***ใครศรัทธา สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี เข้ามาคุยกันครับ***

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย nitisartthai, 1 ธันวาคม 2012.

  1. nitisartthai

    nitisartthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    313
    ค่าพลัง:
    +875
    เข้ามาลงแบ่งปันกันครับ ได้หมดขอแค่มีพระสมเด็จ รูปสมเด็จโต เหรียญรูปสมเด็จ ฯลฯ ทุกแนวครับ ไม่จำกัดว่าจะ สากล เฉพาะกลุ่ม เฉพาะตัว นอกพิมพ์ หรืออะไรก็แล้วแต่แค่ที่ใช้แล้วใส่เพราะศรัทธา
    หรือประสบการณ์เกี่ยวกับสมเด็จครับ มาร่วมประกาศบารมีท่านกันน^^

    *เห็นมีแต่หลวงปู่ทวดซะส่วนใหญ่ เรื่องสมเด็จที่ไรก็ ถึงไหมทันไหม ไม่จบกันซักที ซื้อมาแพงคนดูบอกไม่ใช่ก็จิตตกและ นี่อะนะศรัทธา!!! สงสัยจะศรัทธามูลค่ารึป่าว**

    [​IMG]
    >>>เชิญพี่ๆน้องๆที่คล้องพระสมเด็จหรือที่ศรัทธาสมเด็จโตเข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันครับ แชร์ได้หมดครับทุกเรื่องเกี่ยวกับสมเด็จโต เรื่องราวปราฏิหารย์ พระพุทธคุณพระสมเด็จ ทุกรุ่นทุกพิมพ์ทุกวัดไม่จำกัดวัดครับ แท้หรือเทียมขอแค่มีประสบการณ์เป็นพอครับ

    >>>และขอฝากครับกระทู้นี้ไม่รับตอบเรื่องเกี่ยวกับพระสมเด็จว่าแท้รึป่าวทันรึป่าว ไม่รับตอบครับอยากรู้ไปดูหน้าวิธีดูพระเครื่องครับ กระทู้นี้ขอไว้สำหรับแลกเปลี่ยนเรื่องราวความประทับใจต่างๆเกี่ยวกับองค์สมเด็จโตครับ คุณจะมาจากสำนักไหน สากล หรือเล่นแค่ชอบ เฉพาะกลุ่มมาคุยกันครับไม่ยุ่งพาณิชย์

    >>>จะลงโชว์พระสมเด็จที่ใช้อยู่ได้เต็มที่เลยนะครับ ไม่ว่าจะกลุ่มไหน เป็นพระสมเด็จเนื้อผงเนื้อโลหะรูปหล่อเหรียญรูปสมเด็จโตปลุกเสกโดยคณาจารย์ต่างๆอย่างไหนก็ได้ครับเต็มที่มีประสบการ์ไม่มีประสบการณ์มาแชร์กับครับ
    [/COLOR]

    *** ฝากด้วยนะครับสำหรับพี่ ๆ ที่นำประสบการณ์มาแชร์กัน ถ้าปรับหัวเรื่องประสบการณ์ตัวหนา ขนาดตัวอักษร 5 สีน้ำเงิน จะดีมากเลยครับสำหรับผมเข้ามาอ่านต่อถ้าทำได้ช่วยกันทำด้วยนะครับ เรื่องราวของสมเด็จโตท่านจะได้แพร่หลายในหมู่นักศรัทธาครับ ***

    แนะนำตัวก่อนนะครับผมเป็นนักศึกษาอยู่ครับ เรียนนิติศาสตร์อยู่ปี 4 ครับอีก 3 เดือนนับจากนี้จะจบแล้วต่อไปคงไม่มีโอกาสเข้าได้บ่อยขนาดนี้ต้องเรียนต่ออีกทำงานอีกมากมายเลยอยากจะทิ้งอะไรไว้ที่เผื่อมีประโยชน์ต่อคนที่จะมีศึกษาพระสมเด็จทีหลังครับ ผมก็เริ่มศึกษาไม่นานครับสำหรับพระสมเด็จประมาน 2 ปีกว่าได้แต่ผมเล่นพระมา 5 6 ปีแล้วครับตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นสมาชิกพลังจิตเลย ตอนเล่นแรก ๆ ก็พระเหรียญจนถึงระดับอิ่มตัวพอเอาตัวรอดได้บ้างไรบ้าง ต่อมาเมื่อ2ปีที่แล้วช่วงสอบจำไม่ได้ว่าวันไหน คือด้วยอาการเสพติดพระเครื่องทำให้ผมและเพื่อน ๆ ที่เล่นพระด้วยกันต้องไปเดินสำรวจตลาดต่าง ๆ และช่วงกลางคืนหลังจากพักการสอบผมจึงไปเดินเล่นตลาดพระที่คลองหลอดครับ เพราะตอนกลางคืนไม่รู้จะไปไหน ก็อะนะรู้ว่าปลอมแทบทั้งนั้นมาจากท่าพระจันทร์ก็มีเยอะแต่ก็ไปส่องครับไม่ซื้อสนุกดีความชอบ จนไปเจอเพราะกล่องของลุงท่านนึงพระแท้พระบ้านเกจิทั้งนั้นเห็นสมเด็จเห็นราคาถูกดีเก่า ๆ เลยเอามาส่องเล่นไม่มีอะไรทำเพราะซื้อมาราคาถูกจึงไม่เสียดาย ตอนแรกก็คิดว่าเห้ยทันแน่เลยสวยดีเก่า ๆ (ตอนนั้นยังไม่มีความรู้อะไรเลยครับเกี่ยวกับพระสมเด็จเพราะโดยส่วนตัวตอนนั้นเล่นแต่พระเหรียญไม่ชอบทรงพระสี่เหลี่ยม ๆ ไม่เล่นพระผง)พอเอามาเช็คก็ปรากฎว่าเป็นพระแท้แต่เกจิสร้างเท่านั้นเอง เลยเริ่มศึกษามาเรื่อย ๆ นี่แหละครับจุดเริ่มต้นหาสมเด็จของผม

    เจตนาของกระทู้นี้ : ผมอยากให้เรื่องราวของพระสมเด็จโตที่มาจากความศรัทธาได้ถูกรวบรวมไว้ครับ เพราะผมเป็นคนชอบอ่านมากเรื่องเกี่ยวกับพระที่ผมสนใจ ผมตามอ่านทุกอย่างเกี่ยวกับพระที่ผมสนใจในสื่อต่าง ๆ เสพติดการอ่านมากเอาเป็นว่าอ่านมากกกว่าหนังสือกฎหมายเสียอีก 555 (อาการหนักครับ) แล้วผมก็พบปัญหานึงเกี่ยวกับพระสมเด็จคือเรื่องราวแนวปราฏิหารย์ ประสบการณ์เกี่ยวกับพระสมเด็จ ไม่ค่อยมีคนนำมาลงจากการอ่านหลาย ๆ สื่อ ส่วนมากมีแต่ประวัติของสมเด็จโตซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ก็การดูพระสมเด็จหลากหลายเวบหลากหลายสื่อ ส่วนใหญ่จะเน้นไปทางดานนั้นซะหมด เพราะมูลค่าของพระสมเด็จที่ล่อลิเกสของคน จึงอยากให้กระทู้หรือบ้านหลังนี้เป้นบ้านที่รวบรวมเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับสมเด็จโต ทั้ง ๆ ที่จริงเรื่องราวต่าง ๆ ผมคิดว่าไม่ต่างจากเรื่องราวของหลวงพ่อเงิน หลวงปู่ทวดเลย ส่วนเรื่องราววิธีต่าง ๆ ที่ผมลงไปนั้นใครจะเชื่อหรือไม่ขึ้นอยู่กับท่านเอง ทุกสิ่งที่ผมกล่าวมาเป็นเพียงข้อคิดเห็นส่วนตัวโดยแท้ เป้นเรื่องที่ผมเชื่อของผม ถ้าดีก็นำไปใช้ถ้าใช้ไม่ได้ก็อย่านำไปครับ และ***ขออนุโมทนากับทุก ๆ เรื่องราวที่พี่ ๆ นำมาลง เพื่อช่วยกันเผยแพร่บารมีสมเด็จโตครับ***

