ปรอทสำเร็จ ของดีจากตำนาน

สำหรับปรอทเพชรของอาจารย์โยธินตอนนี้พอมีอยู่ประมาณ ๗ องค์ ส่วนผงขุนแผนชมตลาดตอนนี้อาจารย์ท่านยังไม่ได้ปั้นเป็นลูกอมเลยครับคงต้องรอเวลาสักหน่อย

 

สวัสดีครับอาจารย์ทิพยจักร
ช่วงนี้ผมถูกสิ่งลี้ลับตามรบกวน ทั้งกลางวันและกลางคืนเกือบ 3 อาทิตย์แล้วครับ
ร่างกายทรุดโทรมพอสมควรแล้วครับ ผมยังสร้างบุญบารมียังไม่มากพอ ถ้าหากต้องตายตอนนี้คงตกนรกแน่ๆครับ
ผมขอจอง ปรอทเพชร จำนวน 2 องค์ ครับ
ปล.ราคาบูชาเท่าไรครับ
ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ

 

ผมเคยเจออาจารย์หล่อ หลายปีแล้วครับ...ตอนแกมีชีวิต ที่องค์พระปฐมเจดีย์งานองค์พระแกมีว่านมากมายมาขาย...ผมไม่แน่ใจนะว่าตอนนี้ใครทำเรื่องว่านอยู่ต่อจากแก....เห็นแกมีว่านที่หายากๆและไม่ให้ใครตอนนี้ไม่รู้ยังอยู่หรือปล่าว....การมีของดีบางอย่างก็ต้องเผยแพร่ไม่งั้นสูญหายหมดเสียดายคนรุ่นหลังไม่รู้...สนใจก็หาข้อมูลไม่ได้....

อันนี้เหมือนกับกระทู้แรกไม่ทราบว่าใช่ปรอทหรือปล่าวครับ......อีกอันเป็นธรรมชาิติได้จากสุสานหอยครับไหลเป็นธรรมชาติคาดว่าเป็นปรอท

 

ขอบคุณที่ติดตามกระทู้นะครับ ภาพที่ส่งมาสีสันคล้ายปรอทแต่ไม่ใช่ครับ มันคือแร่ไพไรท์ครับ แร่ชนิดนี้หากตกผลึกสมบูรณ์ก็คือ เพชรหน้าทั่ง ซึ่งมีอานุภาพเป็นน้องเหล็กไหล และได้รับการยกย่องว่าเป็นปรอทวิเศษประเภทหนึ่งด้วย มีอานุภาพทางคงกระพันและกันอสรพิษ รวมทั้งเรียกเงินทองมาสู่ผู้บูชาครับ

 

ขอบคุณที่ติดตามกระทู้ครับ สำหรับผู้ที่ดวงตกอย่างที่สุดขอแนะนำครับว่า ดูแลใจตนเองเป็นเรื่องด่วนที่สุดครับ เพราะไม่มีวัตถุมงคลอะไรที่จะศักดิ์สิทธิ์ยิ่งไปกว่าใจเราเอง การสวดมนต์ไหว้พระ ทำจิตสงบ เป็นของที่ดีกว่าวัตถุมงคลทุกประเภทครับ ถ้าทำกำลังใจตัวเองให้ดีขึ้นมาแล้ว ทุกอย่างเข้าที่หมด จะดีขึ้นเองตามลำดับ เป็นกำลังใจให้ครับ ชีวิตจะผ่านไปด้วยดีถ้ามีกำลังใจเข้มแข็ง

 

ปรอทสำเร็จ วิชาปรอท เป็นของที่เกี่ยวเนื่องกับการฝึกจิตทั้งสิ้น ปรอทซึ่งชำระโทษให้บริสุทธิ์จนแข็งตัวกลายเป็นมงคลวัตถุนั้น ทุกขั้นตอนผู้ทำต้องสมาทานศีลยริสุทธิ์ สตรีเพศจะเข้ามายุ่งเกี่ยวระหว่างพิธีไม่ได้เลย และจะมีคนส่งเสียงพูดคุยอึกทึกครึกโครมก็ไม่ได้ อาศัยจิตเคารพครูบาอาจารย์ สมาทานความบริสุทธิ์ของตนให้ถึงพร้อม จึงจะได้ปรอทที่มีฤทธิ์ เดช กำลัง อำนาจขึ้นมา

