เรื่องจริงอิง Fiction "ภัยพิบัติ 5 มิติ"

.......^^......

 

เรื่อง..พายุ...มาตะโก๊ะ...

อย่างที่แง้มๆ ฝาโลงไว้วันก่อน…
อาทิตย์ได้โยกเข้าราศีพิจิก วันที่ 16 พ.ย. ไปแล้ว
ไปป๊ะกันแหมกับราหู ไฟเจอลม ในบ้านน้ำ………ก็ระวังน้ำปุดๆ

ถ้าจะมีพายุบุแคม…เอ..เดี๋ยวสงสัยนิดนึง..
ทำไมพายุต้องไปบุ.....อะไรทำนองนี้ด้วย

มันเรื่องอะไรของพายุ....งานหลักก็มีอยู่แล้ว
ชอบใช้งานพายุผิดประเภท...ก็ไม่น่านะ

เอาว่าต่อ…

รอบที่แล้ว…ลมกะลม…อังคารกะราหู…ในธาตุน้ำ
สำนักเฝ้าระแวงฯ สรุปมาว่า ถ้าแถวบ้านเราก็…พายุแกมี…
ถ้าของน้าโอบ ก็…พายุแสนดี… ไม่นับลูกย่อยๆ ขี้เกียจจำ

รอบนี้…

ไฟกะลม บนน้ำ..นอกจากพายุ หรือ คลื่นใต้น้ำแล้ว
ก็ระแวง...
อารมย์ความรุนแรง น้ำโหของมนุษย์ และอมนุษย์ เอาไว้บ้าง

เอาแบบตื่นเต้นอีกนิด...

ภพนี้เป็นภพมรณะของดวงเมือง ภพจิตวิญญาณ
การจุดระเบิดก็ คล้ายๆ เปิด "ประตูผี" อยู่เหมือนกัน

วันก่อนสภากาชาดบอก ขอรับบริจาคเลือดเพิ่ม
อีกมุมหนึ่ง....ก็มองเป็นการแก้เคล็ดได้เหมือนกันนะ
คือมีการเสียเลือดเกิดขึ้น แต่ในทางสร้างสรร ก็เป็นกุศลดี

ไม่รู้ฝ่ายการเมืองแอบแจมแก้เคล็ดด้วยรึเปล่านะ...


ทีนี้มีสองผู้ยิ่งใหญ่มาเยือนนี่
น้าโอบกะลุงเหวิน

มองตามดาวกะธาตุ

อาทิตย์กะราหู อยู่พิจิก...ไฟกะลม บนน้ำ
ก็พลังงาน ทั้ง ก๊าซ น้ำมัน ในทะเล
หรือทรัพยากรมีค่ามหาศาล มหาอุจจ์นี่ครับ

อยู่ในภพมรณะนี่ก็
ของที่เป็นมรดกตกทอดมา ที่ไม่เปิดเผยซะทีเดียว
มองได้โดยประมาณเอา อาจมีมากกว่าที่คิดก็ได้

แต่ถ้าระดับ น้าโอบ ที่ได้ตำแหน่งหมาดๆ แล้วมาเลย
ตามติดๆ กลัวตกขอบคือ ลุงเหวิน ก็พอจะบอกได้ว่า
ของที่รีบแจ้นมาเฝ้ากันเนี่ย...

..."มาตะโก๊ะ มาตะโก๊ะ"...มอญนะครับไม่ใช่เกาหลี
ประมาณว่า "ใหญ่ๆ บึ้มๆ" ทำนองนี้แล....

แล้วที่จะมาเรียกกันว่า "วิน-วิน"
แบ่งกันยิ้มๆ ทั้งสองฝ่ายเนี่ย
หลอกได้ไม่น่าเกิน ป.3 ละครับ ชั่วโมงนี้

อย่างนี้ตั้งแต่ ป 4 ขึ้นไป
เค้าเรียกว่า "วิน-วอด" ครับ
ฝ่ายหนึ่ง วิน ฝ่ายนึง วอดวาย

ประมาณมี ยิ้มๆ กับ แหยๆ คืออาการ
..."ยิ้มที่คล้ายจะร้องไห้นะครับ"....

การมาเยือนดูเหมือนว่าให้เกียรติเจ้าบ้าน
ก็แนวๆ ว่า.....จะมาขอแค่ลูกสาวคนเล็ก

แต่เอ..ไหงได้คนกลาง ยันคนโต ไปด้วย
หนักๆ เข้าแม่ยายก็จะเอาไปด้วย
เอาไปดูลูกสาวน่ะ...