    ***จะพยายามรวบรวมข้อมูลประสบการณ์ทั้งคนรอบข้าง ประสบการณ์ตรง หรือบทความในเวบอื่นมาลงให้คนครับ

    กระทู้หลักของผม : หลวงปู่เสงี่ยม วัดสุวรรณเจดีย์ http://palungjit.org/threads/บ้านใหม่ลูกศิษย์ท่านเจ้าคุณเสงี่ยม-วัดสุวรรณเจดีย์.349452/
    กลโกงเซียนพระhttp://palungjit.org/threads/เมื่อใกล้เซียนพระ-ก็เห็นแต่พวกเซี้ยนเงินนน.325908/
    ***วิธีดูพระเครื่อง http://palungjit.org/threads/วิธีดูพระเครื่อง.382459/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ธันวาคม 2012
  2. คนชอบพระ

    คนชอบพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2011
    โพสต์:
    2,017
    ค่าพลัง:
    +924
    เคยมีประสบการณ์กับเหรียญรุ่นใหม่ๆ ออกวัดอินทร์
    สมัยนู้นปี 253กว่าๆ เริ่มทำงานใหม่ๆ
    ว่างๆ จะเรียบเรียงมาเล่าให้ฟัง
     
  3. nitisartthai

    nitisartthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    313
    ค่าพลัง:
    +875
    ขอบคุณมากครับพี่รอฟังครับ:cool:
     
  4. nitisartthai

    nitisartthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    313
    ค่าพลัง:
    +875
    เรื่อง : พระสมเด็จปลอม คาถาชินบัญชร รักษาโรคหัวใจ ประสบการณ์โดย *ศิษย์สมเด็จ          

      ปีพุทธศักราช 2510 เป็นปีที่สองที่ผมได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และได้เข้าเรียนที่คณะนิติศาสตร์โดยตรง แต่ความเคยชินในการดำเนินชีวิตช่วงนั้นยังคงสืบทอดต่อเนื่องมาจากปีก่อน 

                กลางวันผมก็ไปเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัย ขากลับก็แวะเล่นหมากฮอส หมาก รุก กว่าจะกลับเข้าบ้านบางครั้งก็ค่ำมืดดึกดื่นค่อนคืน ตกเสาร์อาทิตย์มนูญผมกลับมาจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ก็พากันไปเที่ยวเตร่เฮฮากับไสยวิทย์และศิริศักดิ์ 

                ความเป็นไปในชีวิตผมนั้นไม่เท่าไหร่ แต่การที่มนูญผลพาลมาติดเที่ยวเตร่เฮฮากับผมและเพื่อน ๆ ทำให้ไม่ต้องใจของคุณแม่ของมนูญผล รวมทั้งน้า ๆ ด้วย ดังนั้นผมจึงมักถูกมองด้วยสายตาที่ไม่ค่อยชอบใจนัก แต่ผมก็ถือเสียว่าแม่เพื่อน น้าเพื่อน ก็เหมือนแม่ตัว น้าตัว จึงได้วางใจเป็นปกติอยู่ 

                เพราะเหตุดังกล่าวนั้นทั้งแม่และน้าของมนูญผลจึงไม่ได้ใส่ใจใด ๆ ในการที่ผมกินอยู่ที่บ้าน เวลากินผมก็หากินเอง มีอะไรในครัวก็หามากิน หากไม่มีหรือกลับดึกค่ำมืดผมก็หากินข้างนอก เสื้อผ้าผมก็ซักเอง ซักไปก็ร้องเพลงไป ทำให้เกิดความเพลิดเพลินใจอีกอย่างหนึ่ง และเพื่อไม่ให้ยุ่งยากมากนักผมจึงไม่รีดเสื้อผ้า ถือเสียว่าเป็นของนอกกาย จึงทำให้สบายขึ้นอีกหน่อยหนึ่ง 

                ที่หลับที่นอนผมก็จัดการเองทั้งหมด ห้องนอนของผมแม้ไม่ได้ปิดประตูแต่ก็ไม่มีใครมาดูแล ผมต้องปัดกวาดทำความสะอาดเอง 

                ตรงบริเวณทางเข้าประตูห้องนอนด้านซ้ายมือระดับเพียงตา ผมทำหิ้งพระตั้งรูปเจ้าประคุณสมเด็จ และรูปพระอาจารย์ที่ติดตัวมาตั้งแต่ครั้งเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ เวลาจะไปไหนมาไหนผมก็จะกราบไหว้บอกกล่าวทุกครั้ง ถึงวันอุโบสถหรือวันปวารณาผมก็มักจะสวดมนต์ ทำสมาธิตามที่เคยมาแต่ก่อน 

                ดังนั้นระหว่างวันจันทร์ถึงวันศุกร์เวลาอยู่บ้านผมก็เหมือนกับอยู่ตัวคนเดียว แต่ก็มีความรู้สึกลึก ๆ ในใจว่าไม่มีความโดดเดี่ยวเดียวดายเพราะในใจนั้นรู้สึกว่ายังอยู่ใกล้เจ้าประคุณสมเด็จ อยู่ใกล้พระอาจารย์ รู้สึกนึกคิดอย่างไรก็เหมือนกับว่ากราบเรียนปรึกษาหารือกันได้ 

                อันชีวิตของคนเราจะโดดเดี่ยวเดียวดายหรือไม่ แท้จริงแล้วในส่วนร่างกายก็เป็นเพียงส่วนเดียว สำคัญกว่านั้นอยู่ที่ใจ หากใจไม่รู้สึกโดดเดี่ยวเดียวดายเสียแล้วก็จะไม่รู้สึกโดดเดี่ยวเดียวดายเลย เพราะความรู้สึกที่โดดเดี่ยวเดียวดายนั้นเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับจิตใจ แม้โดดเดี่ยวทางร่างกายเพราะไกลญาติพี่น้องเพื่อนพ้องทั้งปวงแล้ว แต่ถ้าไม่โดดเดี่ยวทางจิตใจก็จะมีความอบอุ่นทางจิตใจ และมีความเป็นอยู่ที่ผาสุกเสมอ 

                เพราะเหตุนี้ในพระพุทธศาสนาจึงอบรมสั่งสอนชาวพุทธให้ฝึกฝนอบรมจิตใจเป็นสำคัญ และการอบรมจิตใจนี้ก็คือเนื้อตัวที่แท้จริงของพระพุทธศาสนา นอกจากนั้นแล้วเป็นเปลือกเป็นกะพี้ทั้งสิ้น เพราะการบรรลุถึงมรรคผลนิพพานไม่ใช่การเดินทางที่ไปถึงด้วยกาย ไม่อาจตีตั๋วรถเมล์ รถไฟ หรือยานพาหนะใด ๆ ไปได้เลย หากไปถึงได้ก็ด้วยจิตที่ได้รับการอบรมบ่มเพาะจนบรรลุภูมิธรรมขั้นสูงในพระพุทธศาสนาแล้วเท่านั้น แม้ทุกข์ก็เกิดและดับที่จิต วิชชาทั้ง 8 ในพระศาสนาจักสำเร็จได้ก็ด้วยจิต การกระทำอิทธิ ฤทธิ์ และปาฏิหาริย์ได้ก็ด้วยจิตทั้งสิ้น นามกาย ทิพย์กาย และธรรมกาย ก็เป็นเรื่องของจิตทั้งหมด นั่นเป็นเรื่องของภูมิธรรมขั้นสูง แต่ในขั้นของชาวบ้านก็สามารถประพฤติปฏิบัติฝึกฝนอบรมได้ตามอัชฌาสัยของแต่ละคน ฝึกฝนอบรมได้เท่าใดก็ได้รับผลเท่านั้น เป็นผลที่เกิดกับตัวเอง จะซื้อหาหรือให้คนอื่นทำแทนไม่ได้ 

                วันหนึ่งในปีนั้นผมกลับจากมหาวิทยาลัยเร็วกว่าปกติ มาถึงบ้านเวลาราวบ่ายสามโมง พอเปิดประตูหน้าบ้านเท่านั้นก็ได้ยินเสียงคนร้องไห้ก็ตกใจ จึงรีบวิ่งขึ้นไปดู พอถึงหน้าประตูห้องเห็นคุณแม่ของมนูญผลนอนหงายอยู่กับพื้นในลักษณะแผ่หราแน่นิ่ง หน้าซีดเผือด น้าทั้งสองคนร้องไห้ในขณะที่มือก็นวดเฟ้น แล้วบอกว่าแม่เสียแล้ว 

                ผมได้ยินดังนั้นก็ยิ่งตกใจ ไม่ทันถอดรองเท้าก็ก้าวขึ้นไปบนห้องซึ่งเป็นห้องรับรองด้านหน้า ใช้มืออังที่ริมจมูกเพื่อจะรู้ว่ายังมีลมหายใจอยู่หรือไม่ เพราะสังเกตดูบริเวณทรวงอกไม่กระเพื่อมไหวเลย ปรากฏว่าแทบไม่รู้สึกว่ายังมีลมหายใจอยู่ จึงจับดูที่ชีพจรก็พบว่าชีพจรยังเต้นแต่ช้าและเบาหวิวมาก 