ด้วยเหตุนี้ผู้ที่ครอบครองปรอทจึงต้องเป็นผู้รักในศีลในการปฏิบัติธรรม ยิ่งใครรักการสวดมนต์นั่งปฏิบัติกรรมฐานบูชาคุณพระรัตนตรัย พระฤๅษีผู้เป็นครูบาอาจารย์แล้ว ปรอทจะยิ่งสวยสดงดงามมีกำลังบารมีแก่กล้าทวีคูณ ทั้งยังเป็นสิริมงคลแก่เจ้าตัวด้วย

ผมลองเอาปรอทที่ได้รับไปในคราวแรก ที่ผ่านการสวดมนต์ภาวนามา ลองให้อาจารย์โยธินเช็คพลังดู พบว่าพลังงานของปรอทที่ผมเป็นเจ้าของเปลี่ยนไป คือแรงกว่าเดิม และมีญาณของสิ่งศักดิ์สิทธิ์บางอย่างสถิตย์อยู่ด้วย เลยได้ข้อคิดที่จะมาเล่าสู่กันฟังว่าการปฏิบัติธรรมเป็นเรื่องที่ดีจริงๆและมีความเร้นลับด้วย ผู้ปฏิบัติอาจไม่รู้ไม่เห็นอะไร แต่เราบอกได้ว่าเมื่อเราปฏิบัติธรรมไปเรื่อยๆเทพเทวดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะมาปกป้องคุ้มครอง และถ้ามีวัตถุมงคลใดๆที่เป็นสื่อเป็นเชื้อ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านจะลงสถิตย์อยู่ภายใน ไปไหนมาไหนก็เสมือนมีเทวดารักษาตัวเราไปตลอด แต่สิ่งที่ควรนึกไว้เสมอคือ ห้ามเข้าที่อโคจร คือ วงเหล้า ซ่องโสเภณี หรือสถานที่อื่นๆในลักษณะเดียวกันนี้ห้ามเด็ดขาดครับ อาจารยฺโยธินท่านบอกว่าของไม่มีเสื่อม แต่ของจะหนีเลยล่ะ คือเสด็จหนีไปเอง เช่นเดียวกันกับผุ้บูชาพระธาตุหากประพฤติตัวไม่เหมาะสมพระธาตุก็เสด็จหนี หรือเหล็กไหลก็เช่นกันครับ

ความประพฤติของตัวเราเป็นตัวกำหนดโชคชะตา ความดีความร้ายในชีวิต กำหนดไปถึงว่าสิ่งใดที่เราควรเจอสิ่งใดที่ควรอยู่กับเรา ทำดีแล้วย่อมมีสิ่งดีๆเข้ามาเสริม สรุปแล้วชีวิตคนเราก็ขึ้นอยู่กับกรรมกำหนดนั่นเองครับ ไม่มีใครใหญ่เกินกรรม (คำสอนหลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า)

ถ้าใครว่างวันเสาร์ขอเชิญมาสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัย บูชาพ่อแก่พระพิราพได้ที่เรือนพระภรตมุนี วัดสุทธาราม ซ.ตากสิน ๑๙ เวลา ๑๕.๐๐ น.เป็นต้นไป
ขออนุโมทนา

 

รูปปรอทเพชรถ่ายคู่กับไหลเพชรดำครับ สุดยอดของศักดิ์สิทธิ์ตามตำนานธาตุกายสิทธิ์

 

ขอบคุณครับ....สำหรับการตอบคำถาม.........

 

ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ

 

คุณทิพจักร...ปรอทเพชรในรูปนี้ยังกินทองอยู่ไหม...และปกติปรอทชนิดนี้จัดอยู่ในขั้นทนสิทธิ์หรือกายสิทธื์ครับ

 

ปรอทเพชร เป็นปรอทที่ไม่กินทองแล้วครับ การเคี่ยวหรือการหุงปรอทจะเริ่มจาก ปรอท ที่มีสภาพเป็นของเหลว เมื่อซัดว่านยา คือการนำปรอทมาต้มด้วยความร้อนอ่อนๆ ในน้ำว่าน นานเป็นอาทิตย์ปรอทจะเริ่มหนืดขึ้นจับตัวคล้ายดินเหนียว ในขั้นนี้อาจารย์โยธินจะนำปรอทดังกล่าวมาปั้นเป็นลูกกลมๆ แล้วนำไปเคี่ยวต่อ หลังจากเคี่ยวไปเรื่อยๆ ปรอทจะหมาดตัวเข้า เนื้อจะเริ่มอยู่ตัวโดยสมบูรณ์ ปรอทช่วงนี้จะขาวแวววาวและยังกินทองคำเปลวอยู่ เคี่ยวไปอีกนานคราวนี้ปรอทจะเกิดการตกผลึก ทำให้เกิดประเพชรขึ้น ขั้นนี้เรียกว่าปรอทเพชร ปรอทที่ตกผลึกจนมีลักษณะเป็นประกายเพชรเกิดขึ้น ปรอทพวกนี้จะไม่กินทองแล้ว เอามาถูกมือก็ไม่ดำ ในขณะที่ปรอทที่หุงเบื้องต้นยังกินทองและถูมือก็ยังดำอยู่บ้าง

