ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Numsai, 21 สิงหาคม 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. เอ๋ปากน้ำ

    เอ๋ปากน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +12,905
    สำหรับท่านที่มีความประสงค์อยากจะไปร่วมงานบุญมหากฐิน ในวันที่ 17 นี้
    เราได้จัดรถตู้ไป จำนวน 5 คันค่ะ

    ณ ขณะนี้ มีที่นั่งว่างเหลืออีก 6 ที่นั่งค่ะ
    เป็นรถตู้ VIP 10 ที่นั่ง
    เดินทางไปตอนเย็นวันที่ 16 พย.2555 กลับวันที่ 18 พย.2555 นี้ค่ะ


    สนใจ สอบถามรายละเอียดได้เพิ่มเติมเชิญหลังไมค์ กับเอ๋ได้ค่ะ 089 921-3969

    จันทรกาล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 พฤศจิกายน 2012
  2. Phuya

    Phuya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +10,966
    ต้นกฐินที่เห็นในภาพจะมีทั้งหมด 6 ต้นจ้า เป็นใบโพธิ์เงินทั้งหมด ตอนนี้กระจายบอกบุญอยู่ตามสถานที่ต่างๆ
    ส่วนต้นเอกจะสูงใหญ่กว่านี้เป็นใบโพธิ์ทอง เมื่อเสร็จงานกฐินในครั้งนี้แล้วจะถวายวัดเพื่อนำไปประดับในศาลาปฏิบัติธรรม
    อีกไม่กี่วันก็จะได้เห็นของจริงแล้ว สวยงามสมความตั้งใจ แล้วจะถ่ายรูปมาให้โมทนาบุญกันนะคะ ว่าแต่ใครอยากไปร่วมงานในครั้งนี้บ้าง
    จองที่นั่งที่คุณเอ๋ด่วนค่ะ เหลือแค่ 6 ที่เอง ว่าแต่น้องหญิงไม่มีคนรู้ใจไปด้วยหรือ ?
     
  3. Phuya

    Phuya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +10,966
    [​IMG]

    ขออนุโมทนาบุญกับคุณธรรมวิวัฒน์ นะคะที่ส่งแก้วมณีนาคราชสีเขียวมาร่วมประดับองค์พระค่ะ
    ขอให้มากมีด้วยแก้วแหวนเงินทอง ขอให้ล้นเหลือด้วยบุญบารมี สาธุ สาธุ สาธุ
     
  4. เอ๋ปากน้ำ

    เอ๋ปากน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +12,905

    ขออนุโมทนาบุญกับคุณธรรมวิวัฒน์ ด้วยค่ะ
    แก้วมณีนาคราชสีเขียวสวยงามม๊ากๆค่ะ

    จันทรากาล
     
  5. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,441
    [​IMG]

    ต้นโพธิ์ต้นนี้ต้องรดน้ำด้วยบุญ ใส่ปุ๋ยด้วยศรัทธา
    ถึงจะโตวันโตคืนนะครับ

    อนุโมทนาบุญกับทุกท่านครับ สาธุ
     
  6. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,414
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,441
    [​IMG]

    [​IMG]

    บนหนทางชีวิตลิขิตฝัน
    จินต์เหหันผันผ่านกาลผ่องแผ้ว
    เพื่อหลุดพ้นบนทุกข์รุกดั่งแนว
    หวังให้แคล้วหลุดบ่วงห้วงอารมณ์

    ยามท้อแท้แลสิ้นหวังพังพินาศ
    พิษร้ายกาจพรากสุขคลุกขื่นขม
    หาทางดับลับลาพาคลายปม
    ธรรมะข่มพรมพร่างทางดำเนิน

    ศีลถือมั่นปั้นก่อขอเพียงสร้าง
    สมาธิวางทางสงบจักห่างเหิร
    สิ่งว้าวุ่นฉุนเฉียวเปลี่ยวเผชิญ
    เพียรเจริญภาวนาพาสบาย

    สายน้ำแห่งฝัน


    [​IMG]
     
  7. winaiwon

    winaiwon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    821
    ค่าพลัง:
    +6,577
    ร่วมอนุโมทนาบุญ กันครับ ^^

    ยอด ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2555 เวลา 23.50น. ได้ปัจจัย 9,230.99.-บาท และ มีการหักค่าธรรมเนียมบัตร ATM อัตโนมัติ ไป 200บาท ซึ่งผมได้โอนกลับคืนให้แล้วครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1 Nov 2012.JPG
      1 Nov 2012.JPG
      ขนาดไฟล์:
      83.7 KB
      เปิดดู:
      53
  8. เอ๋ปากน้ำ

    เอ๋ปากน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +12,905
    วันนี้ครอบครัวคุณแม่เกิด กรองทอง พร้อมบุตรหลานทุกๆคน
    โอนเงินจำนวน 300 บาท ร่วมถวายดวงแก้วมณี.....
    ขอให้อานิสงส์แห่งการถวายดวงแก้วมณี...จงเป็นผลสำเร็จๆๆโดยพลัน สาธุ สาธุ สาธุ

