{{หลวงพ่อคูณ257}}ศึกษาพระสมเด็จ/เบญจภาคีองค์ครู26ขุนแผนพรายกุมาร4ลพ.พรหม68พ่อท่านคลิ้ง105

สุดยอดครับพี่ Amuletism ...............สมกับที่เป็นบุคคลคุณภาพจริงๆ

 

สวัสดีครับ ท่านพี่ Amuletism และท่านพี่ทุกๆท่าน ขออณุญาติตอบแทนพี่ๆนะครับ องค์แรกน่าจะเป็น พระหูยานลพบุรี พิมพ์ซุ้มประตูบัวสองชั้นครับ องค์ที่สองนึกออกแล้วจะมาบอกอีกครั้งครับ

 

สวยงามจับใจมากๆ ครับ

 

ไม่ถึงชนาดนั้นหรอกครับ พี่โอกระบี่
ที่จริงกว่าจะผ่านเรื่องต่างๆ มา
ก็มีเรื่องทั้งทุก/สุข ทราบว่าอะไรควร/ไม่ควร
ก็เลยอยากจะแบ่งปันประสบการณ์
เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์บ้างแม้เพียงเล็กน้อยก็ยังดีครับ
ก็เหมือนที่สร้างกระทู้เพื่อแบ่งปันเรื่องราวประสบการณ์
ในกลุ่มเพื่อนๆ ที่ชอบอะไรเหมือนๆ กัน แบบนี้แหลัครับ

 

ฟังแล้วดูเหมือนชีวิตคุณ Amuletism
จะผ่านพบอะไรมาไม่ใช่น้อยนะค่ะ
กว่าจะมีทุนทรัพย์ในการสะสมพระมากขนาดนี้
เป็นนักเรียนทุนต้องเรียนเก่งมากแน่เลยค่ะ

 

ปิดตามหาเสน่ห์ พ.ศ. 2518
เนื้อเกสร แช่น้ำมนต์
หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี

 

ฝากบอกพรรคพวกพี่ด้วยครับว่า สวยขั้นเทพฯ ครับพี่ Amuletism

 

สวยมากครับ พี่ captainzire
วัตถุมงคลของหลวงปู่โต๊ะ
ยิ่งแช่น้ำมนต์ ยิ่งเข้มขลังครับ

 

ขอบพระคุณมากครับพี่ๆทุกท่าน
ก็ต้องเรียนตามตรงว่าพระองค์นี้
ก็ถือเป็นอีกหนึ่งความภูมิใจในชีวิตครับ

 

ขอบคุณที่นำมาให้อ่านครับ

 

;aa43;aa43hp_dayhp_day;aa46;aa46;aa43;aa43
อรุณสวัสดิ์เช้าวันหยุดครับทุกท่าน

 

อรุณสวัสดิ์ครับ พี่กรุพระ
และเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน
สัปดาห์นี้ทำงาน 7 วันครับ
เป็นอย่างนี้มา 3 สัปดาห์แล้วครับ
ก็ดีนะครับ แต่เหนื่อยหน่อยเท่านั้นเอง

 

พระหูยานไม่มีพิมพ์นี้ในสารบบคนทำอุปโลกน์รวมกับซุ้มเรือนแก้ว
ที่เรียกว่าซุ้มนครโกษา แต่ผมไม่ได้ศึกษาลึกมากอาจเรียกชื่อซุ้มผิด
แต่ดูเนื้อและพิมพ์แล้วก็เป็นการทำอุปโลกน์ขึ้นมาทั้งสององค์แล้วนำไปใส
ตั้งกล้วยบ้างลงน้ำยาที่เป็นกรดบ้าง ของแท้เนื้อพระจะเก่าและมีสนิมขุม
ตามกาลเวลาอย่างลงตัวมากกว่า

 

