พระบูชาครับ

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย ood 32, 8 พฤศจิกายน 2012.

  1. คนปั้นพระ

    คนปั้นพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,481
    ค่าพลัง:
    +2,427
    ขอบคุณพี่เสาวภามากครับที่ให้เกียรติ แต่แฟนคลับผมต้องร้องเพลงเพราะทุกคนนะครับ(เอาไว้ร้องจีบสาวสูงวัย)(f)
     
  2. คนปั้นพระ

    คนปั้นพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,481
    ค่าพลัง:
    +2,427
    ผมตามอ่านข้อเขียนของพี่Nirvanaและพี่เสาวภาตลอดเหมือนกันครับ อ่านแล้วนึกถึงเรื่องเก่าๆ ที่มีความสุขครับ
     
  3. SkyMoon

    SkyMoon Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2012
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +36
    ขอบพระคุณพี่คนปั้นพระครับที่ได้เข้าพิจารณา ^^ ผมก็ไม่มีความรู้เลยจริง ๆ ตามหาที่มาที่ไปมานานมากเหมือนกันพระประธานองค์นี้นะครับ


     
  4. ood 32

    ood 32 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +22
    ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น ถ้าไม่เป็นการรบกวนก็ขอแสดงความคิดเห็นของผู้น้อยบ้าง ผมขออนุญาตคัดลอกข้อความจากคม-ชัด-ลึก เพื่อการศึกษานะครับ "ชั่วโมงเซียน-"สนิมพระ"มนต์เสน่ห์แห่งพระกรุ"พระเนื้อสำริดโบราณ ที่มีอายุการสร้างมานาน เนื้อโลหะจะต้องมีลักษณะแห้ง สีจืด ซีด น้ำหนักเบาลงมาก เรียกกันว่า เนื้อหมดยาง การเคลื่อนย้ายต้องระมัดระวัง หากตกก็จะแตกหักง่าย พระเนื้อสำริดที่เห็นทั่วไปส่วนมากก็เป็นพระบูชา มีทั้งที่บรรจุภายในกรุ ในเจดีย์ และตั้งเก็บไว้เฉยๆ ในวัดวาอาราม หรือในปราสาท ราชวัง จึงทำให้สีของสนิมต่างกันไป สนิมที่มีสีดำ หรือสีแดง ส่วนมากจะเป็นพระที่ตั้งบูชาเอาไว้เฉยๆ ไม่ได้บรรจุเอาไว้ในกรุ กรณีพระที่บรรจุไว้ภายในกรุ ในเจดีย์ หรือถูกฝังอยู่ใต้ดินนั้น จะมีสนิมเกาะค่อนข้างมาก เรียกว่า สนิมจัด ส่วนใหญ่สนิมจะเป็นสีแดงจัด หรือเขียวจัด ที่เรียกกันว่า สนิมเขียวหยกในขณะที่สนิมสีน้ำเงินนั้น เป็นสนิมที่พบเจอน้อยมาก จะขึ้นอยู่เหนือสนิมเขียว สนิมแดงอีกชั้นหนึ่ง พูดได้ว่า ถ้าพบเจอสนิมสีน้ำเงินในพระนั้น ก็สันนิษฐานได้เลยว่าเป็นพระแท้แน่นอน สำหรับพระบูชา หรือเทวรูป ถ้าเป็นเนื้อสำริด ให้ดูที่เนื้อโลหะก่อนว่าแห้งสนิทไหม ไม่ดูสดตา น้ำหนักต้องเบา (โลหะเซตตัวแล้ว) สนิมสีต่างๆ ต้องกินตัวเข้าไปในเนื้อพระ (ไม่ใช่เหมือนเอาสีย้อมมาทา)
    ถ้ามีดินใต้ฐาน ดินต้องแห้งสนิท มีฝ้าคราบขาวเกาะหน้าดินแบบธรรมชาติ เมื่อใช้น้ำหยดลงไป ดินต้องดูดน้ำเข้าไปทันที (ของเก๊จะใช้ดินผสมกาวไม่ค่อยดูดน้ำ) จากข้อความข้างต้นทำไมทุกท่านจึงไม่ให้ความสำคัญกับสนิมสีน้ำเงินบ้างละครับ ถึงคุณจะฝังดินนานเท่าไหร่ก็เป็นการยากที่จะพบเห็นครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC04434.JPG
      DSC04434.JPG
      ขนาดไฟล์:
      4 MB
      เปิดดู:
      53
    • DSC04421.JPG
      DSC04421.JPG
      ขนาดไฟล์:
      4 MB
      เปิดดู:
      47
    • DSC04428.JPG
      DSC04428.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.7 MB
      เปิดดู:
      38
    • DSC04437.JPG
      DSC04437.JPG
      ขนาดไฟล์:
      4 MB
      เปิดดู:
      50
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 พฤศจิกายน 2012
  5. คนปั้นพระ