หมาหลังอาน แมวสีสวาด ก็สวยดี
คนรับใช้นี่ ถ้าเปลี่ยนเสื้อหน่อย
....ก็ดูเป็นหลานสาวได้....

ถ้วย โถ ช้อน ชาม งามดี ที่ยังเหลือ

เอา... คืนแม่ยายให้ก็ได้ ขอโอ่งแทน
ทรงคล้ายๆ กัน....ประโยชน์น่าจะเยอะกว่า

นั่น....ช้ำหนักเข้าไปอีก

ไม่ได้ปล้นนะ..นี่ทิ้งตังค์ให้สองร้อย
ยิ้มหน่อย...เดี๋ยวถ่ายรูปไปลงเน็ทไม่สวย

พ่อตายืนมองตาปริบๆ ยินดีครับ เชิญครับ
ขอบพระคุณครับ...ช่วยๆ กันใช้ก็ดีครับ...

รอบหน้ามาอีกนะครับ ยังมีบ้านเมียน้อยอีกหลายหลัง
ดีใจจังที่มา............ประมาณนั้น....

เออ...มาถึงตรงนี้..ก็พอทำใจไว้แล้วว่า

สิบพายุแกมี แถมร้อยพายุแสนดี

ก็ไม่สู้...พายุบุแคมรี่...ขนาด "มาตะโก๊ะ มาตะโก๊ะ"

ของน้าโอบกะลุงเหวินแกได้หรอกครับ

.......เล่นถึงโอ่งเลย......

 

รออ่านต่อนะครับ

 

มาปูเสื่อรอแล้วเหมือนกันค่ะ

 

เนื่องจากมีเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ในช่วงเวลาอันใกล้นี้
และถือว่าอยู่ในขอบเขตของ "ภัยพิบัติ" อยู่เหมือนกัน

จึงมีผู้ขอให้ช่วยพิจารณาในมุมมองของ
....“ตาดูดาว เท้าติดปีก แล้วหลีกให้ไกล”....

ไม่เกี่ยวกับ...ฝ่ายใดนะ...ถามมา ก็ตอบไป

ก็พอสรุปเบื้องต้นประกอบ “การวิ่ง” ไว้ได้ดังนี้


จากข้อมูลที่ได้รับ…

การชุมนุมใน วันเสาร์ที่ 24 พ.ย. 2555 เวลา 09.01 น. …เค้าว่างั้นนะ
วันเสาร์นี่ เป็นวันที่แข็งที่สุดในเจ็ดวัน..ถ้าไม่เชื่อ…ลองเอาหัวไปโขกเสาดู…

เอา.. โขกเสร็จแล้วมาอ่านต่อ…

ขณะนี้เสาร์ได้ตำแหน่ง..มหาอุจจ์..เสาร์แข็งโป๊ก..ถือว่าได้สองเด้ง
เลยเข้าตำราว่า “พิงเสาร์ไว้ก่อน ล้มยากหน่อย อุ่นใจดี”
เค้าอาจจะคิดอย่างนี้นะ..นี่ลองคิดแทนดู

วันเสาร์ไม่เหมาะกับการมงคล…

เรื่องนี้ไม่ใช่งานแต่ง หรือขึ้นบ้านใหม่….
ก็ถูกทางของเค้าอีก


แต่ถ้าไม่ได้สรุปแค่วันเสาร์ แล้วลากต่อ….

อันนี้น่าคิดให้มาก....

และคงต้องเป็นวันที่
“ผูกเชือกรองเท้าให้แน่น” อยู่เหมือนกัน

เพราะเป็นวันอาทิตย์ ขึ้น 12 ค่ำ เดือน 12
เป็นวัน…อุบาทว์…ดิถีพิฆาต…

และที่สำคัญเป็น….“กทิงวัน”…ซะด้วย
ครบสามเด้งเลย

ข้างขึ้น กทิงตัวผู้ ….ข้างแรม กทิงตัวเมีย
ตัวผู้แรงกว่า

เดือนคู่ ตำราว่า ภัยหมู่
เดือนคี่ ภัยเดี่ยว

วันเสาร์น่ะ วันแข็ง
แต่ วันแรง เนี่ย กทิงวัน

วันแข็ง..แล้วมา..วันแรง..นี่ต้องระวัง

ก็บอกๆ กันไว้ในมุมของ..นักเฝ้าระแวง
เอาไว้ดูประกอบ ติดตามเก็บเป็นสถิติอย่างเคย

เพราะจริงๆ แล้วตำราก็ไม่ได้บอกว่า
จะเกิดขึ้นที่ใดในโลกนะ โลกเราก็ใบใหญ่ซะด้วย
มีได้หลายมุม...ต่างประเทศก็เริ่มแรงเหมือนกัน

