โลกเรากำลังเกิดอะไรขึ้นขณะนี้ โปรดเตรียมแผนฉุกเฉิน

ฝนตกหนักทำเวนิสจมน้ำทั้งเมือง รุนแรงสุดในรอบ 150 ปี









siamblogza
siamblogza
เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า ฝนตกหนักต่อเนื่องในอิตาลี ส่งผลให้เมืองเวนิส เมืองท่องเที่ยวชื่อดัง ถูกน้ำท่วมสูงถึงระดับเอวกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของทั้งเมือง แต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

รายงานระบุว่า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ฝนได้ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่อง ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำและคลองเพิ่มสูง ก่อนจะไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ และระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นอีก ในคืนวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จนตอนนี้ มีรายงานว่า กว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของเมืองเวนิสนั้นจมน้ำแล้ว และระดับน้ำที่ท่วมสูงเฉลี่ย 150 เซนติเมตร เหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งถือว่ารุนแรงกว่าน้ำท่วมทุกครั้งในรอบ 150 ปีเลยทีเดียว

เหตุน้ำท่วมดังกล่าว ได้ทำให้บ้านเรือนประชาชนเสียหายบางส่วน นักท่องเที่ยวต้องแบกสัมภาระตนเองเดินลุยน้ำอย่างยากลำบาก ขณะที่นักท่องเที่ยวบางกลุ่มก็พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ลุยน้ำไปนั่งแช่น้ำสังสรรค์เฮฮากันอย่างสนุกสนาน แต่ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด เนื่องจากในเมืองเวนิส น้ำท่วมเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว ประชาชนก็มีการเตรียมตัวรับมือเป็นอย่างดี และพวกเขาก็พยายามใช้ชีวิตให้เป็นไปตามปกติ

ทั้งนี้ สำหรับเมืองเวนิส เป็นเมืองที่อยู่ในพื้นที่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล จึงเกิดน้ำท่วมได้ง่าย ซึ่งการที่น้ำท่วมทุกปีแบบนี้ ได้ทำให้ประชาชนชาวเมืองจำนวนมากย้ายไปตั้งภูมิลำเนาใหม่ในพื้นที่ที่สูงกว่า แต่อย่างไรก็ดี ทางการอิตาลีได้สร้างเขื่อนกั้นคลื่นเพื่อแก้ปัญหาและลดความรุนแรงของเหตุการณ์น้ำท่วมแล้ว แต่จะพร้อมเปิดใช้งานในอีก 2 ปีข้างหน้า

siamblogza
siamblogza

 

ผลจากพลังรอยเลื่อนในพม่า
















siamblogza
siamblogza

siamblogza

 

20 ต.ค. 2012 – เหตุแผ่นดินแยก ที่สเปน



siamblogza
siamblogza
siamblogza

 

ขอบคุณครับที่นำข่าวสารมาแจ้ง...เรียกว่าต้องตื่นตัวกันหน่อยแล้ว

 

30 ต.ค. ตามเวลาในไทย ) พายุเฮอริเคนแซนดี้









siamblogza
siamblogza
siamblogza

 

พลังงานเริ่มปลดปล่อยออกมา ผลจากรอยเลื่อนของพม่า

โปรดอย่าอยู่ใกล้แหล่งน้ำร้อน

กาญจนบุรี - ฮือฮาพบพุน้ำร้อนแห่งใหม่ที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีฯ ในพื้นที่อำเภอศรีสวัสดิ์ กาญจนบุรี อุณหภูมิสูง 50 องศา เตรียมผลักดันเป็นแหล่งท่องเที่ยวแช่น้ำร้อนแห่งใหม่



siamblogza
siamblogza
siamblogza

 

เกิดแผ่นดินไหวุรนแรงวัดได้ 7.4 ริคเตอร์ นอกชายฝั่งประเทศกัวเตมาลา 8 พฤศจิกายน 2555
siamblogza














siamblogza
siamblogza
siamblogza

 

น่าสงสารคนพวกนี้จัง เห็นกงจักรเป็นดอกบัว

 

ย่อมเป็นไปตามกฏธรรมชาติ
ไม่มีใครหลีกหนีหรือฝืนกฏธรรมชาติไปได้

 

เรื่องบ่อน้ำร้อน รึน้ำพุร้อน อะไรทำนองนี้ มันเป็นเรื่องน่าระวังมากกว่า เพราะบ่งบอกถึงการแอ้คทีฟของพลังงานความร้อนใต้ผืนภิภพ

ลองไล่กันดู ไทยแลนด์มีแบบนี้ ที่ตำบลไหน อำเภอไหน จังหวัดไหน ภาคไหนบ้าง

ไอ้ครั้นออกมาบอกเล่ากล่าวเตือน คนพูดก็โดนประนามอีก ว่าทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยว ก็คงต้องปล่อยไปตามที่มันต้องเป็นไป

 

<iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/6lOU3-wHp1s" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>


ประเทศพม่ามีเจดีย์สำคัญอยู่หลายแห่ง ซึ่งบางแห่งได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวในอดีต
ในคลิปนี้แสดงให้เห็นผลของแผ่นดินไหวล่าสุดเมื่อวันที่ 11 พ.ย.55 ที่มีต่อองค์เจดีย์แห่งหนึ่งในพม่า - The Telegraph


GeoThai.net

 

เอกสารความรู้เกี่ยวกับแผ่นดินไหวและสึนามิ & วีดีโอคลิปความรู้เกี่ยวกับแผ่นดินไหวและสึนามิ

ขออนุญาตโพสอีกครั้ง (ครั้งสุดท้ายของปีนี้) ไว้ทบทวนกันก่อนที่ภัยธรรมชาติอาจจะมาถึงครับ

คลิปวีดีโอการเตรียมการรับมือและความรู้เกี่ยวกับแผ่นดินไหวและสึนามิ

 

ขอฝากไว้ หนึ่งเว็บครับ
เว็บภัยพิบัติ Paipibat.com | แจ้งเตือน กู้ภัย ให้ความรู้ สู้ข่าวลือ – อีกช่องทางๆทวิตเตอร์ @Paipibat และ @MrVop
เว็บนี้มีการติดตามเฝ้าระวังภัยธรรมชาติ ทุกรูปแบบ อีกทั้งยังให้ข้อมูลข่าวสารที่รวดเร็ว
และ ทำการแจ้งเตือนภัย ตลอด 24 ชั่วโมง...

ผมมักจะเปิดหน้าเว็ปนี้ทิ้งไว้ ควบคู่กับการใช้งานใน เว็บบอร์ด ตลอดช่วงที่ออนครับ
เพราะด้วยที่ไม่มีเวลา เข้ามาติดตามดูห้องนี้บ่อย ๆ ยิ่งช่วงนี้ ภัยธรรมชาติ เกิดขึ้นถี่มาก
ก็ไม่ควรที่จะประมาทเลย ธรรมรักษาคุ้มครอง นะครับ

 

ความเห็นส่วนตัวนะครับ ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นอยู่นี้คือสิ่งที่เคยเกิดขึ้นปรกติอยู่แล้วไม่ได้เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมเลย แต่อัตราการเกิดของมนุษย์ การสร้างสิ่งปลูกสร้างหรือที่อยู่อาศัยมีมากขึ้นรุกล้ำพื้นที่ธรรมชาติ เราเลยรู้สึกว่าธรรมชาติกำลังทำลายเรา แต่จริงๆแล้วเรากลับไปทำลายธรรมชาติก่อน รวมทั้งการติดต่อสื่อสารทำได้สะดวกเราเลยรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นได้มากขึ้น

 

ลองไปดูตัวเลขแผ่นดินไหวเฉลี่ยในสองปีที่ผ่านมา เทียบกับสิบปีที่แล้วและก่อนหน้านั้น และจำนวนพายุ ดูจากข่าวภาษาอังกฤษนะครับ แล้วคุณจะทราบเองครับ

 

ขอบคุณที่ชี้แนะครับ

 

ธรรมชาติสมัยนี้เปลี่ยนรึไม่เปลี่ยน ?

