{{หลวงพ่อคูณ257}}ศึกษาพระสมเด็จ/เบญจภาคีองค์ครู26ขุนแผนพรายกุมาร4ลพ.พรหม68พ่อท่านคลิ้ง105

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย Amuletism, 2 มกราคม 2012.

  1. ทิพย์มงคล

    ทิพย์มงคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2011
    โพสต์:
    3,892
    ค่าพลัง:
    +8,215
    สวยเข้ม ขลังมากครับพี่โอ๋ เยี่ยมมมากๆครับ:cool:
     
  2. ทิพย์มงคล

    ทิพย์มงคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2011
    โพสต์:
    3,892
    ค่าพลัง:
    +8,215
    องค์นี้ใช้ ประจำองค์นึงครับ

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • dearm01.jpg
      dearm01.jpg
      ขนาดไฟล์:
      387.6 KB
      เปิดดู:
      1,475
    • dearm02.jpg
      dearm02.jpg
      ขนาดไฟล์:
      395.5 KB
      เปิดดู:
      228
  3. โอ๋สะพาน

    โอ๋สะพาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    2,494
    ค่าพลัง:
    +3,973
    ขอชมบ้างนะครับหลวงพ่อเแฉ่งก็เป็นพระในฝันองค์นึงครับ
     
  4. โอ๋สะพาน

    โอ๋สะพาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    2,494
    ค่าพลัง:
    +3,973
    พระในฝันผมเลยครับ
     
  5. โอ๋สะพาน

    โอ๋สะพาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    2,494
    ค่าพลัง:
    +3,973
    ขอบคุณครับ
     
  6. Amuletism

    Amuletism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    5,779
    ค่าพลัง:
    +18,372
    พระสีวลี หลวงพ่อแฉ่ง
    วัดบางพัง นนทบุรี



    [​IMG]
     
  7. โอ๋สะพาน

    โอ๋สะพาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    2,494
    ค่าพลัง:
    +3,973
    ผิวพรรณเนื้อหาขลังจริงๆครับ
     
  8. Amuletism

    Amuletism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    5,779
    ค่าพลัง:
    +18,372
    ขอบคุณครับ พี่โอ๋สะพาน
    ตอนนั้น เจ้าของมีอยู่สามองค์
    เลือกองค์นี้เลย ปรากฏว่า
    แพงสุดในสามองค์ครับ
     
  9. Amuletism

    Amuletism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    5,779
    ค่าพลัง:
    +18,372
    เขี้ยวเสือหลวงพ่อปาน คลองด่าน

    [​IMG]

    เขี้ยวเสือ หลวงพ่อปาน (พระครูพิพัฒนิโรธกิจ) หรือหลวงพ่อปาน วัดมงคลโคธาวาส(บางเหี้ย)ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ

    ดว่าเป็นเครื่องรางของขลัง ที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ยุคโบราณจนกระทั่งถึงยุคปัจจุบัน ราคาอยู่ในระดับ หลายหมื่น จนกระทั่งถึงระดับแสนปลายๆ หลักการพิจารณาเขี้ยวเสือหลวงพ่อ ปาน เบื้องต้นนั้น ให้ยึดหลักดังต่อไปนี้

    1 ดูความเก่าของเขี้ยวให้ออก เขี้ยวเก่าจะมีความแห้งได้อายุ โดยเฉพาะตามซอกลึกๆที่ไม่ถูกสัมผัส ให้เน้นดูง่ายไว้ก่อน ประเภทเห็นแล้วต้องเก่าจริง เพราะอายุถึงหนึ่งร้อยปี แล้วนะครับ

    2. จดจำลักษณะของการจารยันต์ที่ใต้ฐาน กับตามบริเวณจุดต่างๆ ต้องจำลายมือ น้ำหนัก และลักษณะของยันต์ให้ออก

    3. ควรจะปรึกษาผู้รู้ ผู้ชำนาญ โดยตรงจะดีที่สุด เช่น คุณพยัพ คำพันธุ์ ,คุณต้น แจ่มมณี และอีกหลายท่านที่ชำนาญการในเรื่องเครื่องรางของขลังครับ ลักษณะเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของ เสือหลวงพ่อปานคือ