ปรอทเพชร อยู่ในขั้นทนสิทธิ์ขั้นต้นครับ ไม่ถึงกายสิทธิ์ ตามตำรากล่าวว่าถ้าจะให้เป็นกายสิทธิ์ต้องหุงต่อไปอีก แต่ไม่รู้ว่าต้องนานเท่าใด ต้องมีต้นทุนในการหุงสูงพอสมควรครับ และใช้ระยะเวลาอีกยาวนานด้วย

ปรอทเพชร ในอดีตมีสำนักของอาจารย์หล่อ ขันสวนแก้ว นายกสมาคมว่านซึ่งทำสำเร็จ ไม่ทราบว่าท่านใช้วิชาสูตรไหนแต่ท่านต้มปรอทไม่ต่ำกว่า ๕ ปี ราคาอยู่ที่ องค์ละแสน เดี๋ยวนี้ไม่มีใครสืบทอดวิชาท่านเอาไว้ ถึงแม้มีตำราก็ไม่มีใครเอามาทำเพราะเนิ่นช้าได้ไม่คุ้มเสีย ตอนที่อาจารย์หล่อที่หุงปรอท ท่านหุงทีเป็นร้อยเม็ดนะครับ แต่สำเร็จออกมาคราวหนึ่งไม่มีเม็ดเท่านั้น

ปรอทเพชรของอาจารย์หล่อจะขาวแวววาวและเป็นประกายเพชร ส่วนของอาจารย์โยธินจะเขียวอมทองตามลักษณะวิชา อนึ่งอาจารย์โยธินกล่าวว่าถ้าให้ระยะเวลาในการหุงนานออกไปปรอทเพชรของท่านก็จะใสแวววาวขึ้นมาเช่นกัน อย่างไรก็ตามปรอทของท่านมีลักษณะเด่นตรงที่มีมีสีเขียวอมทองนี่แหละครับ เพราะเป็นไปตามสูตรว่านยา ในสายวิชาของท่าน

เพียงเท่านี้ก็น่าอัศจรรย์อย่างยิ่งแล้ว ปรอทวิเศษมีไว้สำหรับเป็นเครื่องใช้ภาวนา ทำกรรมฐาน แต่ละคนที่ได้ไปเมื่อเอาไปใช้ในการภาวนาจะทำให้ลูกปรอทมีพลังที่แตกต่างกันไปรวมทั้งการแปรธาตุตามระยะกาลเวลาที่ผ่านไป ตบะทางจิตใจจะเป็นปัจจัยสำคัญทำให้ปรอทของแต่ละคนมีสีสันแตกต่างกัน

ขอบคุณที่ติดตามกระทู้ครับ

 

ภาพปรอทเพชรในมืออาจารย์โยธิน เห็นด้วยตาตนเองยามต้องแสงอาทิตย์สวยงามกว่าภาพที่ถ่ายมามากเลยครับ อาจารย์ท่านเน้นว่าปรอทเป็นเครื่องวัดความดีเราด้วย เพราะถ้าไม่ดีไม่หมั่นภาวนาปรอทก็เสด็จหนีเอาไปได้ ตัวอาจารย์โยธินเองท่านเล่าวว่าถ้าทำตัวย่อหย่อนในการปฏิบัติปรอทที่ท่านหุงเองมากับมือยังเสด็จหนีหายไปเลย มันน่าอัศจรรย์จริงๆ

 

อีกหนึ่งวิชาของอาจารย์โยธิน คือวิชาขุนแผนชมตลาด ภาพที่เห็นคือการเสกผงขุนแผนชมตลาด จนกระทั่งมีผีเสื้อบินมาเกาะมาเล่นได้ ถือว่าสำเร็จด้านเมตตามหาเสน่ห์ชั้นยอด มวลสารนี้อาจารย์ท่านเก็บไว้เฉยๆยังไม่ได้นำมาทำเป็นวัตถุมงคลแต่อย่างใด ท่านนำมาตากแดดไว้ครับ ส่วนผสมก็ปูนขาวกับผงว่าน ที่น่าแปลกคือผีเสื้อบินมารุมตอมกัน แม้แต่มือของอาจารย์ก็ยังมาเกาะ เอามือไปเขี่ยไปเล่นกับผีเสื้อก็ยังได้ มันน่าแปลกจริงๆ ถ้าผงนี้นำมาสร้างวัตถุมงคลเมื่อไหร่จะรีบบอกทันทีครับ

