คุณคิดว่านิยตโพธิสัตว์ มีเกิน 10 พระองค์หรือไม่ อย่างไร

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย Chumphon Chanjit, 28 ตุลาคม 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. bosslnwskr10

    bosslnwskr10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,912
    ค่าพลัง:
    +1,512

    ลุงเล่นพระเครื่องด้วยเหรอครับ -.-
    ขอโทที่ถามเรื่องส่วนตัวนะครับ
     
  2. civicnoi

    civicnoi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +221
    ขออนุโมทนาบุญ กับคุณบุญทรงพระเครื่อง ด้วยครับ
    ผมอ่านแล้วเข้าใจชัดเจนดีครับ
     
  3. choksila58

    choksila58 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    631
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,059
    ..เอาเถอะท่านลุง พูดไปเดี๋ยวจะยาวยังไงท่านลุงก็อย่าจุดเทียนส่องพระหรือพูดธรรมะในวงเหล้ามันเข้ากันไม่ได้ บัณฑิตต้องทำตนให้เหมือนกลอง เค้าตีถึงจะดังหากเค้าไม่ตีเสือกดังมันใช้ไม่ได้ บางอย่างต้องปล่อยให้เค้าเรียนรู้และเข้าใจเอง.. สาธุ ๆ ผู้มีเจตนาดีทั้งหลาย
     
  4. Nuthsunti

    Nuthsunti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +328
    หากเป็นการ คิดเล่นๆ ไม่ได้เคร่งเครียด เอาเป็นเอาตาย กับเรื่องนี้ ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหามากมายอะไร
    เช่น คิดว่า โลกธาตุที่เรา อาศัยอยู่ พระพุทธเจ้าทรง พยากรณ์นิยตโพธิสัตว์ไว้ 10 พระองค์
    แล้วลองจินตนาการ ว่า โลกธาตุ อื่น อีก หมื่นโลกธาตุ มีนิยตโพธิสัตว์ อีก โลกธาตุ ละ ประมาณ 10 พระองค์
    คูณกัน แล้ว หมื่นโลกธาตุ ก็อาจ มีนิยตโพธิสัตว์ 100,000 พระองค์ ก็เป็นได้
    แต่อย่าไป เคร่งเครียด ว่าจะต้องเป็นจริง ตามนี้
    แค่คิดเล่นๆ เพื่อให้ บันเทิงในธรรม ผ่อนคลายยามว่างจากการสร้างบารมี
     
  5. เตหิณรัตน์

    เตหิณรัตน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +476
    ขออธิบายว่า พระโพธิสัตว์บารมีเต็ม เป็นแสนองค์