                ผมรู้ว่าถึงแม่ยังไม่ตาย แต่ชีวิตแม่คงอยู่ในอุ้งหัตถ์แห่งมัจจุราช และกำลังก้าวสู่ประตูแห่งความตายเป็นแท้แล้ว เพราะผมเคยเห็นอาการของคนใกล้ตายตั้งแต่ครั้งที่อยู่บ้านนอกมาหลายรายแล้ว คนบ้านผมนั้นเวลาป่วยไข้อาการมาก ญาติก็รักที่จะรักษาพยาบาลอยู่ที่บ้าน หรือถ้าหากคนไข้ไปรักษาที่โรงพยาบาล แต่พอรู้ว่าอาการมากญาติก็จะรีบนำกลับมาบ้านเพื่อให้คนไข้มีความอุ่นใจ 

                ญาติพี่น้องจึงได้มีโอกาสเฝ้าไข้อย่างใกล้ชิด และบางครั้งญาติ ๆ ก็จะนิมนต์พระมาสวดจำเริญอายุให้กับคนไข้ นัยว่าเพื่อเป็นการต่ออายุให้คนไข้นั้นได้สร่างหายคลายจากโรคภัยไข้เจ็บ 

                ความจริงที่เรียกว่าการสวดจำเริญอายุนั้นก็คือการนิมนต์พระมาสวดพระปริตรบทสำคัญบทหนึ่งที่เรียกว่าโพชฌงคปริตร ประกอบกับพระปริตรอื่น ๆ ตลอดจนบทพระคาถาสำคัญอันเป็นที่นับถือของชาวบ้านในถิ่นนั้น ๆ 

                โพชฌงคปริตรเป็นบทสวดที่เชื่อถือกันมาว่าเป็นการเจริญอายุ ทำให้อายุยืน ทำให้หายจากความป่วยไข้ เพราะเรื่องราวมีมาแต่พุทธกาล คือสมัยหนึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงประชวรมีพระอาการมาก ทรงโปรดให้พระสาวกสวดโพชฌงค์ถวาย ครั้นได้ทรงสดับโพชฌงค์แล้วพระอาการประชวรนั้นก็หาย 

                จึงเป็นแบบอย่างของการสวดโพชฌงค์มาตั้งแต่บัดนั้น โดยในครั้งโพธิกาลหลังจากเหตุการณ์ครานั้นแล้ว ยามใดที่พระสาวกป่วยหนัก พระบรมศาสดาเองบ้าง หรือพระสาวกด้วยกันเองบ้างก็จะสวดโพชฌงค์ถวาย และอาการป่วยไข้ก็หาย 

                เพราะเหตุนี้หลังจากโพธิกาลเป็นต้นมา จึงเป็นที่เชื่อถือปฏิบัติของชาวพุทธทั่วโลกว่าโพชฌงคปริตรเป็นพระปริตรที่สวดแล้วจะสามารถรักษาอาการป่วยไข้ให้หายและทำให้อายุยืน ดังนั้นจึงเกิดธรรมเนียมสวดเจริญอายุให้กับคนไข้ใกล้ตายมาจนถึงบัดนี้ 

                ความจริงโพชฌงคปริตรนั้น ถึงแม้จะถือว่าเป็นธรรมโอสถอันวิเศษ แต่ก็ไม่สามารถทำให้คนพ้นจากความตายไปได้ ทุกชีวิตเกิดมาแล้วย่อมต้องตาย ไม่อาจล่วงพ้นไปได้เลย โพชฌงคปริตรจึงมีความศักดิ์สิทธิ์สำหรับผู้ที่ยังไม่ถึงเวลาตาย และสำหรับผู้ที่มีภูมิธรรมขั้นสูง ใช้ยืดอายุเพื่อปฏิบัติภารกิจอย่างใดอย่างหนึ่งให้สำเร็จก่อน จึงสามารถขยายเวลาแห่งความตายออกไปได้ตามควรแก่เหตุและปัจจัย 

                โพชฌงค์เป็นองค์ธรรมแห่งความตรัสรู้ ประกอบด้วยองค์เจ็ดประการคือ สติสัมโพชฌงค์ ธรรมวิจยะสัมโพชฌงค์ วิริยะสัมโพชฌงค์ ปิติสัมโพชฌงค์ ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ สมาธิสัมโพชฌงค์ และอุเบกขาสัมโพชฌงค์ เพราะเป็นองค์ธรรมอันเป็นเครื่องมือแห่งความหลุดพ้นหรือเป็นยานสำหรับข้ามแดนโลกียะมิติไปสู่วิมุตตะมิติ ดังนั้นสำหรับผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจ ครั้นได้สดับโพชฌงค์แล้ว จิตก็จะโน้มนำไปสู่ความตั้งมั่น ไปสู่ความบริสุทธิ์ และมีพละกำลังอันควรแก่การทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของจิต จึงประกอบด้วยอิทธิฤทธิ์และปาฏิหาริย์ 

                จิตเช่นนั้นเมื่อมีความปรารถนาและโน้มจิตไปให้ความป่วยไข้สร่างหายก็จะมีอานุภาพที่จะทำให้ความป่วยไข้นั้นสร่างหายได้จริง ดังนั้นโพชฌงค์จะสัมฤทธิ์ผลได้จริงก็ต้องประกอบด้วยความรู้ความเข้าใจอย่างหนึ่ง และสามารถปฏิบัติให้ถึงขั้นที่สามารถรับอานิสงส์ธรรมดาธรรมชาติแห่งโพชฌงค์นั้นอีกอย่างหนึ่ง 

                ในวัยเด็กของผมได้มีโอกาสไปเยี่ยมคนป่วยไข้อาการมากเป็นเนืองนิตย์ บ้างก็เป็นการติดตามก๋งหรือยายหรือไม่ก็ติดตามแม่ไปเยี่ยมญาติหรือเพื่อนบ้านที่ป่วยไข้ จึงมีโอกาสเห็นคนใกล้ตายหลายครั้งและจำหมายได้ว่าคนเรายามใกล้จะตายนั้นมีอาการอย่างไร 

                ดังนั้นเมื่อจับชีพจรและเห็นแม่ของมนูญผลอยู่ในอาการของคนใกล้ตายที่สุดแล้ว ผมก็ยิ่งตกใจ แต่ก็ไม่รู้ที่จะทำประการใด ทันใดนั้นก็นึกรู้ขึ้นมาว่ามีเจ้าประคุณสมเด็จอยู่ใกล้ ๆ ผมจึงยกมือขึ้นไหว้บอกกล่าวเจ้าประคุณสมเด็จขอให้ช่วยเหลือยื้อเอาชีวิตแม่กลับออกมาจากอุ้งหัตถ์แห่งมัจจุราชด้วย 

                ในพลันนั้นก็เกิดความรู้สึกบังคับตนเองให้ถอดสร้อยคอพระสมเด็จออกไปคล้องไว้ที่คอของแม่ แล้วผมก็ทำสมาธิ ภาวนาพระคาถาชินบัญชร ในขณะที่มือกุมอยู่ที่ข้อมือของแม่ตรงชีพจร 

                ในขณะนั้นผมรู้สึกว่าจิตใจมั่นคงหนักแน่นเหลือประมาณนัก ความตื่นตระหนกตกใจที่เห็นแม่อยู่ในอาการและสภาพเช่นนั้นไม่หลงเหลืออยู่แม้แต่น้อยนิด สมาธิจิตรวมตั้งมั่นได้อย่างรวดเร็วจนสามารถภาวนาพระคาถาชินบัญชรได้อย่างลื่นไหลไม่ติดขัด 

                ในจิตใจรู้สึกสงบ สว่าง และว่างเปล่าอย่างยิ่ง แต่ก็รู้สึกว่าเหมือนมีอะไรเลื่อนไหลผ่านมือไปที่ชีพจรของแม่ ราวกับว่าจะเป็นคลื่นอะไรสักอย่างหนึ่ง 

                น้าทั้งสองเห็นผมทำการเช่นนั้นก็คงเข้าใจว่ากำลังหาวิธีช่วยชีวิตแม่ จึงพากันสงบนิ่งแล้วพนมมือ ผมก็ภาวนาพระคาถาชินบัญชรไปโดยลำดับ พอจบเที่ยวแรกก็ภาวนาเที่ยวที่สอง ในพลันนั้นก็ได้ยินเสียงน้าศรีร้องขึ้นด้วยความตื่นเต้นว่าแม่ฟื้นแล้ว 

