ธรรมชาติคืออะไร?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย วสุธรรม, 29 ตุลาคม 2012.

  1. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    [​IMG]
    ธรรมชาติคืออะไร ? เป็นหนึ่งในคำถามที่อาจารย์ยงยุทธ จรรยารักษ์ ได้ถามขึ้นกับพวกเราในวันอบรมเจ้าหน้าที่มูลนิธิสืบนาคะเสถียร

    ในขณะนั้นพวกเราตอบกันไปต่างๆ นานา ตามที่ได้เรียนมาบ้าง ตามความทรงจำบ้าง หรือตามที่คิดบ้าง แต่ก็ไม่ได้รับคำเอ่ยจากอาจารย์เลยว่าถูกหรือผิด

    จนเมื่อพวกเราตอบกันเสร็จ รอยยิ้มละไมก็ปรากฎบนใบหน้าของอาจารย์พร้อมกับคำเฉลย

    ธรรมชาติประกอบไปด้วย 2 คำ นั่นคือ ธรรมะ กับ ชาตะ ธรรมะ คือความจริง คือสิ่งที่ปรากฏจับต้องได้ รับรู้ได้ อย่างที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านทรงตรัสรู้ และนำมาสั่งสอนพวกเราก็คือการรู้ซึ่งความจริง ก็คือ ธรรมะ ส่วนชาตะคือ การเกิด ซึ่งเป็นวัฏจักร เมื่อมีเกิดก็ต้องมีดับ มีตาย ใบไม้ก็ต้องร่วงนั่นคือวัฏจักร ดังนั้นธรรมชาติก็คือ วิถีหรือวัฏจักรของความจริงที่เกิดขึ้น

    นั่นเป็นครั้งแรกของพวกเราหลายคน ที่ได้ทราบความหมายที่แท้จริงของคำว่า ธรรมชาติ

    ผู้ช่วยศาสตราจารย์ยงยุทธ จรรยารักษ์ อดีตอาจารย์ประจำภาควิชาพฤกษศาตร์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แม้เกษียณอายุมาเป็นเวลากว่า 7 ปีแล้ว ท่านก็ยังคงนั่งทำงานอยู่ที่ห้องพักอาจารย์ที่ภาควิชาพฤกษศาสตร์มาโดยตลอด และเป็นที่ทราบกันดีในหมู่นิสิตเก่าคณะวิทยาศาสตร์ว่าอาจารย์ยงยุทธ มีวิธีสอนต่างกับอาจารย์ท่านอื่นๆ ในคณะ ด้วยการตั้งคำถามและปล่อยให้คิด พร้อมกับให้คำตอบที่นิสิตส่วนใหญ่นึกไม่ถึง

    อาจารย์ได้ให้เหตุผลในการสอนของท่านว่า

    แนวความคิดในการสอนมีพื้นฐานจากการ เรียนรู้โดยธรรมชาติของมนุษย์ เพราะธรรมชาติของมนุษย์ที่เหนือกว่าสัตว์โลกชนิดอื่น คือเป็นสัตว์ที่ขี้สงสัย ความขี้สงสัยจะเห็นได้จากทุกครั้งที่มีการค้นคว้า หรือค้นพบจุดเริ่มต้นเกิดมาจากความขี้สงสัย จากจินตนาการเป็นหลัก เพราะฉะนั้นโดยวิธีการสอนของอาจารย์ก็คือวิธีธรรมชาติปกติ ที่ในธรรมชาติชีวิตทุกชนิดก็สอนกันอย่างนี้

    ที่ไม่มีหนังสือเรียนในห้องเรียน เพราะว่าหนังสือคือเอกสารอ้างอิงว่าใครคิดเหมือนกับเราบ้าง เราคิดเหมือนกับใครบ้าง หนังสือไม่ใช่ต้นแบบของการเรียน แต่มันเป็นต้นแบบของการ “เลียน” ถ้าจะสอนให้เลียนแบบ เราก็ต้องเอาแบบของเขามา แล้วก็เลียนแบบตามเขาไป ซึ่งเราก็ไม่เป็นตัวของเราเอง แต่ถ้าหากว่าเราจะสอนให้เรียนรู้ เราก็ต้องสอนให้คิด เพราะว่าในกระบวนการทางสมองของเรา มันมีอยู่ 2 อย่างคือ ความคิดกับความจำ