วิธีพิจารณาด้วยความทรงจำ ถ้ายังไม่ได้ไปค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มจากสื่อไหน นั่นคือ

ทำใจให้ว่างๆ หยุดคิดวุ่นวายสักประเดี๋ยว แล้วค่อยๆ รำลึกถึงอดีต ย้อนไปซัก 20 - 30 ปีก่อน ดูว่า หน้าร้อน หน้าหนาว หน้าฝนสมัยนั้น มันมีอะไรเหมือน อะไรต่างจากสมัยนี้ ยังไง อย่างไรบ้าง

 

PANTIP.COM : NE12922384

fault line ที่ผ่านกลางประเทศไทย ดูรายละเอียดกับภาพประกอบจากที่นี่ http://www.andaman.org/mapstsunami/tsunami.htm


แผนที่จาก tsunami.htm พบ fault line (รอยเลื่อนของเปลือกโลก) ผ่านกลางประเทศไทย
fault line เส้นนี้ เป็นเส้นที่เชื่อมต่อ จากเส้นที่เกิดแผ่นดินไหวในประเทศพม่า
ซึ่งอาจมีผลต่อการเกิดแผ่นดินไหวในประเทศไทย

ที่มาจาก USGS Real time earthquake

 

2012

2 = 1 น้ำ , 1 แผ่นดิน
0 = การสูญเสีย
1 = ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง
2 = การเกิดใหม่ของ 1 น้ำ , 1 แผ่นดิน

...................................................
ผมมั่วเล่นๆ นะครับ

 

แนวโน้มการเกิดแผ่นดินไหวในประเทศไทย

http://www.cicc.chula.ac.th/th/2012-04-26-04-31-26/203-likelihood-of-earthquakes-in-thailand.html

ประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งของแผ่นเปลือกโลกยูเรเซียน (Eurasian Plate) ซึ่งล้อมรอบด้วยแผ่นเปลือกโลกอีก 2 แผ่น คือแผ่นเปลือกโลกอินเดีย-ออสเตรเลีย (Indian-Australian Plate) และแผ่นมหาสมุทรแปซิฟิก (Pacific Plate) ซึ่งตำแหน่งดังกล่าว อยู่ในเขตที่ถือว่าค่อนข้างปลอดแผ่นดินไหวพอสมควร

แต่จากการบันทึกทางประวัติศาสตร์ ก็เคยปรากฏเหตุแผ่นดินไหว ที่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ในประเทศไทยอยู่บ้างเล็กน้อย

ความเสี่ยงภัยจากแผ่นดินไหว

(22 มีนาคม 2555) กรมทรัพยากรธรณีได้สำรวจข้อมูลรอยเลื่อนมีพลังในประเทศไทย โดยแบ่งเป็นกลุ่มรอยเลื่อน 14 กลุ่ม ครอบคลุมพื้นที่ 22 จังหวัด มีจังหวัดอะไรบ้าง ดูได้จาก แนวโน้มการเกิดแผ่นดินไหวในประเทศไทย

ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับแผ่นดินไหวในประเทศไทย

รองศาสตราจารย์ ดร.ปัญญา จารุศิริ ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ที่มา: หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการรายวัน ฉบับวันที่ 01 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2555


รศ.ดร.ปัญญา จารุศิริ ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTVผู้จัดการออนไลน์ ย้ำว่าภูเก็ตไม่จมทะเลง่ายๆ เนื่องจากตั้งอยู่บนฐานหินแข็งอายุกว่า100 ล้านปี ซึ่งรองรับแผ่นดินไหวได้มาก ส่วนเหตุแผ่นดินไหวตามมาหรืออาฟเตอร์ช็อกที่ดูเหมือนเกิดขึ้นบ่อยนั้นเป็นปรากฏการณ์ปกติหลังแผ่นดินไหว เพียงแต่เกิดบริเวณเปลือกโลกที่ค่อนข้างตื้นจึงรับรู้ได้มาก

ก่อนหน้านี้ รอยเลื่อนในประเทศไทย ที่ได้รับความสนใจที่สุดคือ รอยเลื่อนแม่จันที่พาดผ่านเชียงรายและเชียงใหม่ เนื่องจาก เป็นรอยเลื่อนที่มีพลังมากที่สุดและเกิดแผ่นดินไหวใหญ่จากรอยเลื่อนละแวกใกล้เคียงแล้ว คือรอยเลื่อนในมณฑลยูนนานของจีน ที่เกิดแผ่นดินไหวใหญ่เมื่อปี 2552

และรอยเลื่อนน้ำมาในลาวและพม่า ที่เกิดแผ่นดินไหวใหญ่เมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา แต่รอยเลื่อนแม่จันยังไม่ขยับและกำลังสะสมพลังงานอยู่ ซึ่งเมื่อ1,000 กว่าปีที่แล้ว เคยแผลงฤทธิ์ และทำให้นครโยนกในอดีตต้องล่มสลาย ซึ่งมีการบันทึกไว้ในพงศาวดาร

