได้ แต่จะให้ได้เท่าหลวงพ่อดิ่งเห็นจะไม่มี เพราะหลวงพ่อดิ่งท่านมีสมาธิจิตดีมาก ไม่มีใครเท่าท่าน” ถึงหลวงพ่อดิ่งท่านจะมรณภาพไปแล้ว แต่ความศักดิ์สิทธิ์ของท่านยังคงอยู่ ดูได้จากชาวบ้านแถวบางวัว หรือในแปดริ้ว เวลามีปัญหามักจะมาบนบานกับรูปหล่อของท่านที่วัด บางคนไม่มีพระของท่านติดตัว เพียงแต่ระลึกถึงท่าน ก็สามารถคุ้มครองชีวิตให้รอดจากอันตรายได้อย่างน่าอัศจรรย์”

 

มีเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษด้วย
คิดว่าฝึกภาษาแล้วกันครับ

Khun Krabi Wanorn Pichit Suttrupai
Hanuman (monkey) Luang Por Ding of Wat Bang Wua
 
            Amulet is a pair with amulet admirer because of the power of Buddha's grace magic power of several creator masters. Each creator masters have different believes it cause the material to consecrate are diverse such as Luk-Om, Takrud, Bea-Kea, talisman, tiger’s teeth and etc. The one of most popular amulet is craved Monkey or “Hanuman”. The most popular are from 3 institutes. There are Luang Por Ding’s monkey of Wat Bang Wua Chachengsao, Luang Por Sun’s Hanuman Kea of Wat Salakul Nonthaburi and Ongkot Luang Por Pan of Wat Bangkrasob Samutprakarn. This time we are proud to present Luang Por Ding’s “Hanuman Kea” or local people call “Ling Luang Por Ding”
 Luang Por Ding Kongsuwanno or PrakrupibulKnaruk the former pastor of Wat Bangwua. He is the strict and ascetic monk and the experienced in any field include magic Buddhism. Those are reasons because he has many follower and respect from Buddhist. He was created many kind of amulet such as coins, Takrud Ton, 7 subjects Takrud, talisman, talisman shirt, Luk-Om made of powder “Jedprayachangsan” and Hanuman or Ling Luang Por Ding.
 Hanuman cans categories to five blocks. There are Hanuman holding sword, Hanuman holding baton, Hanuman holding trident, Hanuman sitting keep the buddhist precepts in a monastery and this is the special and it very rare it is “Pidta-Atitanlap” , the author ever seen not more than 3. The first created model carving by village headman Po. He is the head of moo 6 Tumbon Bangwua most of this model has given to navy. The next model was consecrated in “Saoha” it is May, 1 1940. They were craved by 5 people. There are Prasamuhasanit, Pra-ajarn Am, Boonchern Hunsawad, village headman Sirmsak Chaipunna and Somneang Thongsuwan even it was created a lot but now it is very rare.
 According to the book Luang Por Ding’s Hanuman are craving from root of Gardenia that put out twig to east, before dig it. The digger should done the “Ple” . It is about the Buddhist precepts in a monastery, ware white cloth. Then start to dig the root but the important in this step is avoid he shadow of the digger cross the tree, bring it to dry by wind, than craving to the selected shape by Luang Por Ding. The size of it also fix the high is 1 finger but the width are not fix  because the root are not same width along itself when finished Luang Por Ding will check it by himself. They must correct follow the book then find the auspicious time to recite incantation over materials. It is Saturday or Tuesday waxing moon. The principle of consecrate is done it within seven Saturday nine Tuesday.
The consecrated
He will put craved material into his bowl and rite it until monkey jump out from his bowl but if some of them are not done he will mark it by stab it by steel at the bottom of monkey and continue consecrate them until all jump out from bowl. Sometime his rite those for many days, he will started after his breakfast until evening without lunch until finished. 

 

"หนุมานงาแกะ พิมพ์วันทา" หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว