คชสีห์๙บารมี๙บารมี๙แผ่นดินหลวงปู่หมุนเสก

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 30 สิงหาคม 2010.

  1. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,708
    ค่าพลัง:
    +21,337
    เหรียญหลวงปู่เมฆ วัดลำกระดาน

    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  2. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,708
    ค่าพลัง:
    +21,337
    เหรียญล้อแม๊กเนื้อเงินหลวงพ่อพุธ ฐานิโย

    ให้บูชา 600 บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  3. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,708
    ค่าพลัง:
    +21,337
    พระปิดตายันต์ยุ่งเนื้อผงชมพูนุช วัดซับลำใย หลวงปู่หมุน


    ให้บูชา3องค์ยกชุดไปเลยครับ 1500 บาท

    [​IMG] [​IMG]
     
  4. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,708
    ค่าพลัง:
    +21,337
    รูปภาพขนาดบูชาหลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว

    ให้บูชา 1200 บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
  5. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,708
    ค่าพลัง:
    +21,337
    ประวัติท่านครับลองเข้าไปศึกษาได้ที่เวปไซท์ของทางวัดครับ

    ท่านเป็นศิษย์ครูบาศรีวิชัยโดยตรง

    ประวัติวัดเจริญเมือง | วัดเจริญเมือง เชียงราย


    เหรียญและพระผงนี้ท่านเจ้าของเดิมบูชามาจากวัดครูบาโดยตรงครับ

    เหรียญไตรมาสครูบาศรีนวลสร้า้งจำนวนน้อย3200เหรียญสภาพเหรียญเดิมๆ

    ครับเก่าเก็บศิษย์สายท่านกำลังตามเก็บข้อมูลและรวบรวมประวัติและวัตถุมงคล

    ท่านอยู่ครับท่านสรา้งวัตถุมงคลและเครื่องรางไม่กี่อย่าง

    ให้บูชา 600 บาทครับค่าจัดส่ง EMS 50 บาท


    [​IMG]

    [​IMG]

    พระผงรูปเหมือนให้บูชา 350 บาทค่าจัดส่ง EMS 50 บาทครับ


    [​IMG]

    [​IMG]
     
  6. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,983
    ค่าพลัง:
    +5,390
    ได้โอนเงินเมี่อ ๒๒ตค เวลา๑๑.๒๙ น เป็นค่าพระ ๑.เหรียญลป.แสวงวัดหนองอีดุกรุ่น๑ ที่อยู่ดูในpmครับ
     
  7. direkk

    direkk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    735
    ค่าพลัง:
    +3,372
    ชอบครับพี่ ขอรับไว้เองครับ โอนแล้วจะแจ้งให้ทราบครับ ขอบคุณครับ
     
  8. ShyBoy

    ShyBoy Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +47
    - -* มาไม่ทัน ขอรับเป็นคิวถัดมาละกันครับ
     
  9. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,708
    ค่าพลัง:
    +21,337
    พระปิดตายันต์ยุ่งเนื้อผงชมพูนุช วัดซับลำใย หลวงปู่หมุน


    ให้บูชา3องค์ยกชุดไปเลยครับ 1500 บาท ชุดที่2ครับ(ปิดรายการ)

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ตุลาคม 2012
  10. ShyBoy

    ShyBoy Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +47
    จองคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบ ขอบคุณครับผม :cool:
     
  11. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,708
    ค่าพลัง:
    +21,337
    [​IMG]






    หลังมรณภาพ 23 ปี คณะสงฆ์ และกรรมการวัดประดู่ทรงธรรม จ.พระนครศรีอยุธยา ประชุมเตรียมความพร้อมอย่างยิ่งใหญ่

    วันนี้ (25 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดประดู่ทรงธรรม ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา คณะสงฆ์ และกรรมการวัดได้ประชุมเตรียมความพร้อม งานพระราชทานเพลิงศพพระครูศิลสังวร หรือ "หลวงพ่อบุญนาค สีลสํวโร" อดีตเจ้าอาวาส รูปที่ 9 ซึ่งได้มรณภาพไปตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน พ.ศ.2532 ขณะสิริอายุ 75 ปี และปัจจุบันสังขารถูกเก็บในโลงตั้งอยู่ในกุฏิของหลวงพ่อบุญนาค เป็นเวลากว่า 23 ปีแล้ว เชื่อว่าสังขารของหลวงพ่อบุญนาคไม่เน่าเปื่อย
    พระดำรงค์ ฐิตาสโก รองเจ้าอาวาสวัดประดู่ทรงธรรม กล่าวว่า ในวงการคณะสงฆ์ถือว่าหลวงพ่อบุญนาค เป็นพระสุปฏิปันโนรูปหนึ่ง เป็นที่เคารพบูชาของลูกศิษย์ทุกคน หลวงพ่อบุญนาคได้รับการสืบทอดวิชาต่างๆ ของสำนักวัดประดู่ทรงธรรม ซึ่งเป็นสำนักตักศิลาของพุทธศาสนามาตั้งแต่โบราณครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็น ราชธานี อดีตเจ้าอาวาสองค์ก่อนๆได้แต่งตำราต่างๆหลายแขนงเข้าไว้ด้วยกัน เช่น ตำราพิชัยสงคราม ตำรายาสมุนไพร ตำราพระคาถา และอักขระเลขยันต์ และหลักธรรมคำสอนตามพระไตรปิฎก ซึ่งหลวงพ่อบุญนาค ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนทั้งทางด้านปริยัติธรรมและด้านปฏิบัติกรรมฐาน พร้อมทั้งเรียนวิธีการลงอักขระเลขยันต์ต่างๆ และวิชาศิลปะ 20 ประการของสำนักวัดประดู่ทรงธรรมไว้อย่างครบถ้วนทุกด้านทุกแขนง ถือเป็นพระสงฆ์ที่เก่งรอบด้านและเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้าน อีกทั้งยังเป็นพระนักพัฒนาบูรณปฏิสังขรณ์หรือก่อสร้างศาสนสถาน ภายในวัดจำนวนมาก อย่างไรก็ตามสำนักวัดประคู่ทรงธรรมเป็นสถานที่ประสาทวิชา แก่พระเกจิชื่อดังของเมืองกรุงเก่าเกือบทุกรูป
    นายชะลอ การสมพจน์ กรรมการวัดประดู่ทรงธรรม และอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนวัดประดู่ทรงธรรม กล่าวว่า ทางวัดประคู่ทรงธรรม กำหนดจัดงานพระราชทานเพลิงศพแด่ หลวงพ่อบุญนาค สีลสํวโร ในวันที่ 22 เมษายน นี้ โดยเป็นความเห็นร่วมของลูกศิษย์ ญาติของอดีตเจ้าอาวาส คณะสงฆ์ในวัด และคณะกรรมการวัดประคู่ทรงธรรม ซึ่งหลวงพ่อบุญนาค ได้มรณภาพลงเมื่อวันที่ 5 กันยายน พ.ศ.2532 รวมสิริอายุได้ 75 ปี พรรษา 53 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสองค์ที่ 9 ได้ 17 ปี และนับจากมรณภาพมีการจัดเก็บสังขารของท่านไว้ที่วัดประคู่ทรงธรรม จนถึงปัจจุบัน 23 ปีแล้ว และทางคณะกรรมการวัด จะทำการเปิดโลงศพในวันที่ 20 เมษายน 2555 เพื่อเตรียมงานพระราชทานเพลิงศพ เชื่อว่าสังขารของท่านไม่เน่าเปื่อย เนื่องจากท่านเป็นพระปฎิบัติดีปฎิบัติชอบ สมัยที่ท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสได้มีการสร้างเหรียญ หลวงพ่อบุญนาค เป็นเหรียญรูปไข่ เป็นเหรียญที่บรรดาลูกศิษย์ลูกหาได้เก็บไว้บูชาจนถึงปัจจุบันนับว่าเป็น เหรียญที่หายากเหรียญหนึ่งในวงการพระเครื่อง
    สำหรับ "วัดประดู่ทรงธรรม" เดิมชื่อ "วัดประดู่โรงธรรม" เป็นวัดโบราณในสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งสร้างเมื่อใดและใครเป็นผู้สร้างไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด แต่ในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา กล่าวออกชื่อวัดประดู่โรงธรรมเป็นครั้งแรก ในสมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม เมื่อปีพ.ศ.2163 จากหลักฐานดังกล่าวถ้าหากจะนับอายุของวัดประดู่ทรงธรรมตั้งแต่ พ.ศ. 2163 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน จะมีอายุถึง 392 ปี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงอายุอันยาวนาน มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของวัดเป็นอย่างดี.



    www.dailynews.co.th/thailand/18905

    ขอขอบคุณที่มาและข้อมูลจากเวป อย่างสูงครับ




    เหรียญหลวงปู่บุญนาค วัดประดู่ทรงธรรม อยุธยา


    ให้บูชา2องค์ครับ 700 บาทค่าจัดส่งEMS50บาท (ปิดรายการ)
    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ตุลาคม 2012
  12. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,708
    ค่าพลัง:
    +21,337
    พ่อแก่ พระอาจารย์หมอเล็ก จ.ตราด

    ให้บูชา 250 บาทค่าจัดส่งEMS50บาท

    [​IMG] [​IMG]
     
  13. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,708
    ค่าพลัง:
    +21,337
    <center>[​IMG]</center>
    <center></center>
    หลวง ปู่คง ฐิติปัญโญ ( พระครูคงคนครพิทักษ์ ) เจ้าคณะอำเภอคงกิตติมศักดิ์ และเจ้าอาวาสวัดตะคร้อ พระสุปฏิปันโน ปฏิบัติดีบฏิบัติชอบ ที่เคารพนับถือได้อย่างสนิทใจ แม้นแต่หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ ยังเคารพนับถือท่านเป็นครูบาอาจารย์รูปหนึ่ง ในช่วงที่หลวงปู่ยังไม่ละสังขาร ญาติโยม พุทธบริษัทที่มากราบนมัสการหลวงปู่ล้วนทราบในเมตตาอย่างหาที่สุดมิได้ของ ท่าน

    ประวัติของหลวงปู่โดยย่อ
    พระครู คงคนครพิทักษ์ (คง ฐิติปัญโญ) น.ธ.เอก ป.ธ.4 นามเดิม คง เทพนอก เกิดเมื่อวันอาทิตย์ ที่ 20 พฤษภาคม พุทธศักราช 2453 ปีกุน ณ บ้านคอนเมือง หมู่ 2 ตำบลเทพาลัย อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา เป็นบุตรของนายพูน และนางแย้ม เทพนอก ซึ่งมีอาชีพทำนา ทำไร่ หลวงปู่มีพี่น้อง ร่วมบิดา มารดา รวม 7 คน ท่านเป็นลูกคนโตจึงต้องทำงานหนัก ตรากตรำ มากกว่าคนอื่น ๆ ตั้งแต่เด็กจนโต หัดไถนา ปักดำ ถอนกล้า เกี่ยวข้าว และหาบข้าว จากนา มาบ้าน ช่วยบิดา มารดา ทำงานทุกอย่าง เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระ หน้าที่ ของท่านทั้งสอง

