พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    วันนี้ผมโทร.ไปหาน้องปฐม บอกว่าผมได้ส่งพระพุทธมหาธรรมราชา(ลอยองค์) บุนาค (มวลสารในการสร้างพระชุดนี้ เป็นมวลสารที่เหลือจากการหล่อองค์พระพุทธชินราชที่พิษณุโลก) ไปให้น้องปฐม 3 องค์ เพื่อถวายพระภิกษุผู้ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบทางภาคใต้ 3 รูป

    ผมได้ส่งให้แล้วตอนสายของวันนี้ ส่วนค่าจัดส่งผมออกเอง

    ฝากน้องปฐมถวายแทนพี่ด้วย ขอโมทนาบุญทุกประการครับ

    มาร่วมโมทนาบุญกับผม , ผบทบ.ผม ในการถวายพระพุทธมหาธรรมราชา(ลอยองค์) บุนาค (มวลสารในการสร้างพระชุดนี้ เป็นมวลสารที่เหลือจากการหล่อองค์พระพุทธชินราชที่พิษณุโลก) และค่าจัดส่ง และโมทนาบุญกับน้องปฐมที่ได้เป็นธุระให้ในงานบุญนี้กันครับ

    .
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    เดือนหน้า ผมว่าจะนัดกันไปกราบหลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก ที่พนัสนิคม จ.ชลบุรี

    รายละเอียด ผมจะแจ้งวันที่ไปผ่านทาง Email

    ตั้งใจไว้นานแล้วว่า จะไปกราบหลวงปู่ที่วัดครับ

    โมทนาสาธุครับ

    .------------------------------------------.

    ประวัติ หลวงปู่ม่น ธัมมจิณโณ วัดเนินตามาก

    -http://www.itti-patihan.com/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%99-%E0%B8%98%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%93%E0%B9%82%E0%B8%93-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%81.html-

    พระครูสุจิณธรรมวิมล หรือ หลวงปู่ม่น ธัมมจิณโณ อดีตพระเกจิอาจารย์ชื่อ ดังวัดเนินตามาก ต.โคกเพลาะ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี นามเดิม นายม่น นามสกุล วิญญาณ เกิดเมื่อวันเสาร์ ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 5 ปีจอ ตรงกับวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2453 โยมบิดาชื่อ มา โยมมารดาชื่อ แดง มีพี่น้องรวมกัน 3 คน คือ 1.นางเทียม เอมเปีย 2.หลวงปู่ม่น 3.นางย้อย โบราณ

    ในวัยเยาว์ โยมบิดามารดา นำไปฝากเรียนกับพระที่วัดใกล้บ้าน ศึกษาอักขระสมัย เนื่องจากท่านเป็นผู้มีจิตใจอ่อน โยน โอบอ้อมอารี สนใจใฝ่เรียน มีความพยายามและอดทนเป็นเยี่ยม ทำให้พระอาจารย์ได้ถ่ายทอดวิชาความรู้ให้อย่างเต็มกำลัง จนมีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เช่น ด้านอักษร การแพทย์แผนโบราณ และการช่าง

    เนื่องจากท่านเป็นบุตรชายคนเดียว จึงถือเป็นหลักของครอบครัว ขยันขันแข็ง ประกอบสัมมาอาชีพช่วยเหลือโยมบิดามารดาทำให้ครอบครัวมีฐานะมั่นคงในเวลาต่อมา มีที่นาทำกินเป็นของตนเองจำนวนพอสมควร

    จนกระทั่งอายุได้ 29 ปี ท่านจึงได้ขอบรรพชาอุปสมบท ในวันเสาร์ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 5 ตรงกับวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2481 ณ พัทธสีมาวัดโคกเพลาะ ต.โคกเพลาะ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี

    มี พระครูสังวรศีลาจารย์ วัดหลวงพรหมาวาส ต.วัดหลวง อ.พนัสนิคม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูพิพัฒน์ธรรมคุณ วัดโบสถ์ ต.วัดโบสถ์ อ.พนัสนิคม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระครูอาจารสุนทร วัดโคกเพลาะ ต.โคกเพลาะ อ.พนัส นิคม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาทางธรรมว่า "ธัมมจิณโณ"

    เมื่อได้อุปสมบทแล้ว ได้พำนักที่วัดโคกเพลาะระยะหนึ่ง จึงได้ย้ายไปจำพรรษา ที่วัดเนินตามาก เริ่มศึกษาเล่าเรียนคันธุระและวิปัสสนาธุระอย่างจริงจัง เคร่งครัด ประกอบคุณงามความดีตามความเหมาะสมของเพศสมณะ ท่านเป็นพระที่เคร่งครัดในธรรมวินัยตั้งแต่เริ่มอุปสมบท ศึกษาปริยัติธรรม เข้าสอบนักธรรมชั้นตรี ชั้นโท ตามลำดับ มีความสามารถในการจำและสวดพระปาฏิโมกข์ได้ จนมาทำการค้นคว้าด้วยตนเอง ฝึกการปฏิบัติจิตและกัมมัฏฐาน

    เพื่อหลุดพ้นอย่างจริงจังเมื่ออุปสมบทได้ 5 พรรษา จึงได้ออกธุดงค์เพื่อหาประสบการณ์ไปตามสถานที่ต่างๆ เช่น พระพุทธบาท สระบุรี วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เป็นต้น

    ท่านเล่าว่า ไปศึกษาวิชาธรรมกายกับ หลวงพ่อสด วัดปาก น้ำ (สมัยที่หลวงพ่อสดยังมีชีวิตอยู่) แต่เมื่อปฏิบัติได้ 7 วัน ท่านบอกว่าไม่ถูกกับจริต เลยขอลาไปที่อื่นต่อมาภายหลังท่านได้ฝากตนเป็นศิษย์ พระสมุห์บุญยิ่ง วิริโย ที่วัดเขาบางพระ อ.ศรีราชา รับคำแนะนำสั่งสอนในการปฏิบัติอันเป็นไปด้วยธาตุและจริตเป็นหนึ่งเดียวกัน

    นอกจากนี้ ยังได้ศึกษาด้านเวชกรรมจากพระสมุห์บุญยิ่งเพิ่มเติมจนมีความเชี่ยวชาญ ต่อมา พระสมุห์บุญยิ่ง ได้ชักชวนหลวงปู่ม่น ออกธุดงค์หาสถานที่ปฏิบัติวิเวก เป็นสัปปายะ จนได้พบถ้ำจักรพงศ์ บนเกาะสีชัง ทั้งอาจารย์และศิษย์จึงได้พำนักอยู่ ณ ที่นี้ จนหลวงปู่ม่นเกิดความก้าวหน้าทางจิตเป็นอย่างมาก

    ปี 2490 พระอธิการกี่ เจ้าอาวาสวัดเนินตามาก ได้ลาสิกขา ทางคณะสงฆ์ และอุบาสก อุบาสิกาได้มาอาราธนานิมนต์หลวงปู่ม่น กลับไปเป็นเจ้าอาวาสปกครองวัด สั่งสอนภิกษุ สามเณร และ อุบาสก อุบาสิกาสืบต่อไป เมื่อหลวงปู่ม่นเป็นเจ้าอาวาส ได้ปฏิบัติหน้าที่ได้เป็นอย่างดี ทำนุบำรุงวัดเนินตามากให้เจริญรุ่งเรือง สร้างถาวรวัตถุ เช่น อุโบสถ ศาลาการเปรียญ กุฏิ วิหาร ฯลฯ