                ผมได้ยินเป็นเสียงแว่ว ๆ แต่ก็ไม่ละจิตถอนออกจากสมาธิ ยังคงภาวนาพระคาถาชินบัญชรต่อไปเพราะได้ตั้งใจไว้แต่ต้นว่าจะภาวนาให้ครบ 3 จบ 

                น้าศรีร้องอุทานครั้งเดียวเท่านั้น คงจะรู้สึกตัวว่าจะเป็นการรบกวนการภาวนาของผม ดังนั้นความสงบเงียบจึงกลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง จนกระทั่งผมภาวนาครบ 3 จบ ก็ได้ยินเสียงแม่พลิกตัวจึงลืมตาขึ้น 

                ก็เห็นแม่ลืมตาเช่นเดียวกัน คำแรกที่ได้ยินจากปากแม่คือคำถามว่าหลวงปู่ไปไหนแล้ว เพราะแม่ได้หันหน้าทั้งด้านซ้าย ด้านขวา ก็ไม่เห็นมีพระสงฆ์รูปใดอยู่ในที่นั้นเลย 

                น้าศรีพูดถามแม่ในขณะนั้นว่าเมื่อครู่นี้พี่ยกมือไหว้พระ เห็นพระอะไรหรือ เพราะน้าศรีนั้นเป็นลูกผู้น้องของแม่ เวลาเรียกแม่ก็เรียกพี่ แม่ก็ตอบว่าก็เมื่อครู่นี้มีพระแก่ ๆ จีวรคล้ำ ๆ รูปหนึ่งมาเป่าที่กระหม่อมแม่ แม่จึงรู้สึกตัว และยังเห็นพระรูปนั้นนั่งอยู่อีกครู่หนึ่ง 

                ผมได้ฟังดังนั้นก็รู้สึกซาบซ่านทั้งตัวด้วยความปิติยินดี ประการหนึ่งดีใจที่แม่ฟื้น และเห็นทุกคนดีใจที่แม่ฟื้น อีกประการหนึ่งก็รู้ว่าเหตุมีมาเช่นนั้นก็ด้วยอำนาจแห่งพระคาถาชินบัญชร และความบริสุทธิ์ตั้งมั่นของจิตที่คิดช่วยชีวิตแม่ในยามฉุกละหุก เกิดเป็นพลังของสมาธิแผ่รับบารมีของเจ้าประคุณสมเด็จมาช่วยชีวิตแม่ จนเกิดเป็นนิมิตกับจิตแม่เช่นนั้น 

                แม่ยังคงเหลียวหน้าไปมาทั้ง ๆ ที่นอนอยู่กับพื้น เหมือนกับมองหาใครสักคนหนึ่งซึ่งเข้าใจได้ว่าแม่คงมองหาพระแก่ ๆ รูปนั้น เพราะในความรู้สึกของแม่ แม่เห็นและแม่รู้สึกจนเชื่อว่าเป็นความจริงว่ามีพระสงฆ์แก่ ๆ ห่มจีวรสีคล้ำมาเป่ากระหม่อมแม่ในขณะที่ไม่มีสติสมประดี จนกระทั่งรู้สึกตัวและฟื้นขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง 

                โอ! เจ้าประคุณสมเด็จแม้ดับขันธ์ไปร้อยกว่าปีแล้ว แต่บารมีและความศักดิ์สิทธิ์ยังเปี่ยมล้นนัก คราคับขันที่ชีวิตแม่อยู่ในเอื้อมหัตถ์แห่งมฤตยูเช่นนี้ก็สามารถแผ่บารมีชิงเอาวิญญาณแม่กลับคืนมาจากอุ้งหัตถ์แห่งมัจจุราชได้ 

                มาถึงวันนี้เมื่อหวนคิดถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นก็สำคัญว่าเหตุที่เกิดกับแม่น่าจะเกิดแต่อาการหัวใจวาย เพราะแม่เป็นโรคหัวใจ และไม่สบายด้วยโรคหัวใจตลอดมา แต่ก็แปลกประหลาดนักเพราะหลังจากเหตุการณ์นั้นแล้วอาการโรคหัวใจของแม่ก็ดูเหมือนหายไปเฉย ๆ จนกระทั่งล่วงมาถึงปีพุทธศักราช 2548 โรคหัวใจก็ไม่ได้กล้ำกรายมาเยือนแม่อีกเลย คงมีแต่ความแก่และความเจ็บเพราะเหตุชราที่นับว่าเป็นทูตแห่งมรณะเท่านั้นที่มาเยือนโดยธรรมดาธรรมชาติ 

                หลังจากวันนั้นแล้วแม่ก็เป็นปกติเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจนก็คือทั้งแม่และน้าให้ความเมตตา ให้ความรัก และให้ความเกื้อกูลแก่ผมมากกว่าที่เคยเป็นมาแต่ก่อน 

                ยามจะกินทั้งแม่และน้าก็จัดหาข้าวปลามาให้กิน บางวันเสื้อผ้าที่ผมรอซักก็มีคนเอาไปซักรีดให้ นับเป็นครั้งแรกที่ผมมาอยู่บ้านมนูญผลแล้วได้ใส่เสื้อผ้าที่รีด บางทีมีขนมหรือผลไม้ทั้งแม่และน้าก็จัดวางไว้ที่ห้องครัวหลังบ้าน 

                นี่ก็คืออานิสงส์ของบารมีในเจ้าประคุณสมเด็จที่ได้แผ่มาถึงศิษย์ผู้ยากในยามนั้น 

                หลังจากนั้นไม่กี่วันผมกลับจากมหาวิทยาลัยราว ๆ บ่ายสามโมงอีกครั้งหนึ่ง วันนี้แม่นั่งรออยู่ที่ระเบียงหน้าบ้าน พอเห็นผมเดินเข้าซอยมาแม่ก็มาคอยที่ประตู! พอผมก้าวเข้าประตูแม่ก็เข้ามาจูงมือผมและบอกว่ามาดูนี่ ผมก็ประหลาดใจว่าแม่จะชวนไปดูอะไรกันแน่ 

                แม่จูงผมไปที่ห้องนอนผมนั่นแหละ พอเข้าประตูห้องนอนแม่ก็ชี้ไปที่รูปเจ้าประคุณสมเด็จ แล้วบอกว่าพระแก่ๆ องค์ที่มาช่วยชีวิตแม่วันนั้นก็คือพระรูปนี้แหละ แม่พูดด้วยเสียงที่ละล่ำละลักด้วยความตื่นเต้นยินดีเป็นที่ยิ่ง ทำเอาผมขนลุกซู่ชูชัน ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจเป็นอย่างดีว่าเหตุการณ์ในวันนั้นไม่มีสิ่งอื่นใดและใครไหนนอกจากเจ้าประคุณสมเด็จที่ได้แผ่บารมีมาช่วยชีวิตแม่ 

                ทั้งแม่และผมประนมมือไหว้เจ้าประคุณสมเด็จพร้อมกันราวกับนัดหมายกันไว้ ผมสังเกตสีหน้าเจ้าประคุณสมเด็จในรูปก็เห็นว่ามีลักษณะอมยิ้มด้วยความยินดีอยู่เหมือนกัน 

                อันการเห็นรูปแสดงอารมณ์ความรู้สึกที่ทำให้รูปของโมนาลิซ่าเลื่องชื่อลือชาไปทั่วโลกนั้นเป็นฝีมือของศิลปินผู้วาดภาพ แต่อารมณ์ความรู้สึกที่ปรากฏจากสีหน้าเจ้าประคุณสมเด็จในรูปถ่ายนั้นย่อมไม่ใช่ฝีมือช่างภาพ หากเป็นนิมิตที่ก่อให้เกิดเป็นความรู้สึกกับจิต ซึ่งใคร ๆ ก็อาจสัมผัสได้หากมีความศรัทธามั่น มีจิตที่เป็นสมาธิพอประมาณ 

                แม่บอกว่าพระรูปนี้ศักดิ์สิทธิ์ มาช่วยชีวิตแม่ไว้ อยากจะทำบุญถวายสักครั้งหนึ่ง ผมก็บอกว่าดีเหมือนกัน หลังจากนั้นไม่กี่วันเป็นวันเสาร์ มนูญผลกลับมาบ้าน แม่ก็จัดงานทำบุญเลี้ยงพระอุทิศถวายเจ้าประคุณ ผมก็พลอยได้ผลบุญและอิ่มใจตามไปด้วย 

