สัมภเวสี โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย วิเศษชัยชาญ, 23 พฤษภาคม 2012.

  1. วิเศษชัยชาญ

    วิเศษชัยชาญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,869
    ค่าพลัง:
    +2,465

    <O:pท่านผู้ฟังทั้งหลาย วันนี้ตรงกับวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๑๖ การคุยกันนี้คุยกันทุกวันไม่ได้ เพราะว่าภาระมันมีอยู่ เลยหาวันว่างๆที่มันไม่มีภาระมาคุยกันวันละ1ชั่วโมง สำหรับวันนี้ก็เอาเรื่องผีมาคุยกันสักหนึ่งเรื่อง เพราะว่าเรื่องน่ะความจริงมีอยู่มาก แต่ว่าถ้าจะคุยกันมากเกินไปก็เกรงว่าจะเบื่อ จะหาว่าเป็นคนบ้าผีเกินไป ความจริงก็ไม่ใช่บ้าใช่บอเรื่องผีหรอก แต่ทว่าไปพบผีเข้าจริงๆ เรื่องที่เล่าให้ฟังส่วนมากก็เป็นเรื่องที่พบมาเอง วันนี้จะเล่าเรื่องสัมภเวสี คำว่าสัมภเวสีนี่ ที่ชาวบ้านเรียกว่าผีตายโหง สำหรับผีตายโหงนี่จะถือว่าเป็นผีสัมภเวสีเสมอไปก็ไม่ได้ บางรายถึงวาระจะต้องตายแบบนั้นตามกฏของกรรม เมื่อเวลาตายแล้วเขาก็ไปสู่อำนาจตามกฏของกรรม กล่าวคือไปรับสุขและรับทุกข์ อันนี้ไม่เรียกว่าสัมภเวสี เรียกว่าไปเกิดเลย เกิดในนรก เกิดเป็นเปรต เกิดเป็นอสุรกาย เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน เกิดเป็นคน เกิดเป็นเทวดาหรือไปนิพพาน
    <O:p</O:p