    "ความคิดเป็นตัวสร้างปัญญา ส่วนความจำสร้างความรู้ ซึ่งความรู้จะเป็นกรงขังปัญญา การสอนทุกวันนี้ ส่วนใหญ่สอนเพื่อให้ความรู้ นักเรียนก็ต้องใช้กระบวนการจำ จะได้จำความรู้ไว้ให้ได้ แต่อาจารย์ยงยุทธมักบอกว่าความรู้เรียนเองก็ได้ เป็นถึงมนุษย์ซึ่งเป็นสัตว์ประเสริฐแล้ว ย่อมมีปัญญาที่จะเปิดอ่านเองได้แล้ว"

    "ผมต้องการสร้างคน เราไม่ต้องการสร้างหุ่นยนต์ คนมีอารมณ์และวิเคราะห์เป็น มันไม่ได้เอาแค่ความจำอย่างเดียว แล้วก็ดึงเอาความจำกลับมาใช้เหมือนเดิม แต่หากเกิดปัญญาแล้วจึงเกิดความรู้แล้วความรู้จะดึงเข้าสู่กระบวนการจำ จากหน่วยความจำมันจะเอาจากหน่วยเนี้ย ขึ้นไปใช้อีกที แล้วไปวิเคราะห์ร่วม นั่นคือความสามารถของมนุษย์ พื้นฐานนี้นำสามารถเอาไปใช้ได้ตลอดชีวิต เพราะว่าวิชาของผมสร้างความคิด"

    ด้วยเหตุนี้มูลนิธิสืบนาคะเสถียร จึงได้เชิญอาจารย์ยงยุทธ จรรยารักษ์ มาสร้างความคิดให้กับพวกเราอีกครั้ง ด้วยการ "คิด" ไปกับภาพยนต์เหนือจิตนาการ Avatar: อวตาร ในงาน 20 วัน 20 ปี สืบ นาคะเสถียร วันที่ 8 กันยายน 2553 เวลา 18.00 น. ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

    โดยในการพูดคุยครั้งนี้ จะเปิดโอกาสให้ผู้ฟังได้ซักถามและพูดคุยกับอาจารย์อย่างเต็มที่
    ที่มา
    ธรรมชาติคืออะไร?
    หมายเหตุ เห็นว่ามีประโชน์ดี จึงคัดลอกมาเพื่ออ่านและศึกษาคำว่าธรรมชาติกัน:cool:
     
  2. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220

    ธรรมะ + ชาติ =..............
     
  3. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220

    ชาติ + ธรรมะ =..............
     
  4. toypo

    toypo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2011
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +131
    ธรรมชาติ ในความคิดส่วนตัว
    คือ ความเป็นไปเช่นนั้น
    พระพุทธเจ้าจะบังเกิดหรือไม่มาบังเกิด
    การเกิดแก่เจ็บตายมันมีหยู่แล้ว มันเป็นไปเช่นนั้นเอง
    ใบไม้ใหวเพราะต้องลมหากไม่มีลมมันก็หยุกใหว
    มันเป็นไปเช่นนั้นเอง คนเราเกิดมาแล้วแก่แล้วจ็บแล้วตาย
    มันเป็นเช่นนั้นเอง การเกิดขึ้น ตั้งหยู่ แล้วดับไป ผมจะเห็นหรือไม่เห็น
    รู้หรือไม่รู้ การเกิดขึ้น ตั้งหยู่ แล้วดับไปจะคงความมีหยู่ มันเป็นเช่นนั้นเอง
    เพราะ ทุกสิ่งคือ ธรรมชาติทีเป็นไปเช่นนั้นเอง
    การผิดธรรมชาติ ก็เป็นธรรมชาติอีกแบบหนึ่ง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 30 ตุลาคม 2012
  5. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    “ชาติ” หมายถึง ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในทางวัฒนธรรม และมีความผูกพันกันในทางสายโลหิต เผ่าพันธุ์ ภาษา ศาสนา วัฒนธรรม ตลอดจนมีประสบการณ์ทางประวัติศาสตร์ร่วมกัน

