ก สิ ณ น้ำ - อาโปกสิณ

ใหม่ ๆ กับนิมิตกสิณน้ำ ​

หากตรงจริตของตน น้ำเป็นทางที่ฝึกได้ของตน
ทีนี้ ไม่ต้องลังเลสงสัย เดินตรงทางแล้ว
เมื่อนิมิตปรากฏ มากขึ้น และมากขึ้น

นิมิตของกสิณต้องเป็นน้ำ ไม่ใช่ดิน ไม่ใช่ไฟ ไม่ใช่ลม ไม่ใช่พระพุทธ
ไม่ใช่พระพุทธเจ้า ไม่ใช่เทพ ไม่ใช่เทวดาพรหม ไม่ใช่พระอริยะ
ไม่ใช่พ่อแม่ ไม่ใช่เจ้ากรรมนายเวรน้ำ

ทั้งหมดนี้ ต้องทำความเข้าใจ ว่านิมิต คืออะไร เข้าใจผิดก็เพี้ยนได้ตอนนี้

นิมิตของน้ำต้องเป็นน้ำ น้ำนิ่ง น้ำ.....

 

ตรงนี้ไงที่ดิฉันบอกว่า แผนที่ ทางเดิน และการบรรลุธรรม
ไม่ผิดนัก เพราะอ่านได้ว่าตนมีชาตาอย่างไร
มาจากอะไร มาทำอะไร จะไปที่ไหน

ที่ไปคือที่ดี หรือไม่ นั้น ชาตาบอกได้

ชาตาบอกกสิณน้ำ ต้องมาเดินน้ำ เพื่ออะไร
ทุกอย่างมีเหตุ ทราบเหตุ และทราบผล
หมดจดในความสงสัย ไม่ติดต่อไป

หากอ่านได้ อ่านเป็น และใช้ปัญญา

 

ใช้กสิณน้ำ รักษาโรค​

กสิณทำให้เราสงบขึ้น
เพราะวิบากพลันรุม จิตก็ว้าวุ่น ไม่สงบ
เหมือนน้ำขุ่น มองไม่เห็นอะไรชัดเช่นนั้น
เมื่อกสิณทำงาน เราจะทราบว่ากสิณทำงานแล้ว

ญ ท่านหนึ่ง โดนคุณไสย์มา เรียกว่า โดนเข้าไปถึงในกระดูก
เธอได้เข้าไปเรียนกสิณกรรมฐาน ครบทั้ง ๔ ธาตุ
หน้าเธอเศร้า เพราะร่างกายเหมือนคนชรา ทั้งที่อายุเพิ่ง ๕๐ ต้น ๆ
แต่เธอดูเหมือนอายุสัก ๘๐ เดินไม่ค่อยไหว มันปวดร้าวไปหมด
เพราะเธอโดนคุณไสย์

ดิฉันให้เธอเดินกสิณน้ำ เพราะเธอมีกสิณน้ำ
ขับโรคออกมา ให้เธอทำเอง เธอเข้าใจ
หลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์ เราเจอกัน เธอบอกว่า พิษมันถูกขับออกมาทางรูขุมขน
เธอไปขูดพิษ หมอบอกว่า ไปทำอะไรมา พิษออกมาทางรูขุมขน เยอะเลย
เธออาการดีขึ้น

 

เท่าที่อ่านมามีแต่น้ำ จริงๆ

 