    ใครทำใครได้
    <O:p</O:p

    อาการตายไปนิพพานนี่ตายแบบตายโหงก็ถมไป เช่น ในสมัยพระพุทธเจ้ามีชีวิตอยู่ คนฟังเทศน์จบได้สำเร็จอรหัตผล แต่ทว่าไม่เคยบำเพ็ญทาน เช่นผ้าผ่อนท่อนสไบไว้ในพระพุทธศาสนาพระพุทธเจ้าตรัสเรียกว่าเอหิภิกขุ แปลว่าเจ้าจงเป็นภิกษุมาเถิด ผ้าไตรจีวรที่สำเร็จด้วยฤทธิ์ก็ไม่มี เพราะว่าเขาไม่ได้ทำไว้ก่อน สมัยนั้นร้านขายผ้าจีวรไม่มีเหมือนสมัยนี้ เพราะว่าพระพุทธศาสนาเกิดขึ้นมาใหม่ๆ ไปไหนก็เป็นคนใหม่เสียหมด ร้านเจ็กร้านจีนไม่ค่อยมี นักบวชก็ยังไม่ค่อยมากนัก นักบวชไม่ดื่นดาษเหมือนประเทศไทยในสมัยนี้ ฉะนั้นร้านค้าผ้าสำหรับพระจึงไม่มี พระลำบากในการหาผ้าใช้ ต้องไปเก็บผ้าที่เขาทิ้งมาปุๆปะๆประกอบกันเข้าจากผืนเล็กมาเป็นผืนใหญ่แล้วนำมาห่มมานุ่ง นี่เป็นระเบียบของพระ
    <O:p</O:p
    เมื่อการหาผ้าได้ยาก แล้วเขาไม่ได้เคยทำบุญเรื่องผ้าผ่อนท่อนสไบไว้ก่อน พระพุทธเจ้าก็ไม่กล้าเรียกใช้คำว่าเอหิภิกขุ เพราะว่าถ้าตามธรรมดาพระองค์ตรัสว่า เอหิภิกขุ แปลว่าจงเป็นภิกษุมาเถิด ผ้าที่สำเร็จด้วยฤทธิ์จะลอยมาในอากาศสวมตัวเขาพอดี ทั้งนี้ก็เพราะว่าเขาต้องเคยถวายผ้าไตรจีวรไว้ในพระพุทธศาสนาในชาติก่อนๆ แต่ว่า คนก็มีหลายสิบท่านด้วยกันที่ปรากฏว่าฟังเทศน์แล้วเป็นพระอรหันต์ พระพุทธเจ้าทรงพิจารณาแล้วว่าเขาไม่เคยถวายผ้าไตรจีวรไว้ในพระพุทธศาสนา รู้ ท่านรู้นะ สัพพัญญู แปลว่า รู้ทั้งหมด พระพุทธเจ้าที่ไม่รู้อะไรไม่มี ก็ตรัสว่าเมื่อเจ้าปรารถนาจะบวช จงไปหาไตรจีวรมา ถ้าได้ผ้าไตรจีวรมาแล้วเราจะบวชให้
    <O:p</O:p
    ผู้นี้ปรากฏว่าในขณะที่ไปหาผ้าไตรจีวรในขณะที่เป็นฆราวาส คือร่างกายเป็นฆราวาสแต่ใจเป็นพระเต็มเปี่ยมเพราะเป็นพระอรหันต์ ร่างกายที่มีความเลวอยู่มาก ไม่สามารถจพทรงความป็นพระอรหันต์ไว้ได้ก็เลยต้องตาย ทีนี้ถ้าจะป่วยตายมันก็ป่วยไม่ทัน แล้วก็ตายไม่ทัน ในที่สุดก็ตายด้วยอุบัติเหตุ วัวขวิดตายบ้าง มีการกระทบกระทั่งอะไรตายเสียบ้าง อย่างนี้เป็นต้น เรียกว่าทรงความเป็นพระอรหันต์สำหรับฆราวาสไม่มี คนที่เป็นพระอรหันต์แล้ว ถ้ายังไม่ได้บวช อย่างช้าวันรุ่งขึ้นก็ตาย ไม่ใช่ 7 วัน
    <O:p</O:p
    คราวนี้ สำหรับผู้ที่ตายไปแล้วด้วยการถูกฆ่าเราเรียกกันว่าสัมภเวสี เฉพาะบางท่านนะ บางท่านก็ไม่ใช่สัมภเวสี อย่างพระอรหันต์ก็กล่าวมาแล้วว่าถูกวัวขวิดตาย หรือตายด้วยอุบัติเหตุ เวลาตายแล้วท่านไปนิพพานเลย อย่างนี้เขาไม่เรียกสัมภเวสี สำหรับพวกที่เรียกกันว่า สัมภเวสี ก็มีอยู่ว่า เวลาตายแล้วด้วยกรณีใดๆก็ตามยังไม่ครบอายุขัย ที่ไปยังเข้าไม่ได้ จะไปนรกก็เข้านรกไม่ได้ จะเป็นเปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน หรือเป็นมนุษย์ เป็นเทวดา เป็นพรหม อย่างนี้ไปไม่ได้ เพราะว่ายังไม่ถึงเวลสจะไป
    <O:p</O:p
    เลยต้องท่องเที่ยวไป เดินไปเดินมา เดินมาเดินไป ไปหิวโซเซๆ พวกนี้หมอผีชอบเรียกเอาไปเลี้ยง เพราะว่าแกลำบาก เมื่อมีใครนำไปเลี้ยง แกก็ต้องไปกะเขานั่นแหละ เข้าบ้านโน้นก็ไม่ได้ เข้าบ้านนี้ก็ไม่ได้ อาหารที่จะกินก็ไม่มี ถ้ามีใครมาชวนเข้าก็ไป ยังไงๆก็คิดว่าทำงานให้เขาเพียงแค่กินอิ่มก็พอ ผีกับคนนี่มีสภาพเหมือนกันนะ ผีก็เหมือนคนเพราะไอ้ผีนั่นคือจิตใจของคนที่มันเคลื่อนออกจากร่าง สภาพความรู้สึกมันก็เหมือนกัน ไม่แตกต่างกับของเดิม วันนี้จะมาเล่ากันถึงเรื่องสัมภเวสี คือคนตายยังไม่ครบอายุที่จะตาย
    <O:p</O:p