เหรียญนี้สวยครับ เนื้อผิวดูใหม่เพราะเก็บดี(เลี่ยม)
แต่พระบางอย่าง พ.ศ.เก่าทำเรียนแบบมา
ก็อาจอ้างได้ว่าเก็บดีเช่นกัน การจะดูผิวเหรียญเก่าใหม่นั้นต้อง
ใช้ทักษะเป็นอย่างมาก ต้องดูของแท้ แต่อย่างไรเมื่อลงกล้องด้วย
ขนาดขยาย 10X จะเห็นพื้นผิวบางจุดเกิด rust เพราะถูกอากาศ
ถูกนิ้วมือซึ่งเป็นกรด อาจเกิดขึ้นบาง ๆ ยึ่งถ้าถูกอากาศอยู่ตลอดเวลายึ่งเกิดง่าย

 

ลิ้งค์ฝากดูตำหนิกันด้านหน้าและหลัง
ตำหนิ พิมพ์ทรง เหรียญจอบเล็ก หลวงพ่อเงิน ปี 2515

Bloggang.com : piyakoko -

 

เหรียญนี้อธิบายในกระทู้สือกลางแล้วครับ
การเป็นสือกลาง จะมีพระหลายชนิด บางอย่างผมรู้จักไม่หมด
ถ้าพี่ท่านใดทราบก็ไปช่วยกันตอบได้ครับ ผมขอเรียนเชิญ

 

เจ้ากรมกรุหลวงปู่โต๊ะตัวจริง สวยครับ
มีออกที่วัดลาดปลาเค้าพิมพ์ไม่ค่อยเหมือน แต่เชื่อกันว่า
หลวงปู่โต๊ะปลุกเศก เพื่อนที่รู้จักคนหนึ่ง
ไปบูชามา เนื้อสวยดี แต่ผมไม่มีความเห็นเพราะไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร

 

ขอบพระคุณครับ อาจารย์ Stoes
เหรียญจอบปี 15 จะเช่าหาต้องระวังหน่อยครับ
เพราะเหรียญที่ล้างผิวมา และเหรียญที่กระไหล่ใหม่
มีอยู่เป็นจำนวนมากครับ เดิมๆ จริงๆ หายาก
ส่วนใหญ่ที่ดูเดิมๆ ก็ไม่ค่อยสวยครับ
องค์ที่เช่ามานี้ เจ้าของเก่าเลื่อมพลาสติกแบบโบราณไว้
เลื่อมเก่าเดิมๆเลย แล้วเซียนที่เช่าต่อมาก็แกะออก
แล้วทำเลื่อมใหม่ครับ ผิวก็เลยสวยธรรมชาติดีครับ

 

เรื่อง ประวัติการสร้างพระเครื่องหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร      

     นายช่างชาวจีน ที่เป็นช่างทองมีภูมิลำเนาอยู่ในละแวกวัดบางคลาน ตามประวัติการสร้างพระหลวงพ่อเงินแล้วก็ต้องขอย้อนไปกล่าวคือ คนไทยกลุ่มหนึ่งที่อพยพลงมาจากเมืองเหนือมีฝีมือในการหล่อ การหลอมโลหะ โดยมาตั้งบ้านเรือนอยู่ย่านบางกอกน้อยจนแถบนั้นมีชื่อเรียกว่า "บ้านช่างหล่อ"
     บรรดาช่างหล่อเหล่านี้ เป็นชาวกำแพงเพชร โดยการนำเข้ามาของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ตั้งแต่แรกเริ่มสร้างกรุงธนบุรี เพื่อจะให้บรรดาผู้เชี่ยวชาญทุกสาขาเข้ามาชวยกันพัฒนาบ้านเมือง หลังจาก อยุธยาล่มสลายไปแล้ว พวกที่มีฝีมือการหล่อพระเครื่องก็เช่นกัน พระองค์เห็นว่า ยังขาดแคลนทางด้านการพระศาสนาในทุกสาขา จึงได้ทรงพระราชทานที่ดินนอกคูเมืองชั้นในให้เป็นที่อยู่อาศัย