 

นำมาให้ชมอีกภาพครับกับมวลสารขุนแผนชมตลาด ที่มีผีเสื้อบินมาตอมกัน

 

ที่เห็นคือน้ำยาในการซัดปรอท ได้มาจากว่านยาหลายชนิดตวงชั่งให้ได้น้ำหนักตามตำรานำมาเคี่ยวจนได้น้ำยาแบบนี้ รสชาติออกเปรี้ยม ฝาดและขม ชิมไปนิดนึงรสจะติดลิ้นไปนานทีเดียวครับ ตัวยานี้เมื่อซัดเข้ากับปรอทน้ำเหลวๆจะทำให้ปรอทเริ่มหนืดตัวและแข็งในที่สุด

 

การทำวิชาปรอทนั้น ต้องอาศัยกายวิเวก วาจาวิเว จิตเวกและสถานที่ต้องสัปปายะวิเวกด้วย โดยสรุปแล้วต้องมีความสงบสงัดเป็นพื้นฐาน จิตใจที่สงบย่อมมีพลังจิตและพลังจิตจะเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ปรอทมีฤทธิ์เดชตบะเดชะขึ้นมา รวมทั้งการกลายสภาพของธาตุด้วย

อำนาจจิตของมนุษย์เป็นสิ่งลึลับมาก พระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอาศัยการทำฌานและวิปัสสนาพิจารณาธาตุขันธ์ ฟอกจิตใจตนเองจนทำให้ใจจากปุถุชนเป็นอริยะบุคคล ผลพลอยได้ยิ่งกว่านั้นคือทำให้ธาตุปุถุชนกลายเป็นอริยะธาตุหรือพระธาตุและพระธรรมธาตุเกิดขึ้นจากผม ขน เล็บ ฟัน หนัง ไปถึงกระดูกอย่างน่าอัศจรรย์ การทดลองอำนาจจิตชั้นโลกียฌาน อย่างการหุงปรอทก็เป็นคำตอบที่ดีได้เช่นกันว่า จิตมนุษย์ที่ประกอบด้วยศีล ความสงบ สติที่มั่นคงในแต่ละระดับก็สามารถแปรธาตุปรอทเป็นต่างๆ เช่นเป็นปรอทเพชร ปรอทธาตุ ปรอทกระจกได้ตามฐานะแห่งจิตนั้นๆและกุศลที่อบรมมาดีพร้อม

สมาธิกับปรอทกายสิทธิ์จึงเป็นเรื่องที่ต่อเนื่องกันในตัว ปรอทจึงเป็นธาตุที่ผูกพันธ์กับผู้ฝึกจิตอย่างแนบแน่นตามไปด้วย

 

ปรอทธาตุทนสิทธิ์ ชนิดเมฆสิทธิ์ องค์นี้สีอมทองเนื่องจากให้กินทองคำเปลว แต่ถูมือไม่ดำ และไม่ลื่นมือเหมือนปรอทที่ทำมาจากตะกั่ว จัดเป็นกายสิทธิ์ประเภทแก้วจักรพรรดิ์อีกประเภทหนึ่งใช้เจริญภาวนา และเสกสำทับด้วยคาถามหาจักรพรรดิ์ของหลวงปู่ดู่ท่านจะทำให้เพิ่มพูนอิทธิฤทธิ์ บุญฤทธิ์ อีกหลายเท่าทวีคูณ

 

ปรอทเพชรลูกยอด ประเภทน้ำหนึ่ง ดวงนี้อาจารย์โยธินท่านหุงขึ้นสำหรับไว้ถวายตามวัดวาอาราม ถวายให้ครูบาอาจารย์เพื่อสืบพระศาสนา โดยท่านตั้งจิตอธฺษฐานไว้ว่าขอให้สำเร็จซึ่งพระนิพพานเป็นที่สุด ร่วมอนุโมทนากับอาจารย์ด้วยครับ