    แหล่งที่มา ตอนที่ 1

    ชาติ” หมายถึง ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในทางวัฒนธรรม และมีความผูกพันกันในทางสายโลหิต เผ่าพันธุ์ ภาษา ศาสนา วัฒนธรรม ตลอดจนมีประสบการณ์ทางประวัติศาสตร์ร่วมกัน
     
  6. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ธรรม คือ ทุกสิ่งที่ปรากฎ รู้สัมผัส ด้วยใจแท้ดั่งเดิม
    (ใจที่ไม่มีการฉาบด้วย กาม หรือ พลัง ใดๆ)

    การเข้าถึงธรรมชาติ ต้องทำอย่างไร?
     
  7. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    ธรรมชาติคืออะไร

    ตอบ ธรรม คือ ปรากฏการณ์ที่ปรากฏอยู่จริง ไม่เป็นไปตามความปรุงแต่งของผู้ใด ชาติ คือ ปัจจุบันที่ตั้งอยู่ (เกิดขึ้นคืออดีต ดับไปคืออนาคต)

    ธรรมชาติ คือ ปรากฏการณ์ที่มีอยู่จริงในปัจจุบันขณะ ส่วน ธรรม-ชาติ คือ ในปัจจุบันขณะ ยังมีอยู่จริง และย่อมดับไปในอนาคต
     
  8. รอยตะวัน

    รอยตะวัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +116
    ธรรมะ - ความจริง
    ชาติ - ที่ตั้ง สามารถหมายถึง ที่ตั้งของตัวเรา(การเกิด?) หรือที่ตั้งทางภูมิศาสตร์

    ธรรมะ + ชาติ = 1. สภาพความเป็นจริง คือ ตัวตน/สิ่งที่เป็นของตัวเราและเป็นอยู่ในตัวเรา อาจกล่าวได้ว่า คือ อัตตา? ขันธ์ ? สังขาร? ฯลฯ เมื่อรวมแล้ว = วัฎฎะสังสาร
    2. สภาพความเป็นจริงทางภูมิศาสตร์ เช่น ความสูงต่ำของพื้นที่ สิ่งที่ปรากฎให้เห็นทางกายภาพ ดิน น้ำ ป่าไม้ และการเกิดปรากฎการณ์ต่างๆ เมื่อรวมแล้ว = วัฎจักรของธรรมชาติ

    ชาติ + ธรรม = 1. ที่ตั้งของธรรมะหรือลักษณะของธรรมะในตัวเราในช่วงเวลาหนึ่งๆ
    2. อัตลักษณ์คำขวัญการเห็นคุณค่าบางอย่างที่มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของชนชาติ
     
  9. รอยตะวัน

    รอยตะวัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +116
    การฝึกพลังจิตตามคำสอนของพระพุทธเจ้า

    การฝึกพลังจิตตามคำสอนของพระพุทธเจ้า



    ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับพลังจิตและพลังชีวิต
    พลัง ชีวิต คือ ดวงจิต นั่นเอง ลองคิดดูว่า เหตุใดรถยนต์ไม่สามารถขยับเองได้ ทั้งๆ ที่เติมน้ำมันมากมาย พลังจากน้ำมันไม่อาจทำให้รถยนต์เคลื่อนเองได้ เพราะพลังนั้นไม่ใช่พลังชีวิต ในขณะที่ไวรัสสามารถเคลื่อนที่เองได้ เหตุใด เพราะไวรัสตัวเล็กนั้น มีพลังชีวิตนั่นเอง


    พลัง ชีวิต คือ พลังงานรูปหนึ่ง มีคลื่นความถี่เฉพาะ สามารถตรวจวัดได้หลายวิธีด้วยกัน เช่น การตรวจคลื่นสมอง, การตรวจดูด้วยการถ่ายภาพออร่า, กล้องถ่ายภาพวิญญาณและพลังงานพิเศษ เป็นต้น พลังชีวิตนี้ เรียกว่า “ดวงจิต” เพราะปกติจะมีลักษณะกลม เหมือน อะตอม พลังชีวิต นี้ประกอบด้วย