    ต่อมาโยมบิดา มารดาของท่านได้นำท่านไปฝากกับหลวงพ่อหมั่น ที่วัดบ้านคอนเมือง จ.นครราชสีมา เนื่องจากศรัทธาเพราะหลวงพ่อหมั่น ท่านเป็นพระบฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ และท่านเก่งทางวิชาอาคมมาก โดยเฉพาะวิชาอาคมของขอม และท่านยังธุดงค์ไปเขมรหลายครั้ง ทั้งๆที่ยุคนั้นภาคอิสานยังเป็นป่าดงดิบ เต็มไปด้วยสิงสาราสัตว์ และภูติผีปีศาจ ซ้ำเส้นทางคมนาคมก็ยังไม่มี ท่านจึงเป็นที่เคารพนับถือของคนแถบนั้น โดยวัดคอนเมืองนั้นไม่ห่างไม่ไกลกับบ้านของท่านนัก ด้วยโยมบิดาโยมมารดาต้องการให้ท่านได้เล่าเรียนหนังสืออ่านออกเขียนได้ และมีวิชาติดตัว ชีวิตเด็กวัด เด็กชายคง ก็ไม่เคยทิ้งทางบ้าน ถึงเวลาทำนา ทำไร่ ก็จะไปช่วยงาน คุณบิดา มารดา หลวงเล่าว่า ท่านทำทุกอย่าง ในสมัยนั้น ไม่ว่าจะไถนา ขุดดิน กั้น คันน หว่านข้าว เกี่ยวข้าว ตีข้าว ในใจของท่าน ไม่เคยมีคำว่า "ไม่ได้" มีแต่คำว่า "ได้" และสู้อดทน กับการทำหน้าที่ของตนอย่างเข้มแข็ง ที่วัดบ้านคอนเมือง เพื่อจะได้ศึกษา เล่าเรียน ปฐม ก กา ให้อ่านออกเขียนได้ ทั้งอักษรขอม อักษรไทย จนมีความชำนาญ ชีวิตเด็กวัดทำให้เด็กชายคงเป็นคนหนักเอาเบาสู้มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ การงานและครอบครัวและมีเมตตา

    เมื่ออายุได้16ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อปี พ.ศ.2470 บวชได้2ปี สามเณรคงก็ต้องลาสิกขา เหตุเพราะไม่มีคน โยมบิดาโยมมารดาของท่าน ต้องการได้กำลังท่านมาช่วยทำไร่ทำนา และเลี้ยงดูน้องๆ ด้วยหลวงปู่ท่านมีความเมตตา และห่วงใยทุกคนในครอบครัวท่านจึงตัดสินใจลาสิกขา และได้ช่วยโยมบิดาโยมมารดาทำนาทำไร่

    ต่อมา พ.ศ.2474 เมื่อน้องของท่านโตพอที่จะรับภาระหน้าที่ได้ หลวงปู่จึงได้บรรพชาเป็นพระภิกษุสงฆ์ ครองผ้ากาสาวพักสตร์ ตามความต้องการของโยมบิดาโยมมารดา ซึ่งในขณะนั้นหลวงปู่อายุ21ปี โดยความตั้งใจแต่ทีแรกท่านเพียงต้องการบวชเพื่อทดแทนคุณบิดามารดา และเป็นไปตามค่านิยมของท้องถิ่นที่ผู้ชายทุกคนต้องได้เคยบวชเรียนมาก่อนครอง เรือน โดยหลวงปู่อุปสมบท ณ วัดบ้านวัด ต.เทพาลัย อ.คง จ.นครราชสีมา โดยมีหลวงพ่อทุย ( พระครูศีลวิสุทธิพรต เจ้าอาวาสวัดเดิม อ.พิมาย ) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ทองสุข สุชาโต เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์ทิม สุมโน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ โดยได้รัยฉายาว่า "ฐิติปัญโญ" ซึ่งมีความหมายว่าผู้มีปัญญาตั้งมั่น

    เมื่ออุปสมบทแล้ว พระภิกษุคง ได้มาศึกษาเล่าเรียนกับหลวงพ่อทุย วัดเดิม อ.พิมาย พระอุปัชฌายาจารย์ของท่าน ซึ่งหลวงพ่อทุยนั้นเป็นเป็นพระภิกษุยุคโบราณที่เรืองวิทยาคม ขลัง และมีความศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่นับถือมาของคนพิมาย และคนโคราช และเมื่อมีเวลาว่างพระภิกษุคงได้ปรนนิบัติอุปัฏฐากหลวงพ่อทุย ด้วยฌาณสมบัติหลวงพ่อทุยมองเห็นว่าต่อไปในภายภาคหน้าพระภิกษุหนุ่มรูปนี้จะ เป็นกำลังสำคัญต่อไปในการเผยแพร่พระพุทธะศาสนาจึงถ่ายทอดวิชาอาคมทั้งหมดให้ แก่พระภิกษุหนุ่ม เมื่อได้ศึกษาวิชาความรู้ต่างๆมากพระภิกษุคงรู้ว่าต่อไปภาคหน้าตัวเองคงจะ ไม่ได้ลาสิกขา ด้วยเพราะภาระหน้าที่ต่างๆทางบ้านก็มีน้องๆสามารถรับผิดชอบได้ และหากท่านอยู่ในสมณะเพศท่านจะสามารถทำประโยชน์ให้ต่อพระศาสนาได้มาก

    พ. ศ 2480 หลวงพ่อทุยได้แนะนำให้พระภิกษุคง ได้ไปศึกษาเล่าเรียนกับกับหลวงพ่อเขียว ( พระครูปทุมญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดบัวใหญ่ อ.บัวใหญ่ ) ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อทุยเช่นกัน โดยหลวงพ่อเขียวท่านมีวิชาที่เก่งกาจและมีความศักดิ์สิทธิ์มาก โดยท่านเก่งทางวิชามหานิยมนะจังงัง และทางแคล้วคลาด หลวงพ่อทุยเห็นว่าได้ถ่ายทอดวิชาความรู้ให้แก่พระภิกษุคงหมดแล้ว และเล็งเห็นว่าหากได้มีโอกาสไปศึกษาเล่าเรียนกับศิษย์พี่ที่เก่งกาจ จะเป็นประโยชน์กับพระหนุ่มที่ต่อไปภายภาคหน้าจะเป็นผู้นำกองทัพธรรมที่สำคัญ ของกองทัพธรรมภาคอิสาน พระภิกษุหนุ่มจึงได้มากศึกษาและรับใช้งานทุกอย่างที่วัดบัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ท่านได้รับใช้และอุปัฏฐากหลวงพ่อเขียว จนกระทั่งได้รับความไว้วางใจให้เป็นเลขานุการของหลวงพ่อเขียว ที่วัดบัวใหญ่นี้พระภิกษุหนุ่มได้ศึกษาวิชาความรู้ และคาถาอาคมต่างๆจนมีความเชี่ยวชาญ พระภิกษุหนุ่มได้รับการถ่ายทอดวิชาที่เข้มขลังทั้งหมด โดยเฉพาะวิชามหานิยมนะจังงัง และวิชาทางแคล้วคลาด ในขณะที่พระภิกษุหนุ่มรับใช้อยู่ที่วัดบัวใหญ่นี้ ท่านขึ้นชื่อว่าเป็นพระที่เทศน์ได้เก่งมากๆจนได้รับกิจนิมนต์ให้ไปเทศน์ใน ถิ่นธุระกันดารเสมอๆ ซึ่งเป็นการฝึกตนเองให้กับพระภิกษุหนุ่ม เพราะแถบอำเภอบัวใหญ่ในยุคนั้นยังเต็มไปด้วยป่าไม้และสิงสาราสัตว์ ซึ่งมีทั้งเสือ มีทั้งช้าง และโจรป่า และในช่วงนี้พระคงยังได้มีโอกาสออกธุดงค์ไปทั้งลาว และเขมร ซึ่งการเดินทางในยุคนั้นยากลำบากมาก เพราะภาคอิสานเต็มไปด้วยป่าดงดิบ ไม่ได้ถูกตัดไม้ทำลายป่า และมีถนนหนทางเช่นทุกวันนี้ ดังนั้นพระภิกษุที่ออกธุดงค์ได้จะต้องมีวิชาที่เก่งกาจและศักดิ์สิทธิ์มากๆ

    พ. ศ.2493 เมื่อตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดตะคร้อ อ.คง จ.นครราชสีมาว่างลง หลวงพ่อเขียวเห็นว่าพระหนุ่มนี้มีความสามารถที่จะรับตำแหน่งนี้ได้ จึงสนับสนุนให้พระหนุ่มได้มีโอกาสดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดตะคร้อแม้นพระ หนุ่มจะรับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดตะคร้อแล้ว เมื่อมอบหมายงานเรียบร้อยท่านมักหาเวลาเพื่อมาอุปัฏฐากหลวงพ่อเขียวเสมอๆ จวบจนกระทั่งท่านมรณะภาพ

    ตั้งแต่พระหนุ่มได้มาปกครองวัดตะคร้อ วัดตะคร้อในยุคนั้นเป็ยวัดยากจนเพราะชาวบ้านแถบวัดนั้นยากจน และแถบอำเภอคงนั้นจัดได้ว่าเป็นอำเภอที่ธุระกันดารที่สุดในยุคนั้น พระหนุ่มต้องรับกิจนิมนต์ไปในถิ่นธุรกันดารเสมอๆ โดยพาหนะที่คำคัญในยุคนั้นคือม้า หลวงปู่เคยเล่าว่าช่วงนั้นแถบอำเภอคงเป็นป่าดงดิบ เวลาได้รับกิจนิมนต์ ม้ามันจะไม่ค่อยกล้าออกเดินทาง เพราะแถบนั้นมีเสือหลายตัว เวลาม้าได้กลิ่นเสือมันจะตื่นกลัวตลอดเวลา ท่านว่าท่านต้องเองเปลือกมะนาวไปถูจมูกม้าให้มันไม่ได้กลิ่นเสือ จึงยอมเดินทาง ท่านทั้งต้องบริหาร ต้องปกครอง ดูแลพระลูกวัด จากวัดยากจนไม่มีอะไรเลย หลวงปู่ได้สร้างเสนาสนะต่าง พระอุโบสถ โรงเรียนพระปริยัติธรรม ฯลฯ จนกระทั่งได้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่างของกระทรวงศึกษาธิการ โดยหลวงปู่ท่านไม่สะสมเงินทอง ท่านไม่มีเงินทองของตัวเองเลย เงินที่ได้จากการเช่าวัตถุมงคลทุกบาททุกสตางค์เข้าในบัญชีของวัด และเมื่อสร้างอะไรในวัดหลวงปู่จะย้ายไปจำวัดที่นั่นด้วยต้องการให้งานก้าว หน้า เพราะหลวงปู่เกรงว่าทุกครั้งที่อาพาธมักจะมีอาการหนัก หลวงปู่เกรงงานที่คั่งค้างจะทำไม่สำเร็จ ทุกครั้งที่อาพาธลูกศิษย์จะแย่งกันออกค่ารักษาพยาบาล เพราะหลวงปู่ไม่เก็บสะสมอะไรเลย

    หลวงปู่คง วัดตะคร้อนับเป็นพระสุปฏิปันโน ปฏิบัติดีบฏิบัติชอบ ที่เคารพนับถือได้อย่างสนิทใจ ด้วยวัตรปฏิบัติที่งดงามน่าเลื่อมใส หลวงปู่มีวิชาอาคมที่เข้มขลัง และศักดิ์สิทธิ์ทุกรุ่น ทุกชิ้น และมากด้วยประสบการณ์ สมัยที่ท่านยังไม่ละสังขาร หลวงปู่กับกิจนิมนต์โดยไม่เลือกยากดีมีจน ชาวบ้านหรือคหบดี ทุกคนที่มากราบนมัสการหลวงปู่ หลวงปู่จะมอบวัตถุมงคลให้คนละกำมือ