เรื่องถวายปรอทนี้อาจารย์ท่านเจริญรอยตามครูบาอาจารย์แต่ก่อนเก่าที่สำเร็จปรอทขั้นใดก็แล้วแต่ก็จะเอาปรอทของตนอุทิศไว้ในพระพุทธศาสนา ได้แก่การบรรจุไว้ตามพระเจดีย์ บรรจุไว้ในพระพุทธรูป หรือวายไว้แก่พระภิกษุผู้ทรงศีลบริสุทธิ์ เพื่อเป็นการสร้างสมบารมีของตนให้ยิ่งๆขึ้น สืบสานทางพระนิพพานแก่ตนไว้และเป็นไปเพื่อสร้างบุญเพื่ออุทิศกุศลนั้นแก่ครูบาอาจารย์ทั้งหลายที่ล่วงลับไปแล้วให้ท่านมาอนุโมทนาบุญนี้ร่วมกัน

ปรอทดวงนี้ชำระโทษได้หมดจด เมื่อส่องแสงแดดหรือแสงไฟนีออนจะสะท้อนเกล็ดเพชรแวววาวน่าอัศจรรย์ ส่วนคุณวิเศษนั้นท่านว่ามีอำนาจปัดเสนียดจัญไรคุณไสยไม่กล้กรา่ย โรคร้ายโรคระบาดไข้ป่าไม่สามารถคุกคาม บูชาหรือติดตัวไว้จะเด่นเป็นสง่าเป็นมหานิยมอย่างยอดยิ่ง

อำนาจปรอทวิเศษนั้นเป็นทางมหานิยมแต่ไม่เป็นมหาเสน่ห์ เพราะปรอทที่ชำระโทษแล้วถือเป็นของบริสุทธิ์ของสูง จะไม่ยุ่งเกี่ยวด้วยเรื่องกามฉันทะ เหมาะแก่ผู้ทรงศีล สัจจะ ปฏิบัติธรรมเป็นประการสำคัญ หากปรอทประเภทนี้อยู่กับปุถุชนที่ยังหมกหมุ่นทางกามคุณ ลูกปรอทมักแตกเป็นเสี่ยงหรืออันตรธานหนีหายไปเพราะเทพเทวดาเชิญเสด็จ

องค์ปรอทวิเศษเหมาะสำหรับผู้ปฏิบัติธรรม เพราะอำนาจปรอททั้งคุ้มครองและเกื้อหนุนผู้ปฏิบัติอย่างลี้ลับ

 

คุณทิพยจักร น้ำยาที่ซัดปรอทเป็นน้ำยาทางเคมี หรือทำมาจากสมุนไพลครับ

และการเริ่มทำปรอทจากของเหลวจนกระทั้งแข็งตัวเป็นปรอทเพชรนั้นใช้ระยะ

เวลากี่วัน ขอขอบคุณที่นำความรู้มาเผยแพร่ครับ

 

น้ำยาซัดปรอท ทำมาจากว่านยา ไม่มีการนำเคมีทางวิทยาศาสตร์มาผสมแต่อย่างใด สามารถรับประทานได้โดยไม่เป็นอันตราย รสออกเปรี้ยว ฝาดขม ผมเองลองชิมมาแล้ว ขั้นตอนในการทำต้องเอาน้ำยาผสมกับผงเหล็กและปรอทกวนเข้าด้วยกัน ใช้สมาธิดีๆ ใจเย็นๆ ขั้นตอนนี้ใช้เวลาเป็นเดือน ทำทุกวัน วันละหลายๆรอบ คอยเคี่ยวและเปลี่ยนน้ำยาไปเรื่อยๆ ถ้าลองเอาปรอทกวนกับผงเหล็กโดยไม่มีน้ำยา กวนให้ตายยังไงปรอทกับผงเหล็กก็ไม่มีวันรวมตัวกัน เพราะปกติปรอทหนักกว่าเหล็กครับ เมื่อเทผงเหล็กลงไปผงเหล็กจะลอยเหนือปรอท แต่พอซัดน้ำว่านยาลงไปมันจะรวมตัวกันได้แต่รวมตัวเพียงชั่วคราวครับแล้วปรอทก็คืนตัวเหมือนเดิม ขั้นตอนนี้แหละที่ยากและอาศัยความวิริยะอุตสาหะอย่างยิ่ง คอยซาวน้ำว่านเปลี่ยนน้ำยาชุดใหม่และคอยเคี่ยวปรอทไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็จะได้ปรอทหนืดที่พร้อมนำมาปั้นเป็นองค์ปรอทต่อไป ส่วนขั้นตอนต่อไปคือการไล่เหล็กหรือสำรอกเหล็กออกจากปรอท ขั้นตอนนี้ใช้การหุงปรอทในน้ำยาอีกรอบ เมื่อสำเร็จเรียบร้อยเอาแม่เหล็กมาดูดยังไงก็ไม่ติดเพราะจะเหลือแต่เพียงเนื้อปรอทโดยสมบูรณ์ครับ