    ๑. ทำให้หายจากโรคตามีดวงตาที่สดใส
    ๒. มีทิพยจักขุญาณแจ่มใส
    ๓. มีญาณหยั่งรู้ได้โดยรอบ
    ๔. เป็นที่เคารพยกย่องแก่วิญญูชน
    ๕. เดินทางไปที่ใด มีผู้คนให้การต้อนรับ
    ๖. ทรัพย์ที่มีอยู่ไม่เสื่อมสลาย และมีทรัพย์ใหม่เข้ามา
    ๗. เมื่อละโลกแล้ว ก่อให้เกิดทิพยสมบัติที่ประกอบไปด้วยรัตนะทั้ง ๗ โดยมีดวงแก้วมณี เป็นต้น
    ๘. เมื่อลงมาเกิดเป็นมนุษย์ จะเป็นผู้มีทิพยจักขุญาณแจ่มใสตั้งแต่เยาว์วัย และเป็นผู้มีปัญญามาก


    จันทรกาล
     
  9. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    เอาไว้รอชมต้นกฐินแสนงามที่วัดค่ะพี่หญิง
    ส่วนน้องจะไปหาคนรู้ใจเอาแถว ๆ วัดค่ะ จะมีไหมหนอ? อิอิ
     
  10. เอ๋ปากน้ำ

    เอ๋ปากน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +12,905
    วันที่ 2 พย.2555 โอนเงินทำบุญ ร่วมเป็นเจ้าภาพงานบุญกฐินบรมจักรพรรดิ์ 100 บาท

    ขออุทิศบุญนี้แด่ คุณพ่อกี กรองทอง
    คุณตาเสาะ คุณยายอิบ โสรักนิตย์
    และคุณปู่แหลม คุณย่าเพียบ กรองทอง ได้โปรดอนุโมทนาบุญนี้
    และขออุทิศผลบุญนี้แด่ปวงเทพเทวาทั้งหลาย และท่านพระยายมราช นายนิริยบาล
    ขอปวงเทพเทวาทั้งหลาย และท่านพระยายมราช ได้โมทนา และเป็นสักขีพยานในการทำบุญครั้งนี้ และได้บอกกล่าวแก่คุณพ่อกี กรองทอง คุณตาเสาะ คุณยายอิบ โสรักนิตย์ และคุณปู่แหลม คุณย่าเพียบ กรองทอง ได้อนุโมทนาบุญครั้งนี้ด้วยเถิด สาธุ..


    จันทรกาล
     
  11. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..ร่วมประมูลพระขรรค์ และกริซ ๕ สี ชุดที่ ๓ ค่ะ

    ___0021.jpg

    ขอเชิญร่วมประมูลพระขรรค์ และกริซ ๕ สี อัญเชิญจากถ้ำแห่งหนึ่งในเทือกเขาภูพาน ช่วงออกพรรษาปี ๒๕๕๕ อธิษฐานจิตโดยพระเกษรีฤาษี ก่อนยุคสมเด็จพระพุทธกกุสันโธพุทธเจ้า เพื่อเป็นเครื่องบูชาครู คือ พระฤาษี ๕ องค์ โดยถวายกริซแก่พระฤาษี ผู้เป็นหัวหน้า
    สำหรับรายละเอียดจะนำเสนอในประวัติพระเกษรีฤาษีต่อไปค่ะ

    เริ่มต้นประมูลที่

    ๑.พระขรรค์สีแดง และกริซสีแชมเปญ = ๓,๕๑๒ บาท

    ๒.พระขรรค์สีม่วงเข้ม สีขาว และสีม่วงอ่อน = ๒,๕๑๒ บาท
    กติกาในการประมูล

    ๑. เริ่มวันที่ ๒-๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ภายใน ๒๐.๕๙ น. วันไหว้พระจันทร์ตรงกับแรม ๔ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง
    ๒. หากที่มีผู้ประมูลสูงสุดเท่ากัน ๒ ท่าน จะตัดสินด้วยเวลาที่ปรากฏในเว็บพลังจิต โดยไม่เกินวันเวลาที่กำหนดไว้
    ๓. หลังจากปิดการประมูล โอนปัจจัยภายใน ๒ วันหลังจากโอนปัจจัยแล้ว หากเลย ๒ วันจะมอบสิทธิ์แก่ผู้ที่ประมูลราคาสูงสุด
    ๔. หลังจากโอนปัจจัยแล้วจะทำการส่งมอบดวงแก้วให้แก่ท่านผู้เป็นเจ้าของต่อไปค่ะ


    กรุณาโอนปัจจัยไปที่......

    ชื่อบัญชี พุทธารา โรจนฤทธิกร
    เลขที่ 080-252647-2
    ธนาคาร ไทยพาณิชย์
    สาขา ถนนศรีนครินทร์ (กรุงเทพ – กรีฑา)
    ประเภท ออมทรัพย์-แบบสะสมทรัพย์


    ๑.ปัจจัย ๑๐ % หลังหักค่าใช้จ่ายเข้ากองบุญแก้วบรมจักรพรรดิ เพื่อใช้งานบุญต่าง ๆ ช่วงนี้จะเน้นโอนร่วมบุญกฐินเป็นหลักค่ะ ...

    http://palungjit.org/threads/ขอเชิญ...วชัยสิทธิ์มงคลธรรม-หน้า-๙๕-ค่ะ.283863/page-97


    ๒.ปัจจัยอีก ๑๐ % หลังหักค่าใช้จ่ายร่วมบุญถวายดวงแก้วคู่บารมี เพื่อเป็นบริวารกฐินค่ะ
    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ
    Numsai
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤศจิกายน 2012
  12. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    สำหรับประวัติของพระขรรค์ ๙ สี(ชุดนี้ไม่ได้นำออกมาประมูล เนื่องจากมีเจ้าของแล้ว) และพระขรรค์และกริซ ๕ สี และดวงแก้วสิกขชยมงคลมีความเกี่ยวเนื่องกันมา เนื่องจากผู้อธิษฐานนั้น คือ พระเกษรีฤาษี จึงจะได้นำเสนอเรื่องราวต่อกันไปค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านที่ติดตามกระทู้นี้ด้วยค่ะ

    Numsai
     
  13. mooom

    mooom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2010
    โพสต์:
    860
    ค่าพลัง:
    +9,291
    ขอเริ่มประเดิมกริซสีแชมเปญ 3550 พระขรรค์สีขาว 2550 ครับ
     
  14. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..เรื่องของพระเกษรีฤาษี ตอนที่ ๑ ..