    เมื่อ ครั้งที่ข้าพเจ้าได้มีบุญวาสนาได้บวชกับหลวงปู่ ( พ.ศ.2541 ) เมื่อครบกำหนดลาสิกขา หลวงปู่ได้มอบวัตถุมงคลให้จำนวนหนึ่ง ในขณะนั้นข้าพเจ้าไม่ได้สนใจในวัตถุมงคลแต่ก็ทราบว่าหลวงปู่มีวิชาเข้มขลัง มีความศักดิ์สิทธิ์ มีลูกศิษย์ที่เคารพนับถือมากมายทั่วประเทศทั้งภิกษุสงฆ์ด้วยกัน และฆาราวาสพุทธบริษัททั้งหลาย จึงได้วัตถุมงคลนั้นไว้ในพานทอง ต่อเมื่อปีนี้( พ.ศ.2550 ) ข้าพเจ้าจึงสนใจเรื่องวัตถุมงคล โดยเฉพาะของหลวงปู่เพราะเป็นศิษย์ของท่านและรักเคารพท่านมาก เมื่อเปิดจากหนังสือทราบว่าท่านมีพระสมเด็จ ก็เกิดอยากได้พระสมเด็จของท่านมาก จึงไปดูที่พานทองปรากฏว่ามีพระสมเด็จอยู่องค์หนึ่ง เดือนต่อมาเมื่อศึกษาวัตถุมงคลมากเข้าข้าพเจ้าก็อยากได้พระกริ่งของหลวงปู่ ข้าพเจ้าจึงไปดูที่พานทองอีก ปรากฏว่ามีพระกริ่งอยู่องค์หนึ่ง หลายเดือนต่อมาข้าพเจ้าประมูลเหรียญหนึ่งของหลวงปู่ทองอินเตอร์เน็ต แต่ประมูลไม่ได้เนื่องจากข้าพเจ้าลืมมาเช็คว่ามีใครให้ราคาสูงกว่าหรือไม่ พอไม่ได้ข้าพเจ้าจึงไปเปิดหนังสือดูว่าเหรียญที่ข้าพเจ้าประมูลนั้นเป็นรุ่น ใด พอเปิดแล้วทราบว่าเป็นเหรียญรูปอาร์มรุ่นเสาร์ห้า ปี 2539 ข้าพเจ้าก็มีความเสียดายที่ประมูลไม่ได้ ข้าพเจ้าจึงไปดูที่พานทองปรากฏว่ามีเหรียญนี้อยู่ด้วยจริงๆ ข้าพเจ้าศรัทธาอย่างแท้จริงว่าหลวงปู่ทราบด้วยฌาณสมาบัติของท่าน ว่าต่อไปในภายภาคหน้าข้าพเจ้าจะต้องการวัตถุมงคลใด และหยิบให้

    หลวง ปู่สร้างประโยชน์คุณาประการแก่พระพุทธศาสนา ทำให้ชาวพุทธมีความมั่นในธรรม ท่านอบรมกุลบุตรมากมายทั่วประเทศที่ส่งมาให้ได้มีโอกาสบวชเรียนกับท่าน ที่วัดตะคร้อมีโรงเรียนพระปริยัติธรรมทำให้เป็นความสะดวกแก่พระภิกษุสงฆ์ได้ ศึกษาเล่าเรียน วัดใดมีเจตจำนงค์ต้องการให้หลวงปู่สร้างวัตถุมงคล เพื่อแจกจ่ายแก่ผู้บริจาคทรัพย์เพื่อสร้างวัดต่างๆ ขอให้หลวงปู่สร้างและอธิษฐานจิตให้ หลวงปู่ก็เมตตาทุกวัดที่ขอมา

    ปัจจุบัน หลวงปู่ละสังขารแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 แต่หลังจากหลวงปู่ละสังขารปรากฏว่าสังขารท่านไม่เน่าไม่เปื่อย นอกจากนั้นเกศาและเล็บของท่านยังงอกยาวขึ้นทุกปี สังขารของท่านเก็บรักษาที่วัดตะคร้อ ให้ญาติโยมที่เคารพศรัทธาท่านได้กราบนมัสการ และทางวัดได้ดำริสร้างมลฑป เพื่อเก็บรักษาสังขารของหลวงปู่ โดยจะมีพิธีวางศิลาฤกษ์สร้างวันที่18 พ.ย. 2550

    <center>[​IMG]</center>
    <center></center>
    ปี พ.ศ.2509 หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา กราบนมัสการหลวงปู่คง วัดตะคร้อ เป็นครูบาอาจารย์ และศึกษาเล่าเรียนสรรพวิชากับหลวงปู่คง ณ วัดตะคร้อ อ.คง จ.นครราชสีมา

    <center>[​IMG]</center>
    <center></center>
    ปี พ.ศ.2537 หลวงพ่อคูณ กราบนมัสการหลวงปู่คง ณ วัดตะคร้อ
    เนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบ7รอบ เมื่อปี พ.ศ.2537
    พร้อมทั้งมอบเงินร่วมบุญแก่หลวงปู่คงสามหมื่นบาท
    วัตถุมงคลรุ่นฉลองอายุ7รอบ พ.ศ.2537 จึงเข้มขลัง
    เพราะเป็นวัตถุมงคลที่ทั้งศิษย์และอาจารย์ร่วมอธิษฐานจิต

    ฟังมาจากลูกศิษย์ก้นกุฏิของหลวงปู่เล่าให้ฟังว่า
    ขณะนั้นกำลังบีบนวดหลวงปู่อยู่ อยู่ๆหลวงปู่ก็ลุกขึ้นครองผ้าเรียบร้อย
    เขาจึงถามหลวงปู่ว่าจะมีแขกหรือครับ
    หลวงปู่พูดว่า "ไอ้คูณกำลังจะมา"
    สักพักใหญ่ๆ หลวงพ่อคูณก็เดินทางมาที่กุฏิหลวงปู่จริงๆ
    ท่าน และหลวงพ่อคูณเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจนสามารถสื่อสารจิตถึงกันได้

    <center>[​IMG]</center>
    <center></center>
    หลวงปู่ถอดจิตไปธุดงค์โปรดสัตว์
    ครั้งหนึ่งมีชาวจังหวัดลำปางคนหนึ่งได้โทรศัพย์ติดต่อมาที่วัดตะคร้อ
    ว่าได้พบพระชรารูปหนึ่งมาธุดงค์แถบนั้นและเขาได้เข้าไปนมัสการ
    ด้วยเห็นว่าท่านมีสมณะสารูปน่าเคารพเลื่อมใสศรัทธา
    และทราบภายหลังว่าท่านชื่อหลวงปู่คง วัดตะคร้อ จ.นครราชสีมา
    จึงได้ติดต่อมายังวัดว่าทำไมให้หลวงปู่มาธุดงค์ไกลขนาดนั้น
    เพราะหนทางธุรกันดาร เกรงว่าหลวงปู่จะได้รับอันตราย
    และไม่เหมาะสมกับสุขภาพของท่าน
    แต่ทางวัดได้แจ้งกลับไปว่าหลวงปู่ไม่ได้ไปไหน หลวงปู่อยู่ที่วัด
    และตอนนี้กำลังเข้าฌาณสมาธิ

    ต่อมาชายคนดังกล่าวจึงได้มากราบนมัสการท่านที่วัดตะคร้อ
    และเขามั่นใจว่าพระภิกษุที่เขาพบขณะธุดงค์ที่ลำปางนั้น
    เป็นรูปเดียวกันกับที่เขามานมัสการที่วัดตะคร้อ และศรัทธาท่านอย่างมาก
    จึงได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดใหเทางวัดทราบ

    และต่อมาทางวัดได้จัดสร้างเหรียญรุ่นหนึ่งเป็นเหรียญรุ่นฉลองหอระฆัง ปี36
    ทำเป็นเหรียญรูปหลวงปู่เดินธุดงค์


    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลและที่มาอย่างสูงครับ


    ตะกรุดโทน หลวงพ่อคง วัดตะคร้อ ดอกนี้รับมากับมือ

    ยังอยู่สภาพเดิมๆ ไม่ได้แกะเชือกออกมา วัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์ด้านคุ้มครองคง

    กระพันหนังเหนียวเป็นที่โด่งดังมีข่าวลงหนังสือพิมพ์เมื่อ30-40ปีก่อน

    ให้บูชา 1500บาทครับ (ปิดรายการ)

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ตุลาคม 2012
  14. kiati_sak

    kiati_sak เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    7,379
    ค่าพลัง:
    +13,255
    เหรียญหลวงปู่บุญนาค วัดประดู่ทรงธรรม อยุธยา


    ให้บูชา2องค์ครับ 700 บาทค่าจัดส่งEMS50บาท
    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    ผมขอรับไว้เองทั้ง 2 เหรียญนะครับ คุณjumbo a คิดผมเท่าไร อยากได้ เพราะเคยไปกราบท่าน ตอนที่ท่านยังอยู่ ได้มีดหมอ เสือ แล้วก็ผ้ายันต์ ท่านมาด้วย
     
  15. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,708
    ค่าพลัง:
    +21,337
    .................2องค์ให้บูชา700 สำหรับท่านพี่ 1400 ครับ

    พี่......... ผมหมดชุดนี้ผมก็หมดแล้วครับ เคยลงเหรียญเหลี่ยมไป 1 เหรียญ

    เสียดายคนไม่ค่อยรู้จักท่านอยุธยาครูบาอาจารย์เยอะมากๆครับ

    บางองค์เงียบไปเลย หลวงปู่เชิญวัดโคกทอง หลวงปู่เฉย วัดบางคล้า

    หลวงพ่อตั๋ง วัดโพธิ์เอน ...............หลวงปู่ฟื้นวัดโพธิ์เผือก
     
  16. civicnoi

    civicnoi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +221
    ตะกรุดโทน หลวงพ่อคง วัดตะคร้อ

    ขอจองครับ
     
  17. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,708
    ค่าพลัง:
    +21,337
    รับทราบครับ ขอบคุณครับ
     
  18. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,708
    ค่าพลัง:
    +21,337
    พระประจำวันวัดเทพากร 2515 หลวงพ่อกวยร่วมเสก พิธีดีครับ

    ให้บูชา 400 บาทค่าจัดส่ง EMS 50 บาทครับ


    [​IMG] [​IMG]
     
  19. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,708
    ค่าพลัง:
    +21,337
    หลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต นามเดิมคือ จันทร์ ไชยคุตร

    เกิดเมื่อ วันจันทร์ แรม 12 ค่ำ เดือน 8 ปีมะโรง จุลศักราช 1266 ตรงกับวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ.2447 บ้านคูเมือง อ.มหาชนะชัย จ.อุบลราชธานี

    ท่านมีพี่ น้องรวม 7 คน ท่านเป็นคนที่ 6 ท่านบวชตั้งแต่เป็นเณร เมื่ออายุ 16 ปีที่วัดบูรพาราม อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น วันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ.2463 และท่านมาบวชาพระอีกครั้งเมื่อ วันที่ 5 กรกฏาคม พ.ศ.2471 ได้รับฉายา**เขมปัตโต**ที่วัดบางขวาง จ.นนทบุรี

    ท่านได้ศึกษาพระธรรมวินัยจนสอบได้นักธรรมเอก ท่านเป็นครูสอนนักธรรม ยามว่างจากสอนท่านก็หมั่นฝึกกรรมฐานเป็นประจำ

    จาก นั้นพ.ศ. 2474 ท่านก็ได้พิจารณาดูแล้วว่า อันวัดบางขวางนั้น ถ้าจะอยู่ทำความเพียรต่อไป ย่อมหาความสงบยาก ประกอบกับในสมัยนั้นชื่อเสียงของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต

    และ ท่านพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม โด่งดังมากเป็นที่รู้จัก ในวงกรรมฐานเป็นอย่างมากท่านก็กลับสู่ภาคอีสาน เดินทางไปพบพระอาจารย์สิงห์ที่โคราช เพื่อรับข้อธรรมและช่วยพระอาจารย์สิงห์

    และจากนั้นท่านก็เดินทางไปรับธรรมะปฏิบัติจากพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต หลังจากที่ได้รับอุบายธรรมจากพระอาจารย์มั่นแล้ว ท่านก็ออกวิเวก ธุดงค์ไปทั่ว อยู่ตามป่าเขาเพียงลำพังองค์เดียว

    เพื่อเจริญวิปัสสนากรรมฐานอยู่ทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาว จนสุดท้ายท่านก็อยู่ที่วัดจันทาราม จ.หนองคาย

    ตัวอย่าง ข่าวดังสมัยก่อนว่า (มาจากหนังสือพระเครื่องสมัยปีหนึ่งกว่าๆ)

    คือ เมื่อเอยถึงหลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต แล้วน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักท่าน เหตุว่า ท่านเคยมีข่าวเกรียวกราวลงทางหน้าหนังสือพิมพ์ ซึ่งสร้างความน่าทึ่งมหัศจรรย์ ให้แก่วงการแพทย์ของเมืองไทยมาแล้ว

    เรื่อง มีอยู่ว่าลูกชายของนายพลท่านจากฝั่งลาว เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ เศษกระจกเข้าดวงตา รักษาหมอแผนปัจจุบันก็ไม่ดีขึ้น และในช่วงนั้นชื่อเสียงของหลวงปู่จันทร์และน้ำมนต์ท่านดังมาก