    นอกจากนี้ ยังช่วยพัฒนาท้องถิ่น ทำถนน ไฟฟ้า สร้างโรงเรียน ตั้งกองทุนมูลนิธิต่างๆ ให้การศึกษาแก่พระภิกษุ สามเณร สอนนักธรรม พระนวกะ ส่งเข้าสอบนักธรรมสนามหลวงทุกปี หลวงปู่ม่นเป็นที่เคารพศรัทธาของบรรดาศิษย์ เสียสละ สร้างคุณงามความดี ให้แก่พระพุทธศาสนาและท้องถิ่น เป็นที่ยอมรับของสาธุชนทั่วไป ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดหลวงปู่ม่นมากที่สุด คือ พลเอกเชษฐา ฐานะจาโร ส่วนเหรียญที่มีประสบการณ์มากที่สุด คือ "รุ่นเจริญพร" ซึ่งเป็นรุ่นที่นายทหารชั้นผู้ใหญ่บูชาติดตัวมากที่สุด

    ปี 2529 คณะสงฆ์ได้พิจารณาขอพระครูชั้นโทที่ พระครูสุจิณธรรมวิมล ปี 2523 หลวงปู่ม่นได้อาพาธด้วยโรคอัมพฤกษ์ เข้า รับการรักษาที่โรงพยาบาลพนัสนิคม เกือบหายเป็นปกติ จึงกลับมาพักฟื้นที่วัด จนกระทั่งปี 2537 ท่านอาพาธหนักอีกครั้ง เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสมิติเวช กรุงเทพฯ เป็นเวลาถึง 8 เดือน จึงสามารถกลับมาอยู่วัด

    หลังจากนั้น ท่านก็อาพาธเป็นๆ หายๆ เข้าออกโรงพยาบาลสมิติเวช กระทั่งมรณภาพด้วยอาการสงบ ณ โรงพยาบาลสมิติเวช เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 ต.ค.2541 เวลา 18.00 น. สิริอายุได้ 88 ปี 5 เดือน 24 วัน พรรษา 60

    ประวัติ หลวงปู่ม่น ธัมมจิณโณ วัดเนินตามาก

    .

    .
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    สภากาชาดไทย

    -http://www.redcross.or.th/home/-

    โรงพยาบาลสงฆ์

    -http://www.priest-hospital.go.th/donate/#-

    มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
    -http://www.rajaprajanugroh.org/intro.aspx-


    .

    | Welcome to The Thai Red Cross Society

    หน้าหลัก
    .
    </td> </tr> </tbody></table>

    ขอเชิญร่วมโมทนาบุญกับผม , ผบทบ.ผม และเพื่อนผมกันครับ

    เงินที่เทสโก้โลตัสได้มอบค่าสินไหมให้กับผบทบ.ผม จำนวน 2,500 บาท ผมได้ทำบุญเรียบร้อยแล้ว และผมได้นำเงินที่ผมทำบุญ(ทุกวัน) ทำบุญเพิ่มเติมอีก

    และเพื่อนผมร่วมทำบุญด้วยครับ
    ขอโมทนาบุญกับ ผบทบ.ผม และ เพื่อนผมด้วยครับ

    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]

    ขอเชิญร่วมโมทนาบุญกับ ผบทบ.ผม , เพื่อนผม และ ผม กันครับ


    .

    ใบเสร็จรับเงินของสภากาชาดไทย มาถึงผมแล้ว

    มาร่วมโมทนาบุญอีกครั้งกันครับ

    [​IMG]

    [​IMG]


    -http://palungjit.org/threads/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%81-%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89.22445/page-2562#post6758720-

    -http://palungjit.org/threads/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%AA%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%AA.353803/-

    -http://www.tairomdham.net/index.php/topic,7659.new.html#new-
    .
    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กันยายน 2012
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    เมื่อวานนี้ (วันที่ 29 กันยายน 2555) มีโอกาสไปวัดทองนพคุณ และ วัดบางน้ำชนมา

    ช่วงแรก รูปจากวัดทองนพคุณครับ

    นำรูปมาฝาก ชมกันตามอัธยาศัยครับ


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    [​IMG] [​IMG]