นี่ตามตำราทั้งนั้น ไม่ได้คิดเอง….

แต่เอ..กระทิงตัวผู้ดุๆ นี่..
เท่าที่เห็นๆ มานะ

หยวนๆ "ให้ขวิดซะหน่อย"

เดี๋ยวก็หลับตาพริ้ม.....





……

 

โอยยยย หัวใจจะวายย

 

เข้ามาตามชมครับ อาทิตย์ นี้ แล้ว สินะ 555

ชอบจริงๆ กทิงวัน

 

โหด มัน ฮา สนุกและได้ความรู้ สุดยอดค่ะ

เหมือนอ่าน "หนุ่มเมืองจันทน์" ยังไงยังงั้น

คาดว่าคุณ OVLOV คงเป็นนักเขียนแหงม

 

เรื่องจริง อิง “ของปลอม”

วันนี้วันอังคารที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

รอมาหลายวันแล้วต้องโพสต์เฉพาะ วันอังคารด้วยเท่านั้น
แถมขึ้นหน้า 13 อีกต่างหาก…..โอยย..ได้อารมย์…
ยังไงซะวันนี้ต้องเอาแบบ ดุเดือด ซะหน่อยไม่งั้นเดี๋ยวเสียของ

ใครขี้กลัวก็หรี่ตาอ่าน จะได้กลัวน้อยลงหน่อย….
พวกเด็กๆ เค้าทำกัน เวลาดูหนังผี เห็นบอกว่าช่วยได้

ถ้าหรี่ตาแล้ว..เอาต่อเลย….

เพราะว่า..พวกเราเนี่ย อยู่ในเวปพลังจิต แถมอยู่หมวดภัยพิบัติด้วย
ก็ถือว่าสมัครใจ อยากรู้ อยากเห็น อยากสัมผัส มากกว่าชาวบ้านเค้าอยู่แล้ว…
ได้..จัดให้..

ตอนนี้ ขณะนี้ เนี่ย ภัยที่เราเกรงกัน ก็เรื่องเฉพาะหน้าไม่กี่วัน เห็นรำไรๆ กันอยู่
ก็คาดเดากันไปตามแต่ใครจะมี คอนเนกชั่น ด้านไหน…ไม่มีใครรู้ได้เองหรอก

และจากการตามเก็บสถิติมา โดยการที่…“ตาดูดาว เท้าพาดบ่า”…เนี่ยนะ

ข่าวดีก็คือว่า…
เหตุการณ์ทั้งหลายทั้งปวงเนี่ย จะไม่ไปเหมือน 14 ตุลา 16 อย่างแน่นอน
เพราะการโคจรของดวงดาว มันค่อนข้างจะแตกต่างกันมาก…สบายใจได้

ข่าวร้ายก็คือว่า…
การโคจรของดาว มันไปคล้ายๆ กับ 6 ตุลา 19 แทน
เอาเวร….หนักเข้าไปอีก..

แต่ที่ร้ายกว่าก็คือ เรื่องของ 6 ตุลา 19 น่ะ รุนแรงแต่รวดเร็ว

ใครทันยุคนั้นคงจำได้….ไม่น่าเชื่อว่านี่คือ ประเทศไทย…..
โอยย…… สารพัดจะอำมหิตกัน…เกินจะบรรยาย

รอบนี้อาจมีความคล้ายคลึงกันในหลายๆ จุด…อ่านจากดาวนะ
ถ้าผิด..ก็ต้องโทษดาว….
แสดงว่าดาวบนฟ้าน่ะ “ของปลอม” หลอกเรามาตั้งแต่เด็ก

ประเด็นที่ว่าร้ายกว่าก็คือ….มันจะไม่จบเร็วเหมือนปี 19
มันจะลากถูลู่ถูกัง วุ่นวายยาวนานกว่า

เพราะดาวที่มันบีบเมือง กับเล็งเมืองมันไม่ขยับ
บีบจน..ตับแลบก็แล้ว..ไส้แลบก็แล้ว..เซ่งจี้ก็แลบแล้ว…
ยังไม่คลายซักที….พอคลายก็ตายพอดี.....ว่างั้นเหอะ….

