ชี้ทางคนที่จะเรียนวิชาอาคม

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย กาฝากรัก, 26 ตุลาคม 2012.

  1. กาฝากรัก

    กาฝากรัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +191
    เล่าเรื่องวิชาไสยศาสตร์
    “ไสยศาสตร์
    นั้นเริ่มมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ และ
    ยังมีคนมากมายในโลกที่ยังสงสัยว่า "
    ไสยศาสตร์"
    นั้นคืออะไร กำเนิดมาจากไหน
    เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ยังคาใจของท่าน
    ทั้งหลายที่ต่างก็อยากรู้ในวิชาแขนงนี้
    ฉะนั้นเมื่ออยากรู้จึงต้องเสาะหาผู้ที่รู้จริง
    ซึ่งนั่นก็คือผู้ที่เรียนมาทางด้านนี้โดยตรง
    ซึ่งมีมากมายหลายแขนง
    ให้ศึกษาเกี่ยวกับ
    ความลี้ลับของวิชาไสยศาสตร์และผู้ที่
    จะเรียนรู้อย่างจริงจังนั้นจะต้องเป็นผู้มี
    ความชอบหรือ
    ความรักทางด้านนี้โดยเฉพาะเท่านั้นจึง
    จะเรียนได้และสามารถนำมาใช้ได้จริง
    จึงต้องมีความพยายามเป็นอย่าง
    มากในการฝึกฝน ”
    เมื่อมาถึงตรงนี้เรามา
    เข้าเรื่องของวิชาไสยศาสตร์นั้น มี 2
    ประเภท คือ
    สายดำ คือ เดรัจฉาวิชา เรียนแล้วนำไป
    ใช้ในทางที่ผิดๆ คือ นำมาทำร้ายคน
    อื่นๆด้วยวิชาที่ตนมี เช่น
    เสกหนังควายเข้าท้อง , ทำเสน่ห์ยาแฝด ,
    ทำให้ผัวเมียเลิกกัน
    โดยอาศัยเดรัจฉาวิชาคนพวกนี้เมื่อตายไป
    แล้วน่าสงสารอย่างยิ่ง เพราะ
    ต้องตกนรกอเวจี และต้องใช้กรรม
    เป็นอย่างมาก
    สายขาว คือ วิชาพุทธคุณ เรียน
    แล้วนำไปใช้ในการ
    ช่วยรักษาคนที่โดนกระทำ
    ด้วยคุณไสยศาสตร์ต่างๆ
    หลักศีล 5 เป็นหลัก
    วิชาพุทธคุณนี้มีเสื่อมมีดับหากเราทำผิดกฎข้อห้าม
    และยังช่วยผู้ที่ตกทุกข์ ร้อนใจต่างๆ
    ให้พ้นจากทุกข์ โดยใช้วิชาพุทธคุณ
    ในการช่วยเหลือ โดยใช้คาถา
    ต่างๆที่พระพุทธเจ้าท่านได้นำแสดงไว้มา
    ใช้ให้เกิดความขลังในด้านต่างๆ เช่น ทำ
    ให้เกิดเป็นเมตตามหาเสน่ห์,
    มหานิยม, มหาอำนาจ, โภคทรัพย์
    โดยการนำมาสัก, นำมาเขียน, นำมาเป่า,
    นำมาเสก ลงสู่ร่างกายโดยต้อง
    ยึดถือกฎข้อห้ามต่างๆ โดยกฎต่างๆจะยึด
    คุณสมบัติของผู้ที่จะเรียนไสยศาสตร์
    ได้สำเร็จ คือ
    1. เป็นผู้ที่มีความสนใจอย่างจริงจัง
    2. ต้องมีความอดทนอย่างยิ่งยวด
    3. ต้องเป็น