    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_5661.JPG
      IMG_5661.JPG
      ขนาดไฟล์:
      278.8 KB
      เปิดดู:
      42
    • IMG_5663.JPG
      IMG_5663.JPG
      ขนาดไฟล์:
      309.5 KB
      เปิดดู:
      42
    • IMG_5662.JPG
      IMG_5662.JPG
      ขนาดไฟล์:
      554.5 KB
      เปิดดู:
      43
    • IMG_5664.JPG
      IMG_5664.JPG
      ขนาดไฟล์:
      277.6 KB
      เปิดดู:
      39
    • IMG_5667.JPG
      IMG_5667.JPG
      ขนาดไฟล์:
      427.4 KB
      เปิดดู:
      49
    • IMG_5668.JPG
      IMG_5668.JPG
      ขนาดไฟล์:
      513.4 KB
      เปิดดู:
      50
    • IMG_5670.JPG
      IMG_5670.JPG
      ขนาดไฟล์:
      417.8 KB
      เปิดดู:
      49
    • IMG_5671.JPG
      IMG_5671.JPG
      ขนาดไฟล์:
      414.8 KB
      เปิดดู:
      48
    • IMG_5672.JPG
      IMG_5672.JPG
      ขนาดไฟล์:
      169 KB
      เปิดดู:
      48
    • IMG_5673.JPG
      IMG_5673.JPG
      ขนาดไฟล์:
      508.6 KB
      เปิดดู:
      47
    • IMG_5681.JPG
      IMG_5681.JPG
      ขนาดไฟล์:
      810.6 KB
      เปิดดู:
      46
    • IMG_5678.JPG
      IMG_5678.JPG
      ขนาดไฟล์:
      485.5 KB
      เปิดดู:
      60
    • IMG_5674.JPG
      IMG_5674.JPG
      ขนาดไฟล์:
      279.5 KB
      เปิดดู:
      46
    • IMG_5675.JPG
      IMG_5675.JPG
      ขนาดไฟล์:
      690.5 KB
      เปิดดู:
      43
    • IMG_5676.JPG
      IMG_5676.JPG
      ขนาดไฟล์:
      482.7 KB
      เปิดดู:
      44
    • IMG_5677.JPG
      IMG_5677.JPG
      ขนาดไฟล์:
      397.7 KB
      เปิดดู:
      45
    • IMG_5682.JPG
      IMG_5682.JPG
      ขนาดไฟล์:
      507.4 KB
      เปิดดู:
      38
    • IMG_5685.JPG
      IMG_5685.JPG
      ขนาดไฟล์:
      396 KB
      เปิดดู:
      44
    • IMG_5687.JPG
      IMG_5687.JPG
      ขนาดไฟล์:
      255.9 KB
      เปิดดู:
      51
    • IMG_5688.JPG
      IMG_5688.JPG
      ขนาดไฟล์:
      141.2 KB
      เปิดดู:
      39
    • IMG_5689.JPG
      IMG_5689.JPG
      ขนาดไฟล์:
      165.1 KB
      เปิดดู:
      43
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    วันที่ 29 กันยายน 2555