    ผีนายเสนอ
    <O:p</O:p

    ผีตนนี้มีนามว่าเจ้าเสนอ นายเสนอนะ นามสกุลว่าอะไรจำไม่ได้ เป็นคนจังหวัดสุพรรณบุรี นายเสนอคนนี้ตามปกติเป็นคนดีมาก เรียกว่าคนทั้งตำบลหรือหลายๆตำบลใกล้เคียงชอบใจนายเสนอ รักใคร่นายเสนอ เพราะเป็นคนดี ไม่เกกมะเหรกเกเร ไม่ใช่เป็นคนอันธพาล ดีในด้านสงเคราะห์ช่วยเหลือ จัดว่าเป็นสังคหวัตถุ นิยมในการสงเคราะห์ ใครเขาจะมีการมีงานที่ไหน พ่อเสนอก็ไปที่นั่น เจ้าของงานก็ดีใจ เพราะแกทำงานทุกอย่าง ทุกอย่างถ้าไม่เกินความสามารถ แล้วพูดจาก็ดี เป็นที่รักของคนทั่วไป
    <O:p</O:p
    แต่ทีนี้เรื่องที่เจ้าเสนอจะถูกฆ่าตาย ถูกตำรวจยิงตาย เรื่องก็มีว่า วันหนึ่งที่วัดสาลี อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี เขามีงานกัน ดูเหมือนว่าจะมีงานประจำปี ทีนี้ในงานนั้น พวกนักเลงการพนันก็ไปเล่นพนันในวัด ไอ้นี่ดูเหมือนว่าจะเป็นประเพณีเสียๆมามาก บางวัดเป็นวัดของเจ้าคณะจังหวัดเองในเมือง เคยเห็นเวลาเขามีงานศพกันก็ต้องไปตั้งวงพนันกันบนศาลา เอาศาลาเป็นบ่อนการพนัน อย่างนี้รู้สึกว่าแย่มาก
    <O:p</O:p
    จะไปโทษพระท่านเลยทีเดียวก็ยาก เพราะคนที่ไปเล่นบางทีก็มีศักดิ์ศรีใหญ่ เพราะเกรงใจไม่กล้าพูด ถ้าไปพูดกันเข้าพวกศักดิ์ศรีใหญ่พวกนี้ ความจริงไม่ใช่ศรีดี เป็นสีดำ ไม่ใช่สีขาว พวกสีดำนี้เข้าที่ไหนแย่ที่นั่น แต่ความจริงบ่าเหลือง แน่ะ!บ่าเหลืองแต่สีของใจดำ ไม่ได้รู้หรอกว่าอะไรเป็นอะไร อะไรควรอะไรไม่ควร ยกตัวว่าเป็นผู้เลิศเป็นผู้ประเสริฐ ฉันมียศชั้นนั้น มียศชั้นนี้ ฉันมีศักดิ์ศรีชั้นนั้นยังงี้ แต่ว่าจิตใจทรามมาก น่าเสียดายยศ น่าเสียดายตำแหน่ง ที่พระมหากษัตริ์ทรงมอบหมายให้ นี่พวกนี้ล่ะเป็นพวกสำคัญนัก มีวัดที่ไหนละก็ตั้งบ่อนที่นั่น ถ้าไปว่าเข้าละก็บอกพวกคนนั้นคนนี้เขาเป็นหัวหน้า แต่ว่าอาตมาไม่เคยนะ สำหรับที่อาตมาอยู่เองไม่เคย
    <O:p</O:p
    เพราะว่าก็ไม่เคยให้อภัยใครเหมือนกัน ไม่ได้ด่าเขาหรอก ถ้าใครเขาเล่นกันจริงๆ ก็เอาภาพเอากล้องไปถ่ายภาพไว้ เขาถามว่าถ่ายทำไม ตอบว่าถ่ายเพื่อเก็บหน้าคนดีไว้ดู แล้วบางทีก็เมื่ออัดฟิลม์เสร็จ ทำรูปเรียบร้อยแล้วก็ส่งไปให้ผู้บังคับบัญชาเขาพร้อมทั้งคำชมเชย เขียนจดหมายติดไปด้วย ชมเชยความดีของลูกน้องที่มาคุมงาน อย่างนี้ผู้บังคับบัญชาเห็นว่าลูกน้องทำดีมากก็มีหลายรายเหมือนกันให้รางวัลเป็นพิเศษ เรียกว่าปล่อยไปอยู่บ้านก็กินลำบาก นอนลำบาก เลยเข้ากรงไป อย่างนี้ไม่ได้แกล้ง แต่ว่าเขาทำไม่ถูก ก็เลยทำตามระเบียบให้เขารู้ระเบียบเข้าไว้ ว่าการปฏิบัติแบบนั้นมันมีความดีมาก ไม่เปลืองเงินเปลืองทองมาก ไม่ต้องอยู่เวรอยู่ยาม
    <O:p</O:p
    คราวนี้สำหรับเจ้าเสนอก็เหมือนกัน เมื่อชาวบ้านเขาไปตั้งบ่อนการพนันกันคราวนี้ ในบ่อนการพนันก็มีเรื่อง เจ้าเสนอก็วิ่งเข้าไป วิ่งเข้าไปแล้วก็ยกมือไหว้คนนั้นที ยกมือไหว้คนนี้ทีเรียกว่าพี่ป้าน้าอาว่าขอโทษเถอะมันเป็นงานวัด อย่าให้มีเรื่องเอะอะโวยวายเลย ท่านจะเล่นก็เล่นไป ถ้าหากไม่พอใจจะเล่นจะเลิกก็ตามใจไม่ได้ว่าอะไร ก็พูดดีๆ พอเข้าไปแล้วก็ปรากฏว่าคนคุมบ่อนเป็นตำรวจ เอาพานท้ายปืนตีหน้า ลงมานอนอยู่ เขาโกรธนะ บ่อนของเขา เขาคุมบ่อนของเขาอยู่นี่ไปตักเตือนคนในบ่อนของเขา เขาก็เอาพานท้ายปืนยาวกระแทกหน้าเข้าให้ เจ้าเสนอนอนหงายผลึ่งเกือบจะชัก
    <O:p</O:p
    พอดีเขาลุกขึ้นมาได้ ไอ้คนเรานี่เป็นคนธรรมดาก็มีโทสะก็เลยชักมีดแทงตำรวจเข้าให้ ตำรวจก็ยิงอีกนัดหนึ่ง เลยต่างคนต่างตาย เมื่อต่างคนต่างตายแล้ว ปรากฏว่าศพเจ้าเสนอถูกประคับประคองอย่างดี ชาวบ้านทั้งตำบลและตำบลใกล้เคียง ต่างคนต่างจัดงานศพอย่างหรูหรา แต่ศพตำรวจไม่มีใครสนใจ ปล่อยทิ้งไว้ตรงนั้นจนเน่าหึ่ง นานหลายวันกว่าทางการจะมาเชิญเอาไป เพราะชาวบ้านไม่มีใครแยแส ปล่อยให้เหี้ยบ้างตะกวดบ้างสุนัขบ้าง ทึ้งกันตามอัธยาศัย เครื่องแบบก็ไม่มีใครถอดให้ นี่เป็นการประกาศผลความดี ชาวบ้านบูชาความดีเกรงความดีจะเสื่อม แม้แต่เครื่องแบบก็ไม่มีใครแตะต้อง
    <O:p</O:p