    ผู้ที่เคารพครูบาอาจารย์อย่างที่สุด
    4. ต้องเชื่อมั่นในสิ่งที่ตนได้เรียนและได้
    ใช้อย่างไม่แคลงใจ
    ผู้ที่สนใจอยากศึกษาไสยศาสตร์
    ท่านต้องมีความเชื่อมั่นและศรัทธา
    ในสิ่งที่มองไม่เห็น โดยต้องยึด
    หลักความจริงของพระพุทธศาสนามา
    เป็นหลักและต้องเชื่อเรื่องของกรรมดี-
    กรรมชั่วที่พระพุทธเจ้าท่านได้สอนไว้
    เพราะมันมีความเกี่ยวเนื่อง
    กับวิชาไสยศาสตร์ทั้งนั้นไม่ว่าจะ
    เป็นเรื่อง ผีสาง , เทวดา , เทพ ,
    พรหมต่างๆ
    ล้วนมีอยู่จริง
    ในหลักธรรมคำสอนขององค์พระพุทธเจ้า
    ทั้งสิ้น และท่านที่จะเรียนวิชาไสยศาสตร์
    ได้นั้นต้องเป็น
    ผู้ที่ผ่านการฝึกจิต-สมาธิมาเป็นอย่างดี
    จนสามารถนำพลังงานที่มีอยู่ในตัวและ
    ในโลกมาใช้ได้ในรูปแบบต่างๆ
    เช่นดังพระเกจิอาจารย์ท่านต่างๆที่
    สามารถนำพลังงานต่างๆมาประจุลงเครื่องราง
    และของขลังต่างๆ
    เพื่อใช้เป็นเครื่องป้องกันอันตรายที่
    จะมีแก่บรรดาลูกศิษย์ของท่าน และท่าน
    ทั้งหลายยังจะสามารถนำพลังงาน
    ที่เกิด
    จากการปฏิบัติสมาธิมาสำแดงอิทธิฤทธิ์
    ปาฏิหาริย์ต่างๆ เช่นดังที่มีอยู่
    ในตำนานเรื่องเล่าของหลวงปู่ศุข
    วัดปากคลองมะขามเฒ่า ที่ท่าน
    สามารถเสกหัวปลีเป็นกระต่าย
    และเสกคนเป็นจระเข้ได้อย่างน่าแปลกใจ
    ท่านที่ต้องการศึกษาไสยศาสตร์ท่านต้อง
    เป็นผู้ใฝ่รู้ในคาถาอาคมต่างๆและต้อง
    เป็นผู้ใฝ่หาครูบาอาจารย์ที่จะมา
    ให้คำแนะนำอย่างถูกต้องและเหมาะสม
    กับตนเองเพื่อป้องกันมิ
    ให้เกิดอันตรายแก่ตนเอง หรือที่เรียกว่า
    “ ของเข้าตัว ”
    หลักวิชาไสยศาสตร์ทั้ง 4 สาย
    ท่านผู้สนใจในวิชาไสยศาสตร์พึงจะ
    ต้องรู้จักหลักวิชาไสยศาสตร์ทั้ง 4
    สาย มีดังนี้
    1. มฤคเวท
    เป็นการสวดเพื่อสรรเสริญพระเจ้า
    2. ยชุรเวท
    เป็นการสวดอ้อนวอนพระเจ้า
    3. สามเวท
    ใช้สำหรับสวดมนต์ทำพิธีถวายน้ำโสม
    4. อถรรพเวท
    เป็นเวทมนตร์คาถาเรียกผีสางเทวดา
    ให้มาช่วยป้องกันอันตราย
    และมีการแก้อาถรรพณ์ต่างๆ
    ในวิชาอาถรรพณ์
    อถรรพเวทเป็นคัมภีร์ที่มี
    ความสำคัญยิ่งและเป็นคัมภีร์ที่มี
    ความศักดิ์สิทธิ์มาก
    คัมภีร์อถรรพเวทแบ่งออกเป็น 8
    สายย่อยอีกด้วย มีดังนี้
    4.1 วิชาแก้โรคต่างๆ อาคมประเภทนี้
    ใช้เป่ารักษาโรคต่างๆให้หายได้