                หลังจากวันนั้นแล้วบนหิ้งพระน้อย ๆ ในห้องใต้ถุนที่ผมอยู่ก็มีแจกันดอกไม้มาวางถวายทุกวัน ทั้งแม่และน้ามีความศรัทธานับถือเจ้าประคุณสมเด็จ จากการสัมผัสและประสบด้วยตนเอง หิ้งพระผมจึงเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำบ้านไปโดยปริยาย 

                เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้ผมระลึกถึงลุงต๋อมซึ่งเป็นผู้มอบพระสมเด็จให้กับผม และเกิดความเชื่อมั่นว่าพระสมเด็จที่ลุงต๋อมให้มาคล้องคออยู่นั้นเป็นพระสมเด็จแท้แน่นอน จึงสามารถแสดงอิทธิปาฏิหาริย์สมดังคำร่ำลือได้ปานนี้ 

                แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นจนได้ วันหนึ่งผมอาบน้ำก็ได้ถอดสร้อยคอที่แขวนพระสมเด็จไว้ที่โต๊ะหนังสือ ครั้นอาบน้ำเสร็จก็จะเอาพระขึ้นแขวนคอ แต่พลาดท่าไหนก็ไม่รู้สร้อยคอพลัดจากมือตกลงที่พื้น พระสมเด็จแตกสลายกลายเป็นพระที่ทำด้วยปูนปลาสเตอร์ทั้งองค์ ทั้ง ๆ ที่ภายนอกเคยเห็นเป็นพระเก่าแก่

                ผมจึงรู้ได้ในบัดนั้นว่าพระสมเด็จที่ลุงต๋อมให้มาหาใช่พระสมเด็จของวัดระฆังแท้แต่ประการใดไม่ หากเป็นของปลอมที่ทำขึ้นมาใหม่ให้ดูเหมือนเก่า 

                จึงทำให้เข้าใจได้ว่าความศักดิ์สิทธิ์ของพระสมเด็จวัดระฆังนั้นเป็นดังที่เจ้าประคุณสมเด็จเคยถวายพระพรตอบกระแสพระราชดำรัสถามของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวว่าพระสมเด็จวัดระฆังมีความศักดิ์สิทธิ์ มีฤทธานุภาพด้วยพระคาถาชินบัญชร 

                ดังนั้นบรรดาผู้ที่นับถือบูชาเจ้าประคุณสมเด็จและพระสมเด็จวัดระฆังจึงพึงรู้พึงเข้าใจว่าถ้าหากมีความศรัทธามั่น นับถือบูชาเจ้าประคุณสมเด็จ และพระสมเด็จมั่นคงจริงแท้แล้ว ถึงแม้จะเป็นพระที่ทำด้วยปูนปลาสเตอร์ หากได้บูชาสวดพระคาถาชินบัญชรเป็นประจำแล้ว พระที่ทำด้วยปูนปลาสเตอร์นั้นก็จะมีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์เป็นพระสมเด็จวัดระฆังแท้ได้เหมือนกัน.    
         
    บทความนี้เป็นของศิษย์สมเด็จนะครับ พอดีไปอ่านเจอ ขออนุโมทนากับเจ้าของบทความด้วยครับ ตัวอย่างนี้จะเห็นได้ว่าแม้พระสมเด็จปลอมเพียงแค่มีใจบริสุทธิ์ศรัทธาอย่างจริงในองค์สมเด็จโตไม่ได้สนใจพาณิชย์ไม่ได้คิดโอ้อวดที่มีอยู่เพราะศรัทธาจริงๆบวกกับพระคาถาชินบัญชรอันศักดิ์สิทธิ์เพียงแค่นี้อานุภาพพระสมเด็จก็ปรากฎแล้วละครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ธันวาคม 2012
  5. PraKhoonPhan

    PraKhoonPhan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2010
    โพสต์:
    881
    ค่าพลัง:
    +6,625
    มีประสบการณ์กับพระสมเด็จครับ
    ตอนแรกๆที่พ่อให้มาผมยังไม่เชื่อว่าเป็นของสมเด็จโตก่อนนอนผมอธิษฐานเลยว่าหาก
    เป็นพระสมเด็จที่สมเด็จโตท่านสร้างจริงๆขอให้ทำให้ผมรับรู้ด้วยเถิดตกกลางคืนผมฝันว่ามีเส้นผมงอกจากองค์พระบริเวณหร้าอกยาวมากและตื่นเช้ามาก็พบเส้นผมปริศนาซึ่งผมแขวนมานับเดือนมันไม่น่าจะมีเส้นผมเข้าง่ายๆ
    นี่แหละประสบการณ์ผม
     
  6. nitisartthai

    nitisartthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    313
    ค่าพลัง:
    +875
    เรื่อง:พระธาตุสมเด็จโตเสด็จ สวดชินบัญชรเพียงรอบเดียวจำได้หมด

    อันนี้ประสบการณ์ผู้หญิงคนนึงครับอยู่ทางภาคใต้จำจังหวัดไม่ได้ครับเพื่อนผมไปเจอมา คือเมื่อก่อนเค้าไม่ได้สนใจเรื่องพระเลยครับ ทั้ง ๆ ที่สามีเป็นคนชอบนั้งสมาธิ สวดมนต์ แต่ต่อมาจำไม่ได้ว่าอะไรทำให้เค้าได้นั้งสมาธิครับหลังจากได้นั้งเริ่มเก่งขึ้นครับเหมือนของเก่ามีมาอยู่แล้วนั้งจนถึงขั้นพิจารณาสังขาร แล้วตอนนอนทุกคืนหลังจากนั้งสมาธิจะมีพระองค์นึงครับมายืนสวดกำมือสวดมนต์อะไรก็ไม่รู้อยู่ปลายเตียงทุกคืน จนวันนึงไปเดินห้างไปเจอภาพสมเด็จโตที่เค้าขายกันอะครับ ก็เลยถามคนขายว่าเป็นใครพระองค์นี้คนขายเลยบอกว่าสมเด็จโตไงไม่รู้จักหรอ เค้าเลยขอซื้อครับเพราะอยากมาบูชาที่บ้าน แต่ตอนนั้นตังไม่พอจำไม่ได้ว่าขาดกี่ร้อยต่อเท่าไรเค้าก็ไม่ให้จึงอธิฐานครับของให้ได้บูชาเดินกลับมาอีกทีเค้าให้เลยครับ แล้วหลังจากนั้นก็นั้งสมาธิทุกคืนจนพระธาตุสมเด็จโตเสด็จมาครับลักษณะเป็นสีก้อนสีเหลืองผมถ้ามีโอกาสว่าจะไปขอแบ่งอยู่ครับ อ้อแล้วก็เค้าอธิฐานสวดชินบัญชรอะครับเป็นเรื่องอัศจรรย์มากคือ สวดเพียงรอบเดียวจำได้เลยจนถึงทุกวันนี้ครับ เรื่องนี้อาจไม่ตื่นเต้นแต่ถ้าเกิดกับคุณละ มาแบ่งปันครับ^^
     
  7. nitisartthai

    nitisartthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    313
    ค่าพลัง:
    +875
    ***วิธีหาและศึกษาพระสมเด็จสำหรับมือใหม่***
    บทนำ ก่อนอื่นผมต้องขอบอกก่อนนะครับว่าเป็นแนวทางของผมเฉย ๆ ครับไม่มีเจตนาให้ใครเชื่อหรือไปบิดเบื่อนขัดขวางทางการค้าของใคร การเริ่มต้นค้นหาพระสมเด็จของผมถ้าอ่านจากข้างบนสุดจะเห็นว่าที่มาแล้วความสนใจพระสมเด็จของผมมาจากพระสมเด็จเกจิของลุงคนนึงที่คลองหลอด ตอนเริ่มแรกนั้นผมยังไม่มีความรู้เลยสักนึดเดียว แม่กระทั้ง รอยปูไต่ รอยหนอนด้น หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เป้นเอกลักษณ์ของพระสมเด็จ ตอนนั้นยังแบบว่าโคตรงงอะไรว่ะเนี่ยไม่เห็นเข้าใจ แต่ผมมีองค์ครูคือพระสมเด็จเกจิองค์แรกที่ได้เช่ามาจากลุงที่คลอดหลอด ทำให้ผมเก็บแล้วก็หาสะสมพระสมเด็จที่มีความเหมือนขึ้นมากได้เรื่อย ๆ มาเป็นลำดับคือ