ซึ่งถ้าใครที่มีพื้นฐานการดูดวงเป็นอยู่บ้าง…
เชื่อว่ามีเพียบ ที่เข้ามาซุ่มๆ อ่าน ไม่ยอม Log in กันเนี่ย บานเลย..
เดี๋ยวตามเก็บตังค์ย้อนหลังกันให้หมด……

เอ้า..ทั่นๆ ก็ลองไปย้อนดู เชิงมุมของดาวในวันนั้นว่า
มีดาวที่ทำมุมบีบเมือง และเล็งเมือง…จนน่ากลัว

แต่ไม่ได้หมายความว่าเรื่องราวจะรุนแรงสุดๆ ภายในไม่กี่วันนี้นะ
มันจะพัฒนาไป แบบแรงขึ้นเรื่อยๆ แล้วลงยาก

โดยเฉพาะหลังวันที่ 10 ธันวา 55 ไปแล้ว ตามที่เคยบอก
ราหูที่มาร่วมเสาร์เล็งเมือง โดยมีพฤหัสนำหน้าเมือง มฤตยูปิดหลังเมือง

มันจะคล้ายๆ วันที่ 6 ตุลา 19…..
เพียงแต่วันที่ 6 ตุลา 19…..พฤหัสนำหน้าเมือง…ราหู อังคาร ศุกร์ มฤตยู เล็งเมือง
โดยมี ดาวจันทร์ ปิดหลังเมืองแค่เดี๋ยวเดียว เรื่องจึงแรงแต่จบเร็ว

รอบนี้ ดาวที่เล็ง ปิดหน้า ปิดหลัง มาบีบเมือง…แช่กันยาวทุกดาวเลย
เรื่องมันเลยรุงรังจบยากมาก จะคาราคาซังยืดเยื้อ
ไม่จบแบบเด็ดขาดกันซะที…………….….

ถ้าจะมีตัวช่วยหลงเหลืออยู่ ณ นาทีนั้น
เห็นจะมีเพียงแค่ เกตุ จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ หรือแสงเฮ้ากวง
ของปาฏิหาริย์ เพียงสิ่งเดียวแล้วละครับ ที่จะอยู่ ยันสู้ ไว้ให้กับกรุงเทวาของเรา

ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะยันไว้ได้นานแค่ไหนหมือนกัน
เพราะหลังปีใหม่ก็ย้ายออกนอกเมืองมาอยู่ภพวินาศอีก…เฮ้อ

หลังจากนั้นก็ต้องใช้วิธีรบแบบกองโจรแทน
ไว้ค่อยบอกกันทีหลัง…ถ้าถึงขั้นนั้นจริงๆ

ถึงได้บอกเล่ากันอยู่บ่อยๆ ว่า ขอให้ช่วยกันดูแล
จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของบ้านของเมืองไว้บ้าง
เพราะสุดท้ายแล้ว จะเหลือแค่นั้นจริงๆ

แต่ถ้าท่านเกตุทำหน้าที่ไม่ไหว หรือแปรพักตร์ขึ้นมาละก็
….จบข่าว….

เอาเป็นว่า…ถ้าเป็นไปตามทำนองนี้จริงๆ
คงจะต้องบอกว่า “ฟ้าลิขิตกันมาแล้ว ก็ต้องรับสภาพกันไป”

แต่ถ้ามันไม่เกิดขึ้น ตามที่ว่ามา……

แสดงว่า บ้านเราเนี่ย นอกจากมีโรงงานแอบทำ
กระเป๋า นาฬิกา รองเท้า ปลอมกันแล้ว
มันยังเหิมเกริมแอบทำ.. “ดาวปลอม” .. มาหลอกเราอีก

......ถึงว่า.."ทายผิดกันตลอด"...

 

ยิ่งอ่านก็รู้สึกเศร้า แต่ก็ต้องทำใจยอมรับ เรื่องที่จะเกิดขึ้น......