    4.2 วิชามหาประสาน อาคมประเภทนี้
    ใช้เป่าบาดแผลให้ประสานเป็นเนื้อเดียว
    กัน
    และยังสามารถใช้ประสานกระดูกได้อีก
    ด้วย ในปัจจุบันยังมีคนนำวิชานี้มาใช้อยู่
    4.3 วิชาสะเดาะ อาคมประเภทนี้
    ใช้เป่าสิ่งของให้หลุดออกจากกัน เช่น
    สะเดาะกุญแจ,
    โซ่ตรวน, สะเดาะลูกในครรภ์ของมารดา
    แม้แต่ก้างติดคอก็ยังใช้อาคมบทนี้
    4.4 วิชาป้องกันตัว อาคมประเภทนี้
    ใช้เป่าปลุกเสกเครื่องรางของขลังต่างๆ
    เพื่อให้เกิด
    ความเป็นคงกระพันชาตรี ฟันแทงไม่
    เข้าคงทนต่ออาวุธทั้งปวง และ
    ให้แคล้วคลาด
    จากอันตรายทั้งปวง
    4.5 วิชาแสดงปาฏิหาริย์
    อาคมประเภทนี้มีความศักดิ์สิทธิ์
    สามารถสำแดงอิทธิฤทธิ์ต่างๆได้
    เช่น ล่องหน, กำบังกาย, หายตัวดำดิน
    เดินบนน้ำและอากาศ, ย่นระยะทาง,
    ลุยไฟ, แปลงกาย
    ผู้ที่มีวิชานี้สามารถทำได้หลายอย่าง
    4.6 วิชาคุณไสยทำอันตรายผู้อื่น
    อาคมประเภทนี้ใช้ทำร้ายผู้อื่นให้เจ็บ
    และตายได้ แล้วแต่
    ความต้องการของผู้กระทำหรือผู้จ้างวาน
    เช่น เสกหนังควายเข้าท้อง, เสกมีด
    เข้าท้อง,
    เสกตะปูเข้าท้อง, เสกกระดูกผีเข้าท้อง
    เป็นต้น
    4.7 วิชาแก้คุณไสยและแก้ภูตผีปีศาจ
    อาคมประเภทนี้ใช้เป่า
    และแก้การถูกกระทำด้วย
    ไสยศาสตร์ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะ
    เป็นการเสกตะปู, มีด และกระดูกผี วิชานี้
    สามารถใช้แก้และรักษาได้
    4.8 วิชาการทำเสน่ห์ อาคมประเภทนี้
    ใช้เสกเป่าสิ่งของและของกิน รวมทั้งคน
    ให้มาหลงไหล
    มารัก มาหลงตนเอง เรียกวิชานี้ว่า “
    วิชาเมตตามหาเสน่ห์มหานิยม ”
    วิชาเหล่านี้มีความสำคัญต่างกันและผู้ที่
    จะเรียนวิชาไสยศาสตร์นั้นก็
    สามารถเลือกที่จะเรียน
    ได้ตามที่ตนสนใจ
    แต่ควรรู้จักให้ครบทั้ง 8 สายวิชา
    เพราะมีความเกี่ยวเนื่องกัน
    ไสยศาสตร์ที่มีบทบาท
    ในประเทศไทยในอดีต
    เมื่อครั้งสมัยสุโขทัย
    ไสยศาสตร์เข้ามามีบทบาทมากที่สุด
    เพราะยุคนั้นพระมหากษัตริย์
    และขุนนางต้องออกรบพร้อมกับทหาร
    รวมถึงการปกครองการบ้านการเรือน
    ทั้งหมดต้องใช้ไสยศาสตร์
    ทั้งสิ้น เพราะไสยศาสตร์แยก
    เป็นหลายแขนง เช่น
    วิชาคงกระพันชาตรี, วิชาแคล้วคลาด,
    วิชาเมตตามหาเสน่ห์มหานิยม,