คุณ แสนสวาท ครับโดยส่วนตัวอยากจะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้วยเห็นว่าดึงคนไปฝึก
เพื่อให้เป็นคนดีได้เหมือนกัน
และเผื่อว่าจะเป็นการเปิดมุมมองหรือแนวทางการนำไปใช้งาน
ในด้านอื่นๆ.ที่ใช้กำลังสมาธิจากกสิณกองต่างๆเป็นฐานเพื่อนำไปสู่การหลุดพ้น
หรือเพื่อความละเอียดของจิตต่อไป
ในอนาคตข้างหน้าในมุมที่ทั้งคุณและผมอาจยังมีบางมุมมอง ทั้งทางด้านวัตถุประสงค์ที่แท้จริง
ทั้งทางด้านเทคนิคต่างๆ วิธีการในการสร้างกำลังจิตจากการสะสมกำลังสมาธิใน
การเข้าสู่อารมย์ที่่สามารถสร้างให้จิตมีกำลังเพื่อไปต่อยอดหรือใช้เป็นฐานในการ
เข้าสู่จุดที่สูงกว่านี้สำหรับปลายทางในการหลุดพ้น.
และการนำเสนอในมุมมองที่อาจคลอบคลุมมากขึ้น.จากมุมที่เรายังไม่เห็นไม่ว่าจะสาเหตุ
จากอะไรก็ตามที่ผ่านมา ณ เวลานี้ ไม่ทราบว่า
คุณ แสนสวาท ..จะพอตอบได้ไหมว่าเจตนาในการแนะนำบุคคลไปฝึกกสิณ ที่ชมรมศิษย์สุวรรณโคมคำเพื่ออะไรกันแน่
พอดีได้แวะเข้าไปแล้วยังไม่ได้รับคำตอบที่กระจ่างหรืออาจเพราะผมยังหาไม่เจอ.และเห็นคุณเป็นตัวตั้งตัวตี เลยอยากฟังคำตอบ
จากคุณก่อนใน ๒ คำถามต่อไปนี้.ก่อนที่จะมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันในอนาคตข้างหน้านี้
๑.ฝึกกสิณกองต่างๆไปเพื่ออะไร นำไปทำอะไรได้บ้างครับ
๒.ชมรมนี้นี้มีวัตถุประสงค์อย่างไรในการจัดตั้งชมรมครับ...
ขอบคุณมากครับ...​

 

อ่านประสบการณ์เกี่ยวกับการฝึกกสิณน้ำรุ่นที่ ๑๐

กสิณน้ำ อาโปกสิณ

 

ขอบคุณที่นำประสบการณ์การฝึกมาให้อ่านนะครับ..จริงๆไม่ต้องอ่านก็พอทราบได้ครับ..
เอาว่าผมคงไม่ถามคุณแล้วหละครับเพราะไม่ผ่านการอนุมัติและคงไม่ใช่หน้าที่ผมด้วย
..ถ้าไม่สดวกตอบก่อนหน้านี้ไม่เป็นไรครับ..เอาว่าจะเขียนให้อ่านดังต่อไปนี้นะครับ.

๑.คุณรู้วิธีการสร้างกำลังจิตเพื่อสะสมไว้สำหรับ การอฐิษฐานฤิทธิ์จากกสิณน้ำเพื่อให้เป็นรูปธรรมหรือไม่ครับ..
๒.คุณสามารถใช้กสิณน้ำในส่วนภพภูมิได้หรือยังครับ..และสามารถฝึกในส่วนภพภูมิ
ได้หรือยัง นอกจากนั่งฝึกแบบพิธีการที่ได้พยายามนำมาเสนอ..

๓.คุณรู้ลักษณะเฉพาะของพลังงานกสิณน้ำที่รวบรวมเป็นพลังงานลมแบบรูปธรรม
ได้หรือยังครับ...ว่ามันหมุนกี่รอบแล้วอะไรที่แสดงให้ทราบว่าพลังงานที่รวมตัวนี้เป็น พลังงานจากกสิณน้ำที่ได้ฝึกมา..
๔.นิมิตรกสิณน้ำ ถ้าจะลืมตาเพื่อมาฝึกต่อ...หลับตาต้องเข้าถึงระดับไหนก่อน ถึงจะลืมตามาฝึกต่อได้เหมือนตอนที่หลับตา...
๕.กิริยาของจิตและลักษณ์นิมิตร ที่สามารถนำไปสู่การอฐิษฐานฤิทธิ์ให้สำเร็จเป็นรูปธรรมได้..เป็นอย่างไร..
๖.ปฏิภาคนิมิตร และอุคคนิมิตร..กสิณน้ำหากคุณบังคับได้ และลืมตาก็เห็นได้.. มีข้อแตกต่างกันอย่างไร ระหว่างหลับตา และ ลืมตา....

๗.คุณเคยเข้าถึงการอฐิษฐานฤิทธิ์จากกสิณน้ำให้เกิดเป็นรูปธรรมได้จริงๆซักครั้งหรือยัง.

เอาเป็นว่าทั้ง ๗ ข้อนี้คุณไม่ต้องตอบก็ได้ครับ..และถ้าคุณเข้าใจและทำได้ทั้ง ๗ ข้อนี้
แล้ว..จุดนี้ถึงจะเรียกว่า ''ไม่คล่องตัว'' ถึงจะพอก้าวไปสู่จุดที่เรียก เส้นทางสายอภิญญานอกบ้าน...มิใช่เส้นทางสายอภิญญาในบ้านตัวเอง..