    พระพุทธเจ้า.jpg

    พระเกษรีฤษีนั้น ได้จุติจากพรหมโลกในหลังสมัยของพระพุทธมหาปุสสะพุทธเจ้า และสมัยพระพุทธวิปัสสีพุทธเจ้า เป็นช่วงปราศจากการอุบัติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีเพียงพระปัจเจกพุทธเจ้ามาโปรดเท่านั้น

    ท่านได้เกิดในตระกูลพราหมณ์ที่มั่งคั่งมาก ในยุคนั้นตระกูลพราหมณ์ถือว่าเป็นตระกูลสูงสุด บิดาของท่านได้สร้างปราสาทประกอบด้วยรัตนะทั้ง ๗ มีความเป็นอยู่อย่างราชา เกษรีพราหมณ์ เป็นผู้มีปัญญามาก ได้สำเร็จไตรเภทตั้งแต่เยาว์วัย เมื่อเติบใหญ่ท่านก็เฝ้าแสวงหาผู้เป็นอาจารย์อยู่เสมอ ท่านมิได้สนใจสตรีใด บิดาของท่านปรารถนาที่จะให้ท่านได้แต่งงานครองเรือนตามประเพณีสืบกันมา

    แต่ท่านเกษรีพราหมณ์ปรารถนาจะร่ำเรียนอยู่เสมอ วันหนึ่งท่านได้เห็นขอทานได้มาขอท่านหน้าบ้านท่าน ยามเฝ้าประตูได้ไล่ให้ออกไป ท่านมาเห็นเกิดความสงสารจึงนำข้าวมาให้กิน และเกิดความสงสัยว่า เหตุใดคนจึงเกิดมาไม่เท่ากัน อะไรเป็นเหตุแห่งการเกิดนั้น

    ท่านจึงตัดสินใจแสวงหาความจริงของชีวิต จึงได้เก็บเสื้อผ้าเครื่องใช้และเสบียงที่จำเป็น แอบหนีออกจากบ้าน ทิ้งไว้เพียงจดหมาย ๑ ฉบับได้ขออภัยต่อบิดาของท่าน จากนั้นจึงออกเดินทางไปทิศตะวันตกของเมืองนั้น และไปในที่ต่าง ๆ หลายปี

    จนกระทั่งถึงป่าแห่งหนึ่ง ท่านได้พบกับพระฤาษี ๕ ตน ผู้ได้สำเร็จอภิญญา ๕ จึงเข้าไปกราบนมัสการและขอฝากตัวเป็นศิษย์ผู้รับใช้พระฤาษีเหล่านั้น โดยการตักน้ำดื่มน้ำใช้ และออกหาผลไม้เตรียมไว้ให้ผู้เป็นอาจารย์ พระฤาษีทั้ง ๕ เห็นแก่ความเพียรของเกษรีพราหมณ์ จึงได้ให้ถือพรตเป็นพระฤาษี และได้สอนวิชาต่าง ๆ ของตนจนหมดสิ้น ด้วยความมีปัญญาของเกษรีฤาษีสามารถสำเร็จวิชาต่าง ๆ ของพระฤาษีทั้ง ๕ ได้ภายใน ๓ เดือน

    ซึ่งขณะนั้นเกษรีฤาษีมีอายุได้ ๓๐ ปี เมื่อสำเร็จวิชา พระญาณชาตะฤาษีผู้เป็นหัวหน้าได้สอนวิชาการทรงอิทธิบาท ๔ ท่านได้กล่าวว่า อีกไม่นานเราทั้ง ๕ จะละสังขาร หลังจากเราละสังขารแล้ว เจ้าจงออกเดินทางไปทางทิศตะวันออก เจ้าจะได้พบสมณะผู้ทรงศีลบริสุทธิ์ให้เจ้าอยู่อุปัฏฐากท่านผู้นั้น แล้วเจ้าจะได้พบหนทางสว่าง พวกเรามีบุญน้อยขออวยพรให้เจ้าจงโชคดี

    ต่อมาอีก ๓ เดือนพระฤาษีทั้ง ๕ ก็ละสังขาร โดยใช้เตโชธาตุเผากายเป็ยผุยผง เมื่อพระฤาษีทั้ง ๕ ผู้เป็นอาจารย์ละสังขารแล้ว เกษรีฤาษีจึงออกเดินทางไปทางทิศตะวันออกของเมืองตามที่พระฤาษีผู้เป็นอาจารย์บอกไว้
     
  15. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..เรื่องของพระเกษรีฤาษี ตอนที่ ๒ ..

    ___0019_3.jpg

    หลังจากรอนแรมหลายวัน ท่านก็ได้พบสมณะรูปหนึ่ง มีรัศมีกายเป็นสีเหลืองทองโดยรอบ กำลังเข้าฌาณสมาบัติ เกิดความศรัทธาเลื่อมใส และนึกถึงคำครูบาอาจารย์ ท่านนึกในใจว่า..