    จึงพา มาหาให้หลวงปู่จันทร์เมตตา รักษาให้ ท่านจึงเพ่งกระแสจิตรักษาให้ ก็ทันใดนั้นเศษกระจกละลายกลายเป็นน้ำตาไหลออกมา โดยไม่ต้องผ่าตัด ดวงตามองเห็นได้ตามปรกติ และบารมีท่านสมัยนั้นก็ไม่ธรรมดาครับ ต้องนิมนต์ท่านไปช่วยสร้างวัดสารนาท ที่จ.ระยองด้วยครับ

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลและที่มาอย่างสูงครับ

    เหรียญหลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต ออกวัดสารนารถ ผสมมูลเหล็กไหล บางสายว่าหลวงปู่ทิม

    ร่วมปลุกเสกด้วย อันนี้ไม่แน่ใจ ไม่แน่ชัดครับแต่ลำพังหลวงปู่จันทร์พระอรหันต์สายระป่า

    หลวงปู่มั่นอธิฐาจิตแล้วไม่ธรรมดา เหรียญนี้สภาพผ่านการบูชา

    ให้บูชาองค์ละ 600 บาทค่าจัด
    ส่งEMS50บาทครับ


    [​IMG] [​IMG]
     
  20. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,708
    ค่าพลัง:
    +21,337
    สุดยอดพระเครื่องแห่งกรุงรัตนโกสินทร์สร้างอย่างมากปีละครั้ง จากชนวนมวลสารอันศักดิ์สิทธิ์และหาได้ยากยิ่งจากทั่วทุกภาคของประเทศไทย นำมาบดสร้างเป็นองค์พระจนได้คำขวัญที่ว่า รูปแบบสวย มวลสารดี พิธีการเยี่ยม ประสบการณ์ยอด พระพุทธคุณสูงและได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษกจากพระคณาจารย์ชื่อดังมาแล้วหลาย ครั้งหลายหนจนเกิดอภินิหารย์ และมีประสบการณ์ต่าง ๆ ขึ้นมาแล้วอย่างมากมายทั้งในเมืองไทย และต่างประเทศซึ่งเป็นพระเครื่องที่มีกรรมวิธีการสร้างอย่างวิจิตรพิสดาร ยิ่งนัก ยากที่จะมีใครมาปลอมแปลงให้เหมือนได้>>
    พระอาจารย์สมชาย สัญญจิตโต ผู้สร้างพระคู่ชีวิตให้เป็นเพชรน้ำเอก ของ จว.เพชรบูรณ์ เมื่อสมัยตอนเป็นเด็กท่านเป็นผู้ที่มีจิตใจฝักใฝ่ในธรรมมาโดยตลอด ได้ปฏิบัติสมาธิจิต และวิชาคาถาอาคมมาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ เมื่อตอนบวชท่านได้ฉายาว่า “ หมอดูเทวดา ” เพราะเมื่อมีญาติโยมที่ตกทุกข์ได้ยากมาขอความช่วยเหลือและขอความอนุเคราะห์ พร้อมทั้งขอคำปรึกษาเรื่องต่าง ๆ จากท่าน ท่านก็จะแนะนำเขาไปตามดวงชะตา พร้อมทั้งแก้ไขให้จนทุก ๆ คน พ้นทุกข์ และมีแต่ความสุขความเจริญขึ้นตามลำดับ>>
    แต่ท่านเป็นพระที่ชอบสันโดษ ท่านจึงตัดสินใจออดธุดงค์เดี่ยวไปตามป่าเขาและถ้ำต่าง ๆ ได้พบกับเรื่องราวอันมหัศจรรย์และเร้นลับต่างๆ มาอย่างมากมายแต่ท่านก็ไม่ยึดติดอยู่กับเรื่องราวเหล่านี้ จนวันหนึ่งขณะที่ท่านกำลังปฏิบัติธรรมอยู่นั้น ท่านได้นิมิตว่า มีเทวดาองค์หนึ่งแต่งชุดสีเขียวมีรัศมีสีทองแพรวพราว ได้เข้ามานั่งสนธนาธรรมกับท่านเป็นเวลานาน และได้บอกกับท่านว่า ไม่มีใครที่จะสามารถตัดกรรม หรือหลีกเลี่ยงจากผลกรรมต่าง ๆ ได้ ไม่มีใครที่จะล้างกรรมหรือทำลายอาถรรพณ์ต่าง ๆ ที่ติดตัวมาได้ พิธีกรรมต่าง ๆ ที่มนุษย์ทำกันขึ้นมา เป็นเพียงพิธีทางการของความเชื่อเท่านั้น แต่กรรมที่ไม่ดี และอาถรรพณ์ต่าง ๆ จะคลายลงไปบ้าง ถ้าหมั่นปฏิบัติธรรมและสร้างสมแต่คุณงามความดีอยู่ตลอดเวลา หรือให้พระอริยสงฆ์เจ้าผู้มีจิตใจบริสุทธิ์ แผ่เมตตา>>
    อฐิษฐานจิตให้ แต่มีสิ่งของบางอย่างที่พระอรหันต์สาวกเจ้า ผู้ประเสริฐได้สร้างขึ้นแล้วอฐิษฐานจิตไว้ เพื่อให้ดำรงค์คงอยู่คู่กับพระพุทธศาสนาตลอดไป และให้รอดพ้นจากอาถรรพณ์ของหมู่มารทั้งปวง แม้แต่ พรหม เทพ และเทวดา ทุกชั้นฟ้าชั้นดิน ก็ยังต้องลงมาเฝ้าปกปักรักษากราบไหว้ บูชาสักการะอยู่เป็นประจำ ของพวกนี้เป็นของแก้อาถรรพณ์ต่าง ๆ ได้ มีความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัวเอง มีพลังคุ้มครองสูง และไม่มีวันเสื่อมสลายลงไปได้ เพราะพระอรหันต์เป็นผู้อฐิษฐานจิตเอาไว้ สิ่งของต่าง ๆ เหล่านี้จะมีอยู่ตามสถานที่ต่าง ๆ กัน จะมีเทวดาคอยปกปักรักษาอยู่ ผู้มีบุญวาสนาเท่านั้นถึงจะไปขอเอามาได้ และถ้านำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ นั้น มาสร้างเป็นรูปขององค์พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าในรูปแบบของ “ นวโลกุตระธรรม ” แล้วหมั่นกราบไหว้บูชา หมั่นทำบุญสร้างกุศลและทำแต่คุณงามความดีตลอดไปบุคคลผู้นั้นจะพ้นจากกอง ทุกข์และภัยพิบัติทั้งปวง จะมีแต่ความสุขความเจริญก้าวหน้า >>
    ศาสตราวุธทุกชนิด ไม่อาจจะเข้ามากล้ำกรายได้ สัตว์ร้ายทุกชนิดจะถอยไกลไม่กล้าเข้าใกล้ ศัตรูทั้งหลายจะแพ้ภัยไปเอง อีกทั้งยังเป็นที่รักของหมู่เทพเทวดาและสัตว์โลกทั้งปวงอีกด้วย ทั้งยังสะกดความอัปมงคลของ ใฝ ปาน >>