    บารมี แปลว่า "กำลังใจที่เต็ม"
    ผมเข้าใจแบบนี้นะ เพราะเคยฟังหลวงปู่องค์หนึ่ง(ขอโทษด้วยเพราะจำไม่ได้ว่าใคร)พูดถึงพระโพธิสัตว์ที่บารมีเต็มไว้ว่า พระโพธิสัตว์ ต้องบำเพ็ญบารมีให้ครบ 20 อสงไขยกับเศษอีกแสนมหากัปป์(ปัญญาธิกะ), 40 อสงไขยกับเศษอีกแสนมหากัปป์(ศรัทธาธิกะ),80 อสงไขยกับเศษอีกแสนมหากัปป์(วิริยะธิกะ) คือที่ฟังและจำได้ ท่านบอกว่า บางองค์บารมีเต็มแล้ว(กำลังใจเต็ม)แต่เวลายังไม่ครบ 20,40,80 อสงไขย ตามลำดับ ท่านบอกว่า ถึงกำลังใจจะเต็มแต่เวลายังไม่ครบตามกำหนดก็ตรัสรู้ยังไม่ได้ คือว่า กำลังใจเข้มเเข็งมากกำลังใจนี้เลยเต็ม 100 ไวแต่เวลาท่านยังไม่ครบเท่านั้น ท่านจึงต้องรอต่อคิว แต่ในขณะที่รอต่อคิวหากว่าลูกหลานบริวารเดือดร้อนก็ต้องลงไปเกิดช่วยตามวาระไป ซึ่งถือว่าบารมีก็ยิ่งมากขึ้นไปอีก และหลวงพ่อฤาษีลิงดำก็เคยบอกไว้ว่า คนที่จะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้านี่นะบารมี(กำลังใจ)ต้องเต็ม 100 เปอเซนต์ เท่านั้นถึงจะตรัสรู้ได้ ถ้าตํ่าหรือน้อยกว่าร้อยยังตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าไม่ได้ แต่ว่าพระพุทธเจ้าที่บำเพ็ญบารมีเกิน 100 เปอเซนต์นี่ก็มีเยอะ คือว่ากำลังใจอย่างตํ่าสุดของผู้ที่จะเป็นพระพุทธเจ้านี่แค่ 100 ไม่มีน้อยกว่านี้ และมากกว่านั้นถือว่ากำไรไป จึงทำให้เช่น แบบวิริยธิกะเหมือนกัน แต่บริวารยังมากน้อยไม่เท่ากันไงครับ ยิ่งสร้างเกิน 100 ไปออฟชั่นยิ่งเยอะในส่วนของบริวารนะ ส่วนอีกเรื่องหนึ่ง หลวงพ่อสรวง ปริสุทโธ พระอรหันต์องค์นี้ท่านได้เคยบอกไว้ว่า "ท่านเป็นผู้ที่ตรวจสอบพระไตรปิฏกฉบับหลวงของไทยด้วยปัญญาญาณ และได้พบว่าพระไตรปิฏกนั้นมีการคลาดเคลื่อนอยู่ 3 เปอเซนต์ และเป็น 3 เปอเซนต์ที่ไม่ใช่สาระสำคัญเลย หลวงพ่อจึงได้ประกาศกับศิษย์ว่า พระไตรปิฏกฉบับหลวงของไทยนั้นใช้ได้ร้อยเปอเซน์เต็ม และท่านยังบอกอีกว่า ตั้งแต่เริ่มตรวจสอบจนกระทั้งจบทั้งหมดยังไม่พบอะไรเลยที่ไม่เป็นความจริงในพระไตรปิฏก" ซึ่ง 3 เปอเซนต์ที่ว่านั้นก็คือ พวกจำนวนตัวเลขต่างๆครับ ซึ่งที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำบอกไว้ก็ถูกต้องละครับว่ากัปป์นี้มีถึง 10 องค์ และรู้สึกจะเป็นครั้งแรกด้วยสิที่มีถึง 10 องค์ เพราะที่เคยมีมามากสุดก็มีแค่ 5 องค์เท่านั้น ผมว่าผมเชื่อญาณของพระอรหันต์ทั้งหลายที่กล่าวมานะ ที่เคยฟังมาก็เป็นเช่นนี้ละท่าน มาสนใจกรรมฐานกันดีกว่า ดู ทาน ดูศีล ดูลมหายใจดีกว่าว่าวันนี้จับลมได้มากน้อยเท่าไหร่กันนะท่าน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤศจิกายน 2012
  6. นพณัฐ

    นพณัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +4,500
    ^
    ขออนุโมทนาด้วยครับ
    เรื่องกำลังใจ นี่... หลวงพ่อท่านกล่าวไว้ได้แจ่มแจ้งยิ่งแล้วครับ
     
  7. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    อ้างอิง:
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Chumphon Chanjit
    คุณคิดว่าณ เวลานี้มีนิยตโพธิสัตว์ 10 พระองค์ หรือเกิน 10 พระองค์มาร่วมแสดงความคิดเห็นกันได้ที่นี่ครับ




    คุณคิดว่านิยตโพธิสัตว์ มีเกิน 10 พระองค์หรือไม่ อย่างไร

    --------------------------------------------------------------------------------


    คุณคิดว่าณ เวลานี้มีนิยตโพธิสัตว์ 10 พระองค์ หรือเกิน 10 พระองค์มาร่วมแสดงความคิดเห็นกันได้ที่นี่ครับ