    1.เริ่มจากการศึกษาพระสมเด็จเก่า ๆ องค์นั้นทำให้ผมรู้จัก แล้วก็อยากรู้เกี่ยวกับตำหนิของพระสมเด็จคือตอนแรกผมรู้เพียงพระสมเด็จเป้นพระสี่เหลี่ยม ๆ แต่พอได้องค์ครูมาศึกษาแม้ไม่มีเลยที่เหมือนหรือตำหนิอะไรเลยเราก็ศึกษาได้คือ ค้นหาจากเวบ หนังสือ สื่อต่าง ๆ แล้วเราจะเข้าใจเองว่า อ้อ เพราะสมเด็จต้องมีรอยปูไต่ แล้วก็เริ่มเข้าใจรอบยปู่ไต่

    2.เมื่อเริ่มรู้จักรอยปูไต่ ผมเลยเริ่มหาอ่านเนื้อหาแล้วมวลสารของพระสมเด้จเสียก่อนว่ามีอะไรบ้างก็เข้าใจว่าอ้อมันต้องมีอย่างนี้นะ เช่นอิฐแดง เมื่อเรามีความรู้เรื่องเนื้อคร่าว ๆ เราก็เดินหาพระสมเด้จตามตลาดแล้วส่องว่าองค์ไหนมีมวลสารอะไรบ้างแม้จะของปลอมเราก็ส่องเข้าไปก่อนหาเก่าๆ มาส่อง หรือของวัดหรือที่อายุใกล้ ๆ สมเด้จมาส่อง

    3.เมื่อส่องลงไปเราจะได้ความรู้เรื่องมวลสารยิ่งส่องมากทั้งของแท้และของปลอมตามท่าพระจันทร์หรือที่อื่น ๆ เราจะยิ่งเข้าใจว่าของเก่าของใหม่ต่างกันยังไง

    4.อย่ามองข้ามพระสมเด็จเก่าที่เหมาตามบ้านเด็จขาดแม้จะขาดตำหนิสมเด็จแท้ถ้าเสียตังเช่าสัก 20 30 ก็เช่ามาเหอะถ้าเนื้อหาดูโคตรเก่ามาส่องเพื่อเสริมความรู้ว่าอ้อปลอมเก่าเนื้ออย่างนี้

    5.หัดลองเอาพระเก่าพระใหม่ไม่ว่าของแท้ของปลอมมาปล่อยลงกระจกแล้วฟังเสียงตกกระทบ จากที่ลองทำดูหลายๆ คนบอกว่าของเก่ามันต้องเสียงใสแต่จะบอกว่าของเทียมทำได้แล้วครับ ถ้าไม่หักดูยังไงก็ไม่รู้แค่เสียง

    6.หัดลองนำพระมาล้างมาแช่น้ำมาขัดดความหลุดล่อน หรือดูฟองอากาศที่ขึ้นมาว่าเก่าใหม่แตกต่างกันยังไงไม่ใช้เอาไปล้างเพียงเพื่ออยากให้สะอาดต้องสังเกต แล้วก็ดูว่าตอนแห้งแห้งเร็วหรือช้าอย่างไร

    7.พยายามหาดูของแท้ให้ได้ ถ้ายังไม่มีให้ดูลองดูภาพจากหนังสือพระที่น่าเชื่อถือเป็นที่ยอมรับดูว่าเนื้อหาสีอะไรเก่ายังไงแม้ไม่ได้เห้นของจริงแต่การสังเกตตรงนี้จะทำให้มีความรู้เรื่องสีลักษณะความเก่าขึ้นบ้างสัก 10% ก็ยังดีกว่ามัวหลังพระเรซิน เก่าแบบเรซิน เก่าแบบคมชัน 150+ กว่าปีแล้วครับ ก่อนมีสงครามเสียอีก สภาพคมชัด 100% ไม่มีหรอกครับถ้าไม่ใช่ครับจากบ้านคหบดี

    8.อย่าเชื่อคนอื่นเสียหมด ผมคนนึงทุกอย่างต้องมีคำตอบจากข้อสันนิษฐานที่มีความน่าจะเป้นไปได้ ถ้ายังเชื่อในนิทานไม่มีการคิดวิเคราะห์หาเหตุผล ยากครับ ก็คงต้องนำมาลงถามกันต่อไปทุกยุคทุกสมัย พระที่ผมใส่อยู่มีคนดูแท้บ้างปลอมบ้างผมไม่สนใจเพราะเราให้เค้าออกความเห็นผมสนใจในการสังเกตของผมคือถ้าพระองค์นี้มีคำตอบทุกอย่างผมจะใส่แล้วไม่สังสัยความแท้หรือเทียมเพราะก็เท่านั้นเถียงกันไปไม่รู้จบไม่มีใครเกิดทัน คือที่ว่าอย่างนี้เพราะบางคนเช่ามาอย่างแพงหวังพึ่งบารมีท่านแล้วมาลงถามไม่ใช่ก็เสียความรู้สึกรับไม่ได้จิตตก หาที่ยึดเหนี่ยวไม่ได้แม้พระที่เช่ายังไม่เชื่อถือขนาดตอนเช่าศรัทธาแล้วศรัทธาอีกพอคนบอกไม่ใช่จบเลยหมดเสียความรู้สึก ทั้ง ๆ ที่ยังไม่หาเหตุผลเองเลย หรือบางคนก็จมหายไปในทะเลแต่พวกนี้ดีอย่างจิตไม่ตกเพราะเชื่อถืออย่างงั้นแม้เหตุผลมารองรับไม่ได้ถึงการมีอยู่ของพระองค์นั้นก็เชื่อก็ศรัทธาเช่นวัดพระแก้วครับ บ้างก็ว่ามีกรุนี้บ้างก็ว่าไม่มี ผมไม่สนใจครับเชื่อใครเชื่อมันไม่ได้ทำให้เดือนร้อนใจไม่เชื่อก็อย่าเชื่อ ทุกอย่างต้องเป็นกลางแล้วมีเหตุผล ไม่มีเชื่อเฉพาะกลุ่ม ไม่เชื่อสากล ไม่ชื่อกรุอื่น ผมเชื่อตัวเอง ใส่เองมีความสุขเองไม่สนใจใคร ศรัทธาเท่านั้นจบ เพราะคนมาดูแท้ของเช่าก็ไม่ขาย เราชื่อของเราใช่ของเราเท่านี้ครับ

    9.ผมพยายามจะอธิบายนะครับแต่มันยากอยู่เหมือนกันเพราะทุกอย่างที่ทำให้เราหาพระได้มันมาจากความพอใจด้วยถ้าเราพอใจมันก็จบแล้วส่วนเรื่องของวิธีนั้นเราต้องอ่าน ๆ แล้วก็อ่านหาความรู้เรื่อย ๆ จากคนอื่น ๆ หนังสือทั้งเชื่อได้เชื่อไม่ได้ แล้วสุดท้ายไม่นานคุณจะแทบไม่ต้องลงถามใครให้มากความ แต่สิ่งที่คุณหาถ้าถึงแม้จะปลอมก็ปลอมเนียน 555 จุดนี้คงงงที่บอกอย่างนี้เพราะถ้าเราเอาพระไปส่วนใหญ่ก็ตีเก๊จึงไม่อยากใช้คำว่าเจอของจริงเพราะยังไงซะก็ไปสร้างความหมันไส้แล้วไม่พอใจกับพวกเชื่อมั่นในตัวเองแล้วติคนอื่นนะครับ

    10.สรุปสั้นเพราะไม่รู้จะอธิบายยังไงนะครับยิ่งเขียนยิ่งยาวยิ่งมึนเด๋วจะงงกันไปใหญ่ การศึกษาพระสมเด้จต้องเริ่มจากประวัติศาสตร์ ภาพมวลสารที่ต่าง ๆ ที่อ้างว่าของจริง พระสมเด็จของจริงของปลอม พระเกจิอื่นในยุตคเก่า ๆ ภาพของจริงจากหนังสือที่เชื่อได้ หรือของจริงถ้ามีโอกาส อ่านให้หมดทุกกลุ่มทั้งสากล แล้วแค่ชอบ หรืออะไรก็แล้วแต่อ่านให้หมดอย่าพยายามเอียงไปทางไหนมากนักเพราะเข้าไปทางไหนคุณก็จะไปเป้นพวกกลุ่มนั้นเป้นพวกให้ได้ทุกกลุ่มฟังความคิดของทุกกลุ่มแล้วมาวิเคราะห์สรุปหาคำตอบเอง แล้วที่ขาดไม่ได้คือหลักวิทยาศาสตร์ ความน่าจะเป็น ตั้งสมมุติฐานให้ได้ สรุปสั้นได้แค่นี้แต่ศึกษาจริง ๆ ข้อมูลเยอะมากเลยทีเดียว