    ขี้แมลงวัน ในที่ลับที่แจ้งที่ไม่ดีได้ อำนาจแห่งคุณไสยศาสตร์ฝ่ายต่ำและวิญญาณอันชั่วร้ายทั้งปวงจะไม่กล้าเข้ามา ใกล้ ศัตรูจะกลับใจมาเป็นมิตรด้วย>>
    คำว่า “ นวโลกุตระธรรม ” หมายถึง ธรรมชั้นสูงของผู้ที่ปฏิบัติธรรมเริ่มต้นจากพระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์ แบ่งออกเป็น 2 อย่างคือ 1. มรรค คือการปฏิบัติธรรม 2. ผล คือการปฏิบัติธรรมที่ทำได้แล้วจริง นิพพานหมายถึงดินแดนที่ห่างไกลจากกิเลศทั้งปวงพระอรหันต์เจ้าผู้ละสังขารจาก โลกมนุษย์ไปแล้ว จะมาปฏิบัติธรรมชุมนุมกันอยู่ ณ ดินแดนแห่งนี้ รวมเรียกว่า มรรค 4 ผล 4 นิพพาน 1 และยังหมายถึงดวงดาวทั้ง 9 ได้อีกด้วย คือ ดาวอาทิตย์, ดาวจันทร์, ดาวอังคาร, ดาวพุธ, ดาวพฤหัส, ดาวศุกร์, ดาวเสาร์, ดาวเกตุ, ดาวราหู ความหมายนี้คือปุ่มทั้ง 9 ซึ่งมีอยู่ข้างองค์พระคือข้างซ้าย 4 ปุ่ม ข้างขวา 4 ปุ่ม และอีก 1 ปุ่ม อยู่เหนือเกศาขององค์พระขึ้นไป ตัวอุณาโลมทั้ง 2 ข้าง ที่อยู่เหนือปุ่มข้างซ้ายและปุ่มข้างขวา หมายถึงผู้ซึ่งกำลังปฏิบัติธรรมอยู่ในชั้นไหน ๆ ก็ตามถ้าท่านมีความเพียรและตั้งใจจริงโดยไม่ย่อท้อต่อความทุกข์ยากลำบากทั้ง ปวง โดยใช้ปัญญาในการพิจารณาไตร่ตรองในบทธรรมต่าง ๆ ที่ท่านได้ศึกษามา สักวันหนึ่งท่านจะประสบกับความสำเร็จในธรรมต่าง ๆ นั้น ตามภูมิธรรม ภูมิปัญญาของท่าน สักวันหนึ่งสิ่งที่ท่านมุ่งหวัง และตั้งใจจริงในบทธรรมนั้น ๆ ท่านจะบรรลุผลตามที่ท่านได้ตั้งใจเอาไว้แล้ว>>
    “ รูปพระพุทธเจ้าเป็นปางตรัสรู้ ” หมายถึงพรพุทธเจ้าเป็นผู้มีปัญญารอบรู้ในกฎแห่งธรรมชาติ ทรงตรัสรู้เองโดยชอบ ทรงเป็นผู้พ้นจากกองทุกข์และกิเลศทั้งปวง อีกทั้งยังทรงเป็นบรมครูผู้นำธรรมมะมาสอนให้แก่มนุษย์ พรหม เทพ เทวดา และเหล่าสรรพสัตว์โลกทั้งหลายทั้งปวงด้วย เพื่อที่จะดึงให้พวกเขาทั้งหลายได้พ้นจากทุกข์ทั้งปวงเหล่านั้นด้วย และยังรู้ซึ้งถึงสัจธรรมที่แท้จริงว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกเป็นสิ่งที่ไม่ แน่นอนไม่มีจีรังยั่งยืน สังขารทั้งหลายทั้งปวงย่อมมีการเปลี่ยนแปลงและแตกสลายไปตามกาลเวลา แม้แต่ชีวิตของมนุษย์ พรหม เทพ เทวดา และเหล่าสรรพสัตว์โลกทั้งหลายก็เช่นกัน สังขารย่อมมีการแตกสลายไปเมื่อถึงเวลา >>
    “ ส่วนยอดเกตุที่อยู่สูงขึ้นมาคือ ฉัพพรรณรังสีของพระพุทธเจ้า ” หมายถึงรัสมีของพระพุทธองค์ซึ่งทรงแผ่ความเมตตาและพลังคุ้มครองให้กับผู้ที่ ระลึกนึกถึงคำสั่งสอนของพระพุทธองค์และปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเจริญรอยตามพระ พุทธองค์ต่อไป รูปบัวคว่ำ – บัวหงาย ใต้ฐานพระแทนอาสนะนี้ นี้เป็นรูปบัวบานมี 3 กลีบ และ 5 กลีบ บัวคว่ำ 3 กลีบ หมายถึง พระไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา บัวหงาย 3 กลีบ หมายถึง คุณffice:smarttags" />พระศรีรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บัวคว่ำ 5 กลีบ หมายถึง รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ บัวหงาย 5 กลีบ หมายถึง พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ คือ พระกฤสันโธพุทธเจ้า, พระโกนาคมนพระพุทธเจ้า, พระกัสสปะพระพุทธเจ้า, พระโคดมพระพุทธเจ้า และ พระศรีอาริยเมตไตย์พระพุทธเจ้า>>
    ส่วนดอกบัวที่อยู่ใต้ปุ่มข้างล่างทั้ง 4 ทัง 2 ข้าง นั้น เปรียบได้กับบัว 4 เหล่า คือ 1. บัวที่อยู่ใต้โคนตม 2. บัวที่เริ่มจะโผล่พ้นโคลนตมขึ้นมานิดหน่อย 3. บัวที่โผล่พ้นจากโคนตมแล้วแต่ยังอยู่ใต้น้ำอยู่ 4. บัวที่โผล่พ้นผิวน้ำแล้วและรอวันที่จะเบ่งบานต่อไป ในที่นี้หมายถึงดอกบัวดอกที่ 4 นั่นเอง ส่วนรูปสี่เหลี่ยมของพิมพ์พระหมายถึงธาตุทั้ง 4 คือ ดิน,น้ำ, ลม, ไฟ ส่วนรูปกลมของพิมพ์พระ หมายถึงโลกธาตุ คือการรวมเอาทุกสรรพสิ่งที่มีอยู่ในโลกนี้มารวมกันไว้ในโลกนั่นเอง>>
    ตัวยันต์นะครูด้านหลังองค์พระนั้นเรียกว่า ยันต์พระศาสดา ปุ่มตรงกลางหมายถึงหัวใจ เส้นที่ลากโค้งและหักมุมด้านล่างหมายถึง ตับไตใส้พุงและอวัยวะภายใน ปุ่มข้างล่างหมายถึงจุดกำเนิดซึ่งอยู่กลางลำตัวคือ อยู่เหนือสะดือขึ้นไป เส้นที่หยักด้านข้างทั้งซ้ายและขวาเปรียบเสมือนกับองค์พระศาสดา เส้นที่ลากโค้งลงมาด้านล่างใต้องค์พระคือบัลลังก์หรืออาสนะที่รองประทับของ องค์พระศาสดา เส้นที่ลากไปด้านข้างองค์พระแล้วขมวดวนหยักเป็นตัวอุณาโลมขึ้นไปหมายถึง ฉัพพรรณรังสี ขององค์พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เปล่งประกายรัศมีออกมา เพื่อคุ้มครองโลกและเหล่าสรรพสัตว์โลกทั้งปวงที่กำลังปฏิบัติธรรมอยู่ และระลึกนึกถึงคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ให้รอดพ้นจากอันตรายและภัยภิบัติทั้ง ปวง>>
    เมื่อพระอาจารย์สมชาย ได้ทราบถึงคุณวิเศษ และปริศนาธรรมอันลึกซึ้งขององค์พระแล้วท่านจึงได้ออกเดินทางไปตามสถานที่ ต่าง ๆ เพื่อเก็บรวบรวมเอามวลสารศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ มารวมเอาไว้ด้วยกัน ซึ่งการไปหาสิ่งของต่าง ๆ นี้เป็นไปด้วยความยากลำบากจริง ๆ ของบางอย่างอยู่ในถ้ำลึก ของบางอย่างอยู่บนยอดเขาสูงชัน ท่านต้องไปพำนักอยู่ในสถานที่นั้น อยู่หลายวันแล้วอธิษฐานจิตขอเอาจึงได้มา (ซึ่งเคยมีผู้เอาของจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ไปแล้ว แต่ก็ต้องนำกลับมาคืนกันหมดเพราะเจ้าของเขาคือวิญญาณที่เฝ้ารักษาอยู่ไปเข้า ฝัน บางทีก็ไปเข้าทรงบอกว่าให้เอาของมาคืนไม่อย่างนั้นจะมาเอาชีวิตของคนที่เอา ของไปแทน) บางครั้งท่านต้องนุ่งสบงเพียงตัวเดียวแล้วเดินลุยเข้าไปในดงต้นหนาม ยอมให้ต้นไม้ซึ่งมีหนามแหลมคมเกี่ยวเอาจนเป็นริ้วรอยเต็มไปหมด เพราะถ้าใส่อังสะหรือจีวรเข้าไปแล้วถูกหนามเกี่ยวจะขาดหมด ท่านจึงต้องนุ่งสบงแล้วโจงกระเบนเข้าไปแทน เมื่อผ่านดงหนามเข้าไปแล้วก็เป็นหลุมงู คือจะเป็นสถานที่งูมาชุมนุมกันอยู่ ณ สถานที่นี้ เพื่อเฝ้ารักษาสิ่งของบางอย่างอยู่ แต่เมื่อพระอาจารย์สมชาย อธิษฐานจิตเพื่อขอสิ่งของสิ่งนี้แล้วท่านได้นั่งสมาธิแผ่เมตตาจิตออกไป สักครู่หนึ่งปรากฏว่างูเหล่านั้นเลื้อยหายไปตามรูและรอยหินหมด เมื่อได้สิ่งของมาแล้วท่านก็จะเอามารวมกันแล้วเริ่มออกไปหาสิ่งของต่าง ๆ มาอีก บางทีต้องลงไปในถ้ำซึ่งลึกมากในถ้ำมีลำธารน้ำไหลต้องลุยน้ำไปขึ้นอีกฝั่ง หนึ่งของถ้ำแล้วเดินขึ้นไปอีกไกลจนถึงสุดทางถ้ำมีหน้าผาสูงชัน ต้องปีนขึ้นลงเป็นชั้น ๆ ไป แต่ท่านก็ลงไปเอาสิ่งของในถ้ำ แต่ท่านก็ลงไปเอาสิ่งของในถ้ำนี้ขึ้นมาจนได้โดยใช้เชือกเส้นใหญ่ผูกติดตาม แง่งหินมือซ้ายจับเชือกเพื่อดึงตัวเองขึ้นมามือขวาจับถุงที่ใส่ถุงธาตุ กายสิทธิ์ต่างๆ แล้วแบกขึ้นบ่าเดินมาต้องลุยธารน้ำในถ้ำอีก ต้องล้มลุกคลุกคลานไปหลายครั้งหลายหนแต่ในที่สุดท่านก็ได้นำสิ่งของเหล่า นั้นออกมาจากถ้ำได้ มีบางครั้งท่านได้ไปเอาสิ่งของศักดิ์สิทธิ์มา โดยได้อธิษฐานจิตขอแล้วแต่พอตกตอนกลางคืน วิญญาณที่เฝ้าของอยู่ได้ตามมาหาท่านถึงที่ซึ่งท่านก็ทราบว่าวิญญาณดวงนี้หวง สิ่งของนี้มากจึงได้ตามมาแต่ไม่พูดอะไร ท่านจึงได้เข้าสมาธิและอธิบายให้ดวงวิญญาณที่เฝ้าของอยู่ดวงนี้ฟังว่า สิ่งของต่าง ๆ เหล่านี้ท่านจะนำมาเพื่อสร้างเป็นรูปขององค์พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาให้รุ่งเรืองต่อไปและขอให้ดวงวิญญาณผู้เฝ้ารักษา สิ่งของอันศักดิ์สิทธินี้ จงรับรู้และมีส่วนร่วมในการสร้างบุญสร้างกุศลกับท่านในครั้งนี้ด้วย แล้วท่านก็นั่งแผ่เมตตาจิตให้กับ>>
    > >
    ดวงวิญญาณดวงนี้ด้วยสักพักหนึ่งท่านก็ได้ยินเสียงถอนหายใจ ท่านจึงได้ลืมตาขึ้นดูปรากฏว่ามีดวงไฟกลมโต สีเขียว ขนาดประมาณเท่ากับลูกปิงปอง ได้ลอยอยู่เหนือสิ่งของที่ท่านได้นำออกมาจากในถ้ำ แล้วค่อย ๆ ลอยต่ำลง>>
    าจนหายไป แล้วปรากฏลมแรงพัดมาเสียงดังอื้ออึงจนต้นไม้ใหญ่น้อยโอนไปเอนมาฟ้าร้องดัง ครืน ๆ จนเกิดฟ้าแลบขึ้นอีกหลายครั้ง สักพักทุกสิ่งทุกอย่างก็เงียบสงบลงเหมือนเดิม แสดงว่าวิญญาณที่เฝ้าสิ่งของอันศักดิ์สิทธิ์นี้และเทพยดา เจ้าป่าเจ้าเขาได้ลงมาร่วมอนุโมทนาสาธุการ ในการสร้างบุญสร้างกุศลในครั้งนี้เป็นอย่างดี >>
    เมื่อรวบรวมผงธาตุกายสิทธิ์ จากทั่วทุกสารทิศมาครบแล้ว ท่านก็ออกไปหามวลสารอันศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ มาเพิ่มเติมเข้าไปอีกมากมายด้วยการบดสิ่งของต่าง ๆ นั้นท่านใช้เพียงมีดฝานรากไม้ต่าง ๆ ตากแห้งแล้วจึงนำมาบดด้วยครกเพียงใบเดียวเท่านั้น บางครั้งในขณะที่ท่านใช้มีดหรือขวานสับต้นสมุนไพรอยู่ แล้วเกิดสับพลาดมาถูกมือของท่านเองอย่างแรง แต่คมมีดหรือขวานนั้นก็ไม่อาจทำให้เกิดบาดแผลขึ้นมาได้เลย ซึ่งสร้างความมหัศจรรย์ใจให้แก่ลูกศิษย์ของท่านที่ได้พบเห็นเป็นยิ่งนัก แม้แต่แร่ตระกูลเหล็กไหลซึ่งมีความแข็งแกร่งมากเป็นพิเศษท่านก็ใช้เพียงครก ใบเดียวตำให้ละเอียดแล้วร่อนด้วยตะแกรง แล้วนำผงที่ได้ทั้งหมดนี้มาคลุกเคล้าให้เข้าด้วยกัน แล้วจึงหาฤกษ์ล้างอาถรรพณ์ในการกดพิมพ์พระ การบดผสมมวลสารและการกดพิมพ์พระขึ้นท่านก็ ต้องอฐิษฐานจิต และว่าคาถากำกับไปด้วยทุกครั้งทุกองค์ แล้วจึงนำมาจัดพิธีขึ้นอีกหลายครั้งหลายหนในฤกษ์ของการล้างอาถรรพณ์และหนุน ดวงชะตา โดยขออัญเชิญองค์บารมธรรมขององค์พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าเข้าบรรจุในองค์ พระคู่ชีวิตด้วย และขออัญเชิญอำนาจอำนาจของคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ทั่วทั้งสากลจักรวาลโลกนี้มาร่วมในพิธีนี้ด้วยทุกครั้ง แล้วจึงนำไปจัดพิธีมหาพุทธาพิเษกขึ้นอีกหลาย ๆ ครั้ง และมีคณาจารย์ชื่อดังแห่งยุคช่วยอฐิษฐานจิตเสกเดี่ยวให้อีกหลายองค์หลาย ครั้ง เหตุที่ท่านต้องทำเช่นนี้ เพราะท่านต้องการให้ผู้คนได้ของดี ๆ ไปใช้กันแล้วท่านก็จะนำกลับมาตั้งอฐิษฐานจิตต่ออีกทุกวัน แม้แต่พระรุ่นแรกที่ ท่านอฐิษฐานจิตเพียงองค์เดียวก็ล้วนมีประสบการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นมาแล้วอย่างมากมาย จนมีผู้คนกล่าวขานถึงพระคู่ชีวิตกันอย่างไม่รู้จบสิ้น หนังสือพระเครื่องต่าง ๆ ก็เขียนถึงพระคู่ชีวิตกันอย่างมากมายแต่น้อยคนนักที่จะมีโอกาสได้ครอบครอง เป็นเจ้าของพระคู่ชีวิตเพราะพระอาจารย์ได้ออกเดินธุดงค์อยู่ตลอดทุกปี >>
    คาถาบูชาบรรจุองค์พระ พระพุทธธังจุติ จุติด้วยพระพุทธธัง สะระณังคัจฉามิ พระธัมมังจุติ จุติด้วยพระธัมมัง สะระณังคัจฉามิ พระสังฆังจุติ ได้>>
    คาถาบูชาพระปิยะมหาราช ร.5 ตั้งนะโมก่อน 3 จบ พระสยามมินโธ วะโรอิติ พุทธะสังมอิติอรหัง สะหัตสะกายัง วะรัง พุทโธนะโมพุทธายะ>>
    การบูชาให้จุดธูป 5 หรือ 9 ดอก ควรบูชาทุก ๆ วันอังคาร สิ่งของที่ควรนำขึ้นหิ้งบูชาถวายคือ น้ำมะพร้าวอ่อน,กล้วยน้ำว้า, ทองหยิบ, ทองหยอด, ปรั่นดี (เหล้า) ,ซิการ์(บุหรี่, ข้าวคลุกกะปิ และดอกกุหลาบสีชมพู น้ำควรมี ใส่แก้วถวายอย่าให้ขาด >>
    > >การทำบุญสะเดาะห์เคราะห์ใหญ่ >>
    1.พระบูชาประจำวัน 1 องค์ ให้เขียนหรือสลักชื่อนามสกุล ลงบนฐานพระ ข้าพเจ้าขออุทิศให้แก่เจ้ากรรมนายเวร เทพยดาทุกชั้นฟ้าดิน เหล่าสรรพสัตว์โลกทั้งหลายทั่วทั้งสากลโลกจักรวาลโลกนี้รวมถึงตัวข้าพเจ้า เองและครอบครัวด้วย>>
    2. บริจาคเงินซื้อโลงศพตามมูลนิธิต่าง ๆ 1 ชุด >>
    3. หนังสือสวดมนต์ 1 เล่ม + หนังสือธรรมะ 1 เล่ม ให้เขียนชื่อนามสกุลลงไปด้วย>>
    4.ถังสังฆทานที่มียารักษาโรคอย่างน้อย 1 ถัง >>
    5. อาหารคาวหวานพร้อมน้ำดื่ม>>
    6. ยารักษาโรคที่เราเป็นอยู่ นิมนต์พระ 5 องค์มารับทำเป็นสังฆทาน>>
    เนื้อผงมหาจักรพรรดิ – ล้างอาถรรพณ์>>