    --------------------------------------------------------------------------------
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Chumphon Chanjit : 30-10-2012 เมื่อ 03:34 PM
    ในอดีตเมื่อ 4 อสงไขยกัปกับอีกเศษแสนมหากัป มีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้น ทั้งหมด 25 พระองค์รวมทั้งพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันพระนามว่าโคดมด้วย และในอนาคตจะมีพระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติเกิดขึ้นอีก 10 พระองค์ ในช่วง 4 อสงไขยกัปกว่าข้างหน้า รวมเป็น 8 อสงไขยกัปกว่า มีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นทั้งสิ้น 35 พระองค์ ทุกท่านลองคิดดูสิครับว่าขนาดในช่วง 8 อสงไขยกว่ายังมีพระพุทธเจ้าตั้ง 35 พระองค์ แล้ว 16 อสงไขยกว่าข้างหน้า จะมีพระพุทธเจ้าจำนวนเท่าใด คงมีพระพุทธเจ้าที่จะมาตรัสรู้ ไม่ต่ำกว่า 40-50 พระองค์แน่ ผมเชื่อว่าในเวลานี้มีพระโพธิสัตว์ที่ได้รับพุทธพยากรณ์แล้วว่าจะได้เป็นพระพุทธเจ้า มีอยู่เกิน 10 พระองค์แน่นอนครับ

    --------------------------------------------------------------------------------
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Chumphon Chanjit : 28-10-2012 เมื่อ 10:18 PM
    คำภีย์พุทธวงค์ ผมยังไม่เคยอ่านเลยครับ ไม่รู้ว่าเป็นยังไง แต่อย่างน้อยความคิดผมก็ถือว่าตรงกันตรงที่ว่า นิยตโพธิสัตว์มีมากกว่า 10 พระองค์
    ขอบคุณ คุณสลัดที่มาร่วมแสดงความคิดเห็นครับ

    พระศรีอริยเมตไตร กำลังจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ถ้ามีพระโพธิสัตว์หนึ่งแสนพระองค์ที่มีบารมีเท่ากันกับพระศรีอริยเมตไตรจริง ทำไมหลังจากยุคของพระศรีอริยเมตไตร จึงได้มีสูญกัปคือกัปที่ไม่มีพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นเป็นเวลาถึงหนึ่งอสงไขยกัปล่ะครับ ทำไมไม่มาตรัสรู้กัน ทำไมจึงปล่อยให้มีกัปที่ว่างเปล่าจากพระพุทธเจ้าได้ ปกติแล้วใครบารมีเต็มก่อนก็จะได้ตรัสรู้ก่อน ไม่จำเป็นต้องรอคิวกัน บารมีใครเต็มก่อนก็ได้ตรัสรู้ก่อนมิใช่หรือ น้องขวัญ


    ไปใหน สูญกัปเหรอ 555 ต้องได้ไปอยู่แล้วล่ะ ไม่ต้องห่วง
    คือพี่คิดหยั่งงี้นะขวัญ หลังจากที่พระพุทธเจ้านามว่าโคดมของเราได้รับการพระยากรณ์เป็นครั้งแรกว่าในอีก 4 อสงไขยกับอีกเศษแสนมหากัปจะได้เป็นพระพุทธเจ้า พระองค์หนึ่งนามว่าโคดม พอครบระยะเวลาที่พระทีปังกรณ์ได้พยากรณ์ไว้ พระโคดมก็ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า เป็นพระพุทธเจ้าประเภทปัญญาธิกะ รวมระยะเวลาบำเพ็ญบารมีได้ 20 อสงไขย กับอีกเศษแสนมหากัป เห็นได้ชัดว่าเมื่อครบแล้วต้องได้ตรัสรู้ ดังนั้นพระโพธิสัตว์ถ้าบารมีเต็มแล้วจึงได้ตรัสรู้ไม่มีการรอกัน ใครเต็มก่อนก็ได้ตรัสรู้ก่อน ดูอย่างพระศรีอริยเมตไตรสิ บำเพ็ญบารมีมาก่อนพระโคดมอีก แต่พระโคดมก็ได้ตรัสรู้ก่อน ก็เพราะว่าพระโคดมบารมีเต็มก่อนนั่นเอง