    “นี้คงจะเป็นสมณะที่พระอาจารย์กล่าวไว้ก่อนละสังขารเป็นแน่ เราจะหาดอกไม้มาบูชาท่าน และจะรออุปัฏฐากท่านตามที่พระอาจารย์บอก”

    เกษรีฤาษีจึงได้เก็บดอกไม้ป่า และผลไม้ที่สามารถหาได้ในขณะนั้น จากนั้นก็หาน้ำฉันน้ำใช้มาเพื่อรอถวายแก่สมณรูปนั้น ด้วยความศรัทธาเลื่อมใส

    ครั้นเมื่อครบ ๗ วัน พระสมณะผู้มีรัศมีกายสว่างไสวได้ออกจากสมาบัติ ท่านจึงเข้าไปก้มกราบ และถวายน้ำดื่มและผลไม้ที่มีรสหวาน เนื้อนุ่มแก่พระสมณะผู้นั้น ท่านรับด้วยอาการนิ่งสงบ และขบฉันอาหารที่ถวายอย่างเงียบ ๆ แต่ยังความปลื้มปิติใจแก่เกษรีฤาษีเป็นอย่างมาก


    เมื่อฉันเสร็จแล้ว เกษรีฤาษีได้นำผ้าซึ่งเคยเป็นผ้าของพระอาจารย์ทั้ง ๕ ถวายแด่สมณะรูปนั้น และกล่าวว่า..


    “ข้าฯ แต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าจากแดนไกล เพื่อเสาะแสวงหาครูอาจารย์ พระอาจารย์ทั้ง ๕ ของข้าพเจ้าให้ละสังขารหมดแล้ว ก่อนละสังขารท่านได้แนะนำให้มาทางนี้ เพื่อพบสมณะผู้เจริญ ขอท่านช่วยโปรดรับข้าพเจ้าเป็นศิษย์ด้วยเถิดเจ้าข้าฯ”

    สมณะผู้มีรัศมีกายสว่างไสว ก็ได้แย้มโอษฐ์ และกล่าวว่า...

    “ฤาษีผู้แสวงหาทางดับทุกข์ เรามีนามว่า “พระมังคละปัจเจกพุทธเจ้า” เราบรรลุธรรมได้ แต่มิได้ปรารถนาที่จะสอนใคร
    อีกทั้งท่านจะต้องเป็นผู้รู้ธรรมนั้นด้วยตนเอง เมื่อเป็นวาสนาได้มาพบกันแล้ว เราขอแนะนำเพียงสิ่งที่เราสามารถแนะนำได้ สิ่งที่ท่านปฏิบัตินี้ถือว่าถูกทาง
    การถวายทานต่อผู้ทรงศีลอันบริสุทธิ์นั้น เป็นเหตุอันควร ส่งผลให้ท่านเปี่ยมด้วยทานบารมี การรักษาประพฤติพรหมจรรย์นั้น เป็นเหตุแห่งการเจริญเนกขัมมบารมี เป็นสิ่งที่ควร การแสวงหาทางดับทุกข์นั้น เป็นความปรารถนาเดิมของท่าน
    หากท่านปรารถนาทึ่จะอุปัฏฐากเรานั้น เราขออนุโมทนาบุญ เราจะพาท่านไปยังที่ประชุมรวมแห่งพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอตามเรามา”


    จากนั้น พระมังคละปัจเจกพุทธเจ้า และเกษรีฤาษี ผู้ทรงอภิญญา ๕ ได้เหาะมายังเขาแห่งหนึ่งมีนามว่า ปัญจมัตต์บรรบต เกษรีฤาษีได้พบกับท่านผู้ปรารถนาเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าอีก ๙๙๙ องค์ ขณะที่บำเพ็ญเพียรในอิริยาบถต่าง ๆ

    เกษรีฤาษีนั้นได้อยู่อุปัฏฐากพระมังคละปัจเจกพุทธเจ้า และท่านผู้ปรารถนาเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า โดยการหาผลไม้ น้ำฉันน้ำใช้ และจัดสร้างเสนาสนะให้ท่านทั้งหลายอยู่สุขสบาย เหมาะแก่การบำเพ็ญเพียรเป็นเวลานานหลายเดือน(ยังมีต่อ..)
     
  16. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..เรื่องของพระเกษรีฤาษี ตอนที่ ๓ พระมังคลปัจเจกพุทธเจ้า..

    ขอกล่าวถึงพระมังคละปัจเจกพุทธเจ้า นั้นเป็นหัวหน้าแห่งพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งปวงในยุคนั้น เดิมทีท่านเคยปรารถนาพระสัมมาสัมโพธิญาณต้นกัป ประเภทวิริยธิกะพิเศษ ได้รับการพยากรณ์มาแล้ว ๑๔ อสงไขยกัป

    ระหว่างการบำเพ็ญนั้น ชาติหนึ่งท่านเกิดความเบื่อหน่าย จึงได้ลาพุทธภูมิในสมัยของพระพุทธเจ้าพระนามว่า “พระโลกุตตระสัมมาสัมพุทธเจ้า" กว่า ๒ อสงไขย แสนมหากัปที่ผ่านมา (ก่อนพระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์)

    เมื่อท่านลาพุทธภูมิแล้ว เท่ากับต้องเริ่มนับ ๑ ในการบำเพ็ญบารมี และสำเร็จเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า ก่อนสมัยสมเด็จพระพุทธวิปัสสีนั่นเอง