    เข้าสิงเด็กสาว
    <O:p</O:p

    คราวนี้มาว่ากันถึงเจ้าเสนอต่อไป เมื่อมันตายแล้วคนรู้จักมาก มันก็เคยทำความดีกับคนไว้มาก ทีนี้มันก็แสดงตัว ในฐานะที่เป็นสัมภเวสี นี่ก็แสดงตัวให้ปรากฏบ่อยๆ มีคนหลายคนรายงานให้ทราบ ว่าผีเจ้าเสนอนี่มันดุจริงๆ เขาไม่เรียกเสนอหรอก เขาเรียกเหนอเฉยๆ ว่าผีเจ้าเหนอมันดุจริงๆ ลูกหลานไปทำการทำงานหลังบ้านเจ้าเหนอมันหลอกอยู่เสมอ แต่ว่าอาตมาได้ฟังก็ไม่สนใจเพราะเป็นเรื่องธรรมดาของผี
    <O:p</O:p
    วันหนึ่งมีโอกาสเข้าไปในจังหวัดสุพรรณบุรี ไปที่ตำบลสาลี ก็ไปคุยกับเจ้าของบ้านคนหนึ่ง แล้วเด็กสาวๆอายุ ๑๕-๑๖ปี คนหนึ่ง อยู่บ้านติดกัน ดูเหมือนว่าจะออกไปเก็บผักมาทำอาหารหลังบ้าน ประเดี๋ยวเดียวก็วิ่งเข้าบ้าน ปรากฏว่ามานอนร้องครวญครางอยู่ ร้องครางแล้วใครมาถามว่าเป็นอะไรมันก็ไม่ตอบ ร้องดังมาก เอามือกุมที่หน้าอก อีตรงที่กุมที่หน้าอกนะ เป็นตรงที่เจ้าเสนอถูกยิงพอดี มันถูกยิงตรงนั้น ตามธรรมดาผีที่ตายที่จะมาเข้าใคร ถ้าเป็นโรคอะไร เขาจะแสดงอย่างนั้น
    <O:p</O:p
    หมายความว่าเวลาเขาตาย ทุกขเวทนามันครอบงำมากอย่างไหนเขาจะแสดงให้ปรากฏ ปวดท้องตาย เวลามาเข้าใครก็แสดงอาการปวดท้อง คนขาหักตายเวลามาเข้าคนก็แสดงอาการขาหัก แต่ความจริงสมัยเป็นผีขาไม่หัก ไม่ต้องรักษาผี แต่เวลานี้ดูเหมือนว่าโรงพยาบาลผีมีมาก พากันรักษาผี นี่เป็นของแปลก เห็นจะเป็นพวกที่ไม่เคยเห็นผีจริงๆ ท่านจะเดาเอา เห็นว่าผีมีเวลามาเข้าคน ผีขาเป๋เวลาตายก็มาทำขาเป๋ ก่อนจะตายแขนคอก มาเดินทำท่าแขนคอก ก็เลยนึกว่าผีเป็นอย่างนั้น นี่เป็นเรื่องของคนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ รู้เสียจริงๆมันก็หมดเรื่อง
    <O:p</O:p
    ทีนี้เจ้าเด็กคนนั้นมันร้องครวญคราง มีท่านผู้ใหญ่ท่านก็สงสัย ท่านก็ร้องนิมนต์บอกท่านมหานิมนต์มานี่หน่อยสิอีหนูมันเป็นอะไร ถามมันก็ไม่พูด มันร้องใหญ่ ร้องท่าเดียว ก็เลยเดินไป ไปนั่งข้างๆเด็กสาวคนนั้น ถามอีหนูเป็นอะไรมันก็ไม่ตอบ มองหน้าเฉยๆแล้วก็ร้อง ก็เลยนึกสงสัยกลับใจเสียนิดหนึ่ง เอาหน้าใจไว้ข้างหลัง เอาข้างหลังไว้ข้างหน้า นี่พูดตามภาษาชาวบ้านนะ ถ้าพูดภาษาพระก็ปลดอารมณ์นิวรณ์ทิ้งลงไป
    <O:p</O:p
    ไอ้ข้างหน้าของใจส่วนมากเป็นนิวรณ์ นิวรณ์มันปะหน้าใจ ก็เลยปลดนิวรณ์ไปไว้ข้างหลัง นิวรณ์นี่ทิ้งมันเลยไม่ได้หรอกต้องเก็บไว้เป็นเพื่อน แต่ว่าเวลาเราจะใช้ใจโดยเฉพาะที่ไม่เกี่ยวข้องกับนิวรณ์ เราก็เอามันไปไว้เสียข้างหลัง พอเอานิวรณไปไว้ข้างหลัง เอาหลังเป็นหน้าเอาหน้าเป็นหลังกันแล้วก็เห็น เห็นเจ้าเสนอ เห็นเจ้าเสนอมันนั่งข้างๆเด็กคนนั้น แล้วเอานิ้วจี้ที่เด็กบอกว่าปวด<O:p></O:p>
    ก็เลยพูดดังๆว่า “เหนอ....ไปทำอะไรหลานล่ะน้อง ไปมีเรื่องอะไรไปคุยกับพี่ที่บ้านโน้น อย่ามายุ่งกับเด็กมันเลย ไปด้วยกัน ไปเดี๋ยวนี้นะ ปล่อยมือจากหลาน” เขาก็ปล่อย ไอ้เด็กคนนั้นก็หายปวด แล้วบอกไปบ้านโน้นไปคุยกัน ชาวบ้านก็มองหน้าเลิ่กลั่กๆ
    <O:p</O:p