    --------------------------------------------------------------------------------
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Chumphon Chanjit : 28-10-2012 เมื่อ 10:21 PM

    นรกน่ะไม่มีใครเขาอยากไปกันหรอก ขนาดพระเตมียังไม่อยากไปเลย ถ้าเราได้ไปก็แสดงว่าเรามันชั่วจริงๆถึงได้ไป ต้องได้ไปแน่ถ้าทำผิด

    --------------------------------------------------------------------------------
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Chumphon Chanjit : 28-10-2012 เมื่อ 03:57 PM

    ได้ความรู้ขึ้นเยอะเลยครับคุณบ่าวต้อย แสดงว่าผมอาจจะคิดผิดก็ได้

    ใช่แล้ว พระพุทธเจ้ามีได้สูงสุดกัปหนึ่งแค่5พระองค์เท่านั้น เกินกว่านี้จะต้องไม่มีอย่างแน่นอน ตามพระไตรปิฏก

    แต่คำว่าพระโพธิสัตว์รอคิวตรัสรู้นี่ ตามความเข้าใจผม น่าจะรอให้ครบระยะเวลาตามที่ได้บำเพ็ญบารมีมาในแต่ละแบบ
    แต่ละประเภท มากกว่าซึ่งมีทั้ง ประเภทปัญญาธิกะ 20 อสงไขยกับอีกเศษแสนมหากัป ศรัทธาธิกะ 40 อสงไขยกับอีกเศษ
    แสนมหากัป และวิริยาธิกะ 80 อสงไขยกับอีกเศษแสนมหากัป จะไม่ตรัสรู้ก่อนหรือหลังตามระยะเวลาในแต่ละประเภทข้างต้นเลย

    แล้วก็รอตามที่ได้รับพุทธพยากรณ์ไว้จากพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆด้วยว่าจะได้ตรัสรู้เมื่อใด มาอุบัติเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่เท่าไหร่
    ของกัปนั้น ซึ่งแต่ละกัปจะมีพระพุทธเจ้าได้ไม่เกิน 5 พระองค์ ไม่แน่ว่าคุณเตหิณรัตน์อาจจำผิดก็ได้นะครับ เพราะอ่านมานานแล้ว
    แต่ยังไงก็ขอบคุณมากครับที่มาร่วมแสดงความคิดเห็นในกะทู้นี้ ขอบคุณจริงๆครับ

    --------------------------------------------------------------------------------
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Chumphon Chanjit : 29-10-2012 เมื่อ 08:51 AM

    (ถ้าผมกล่าวล่วงเกินใครไว้ ผมขอโทษขออภัยด้วยครับ เรื่องบางเรื่องผมอาจจะรู้)
    (แต่เรื่องบางเรื่องผมอาจไม่รู้ก็ได้ครับ ผมต้องกราบขออภัยทุกท่านจริงๆครับ)

    ผมได้อ่านคัมภีร์พระอนาคตวงศ์แล้วนะครับคุณเพื่อมหาชน ขอบคุณมากครับ ตอนนี้ผมได้รู้แล้วล่ะครับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องอจินไตย คนสามัญอย่างผมไม่ควรจะไปคิดถึงเรื่องนี้ พระพุทธเจ้าพยากรณ์ไว้เท่าไหร่เราสมควรรู้แค่นั้นแหละครับ มันเกินวิสัยของผมที่จะรู้ได้