ที่ต้องมาใช้ อิทธิบาท ๔ เพื่อให้ถึงจุดที่เรียกได้ว่า ''คล่องตัว''
โดยจะต้องผ่านด่านสำคัญอีก ๒ อย่างหลักๆที่ขาดไม่ได้เลยข้อ ๑
ก็คือต้องตัดปฏิฆะให้เหลือน้อยที่สุดส่วนข้อที่ ๒ หาคำตอบเอาเอง..

เหมือนพระอริยเจ้าหรือผู้ที่เรียกได้สำเร็จกสิณน้ำจริงๆซึ่งถ้าตอบได้หมด
ได้ทั้ง ๗ ข้อในตอนนี้กำลังสมาธิถึงจะพอเรียกเปรียบได้ว่าระดับเด็กอนุบาล.
สำหรับบุคคลหรือพระอริยะท่านใช้งานได้คล่องตัวแล้ว..

..เอาไว้ว่าผมเขียนสกิดผลการปฏิบัติและเพื่อเตือนระบบความคิดคุณประมาณนี้นะครับ
..ด้วยเหตุที่คุณเปิดตัวอย่างเป็นทางการ.เสมือนกำลังเดินเส้นทางสายอภิญญานอกบ้าน
.ควรจะต้องมีความเข็มแข็งเป็นพื้นฐานและองค์ประกอบอื่นๆมากกว่านี้
ตรงจุดนี้หวังจะเข้าใจและยอมรับนะครับ.และไม่อยากจะแย้งเพราะเห็นว่า.
คุณกำลังอยู่ในช่วงสร้างบารมีและก็ทำความดีอยู่..
ที่กล่าวมาทั้งหมดมีเจตนาที่จะสื่อเพื่อเตือนใจ.หากจะเดินออกนอกบ้าน
เป็นการเตรียมความพร้อมของตน..
และหากว่าที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นการล่วงเกินหรือปรามาสคุณ
รวมทั้งปรามาสครูอาจารย์ของคุณ.ด้วย กาย วาจา ใจ ก็ดี
จะโดยเจตนาหรือไม่ได้เจตนาหรือด้วยความ
ประมาทพลั้งเผลอของตัวผมเอง..
ก็ต้องขออภัยและขออโหสิกรรมต่อคุณ ตลอดจนครูบาร์อาจารย์ท่านต่างๆ
มา ณ ที่นี้ผ่านคุณด้วยครับ
ปล.สุดท้ายนี้หวังว่าจะเข้าใจที่สื่อ ขอบคุณมากครับ.​

 

กสิณเป็นส่วนหนึ่งในการฝึกจิต ให้เกิดสมาธิ เพื่อให้ประชาชนที่สนใจได้เข้าใจ
เป็นการปูพื้นฐานเบื้องต้นให้กับประชาชนผู้สนใจ ในการฝึกกสิณดินน้ำไฟลม
หากคุณเข้าไปเรียนแล้ว คุณก็จะทราบว่า บางท่านไม่ได้รู้จักคำว่ากสิณเลยด้วยซ้ำไป
คุณมีความรู้เบื้องต้นแล้ว ยังเข้าไป เพื่ออะไร
ดิฉันได้แชร์ประสบการณ์การฝึกกสิณจากผู้ที่เข้าไปฝึกว่าได้รับข้อมูล
ที่ตรงกับการพยากรณ์จากดวงชาตา มันตรงกัน เรื่องนี้ คงไม่มีใครทราบว่า
จริงหรือที่สามารถบอกได้จากการพยากรณ์ เราก็ให้ฝึกจริง จากการแฏิบัติจริง
แล้วผลที่ได้ก็ตรงกัน ก็เท่านั้น ที่เหลือต้องคิดเอาเองว่าจะทำอย่างไร



อยากค้นหาว่าชมรมศิษย์สุวรรณโคมคำ สอนอะไร ต้องไปเรียน
หรือว่าอยากทราบว่า เราฝึกเบื้องต้นให้
ส่วนกสิณให้พลังอย่างไรอะไรบ้าง ต้องฝึกเอาเอง
ดิฉันแจ้งชัดเจนว่า สอนเบื้องต้น เท่านั้น
ไม่ได้สอนให้ลึกไปถึงการได้ฤทธิ์ ไม่ได้เป็นหลักการของชมรมฯ ค่ะ
และก็ไม่มีใครอวดอ้างในชมรมฯ สักคนว่าได้อภิญญา