    ส่งท้ายเคยเชื่อคนเล่นพระมา 20-30 ปีไหมเค้าเสพข้อมูลมากน้อยขนาดไหน บางคนเสพน้อยกว่าเราถมไปถ้าคุณเสพได้มากเท่าไรหรือมากกว่า คุณจะเล่นเพียง 3 4 เดือนคนยังมีความรู้มากกกว่าคนเล่นมา 20-30 ปีเสียอีก ข้อมูลนั้นสำคัญที่สุดยิ่งมากยิ่งมาจากหลายทางยิ่งดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ธันวาคม 2012
  8. nitisartthai

    nitisartthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    313
    ค่าพลัง:
    +875
    ขอบคุณครับสำหรับประสบการณ์ที่นำมาแชร์ผมเคยอ่านของคุณอยู่เหมือนกัน จากกระทู้สมเด้จองค์หนึ่งเดียวอะไรเนี่ยแหละ ถ้าจำไม่ผิดนะ ผมเชื่อในเรื่องอจินไตยเหมือนกันครับบางคนไม่เจอกับตัวก็ว่าเพ้อบ้างหลงบ้างแต่แปลก พระธาตุเสด็จไม่เห็นสงสัยกันอะนะเนี่ยแหละคนเรา เรื่องของผมก็มีเกิดกับคนใกล้ตัวเกี่ยวกับหลวงพ่อเงิน อจินไตยเหมือนกัน เคยนำมาลงเหมือนกันเงียบกริบไม่มีใครเชื่อก็อะนะไม่ได้เจอกับตัว ใครมันจะเชื่อเรื่องของเค้าเพราะผมก็นำมาลงเป็นวิทยาทานเพราะเก็บยาวไม่ปล่อยไม่ขายอยู่แล้ว ถ้ามีโอกาสช่วยถ่ายภาพมาลงให้ชมหน่อยนะครับ อยากชมเหมือนกันครับ
     
  9. PraKhoonPhan

    PraKhoonPhan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2010
    โพสต์:
    881
    ค่าพลัง:
    +6,625
    ครับพี่ทุกวันนี้ผมยังจำภาพที่ฝันได้อยู่เลย
    แล้วผมก็เคยฝันอีกอย่างฝันเห็นตัวเลขหลังพระสมเด็จไม่รู้ว่าสมเด็จโตท่านให้รึเปล่าแต่งวดนั้นพอตามกลับไม่ออกมาออกอีกสองงวดถัดมา
    ไม่ทราบว่ามีใครเคยฝันเห็นตัวเลขจากพระสมเด็จบ้างไหม
     
  10. buakaew2007

    buakaew2007 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,410
    ค่าพลัง:
    +6,222
    สององค์นี้ครับ
    เจ้าของบอกว่าได้มาตอนเปิดกรุปี2500
    เก๊แท้ไม่รู้
    แต่ติดตัวประจำครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1020518.JPG
      P1020518.JPG
      ขนาดไฟล์:
      840.3 KB
      เปิดดู:
      1,930
    • P1020502.JPG
      P1020502.JPG
      ขนาดไฟล์:
      842.3 KB
      เปิดดู:
      1,646
  11. PraKhoonPhan

    PraKhoonPhan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2010
    โพสต์:
    881
    ค่าพลัง:
    +6,625
    ประสบการณ์เป็นอย่างไรบ้างครับ
    ช่วยเล่าให้ฟังบ้างนะครับ
     
  12. kravity

    kravity เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,472
    ค่าพลัง:
    +34,745
    มาขอร่วมแจมด้วยคนครับ ศรัทธามากครับ จะบอกว่าผมสวดคาถาชินบัญชร ตอนสมัยเด็กกับพ่อ แล้วไม่ทำให้ผมฝันเลย (แบบว่าตอนเด็กๆ จะฝันแปลกๆ เยอะแยะมากมาย แฮะๆ แบบว่าฝันเจอผีบ้างก็เลยสวดตามพ่อครับ) พอสวดแล้วทำให้ใจสงบไปเองๆ จริงๆนะครับ ตอนนี้ผมกลับมาสวดอีกรอบ ไม่ค่อยฝันเลยครับ รู้สึกนอนหลับสบายมากๆครับ
    ปล. เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ
     
  13. nitisartthai

    nitisartthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    313
    ค่าพลัง:
    +875
    เงียบดีจังครับสำหรับกระทู้ใหม่
     
  14. nitisartthai

    nitisartthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    313
    ค่าพลัง:
    +875
    วันนี้มาคุยเรื่องทฤษฎีพระสมเด็จกันดีกว่า

    บทนำ เรื่องของทฤษฎีความเชื่อเรื่องพระสมเด็จนี้มาจากการอ่านบทความต่าง ๆ จากหลาย ๆ กลุ่มที่เล่นหาสมเด็จ แล้วก็มีความคิดเห็นของผมเองด้วยซึ่งก็อาจเป้นทฤษฎีหรือเป็นเพียงแนวความคิดคนคนนึงไม่ต้องใส่ใจอะไรมากครับเอาไว้อ่านเพลิน ๆ จากการอ่านมาสามารถสรุปแนวความคิดความเชื่อหรือทฤษฎีที่ทำให้เกิดกลุ่มต่าง ๆ ได้ดังต่อไปนี้

    1.กลุ่มสากล มีแนวความคิดที่ว่าสมเด็จโตนั้นเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงมากคล้าย ๆ หลวงพ่อคูณสมัยนี้(เปรียบเทียบเฉยๆ) ที่มีคนเข้าหามากแล้วสมัยก่อนนิยมนิมนต์พระไปเทศซึ่งต้องเป็นเรื่องแน่นอนที่สมเด็จโตซึ่งมีชื่อเสียงมากย่อมได้รับนิมนต์มากจนไม่มีเวลาสร้างพระสมเด็จ การสร้างพระสมเด็จจึงเป็นการสร้างเรื่อย ๆ ไม่มีกฎเกณฑ์อะไรแน่นอนมาวัดได้ จึงคิดว่าทำได้ออกมาน้อยมาก ไม่ได้สร้างถึง 84000 อีกทั้งยังคิดว่าพระสมเด็จนั้นมีราคามาตั้งแต่ตอนสมเด้จโตท่านยังมีชีวิตอยู่จึงเริ่มมีปลอมมาตั้งแต่ท่านยังมีชีวิตอยู่โดยอาจจะปลอมจากคนที่ช่วยท่านสร้างพระสมเด็จ เห็นว่ามีผู้ศรัทธาในตัววท่านมากเมื่อเดินทางมาไกลก็ไม่อยากรอตัวเองอยู่ใกล้ก็เลยขอจากท่านก่อนไม่ก็สร้างเองและนำมาขายต่อ ข้างวัด ถ้าเป็นจริงอย่างว่าพระสมเด้จปลอมยุคนั้นก็มีความศักดิ์สิทธิ์เหมือนกันอยู่แม้ท่านไม่ได้ปลุกเสกอีกรอบพระมวลสารมาจากท่านนั้นแหละ นี่เป็น 1 ความเชื่อนะครับ สายนี้พระสมเด็จจึงแคบแล้วก็ราคาสูงมาก ๆ แต่เล่นสายนี้เก็บไว้มีแต่ราคาเพิ่ม ๆ เพราะคำว่าสากลนิยมนั้นเอง แล้วสมัยก่อนเกิดโรคห่าอีกสมเด็จจึงถูกฝนไปทำน้ำมนต์กินยิ่งทำให้น้อยไปอีก