    คุณบุญทรงเครื่องครับ ตอนนี้ผมไม่อยากจะพิสูตรหรอกครับ คุณบุญทรงเครื่องไม่ต้องให้ความสำคัญกับผมมากถึงขนาดนั้นก็ได้ครับ ใครจะคิดว่าผมเป็นอะไรก็ช่าง แต่ผมก็เข้าใจว่าตนเองเป็นเพียงแค่คนธรรมดาเท่านั้น ไม่ได้วิเศษอะไรมาจากที่ใหนเลย ผมไม่รู้แม้แต่กะทั้งว่าในอนาคตจะได้เป็นอะไร ผมอยากเป็นอะไร ก็ไม่เห็นต้องให้ใครมาสนใจ ผมอยากเป็นของผมเองทั้งนั้นไม่ได้มีใครมาสั่งให้อยากเป็นสักหน่อย ผมไม่ได้ต้องการให้ใครมาพิสูตรว่าเป็นหรือไม่เป็น เพราะมันไม่ได้สำคัญอะไรเลย ส่วนเรื่องของกะทู้นี้นั่นผมไม่ต้องการจะรู้แล้ว เพราะเป็นอจินไตย มันเกินวิสัยผมที่จะรู้ได้ เพราะผมไม่ใช่พระพุทธเจ้า ต่อไปนี้ผมของดแสดงความคิดเห็นในกะทู้นี้อีก เพราะผมได้ข้อสรุปที่น่าพอใจแล้ว


    ตอนนี้กำลังสับสน คงต้องพึ่ง กาลามสูตร
    กาลามสูตร คือ พระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ชาวกาลามะ หมู่บ้านเกสปุตติยนิคม แคว้นโกศล (เรียกอีกอย่างว่า เกสปุตติยสูตร หรือเกสปุตตสูตร ก็มี) กาลามสูตรเป็นหลักแห่งความเชื่อที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ให้แก่พุทธศาสนิกชน ไม่ให้เชื่อสิ่งใด ๆ อย่างงมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดีก่อนเชื่อ มีอยู่ 10 ประการ ได้แก่

    อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ฟังๆ กันมา
    อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ทำต่อๆ กันมา
    อย่าเพิ่งเชื่อตามคำเล่าลือ
    อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างตำรา
    อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกเดา
    อย่าเพิ่งเชื่อโดยคาดคะเนเอา
    อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล
    อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน
    อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้
    อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูบาอาจารย์ของตน

    (ทำไมผมถึงผมเอาข้อความเจ้าของกระทู้มารวมกัน ผมอยากให้คุณ ๕๘ ไปอ่านให้เข้าใจ และที่ผมตอบไป ผมไม่รู้ชื่อคุณ ผมไม่รู้ภาษาอังกฤษ ไม่ได้เรียนมา แม้กระทู้ผมให้คนอื่นตั้งให้ แต่ผมใช้ความพยายาม เพียร ฝึกพิมแค่พักเดียวเท่านั้น ถ้าภาษาไทยมันไม่ยาก เราเรียนพูดมา ตั้งแต่จำความได้ครับ ทุกคนสามารถ เรียนรู้ซึ่งกันและกัน ให้เกียรกัน ถ้าอย่างไหนไม่รู้ ก็วางใจเป็นกลางก่อน แล้วไปหาหลักฐาน หรือมีความรู้อะไรมาแลกเปลี่ยนกัน ถือว่าโอเคครับ และขออนุโมทนาสาธุกับทุกท่านที่เข้าใจครับผม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤศจิกายน 2012
  8. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    :cool:

    ขอโทษครับผมไม่ได้เล่นพระ แต่ผมเช่าบูชาพระ แลกเปลี่ยน เพาะของครูบาอาจารย์เท่านั้นครับ แต่ พระทางภาคเหนือ อิสาน ใต้ ออก ตก ภาคกลาง องค์ไหชอบก็เช่า แต่ดูไม่ขาดครับ ว่าของจริง เป็นอย่างไร ขนาดของครูบาอาจารย์ ยังโดยเลยครับผม
     
  9. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    ขอบคุณครับที่เข้าใจ ผมก็พยายามทำความเข้าใจ ให้ถูกแค่นั้นเองครับ ถ้าไม่ถูกใจก็ไม่เป็นไร จริงไหมครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ
     