    มวลสารต่าง ๆ ที่ใช้สร้างพระผง และมวลสารอุดก้นพระกริ่ง – พระชัยวัฒน์มหาจักรพรรดิ เนื้อโสฬส – ธาตุเหล็กไหล พระธาตุ 500 อรหันต์ พระธาตุข้าว พระธาตุ 500 อรหันต์ พระธาตุข้าว หงอนพญานาค แก้วขนเหล็ก เพชรหน้าทั่ง ผงเหล็กไหลฤาษี ผงเหล็กไหลเงินยวง ผงเหล็กไหลตาแรด โคตรเหล็กไหลสีเงินยวง ขี้เหล็กไหล เหล็กย้อย เหล็กทรหด หยกพันปี แร่บางไผ่ ผงธนบัตรเก่า ผงตะไบเหล็กน้ำพี้ (ถลุงแล้ว) แร่เหล็กน้ำพี้ไหลเพชรดำ ขมิ้นหินหมื่นปี ข้าวตอกพระร่วง แก่นไม้สักหินอายุ 160 ล้านปี ลูกมณีโคตร คดกะลา กะลาตาเดียว กะลาไม่มีตา (กะลามหาอุด) มะพร้าวลูกกรอก กัลปังหาดิน ดินโป่ง ดินกลางใจเมือง และน้ำจากศาลหลักเมือง 76 จังหวัด ตะกรุดข้าวสารหิน คดหอย ทรายเสก ผงพระครูเทพโลกอุดร ผงหลวงปู่ดู่ วัดสะแก ผงหลวงปู่แหวน ผงจิตรลดา ผงพระปิลันทน์ ผงพระตุ๊กตาวัดพลับ ผงหลวงปู่ทิมวัดระหารไร่ ผงหลวงพ่อแก้ววัดเครือวัลย์ แป้งเสกหลวงปู่อยู่วัดไทรโยง ผงว่านหลวงพ่อเมี้ยนวัดโพธิ์กบเจา เศษพระหักหลวงพ่อมีวัดมารวิชัย เศษพระหักหลวงปู่คำพันธ์วัดธาตุมหาชัย และวัดต่าง ๆ อีกมากมาย เขากวางคุด น้ำมันมนต์หลวงพ่อเมี้ยนวัดโพธิ์กบเจา ชานหมากเสกหลวงพ่อดำวัดท่าทอง ดินวิเศษสีเหลือง สมุนไพร 300 กว่าชนิด น้ำมนต์ 100 ตุ่ม หลวงปู่หงส์วัดเพชรบุรี ดินวิเศษสีเขียว แร่เงิน แร่ทอง แร่นาค ผงธูปสมเด็จโตวัดระฆัง ผงธูปวัดเกศไชโย ผงธูปหลวงปู่ทวดวัดช้างให้ ผงธูปหลวงพ่อแช่มวัดท่าฉลอม ผงธูปหลวงพ่อจรัญวัดอัมพวัน แม่ลิ้มกอเนี่ย ผงธูปศาลเจ้าพ่อเสือ ผงธูปวัดเล่งเน่ยยี่ ผงธูปวัดไต๋ฮงกง พระบรมสารีริกธาตุ หินพระธาตุเขา 300 ยอด พระธาตุสิวลีสีขาว พระธาตุสิวลีสีทอง พระธาตุแก้วขวานฟ้าผ่าเนื้อหิน 16 อัน ข้าวสารหินหมื่นปี ข้าวสารดำพันปี ผงมณีรัตนะ โคตรเหล็กไหล (สีดำเงา) แร่เกาะล้าน เหล็กย้อย ลูกมณีโคตร อุกามณี (สะเก็ดดาว) ไม้กลายเป็นหิน ดอกไม้หิน เพชรน้ำค้าง หินเขี้ยวหนุมาน ขมิ้นขาวเปลือกหอย 75 ล้านปี ไม้งิ้วดำ คดปลวก ลูกธนูคนธรรพ์ แร่ทรายเงิน แร่ทรายทอง ผงงาช้าง งาช้างตายพราย งาช้างกระเด็น งาช้างกระดอน ผงเพชรแท้ เศษพลอยเมืองจันทร์ ผงเก่า วัดระฆัง ผงสร้างพระหลวงพ่อคูณวัดบ้านไร่ ผงสร้างพระหลวงพ่อแพวัดพิกุลทอง ผงสร้างพระหลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ ผงสร้างพระหลวงพ่อคงวัดบางกระพ้อม ผงสร้างพระหลวงปู่นิลวัดครบุรี ผงสร้างพระหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก ผงสร้างพระหลวงพ่อเชิญวัดโคกทอง ผงสร้างพระหลวงปู่คำพันธ์วัดธาตุมหาชัย ผงสร้างพระ หลวงพ่อเกษมเขมโกสุสานไตรลักษณ์ ผงสร้างพระอาจารย์ต่าง ๆ อีก 300 กว่ารูป (ซึ่งไม่สามารถลงหมดได้) เศษพระหักของวัดระฆัง เศษพระหักวัดปากน้ำ พระเครื่องเก่าที่ชำรุดอีกเป็นจำนวนมาก ผงตะไบพระกริ่งเนื้อนวะวัดสุทัศน์ ชานหมากหลวงปู่นิลวัดครบุรี ชานหมากหลวงพ่อเมี้ยนวัดโพธิ์กบเจา แป้งเสกหลวงปู่บุดดา ผงยาจินดามณีหลวงปู่บุญวัดกลางบางแก้ว ผงจินดามณีหลวงปู่เพิ่มวัดกลางบางแก้ว น้ำมันงาเสกหลวงพ่อคงวัดเขาสมโภชน์

    น้ำมันงาเสกแร่บางไผ่ น้ำมันมนต์ไพรดำ น้ำมันมนต์จากคณาจารย์ต่าง ๆ และศาลหลักเมืองทั่วประเทศ ดินกากยายักษ์ ดินพระแม่ธรณี ดินวิเศษสีขาว ดอกไผ่ 70 ปี ว่าน 108 เกสร 108 สมุนไพร 108 ผงยันต์ 108 ผงอิทธิเจ ผงปถมัง ผงมหาราช ผงตรีนิสิงเห ผงนรหรคุณ แร่อาถรรพณ์ภูเขาควายประเทศลาว ผงฤาษีผสมแล้ว ผงศักดิ์สิทธิ์>>
    จากถ้ำละว้า ผงศักดิ์สิทธิ์จากถ้ำม้าร้อง ผงศักดิ์สิทธิ์จากถ้ำไก่หล่น ผงศักดิ์สิทธิ์จากถ้ำเนินมะปรางค์ ผงใบลานคัมภีร์คาถาต่าง ๆ ผงเก่าสมัยอยุธยา ผงเก่าสมัยทวาราวดี ใบเสมาศิลาแลงสมัยอยุธยา ผงเก่าที่อยู่ในไหขุดได้ที่ จากวัดร้างอายุหลายร้อยปี ทองคำเปลวจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศ ตะไคร่โบสถ์ ตะไคร่วิหาร ตะไคร่พระปรางค์สามยอด ตะไคร่กำแพงเมืองเก่า ดินจากเนินดินพระอรหันต์ ดินจากสถานที่ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน และสถานที่ปฐมเทศนาจากประเทศอินเดีย (ดินสังเวชนียสถานทั้ง 4 แห่ง) กระเบื้องโบสถ์และวิหารหลวงพ่อโสธร กระเบื้องโบสถ์และวิหารหลวงพ่อชินราช กระเบื้องโบสถ์และวิหารพระแก้วมรกต กระเบื้องโบสถ์และวิหารวัดไร่ขิง กระเบื้องโบสถ์หลวงพ่อโตวัดบางพลีใน กระเบื้องโบสถ์และวิหารหลวงพ่อพระร่วงโรจน์ฤทธิ์ กระเบื้องโบสถ์และวิหารหลวงพ่อเศวตฉัตร์ ชิ้นส่วนหรืออิฐเก่าจากองค์พระธาตุพนม ชิ้นส่วนหรืออิฐเก่าจากองค์พระปฐมเจดีย์ ชิ้นส่วนหรืออิฐเก่าจากองค์พระธาตุและตะไคร่พระบรมสารีริกธาตนครศรีธรรมราช และเจดีบริวารอีก 150 กว่าเจดีย์ ผงตะไบสังฆวานร ผงลูกแก้วสามดวงหลวงพ่อพรหมวัดช่องแค ผงลูกแก้วสีชมพู หลวงปู่ดู่วัดสะแก ผงใต้คานหลวงพ่อคล้อยวัดถ้ำเขาเงิน ผงหลวงปู่โต๊ะวัดประดู่ฉิมพลี ผงหลวงพ่อแดงวัดศรีมหาโพธิ์ ผงหลวงปู่ทองฤทธิ์ วัดป่าฉันทนิมิต ผงหลวงพ่อโอดวัดจันทร์เสนจว.นครสวรรค์ ผงหลวงพ่อสุรเสียงวัดป่าเชิงจาน ผงพระกรุวัดป่าเชิงจาน ไหลคำดำประเทศลาว จีวรหลวงพ่อทองดำวัดท่าทอง ชาดหมากหลวงปู่หงษ์วัดเพชรบุรี ชานหมากหลวงปู่ทิมวัดพระขาว ชานหมากหลวงพ่อพุฒิวัดป่าสาละวัน สีผึ้งหลวงพ่อพรหมวัดช่องแค (ละลายในน้ำมนต์) น้ำมันมนต์นะหน้าทองหลวงพ่อคล้อยวัดถ้ำเขาเงิน >>
    เส้นเกศาของ 39 พระคณาจารย์ที่นำมาฝังไว้ในพระกริ่ง มีดหมอ และพระขรรค์ คือ 1. หลวงพ่อพุฒิวัดเขาไม้แดง 2. หลวงพ่อเมี้ยนวัดโพธิ์กบเจา จว.อยุธยา 3.หลวงปู่ศรีจันทร์วัดศรีสุธาวาส จว.เลย 4. หลวงปู่ทองดำวัดท่าทอง จว.อุตรดิตถ์ 5. หลวงพ่อประเทืองวัดหนองย่างทอย จว.เพชรบูรณ์ 6.หลวงพ่ออาคมวัดดาวนิมิตร จว.เพชรบูรณ์ 7. พระราชพัชราภรณ์ (ม.) เจ้าคณะ จว.เพชร 8. หลวงพิ่เฮ็นวัดดอนทอง จว.อยุธยา 9. หลวงพ่อปลื้มวัดสวนหงษ์ จว.สระบุรี 10. ครูบาอนสมวัดทุ่งน้อย จว.เชียงใหม่ 11.ครูบาอินตาวัดห้วยไทร จว.ลำพูน 12 .หลวงพ่อสร้อยวัดเลียบราษฏร์บำรุง จว.ตาก 13. หลวงพ่อพิมพาวัดหนองตางู จว.นครสวรรค์ 14. หลวงปู่อยู่วัดไทรโยง จว.อยุธยา 15. หลวงปู่หงส์วัดเพชรบุรี จว.สุรินทร์ 16. หลวงปู่กองวัดสระมณฑล จว.อยุธยา 17. หลวงพ่อคีย์วัดศรีลำยอง จว.สุรินทร์ 18. หลวงปู่ฤทธิ์วัดชลระทานราชดำริ จว.สุรินทร์ 19. เส้นเกศาหลวงพ่อเที่ยงพระพุทธบาทเขากระโดง จว.บุรีรัมย์ 20. หลวงพ่อสาครวัดหนองกรับ จว.ระยอง 21. หลวงปู่ครูบาชัยวงษ์ศาพัฒนาวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จว.ลำพูน 22. หลวงปู่หลวงวัดป่าสำราญนิวาส จว.ลำปาง 23. พระครูอภิรักษ์ วัดป่าสามเขา จว.เชียงใหม่ 24. หลวงปู่ครูบาตั๋นวัดสันทรายหลวง จว.เชียงใหม่ 25. หลวงปู่ครูบาอิ่นคำ วัดข้าว>>