    วิชาเสน่ห์เล่ห์ , กลวิชาแต่งคน , วิชากำบัง
    และอื่นๆอีกมากมาย
    วิชาคงกระพันชาตรี
    เขาใช้เมื่อเวลาจะออกรบ ผู้
    เป็นเจ้านายหรือผู้มีวิชาอาคมก็
    จะแจกเครื่องรางของขลังต่างๆ
    ทั้งตะกรุดผ้ายันต์และวัตถุมงคลต่างๆ
    บ้างก็ลงอักขระสักยันต์ลงตามร่างกาย
    เป็นหมึกบ้างน้ำมันบ้าง
    บางรายก็เขียนยันต์ลงตามร่างกาย
    บางรายก็เป่ายันต์ลงตามร่างกาย
    แล้วแต่ว่าใครจะเรียนมาแบบไหน
    ก็จะใช้วิชาตามที่ตนเรียนมา แต่ทั้งหมด
    ทั้งสิ้นนี้ก็มีจุดประสงค์เดียวกันคือ เพื่อ
    ให้เกิดความเป็นมงคลแก่ตัว
    ของผู้เข้าทำพิธีและเพื่อ
    ให้มีพลังงานมาประจุลงสู่ตัวของคนนั้นๆ
    เมื่อมีพลังงานมาประจุแล้วก็จะส่งผล
    ให้เนื้อหนังมี
    ความคงทนต่อคมอาวุธทุกประเภท
    จนมีดฟันแทงไม่เข้า แต่ถ้าจะทำให้ตาย
    ต้องใช้ของแหลม
    แทงสวนทวารอย่างเดียว
    วิชาคงกระพันชาตรีนั้น
    ยังมีแยกออกไปอีก 9 วิชา
    วิชาอาพัด, เหล้า, หมาก, ใบพลู,
    ยาสูบ, พริกไทย, ว่าน
    และรากไม้ต่างๆ
    วิชานี้ใช้เสกของกินเพื่อให้เกิด
    ความคงกระพันชาตรี
    วิชาปูนคาดคอ
    วิชานี้ใช้เพื่อให้เกิดความคงกระพันชาตรี
    วิชาเรียกน้ำมันเข้าตัว
    วิชานี้ใช้เสกเรียกน้ำมันให้เข้าไปอยู่
    ในตัว เพื่อให้เกิดความคงกระพันชาตรี
    วิชาอาบน้ำว่าน
    วิชานี้ใช้อาบ เพื่อให้เกิด
    ความคงกระพันชาตรี
    วิชาอาบน้ำมันเดือด
    วิชานี้ใช้เสกอาบ เพื่อให้เกิด
    ความคงกระพันชาตรี แต่เวลาอาบจะ
    ไม่รู้สึกร้อนแต่อย่างใด
    วิชาเสกฝุ่นทาตัว
    วิชานี้ใช้เสกฝุ่นทาตัว เพื่อให้เกิด
    ความคงกระพันชาตรี ในบางทีเรียกว่า
    “ หนุมารคลุกฝุ่น ”
    วิชาสักยันต์
    วิชานี้จะใช้ของแหลมจุ่มหมึก
    หรือน้ำมันมาแทงลงบนผิวหนัง เพื่อ
    ให้เกิดเป็นยันต์ต่างๆ
    เพื่อให้เกิดความคงกระพันชาตรี
    วิชาเขียนยันต์
    วิชานี้จะใช้ของ
    ไม่แหลมจุ่มน้ำมันมาเขียนลงบนผิวหนัง
    เพื่อให้เกิดเป็นยันต์ต่างๆ,
    เพื่อให้เกิดความคงกระพันชาตรี
    วิชาเป่ายันต์วิชานี้จะ
    ใช้เป่ายันต์ต่างๆ
    เพื่อให้เกิดความคงกระพันชาตรี
    วิชาชาตรี คนส่วนใหญ่มักเรียกรวม
    วิชาคงกระพัน กับ วิชาชาตรีเข้าด้วยกัน
    เป็นวิชาคงกระพันชาตรีแต่ที่จริง
    แล้ววิชาชาตรีนั้นต่าง
    จากวิชาคงกระพันตรงที่