    ขอความช่วยเหลือ
    <O:p</O:p

    แล้วอาตมาก็เดินลงจากบ้านหลังนั้นมาขึ้นหลังที่พัก เพราะเป็นหลังใหญ่ นั่งสบาย พวกนั้นเขาบอกว่าตั้งแต่ตอนนั้นเด็กคนนั้นก็หายปวดแล้วก็ลุกขึ้นมาทำงานเป็นปกติ เขาถามว่าเป็นอะไร มันก็บอกว่าไม่รู้ มันเจ็บ เจ็บทะลุหลัง เพราะเจ้าเสนอมันถูกยิงทะลุหลัง ก็เลยถามมันว่า เอ็งไปทรมานหลานทำไม มันก็เลยบอกว่า ไม่ได้ทรมานหรอกขอรับหลวงพี่ ผมแสดงแบบนี้ที่ใครเขาลือกัน มีคนไปฟ้องหลวงพี่หลายคนแล้วผมก็รู้ เขาหาว่าผมนี่ดุร้ายมาก เที่ยวได้หลอกคนนั้นหลอกคนนี้ ความจริงผมไม่ได้ตั้งใจจะหลอกคน คนทุกคนที่ผมแสดงให้ปรากฏ มันเป็นคนที่ชอบกันอยู่ก่อนทั้งนั้น รักกันมากเคยช่วยการช่วยงานเขา เขาเคยปวารนา ตัวพ่อเสนอมีอะไรให้ช่วยเหลือละก็บอกเถอะเขาจะทำเต็มที่ แต่ทว่าเวลานี้ผมต้องการความช่วยเหลือขอรับ
    <O:p</O:p
    ถามว่า”ทำไมล่ะ เออ...เอ็งตายแล้วเอ็งไปไหน เอ็งไปนรก หรือไปสวรรค์”<O:p</O:p
    มันก็บอกว่า “ไม่ได้ไปนรก ไม่ได้ไปสวรรค์หรอกขอรับหลวงพี่ เวลาเหลืออีก ๔๓ ปีจึงจะไปได้ นับปีมนุษย์ระยะเวลา ๔๓ ปีนี่ผมลำบากมาก เดินไปเดินมาเดินมาเดินไป ผลบุญใดๆที่ทำไว้ก็ยังไม่ปรากฏ ยังกินไม่ได้ ยังไม่ถึงเวลาจะได้รับ ไอ้ผลบาปที่ทำไว้ก็ยังไม่ให้ผล เวลานี้ผมต้องเป็นผีเดินไปเดินมา เข้าไปทุกบ้านหวังจะให้เขาสงเคราะหืช่วยเหลือ เขาก็หาว่าผมไปหลอกเขา เขาก็หลอกเอาบ้าง สาปแช่งเอาบ้าง แหม...ความรู้สึกของคนนี่ไม่เหมือนกัน เวลาที่ผมยังไม่ตายเขาก็รักแรงแข็งขอบผมดีทุกบ้าน ทุกคนปวารนาตัว ผมทำงานทุกอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย แต่ว่าเวลาผมตายเข้าแล้วจริงๆนี่ ไม่มีใครสนใจกับผมเลย”<O:p</O:p
    ก็เลยถามว่า<O:p</O:p
    “ก็เอ็งเป็นผีนี่ เขาก็กลัว นี่เอ็งไปแสดงตัวให้ปรากฏน่ะเอ็งทำยังไงบ้าง”<O:p></O:p>
    ตอบว่า “ส่วนใหญ่ไม่ได้หลอกขอรับ ผีไม่มีเวลาจะหลอกคน เขามีความลำบากอยู่แล้ว ผมมาแสดงตัวให้ปรากฏเป็นเงาบ้าง เป็นเสียงบ้าง บางคนก็เห็นชัดหน่อย บางคนก็เห็นไม่ชัด ผมก็ประกาศตัวผม ว่านี่นะคือนายเสนอ บอกได้เท่านั้น ทุกคนพอฟังแล้วก็วิ่ง ถ้าอยู่ในบ้านก็นอนคลุมโปงกัน แล้วบางบ้านก็บอกว่าขอให้ไปที่ชอบที่ชอบเถอะ บางบ้านก็แช่งชักหักกระดูกเลย นี่ผมก็เสียใจครับหลวงพี่ ไม่มีใครจะช่วยผมจริงๆ”<O:p</O:p
    เมื่อฟังแล้วก็เห็นใจ เพราะทราบแล้วจากพระพุทธเจ้าว่าผีไม่มีไร่ไม่มีนา ไม่มีการค้าขาย ไม่มีอาชีพใดๆ ถ้าบุญเก่าไม่ส่งผล ก็ต้องอาศัยบุญใหม่ที่คนอยู่ส่งไปให้ แล้วก็ต้องส่งเป็น ถ้าส่งไม่เป็นส่งเท่าไหร่ก็ไม่มีผล<O:p</O:p
    ก็เลยถามต่อไปว่า<O:p</O:p
    “เออ...ไอ้น้องชาย เอ็งต้องการอะไรล่ะ”<O:p</O:p
    มันก็รายงานว่า “เวลานี้ผมลำบากขอรับหลวงพี่ หนาวก็หนาว หิวก็หิว กำลังก็ไม่มี สิ่งที่ผมต้องการนั่นก็คือ หนึ่ง พระพุทธรูปสักองค์หนึ่งใหญ่สัก ๕ นิ้วก็พอ หน้าตัก ๕ นิ้วนะ ผ้าไตรจีวรไตรหนึ่ง แล้วก็อาหารอีกชุดหนึ่ง อะไรก็ได้ไม่จำกัด”<O:p</O:p
    ถามว่า “จะให้ทำยังไง”<O:p</O:p
    เขาบอกว่า “นิมนต์พระมาแล้วถวายสังฆทาน”<O:p</O:p
    ก็เลยถามว่า “เออ...ถ้าทำได้อย่างนี้ล่ะ ผลจะพึงมีกับเอ็งยังไง ไหนลองเล่าให้ฟังสิ”<O:p</O:p
    เขาบอกว่า “สำหรับพระพุทธรูป ถ้าผมโมทนาแล้วกำลังจะดีมาก ถ้าเป็นเทวดาก็มีศักดิ์ศรีใหญ่ มีรัศมีใหญ่ สำหรับสบงจีวรนี้ ถ้าโมทนาแล้วจะมีเครื่องประดับเป็นทิพย์ สำหรับอาหารข้าวและน้ำนี้ เมื่อโมทนาแล้วจะมีกำลัง ร่างกายจะมีแรงมากและมีความเบายิ่งขึ้น
    <O:p</O:p