    1. หูหนู - หูเหมือนกับหนู

    2. ตาลูกเต๋า - นัยน์ตา เหมือนกับจุดในลูกเต๋า

    3. เขี้ยวโปร่งฟ้า - เขี้ยวกลวงทะลุ เรียกว่าเขี้ยวโปร่งฟ้า หากเขี้ยวเล็กๆ บางทีก็ตัน ก็มีครับ

    4. ยันต์กอหญ้า - ลักษณะของยันต์ คล้าย กอหญ้า

    5. เสือหน้าแมว - ลักษณะของใบหน้าของเสือมีลักษณะคล้ายแมวมากกว่าเสือ

    อ้างอิง พระเครื่องพระบูชา ศรัทธาบารมี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 มกราคม 2013
  10. โอ๋สะพาน

    โอ๋สะพาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    2,494
    ค่าพลัง:
    +3,973
    ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล และภาพที่ชัดเจนเหมาะกับการศึกษา
     
  11. 24hrs

    24hrs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2012
    โพสต์:
    1,200
    ค่าพลัง:
    +2,491
    สวัสดีครับ พี่ๆทุกท่าน
    เข้ามาเห็นพระของพวกพี่ๆทีไร รู้สึกตัวเล็กลงทุกทีเลยครับ
    (tm-love)(tm-love)
     
  12. Amuletism

    Amuletism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    5,779
    ค่าพลัง:
    +18,372
    วิธีการดูเขี้ยวเสือหลวงพ่อปาน ๑

    เขี้ยวเสือหลวงพ่อปาน ใครที่ชอบเครื่องลางของขลังต่างต้องการครอบครอง ปัจจุบันมีคนที่แอบอ้างยัด อาจารย์กันเยอะ การสังเกตุเขี้ยวเสือให้สังเกตุที่อายุของเขี้ยวเป็นสำคัญเขี้ยวที่มีอายุกว่า 100 ปี ต้องเป็นเขี้ยวที่มีความเก่าความฉ่ำของเนื้อเขี้ยวสีต้องเหลือง อร่าม ใส เหมือนเทียนไข เสี้ยนเขี้ยวจะตรงตามความยาวของเขี้ยว เขี้ยวหมี จะมีสีขาวไม่เหลืองเหมือนเขี้ยวเสือ แต่ก็มีการเอาเขี้ยวใหม่ๆ ไปทอดในน้ำมันให้เหมือนเขี้ยวเก่าต้องระวังให้ดี ส่วนการสังเกตุว่าเป็นเขี้ยวเสือของหลวงพ่อปานหรือไม่ ??? ให้สังเกตุด้วยการอ่านหนังสือครับ

    ขอแนะนำหนังสือ เขี้ยวเสือหลวงพ่อปาน ติสสโร (ของคุณคีโท ถั่วทอง) ครับ เพราะผู้เขียนท่านนนี้ ได้ทำการรวบรวม ภาพเขี้ยวเสือหลวงพ่อปาน ภาพเขี้ยวเสือหลวงตาสาย (ศิษย์หลวงพ่อปาน) ภาพเขี้ยวเสือของหลวงพ่อนกวัดสังกะสี (ศิษย์หลวงพ่อปาน) และยังมีวัตถุมงคลต่างๆ ของวัดมงคลโคธาวาส ตั้งแต่สมัยหลวงพ่อปานยังอยู่ ไล่รุ่นมาถึงยุคปัจจุบันเลยครับ แต่ผมหาหนังสือเล่มนี้ ที่ร้านหนังสือและสำนักพิพ์แล้วหมดไปนานแล้วครับ ใครมีช่วยแบ่งให้หน่อยนะครับจะเป็นพระคุณอย่างสูง ส่วนเล่มอื่นๆนั้น ไม่แนะนำครับพราะมีร้านพระที่ปากน้ำสมุทรปราการ บอกว่ามีการยัดอาจารย์ครับ เอาเขี้ยวเสือหลวงตาสายยัดเป็น ของหลวงพ่อปานเยอะมากครับ เรื่องยันต์ก็เหมือนกัน มีการเอาเขี้ยวไปแกะ แล้วมาลงยันต์กันเองแล้ว บ้างก็ฝากเข้าพิธีของวัด บ้างก็ขายกันเอง บางทีอาจเจอ เขี้ยวแท้ ฝีมือสวย แต่ยันต์ปลอมนะคร้าบ..