    วิชาคงกระพันพันแทงไม่เข้าแต่ก็ยังมี
    ความเจ็บปวดเกิดขี้นอยู่ แต่วิชาชาตรีนั้น
    ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บเลย เพราะวิชาชาตรี
    นั้นทำให้ของหนักต่างๆที่จะมากระทบ
    ตัวจะเบาไปหมด คนที่สำเร็จวิชานี้
    สามารถกระโดดได้สูงเกินสามวา
    วิชานี้เป็นวิชาแต่งตัวแล้วบริกรรมคาถา
    และเอามือทั้งสองลากไปตามตัว
    เรียกว่า “ ชักยันต์ ” แต่ส่วนมากมัก
    จะเป็นวิชาของอิสลาม
    วิชาแคล้วคลาด
    วิชาแคล้วคลาด
    เป็นวิชาที่เหนือกว่าวิชาคงกระพัน
    และวิชาชาตรี
    เพราะแม้มีคนมุ่งร้ายหมาย
    จะทำอันตรายก็มิอาจจะทำอันตรายได้
    เป็นแคล้วคลาดทุกครั้งไป คือไม่เจอ
    ไม่โดน
    และไม่เจ็บ ถึงแม้จะสู้กันซึ่งหน้า ไม่ว่าจะ
    เป็นยิงหรือฟันก็จะหลบเลี่ยงหลุดรอด
    ได้ทุกครั้งไป
    โดยฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถทำอันตราย
    ได้ แต่วิชานี้ส่วนมากจะถูกประจุอยู่
    ในเครื่องรางของขลัง
    และลายสักยันต์ต่างๆรวม
    ถึงการเขียนยันต์และการเป่ายันต์ด้วย
    วิชาแคล้วคลาดถือเป็นวิชาที่
    เกจิอาจารย์ส่วนมากนิยมใช้กันอีกด้วย
    วิชามหาอุด
    วิชามหาอุดเป็นวิชาที่นำมาใช้เฉพาะ “
    กันปืน ” ถ้าผู้ใดสำเร็จวิชามหาอุด “
    เมื่อครั้งมีเหตุให้
    โดยยิงปืนที่จะยิงจะยิงไม่ออก ” หรือ
    ในบางครั้งอาจจะทำให้ปืนแตกคามือของ
    ผู้ยิงได้เลย
    วิชามหาอุดมักถูกเขียนลงตระกรุด ใช้
    กันปืนและมักจะเสกรวม
    กับวิชาคงกระพันและแคล้วคลาด
    เพื่อให้ขลังยิ่งขึ้น และเป็นการ
    กันพลาดอีกด้วย คือ หากยิงออกก็ไม่โดน
    หากโดนก็ไม่เข้า เป็นต้น
    วิชาแต่งคน
    วิชาแต่งคนเป็นวิชาที่ใช้คุ้มครองตนเอง
    และคนอื่น ในอดีตผู้
    เป็นแม่ทัพนายกองมักจะใช้วิชานี้
    คุ้มครองตนเองและลูกน้องให้รอดพ้น
    จากคมมีดคมกระสุน วิชานี้มัก
    ใช้เสกน้ำมันงาหรือปูนกินหมาก
    ทาใต้คางหรือบางรายใช้ทาตัว ทำ
    ให้คงกระพันเป็นอย่างดี
    “ วิชาต่างๆที่กล่าวมาทั้งหมด
    ในอดีตจนถึงปัจจุบันพระสงค์และ
    ผู้มีวิชาอาคมทั้งหลาย
    มักนำมาใช้ในการสร้างพระเครื่อง
    และเครื่องรางของขลังเพื่อ
    ใช้คุ้มครอง และให้เป็นสิริมงคลต่อ
    ผู้ที่นำไปบูชา
    ในบางอาจารย์อาจจะนำมาใช้
    ในการลงอักขระสักยันต์ลงบนร่างกายอีก
    ด้วย ”
     