    การอุทิศส่วนกุศลเจาะจง
    <O:p</O:p

    ถามว่า “เวลาให้เขาทำบุญน่ะจะให้ทำแบบไหน ไหนลองบอกให้ฟังซิ ฉันน่ะตั้งใจจะช่วยอยู่แล้ว”<O:p</O:p
    เขาก็บอกว่า “นิมนต์พระมาถวายสังฆทาน พระรับสังฆทานเสร็จ เวลาอุทิศส่วนกุศล ขอให้คนที่ทำบุญนี่ ส่งผลเฉพาะให้ผมคนเดียว อย่าเผื่อแผ่คนอื่น เพราะพวกสัมภเวสีนี่มีความลำบากอยู่มาก มีกรรมหนักอยู่ คือเป็นกรรมในระหว่างที่ต้องถูกทรมาน ถ้าเฉลี่ยให้คนอื่นละก็พวกสัมภเวสีไม่ได้รับ ถ้าหากไม่เฉลี่ยให้คนอื่นแล้ว พวกสัมภเวสีจะได้รับสมบูรณ์บริบูรณ์ โดยการกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลนี่ต้องว่ากันเฉพาะภาษาไทยตรงๆ”<O:p</O:p
    ก็เลยบอกว่า “ตกลงๆ วันพรุ่งนี้ค่อยมารับนะ”<O:p</O:p
    เขาเลยบอกว่า “ขอรับ”
    <O:p</O:p
    “แล้วหลวงพี่จะบอกใครเขาทันล่ะ ข้าไม่บอกใครหรอก จะบอกเหมือนกันแต่เขาจะทำบุญกะข้าหรือไม่ก็ตามแต่ แต่ว่าบุญนี่ข้าจะทำเอง ข้าไม่ต้องการไปยุ่งกับคนอื่นหรอก แต่จะบอกเขาเหมือนกัน เขาจะให้หรือไม่ให้ก็ช่างเขา “<O:p></O:p>
    “นี่ ! ประเดี๋ยวเอ็งไปเข้าเด็กคนนั้นอีกนะ แต่ทว่าอย่าไปทำให้เขาเจ็บร้องครวญครางนะ ชาวบ้านเขาสงสารเด็กเขาจะด่าเอา ไปเข้าเฉยๆนา แล้วก็แสดงตัวให้ปรากฏว่าเป็นเอ็ง อีเด็กสาวนั่นมันร้องลิเกเป็นไหม”
    <O:p</O:p
    มันตอบว่า “ไม่เป็นขอรับ”
    <O:p</O:p
    “เออ....ถ้ายังงั้นดีแล้วเอ็งเป็นลิเกอยู่ก่อน เป็นลิเกตัวดี ตัวมีชื่อเสียงมาก ไปเข้ามันก็แสดงท่าเป็นเอ็งนะ แล้วก็ร้องลิเก แล้วก็บอกบทไปด้วย ทำตัวร้องไปด้วยว่าเอ็งชื่อเจ้าเสนอ จะว่ายังไงก็ว่าไป ทำให้ชาวบ้านเห็นเป็นสนุกมันจะได้ดี” มันก็รับคำ
    <O:p</O:p
    มันถามว่า “เมื่อไหร่”
    <O:p</O:p
    บอก “เดี๋ยวนี้แหละ ไปๆเดี๋ยวนี้แหละ แล้วจะได้พูดกันให้มันรู้เรื่อง ชาวบ้านเขาจะได้รู้”มันก็ไป ไปแสดงตามนั้น
    <O:p</O:p
    ต่อมาเมื่อชาวบ้านรู้ว่าเจ้าเสนอมาเข้า แล้วมันก็ร้องลิเก ในทำนองร้องก็บอกไปทุกอย่างว่าตายเพราะอะไร เวลานี้มีความทุกข์เป็นประการใด เวลาไปหาใครบ้าง ใครเขาแช่งด่าบ้างก็บอกชื่อหมด ร้องเป็นทำนองเพราะเสียด้วย ชาวบ้านฟังแล้วก็ชอบใจ เป็นอันว่ารู้เรื่อง ในที่สุดเขาก็เรียกอาตมาไป บอกว่า เจ้าเสนอมาเข้าอีเด็กอีกแล้ว ตอบว่ารู้แล้วให้มันเข้าไป เลยบอกเสนอ บอกเขาว่าเราต้องการอะไร เขาอธิบายตามที่พูดมาแล้วเมื่อกี้ ก็เลยพูดว่า เอายังงี้นะ พรุ่งนี้หลวงพี่จะถวายสังฆทานให้ตอนในเพล เอ็งมาโมทนานะ แล้วถ้าโมทนาแล้วถ้าได้บุญจริงๆละก็ ทุกคนที่เขาช่วยร่วมบุญกุศลในวันพรุ่งนี้ เวลากลางคืนเอ็งไปที่บ้านเขาทุกคน ส่งกลิ่นหอมให้ปรากฏ ให้ปรากฏทั้งบ้าน มันก็รับคำ
    <O:p</O:p
    พอรุ่งเช้า ก็บอกบุญกันว่าใครจะร่วมบ้าง ร่วมเท่าไหร่ก็ได้ หรือใครไม่ร่วม ฉันทำคนเดียว เพราะว่าเจ้าเสนอมีความดีกับฉันมาก สงเคราะห์ฉันไว้มาก กิจการงานทุกอย่างที่ฉันต้องทำ เมื่อบอกมันแล้ว มันไม่เคยรังเกียจ ทุ่มแรงงานแรงกายแรงใจจริงๆ ไม่เคยท้อถอย ในที่สุดชาวบ้านก็มารวมตัวกันคิดว่าจะต้องจ่ายมาก ที่ไหนได้ เหลือ
    <O:p</O:p