    คนปั้นพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,481
    ค่าพลัง:
    +2,427
    ผมดูพลาดไปครับ ต้องขออภัยเจ้าของกระทู้ด้วยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤศจิกายน 2012
  6. ood 32

    ood 32 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +22
    ผมขอกราบขอโทษท่านคนปั้นพระและสมาชิกทุกท่านด้วยความสัตย์จริง ผมเข้าใจผิดไปเอง ผมเป็นคนศึกษาพระไม่ใช่คนเล่นพระ ผมเพียงแค่อยากแสดงความคิดเห็นบ้างเท่านั้นเพราะตำราเป็นเพียงการอ้างอิงแต่ของจริงผมไม่เคยพบเห็น ถ้าผิดพลาดประการใดหรือได้ล่วงเกินท่านคนปั้นพระหรือสมาชิกท่านอื่นผมกราบขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย และในโอกาสหน้าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ขอให้ทุกท่านโชคดีและมีความสุขตลอดไป
     
  7. คนปั้นพระ

    คนปั้นพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,481
    ค่าพลัง:
    +2,427
    ไม่ต้องมาขอโทษอะไรผมหรอกครับ สังคมประชาธิปไตยนั้นเราสามารถที่จะถกเถียงกันด้วยเหตุและผลนั้นได้เป็นปกติอยู่แล้วครับ จริงๆผมภาวนาตลอดว่าเปิดมาในเว็บขอให้เจอพระแท้ ผมจะได้หาโอกาสส่งข้อความไปขอได้ซื้อจากเจ้าของพระบ้าง(แต่ก็ยังไม่มีใครเคยขายผมสักคน)มันไม่สนุกหรอกครับที่ต้องไปบอกเจ้าของพระว่าพระเค๊าเก๊

    เรามาคุยเรื่องสนิมกันนิดนึงก่อนนะครับ พระบูชาเป็นพระที่เล่นง่ายและมีข้อยุตติง่ายๆอย่างทีผมเคยบอกเลย คือต้องดูศิลปะพระก่อนเป็นอันดับแรก(เซียนพระจริงๆเค๊ามองขั้นตอนนี้แล้วเค๊าก็จะรู้แล้วว่าพระบูชาองค์นั้นเก๊หรือแท้) พอรู้ยุคแล้วเค๊าก็จะนึกไปถึงวิธีการหล่อและและดินที่ใช้ปั้นหุ่นพระแล้วว่าจะต้องเป็นแบบไหน มันจะเห็นภาพขึ้นมาเป็นอัตโนมัติ จากนั้นก็ดูโลหะที่ใช้และธรรมชาติของการหล่อว่าตรงกับยุคที่ศิลปพระเป็นตัวบอกหรือไม่? ที่พูดมาแล้วนั้นผมยังไม่ได้บอกถึงสนิมสีไหนๆทั้งนั้นเลยแต่การซื้อขายการต่อราคานั้นจบแล้ว เค๊าจ่ายเงินห่อพระกลับบ้านแล้ว ยังไม่เห็นเค๊าพูดถึงสนิมสีนั้นสีนี้กันสักคนเลยครับ
    ที่ในหนังสือพิมพ์เค๊าบอกว่าถ้าเห็นสนิมสีน้ำเงินในเนื้อพระนั้นแสดงว่าพระองค์นั้นต้องแท้แน่นอนนั้น ผมว่าคนเขียนเค๊าอ่านแต่ตำราแล้วเอามาเขียนแบบไม่รู้มากกว่าครับ สนิมน้ำเงินนั้นจะเกิดได้ยากมาก ถ้าจะเกิดได้ พระองค์นั้นต้องอายุขั้นต่ำ800-1000ปีขึ้นไป พระบูชาทั่วไปไม่มีให้เห็นหรอกครับ ยิ่งพระเชียงแสนนั้นไม่ต้องไปหาเลย ไม่มีให้เห็นหรอกครับ ส่วนมากจะเกิดกับพระยุคลพบุรี ทราวดี หรือศรีวิชียเท่านั้น แต่ก็เกิดเฉพาะบางองค์ เพราะมันต้องอาศัยองค์ประกอบหลายอย่างเช่นแร่ธาตุในดินที่พระถูกฝังอยู่ทำปฏิกิริยากับโลหะที่หล่อพระและน้ำใต้ผิวดินจึงจะเกิดสนิมแบบนั้น


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2012
  8. localman

    localman Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +52
    ขอบคุณพี่ คนปั้นพระ ที่ให้ความรู้เป็นวิทยาทาน ขอบคุณจากใจจริงครับผม
     

แชร์หน้านี้

Loading...