    ส่วนเขี้ยวเสือนั้น เตี่ยผม (เกิด 2475 เสียชีวิต 2542 อายุ67ปี)ท่านเล่าว่า ได้รับการเล่าต่อมาว่า สมัยก่อนพระที่ลงเขี้ยวเสือมีหลายองค์ มีหลวงพ่อปาน หลวงพ่อเรือน(เพื่อนหลวงพ่อปาน) หลวงพ่อทอง(เจ้าอาวาสวัดบางเหี้ย แต่คนละองค์กับหลวงปู่ทองวัดราชโยธานะครับ)หลวงพ่ออิ่ม แต่สมัยนี้เหมารวมว่าเขี้ยวเสือเป็นของหลวงพ่อปานหมด เพราะ ลายมือการลงยันต์ก็หวัดคล้ายๆกันน่ะ แยกไม่ออกหรอก รุ่นต่อมาก็คือเสือหลวงตาสาย องค์นี้เตี่ยผมทันและสนิทด้วย เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อปานหลวงตาสายลงเสือไว้เยอะเหมือนกัน คนที่ไม่มีเสือหลวงพ่อปาน ก็ใช้เสือหลวงตาสายได้มีคนบางปูเก่าโดนยิงกลางหลัง เสื้อขาดเป็นรูแต่กระสุนไม่เข้า เพราะแกแขวนเสือหลวงตาสายตัวเดียวเท่านั้น ปัจจุบันเขี้ยวเสือทีเห็นลงในหนังสือพระที่รวบรวมเขี้ยวเสือ เป็นของหลวงตาสายทั้งนั้น แต่ยัดอาจารย์เป็นของหลวงพ่อปานไปหมด แต่มีหนังสือ เขี้ยวเสือหลวงพ่อปาน ของคุณคีโท ถั่วทอง ลงรูปเขี้ยวหลวงพ่อปานและของหลวงตาสายให้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน
     
  13. Amuletism

    Amuletism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    5,779
    ค่าพลัง:
    +18,372
    วิธีการดูเขี้ยวเสือหลวงพ่อปาน ๒

    ในบรรดา เครื่องรางของขลัง ที่ บุรุษ อย่างเรา ๆ ท่าน ๆ ใฝ่ฝัน และอยากได้มาเพื่อเป็นเครื่องป้องกันตัวและเป็นสิ่งยึดเหนี่ยว ในความเข็มขลังแล้วละก็ คือ เขี้ยวเสือ ของหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย ซึ่งจัดได้ว่า เป็นอันดับหนึ่ง ของเมืองไทย ดังนั่นเรามารู้จักท่าน และวิธีการดูเสือของท่านดีกว่า เพื่อเป็นวิทยาทาน อาจจะไม่ชี้ขาด แต่ก็เป็นแนวทางได้บ้างไม่มากก็น้อยครับ

    เสือหลวงพ่อปาน วัดมงคลสุทธาวาส (บางเหี้ย) สุดยอดเครื่องรางแห่งสยามประเทศ

    ยุค สมัยของหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย นั้น อยู่ในช่วงระหว่างปี พ.ศ.2411-2453 เป็นช่วงที่ท่านออกธุดงค์ เป็นอาจารย์สอนวิปัสสนา รวมถึงเป็นเจ้าอาวาสวัดบางเหี้ยด้วยครับ ท่านได้รับสมณศักดิ์เป็น "พระครูพิพัฒนนิโรธกิจ" จวบจนกระทั่งเข้าสู่วัยชรา และถึงแก่มรณภาพ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ.2453 (รวมสิริอายุประมาณ 75 - 80 ปี)