    เป็นอันว่าผ้าไตรที่จะพึงได้ บอกเขาชั่วระยะเวลาบ่ายเท่านั้นนะ ตอนเช้าผ้าไตรกลายเป็น ๕ ไตร พระพุทธรูป ๕ องค์ อาหารเต็มบ้านไปหมด ตั้งใจจะนิมนต์พระมาถวายสังฆทานสักองค์เดียว เป็นผู้แทนสงฆ์ แต่ก็ทำกันในเพล จะได้ไม่คร่อมกับงานอื่นเขา เมื่อเห็นตอนสายๆอาหารมาเต็มบ้านแบบนั้นก้เลยนิมนต์พระมาหมดวัด พระมี ๒๒ หรือ ๒๓ องค์ไม่ทราบ เป็นสังฆทานเต็มที่ ไม่มีใครเหลือละวัดนั้น
    <O:p</O:p
    เมื่อถวายสังฆทานเต็มที่แล้ว อีตอนนิมนต์พระมาผ้าไตรมันไม่พอ เลยให้คนเขาไปซื้อสบงกับผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว มาให้พอกับพระที่เหลือ สำหรับผ้าไตร ๕ ไตรให้พระจับสลากกัน องค์ที่เหลือจับไม่ได้ไตรก็ถวายสบงกับผ้าเช็ดตัวทั้งหมดเท่ากัน เมื่อถวายผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็นำอุทิศส่วนกุศล
    <O:p</O:p
    ก็บอกว่า “ผลบุญที่ทำแล้วในวันนี้ (พูดย่อๆนะ ) มีการบูชาผ้ารัตนตรัยก็ดี สมาทานศีลก็ดี ถวายพระพุทธรูปเป็นของสงฆ์ก็ดี ถวายผ้าไตรจีวรแก่คณะสงฆ์ก็ดี ถวายภัตตาหารก็ดี ผลบุญทั้งหลายนี้ข้าพเจ้าจะพึงมีเพียงใด ข้าพเจ้าทั้งหลายขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่นายเสนอ ขอนายเสนอจงมาโมทนา และได้รับส่วนกุศลผลความดีเช่นเดียวกับข้าพเจ้าจะพึงได้รับ ณ บัดนี้เถิด เท่านั้นแหละ
    <O:p</O:p
    เวลาทำก็เห็นมันมาช่วยงานนี่ เจ้าเสนอมันก็วุ่นไปหมด เวลาเขาจะกวาดที่จะปัดที่จะปูเสื่อ จะวางหมอน ก็เห็นมันช่วยเขาวุ่นไป แต่ไม่มีใครรู้ เมื่อโมทนาเสร็จเรียบร้อย พระยถาแล้วจะกลับวัด มันเลยพูดมาเฉยๆ มันยังไม่ไป เมื่อพระกลับวัดไปแล้วนะ เห็นเจ้าเสนอมันนั่งยิ้มหน้าตามันสวย
    <O:p</O:p
    “เสนอ เอ็งมารับหรือเปล่า ถ้ามารับนะ แสดงอาการให้ปรากฏ ส่งกลิ่นให้ปรากฏ แต่ไม่ใช่กลิ่นผีนะ เป็นกลิ่นปกติสมัยนี้ของเอ็งเท่านั้นแหละ”
    <O:p</O:p
    ทุกคนบอกว่าหอมฟุ้ง หอมโดยไม่ต้องสูดนะ มันหอมจริงๆ หอมแบบสบายๆ ส่งกลิ่นฟุ้งไปหมด หมู่บ้านทั้งหมู่บ้านประมาณ ๑๐ หลังคาเรือน ไกลออกไปกระทั่งหลังบ้านยังได้กลิ่น ทุกคนก็ดีใจ คราวนี้ทุกคนก็อยากเห็นพ่อเสนอ เขาก็พูดกัน ชักใจกล้าละชาวบ้าน รูปร่างหน้าตาเวลานี้เป็นยังไง แล้วกลางคืนไปเข้าฝันให้เห็นด้วยนะ ก็เลยมองไปดูมัน ทำได้ไหม มันบอกว่าให้ทุกคนเวลาจะนอนภาวนาว่า พุทโธ ใจสบาย เมื่อจิตเป็นสมาธิแล้วก็เห็นง่าย คือให้เห็นในฝันง่าย ก็เลยสั่งชาวบ้าน ชาวบ้านก็ตั้งใจกัน ทุกคนอยากเห็นเจ้าเสนอ<O:p></O:p>
    พอรุ่งขึ้นเช้าทุกคนมาพูดพร้อมกัน มาพูดไม่พร้อมกันหรอก พูดเหมือนกัน มากันคนละคราว ว่าเมื่อคืนนี้เจ้าเสนอมันมาหา มันไปคุยด้วย แหม....รูปร่างหน้าตามันสวยจริงๆ มันไม่เหมือนเก่าหรอก เครื่องประดับประดาสวยสดงดงาม แสดงว่าเจ้าเสนอเป็นผีกึ่งเทวดาเข้าให้แล้ว แล้วก็พร้อมที่จะเคลื่อนไปสู่วิมานใดวิมานหนึ่งอันเป็นสมบัติของมัน เพราะมันเคยช่วยสร้างโบสถ์ช่วยสร้างศาลา
    <O:p</O:p
    นี่แหละท่านผุ้ฟัง เล่ามาเสียเวลาตั้ง ๓๐ นาที เรื่องอย่างนี้เราเรียกว่าสัมภเวสี เป็นอันว่ามีจริงก็แล้วกันนะ ท่านผู้ฟังจะเชื่อหรือไม่เชื่อก้เป้นเรื่องของท่าน ตามใจ เรื่องนี้ก็จบกันตรงนี้.<O:p</O:p
    <O:p</O:p</O:p
     
