ขอสอบถาม เรื่องไปฝึกมโนมยิทธิ วัดท่าซุง

คืออยากไปฝึกที่วัดท่าซุงครับ ได้ศึกษากฏระเบียบที่เว็บวัดท่าซุงมาบ้างแล้ว
แต่ยังมีข้อสงสัยอยากสอบถามญาติธรรมในนี้ครับ ว่า

- ที่วัดมีห้องพักให้ อยากรู้ว่ามีหมอน ผ้าห่ม อะไรพวกนี้ให้หรือเปล่าครับ
- ผมเป็นคนสูบหรี่ อยู่ที่วัด ท่านอนุญาตให้สูบได้ไหม
- เห็นข้อมูลบอกว่าบริเวณวัดกว้างขวางมาก ผมตั้งใจว่าจะเอารถจักรยานยนต์ไป ผมจะสามารถขับขี่ภายในวัดได้หรือเปล่าครับ
- การฝึกมโนมยิทธิ จากข้อมูล ระยะเวลาฝึกคือ 11.30 - 14.00น. มีการฝึกนอกเหนือจากเวลานี้หรือเปล่าครับ เช่นหลังทำวัตรเย็น

มีข้อสงสัยเพียงแค่นี้ครับ

 

ถ้าจำไม่ผิด วัดเป็นเขตปลอดบุหรี่นะครับ

 

ตอบในฐานะคนเคยบวชที่วัดมาแล้วละกันครับ

1.ที่วัดมีห้องพักให้ ผู้ชายอยู่หลังโบสถ์ ในห้องมีพัดลมเพดาน 1 ตัว ซึ่งบางห้องพัดลมอาจเสียงดัง มีโต๊ะ 1 ตัว เครื่องนอนมี เสื่อ 1 ผืน หมอนสี่เหลี่ยมเล็กๆพอหนุนได้ 1 ใบ และผ้าห่มแบบค่อนข้างบางอีก 1 ผืน พักที่วัดอย่าหวังสบายกายมากครับ หวังสบายใจดีกว่า

2.สูบบุหรี่ได้ครับ แต่ควรจะระวังไปรบกวนพระหรือผู้ปฏิบัติธรรมท่านอื่นที่ไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ เพราะห้องพักชายมันอยู่ติดกันและอยู่ใกล้กุฏิพระมาก ต้องลองหามุมดีๆ แต่ทางที่ดีถ้าทำได้อย่าสูบเลยครับ

3.รถยนต์ยังขับในวัดเป็นปกติเลยครับ แต่ถ้าจะไปพักเพื่อปฏิบัติธรรมแนะนำให้ใช้รถส่วนตัวเท่าที่จำเป็น และนั่งรถรางของทางวัดดีกว่าครับ

4.ไม่มีเวลาฝึกนอกจากนี้ครับ ฝึกรวมเวลาเดียว แต่ถ้าอยากฝึกเองก็สามารถทำได้ครับ ตอนหลังทำวัตรเย็นที่ฝึกแบบสุกขวิปัสสโกกันถ้าอยากฝึกแนวมโนมยิทธิก็ทำเองได้เลยครับ หรือจะทำเองตอนไหนที่สะดวกก็ได้

ปล.ถ้าจะไปอยู่วัดแนะนำให้ตั้งใจถือศีล8 ไปเลยทุกวันที่อยู่ครับ ได้บุญด้วย ได้ฝึกความอดทนด้วย และไม่ต้องเสียเวลาไปหาของกินครับ เพราะแถววัดรู้สึกว่าตอนช่วงเย็นจะไม่ค่อยมีของกิน

 

ขอบคุณมากๆครับที่ช่วยตอบให้หายสงสัย

เคยไปฝึกเจริญสติที่วัดป่าสุคะโตมา3ครั้งแล้ว แต่รู้สึกว่ายังไม่ค่อยถึงที่สุด
ชอบไปทางวิชาสามหรืออภิญญามากกว่า เลยตั้งใจว่าจะไปลองฝึกดูครับ

เรื่องอดข้าวเย็นไม่หนักใจครับ หนักใจเรื่องบุหรี่นี่แหละ เพราะยังเลิกไม่ได้ซะที
ส่วนเรื่องที่พักถ้ามีตามที่บอก ผมก็จะได้ไม่ต้องเตรียมไปครับ ถ้าหนาวมากก็
ใส่กางเกงขายาว เสื้อกันหนาวหนาๆเอาก็แล้วกัน ... อิอิ

 

อิติสุคโตก็ดีนี่ครับ ถ้าอยากฝึกอภิญญา ฝึกที่ไหนก็ได้ครับ แต่ควรมีอาจารย์เก่งๆหรือฆราวาสเก่งๆจะดี (ผมหมายถึงอริยะอาจารย์และอริยะฆราวาสนะครับ)คอยให้คำแนะนำเวลามีประสบการณ์ทางจิต จะดีกว่าเยอะครับ มโนฯก็คือการประยุกต์เอาพุทธานุสสติกับกฐินเข้าด้วยกัน (ผมเข้าใจแบบนี้นะครับ ไม่ขอโต้แย้งกับท่านอื่น) คือการจับภาพพระบ่อยๆ บวกกับวิปัสสนาเล็กน้อยในขั้นเริ่มต้น ถ้าได้วิปัสสนามากจิตก็จะใสมากครับ จับจนพระเป็นแก้วใสแล้วปล่อยใจไปกับพระ ฟังดูง่ายดีไหมครับ ก็เหมือนกับเล่นกสิณสีและภูตกสิณนั่นแหละครับ เพียงมโนฯ ใช้เวลาน้อยกว่า ลัดกว่าถ้าวางอารมณ์และทำได้ แต่ไปวัดท่าซุงก็ดีครับ แต่อย่าไปหลงนะครับ การฝึกทั้วๆไปคือการฝึกจิตขั้นต้น มีเฝือบ้างถูกบ้างให้วางอารมณ์ให้เป็น ยังต้องฝึกอีกมาก คนที่เขาได้กันจริงๆเขาจะไม่ค่อยพูดกันหรอกครับ นอกจากพระจะสั่งหรือจำเป็นต้องพูดเพื่อสงเคราะห์ ขอให้ระวังครับ อย่าติดนิมิต เจริญในธรรมครับ

 

ขอบคุณครับที่ให้คำแนะนำ

จริงๆแล้วก็ลองฝึกเองอยู่เหมือนกันครับหัดจำภาพพระมั่ง หัดท่องนะมะพะทะมั่ง
แต่ก็ไม่เป็นชิ้นเป็นอันเท่าไหร่ เลยอยากไปฝึกที่วัดท่าซุงครับ

ส่วนเรื่องติดนิมิตนี่ ผมขอให้มันเห็นนิมิตก่อนครับ ถึงจะรู้ว่าติดหรือไม่ติด
แต่ก็กลัวใจตัวเองอยู่เหมือนกัน ขอบคุณที่ช่วยเตือนครับ