 

ดวงกสิณที่เกิดขึ้นในจิต ชัดเจนขึ้นในจิต
ภาพของกสิณชัดเจน เหมือนมองด้วยตาเปล่า
เหมือนกำลังแห่งสมาธิที่เพิ่มขึ้น
เราสอนท่านเพียงวันเดียว ท่านนำไปฝึกฝนต่อ
ท่านก็จะได้เห็นนิมิต เห็นโดยตนเอง
เห็นก็แค่รู้ รู้ว่าเห็น

การแผ่ขยายออก หดเข้า ขยายออก เป็นลำดับต่อไปในการใช้ฝึกอย่างต่อเนื่้อง
หากท่านได้เห็นนิมิตเหมือนภาพที่ปรากฏตรงหน้า ท่านก็จะได้สมาธิที่ตั้งมั่นขึ้นมาเป็นลำดับ
การฝึกอย่างต่อเนื่อง คือการฝึกตลอดเวลา ฝึกบ่อยครั้ง
ท่านจะรู้ว่าท่านสงบมากขึ้น มีสมาธิมากขึ้น
มีสติรู้ตัวได้เร็วขึ้น แค่นี้ก็นำพาให้ท่านได้อะไรเกินบรรยาย

จากนั้น ต้องฝึกวิปััสสนากรรมฐานด้วย สืบเนื่องไป

 

๑.ฝึกกสิณกองต่างๆไปเพื่ออะไร นำไปทำอะไรได้บ้างครับ

กสิณนั้นต้องฝึกกสิณดิน เป็นกองแรก แต่การฝึกกองต่าง ๆ เพราะมนุษย์เรา
มีของเดิมมาต่างกัน ดิฉันเองก็ไม่ได้กสิณดินแต่แรกเหมือนกัน
ส่วนกสิณน้ำ สร้างความอัศจรรย์ใจให้ไม่น้อย ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฝึก
ส่วนตัวดิฉันแนะนำให้ฝึกกสิณดินก่อนแล้วค่อยฝึกกองที่ถนัด ทั้งนี้
จะได้ง่ายเข้า
การเจริญกรรมฐาน เราต้องการผลของกรรมฐานเช่นกันใช่ไหม
หากท่านฝึกแล้วกองไหนก้าวหน้า ท่านควรที่จะฝึกกองนั้นต่อไปจนที่สุด
จนถึงฌาน ๔
ส่วนตัวดิฉันเอง เห็นว่ากสิณเป็นของง่าย น่าจะทำให้คนที่สนใจกรรมฐานได้สิ่งที่ตนเอง
ต้องการโดยไม่ยาก จึงขออนุญาตครูบาอาจารย์ เรียนรู้กสิณและขออนุญาตถ่ายทอดให้
ประชาชนที่สนใจ เพราะมีคนมาขอเรียนสม่ำเสมอ เลยจัดเป็นคอร์สสอนขึ้นมา
กสิณทำให้เกิดสมาธิ เป็นพลังเข็มแข็งดี
เรามักเกิดอารมณ์เพราะความเคยชินของจิตที่มักจะปรุงแต่งตามแบบที่เคยเป็นของจิตเดิม
แล้วก็ส่งผลอันตามใจชอบออกมา ผลก็คืออกุศลวิบากกรรมที่สั่งสมเพ่มพูนทวี
เมื่อฝึกแล้ว จะรู้ว่าจิตคิดอะไร จะทำอะไร รู้ตัวก่อนจะเกิดเหตุการณ์ที่แย่ ๆ เช่นจะโกรธแล้วนะ ตอนนี้รู้ว่าตนจะโกรธ
เมื่อก่อนใครทำเราโกรธ เราก็เช่งไปแล้ว แต่นี้ ยั้งคิดได้ ทบทวนเป็น หาทางที่ดีให้จิตได้ใหม่
ดิฉันว่าเบื้องต้นได้เท่านี้ ก็ดีเกินแล้ว ทำให้นิสัยเราเปลี่ยนไปได้เหมือนกัน
ส่วนที่ฝึกว่าได้ผลอย่างไรอีก ...ต่อไป ไว้ค่อยมาเล่าก็แล้วกัน
ท่านไปฝึกทีชมรมฯ หากไม่ดี ก็บอกได้ เราจะได้สร้างกุศลร่วมกัน
ท่านได้กสิณอะไรกลับมาบ้างล่ะคะ เล่าให้ฟังบ้างก็ดีนะ แล้วไปฝึกรุ่นไหนมา
หวังว่าคงไม่ใช่รุ่น ๑๐ นะ