  10. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814

    อ๋อ ในวง เหล้าผมก็เข้าใจ เพราะเพื่อนผมเมื่อก่อน มีครบครับ เสือสิงห์กระทิงแรด ถ้าคุยผมคุยได้ทุกเรื่องกับคุณ แต่ขอให้มีเหตุผลเท่านั้น ยอมรับ สิทธิซึ่งกันและกัน ก็ถือว่าโอเคครับ ไม่ใช่เบ่งทับคุณ แต่ผมมีประสพการณ์มาอย่างนั้นจริงๆ แต่จะไม่ละเอียด พอพูดได้ งูๆปลาๆครับ ธรรมะในวงเหล้า คุยกันไม่ได้อยู้แล้วครับ มันคนละประเด็น ไปคุยเข้า วงคคงแตกแน่ครับ แค่เราเอาของไปแจก ชาวบ้าน มันยังมีคนไม่ถูกใจ คนบางคนเลยครับ มาหาเรื่องด้วยซ้ำไป ใช่แน่นอน ตีกลองข้างเดียว มันคงดังไม่เพราะเท่าน สองข้างแน่นอนครับ


    ( ขอบอกเลยนะ เจ้าของกระทู้ เขาไปถามผมตั้งแต่เขายังไม่มาตั้งกระทู้เลย) ถามอะไรผมตอบ แต่เขา ถามพีเอ็มผมมาตลอด ผมจำตัวหนังสืออังกฤษ ได้ ผมไม่รู้จักเขาเลย ตอบไป เขาก็ไม่เคยยอมรับ ผมบอกให้เขาเลิกมาถามผม เขายิ่งทำใหญ่ ขนาดผมด่าเขา ให้เขาเลิก ก่อกวนผม ก็ไม่เลิก ขนาดเขาตั้งกระทู้มา ผมก็มาตอบแบบธรรมดา ไม่ได้ไปให้ร้ายเขาแต่ประการใด ผมจึงให้คุณ ย้อนกลับไปดู ไงครับ นอกจาก คนที่ศึกษา ธรรมแล้ว มีใจเป็น กลางเขาถึงจะรู้ครับ แล้วคนที่เขาใช้ความรู้มาเบ่ง แล้วผมตอบไปแล้ว เขายังดันทุรัง ให้หาหนังสือพระไตรปิฏก มาแสดง ตัวอย่างส่วน ที่ผมตอบมา

    จะใช้ความรู้ ของครูบาอาจารย์ ที่ท่านได้เรียนรู้มาแล้ว มาตอบ อ้างเหตุและผล คนเรามีปัญญา ทุกคนจะเอามันออกมาใช้ หรือเปล่า ไม่ใช้เหตุและผล หัวเราะข้างเดียว มันไม่ดังหรอกครับ คุณ ๕๘ แม้แต่ ในกัปนี้ มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ ๑๐ พระองค์ เขาบอกมีแค่ ๕ องค์ ผมตอบไป ๑๐ พระองค์ ตอนนี้เขาบอกมาในกระทู้ รู้แล้ว ทั้งๆที่คุณ น่ะไม่รู้เลย ว่า เขามีอะไรกับผมมาก่อนเขาก็ให้ผมหาหลักมาแสดง ผมอ้างอิง เขาไม่พอใจ ยังทุรังตลอด หาเรื่องมาตลอด ให้เลิกก็ไม่เลิก ถ้าเป็นคุณ จะทำอย่างไร อยู่ๆ คุณ ๕๘ อยู่เฉยๆ มีคนมาด่า พ่อแม่คุณ คุณจะโต้ตอบไหม ขออธิบายให้ฟัง หน่อยครับ จริงๆ เยอะมาก ถ้าตอบกัน โดย ธรรม มันจะมีปัญหาอะไร นอกจากคนพาล เท่านั้นครับ พระพุทธเจ้า ยังหลีกเลยครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...