    1. ดวงจิต คือ พลังชีวิตที่แท้จริง เป็นที่บันทึกกรรมต่างๆ ที่จิตทำไว้ทั้งหมด

    2. ปราณ คือ พลังจักรวาล ที่จิตดึงมาก่อเป็นวิญญาณเพื่อใช้ครอบครองร่างใดๆ

    3. พลังจักรวาล คือ พลังธรรมชาติ ในรูปแบบที่สอดคล้องกับที่ดวงจิตจะดึงมาใช้ได้

    4. พลังธรรมชาติ คือ พลังธรรมชาติในรูปแบบที่จิตไม่สามารถดึงมาใช้ได้ เช่น น้ำมัน

    พลังจิตคืออะไร
    จิต ก็คือ พลังงานอยู่ในตัวอยู่แล้ว ดังนี้ จึงมีพลังในตัวเอง การฝึกพลังจิตจึงไม่มุ่งเน้นไปที่การเพิ่มกำลังจิตเพียงอย่างเดียว แต่หมายถึง การใช้จิตที่มีพลังนั้น ทำสิ่งต่างๆ ได้อีกด้วย


    นอก จากนี้ จิตยังรับรู้สิ่งต่างๆ ได้แม้นไม่มีร่างกาย จิตนั้น เข้าไปรับรู้เรื่องของสมองและร่างกาย โดยอาศัยการรับกระแสประสาทของสมอง เป็นต้น


    ดังนี้ แม้นจิตไม่มีร่างกาย ก็สามารถรับรู้กระแสประสาท, ประจุไฟฟ้าต่างๆ และพลังงานในรูปแบบอื่นๆ ได้อีกเช่นเดียวกัน ดังนี้ จิตของคนหนึ่ง ก็สามารถเข้าไปสู่สมองและร่างกายของบุคคลอื่น และรับรู้ และสั่งการบุคคลอื่นได้อีกด้วย เรียกว่า "การสะกดจิต" นั่นเอง เพราะว่าจิตนั้นมีทั้งพลัง เคลื่อนที่ได้เอง และรับรู้ พร้อมทั้งสั่งการได้หมดในตัวเอง
    พลังปราณคืออะไร

    พลังปราณ คือ พลังจักรวาลที่จิตนำมาใช้ครอบครองร่างนั้นๆ โดยสร้างรูปร่างให้คล้ายกับร่างที่ครอง ที่เรียกว่า “วิญญาณ” นั่นเอง ดังนี้ การฝึกพลังปราณ ก็คือ การฝึกให้วิญญาณนั้นตื่นตัว ครองร่างนั้นๆ ดูแลรักษาส่วนต่างๆ ของร่างนั้นๆ และควบคุมใช้งานร่างนั้นๆ ได้อย่างสมบูรณ์นั่นเอง

    โดย พลังปราณนี้ สามารถถ่ายเทให้กันและกันได้ เช่น การบำบัดด้วยออร่า ซึ่งก็เหมือนการใช้พลังปราณผ่านทางฝ่ามือรักษาโรค ในทางการแพทย์แบบจีน หรือแบบสมัยใหม่ก็ตาม ; พลังปราณนี้ จะเห็นเป็นดวงเมื่ออยู่ร่วมกับดวงจิต โดยจะปกป้องอยู่รอบดวงจิตอีกที แล้วฉายแสงออกรอบทิศเป็นรัศมี เรียกว่า “ฉัพพรรณรังสี” ปราณนี้สามารถบ่งบอกโรคภัยต่างๆ ในร่างกายได้ โดยการดูสีต่างๆ ที่ปรากฏออกมา ก็สามารถรู้ได้ว่าบาดเจ็บในส่วนใดของร่างกาย ทั้งนี้ยังสามารถรับรู้ได้ด้วยการสัมผัสและประสาทสัมผัสอื่นๆ การรักษาโรคด้วยปราณ จึงเป็นทางเลือกอีกวิธีหนึ่ง<!-- google_ad_section_end -->
    พลังจักรวาลคืออะไร
    พลังจักรวาล คือ พลังธรรมชาติที่จิตสามารถดึงมาใช้ได้ ปกติจะอยู่ในรูปคลื่นความถี่ต่างๆ