  2. Violent Daughter

    Violent Daughter เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +305
    ช่วยชี้ทางแบบสามารถไปเรียนวิชาคาถาอาคมได้ที่ไหนได้ไหม?
     
  3. กาฝากรัก

    กาฝากรัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +191
    คุณไม่สนใจที่มาไม่สนใจหลักในการใช้สนใจแต่จะใช้จะเรียน คาถาทุกบททุกช่อมีแรงครูมีหลักมีวิธีในการใช้ ไม่เคยรู้ไม่เคยสนใจด้วยซ่ำว่าเป็นมนต์ดำหรือมนต์ขาว ไม่รู้ด้วยซ่ำมาจากไหน เป็นสายพรามณ์ หรือสายพุทธ ถ้าจะเรียนจิงๆผมก็สอนให้ผ่านทางเว็ปนี้ได้ แต่จะเก่งไม่เก่งก็ขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง
     
  4. Violent Daughter

    Violent Daughter เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +305
    อยากเรียนครับช่วยสอนผมทีสิ
     
  5. กาฝากรัก

    กาฝากรัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +191
    ครับนี่คงเป็น วิชา เสือสมิง ครับ วิชานี้จัดเป็นเดรฉานวิชาครับ บางคนเรียนจนกลายเป็นเสือไปเลยไม่สามารถ กลับมาเป็นมนุษย์ได้อีกก็มี เชื่อผมเหอครับอย่าเรียนเลย บางครั่งบางทีพระบางรูปก็ไม่ใช้สายขาวหรอกครับ
     
  6. กาฝากรัก

    กาฝากรัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +191
    ข้อตกลงในการเรียน
    1 ห้ามหลบหลู่ พระพุทธ พระธรรม พระสงม์ พ่อแม่ครูบาอาจารย์
    2 ห้ามด่าแม่เด็จขาด
    3 ห้ามผิดลูกผิดเมียคนอื่น
    4 ห้ามหุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดทุกชนิด
    5 ห้ามโอ้อวดวิชาถือตัวคิดว่าตัวเก่งกว่าครู อาจารย์
    6 ห้ามใช้วิชาโดยพร่ำเพรอ
    7 รักษาว่าจาสัตไม่พูดเท็จ
    8 รักษาศิลให้บริสุทธิ์ในวันพระถือ(ศิล 8)
    9 ต้องนั่งสมาธิเจริญภาวนาอย่าได้ขาด (เว้นจำเป็น)
    ถ้าคิดว่าคุณทำได้ผมก็จะสอนให้
     
  7. Violent Daughter

    Violent Daughter เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +305
    ผมคิดว่าน่าจะสามารถทําได้
     
  8. กาฝากรัก

    กาฝากรัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +191
    อย่าคิดว่าแค่ทำได้ต้องหมั่นใจว่าใด ๆ จิง คาถาจะสำเร็จได้ก็เพราะหมั่นใจเชื่อหมั่นเป็นอีกองค์ประกอบนึ่ง
     
  9. กาฝากรัก

    กาฝากรัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +191
    สังเกตจากหน้าตาครับคนที่ใช้วิชาสายดำหน้าตาจะหมองคล่ำไม่ค่อยมีสง่าราศีเพราะวิชาพวกนี้จะค่อยๆกินมาจากข้างในครับ และผมเชื่อเหลือเกินว่าถ้าหลวงพ่อที่คุณกล่าวมาเป็นสายขาวจิงก็คงจะไม่แปลงกายเป็นเสือมารบกวนผู้ที่กำลังสร้างบุญอยู่แน่นอนครับ ถึงจะมารบกวนแต่ก็คงทำอะไรคุณไม่ได้หรอกครับเพราะพุทธคุณแห่งพระศาสนามีความสักสิทธิ์ละบริสุทธิ์จะมาเป็นกำแพงห้อมล้อมผู้ที่กำลังปฎิบัตธรรมอยู
    ่ไม่ให้สิ่งชัวร้อยใดมาทำอันตรายได้หรอกครับ
     
  10. กาฝากรัก

    กาฝากรัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +191
    ผมก็บอกไปตามที่ผมพอจะมีความรู้ละครับ มีไรก็ให้ถามนะครับ
     
  11. Violent Daughter

    Violent Daughter เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +305
    มั่นใจว่าสมามารถทําได้ครับ
     
  12. กาฝากรัก

    กาฝากรัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +191
    เอาละถ้ารับแล้วผมก็จะสอน ต่อจากนี้ให้ถือเอาผมเป็นอาจารย์ ให้ยกครูเองได้เลย สิ่งที่ต้องเพรียม
    ให้ทำหน้าพระพุทธรูป
    1 ธูป9 ดอก เทียน2เล่ม
    2 ดอกดาวเรืองมัดรวมกับธูปอีก9ดอกเทียนอีก2เล่ม
    3 หมากพรูเขี่ยไว้แล้ว9คำ
    เพรียมของให้ครบก่อน แล้วค่อยมาขอคาถายกครู
     