    2.กลุ่มพระสมเด็จนอกพิมพ์ กลุ่มนี้จะไม่เน้นที่ทรงพิมพ์พระสมเด็จเท่าไรนัก ขอเพียงแค่ธรรมชาติขององค์พระใช่ มวลสารได้เท่านั้นเอง มาฟังความคิดเห็นของกลุ่มนี้ดู กลุ่มนี้มีแนวคิดที่ว่าสมเด็จโตนั้นเป็นคนที่รูปร่างเล็กแต่ใจใหญ่คือคิดจะทำการใดก็ต้องยิ่งใหญ่ ดูได้จากการสร้างพระนั่ง พระยืน พระนอนตามวัดต่าง ๆ ที่มีความสัมพันธ์กับท่าน อีกทั้งยามนั้นไม่ได้เป็นยามเกิดศึกสงครามแต่ประการใด จะมีการล่าอาณานิคมบ้างแต่เราก็ไม่ได้ไปรบรากับใครจนไม่มีเวลาทำอะไร ยามบ้านเมืองสงบแล้วคนสมัยก่อน การจะสร้างพระสืบต่อพระพุทธศาสนานั้นต้องสร้างให้ครบ 84000 องค์ตามพระธรรมขันธ์ อีกทั้งองค์สมเด็จโตท่านมิใช่พระรักสวยรักงามท่านเป็นอริยะเจ้าการจะทำอะไรคงไม่หลงความสวยความงามรูปลักษณ์ภายนอก จริงแท้แน่นอนที่ท่านต้องมีลูกศิษย์ลูกหามาก เมื่อมีลูกศิษย์มากก็ต้องมีชาวบ้านธรรมดาไม่จำเป็นต้องเป็นช่างสิบหมู่สร้างแม่พิมพ์มาถวาย พระสมเด็จจึงไม่ควรถูกจำกัดแค่ พิมพ์ที่สร้างขึ้นจากช่าง 10 หมู่เท่านั้น ของชาวบ้านน่าจะมีความเป้นไปได้สูงที่เดียวที่ต้องมี เพราะการแกะแม่พิมพ์พระมาถวายก็ถือเป็นการทำบุญช่วยสืบศาสนาเช่นกัน เมื่อมีทั้งพิมพ์ช่างหลวง พิมพ์ชาวบ้าน แล้วยามสงบเช่นนั้น บวกกับความคิดของคนโบราณ 84000 และความใจใหญ่ของสมเด็จโต พระสมเด็จคงไม่มีเหลือแค่ 200+ ดังปัจจุบันแท้แน่นอน แม่จะเกิดโรคห่าขึ้นแต่ก็ไม่น่าจะใช่ว่าหมดไปทั้งหมด 150+ปีกว่า คงต้องมีการเหลือบ้างจนถึงทุกวันนี้ ทั้งนี้ข้อสันนิษฐานอีกประการคือ พระสมเด็จเป็นพระกดแจกเรื่อย ๆไม่ได้บรรจุลงกรุแบบบางขุนพรหม จึงน่าจะเกิน 84000 องค์ด้วยซ้ำเพราะท่านคงไม่มานั้งกดเพียงองค์เดียงต้องมีลูกศิษย์ช่วยกันกดอย่างแน่นอนเพราะลูกศิษย์มาก ส่วนในเรื่องมวลสารนั้นคงเห็นจะขัดแย้งอะไรไม่ได้นักแต่เพียงจะบอกว่าเมื่อการสร้างพระที่มากถึง 84000 องค์ มวลสารมาตรฐานคงไม่พอแน่นอน เพราะฉะนั้นคงมีเนื้ออื่น ๆ อย่างแน่นอนแต่คนไม่นิยมจึงเลือนหายไปตามเวลา เช่นเนื้อดิน เนื้อตะกั่ว ฯลฯ ตามแต่จะหาวัตถุดิบสร้างได้ (ลูกศิษย์มากคนต้องการมากสมเด็จโตใจดีคงไม่มานั่งกดทีละอันสองอันตามกำลังลำพังแจกผู้ศร้ทธา) แบบสรุปย่อๆ

    ลองคิดกันดูละกันครับว่าจะเชื่อในฝั่งไหนความน่าจะเป็นหรือสิ่งที่คิดว่าน่าจะเกิดขึ้นมันเกิดได้หมดเพราะไม่มีใครเกิดทัน ขึ้นอยู่กับว่าคุณเล่นกลุ่มไหนไม่มีใครผิดหรอกจริงไหมครับ
    เล่นไปเหอะยังมีทฤษฎีอีกมากที่อาจมาลบล้าง 2 ทฤษฎีนี้ เพราะทฤษฎีต่าง ๆ นั้นที่เกิดขึ้นมันก็เกิดจากความโลภ กิเลส ความเห็นส่วนตัว ความน่าจะเป้น ประกอบกันทั้งสิ้น ลองคิดดูครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ธันวาคม 2012
  15. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,704
    ค่าพลัง:
    +21,337
    เคยคิดว่าทำไมไม่เคยเห็นใครตั้งกระทู้สมมเด็จพุฒาจารย์โต และแล้วก็มี

    ถ้าพูดกันเรื่องประสบการณ์ในองค์ท่านคงมีคนเล่ากันพอสมควรและอาจจะมากมาย

    แต่ถ้าพูดกันเรื่องพระสมเด็จทีไรส่วนมากวงแตกทุกที ไม่ทะเลาะกันก็เหม็นหน้ากัน

    ผมนับถือและระลึกถึงท่านทุกวันไม่ขาดไปวัดที่มีส่วนเชื่อมโยงกับประวัติท่านละเกี่ยวเนื่อง

    กับท่านเท่าที่ไปได้บริเวณนั้น วัดสะตือ วัดไก่จ้น วัดไชโย วัดระฆัง วัดอินทร์ บางขุนพรหม

    วัดโล่ห์สุทธาวาส

    ที่สวดบูชาท่านทุกวันก็บทนี้ ตะโย ทะภายา คติ เสยาโลกะเขยะปะทังระโททายะตะโยสัมมา

    อรหัง ส่วนพระคาถาชินบัญชรนานๆท่อง..........

    อยากฟังเรื่องราวท่านครับ..............

    แถวบ้านผมถ้ามีทุกข์ใจเรื่องบนบานศาลกล่าว จะไปขอพรหลวงพ่อโต วัดสะตือครับ

    คนพื้นทีเล่าขานกันเป็นปีไม่จบทุกวันนี้มีคนไปแก้บนไม่ขาดสาย........ศักดิ์สิทธิ์จริงๆครับ
     
  16. nitisartthai

    nitisartthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    313
    ค่าพลัง:
    +875
    ชอบครับเก๊แท้ไม่รู้แต่ติดตัวประจำ ผมเองก็เช่นกันครับเล่นเพราะศรัทธาช่วยได้หรือไม่ไม่รู้เพราะ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน พระเครื่องเป็นที่พึ่งทางใจครับสำหรับผม
     
  17. ryan boy

    ryan boy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +22,021
    สวัสดีครับน้องnitisartthai ขอติดตามเรื่องราวและประสบการณ์ต่างๆด้วยคนครับ พี่เป็นอีกคนหนึ่งที่ยึดคำสอนของท่านในการปฏิบัติ คือบุญเราไม่เคยสร้าง ใครที่ไหนจะมาช่วยเจ้าได้ พี่พึ่งศึกษาและเก็บสะสมพระเครื่องได้ไม่ถึงปีครึ่งเลย แต่พี่เลือกศรัทธาสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสีเป็นที่หนึ่งเลย นำเหรียญปี2517ที่ใช้แขวนคอมาให้ชมครับ ^__^
    [​IMG]

    [​IMG]
     
  18. PraKhoonPhan

    PraKhoonPhan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2010
    โพสต์:
    881
    ค่าพลัง:
    +6,625
    ไม่ทราบว่าราคาเท่าไหร่ครับพี่พอดีผมก็มีเหรียญนี้เหมือนกัน
     
  19. PraKhoonPhan

    PraKhoonPhan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2010
    โพสต์:
    881
    ค่าพลัง:
    +6,625
    ส่วนของผมถ้าเซียนหรือคนเล่นพระดูก็จะบอกว่าผิดพิมพ์บ้างแต่สำหรับผม
    พระนี้ก่อนพ่อได้มาสมเด็จโตท่านก็หยิบพระมาให้ในนิมิตรขนาดพ่อผมเล่าให้ฟังจิ้งจกร้องตลอดเลยแล้วอีกอย่างผมก็ทดสอบแล้วถึงใครจะบอกผิดพิมพ์ผมไม่สนหรอกเพราะเราไม่สามารถรู้ได้ว่าของแท้จริงเป็นอย่างไรแต่สมเด็จท่านเลือกเจ้าของเองอีกอย่างสมเด็จนี้ได้มาฟรีไม่ต้องเสียเงิน
    คนบางคนดิ้นรนแทบตายสุดท้ายเจอของปลอม
    สวัสดีครับ
     
  20. kravity

    kravity เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,472
    ค่าพลัง:
    +34,745
    สวัสดียามเย็นครับ ชอบคำพูดนี้ของปูโตมากครับ "บุญเราไม่เคยสร้าง ใครที่ไหนจะมาช่วยเจ้าได้"
     

แชร์หน้านี้

Loading...