     ในจำนวนช่างหล่อเหล่านี้มี คุณยายวัณ หรือ วรรณ สมัยนั้นคุณยายยังอยู่ในวัยสาวเป็นลูกสาวของนายช่างหล่อ ต่อมาสมรสกับ ม.ร.ว.เดช สุทัศน์ คุณยายวัณจึงมีนามสกุลใหม่ว่า นางวัณ สุทัศน์" ไปโดยปริยาย ท่านผู้นี้และที่อยู่เบื้องหลังพระเครื่องรูปหล่อลอยองค์พิมพ์นิยม และพิมพ์จอบใหญ่ โดยท่านจะทำหุ่นอย่างละเอียดละออมากที่สุดถึง 4 - 5 ชุด แล้วจึงนำมาให้หลวงพ่อตรวจดูก่อนๆที่จะตัดสินใจ ให้ทำอะไรเพิ่มเติมหรือว่าตัดออกไปในเมื่อช่างก็มีความปราณีต หลวงพ่อก็ตรวจอย่างละเอียด ผลงานที่ได้จึงชนะใจวงการพระเครื่องมาโดยตลอด ไม่ว่าจะยุคไหนๆใกล้หรือไกล
     ถ้าจะเอาในด้านมีประสบการณ์มากกันละก็ผมว่า พิมพ์ขี้ตามีประสพการณ์มากกันละก็ผมว่า พิมพ์ขี้ตามีประสบการณ์มากกว่า จะถูกยิงแม้ระยะเผาขนก็เงียบปืนไม่มีโอกาสระเบิดออกมาได้เลย มากต่อมากแล้ว ล้วนแต่แขวนหรือมีรูปหล่อ ลอยองค์ พิมพ์ขี้ตาทุกราย ทั้งๆที่ดูประวัติการสร้างการปลุกเสกแล้ว ไม่มีพิธีรีตรองอะไรมากเลย แต่บารมีคาถาอาคมของหลวงพ่อเงินท่านยอดเยี่ยมจริงๆ ยากที่จะหาเกจิอาจารย์องค์ใด ในยุคนั้นเสมอท่านได้ ท่านดังแน่ๆแต่กังวลไปไกล และเนิ่นนานอยู่ในหัวใจของชาวพุทธตลอดมาทุกยุคทุกสมัยก็ว่าได้



     ส่วนพิมพ์รูปหล่อลอยองค์ พิมพ์นิยมก็หนักไปทางเมตตา แต่ก็มิใช่ว่า ปืนผาหน้าไม้ มีดกระบอง จะได้ชิมเลือดได้ง่ายๆการสร้างการตบแต่ง ก็เป็นถึงช่างหลวงที่มีความชำนาญมาผลงานออกมาจึงมีความปราณีต มากดังที่รู้ๆกันอยู่แล้ว ในมุมของวงการพระเครื่องตามศูนย์ต่างๆ ล้วนแต่ให้ความสนใจมากไม่พระเครื่องของสมเด็จพุทธาจารย์โตเลย