เมื่อเกิดแผ่นดินไหวที่มีจุดศูนย์กลางที่ภูเก็ต ทำให้รอยเลื่อน2 แห่งในภาคใต้คือ รอยเลื่อนระนองและรอยเลื่อนคลองมะรุ่ยได้รับความสนใจมากขึ้นและมีความเป็นไปได้ว่ามีแนวรอยเลื่อนใหม่ที่ยังไม่รู้จักซึ่งทางกรมทรัพยากรธรณีกำลังส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ แต่สิ่งที่ รศ.ดร.ปัญญาห่วงอยู่ตอนนี้คือการสะสมพลังงานของรอยเลื่อนทั้งสองแห่งซึ่งตอนนี้ยังไม่เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ขึ้นบนบก

จากหลักฐานทางธรณีวิทยา พบว่า เคยเกิดแผ่นดินไหวบนบก 6-7 ริกเตอร์จากรอยเลื่อนระนองและรอยเลื่อนคลองมะรุ่ยเมื่อ2,000 ปีที่แล้วและ 4,000 ปีที่แล้ว

ซึ่งตอนนี้ "ใกล้คาบอุบัติซ้ำ" ของการเกิดแผ่นดินไหวใหญ่แล้ว แต่ยังไม่มีแผ่นดินไหวใหญ่เกิดขึ้น ซึ่ง รศ.ดร.ปัญญากล่าวว่าไม่ชอบนัก เพราะแสดงให้เห็นว่ารอยเลื่อนกำลังสะสมพลังงานอยู่และไม่รู้ว่าปลดปล่อยออกมาเมื่อไหร่ซึ่งไม่มีใครระบุได้

รองศาสตราจารย์ ดร.ปัญญา จารุศิริ จากภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์จุฬาฯ เปิดเผยว่า หลังจากเกิดแผ่นดินไหวที่ จ.ภูเก็ต แม้จะเป็นแผ่นดินไหวขนาดเล็ก และไม่สามารถทำให้เกาะภูเก็ตจมได้ แต่นักวิชาการไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยหันมาให้วามสนใจกับรอยเลื่อนในภาคใต้มากขึ้น

ดร.ปัญญา กล่าวต่อว่า จากการศึกษาพบว่ารอยเลื่อนที่ควรระวังหรือเฝ้าจับตา นอกจากรอยเลื่อนแม่จัน รอยเลื่อนขนาดใหญ่ที่พาดผ่านภาคเหนือของไทยบริเวณ จ.เชียงราย และอยู่ระหว่างการสะสมพลังแล้วนั้น ในภาคใต้ยังมีรอยเลื่อนที่น่าจับตาคือ "รอยเลื่อนระนอง"

ซึ่งถือเป็นรอยเลื่อนที่มีพลังนอกชายฝั่ง สามารถทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5-6 ริคเตอร์ได้ เพียงแต่ที่ผ่านมายังไม่เคยมีการตรวจพบว่าทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่บนพื้นดิน จะมีแต่การเกิดนอกชายฝั่งหรือในทะเลและจัดเป็นแผ่นดินไหวในแบบที่ไม่ทำให้เกิดสึนามิได้

ดร.ปัญญา ระบุอีกว่า ดังนั้น จุดที่น่าเป็นห่วงคือร อยเลื่อนระนอง ที่อยู่ในส่วนของพื้นดิน ที่คาดกันว่าอยู่ระหว่างการสะสมพลัง

ทั้งนี้ เคยมีหลักฐานทางธรณีวิทยาว่า รอยเลื่อนในภาคใต้อย่าง เช่น รอยเลื่อนระนอง หรือรอยเลื่อนคลองมะลุ่ย เคยทำให้เกิดแผ่นดินไหวบนพื้นดินขนาด 6-7 ริคเตอร์เมื่อประมาณ 2,000 ปีที่แล้ว

ดังนั้น การเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่บนพื้นดินจากรอยเลื่อนดังกล่าว จึงอาจเกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้นับจากวันนี้เป็นต้นไป ซึ่งไม่มีใครสามารถคาดการณ์หรือบอกล่วงหน้าได้