 

๒.ชมรมนี้นี้มีวัตถุประสงค์อย่างไรในการจัดตั้งชมรมครับ..

ก่อนทีจะบอกเรื่องตั้งชมรมฯ ต้องบอกเหตุการณ์ก่อนว่า
แรกเริ่มเดิมที แล้ว คัมภีร์สุวรรณโคมคำ เป็นหลักการพยากรณ์ที่ตกทอดมาตั้งแต่ต้นพุทธกาล
แล้วย้อนได้ตอนพระอัญญาโกณทัญญะท่านพยากรณ์พระพุทธเจ้า โดยหลักการที่ชูนิ้วเดียวเท่านั้น
คือ แม่นยำ ว่าพระองค์จะต้องตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแน่นอน
นี่คือความเป็นมา
และคัมภีร์สุวรรณโคมคำ ก็ถูกส่งทอดมาถึงครูบาเกษตรเพชร ผู้ที่ฟื้นฟูวิชชานี้ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
เพื่อจะได้เป็นแนวทางให้คนรู้หลักกรรมว่าเกิดเมื่อไรอย่างไรที่ไหนหนักเบาอย่างไร
ตำแหน่งของการพยากรณ์มีตำแหน่งของ อรหัง ด้วย ซึ่งศาสตร์อื่นไม่มีตำแหน่งนี้
วัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนได้รู้กรรมของตน แก้ไข ผ่อนคลายแนวทางที่ถูกต้อง
อันว่า เป็นวิชชาโหราศาสตร์ ตามที่เห็น แต่ที่ซ่อนเร้นไว้ก็คือ พระอภิธรรม เราเรียนธรรมะโดยส่วนใหญ่
คนส่วนใหญ่ไม่ทราบว่า นึกว่าเป็นแค่เลข ๗ ตัว แต่มีมากกว่านั้น
จะให้ประกาศว่าสอนธรรมะ คงไม่มีคนมาเรียนมากนัก แต่ถ้าบอกว่า สอนโหราศาสตร์ น่าจะเป็นประเด็นได้
เลยทำให้คนไม่เข้าใจว่าชมรมศิษย์สุวรรณโคมคำ จัดตั้งเพื่ออะไร
พอได้ความหมายบ้างไหมคะ
ยังมีเรื่องราวอีกเยอะที่จะบอก แต่คนที่เข้าไปเรียนจะรู้ได้มากกว่า
มีคอร์ส สามวัน เข้าไปเรียนได้นะคะ คลิกที่ เวปดูจะได้เข้าใจว่า ควรหรือเปล่าทีจะเห็นแสนสวาท วิ่งไปมาเพื่ออะไร

คุณไปเรียนแล้ว ได้ประโยชน์บ้างหรือไม่ หรือไม่ได้เลย บอกไว้บ้างก็ดี ในฐานะศิษย์

 