     ในด้านสนนราคาเช่าตามประการหรือว่าตามใบสั่งแล้ว รุ่นพิมพ์นิยมสวยๆดูง่ายมีรักมีทองเก่าปิดอยู่ มีราคาสูงถึง 700,000 - 1,000,000 บาทเข้าไปแล้ว และยังมีรุ่นพิมพ์ขี้ตาก็ทิ้งราคากันไม่เท่าไร
     ต่อมาก็มีพิมพ์ขี้ตา, พิมพ์นิยมรุ่นปี 15 ราคาก็หลักหมื่นขึ้นไป จากนั้นมาก็ยังมีรุ่นช้างคู่สร้างเมื่อปี 26 รุ่นนี้สร้างที่วัดท้ายน้ำ มีประสพการณ์น่าดูเหมือนกันขนาดคนอยู่ในคุกแล้ว ตัดสินเด็ดขาดแล้ว บัตรประจำตัวนักโทษประทับตรา "น.ช." คือ เด็ดขาดแล้ว ท่านยังเข้าไปถึงออกมาได้ทั้งๆที่จมอยู่ในนั้นนาน 14 วันไปแล้ว และมิใช่รอดออกมาได้ครั้งเดียว เขารอดมาแล้วถึง สามครั้งก่อนหน้านั้น หากท่านผู้อ่าน ไม่เชื่อลองอ่านเรื่องของเขาได้ในมุมของอภินิหารหลวงพ่อเงินตอนต่อไปในฉบับนี้ครับ
     นอกจากนี้ ก็ยังมีอีกหลายอย่าง หลายวัดที่หลวงพ่อเงินท่านให้ความอนุเคราะห์สมัย เมื่อท่านยังมีชีวิตอยู่ ต่างก็ได้อาศัยบารมีของหลวงพ่อสร้างกันขึ้นมา เช่น ปืนแตก, คำรน ฯลฯ ต่างก็มีประสพการณ์ เหมือนๆกัน ขนาดแผ่นป้ายโฆษณามีรูปหลวงพ่อยังยิ่งไม่ออก แล้วทำไมรูปหล่อของท่านปืนจะไม่แตกละไม่ตายดีเท่าไรแล้ว

     ต่อไปก็เป็นรุ่นจอบใหญ่ (ข้างเม็ด) รุ่นนี้ดังได้ดังกล่าวผ่านไปแล้วว่ารุ่น "ล้างหนี้" ไม่รู้เหมือนกันว่าทางวัดให้ช่างทำล้างหนี้ให้ช่าง ผมจึงไม่ขอยืนยัน แต่เขาว่ากันมาอย่างนั้นครับ
     รุ่นจอบใหญ่ เคยทำให้เซียนน้ำตาตกมาแล้ว ออกกันที่วัดหัวลำโพง ใครต้องการก็ไปบูชากันได้ พวกเซียนทั้งหลานก็ไปรวบกันมาคนละไม่น้อย ปรากฎว่า ผิดรุ่นต้องหงายท้องกันเป็นแถวแต่ก็ยัง ออกตัวไปได้ในภายหลัง กว่าจะรู้ตำหนิคุ้นเคยกับพิมพ์จอบใหญ่รุ่นเก่าๆ ก็เล่นเอาแทบแย่ ความจริงแล้ว พิมพ์จอบใหญ่จะดูได้ง่าย เพราะมีสร้างอยู่บล็อคเดียว จุดตายของพิมพ์นี้
     1. รอยบล็อคเป็นเส้นนูน (เนื้อดิน) ตรงไหล่ซ้ายระหว่างไหล่กับเส้นขอบใน (ซ้ายองค์พระ) แต่บางองค์ติดไม่ชัดเจนนัก
     2. รอยบล็อคแตกที่เส้นขอบมาถึงข้อเท้า (เท้าขวาองค์พระ) ด้านล่างจะเห็นเส้นเฉียงเกินเข้าไป แต่บางองค์ก็ติดน้อยมาก
     ส่วนเม็ดตุ่มหรือรอยยุบ รอยฟองอากาศเนื้อเกินอะไรต่อมิอะไร อย่าปักใจเชื่อนัก เพราะเป็นเหรียญหล่อ อาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ ต้องดูเนื้อประกอบด้วยครับ



     รุ่นจอบเล็ก ชื่อจอบเล็กก็จริง แต่เป็น "เล็กพริกขี้หนู" พุทธคุณ ประสพการณ์เพียบแป้รน่าดูทีเดียว ของปลอมก็เกลื่อนกรุง เพราะการถอดพิมพ์คงทำง่าย แต่การถอดพิมพ์คงทำง่าย แต่การถอดพิมพ์นั้น พิมพ์ตื้นและเล็กกว่าของจริงแต่มาระยะหลังวิวัฒนาการทำบล็อค ทำกันจนเหมือนจริงๆ ถ้าไม่เปรียบเทียบของจริงกันแล้วเซียนก็เซียนเถอะ เจอกันมาแล้วแต่ต่อมาก็รู้กัน คนปลอมจึงหันกลับไปทำพิมพ์หล่อ แบบโบราณใหม่ คราบนี้เลยทุบกันสนุกมือไปเลย "ใครโดนใคร" ก็รู้อยู่แก่ใจดีอยู่แล้ว