    หลวง พ่อปาน วัดบางเหี้ยนั้นท่านเป็นคณาจารย์ ยุคเก่าสมัยโบราณ ถ้าผมจำไม่ผิดหลวงปู่สี วัดเข้าถ้ำบุญนาค เคยกล่าวถึงท่านไปเมื่อตอน มีคนถามท่านว่ารู้จักหลวงพ่อปาน วัดบางนมโคไหม? ท่านตอบว่ารู้จักแต่หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย และกล่าวว่า "หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย นั่งเรือไม่ต้องแจวเรือ เรือแล่นได้เอง" หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย นั้นท่านมีชื่อเสียง ในเรื่องการสร้างตะกรุด ผ้ายันต์ต่างๆ รวมทั้งเครื่องรางประเภทอื่นๆมากหลายอย่าง ซึ่งปัจจุบันหาชมได้ยากมาก ใครมีต่างหวงแหนกันทุกคน การหาของแท้ๆ และทันยุคนั้น หาได้ยากเต็มทีครับ เพราะเครื่องรางที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษ ก็ขาดการจดบันทึกไว้ ทำให้มีผู้รู้จริงยาก และเครื่องรางของท่าน บางครั้งผู้ที่ได้ไว้ในครอบครองก็ไม่ทราบว่าเป้นของคณาจารย์ท่านใด บางครั้งจะเป็นของหลวงพ่อนก วัดสังกะสี ลูกศิษย์ ซึ่งขลังเหมือนกัน คนถูกยิงตกเรือไม่เข้ามาแล้วเหมือนกันครับ

    ดังนั้น เครื่องรางที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของสำนักนี้ และถือเป็นสุดยอดเครื่องรางที่มีค่าบูชาสูงในอันดับต้นๆในบรรดาเครื่องราง ของขลัง ของพระเกจิอาจารย์ในยุคอดีต และปัจจุบัน นั่นคือ รูปเสือลอยองค์ ที่แกะมาจากเขี้ยวเสือจริงๆ ทั้งเต็มเขี้ยวบ้าง ครึ่งเขี้ยวบ้าง มีขนาดเล็ก ใหญ่ต่างๆกัน ตามแต่ลักษณะของเขี้ยวเสือที่ได้ชาวบ้านได้มา ฝีมือการแกะเป็นลักษณะของช่างฝีมือท้องถิ่นแท้ๆ แกะให้ท่านปลุกเสกเรื่อยๆ แลดูเรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยความขลัง และดูน่าครั่นคร้าม แลดูมีตบะมหาอำนาจสูงมาก ไม่เชื่อถ้าท่านมีลองนำมามองจ้องเสือดูซิครับ แลดูน่าเลื่อมใส ศรัทธามากครับ

    มีเรื่องเล่ากันว่า การปลุกเสกเสือของหลวงพ่อปานนั้น ท่านจะต้องมีการเรียกธาตุ 4 คือ “นะ มะ พะ ทะ” เรียก รูป เรียกนาม ปลุกเสกจนกระทั่ง เสือนั้นเคลื่อนไหวได้ราวกับมีชีวิตจริงๆทีเดียวเชียว กำหนดอุคหนิมิต ให้เครื่องรางรูปเสือนั้นมีชีวิต โดยปลุกด้วยคาถาเฉพาะ หนึ่งในบทพระคาถาที่เคยได้รับทราบมา คือ คาถาพยัคคัง ฯ เล่ากันว่า เมื่อท่านปลุกเสกเสร็จขณะนั่งเรือไปท่านจะนำเสือนั้นเทลงคลอง จากนั้นท่านจะนำชิ้นหมูมาล่อข้างเรือ และบริกรรมคาถา สักพักเสือจะโดดขึ้นมาติดชิ้นเนื้อหมูโดยทันที เป็นอันว่าเรียบร้อยครับ แจกลูกศิษย์ลูกหาได้
     
  14. Amuletism

    Amuletism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    5,779
    ค่าพลัง:
    +18,372
    วิธีการดูเขี้ยวเสือหลวงพ่อปาน ๓

    เขี้ยวเสือ หลวงพ่อปาน... ดูไม่ดี เจอเก๊เป็นฝูง ไม่ใช่เขี้ยว แต่เป็นกระดูกอะไรไม่รู้ เครื่องรางของขลังชิ้นเอก ที่จะกล่าวถึงอยู่ในอันดับต้นของวงการ นั่นคือ “เสือ หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย”