    ดัง นี้ การฝึกจิตควบคู่กับการหมุนขันแบบทิเบต, การเคาะระฆัง, การใช้ซ่อมเสียงบำบัด จึงสามารถกระตุ้นพลังจิตได้ คือ จิตเปิดรับพลังจักรวาล เหล่านี้มาแล้ว ใช้ให้เป็นประโยชน์ในรูปต่างๆ เช่น ฆ่าเชื้อโรคแปลกแปลอมที่เข้ามาในร่างกาย เชื้อโรคแปลกปลอมนี้ มักไม่คุ้นเคยกับพลังปราณ หรือพลังคลื่นจักรวาล ที่มีความบริสุทธิ์

    เพราะ เชื้อโรคชั้นต่ำ เป็นดวงจิตที่เกิดจากคนชั้นต่ำ ดวงจิตที่เลวทราม เมื่อพบคลื่นความบริสุทธิ์ที่แตกต่างจากตนมาก จะได้รับผลกระทบจนอยู่อาศัยไม่ได้ และตายลงในที่สุด

    ดังนี้ พลังจักรวาล จึงช่วยรักษาโรคได้ในบางกรณี พลังจักรวาลนี้ บางท่านจะเรียกว่า “ชี่ กง” ก็มี แต่บางท่านไม่จัด “ชี่กง” (หรือ ไทเก็ก หรือ พลังธรรมจักร) เป็นพลังจักรวาล สำหรับผู้ฝึกพลังจักรวาลโดยตรง จะเปิดรับพลังนี้ผ่านทางหัวด้านบน ที่เรียกว่า "จักระเจ็ด" ซึ่งการเปิดจักระนี้ จำต้องใช้พลังปราณที่สูงในการเปิด อาจเปิดโดยมีผู้ช่วยเปิดซึ่งมีพลังสูง หรืออาจเปิดเองก็ได้

    และ เมื่อเปิดจักระนี้แล้ว ส่งผลให้ดวงจิตอื่นๆ เข้ามาสู่สมองได้ง่ายด้วย ดังนี้ บางท่าน เมื่อจักระเจ็ด ถูกเปิดจะมีดวงวิญญาณอื่นๆ เข้ามาแทรกได้ ที่เรียกว่า “ผีเข้า” หรือ “ทรงเทพ” ก็สามารถพบได้เช่นกัน และที่หลอกลวงว่า เทพเข้าร่าง ก็มีเช่นกัน

    โดย ระยะแรกๆ ที่ดวงจิตอื่นเข้ามาร่วมครอบงำร่างกาย ดวงจิตสองดวง จะฝืนและยื้อกัน มีอาการ เช่น สั่นเทา, ควบคุมร่างกายได้ไม่เต็มที่, ยื้อกันไปมา แต่เมื่อดวงจิตเจ้าของร่าง ยอมให้ดวงจิตจร ที่เข้ามาอาศัยร่างแล้ว อาการนั้นก็สงบลง

    ากนั้น ดวงจิตจรที่เข้ามาร่วมอาศัยร่าง มักจะไม่อยากออกจากร่าง เพราะการได้ร่างกายมนุษย์นั้น ยากเย็นยิ่งนัก ดวงจิตจร ที่เข้ามาเหล่านี้ มีทั้งที่ดีและร้าย ส่วนใหญ่จะพบดวงจิตร้ายๆ ก่อน คือ ดวงจิตที่เป็นเจ้ากรรมนายเวร มากลั่นแกล้ง และขอส่วนบุญ เป็นต้น