  2. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    สาธุ ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงครับ

    เชิญแวะอ่านธรรมะของหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง ที่
    เฟสบุ๊ค ศูนย์พุทธศรัทธา
    และร่วมกันแบ่งปันธรรมะของหลวงพ่อฯ ไปยังกระดานของท่านเพื่อเป็นธรรมทาน

    เว็บทางนิพพาน เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น<O[​IMG]
    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน<O[​IMG]
    ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่www.tangnipparn.com<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]ขอเชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญเว็บศูนย์พุทธศรัทธา

    [​IMG]</O:p>
     
  3. chai8383

    chai8383 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,032
    ค่าพลัง:
    +6,348
  4. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,027
    [​IMG]
     
  5. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,027
    [​IMG]
     
  6. น า ทู รี

    น า ทู รี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +164
    http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=4dXcAEoTiBs

    คำอธิบายเรื่อง สัมภเวสี คือ สัตว์ผู้แสวงหาที่เกิด โดย พระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล วัดนาป่าพง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ตุลาคม 2012
  7. anoldman

    anoldman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,950
    ค่าพลัง:
    +4,558
    สาธุๆ



    ลูกหลานขอกราบพ่อแม่ครูบาอาจารย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ด้วยเคารพยิ่ง ขอรับ __^/|\^__

    ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่นำบทความดีๆ มาให้อ่านครับ ^_^
     
  8. รักโพธิญาณ

    รักโพธิญาณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2012
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +224
    อ่านสนุกสนานและได้สาระประโยชน์ความรู้อีกด้วยนะครับ อนุโมทนาในความเมตตาพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำและเจ้าของกระทู้ด้วยที่นำเสนอมาให้อ่านครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...