  13. porntips

    porntips เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    955
    ค่าพลัง:
    +2,410
    ท่านครับ รบกวนครับ แล้วที่เรียกว่าสายล่างล่ะครับ เป็นขาว หรือดำ ถ้าเราเช่ามาใช้จะมีอันตรายต่อตัวเองในวันหน้าไหมครับ
     
  14. ตมิสาน้อย

    ตมิสาน้อย สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +10
    แอบมาอ่านเงียบๆ เพราะสนใจเรื่องพวกนี้อยู่เหมือนกัน ได้ความรู้เยอะเลยขอบคุณมากเลยนะคะ
     
  15. กาฝากรัก

    กาฝากรัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +191
    เอางี้มะผมจะสอนคาถาให้สัก 3-4คาถาเอาไว้ป้องกันตัวเอง แต่ผมขอเมลนะสอนทางเมลและคาถาที่ผมสอนห้ามบอกคนอื่น ถ้าจะบอกก็ให้บอกได้แต่คนที่คุณสนิดจิงๆ เช่นเป็นเพื่อนสนิดมากหรือสืบทอดให้ลูกหลานเท่านั่น แต่อย่าพึ่งลืมตัวว่ากูเก่งคิดว่าตัวเองหนังเหนียวคงกระพัน มีมหาเสน่ห์ เพราะทุกสิ่งล้วนอนิตจัง มี เกิดขึ้น ตั่งอยู่ แล้วแตกสลายไปเป็นธรรมดา มีเพียงความดีเท่านั่นที่จะยังคงกระพันอยู่ได้ ให้ระลึกถึงความตายอยู่เสมอเถิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ตุลาคม 2012
  16. กาฝากรัก

    กาฝากรัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +191
    สายล่างหรอผมก็ไม่ค่อยจะได้ยินนะ แต่คงเป็นวิชาจำพวกผี เช่น วิชาปลุกผีลุก เป็นการปลุกผีมาใช้งาน กุมารทองผี ควายธนูผี ผีพยนต์ อันนี้ผมเคยคุยกับร่างทรง พ่อปู่ฤาษีชีวก หลังไปช่วยคนถูกผีเข้ามาด้วยกันคุยกันถูกคอครับและท่านก็คงอยากให้ผมเป็นศิษย์ของท่านละครับแต่ผมมีครูบาอาจารย์อยู่แล้วก็เลยไม่รับเอามาครับ อ่อวิชาจำพวกสายดำละครับ ห้ามเอามาใช้นะทั่งคาถาทั่งของห้ามนะ แรกๆก็ดีละครับหลังๆนี้ไม่ดีหรอก (ฉิบหาย)หมดนะครับ
     
  17. กาฝากรัก

    กาฝากรัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +191
    ถ้าอ่านแล้วได้ความรู้ก็ขอให้อนุโมทนาบุญเถอครับ
     
  18. คุณตุ๊ก

    คุณตุ๊ก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +131
    ขอป้องกันตัวหน่อยครับ

    กับค้าขายนะครับ ผมเป็นดีเจ แบบว่าเปิดเพลงไปขายแผ่นไปด้วย ขอบคุณครับ
     
  19. กาฝากรัก

    กาฝากรัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +191
    [QUOTE=คุณตุ๊ก;ขอป้องกันตัวหน่อยครับ
    กับค้าขายนะครับ ผมเป็นดีเจ แบบว่าเปิดเพลงไปขายแผ่นไปด้วย ขอบคุณครับ

    (ส่งไปให้แล้วนะ)
     
  20. jakarat

    jakarat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2006
    โพสต์:
    173
    ค่าพลัง:
    +148
    ผมสนในเรื่องคาถาอาคมมานานแล้วครับ ถ้าคุณกาฝากรักจะกรุณาสอนผมด้วยได้ไหมครับ
    สอนทางเมล์ก็ได้ครับ อยากเรียนไว้ช่วยคนเพื่อนมนุษย์ และมีแพลนว่าจะบวชและธุดงด้วย
    อยู่ในป่า อาจจะนำมาใช้เพื่อป้องกันตัวด้วยครับ รบกวนด้วยนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...