     จุดตายที่ควรสนใจสังเกตให้มากๆ ก็คือ รอยบุบจะมีปรากฎอยู่ แต่ของปลอมก็ทำให้มีได้เหมือนกัน รอยปัดให้เรียบเหมือนสึกเพราะผ่านการใช้มามาก แต่ด้านในของห่วงกลับไม่มีรอยสึกเลย ขอให้คิดว่า ปลอมทั้งนั้นไว้ก่อน ต้องดูเนื้อประกอบ หากมันวาวสีสดใสอยู่ก็ต้องระวังรอยบุบนั้นเกิดขึ้นเนื่องจากช่างปั้นหุ่นเทียนเวลางัดเขาจะใช้ไม้งัดหุ่นขึ้น แต่จะไม่ค่อยมีรอยบุบประจำที่ อาจจะมีทั่วไปทั้งเหรียญก็ได้ และอาจจะไม่ค่อยพบเลยก็ได้บางเหรียญ
     มีผู้บันทึกไว้ว่า คุณยายวัณ สุทัศน์ เป็นผู้แต่งพิมพ์ผู้เขียนคิดว่า ก็อาจเป็นได้ว่าคุณยายวัณ ท่านอาจเข้ามาจัดการเรื่องพิมพ์ เรื่องหุ่นขี้ผึ้งด้วยตั้งแต่ยุคต้นๆ เพราะเหรียญจอบเล็กนี้ วงการเชื่อว่าถ้าไม่สร้างก่อน พิมพ์ขี้ตาก็ต้องสร้างต่อจากพิมพ์ขี้ตาแล้วจึงสร้างพิมพ์นิยม และจอบใหญ่สร้าง สุดท้ายก่อนหลวงพ่อมรณภาพไม่นานนัก
     แต่พิมพ์ขี้ตา กับพิมพ์จอบเล็ก ความปราณีตห่างกันมาก ผมจึงเชื่อว่า พิมพ์จอบเล็กกับพิมพ์ขี้ตา ต้องเป็นช่างคนละสกุลกันอย่างแน่นอน โดยพิมพ์ขี้ตานั้น ผู้สร้างเป็นช่างทองชาวจีนระดับท้องถิ่น ส่วนพิมพ์จอบเล็ก เป็นช่างในกลุ่มช่างหลวง คือ คุณยายวัณ สุทัศน์ และจากนั้นจึงได้รับทำพิมพ์นิยม และพิมพ์จอบใหญ่ และจากนั้นจึงได้รับทำพิมพ์นิยม และพิมพ์จอบใหญ่ เป็นลำดับต่อไป
     ส่วนประวัติการสร้างพระเนื้อดิน เนื้อผงเนื้อผสมว่าน ที่ขุดพบในกรุวัดต่างๆนั้นก็ดังได้อธิบายไว้แล้วว่าท่านผู้ใด ใครสร้างจะหลวงพ่อสร้าง หลวงพ่อปลุกเสกหรือไม่อย่าไปถกเถียงกันแล้ว นับถือหลวงพ่อ รักคิดถึงหลวงพ่อ มีความเชื่อมั่นในอำนาจอาคมขลังของหลวงพ่อ ยอมรับเถอะครับ ว่าพระของท่านผมเองก็เกิดไม่ทันท่าน จึงกล่าวได้เพียงเท่านี้ครับ

อ้างอิงแหล่งข้อมูล นิตยสารเตโชทิพย์

ปล. บทความเก่า ราคาไม่ได้ updated นะครับ

 