    เครื่องรางของขลัง ได้รับความนิยมสูงมากในช่วงปัจจุบัน มีหนังสือเครื่องรางดีๆ ออกมาหลายเล่ม มีคนสนใจซื้อหาสะสมเครื่องรางจำนวนมาก ส่งผลให้ของแท้ของเก๊ปะปนกันคึกคัก โดยเฉพาะเครื่องรางของขลังชั้นสูง ยุคเก่า อาจารย์ดังสร้าง ราคาว่ากันเป็นแสนๆ ถึงหลักล้าน ของปลอมหลอกต้มด้วยการผลิตเลียนแบบเนี้ยบสุดโหด

    เสือปลอมทำออกมานานแล้ว มีทั้งประเภทใช้เรซิ่นหล่อ แกะใหม่จากกระดูก และแกะเขี้ยวขึ้นมาใหม่ทั้งตัว นำไปคั่วไฟให้เข้ม ขัดแล้วย้อมด้วยเคมีให้ดูฉ่ำ สำหรับรอยจารขยุกขยิก ไม่ชำนาญก็อาจดูไม่ออก ไม่กี่ปีก่อน เคยมีนักสะสมชะล่าใจ เหมาเสือทั้งฝูง ปรากฏว่าเจอเก๊ยกฝูงก็เคยมีมาแล้ว ของแท้มีน้อยครับ เอาชัวร์ๆ ก็ต้องผ่านกันหลายตา แต่ถ้าชื่นชอบส่วนตัว ไม่สนตาชาวบ้าน ก็ตัวใครตัวมัน ลองมาเรียนรู้ วิธีดู “เสือ หลวงพ่อปาน” ขั้นเบสิค กันสักนิดครับ

    ยุคสมัยของหลวงพ่อปาน อยู่ในช่วงระหว่างปี 2411-2453 เป็นช่วงที่ท่านเป็นอาจารย์สอนวิปัสสนา ออกธุดงค์ เป็นพระอธิการวัดบางเหี้ย เป็นพระครูพิพัฒนนิสิรธกิจ จนกระทั่งถึงกาลมรณภาพด้วยโรคชรา เมื่อปี 2453 (ประมาณอายุ 75-80 ปี)เครื่องรางของขลัง ที่หลวงพ่อปานสร้างไว้ ล้วนเป็นที่ต้องการของนักเล่นเครื่องราง ไม่ว่าจะเป็นตะกรุด ผ้ายันต์ ฯลฯ และเหนืออื่นใด อันถือเป็นราชันย์แห่งเครื่องรางของขลัง มีราคาสูงที่สุด ก็คือ เครื่องรางฯ ที่แกะจากเขี้ยวเสือ เป็นรูปเสือขนาดต่างๆ

    “เสือ หลวงพ่อปาน” เป็นเสือแกะขึ้นจากเขี้ยวเสือด้วยฝีมือเรียบง่าย แต่มีเอกลักษณ์เชิงช่างอยู่ในตัวเอง มีคุณค่าทางศิลปะ ผ่านการปลุกเสกด้วยวิชาเฉพาะของหลวงพ่อปานจนเสือสามารถเคลื่อนไหวลุกนั่งได้ทุกตัว ทำให้เสือเจ้าป่ามีตบะเดชะมหาอำนาจสูงมาก เสือหลวงพ่อปาน แบบมาตรฐาน จะต้องอยู่ในรูปฟอร์ม เสือหน้าแมว นั่งชันขาหน้า หางม้วนรอบฐาน หรือม้วนพาดขึ้นหลัง มีทั้งเสือหุบปากและเสืออ้าปาก นิ้วเท้าแต่ละเท้ามี 4 นิ้ว (3 นิ้วก็มีแต่น้อย) ใต้ฐานจารยันต์กอหญ้า(เส้นวนๆ) รอตัวจารอักขระยันต์คล้ายเลขไทย ๓ และเลข ๗ รอยจารเฉียงๆ แหลมๆ ดูคล้ายลายเสือ เอกลักษณ์เสือหลวงพ่อปาน โดยรวมสามารถร้อยเป็นวลีได้ว่า “เสือหน้าแมว หูหนู ตาลูกเต๋า ยันต์กอหญ้า”