    แท่นหลวง จว.เชียงใหม่ 26. หลวงปู่ครูบาหล้าวัดป่าลาน จว.เชียงใหม่ 27. หลวงปู่ครูบาอิ่นคำ วัดมหาวัน จว.เชียงใหม่ 28 . หลวงปู่ครูบาบุญปั๋นวัดร้องซุ้ม จว.เชียงใหม่ 29. หลวงปู่ครูบาคำวัดธรรมชัย จว.เชียงใหม่ >>
    30. หลวงพ่อครูบาอินทร์วัดสันป่ายางหลวง จว.ลำพูน 31.หลวงปู่ครูบาดวงจันทร์วัดป่าเส้า จว.ลำพูน 32. หลวงปู่ครูบาอินตาวัดวังทอง จว.ลำพูน 33. หลวงปู่ครูบาสุขวัดป่าซางน้อย จว.ลำพูน 34. หลวงปู่ครูบาจ๋อนวัดป่าตาล จว.ลำพูน 35. หลวงปู่ครูบาศรีนวลวัดช้างค้ำ จว.ลำพูน 36.หลวงพ่อสมชายวัดหลักเมืองพัฒนาราม จว.เพชรบูรณ์ 37.หลวงพ่อสมควรวัดถือน้ำ จว.นครสวรรค์ 38. หลวงพ่อเวินวัดน้ำวิ่ง จว.เพชรบูรณ์ 39.หลวงพ่อเปรื่องวัดสันติวัฒนา จว.เพชรบูรณ์ >>


    ชนวนพระกริ่ง – พระชัยวัฒน์ เนื้อโสฬสธาตุเหล็กไหล>>

    เหล็กไหลตัดในถ้ำน้ำหนักประมาณ 9 บาท เหล็กไหลน้ำ แร่วิเศษ (แร่บุญฤทธิ์) สายฟ้าฟาด ขวานฟ้าเนื้อสัมริด(ขวานฟ้าผ่า) แร่โคตรเศรษฐี แร่บางไผ่เหล็กไหลฤาษี เหล็กไหลเงินยวง เหล็กไหลตาแรด โคตรเหล็กไหล เหล็กเปียก วัชรธาตุฟ้า เหล็กย้อย เหล็กน้ำพี้ เหล็กลอง ตะปูสังฆวานรจากพระบรมธาตุเจดีย์ จ.นครศรีธรรมราช เพชรหน้าทั่ง ทองคำขาว ทองคำบริสุทธิ์ นาค เจ้าน้ำเงิน เหล็กละลายตัว บริสุทธิ์ ปรอท ชิน แร่ ประสานกาย ตะกั่วดำ ดีบุก แร่พลวง ทองแดงเถื่อน ยันต์ชินะบัญชร ยันต์ยอดพระกัณฑ์พระไตรปิฎก อักขระเลขยันต์ 108 ยันต์ อักขระเลขยันต์นะปถมัง อันทรงคุณค่าวิเศษอีก 200 กว่านะ แผ่นจารยันต์ เงิน ทอง นาค จากพระคณาจารย์ 300 รูป น้ำหนักรวม 30 กิโลกรัม ตะกรุดของพระคณาจารย์ต่าง ๆ ที่หาได้ยากยิ่ง 108 ดอก เช่น หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จว.พิจิตร หลวงพ่อเดิมวัดหนองโพธิ์ หลวงพ่อพิธ วัดระฆัง หลวงพ่อโอด วัดจันเสน หลวงปู่ดู่ วัดสะแก หลวงพ่อคล้อยวัดถ้ำเขาเงิน หลวงปู่สุภาวัดเขารัง หลวงปู่คร่ำวัดวังหว้า หลวงปู่ปรงวัดธรรมเจดีย์ หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ และพระคณาจารย์ต่าง ๆ อีกมากมาย ชนวนพระกริ่งวัดสุทัศน์ ชนวนพระกริ่งหลวงปู่ทิมวัดระหารไร่ ชนวนพระกริ่งหลวงปู่ทองฤทธิ์วัดป่าฉันทนิมิต ชนวนพระกริ่ง พล.ต.ต.ขุนพันธ์รักษ์ราชเดช ชนวนพระกริ่งวัดหลักเมือง เงินราง 700 ปี สมัยสุโขทัย เงินพดด้วง เหรียญพระคณาจารย์ ต่าง ๆ อีกเกือบ 2000 เหรียญ ห้องระฆัง ขันน้ำมนต์ เนื้อสัมฤทธิ์เก่า และชนวนต่าง ๆ อีกมากมาย >>
    ผงพิเศษที่นำมาบดสร้างพระชุดเขี้ยวงา และอุดก้นพระกริ่ง – พระชัยวัฒน์ มีดหมอ พระขรรค์และรูปหล่อบูชา ร.5 >>
    งาช้างน้ำ, งาช้างตายพราย, งาช้างกระเด็น, งาช้างกระดอน, เขากวางคุต,เขี้ยวเสอตัน, เขี้ยเสือกลวง, เขี้ยวหมูตัน, เขี้ยวหมีตัน, เขี้ยวหมีกลวง, สายฟ้าฟาด,ขวานฟ้าผ่า, ผงตะไบพระกริ่ง, ผงตะไบเหล็กน้ำพี้ผสมผงมหาจักรพรรดิล้างอาถรรพณ์(พระกริ่ง – พระชัยวัฒน์ – มีดหมอ – พระขรรค์ ใส่น้ำมันเสือทั้ง 4 ลงไปด้วยคือ 1. เสือโคร่ง 2.เสือดาว 3.ใ เสือดำ 4. เสือไฟ>>


    พระกริ่ง – มีดหมอ พระขรรค์ - รูปหล่อ ร.5 แบบบูชา จะฝังเพชรหน้าทั่ง,ข้าวสารดำ, เทียนชัยงานพุทธาพิเษกต่าง ๆ สายสิญย์หลวงพ่อเกษมเขมโก จว.ลำปาง พระธาตุ เส้นเกศาจาก 39 คณาจารย์ ผ้าจีวรหลวงปู่ทองดำ จว.อุตรดิตถ์, ผ้าจีวรหลวงพ่อสมชาย จว.เพชรบูรณ์ (พระกริ่ง- ผ้าจีวร-สายยิญย์-เทียนชัย) จะอยู่ด้านใน พระชัยวัฒน์อุดผงอย่างเดียว รูปหล่อ ร.5 จะไม่ฝังพระธาตุและเส้นเกศา >>
    9 พิธีพุทธาพิเษกใหญ่ พ.ศ.2544 (ศตวรรษที่ 21) >>
    1. พิธีใหญ่รุ่นพระกริ่งจอมไทย 7 วัน 7 คืน วัดสุทัศน์ กรุงเทพ ฯ>>
    2. วัดประสาทบุญญาวาส กรุงเทพ ฯ>>
    3. วัดเวียง อ.ท่าเรือ จว.พระนครศรีอยุทธยา>>
    4. วัดวสันตาราม อ.ศรีประจันต์ จว.สุพรรณบุรี>>
    5. วัดพยัคฆาราม อ.ศรีประจันต์ จว.สุพรรณบุรี >>
    6. วัดสับปะรดเทศน์ อ.ศรีประจันต์ จว.สุพรรณบุรี>>
    7. วัดศรีสันต์มณฑาราม อ.เมือง จว.สุพรรณบุรี>>
    8. วัดศรีฐานปิยราม อ.หล่มสัก จว.เพชรบูรณ์ วันที่ 7 เม.ย.44>>
    9. วัดหลักเมืองพัฒนาราม อ.หล่มสัก จว.เพชรบูรณ์ วันที่ 7 พ.ค.44>>


    คณาจารย์ที่อธิฐานจิตเสกเดี่ยวในปี พ.ศ.2544 (ศตวรรษที่ 21)>>

    1. หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล อายุ 106 ปี วัดบ้านจาน ต.จาน อ.วันทรารมย์ จว.บุรีรัมย์>>
    2. หลวงปู่ทองคำ อายุ 104 ปี วัดท่าทอง อ.เมือง จว.อุตรดิตถ์>>
    3. หลวงปู่เหมือน ฐานุตตโม อายุ 104 วัดบ้านคลองทรายใต้ ต.หนองตะเคียงขอน อ.วัฒนานคร จว.สระแก้ว>>
    4.หลวงปู่กอง จันทวโส อายุ 103 ปี วัดสระมณฑล อ.เมือง จว.พระนครศรีอยุทธยา>>
    5. หลวงปู่ละมัย ฐิตมโน อายุ 102 ปี สวนป่าสมุนไพร อ.เมือง จว.เพชรบูรณ์>>
    6. ครูบาอิน อินโท พระครูวรวุฒิธิคุณ อายุ 100 ปี วัดทุ่งปุย กิ่ง อ.ดอนหล่อ จว.เชียงใหม่>>
    7. หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ วัดธาตุมหาชัย อ.ปลาปาก จว.นครพนม>>
    8. หลวงปู่โถม กุลปุญโญ เจ้าคณะ จว.สุโขทัย อายุ 80 ปี วัดธรรมปัญญาราม อ.เมือง จว.สุโขทัย >>
    9. หลวงปู่หลวง กตปุญโญ อายุ 85 ปี วัดป่าสำราญนิวาส อ.เกาะคา จว.ลำปาง >>
    10. ครูบาอินตา (พระครูถาวรชัยวุฒิ) อายุ 97 ปี วัดห้วยไทร ต.ห้วยยาม อ.บ้านพี้ จว.ลำพูน>>
    11. พระครูพิศาลธรรมนิเทศ (รองเจ้าคณะอำเภอ) วัดมหาวัน อ.เมือง จว.ลำพูน>>
    12. พระครูปัญญาธรรมวัฒน์ ครูบาอินทร อายุ 50 ปี วัดสันป่ายางหลวง อ.เมือง จว.ลำพูน>>
    13. ครูบาดวงจันทร์ จันทโร อายุ 89 ปี วัดป่าเส้า ต.อุโมงค์ อ.เมือง จว.ลำพูน>>
    14. พระครูถาวรศิลคุณ ครูบาอินตา อายุ 94 ปี วัดวังทอง ต.เหมืองงา อ.เมือง จว.ลำพูน>>