    ในชาตินั้นท่านได้เสวยชาติเป็นพระมหากษัตริย์ นามว่า “พระเจ้ามังคละโชติ” ขึ้นครองราชย์ แต่ยังไม่ได้อภิเษกสมรส ภายหลังท่านเกิดความเบื่อหน่ายในการครองราชย์ จึงยกราชสมบัติให้แก่ราชครู ผู้มีศีลธรรม ส่วนท่านได้เข้าป่าแสวงหาโมกขธรรม โดยบรรลุธรรมเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า ช่วงในคืนวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรงนั่นเอง

    ในช่วงที่ท่านกำลังเสวยรสแห่งอมตธรรมช่วง ๗ วันแรกนั้น เกษรีฤาษี ผู้ทรงอภิญญา ๕ ได้ติดตามหาตามคำสั่งของพระอาจารย์ และได้ถวายทานครั้งแรกแก่พระมังคละปัจเจกพุทธเจ้าในเช้าวันนั้น หลังจากท่านเข้าสมาบัติ ๗ วัน
    จากนั้นได้ทรงพาเกษรีไปยังสถานที่ที่รวมพระปัจเจกพุทธเจ้า อีก ๙๙๙ รูป โดยพระมังคละปัจเจกพุทธเจ้าเป็นประธานแห่งพระปัจเจกทั้งปวง เนื่องจากท่านเป็นผู้ปรารถนาพุทธภูมิมาก่อน


    พระมังคละปัจเจกพุทธเจ้า ได้สอนเรื่องการเจริญพรหมวิหารธรรมขั้นสูง และการพิจารณาขันธ์ ๕ คืนหนึ่งตรงกับวันขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง หลังจากท่านบรรลุธรรมได้ ๑ ปี พระมังคละปัจเจกพุทธเจ้าได้กล่าวกับเกษรีฤาษีว่า..

    “เกษรีฤาษีเอ๋ย... แท้จริงแล้วท่านนั้นมีความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ ท่านยังไม่สามารถบรรลุธรรมได้ จะต้องบรรลุธรรมด้วยตนเอง

    ทุกอย่างที่เราได้สอนไปนั้น เป็นเพียงฐานต่อยอดในชาติต่อ ๆ ไป วันหนึ่งท่านจะทราบด้วยตนเอง
    นับจากนี้ในอนาคตกาล จะมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บังเกิดขึ้นในโลก มีพระนามว่า พระพุทธวิปัสสีพุทธเจ้า จะเป็นผู้ไขปริศนาธรรมที่ว่านี้ ขอท่านจงทรงอิทธิบาท ๔ ให้มากเพื่อรอรับการมาจุติแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น”


    ด้วยเหตุนี้ ท่านเกษรีฤาษีจึงได้บอกกล่าวคำพยากรณ์ของพระมังคลปัจเจกพุทธเจ้านี้แก่บรรดาลูกศิษย์ของท่าน รวมทั้งท่านอัสดงฤาษี และอินทร์ปัตต์ฤาษี ได้บอกต่อ ๆ กันมาเป็นรุ่นต่อรุ่น (ยังมีต่อ...)
     
  17. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..เรื่องของพระเกษรีฤาษี ตอนที่ ๔ พบพญาโภคนาคราช..

    การอุปัฏฐากพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้ง ๑,๐๐๐ องค์ของเกษรีฤาษีนั้น เป็นเรื่องของการใช้อภิญญาเป็นหลัก ท่านใช้วิธีเนรมิตกายตามจำนวนของพระปัจเจกพุทธเจ้าที่ได้อุปัฏฐาก บางครั้งพระปัจเจกพุทธเจ้าบางองค์ได้ไปแสดงธรรมที่อื่น ท่านก็จะเนรมิตกายติดตามไปด้วย เรื่องของอภิญญาในยุคนั้นเป็นเรื่องปกติ และไม่มีข้อห้ามสำหรับผู้บำเพ็ญพรตแบบฤาษี ในยุคนั้นเรื่องของอภิญญาถือว่า เป็นเรื่องปกติ

    ท่านเกษรีฤาษีนั้น มิได้ทำเพื่อหวังสิ่งใด ท่านตั้งใจอุปัฏฐากเพื่อบำรุงให้พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลายได้รับความเป็นอยู่ที่สะดวกสบาย สิ่งใดที่ท่านสามารถช่วยได้ ท่านจะทำโดยไม่ลังเล และกาลนั้น ตัวท่านเองไม่ได้ทราบเรื่องความปรารถนาที่ใหญ่ตามที่พระมังคละปัจเจกพุทธเจ้าได้กล่าวถึงเลย

    อยู่มาวันหนึ่งพระมังคละปัจเจกพุทธเจ้าได้เรียกเกษรีฤาษีมาพบ และกล่าวว่า ... “เกษรีฤาษี ท่านจงไปที่ภพบาดาลเมืองหนึ่งนามว่า เมืองสัตตรัตนนคร เข้าพบท้าวโภคนาคราช ผู้ครองนคร บอกว่า อีก ๗ วันเราต้องการมานาคพิภพ เพื่อโปรดธิดาองค์เล็กของท่าน นามว่า “ปุญญมาณวิกา” ขอให้ท่านนำสิ่งนี้ไปมอบแด่นาง”