    บางท่านโชคดี เมื่อดวงจิตจรเข้ามาแล้ว มีดวงจิตที่ดีเข้ามาช่วยได้ทันท่วงที เช่น เทพต่างๆ ที่ตนนับถือบูชามาช่วยไว้ ก่อนที่จะถูกดวงจิตร้ายๆ ดวงอื่นครอบงำ ; ทว่า ผู้ฝึกจิต พึงฝึกจิตเพื่อรู้จักและควบคุมพลังจักรวาลต่างๆ เหล่านี้ให้ได้ดี ก่อนเปิดจิต <!-- google_ad_section_end -->__________________​
    ที่มา รวบรวมโดยคุณ nouk ใน พญานาคกับอดีตที่ผ่านมาหน้า 52
    <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ตุลาคม 2012
  10. รอยตะวัน

    รอยตะวัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +116
    แสงแรกแห่งการก่อกำเนิด

    เมื่อครั้งดาวเคราะห์ดวงนี้ถือกำเนิดขึ้นยังไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆบนดาวเคราะห์นี้จนกระทั่งได้มีแสง/พลังงานสาดส่องเข้ามา เกิดความเปลี่ยนแปลงต่างๆ เกิดชีวิตและเกิดมนุษย์
    มนุษย์ได้อยู่กับธรรมชาติ ลองผิดลองถูกหลายอย่าง พวกเขามีความรู้สึกร้อน หนาว หิวโหว พวกเขาได้ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างเต็มที่ เมื่อประชากรจำนวนมากขึ้น พวกเขาถูกนำเข้าสู่บทเรียนของการแบ่งปันและการแก่งแย่ง ในบางครั้งพวกเขาดีกันเป็นพันธมิตรกัน บางครั้งก็ทะเลาะกัน- เกิดสงคราม จึงมีแนวทางในการประนีประนอมโดยมีศาสนาเป็นกติตาการอยู่ร่วมกันมีรางวัลและมีบทลงโทษ
    ศาสนาได้สอนการใช้ชีวิตให้แก่มนุษย์เพื่อให้ไม่มีการเบียดเบียนหรือเอารัดเอาเปรียบผู้ที่แข็งแรงน้อยกว่า หรืออ่อนแอกว่า หรือ มีโอกาสเข้าถึงน้อยกว่า ตามกติตากฏของการกระทำนั้นๆ หรือ "กฎแห่งกรรม" จึงวนเวียนว่ายตายเกิดตามกฎนี้
    หากจะพ้นกฎนี้ได้ก็ต้องได้รับการอภัยอโหสิกรรมจากผู้ได้รับผลกระทบของการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหาย หรือมีการทำความดีทดแทน ประพฤติตนตามแนวทางศาสนา เป็นต้น
    การเกิดเป็นมนุษย์หรือสิ่งต่างๆอยู่ภายใต้กติกาที่เรียกว่าผลบุญและผลบาปหากไม่มีทุนชีวิตก็ต้องไปกู้ยืมเขาบนบานศาลกล่าวใช้หนี้กรรมกันอีก เมื่อไหร่เล่าจึงจะได้เลิกเกิด แล้วกลับไปสู่ภาวะปกติธรรมชาติเล่า
     
  11. kimberly

    kimberly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,627
    ค่าพลัง:
    +5,233
    ธรรมชาติ คือ ความจริง..เจ้าของทุกสิ่ง (ยิ่งใหญ่ที่สุด)
     
  12. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    god , and

    god of god
     
  13. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    ธรรมชาติ = nature, wildlife
    ธรรมะ =Dharma.
    ธรรม = Fair
    :cool:
     
  14. blackangel

    blackangel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,750
    ค่าพลัง:
    +1,919
    ธรรมชาติ = ธรรมดา
     
  15. KRIDROCKER

    KRIDROCKER Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +95
    เหมือนขวดขุ่นที่มีทรายอยู่ข้างใน
    ตอนนี้รับรู้ได้ว่ามีทรายอยู่
    แต่ยังมองไม่ค่อยจะเห็น
    และไม่สามารถที่จะนับเม็ดทรายได้
    แต่คงต้องมีสักวันที่คงจะนับได้
    จนสิ้นหายสงสัย
     

แชร์หน้านี้

Loading...