    15. ครูบาสุข อายุ 79 ปี วัดป่าซางน้อย อ.ป่าซาง จว.ลำพูน>>
    16. ครูบาจ๋อน จันทรสี อายุ 87 ปี วัดป่าตาล อ.ป่าซาง จว.ลำพูน>>
    17. ครูบาศรีนวล นนทกุล อายุ 93 ปี วัดช้างค้ำ อ.ป่าซาง จว.ลำพูน>>
    18. พระครูอภิรักษ์ วัดป่าสามขา ต.ออนกลาง อ.สันกำแพง จว.เชียงใหม่>>
    19. ครูบาคำตั๋น อายุ 94 ปี วัดสันทรายหลวง อ.สันทราย จว.เชียงใหม่ >>
    20. พระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป อายุ 68 ปี วัดอรัญญวิเวก ต.อินทนิล อ.แม่แตง จว.เชียงใหม่>>
    21. ครูบาอิ่นคำ พระครูสันติยานุศาสตร์ อายุ 92 ปี วัดท้าวแท่นหลวง อ.สันทราย จว.เชียงใหม่>>
    22. ครูบาหล้า วัดป่าลาย อายุ 92 ปี ต.สันทรายหลวง อ.สันทราย จว.เชียงใหม่>>
    23. ครูบาจั่นต๊ะรังษ๊ วัดกู่เต้า อ.เมือง จว.เชียงใหม่>>
    24. ครูบาอิ่นคำ อายุ 83 วัดมหาวัน ต.ท่าแพ อ.เมือง จว.เชียงใหม่>>
    25. ครูบาบุญปั๋น ธมมปญโญ อายุ 94 ปี วัดรุ้งขุ้ม ต.บ้านแพ อ.สันป่าตอง จว.เชียงใหม่ >>
    26. ครูบาคำ อายุ 66 ปี วัดธรรมชัย ต.บ้านแพ อ.สันป่าตอง จว.เชียงใหม่>>
    27. ครูบาดวงดี อายุ 95 ปี วัดท่าจำปี อ.สันป่าตอง จว.เชียงใหม่>>
    28. ครูบาผัด อายุ 76 ปี วัดศรีดอนมูล อ.สารภี จว.เชียงใหม่>>
    29. ครูบาน้อย อายุ 51 ปี วัดศรีดอนมูล อ.สารภี จว.เชียงใหม่>>
    30. หลวงปู่เหลือ อายุ 92 ปี วัดท่าไม้เหนือ อ.พิชัย จว.อุตรดิตถ์>>
    31. หลวงพ่อจ้อย จันทสุวรรณโณ อายุ 88 ปี วัดศรีอุทุมพร ต.หนองกลัด อ.เมือง จว.นครสวรรค์ >>
    32. หลวงปู่อุย พระครูนิพาทธรรมวัฒน์ อายุ 84 ปี วัดช่องคีรีศรีสิทธิวราราม อ.เมือง จว.นครสวรรค์>>
    33. หลวงปู่ท้าว อายุ 86 ปี สำนักวชิรกัลยาณ์ อ.เมือง จว.นครสวรรค์>>
    34. หลวงปู่สมควร วิชชาวิสาโล อายุ 85 ปี วัดถือน้ำ อ.เมือง จว.นครสวรรค์>>
    35. หลวงพ่ออ้วน จรณะวุฑิโฒ(พระครูนิมิตวิสุทธิคุณ) อายุ 57 ปี วัดหนองกระโดน อ.เมือง จว.นครสวรรค์>>
    36. หลวงพ่อบุญนำ ชิตมาโร (พระครูนิเทศธรรมวิศิษฐ์) อายุ 73 ปี วัดนครสวรรค์ อ.เมือง จว.นครสวรรค์>>
    37. หลวงปู่ต่อ (พระครูนิทัศนพลธรรม) อายุ 82 ปี วัดเขาแก้ว อ.พยุหคีรี จว.นครสวรรค์>>
    38. หลวงพ่อสะอาด (พระครูนิวิทฐมณีวงศ์) อายุ 58 ปี วัดเขาแก้ว อ.พยุหคีรี จว.นครสวรรค์>>
    39. หลวงพ่อประเทือง อิทวโร (พระครูนิวาสธรรมโกวิท) อายุ 63 ปี วัดหนองโพ ต.ตาคลี อ.เมือง จว.นครสวรรค์>>
    40. หลวงพ่อ เศรียร สุธรรมโม (พระครูนิยุตต์ธรรมกิจ) อายุ 69 ปี วัดอินทราราม อ.พยุหคีรี จว.นครสวรรค์>>
    41. พระอาจารย์สมชาย วัดหลักเมืองพัฒนาราม อ.หล่มสัก จว.เพชรบูรณ์ >>
    42. หลวงปู่บ๊ก (สุวรรณ กัลยาณี) อายุ 92 ปี วัดหนองเนินพะยอม ต.หลุมข้าว อ.หนองขาหย่าง จว.อุทัยธานี>>
    43. หลวงปู่ นะ ฐิตปัญโญ(พระครูปทุมชัยกิจ) อายุ 85 ปี วัดปทุมวนาราม(หนองบัว) อ.วัดสิงห์ จว.ชัยนาท>>

    44. หลวงปู่ มหาโพธิ์ ญาณสังวโร อายุ 82 ปี วัดคลองมอญ อ.วัดสิงห์ จว.ชัยนาท>>
    45. หลวงปู่สำราญ อายุ 89 ปี วัดปากคลองมะขามเฒ่า จว.ชัยนาท>>
    46. หลวงปู่ตี๋ ญาณโสภโณ (พระครูอุทัย ธรรมกิจ) อายุ89 ปี อ.เมือง จว.อุทัยธานี>>
    47. พระเทพรัตนดิลก(ธ.) อายุ 73 ปี รองเจ้าคณะภาค 4 วัดเพชรวราราม อ.เมือง จว.เพชรบูรณ์>>
    48. พระราชพัชราภรณ์ (ม.)วัดมหาธาตุ อยุ 64 ปี วัดมหาธาตุ อ.เมือง จว.เพชรบูรณ์>>
    49. หลวงปู่ปิ่น (พระครูพัชรธรรมโสภณ) อายุ 70 ปี วัดหนองใฝ่ อ.หล่มสัก จว.เพชรบูรณ์>>
    50. หลวงพ่อเวิน กัลป์ยาณธัมโม(พระครูเวฬุคณารักษ์) อายุ 74 ปี เจ้าคณะ อ.หนองไผ่ จว.เพชรบูรณ์>>
    51. หลวงพ่ออาคม อินทสโร (พระครูโสภณคณาพิทักษ์วารีพิสัย) อายุ 78 ปี วัดดาวนิมิตร อ.บึงสามพัน จว.เพชรบูรณ์>>
    52. หลวงพ่อศรีนวล สิริมังคโล (พระครูสิริพัชรกุล) อายุ 72 ปี วัดสว่างสามัคคี ต.สระกรวด เจ้าคณะอำเภอศรีเทพ>>
    จว.เพชรบูรณ์>>
    53.หลวงพ่อเปรื่อง ฐานังกะโร (พระครูโสภณคณาพิทักษ์) อายุ 70 ปี วัดสันติวัฒนา อ.หล่มเก่า จว.เพชรบูรณ์>>
    54. หลวงพ่อทอง จันทศิริ (พระครูสุวรรณวัยวุฒิ) อายุ 98 ปี วัดสามปลื้ม จว.กรุงเทพ>>
    55. หลวงพ่อจืด นิมมโล อายุ 63 ปี สำนักโพธิเศรษฐี ม.6 ต.บ่อพลับ อ.เมือง จว.นครปฐม>>
    56. หลวงพ่อสมพงษ์ ธีระธัมโม (พระครูปราการลักษาภิบาล) อายุ 66 ปี วัดใหม่ปิ่นเกลียว อ.เมือง จว.นครปฐม >>
    57. หลวงพ่อรอด สิทธิกาโร(พระครูวิมลสิทธิการ) อายุ 74 ปี วัดวังน้ำเขียว ต.หญ้าแพรก อ.กำแพงแสน จว.นครปฐม >>
    58. เจ้าคุณไวย์ อายุ 90 ปี วัดพนัญเชิง จว.พระนครศรีอยุทธยา>>
    59. หลวงปู่ทิม อัตตสันโต (พระครูสังวรสมณกิจ) อายุ 88 ปี วัดพระขาว ต.พระขาว อ.บางบาล จว.พระนคร ศรีอยุทธยา>>
    60. หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก (พระครูสุนทรธรรมนิวิฐ) อายุ 81 ปี ต.ดอนหญ้านาง อ.ภาชี จว.พระนครศรีอยุทธยา>>
    61.พระครูสังฆรักษ์เฉลิม อายุ 76 ปี วัดพระญาติ ต.ไผ่ลิง จว.พระนครศรีอยุทธยา>>
    62. หลวงพ่อเอียด อินทวังโส (พระครูสุนทรยติกิจ) อายุ 73 ปี วัดไผ่ล้อม รองเจ้าเจ้าคณะจว.พระนครศรีอยุทธยา>>
    63.หลวงพ่อเพิ่ม อัตตทีโป (พระครูประโชติธรรมวิจิตร) อายุ 75 ปี วัดป้อมแก้ว ต.บ้านกลึง เจ้าคณะอำเภอบางไทร จว.พระนครศรีอยุทธยา >>
    64. หลวงพ่อจำลอง เขมะนันโท อายุ 77 ปี วัดเจดีย์แดง ต.หัวรอ จว.พระนครศรีอยุทธยา>>
    65. หลวงพ่อ สวัสดิ์ โสตถิทัตโต อายุ 84 ปี วัดศาลาปูน ต.ท่าสุกรี จว.พระนครศรีอยุทธยา>>
    66. หลวงพ่อพูน ฐิตสีโล (พระครูสุวรรณสีลาธิคุณ) อายุ 69 ปี วัดบ้านแพน ต.สามกอ เจ้าคณะอำเภอเสนา จว.พระนครศรีอยุทธยา>>
    > >
    67.หลวงพ่อวงศ์ (พระครูพิราชธรรมานุกูล) อายุ 75 ปี เจ้าคณะตำบลเจ้าเจ็ดเขต 2 อ.เสนา จว.พระนครศรีอยุทธยา>>
    68.หลวงพ่อหยด กิติสาโร (พระครูเสนาคณานุรักษ์) อายุ 76 ปี วัดเจ้าเจ็ดใน เจ้าคณะอำเภอเสนา จว.พระนครศรี อยุทธยา>>
    69. หลวงพ่ออื้น จันทวรรณโณ (พระครูพจนาภิรักษ์) อายุ 75 ปี วัดเจ้าเจ็ดนอก เจ้าคณะตำบลเจ้าเจ็ด 1 อ.เสนา>>
    จว.พระนครศรีอยุทธยา>>
    70. หลวงปู่ บุญนาค ฐานนาโค (พระครูวิเวกอรัญวัตร) อายุ อายุ 87 ปี วัดหนองโป่ง ต.ห้วยป่าหวาย อ.พุทธบาท จว.สระบุรี>>
    71. หลวงพ่อเพี้ยน อัคคธัมโม อายุ 77 ปี วัดเกริ่นกฐิน ต.บ้านชี อ.บ้านหมี่ จว.ลพบุรี>>
    72. หลวงปู่ถม ธัมมทีโป (พระครูธรรมโสภณ) อายุ 89 ปี วัดเชิงท่า ต.พระหิน อ.เมือง จว.ลพบุรี>>
    73. หลวงพ่อสารันต์ จันทูปโม (พระครูจันทสิริธรา) อายุ 54 ปี>>
    74. หลวงพ่อหลิว กตปุญโญ อายุ 78 ปี วัดคุ้งเขาเขียว ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จว.สระบุรี>>

    พระผงคู่ชีวิตล้างอาธรรพ์สร้า้งน้อยพิเศษฝั่งพระธาตุ 8 องค์ สร้า้งหลักร้อย

    ให้บูชาองค์ละ 1900 บาทครับ(ปิดรายการ)

    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ตุลาคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...