 

อื้อ หือ มวยถูกคู่จริง ทั้งคุณ OVLOV และคุณมณีส่องแสง เขียนได้เร้าใจมาก รอติดตามทั้งสองท่านนะคะ

 

อ่านแล้วชอบ จริงๆ ขอบคุณ ขออนุญาติไปเผยแพร่ข้อความนะครับ

 

เรื่อง…“พระราหูเพชรฆาต”…

ช่วงองศาสุดท้าย…ก่อนย้ายราศี ของพระราหู
อยู่ในช่วงเวลาของ “เพชฌฆาตฤกษ์”

แค่ชื่อก็แทบจะไม่ต้องแปลแล้วละครับ…

แถมมี พระอาทิตย์ ธาตุไฟ เข้ามาเสริมทัพอีก พลังก็เลย “ล้นทะลัก”
เป็นมหาอุจจ์อยู่แล้ว มีธาตุไฟมาเสริม แถมได้เพชฌฆาตฤกษ์อีก

ยิ่งวันก่อนโชว์การดับแสงสุริยันโดยฉับพลันเล่น
เดี๋ยวอีกไม่กี่วันจะแสดงการดับจันทราผู้น่ารักให้ประจักษ์กันอีก…

โอ้โฮ… ทอดสายตาไปทั่วทั้งจักรวาล ก็หามีผู้ใดเป็นคู่มือไม่
นอกจาก พระพฤหัส คู่ศัตรูตัวฉกาจ อย่างที่เคยบอกกันไว้

สุดฤทธิ์สุดเดชจริงๆ พระราหูรอบ...“ไฟนอล”….นี่

สิ่งเดียวที่พระราหูอยากจะมีสุดๆ…
ชนิดที่ใฝ่ฝันมาตลอด และแอบอิจฉาพระพฤหัสมาตลอดกาลเลย
.........ก็คือ “ตัวรู้”.......

ซึ่งเป็นเอกสิทธ์เฉพาะของ พระพฤหัสเท่านั้น ที่ได้รับพรพิเศษนี้
อันเนื่องมาจากการบำเพ็ญบารมีมานับแสนอสงขัย

อันที่จริงพระราหูก็รอบรู้ทุกเรื่อง ทุกศาสตร์ ทุกแขนง ทุกด้าน ทุกมิติ
เรียกว่า "รู้รอบครอบจักรวาล" อยู่เหมือนกัน

แต่ติดอยู่ขั้นสุดท้ายอยู่นิดเดียวคือ…รู้ทุกเรื่อง…
เพียงแต่..."รู้ไม่แจ้ง"…เท่านั้นเอง

และไม่ว่าจะมีฤทธิ์มากมายกว่านี้อีกกี่ล้านเท่าก็ตาม ก็จะไม่มีทาง “รู้แจ้งได้”
เพราะขาดสิ่งสำคัญที่สุด ที่ตนไม่เคยบำเพ็ญมาเลย ก็คือ…“สติ”…นั่นเอง

อันเป็นเรื่องพื้นฐานข้อแรกสุด และ…“สำคัญที่สุด”…ของ..ตัวรู้…
ซึ่งจะก่อให้เกิด “ปัญญาญาณ” รอบรู้ อย่างแท้จริง เฉกเช่น พระพฤหัส

นาทีนี้ พระพฤหัสผู้ทรงภูมิ ผู้พิทักษ์อย่างแท้จริงแห่งสามโลก ก็ย่อมรู้ดีว่า
พระราหูแม้จะ “ฤทธิ์เดชสุดล้นเหลือคณานับสุดจะต้านทานเพียงใดก็ตาม”

หากขาดซึ่ง “สติในการควบคุมตนเอง”
กระทำทุกอย่างไปตามอำเภอใจ ขาดกาลเทศะ ขาดความงดงาม ขาดความพอดี

สิ่งที่เกินงามความพอดี อาจเป็นไปได้ถึงสองแนวทาง คือ “ล้ำ”
ซึ่งอาจจะไปใกล้เคียงกับคำว่า “เลิศ”
ก็อาจกลายเป็น… “ล้ำเลิศ”…เชิดชูกันไป

กับอีกแนวทางหนึ่งคือ “ล้น”
ซึ่งมักจะมีเส้นทาง…“หล่น”..ลงสู่เบื้องล่างเสมอ

อย่างดีก็มีแค่ จานรอง มาประคองไว้ชั่วครู่เพื่อปลอบใจ
แต่สุดท้ายปลายทางก็ต้อง เททิ้ง กันอยู่ดี
เพราะแค่รองไว้ไม่ให้ “เลอะ” ไปมากกว่าที่ควรเท่านั้นเอง