    ราชันย์แห่งเขี้ยว... เสือหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย

    จุดสังเกตวิธี ดูเขี้ยวเสือของแท้ ดังได้กล่าวมาจากตอนที่แล้วว่า เสือหลวงพ่อปาน แกะจากเขี้ยวเสือของแท้ ได้รับความนิยมสูงมากในระดับราชันย์แห่งเขี้ยว เป็นหนึ่งไม่มีสองตลอดกาล เสือฟอร์มปึ้ก เก่าแท้ดูง่าย มีราคาสูงถึงหลักล้าน... ด้วยเหตุนี้เขี้ยวปลอมๆ จึงระบาดหนักเป็นเวลานานมากแล้ว ลองมาศึกษาการ “ดู” เสือหลวงพ่อปาน เป็นเบสิคพื้นฐานกันดีกว่า (ข้อมูลพื้นฐานใช้ดูเบื้องต้น แต่หากต้องซื้อหาในราคาสูง ควรพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญที่มีชั่วโมงบินสูง ผู้ที่เคยเห็นของแท้มาแล้วจำนวนมากพอ)

    1.เสือต้องแกะจากเขี้ยวเท่านั้น จะไม่แกะจากกระดูกหรือวัสดุชนิดอื่น เขี้ยวมีเนื้อทึบแน่น ผิวเนียน ไม่โปร่งใสแสงส่องผ่านได้ (พึ่งระวังเสือวัสดุพลาสติกหรือเรซิ่น ถ้าเผาไฟจะละลายทันที

    2.เขี้ยวเสือที่นำมาแกะจะมีทั้งเขี้ยวเต็มอัน และเขี้ยวครึ่งซีก(เรียกว่า เขี้ยวซีก) เขี้ยวเต็มอันจะมีรูกลมตรงกลางผ่านตลอดจากบนลงล่าง “มีรอยแตกอ้า” ส่วนเขี้ยวครึ่งซีกไม่มีรอยแตกอ้า ด้านหนึ่งต้องมีสีอ่อน อีกด้านมีสีแก่ ด้านที่มีสีอ่อนคือด้านแกนในของเขี้ยว ด้านที่มีสีแก่คือด้านนอกของเขี้ยว เขี้ยวซีกต้องมีมีอ่อนแก่จะมีสีเดียวกันทั้งอันไม่ได้

    3.ความเก่าพิจารณาจากความฉ่ำและคราบผิวของเนื้อเขี้ยว ถ้าผ่านการใช้ไม่มากผิวจะแห้งเก่าไม่ตึงเรียบ แต่ส่วนใหญ่มักผ่านการใช้จนผิวฉ่ำเพราะสัมผัสเหงื่อ ความชื้นและความมันของร่างกายคนเรา เนื้อเขี้ยวจึงดู “ฉ่ำ” คล้ายเนื้อสับปะรดหรือเทียนไข เนื้อมีสีอ่อน/แก่ เป็นธรรมชาติ มีลายในเนื้อ และมีรอยแตกรานเล็กๆ เป็นกลุ่มเพราะการแห้งหดตัว

    4.รอยจาร เป็นจุดสำคัญที่ใช้พิจารณา ลักษณะเป็นการจารหวัดๆ ไม่พิถีพิถัน เส้นคมเล็กบางไม่เท่ากัน จารเป็นขีดๆ แบบลายเสือ และจารอักขระยันต์คล้ายเลขเจ็ดไทย(๗) หรือเลขเก้าไทย(๙) ลายมือจารเอียงๆ แหลมๆ ส่วนใหญ่จะเห็นชัดบริเวณลำตัว สะโพก ขาหน้า