    พระมังคละปัจเจกพุทธเจ้าได้มอบอาภรณ์แก้วสีชมพู ทรงกล่าวต่อไปว่า "สิ่งนี้เรียกว่า "ภักษภูษา” (อ่านว่า พัก-สะ-พู-สา)เมื่อนางได้รับของสิ่งนี้แล้ว ก็จะทราบเรื่องทั้งหมดเอง”
    ท่านเกษรีฤาษีเมื่อได้รับภักษภูษาแล้วก็ได้เหาะไปยังเมืองสัตตรัตนนครทันที ซึ่งมีความห่างจากพระคันกุฎีของพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลายถึง ๑๐๐ โยชน์ ด้วยความเชี่ยวชาญอภิญญา ๕ ของท่านเกษรีฤาษีจึงไปถึงไม่ชั่วกี่อึดใจ

    เมื่อถึงแล้ว เหล่านาคานาคีทั้งหลายต่างดีใจและประหลาดใจระคนกัน การที่มีพระฤาษีมายังเมืองของตนถือว่า เป็นสิริมงคลอย่างยิ่ง ท่านเกษรีฤาษีนั้นได้ลอยอยู่ และกล่าวว่า

    “ท่านทั้งหลาย เรามาวันนี้ เพื่อขอพบท้าวโภคนาคราช ด้วยกิจสำคัญจากพระอาจารย์ของเรา”เมื่อท่านกล่าวจบ ท้าวโภคนาคราชก็ได้ปรากฏกายขึ้น ได้กล่าวว่า

    “ข้าฯแต่พระคุณเจ้า กระผมมีนามว่า “พญาโภคนาคราช” เจ้าเมืองสัตตรัตนนคร ขอรับ ท่านประสงค์สิ่งใดหรือขอรับ”

    เมื่อได้ฟังเช่นนั้น ท่านเกษรีฤาษีจึงได้ลอยมาอยู่ตรงหน้าท้าวโภคนาคราช และกล่าวว่า... “ฟังนะ..พระอาจารย์ของเรา เป็นสมณะที่มีรัศมีกายสว่างไสว ท่านจะมาพร้อมกับพระสมณะอีก ๙๙๙ องค์ รวมทั้งสิ้น ๑๐๐๐ องค์ เพื่อโปรดพระธิดารักขมาณวิกา พระธิดาองค์เล็กของท่าน อีก ๗ วันข้างหน้า ขอท่านและบริวารจงเตรียมพร้อมที่จะรอต้อนรับพระสมณะทั้งหลายด้วยเถิด”

    พญาโภคนาคราชนั้น แม้จะมีความประหลาดใจ และไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ แต่ก็มีความปลื้มปิติใจและรู้สึกเลื่อมใสศรัทธาท่านเกษรีอย่างยิ่ง เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยมีมนุษย์คนใดที่สามารถเข้ามาเมืองนี้โดยไม่ได้รับพิษ แต่ท่านเกษรีฤาษี ไม่มีอาการใด ๆ จึงได้ให้บริวารนำดอกไม้สีขาว นามว่า “มธุรชาติ” มีกลิ่นหอมยวนใจ มาถวายท่านเกษรีฤาษีทันที (ยังมีต่อ...)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2012
  18. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..เรื่องของพระเกษรีฤาษี ตอนที่ ๕ เยี่ยมชมนาคพิภพ..

    ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์นั้นมีดอกปาริชาติเป็นดอกไม้ประจำสวรรค์ชั้นนี้ ส่วนนาคพิภพนั้น มีดอกมธุรชาติ เป็นดอกไม้ประจำนาคพิภพ พญาโภคนาคราชได้นำมาถวายแด่ท่านเกษรีฤาษี เพื่อเป็นแสดงความเคารพเลื่อมใส และกล่าวว่า......

    “กระผมเห็นพระคุณเจ้าครั้งแรก มีความเลื่อมใสศรัทธาพระคุณเจ้าอย่างยิ่ง หากพระคุณเจ้ามิได้รังเกียจกระผมขอฝากโอรสทั้ง ๓ เดินทางไปเพื่ออาราธนาพระสมณะทั้ง ๑๐๐๐ องค์จะเป็นการเหมาะสมกว่าขอรับ และอีกประการกระผมของฝากโอรสทั้ง ๓ เพื่อเป็นศิษย์ของพระอาจารย์ได้หรือไม่ขอรับ”

    ท่านเกษรีฤาษีได้กล่าวว่า “ท้าวโภคนาคราช มิใช่เรารังเกียจโอรสทั้ง ๓ เรายังเป็นผู้ฝึกอยู่ กาลนี้คงไม่เหมาะที่เราจะมีศิษย์ เนื่องจากเราต้องอุปัฏฐากพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้ง ๑๐๐๐ รูป และเรายังเป็นผู้ฝึกอยู่ หากมีวาสนาต่อกันคงได้พบกันอีกนะ ถึงเวลานั้นเราคงไม่ปฏิเสธท่านเป็นแน่ กาลนี้เราขอรับดอกไม้แห่งนาคพิภพ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ถือว่า เครื่องสักการะนี้ เป็นการบูชาครู”

    ในใจของท่านเกษรีฤาษีนั้น เห็นความสำคัญของการอุปัฏฐากพระปัจเจกพุทธเจ้าเป็นหลัก แม้กระนั้น พญาโภคนาคราช มีความเลื่อมใสศรัทธาต่อเกษรีฤาษีเป็นอย่างมาก ก็ได้กล่าวเชื้อเชิญแก่เกษรีฤาษีว่า...