แต่ถ้ามั่นใจว่าเราอยากจะ...เกินพอดี
ก็ขอให้พึงเลือกให้ถูกข้าง
ว่าจะออกแนว..ล้ำ..หรือ..ล้น..กันแน่

เพราะผลที่ติดตามมาย่อมจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

ดังนั้นแล้วการปะทะกันของพระราหู กับพระพฤหัสในรอบแห่ง “มหากาพย์”
ในครั้งนี้ แม้ว่าจะรุนแรงหนักหนาสาหัสซักเพียงใด

พระพฤหัสผู้ทรงภูมิปัญญา ผู้พิทักษ์แห่งความดีงามทั้งปวง

ย่อมจะเห็นแล้วว่า อิทธิฤทธิ์อันทรงพลังมหาศาลไร้การต้านทาน
ของพระราหู หากแม้ปราศจากซึ่ง “สติ”

อันเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุด ประดุจ..ห้ามล้อของรถยนต์..

ก็จะทำให้ “แล่น” ไปโดยขาดการควบคุม ขาดกาลเทศะ ขาดความงดงาม
มีโอกาสพุ่งเข้าชนฝูงชนที่เข้ามาชึ่นชม ให้ได้รับบาดเจ็บกันไป

หากเป็นเช่นนี้แล้ว แม้จะเป็นพระราหูมหาอุจจ์…
พระราหูทรงพลัง…พระราหูจอมทำลาย….

สุดท้ายแล้ว...พระราหูเพชรฆาต..ก็สามารถทำลายได้ทุกสิ่ง

แม้กระทั่ง……..…….“ตนเอง”………………….


....จงมีสติสัมปชัญญะ อย่าให้โมหะเข้าครอบงำ...

 

เรื่อง คู่มือไปเที่ยวม๊อบ

ตามที่คาดการณ์กันไว้ เมื่ออังคารเข้าสู่ราศีธนู “นักรบก็พบของรัก”
สถานการณ์ก็เริ่มร้อนแรงขึ้น ตามลำดับ

โดยความเคารพในสิทธิส่วนบุคคล..
ทั่นๆ ทั้งหลายจะรักใคร สีไหน ฝ่ายใด
มันเป็นเรื่องของหัวใจท่าน หักห้ามกันไม่ได้

เอาเป็นว่าถ้าจะไปเป็นส่วนหนึ่งในสถานที่นั้น
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม
มีข้อมูลประกอบการมีส่วนร่วมดังนี้

1. อย่าใส่ รองเท้าแตะ โดยเด็ดขาด ถ้าไม่มีตังค์ซื้อรองเท้า
ประมาณหุ้มส้นได้ เช่น รองเท้าผ้าใบ "จงอย่าไป"
เวลาวิ่งกันกระจายน่ะไม่เท่าไร แต่พอหยุดพักเหนื่อยกันแล้ว
"อายเค้า" เท้าเปิดเปิง แก้วตำมั่ง ดำๆ ด่างๆ มั่ง

ตอนจบ เคยเห็นรองเท้าแตะเป็นร้อยๆ เลย แต่เป็นข้างนะ ไม่เป็นคู่

2. อย่าใส่กางเกงขาสั้น ช่วงคลานไม่รู้ตัวหรอก
แต่พอยืนได้ จะเห็นหมูแดงติดที่หัวเข่า
อันนี้รวมถึงเสื้อแขนสั้นด้วยอย่าใส่ ร้อนทนเอา ก็อยากไปแล้วหนิ...

และที่สำคัญ พวกผู้หญิงนี่ "ชุดชั้นใน" เลือกให้มันเข้าชุดกันหน่อย
พวกคนละสีเนี่ย..ขอเลย..รับไม่ได้จริงๆ

เคยเห็นเวลาเสื้อผ้าเปิดเปิง กล้องดันจับภาพไว้ได้
แล้วเอามาออกสื่อ....ตายอนาถ....