เรื่อง จุดสังเกตและตำหนิ เหรียญหล่อ หลวงพ่อเงิน บางคลาน พิมพ์จอบใหญ่และจอบเล็ก 1
   
     ในระหว่างปีพุทธศักราช 2450 หรือในปีปีคริสต์ศักราช 1907 ซึ่งตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 หลวงพ่อเงิน ได้เดินทางมาทางเรือ มาตามทางของแม่น้ำเจ้าพระยา โดยจุดประสงค์เพื่อมาเยี่ยมเยียน ครูอาจารย์ของท่านที่ "วัดตองปุ (วัดชนะสงคราม)" วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่ ซึ่งพระอาจารย์ส่วนใหญ่ในวัดนี้เป็นพระมอญเสียส่วนใหญ่ ซึ่งวัดนี้สร้างตั้่งแต่สมัยอยุธยามีชื่อเดิมว่า "วัดกลางนา"
     ในขณะที่เรือของหลวงพ่อเงิน แล่นผ่าน วัดปากคลองมะขามเฒ่า ตำบลมะขามเฒ่า อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท นั้นเรือของหลวงพ่อเงิน ก็เกิดเครื่องยนต์ดับกระทันหัน ชางเครื่องบนเรือก็ช่วยกันแก้ไข เครื่องยนต์เรือ แต่อย่างไรก็ไม่ยอมติด ลูกศิษย์ของหลวงพ่อเงินก็ได้มาบอกกับท่านให้ได้ทราบ
     หลังจากหลวงพ่อเงินได้ฟังความจากศิษย์ แล้วก็ได้พูดออกมาลอยๆ ว่า "ท่านศุข นี่สำคัญนักจะนิมนต์เราขึ้นไปฉันเพลด้วยก็ไม่บอกหน็อยแน่ะ มาสะกดเครื่องเราได้ พวกเอ็งรอข้าอยู่ในเรือนะ เดี๋ยวข้าไป ฉลองศรัทธา เขาก่อนนะ"
     พอท่านพูดจบก็กระโดดลงน้ำ เดินบนผิวน้ำ ตรงไปขึ้นที่ท่าวัดปากมะขามเฒ่า แล้วตรงไปยังกุฎิของหลวงปู่ศุข พอหลวงพ่อเงินมาถึงยังกุฎิของหลวงปู่ศุข หลวงปู่ศุขก็ออกมาทักทายหลวงพ่อเงิน พร้อมกับขึ้นมาว่า "นิมนต์หลวงพี่ฉันเพลด้วยกันนะ แหม ผ่านมาไม่ยอมแวะหากันบ้างเลยนะ"
     หลวงพ่อเงิน ได้ยินเช่นนั้น ก็เอ่ยปากว่า "เผลอแผล็บเดียวท่านศุขนี่ชำนาญวาโยกสิณขึ้นมาก ไอ้เรามันมีจิตถึงกันอยู่ ว่างๆ ก็เข้าสมาธิไป หากันได้นี่"
     ทางหลวงปู่ศุข เมื่อได้ฟังเช่นนั้นก็พูดว่า "หลวงพี่ช่างยกยอกันมากไปแล้ว ถึงอย่างไรผมก็ยังตามไม่ทันอยู่ดี"
     หลังจากสนทนากันเสร็จ หลวงพ่อเงิน ก็อำลาหลวงปู่ศุข ลงเรือที่หน้าวัด เพราะลูกศิษย์ได้นำเรือมาจอดคอยอยู่แล้ว
     เป็นยังไงกันบ้างครับ สำหรับเรื่องราวการสนทนาของสองพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ที่ผมได้หยิบยกมาเล่าสู่กันฟังให้ทุกท่านได้ทราบ
     ต่อมาก็เป็น รายละเอียดของเหรียญหล่อ-พิมพ์จอบใหญ่ และ พิมพ์จอบเล็ก กันบ้างนะครับ

อ้างอิงแหล่งข้อมูล นิตยสารมหาโพธิ์