    “เรื่องของรักขมาณวิกา ขณะนี้นางได้อยู่ในช่วงเข้าสมาบัติ เนื่องจากนางเพิ่งจุติได้เพียง ๑๕ วันในวันพรุ่งนี้นางจึงออกจากสมาบัติตามธรรมเนียมปฏิบัติของเราชาวนาคพิภพขอรับ พระคุณเจ้าคงต้องพักที่นี่ก่อนขอรับ”

    ท่านเกษรีฤาษีนั้น ทราบว่า คงต้องรอมอบของให้แก่รักขมาณวิกา จึงได้รับปาก พญาโภคนาคราชมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง จึงกล่าวว่า

    “ก่อนจะรับเครื่องสักการะของกระผม และบริวาร กระผมขอนำท่านชมเมืองก่อนนะขอรับ”

    ท่านเกษรีฤาษีมิได้ปฏิเสธ พญาโภคนาคราช และพระโอรสทั้งสาม คือ เจ้าชายอัคคีตาปะนาคราช เจ้าชายอัครนาคราช และเจ้าชายสิทธิสัตตนาคราชได้พาชมเมืองสัตตรัตนนคร ส่วนพระธิดาอีก ๔ องค์ได้เตรียมที่พำนัก และถวายผลไม้ และน้ำปานะแก่พระฤาษี

    หลังจากได้เยี่ยมชมนาคพิภพทั่วทั้งพระนครแล้ว สถานที่หนึ่ง พญาโภคนาคราชไม่ได้เปิดให้มนุษย์ผู้ใดได้ชม คือ คลังรัตนมณี ด้วยความเคารพศรัทธา ทำให้เกษรีฤาษีมีโอกาสได้เห็นคลังรัตนมณีนั้น เต็มไปด้วยของกายสิทธิ์ต่าง ๆ มากมาย บางชิ้นมีอายุนานมากจนนับไม่ได้ สิ่งที่ท่านประทับใจมาก คือ ดวงแก้วมณีหลายขนาดวางเรียงราย อย่างเป็นระเบียบ จึงได้ถามพญาโภคนาคราชว่า

    “เหตุใดแก้วรัตนมณีเหล่านี้ จึงอยู่ที่เมืองสัตตรัตนนคร มีอยู่ที่อื่นหรือไม่”

    พญาโภคนาคราชได้กล่าวว่า “ ข้าฯ แต่พระคุณเจ้า ที่แห่งนี้เป็นคลังเก็บสมบัติแห่งพระเจ้าจักรพรรดิภาคพื้นน้ำขอรับ ส่วนภาคพื้นดินจะมีฝ่ายยักษ์เป็นผู้เก็บรักษา พร้อมกับแก้วมณีแห่งพระเจ้าจักรพรรดิขอรับ กระผมเคยได้เยี่ยมชมเช่นท่านมาก่อน จึงมีความปรารถนาที่จะเป็นผู้ดูแลรักษาทรัพย์เหล่านั้นในยุคใดยุคหนึ่ง และความปรารถนาของกระผมก็สำเร็จแล้วขอรับ”

    ท่านเกษรีฤาษีจึงเกิดความสงสัย จึงถามว่า ท่านมิเบื่อหน่ายการเป็นพญานาคดอกหรือ" พญาโภคนาคราชกล่าวว่า


    “ความจริงกระผมก็อยากจะเคลื่อนภพขอรับ แต่ติดที่ว่า ต้องมีผู้ที่มีคุณสมบัติเช่นเดียวกันมารับงานต่อ จึงจะสามารถพ้นจากตำแหน่งนี้ได้ เป็นเหตุให้กระผมต้องรอท่านผู้นั้นอยู่ขอรับ” ท่านเกษรีฤาษีฟังแล้วก็รำพึงว่า

    “เออหนอ..แม้มีความปรารถนายิ่งใหญ่เพียงใดก็ยังมีทุกข์ หากอธิษฐานไม่ล้อมกรอบให้ดี แม้สำเร็จความปรารถนานั้นแล้ว ก็ยังไม่หมดทุกข์อยู่ร่ำไป แล้วความปรารถนาใดที่จะทำให้เราหมดทุกข์ได้ พระอาจารย์สมณะกล่าวว่า เราจะได้พบในอนาคต หากเป็นเช่นนั้น เราปรารถนาที่จะเจริญอิทธิบาท ๔ เพื่อให้รู้ความปรารถนานั้นให้ได้” (ยังมีต่อ...)

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆท่านด้วยค่ะ

    Numsai


    ปล. ขออนุญาตเท่านี้ก่อนค่ะ โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2012
  19. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ...ขออนุโมทนาบุญกับคุณ mooom ด้วยค่ะ...

    ขออนุโมทนาบุญกับคุณ mooom ด้วยค่ะ ขอให้สำเร็จตามความปรารถนาค่ะ

    Numsai
     
  20. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..เรื่องของพระเกษรีฤาษี ตอนที่ ๖ พบปุญญมาณวิกา...