3. บัตรหรืออะไรที่บ่งบอก ว่าเราเป็นไผ ติดต่อใครได้มั่ง
ซักสองใบเป็นอย่างน้อย เอาแบบกันน้ำได้ด้วยนะ
เพราะเคยต้องโดดลงน้ำกันมาแล้ว น้ำครำดำๆ เหม็นๆ เนี่ยแหละ

เวลากลัวตายมันโดดกันทั้งนั้น เอารอดไว้ก่อน

4. พวกขนม ลูกอม แนวๆ ให้พลังงานได้เร็ว เผื่อถูกปิดล้อม ถูกกัก
มีไปแบ่งเพื่อนด้วย ได้หญิงกันมาเยอะแล้ว พวกมีลูกอมเนี่ย

5. ระวังพวกมั่วโรคจิต ผู้หญิงไม่จำกัดหน้าตาและอายุ ป้าๆ ยังโดนกันเลย
ก็ขอให้ระวังน้องสาว และขนมนมเนยของตัวเองให้ดี
ขนาดหนมครกก็ไม่ละเว้น สำหรับพวกนี้มันล้วงหมด

6. ถ้าต้องจดจำใบหน้าของบุคคล มีวิธีของพวกรบพิเศษคือ
ให้พยายามรีบจำ ในลักษณะของการเทียบเคียงกับคนที่เรารู้จัก
เช่น ดารา เพื่อน ญาติ เมียเก่า กิ๊กใหม่

จะทำให้จดจำได้เร็วขึ้น
แล้วค่อยมาปรับแต่งความจำในรายละเอียดอีกที

7. เงินพอมีไปบ้าง เครื่องประดับขอเลย ไว้บ้าน
สร้อยชุดออกรบใช้เชือกร่มใหญ่หน่อยดีสุด

พระเครื่องตลับจีวรอย่าเลี่ยมทอง ร้องไห้กันมาเยอะแล้ว
พวกพระหายนี่ นาฬิกาก็สายยางดีสุด พวกใส่ถ่านบางๆ

8.รถราจอดห่างๆ เลย มอไซค์รับจ้างดีสุด

9.ผู้หญิงรวบผมให้แน่นอย่าให้หลุดง่าย
แว่นตาของเสริมเก๋ เอาถูกสุดไว้ก่อน แต่ต้องมี
เพราะกล้องจับบ่อย เผื่อเกิดในวงการได้

ยังมีอีกเยอะ เอาที่นึกได้ในตอนนี้ไปก่อน….

อ้อเกือบลืม…เป็นเรื่องต้องระวังหน่อย สายข่าวเฝ้าระแวง แจ้งมาว่า
ตอนนี้พวกกระสุนตามสนามยิงปืน ออกไปนอกระบบเป็นจำนวนมาก ก็ระวังไว้

บรรดาคนพันธุ์อา เหล่าอาชีวะ ก็ลงไปรับจ๊อบเป็นการ์ดกันอย่างเมามันส์
ไม่ได้ตังค์ก็เอา รายการมันส์ๆ น้องๆ แนวนี้ไม่ค่อยพลาด
ก็คิดในแง่ดีว่ามาช่วยคุ้มครองให้

จะเป็นพวกใคร สีไหน ก็ขอให้ปลอดภัยกันนะ…………..

 

อยากรู้จังครับ ว่าถึงขั้นปิดเมืองเลยหรือเปล่าจะได้เตรียมเสบียงไว้บ้างครับ

 

ขอบคุณค่ะ อ่านสนุกเหมือนเดิม

 

แซ่บ ตรงที่ได้เดามั่วกะข้อความระหว่างบรรทัดของคุณ OVLOV เนี่ยแหละ

สองคนยลตามช่องเน้อออ

 

ผมผึ่งมาเจอและจะตามอ่านย้อนหลัง ต่อไปคงเรียก ท่านอาจารย์ คงได้ เพราะมีสาระมากจริงๆๆ ถ้าหมดกระทู้อาจดูหมอเป็นนิ ขอบคุงคับ

 

....ประชากรโลกหลังจากเครียร์เก็บล้าง ยอดคงเหลือ...

................(4,294,967,295 คน)

...ประชากรชาวไทยคงเหลือ..(43ล้านคน)มีเศษได้ แต่ไม่เกิน 43 ล้านคน...

ปล. ยอดคงเหลือที่หลังชำระล้างจัดเก็บเพื่อนำพาสู่ยุคใหม่โลกใบใหม่คงเหลือมนุษย์ รวมทั้งดวงจิตวิญญาณที่พร้อมจะมาจูติ หลังจากที่รับทำหน้าที่ได้สำเร็จลุล่วงแล้ว...