ขอบคุณที่ขยายความให้ฟังครับ..ส่วนตัวขอโมทนาด้วยนะครับ..
ที่คุณเล่าให้ฟังมา..อ่านแล้วพอจะทราบวัตถุประสงค์ของชมรม
และก็ต้องขอโมทนากับเจตนาและความตั้งใจของคุณด้วยครับ.
ส่วนตัวดีใจนะครับ..ที่มีคนอย่าง คุณ แสนสวาท ที่พยายามชักชวนคน
ไปฝึกสมาธิแล้ว..ต่อยอดไปเพื่อการพัฒนาทางจิตใจให้ออกไปในทางที่ดี
ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างหนึ่งที่ควรเน้นสำหรับผู้ที่ไปฝึก.
ได้เท่านี้ก็คงเพียงพอในระดับนี้แล้วครับ..
และผมยังไม่เคยไปเรียนที่ชมรมครับ..ขอขอบคุณที่แนะนำด้วยครับ..
ส่วนประโยชน์มีแน่นอน.ขอให้ต่อยอดแล้วจิตใจดีขึ้น
จะมากหรือน้อยไม่ใช่ประเด็นหลักอะไร..ขอให้ฝึกแล้วเป็น
คนดีก็พอ..จะดีเพิ่มขึ้นเล็กน้อยอย่างน้อยก็ถือว่าดีครับ..
ส่วนใครจะไปต่อยอดอย่างไรก็คงเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล
ไปตามแต่จริตและความชอบขอแต่ทำแล้วให้จิตใจดีขึ้น
เป็นคนดีขึ้น อยู่ในสภาพแวดล้อมหรืออยู่ร่วมกับสังคมได้ดีขึ้น
ก็พอแล้วครับ......
อืมๆ..ส่วนประสบการณ์ส่วนตัวก็พอมีบ้างครับ.คือพอทำได้บ้าง
ยกเว้นกสิณสียังไม่เคยฝึก.แต่กลับกลุ่มที่คุยกันอยู่มีที่ฝึกกสิณ
สีอยู่ครับ..และช่วงนี้อยู่ในช่วงใช้กำลัง
จากกสิณเพื่อไปต่อยอดบ้างอย่างอยู่...ก็อยากจะเล่าให้ฟัง
บ้างเหมือนกันแต่ยังไม่ถึงเวลาและนิสัยส่วนตัวไม่ค่อยชอบ
ถ่ายทอดเรื่องอะไรที่ดึงตัวเองเป็นหลักเท่าไรเนื่องจากไม่ใช่แนวที่่ชอบ
และคนที่ฝึกกสิณสีที่คุยกันมาอ่านก็คิดทำนองเดียวกันคือยังไม่ถึงเวลาที่
จะมาถ่ายทอดในขณะนี้ เอาไว้ให้ผ่านการอนุมัติก่อนนะครับ..
สรุปว่า....ถ้าคุณทำได้และเข้าใจทั้ง ๗ ข้อที่ได้
เขียนไว้แล้วใน #Rep 28 ถึงจะอยู่ในจุดที่คุณจะสื่อสารได้ตรงกันนะครับ.
เนื่องจากความเข้าใจพื้นฐานถึงจะใกล้เคียงกัน
อีกอย่างผมไม่ใช่ศิษย์สำนักนี้นะครับ แต่ก็ให้ความเคารพในตัวคุณ
และครูบาร์ อาจารย์ของคุณ เช่นกัน
ไว้ซักวัน.ถ้าคุณเข้าถึง เข้าใจ และทำได้อย่างน้อย ๖ ใน ๗ ข้อแล้วคุณจะทราบได้เอง
หละครับ.ว่าท่านใดเป็น.อาจารย์ทางภพภูมิ ที่มาแนะนำและควบคุมการฝึก
กสิณ อยู่ ณ เวลานี้..บางที่อาจจะเป็นท่านที่คุณ คาดไม่ถึงก็ได้ใครจะรู้
ในอนาคตข้างหน้า.อาจได้อาจารย์ท่านเดียวกันก็ได้ใครจะไปทราบครับ..
สุดท้ายนี้ ขอให้คุณประสบความสำเร็จทั้งทางโลกและทางธรรม ขอให้มี
ความเจริญยิ่งๆขึ้นไป.ถึงจะอะไรยังไงก็ตามขอเป็นกำลังใจให้นะครับ.​

.

 

อนุโมทนาสาธุการที่มาร่วมให้ปัญญา
ดิฉันก็ปฏิบัติไปเรื่อย ๆ ไม่ได้เป็นวสี อย่างบางท่าน
เพียงแต่ไม่หยุดเท่านั้นเอง

นิมิตของน้ำและลม มาก่อนที่ดิฉันจะรู้จักกสิณซะอีก
ดิฉันจึงตามหาว่า เคยมีฤทธิ์หรืออย่างไร เลยหันมาทางกสิณ
เจอครูบาฯ ท่านก็ไม่สนับสนุนให้เน้นเรื่องฤทธิ์ อย่างที่คุณแสดงมา
เลยไม่สามารถพูดอะไรได้