    ___0022.jpg

    เกษรีฤาษีได้รำพึงเช่นนั้นแล้ว จึงกล่าวแก่พญาโภคนาคราชว่า “ในเมืองสัตตรัตนนครนี้ มีสถานที่ใดที่มีสามารถเจริญภาวนาได้ดีหรือไม่” พญาโภคนาคราชกล่าวว่า “มีขอรับ เป็นที่ที่กระผมและโอรส-ธิดาใช้เข้าฌานสมาบัติ สถานที่นี้แม้แต่นาคบริวารก็ไม่สามารถเข้าไปได้”

    ท่านเกษรีฤาษีกล่าวว่า “มีสถานที่อื่นหรือไม่ที่สามารถอนุญาตบริวารของท่าน หรือนาคจากเมืองอื่นมาได้ แต่เป็นที่สงัดจากสิ่งรบกวน” พญาโภคนาคราชนึกขึ้นได้ว่า มีถ้ำใต้น้ำแห่งหนึ่งที่พระฤาษีสามารถไปมาได้สะดวก และนาคทั้งหลายสามารถเข้าไปได้ จึงกล่าวว่า...


    “มีขอรับ เป็นถ้ำใต้น้ำที่แห่งนี้ จะเป็นที่บำเพ็ญเพียร และร่วมตัวกันของเราชาวนาคพิภพ เมื่อมีบุญใหญ่ ห่างออกจากนี้ไป ๑ โยชน์ อยู่ในเขตความดูแลของกระผมขอรับ กระผมจะพาท่านไปเองขอรับ ”

    เมื่อกล่าวจบพญาโภคนาคราชจึงได้พาท่านเกษรีฤาษีไปยังถ้ำใต้น้ำทันที เมื่อไปถึงพระฤาษีมีความชอบใจในสถานที่อันเงียบสงบนั้น จึงกล่าวว่า...

    ท่านอนุญาตให้เรามายังสถานที่นี้ได้หรอกหรือ”พญาโภคนาคราชกล่าวว่า “ได้ขอรับ กระผมยกสถานที่นี้ให้เป็นสิทธิ์ของพระคุณเจ้า หากท่านประสงค์จะมาเมื่อใดก็ได้ กาลต่อไปกระผมจะให้บริวารมาดูแลคุ้มครองท่านให้ปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวงขอรับ”

    ท่านเกษรีฤาษีกล่าวว่า “เราขอบใจในความเอื้อเฟื้อของท่าน เราขอทำกิจบางอย่างระยะหนึ่ง สำเร็จแล้วจะบอกกล่าวแก่ท่าน”

    พญาโภคนาคราชทราบว่า ท่านเกษรีฤาษีประสงค์จะปลีกวิเวกจึงไม่ได้รบกวน ตรัสแก่ปทมนาคราช ซึ่งเป็นนาคองครักษ์ว่า “หากพระคุณเจ้าออกจากสมาธิแล้วให้ไปตามเราทันที”

    จากนั้นท่านจึงปลีกตัวไป ท่านเกษรีฤาษีได้กล่าวแก่ปทมนาคราช และบริวาร ว่า...

    “ขอท่านช่วยดูแลร่างของเราให้ดี เราจะตั้งจิตเจริญอิทธิบาท ๔ เพื่อทรงขันธ์ ๕ นี้ให้ยืนยาวต่อไป เพื่อประโยชน์แก่ชาวมนุษย์ และชาวนาคพิภพต่อไป”

    เกษรีฤาษีได้ฝึกตามหลักวิชาที่พระฤาษีทั้ง ๕ ได้สอนไว้ เพื่อทรงอายุขัยให้ยืนยาว โดยตั้งจิตทรงขันธ์ไว้ตามอายุของท่านขณะนั้น (หากเทียบอายุขัยของมนุษย์ปัจจุบัน คือวัย ๓๕- ๔๐ ปี) ท่านเข้าสมาบัติเป็นเวลา ๗ วันมนุษย์ เมื่อออกสมาบัติปทมนาคราชได้กราบทูลพญาโภคนาคราชทันที พญาโภคนาคราช พระมเหสี และพระโอรส-ธิดา ได้เตรียมผลไม้ทิพย์ และน้ำทิพย์ในนาคพิภพ มาถวายแก่เกษรีฤาษี

    กาลนั้น เกษรีฤาษีได้พบกับปุญญมาณวิกา (หรือเรียกว่า รักขมาณวิกา ในภายหลัง) ธิดาองค์เล็กของพญาโภคนาคราชนั้น จุติมาจากพรหมโลก เมื่อจุติมาแล้ว นาคพิภพเกิดความสว่างไสว พร้อมดอกมธุรชาติบังเกิดขึ้น ส่งกลิ่นหอมอบอวล ทิพยสมบัติต่าง ๆ ก็บังเกิดขึ้นมากมาย รวมทั้งดวงแก้วมณี ๑ คู่ พร้อมกับวิมานรัตนทั้ง ๗ พญาโภคนาคราช จึงตั้งชื่อให้นางว่า “ปุญญมาณวิกา”

    ด้วยเห็นบุญญาธิการ พญาโภคนาคราชจึงลืมให้โหรประจำเมืองตรวจดวงชะตาของนางว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร

    เมื่อเกษรีฤาษีได้พบปุญญมาณวิกาแล้ว ได้มอบผ้าภักษภูษาแก่นาง และกล่าวแก่นางว่า “พระอาจารย์ของเราให้เรานำสิ่งนี้มามอบให้นาง เมื่อรับแล้วนางจะรู้เรื่องราวทุกอย่าง” ท่านหันมากล่าวแก่พญาโภคนาคราชว่า เราคงต้องไปแล้ว เพื่อไปอาราธนาพระสมณทั้ง ๑๐๐๐ รูปมาที่นี่”

    เมื่อกล่าวแล้วท่านก็อธิษฐานจิตหายไปทันที
    (ยังมีต่อ...)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2012
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...