...........

....งานนี้ มิใช่คนอยู่บ้าน หรืออยู่ต่างจังหวัด หรืออยู่บนฟ้า ใต้ดิน บนเขา บนน้ำ จะรอด เพราะอาจจะมี "ขอมดำดิน" ไปเซอร์ไพส์ ตามด้วย "ยาหม่องตาลิงถือลูกท้อ"...

....เราเตือนเลยว่า งานนี้รอดยากเพราะดวงจิตถูกแสกนหมดแล้วนั้นเอง

....เพราะอะไรนะเหรอก็เพราะ ภพนี้มันคือ ภพแห่งมิติมายานั้นเอง

.....ถามว่า "กลับตัวกลับใจ" ยังทันไหม ตอบได้เลย..ยังทันและมีโอกาสนะ...

.....บางที "คนบ้า" ..และ "คนโง่"..อาจจะรอดมากกว่า คนที่เก่ง และ ฉลาด และบอกว่า"รู้จริง รู้แจ้ง" ก็ได้นะ

....และคนธรรมดา ก็อาจรอดมากกว่า คนที่บอกว่า เป็นคนไม่ธรรมดา....

....พวกเรามาลุ้นกันดูนะคะ ว่าระหว่าง "คนไม่ธรรมดา กับ คนธรรมดา" ยอดส่วนไหนจะเหลือเยอะกว่ากันคะ...

.....เราแค่มาเล่านิทานหลอกเด็กให้ฟังคะ.."คนดีฟ้าคุ้มครอง คนชั่วแผ่นดินสูป"

(ขอยุ่งและเือก อีกสักคร้้งนะคะคุณOVLOV ขอแจมนิดหนึ่ง ขอใช้ปัญญาอันน้อยนิดเล่านิทานสักนิดหนึ่งนะคะเดี่๋ยวจะมาลบให้คะ และสิ่งที่เราเขียนเล่าก็แค่เป็นสิ่งที่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่มีขาดซึ่งสตินำมาเล่าหนุกๆคะ)

ปล...บอกไว้ก่อนท่านมัจจุราช หรือ ท้าวเวสสุวรรณ มิได้มองว่า ใครสวยใครหล่อหรือ ชือเสียงใหญ่โต และรำรวยหรือไม่ หรือพูดจาเพราะ..แต่ท่านเอ๊กซ์เรย์ ที่"ดวงจิต" จร้า ว่าเป็นสีอะไร "ดำ ขาว เทา"..

งานนี้ "เจ้ากรรมนายเวร..ได้อภิสิทธิ์เต็มที่ในการ ทำหน้าที่.."ตาต่อตา ฟันต่อฟัน"..เพราะภพนี้คือ ภพแห่งวาระกรรมนั้นเอง...

(สติ และ กรรมฐาน จะนำพาให้รอด)...นะจ๊ะตัวเอง

....งานนี้มนุษย์ จะรับรู้ความจริงว่าระหว่าง "ความสว่าง กับ ความมืด" สิ่งไหนน่ากลัวกว่ากัน...(อาจจะเปลี่ยนใจมารัก"ของดำ" ก็ได้นะ)..จริงๆ^___^

"เพราะงานนี้ "ดาวพระเกตุ" ได้ถอนตัว แล้วจร้า เพราะอยากให้"ดาวพฤหัส" โชว์พาวส์ ความเก่ง "ตัวรู้" และ "รู้จริง รู้แจ้ง" ในการปกป้องกรุงเทวา ให้เต็มที่(ประมาณว่า ให้แจ้งเกิดเป็นพระเอกได้แบบเต็มๆ ครองใจมนุษย์ไปเลย...

ส่วน"ดาวพระเกตุ" ขอแว๊ปไปนอกกรุงเทวาพักผ่อนหลังจากที่เป็นทั้งเบาะและเก้าอี่และรถและเกาะกำบังมานานแล้ว....

บ๊ายๆ กรุงเทวา...."ดาวพระเกตุ" ขอไปหลับต่อก่อนนะตัวเอง...."ห้ามปลุก หากยังไม่ถึงเวลานะจ๊ะตัวเอง"....จะลบทำมัยงง ทำในสิ่งที่คิดนิ ถึงว่าย้อนดูแล้วไม่เจออารัย