เอาเป็นว่า ใครอยากไปเรียนก็ไปเรียนรู้ได้
เป็นพื้นฐานของกสิณ ท่านใดได้นิมิตแล้ว ได้ฤทธิ์แล้ว ก็อนุโมทนาสาธุด้วยค่ะ
ดิฉันก็บำเพ็ญบารมีไปเรื่อย ๆ ตามสติกำลัง

ท่านใดศรัทธา เรื่องที่เขียนมาได้บ้าง
และยังไม่มีพื้นฐานความรู้เรื่องกสิณ
วันหนึ่ง ท่านอยากฝึกกสิณมหาภูตรูป ๔ ก็คลิกเวปดูเอาเองแล้วกันค่ะ

ดิฉันมีหน้าที่บอก ท่านที่สนใจมีหน้าที่ปฏิบัติตามกำลัง
จะได้อะไรไหม เต็มกำลังเมื่อไร ก็คงได้เมื่อนั้น

 

ขอบคุณครับ.ถ้าวาระมาถึงคงมีโอกาสได้ไปศึกษาเพิ่มเติมในส่วนที่ คุณแนะนำมา
แต่ด้วยเหตุอะไรก็ตาม.
.ขอแลกเปลี่ยนประสบการณ์เพื่อเป็นแนวทางการศึกษาไว้
ก่อนในเบื้องต้น.หากผู้ใดก็ตามที่เข้ามาได้เห็น.และเข้าใจได้ภาพลักษณะที่นำมาเทียบเคียงพลังงานกสิณทั้ง ๕ กองตามภาพประกอบที่นำมาแสดง..
๑.ซึ่งแสดงตั้งแต่ขั้นเริ่มต้นของพลังงาน
๒.ลักษณะของพลังงานและการสังเกตุอารมย์
๓.รวมทั้งวิธีการฝึกใช้งานในเบื้องต้นและ
๔.ขั้นตอนสำหรับการเตรียมตัวเพื่อนำไปใช้งานในทางธรรมต่อไป.สีขาวตรงกลางคือสภาพจิต ณ เวลานั้น..
.ถ้าเข้าใจได้และทำได้แล้ว ในอนาคตหากมีบุญสัมพันธ์กันหวังว่าคงจะได้พบเจอแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันต่อไปครับ

[/url][/IMG]--->[/url][/IMG]--->[/url][/IMG]

--->[/url][/IMG]

ปล.ขอบคุณครับ..​

 

ผมเคยฝึกกสินน้ำครับ แต่ฝึกไม่นานเลิกครับ ( ฉันทะมีไม่พอ วิริยะมีไม่พอ ) ผมเลยไปดูลมหายใจต่อ เข้าสมาธิง่าย กว่า 555 (แต่คนที่ได้ทรงฌานอานาปานุสติ กรรมฐานทุกกอง ไม่เกิน 7วันได้หมด อันนี้อ่านมาอีกที เพราะทุกกอง ต้องมีอานาปานุสติ ถ้าไม่มีทุกกองไม่ได้ผล จิตจะคิดเรื่องอื่น ) อันนี้ความรู้ผมอ่านมา แต่อ่านอีกที แต่ถ้าได้กสินกองใดกองหนึ่งทรงฌาน(แต่เจริญกสิน หรือใดก็ต้อง มีอานาปานุสติ ไม่งั้นจิตฟุ้งอยู่ดี แล้วจะเจริญกสินอันอื่นก็ได้เหมือนกันในเวลาไม่นาน เพราะอารมณ์เหมือนเดิม แต่เปลี่ยน เครื่องมือแค่นั่นเอง ก็แชร์ความรู้ครับเล่าสู่กันฟังอีกที

 

ดูลมหายใจหรือคะ
เอาอะไรดูล่ะ

 

ดูลมหายใจหรือคะ
เอาอะไรดูล่ะ

จิตนั่งแหละครับ เพ่งตามดู (พี่จะบอกว่า ให้จิตเพ่งที่น้ำจนเป็นอารมณ์ใช่ป่ะครับ)

 

ก สิ ณ น้ ำ

 

อบรมกสิณ รุ่นที่่ ๑๕ อบรมฟรี

กสิณภาคประชาชนทั่วไป เปิดอบรมครั้งที่ ๑๕
วันพุธที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๖
เวลา ๙.๓๐-๑๗.๓๐น.
สิ่งที่ต้องนำมาด้วย สำเนาบัตรประชาชน และลูกประคำ
หลักสูตรเรียนฟรี​