    5.รอยจารใต้ฐาน เรียกว่า “ยันต์กอหญ้า” ลักษณะเป็นยันต์กลมรี วนไปมาเป็นก้อนกลมซ้อนกันหลายวง และยังมีตัว ฤ ฦ ตัวอุ รอยเส้นจารต้องเป็นรอยเก่า เส้นมนๆ ขอบร่องเส้นไม่คมชัดอย่างรอยจารใหม่
     
  15. Amuletism

    Amuletism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    5,779
    ค่าพลัง:
    +18,372
    ขอบคุณครับ พี่ทิพย์มงคลที่กรุณานำมาให้ชม:cool:
    หลวงพ่อเดิม คือ เบอร์หนึ่งแห่งนครสรรค์
    เคยอยากได้ของท่านมากๆ แต่มูลค่าก็สะสมสูง
    และไม่เคยมีของที่ถูกใจผ่านเข้ามาในทางของผมเลย
    ตอนนี้ก็เลยมีแค่ หลวงปู่สี กับหลวงพ่อพรหมครับ
     
  16. โอ๋สะพาน

    โอ๋สะพาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    2,494
    ค่าพลัง:
    +3,973
    สวัสดีครับ คุณ Amuletism คุณ กรุพระ คุณ captainzire คุณ ryan boy คุณ ทิพย์มงคล คุณ โอกระบี่ คุณ 24hrsและทุกท่านครับ
     
  17. ทิพย์มงคล

    ทิพย์มงคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2011
    โพสต์:
    3,892
    ค่าพลัง:
    +8,215
    ยินดีครับพี่ Amuletism ลองหาวัตถุมงคลท่านมาแขวนดูครับ พี่จะรักและนับถือท่านมากๆครับ ^_^
     
  18. Amuletism

    Amuletism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    5,779
    ค่าพลัง:
    +18,372
    พระสวยแท้ดูง่ายมาก องค์นี้ได้พระลึกด้วยครับ
    พิมพ์ครุฑมาความหมายในทางมหาอำนาจด้วย
    ผมก็มีพิมพ์นี้อยู่องค์นึงเหมือนกันครับ


    [​IMG]
     
  19. Amuletism

    Amuletism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    5,779
    ค่าพลัง:
    +18,372
    ต้องเรียนพี่ทิพย์มงคลว่า ผมรักท่านตั้งแต่ได้อ่านประวัติครั้งแรก
    เมตตาของท่านสูงจริงๆ ที่ซึ้งใจที่สุด คือตอนที่ท่านใกล้จะละสังขาร
    ยังแสดงความเมตตาต่อชาวบ้านหนองโพ โดยท่านถามชาวบ้านว่า
    น้ำในบ่อยังมีเหลือพอไหม แล้วฝนก็ตกอย่างหนัก จนน้ำเต็มบ่อ
    นับเป็นการช่วยชาวบ้านจนถึงวาระสุดท้ายของท่านจริงๆ
    พอฝนขาดเม็ด ท่านก็ละสังขาร ยังความโศกเศร้าแก่ทุกคน

    อ่านเรื่องนี้ตั้งแต่เริ่มสะสมพระใหม่ๆ ครับ ยังจำติดใจจนถึงทุกวันนี้เลยครับ
    อยากได้วัตถุมงคลของท่านตั้งแต่แรกเลย แต่ตอนนั้นเพิ่งเริ่มเช่าพระหลักพันครับ
    พอทราบว่าของท่านราคาหลายๆแสน ก็เลยถอย เรียกว่าถอดใจไปเลย
    พอระยะหลังมาเริ่มเช่าหนักๆ ก็ไม่ได้มีโอกาสเจอของท่าน ที่สวยถูกใจเลย
    ตอนนี้ คงยังบุญไม่ถึงครับ วันนี้คงจะมีสักวันที่ท่านมาโปรดครับ
     
  20. ทิพย์มงคล

    ทิพย์มงคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2011
    โพสต์:
    3,892
    ค่าพลัง:
    +8,215
    ใช่ครับพี่ Amuletism หลวงพ่อเดิม ท่านได้ชื่อว่าเป็นเทพเจ้าแห่งเมืองปากน้ำโพประสบการณ์ วัตถุมงคลท่านล้วนแต่เป็นที่ประจักษ์ แก่ผู้คนมากมาย ครับ:cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...