    จากวัดทองนพคุณ ไปต่อกันที่วัดบางน้ำชน

    รับชมกันตามอัธยาศัยเช่นกันครับ


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_5914.JPG
      IMG_5914.JPG
      ขนาดไฟล์:
      394.5 KB
      เปิดดู:
      44
    • IMG_5916.JPG
      IMG_5916.JPG
      ขนาดไฟล์:
      340.3 KB
      เปิดดู:
      60
    • IMG_5917.JPG
      IMG_5917.JPG
      ขนาดไฟล์:
      332.3 KB
      เปิดดู:
      47
    • IMG_5920.JPG
      IMG_5920.JPG
      ขนาดไฟล์:
      225.1 KB
      เปิดดู:
      53
    • IMG_5922.JPG
      IMG_5922.JPG
      ขนาดไฟล์:
      385.6 KB
      เปิดดู:
      46
    • IMG_5923.JPG
      IMG_5923.JPG
      ขนาดไฟล์:
      437.4 KB
      เปิดดู:
      52
    • IMG_5924.JPG
      IMG_5924.JPG
      ขนาดไฟล์:
      296.6 KB
      เปิดดู:
      53
    • IMG_5925.JPG
      IMG_5925.JPG
      ขนาดไฟล์:
      220 KB
      เปิดดู:
      43
    • IMG_5926.JPG
      IMG_5926.JPG
      ขนาดไฟล์:
      175.7 KB
      เปิดดู:
      54
    • IMG_5927.JPG
      IMG_5927.JPG
      ขนาดไฟล์:
      189.2 KB
      เปิดดู:
      40
    • IMG_5928.JPG
      IMG_5928.JPG
      ขนาดไฟล์:
      203.3 KB
      เปิดดู:
      43
    • IMG_5929.JPG
      IMG_5929.JPG
      ขนาดไฟล์:
      498.4 KB
      เปิดดู:
      32
    • IMG_5932.JPG
      IMG_5932.JPG
      ขนาดไฟล์:
      409.3 KB
      เปิดดู:
      40
    • IMG_5931.JPG
      IMG_5931.JPG
      ขนาดไฟล์:
      312.3 KB
      เปิดดู:
      44
    • IMG_5930.JPG
      IMG_5930.JPG
      ขนาดไฟล์:
      319.1 KB
      เปิดดู:
      46
    • IMG_5933.JPG
      IMG_5933.JPG
      ขนาดไฟล์:
      920.2 KB
      เปิดดู:
      46
    • IMG_5934.JPG
      IMG_5934.JPG
      ขนาดไฟล์:
      752.7 KB
      เปิดดู:
      36
    • IMG_5935.JPG
      IMG_5935.JPG
      ขนาดไฟล์:
      387.4 KB
      เปิดดู:
      45
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    สำหรับวันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน 2555 ก็ได้มีโอกาสไปวัดบางพลีใหญ่ใน ไปกราบหลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน ครับ

    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    [​IMG] [​IMG]


    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_5994.JPG
      IMG_5994.JPG
      ขนาดไฟล์:
      199.1 KB
      เปิดดู:
      799
    • IMG_5995.JPG
      IMG_5995.JPG
      ขนาดไฟล์:
      162.5 KB
      เปิดดู:
      734
    • IMG_5996.JPG
      IMG_5996.JPG
      ขนาดไฟล์:
      495.2 KB
      เปิดดู:
      920
    • IMG_5997.JPG
      IMG_5997.JPG
      ขนาดไฟล์:
      453 KB
      เปิดดู:
      703
    • IMG_5998.JPG
      IMG_5998.JPG
      ขนาดไฟล์:
      100.8 KB
      เปิดดู:
      535
    • IMG_5999.JPG
      IMG_5999.JPG
      ขนาดไฟล์:
      96.5 KB
      เปิดดู:
      508
    • IMG_6000.JPG
      IMG_6000.JPG
      ขนาดไฟล์:
      97.3 KB
      เปิดดู:
      574
    • IMG_6001.JPG
      IMG_6001.JPG
      ขนาดไฟล์:
      531.3 KB
      เปิดดู:
      529
    • IMG_6002.JPG
      IMG_6002.JPG
      ขนาดไฟล์:
      761.2 KB
      เปิดดู:
      513
    • IMG_6003.JPG
      IMG_6003.JPG
      ขนาดไฟล์:
      352.7 KB
      เปิดดู:
      463
    • IMG_6004.JPG
      IMG_6004.JPG
      ขนาดไฟล์:
      475 KB
      เปิดดู:
      519
    • IMG_6005.JPG
      IMG_6005.JPG
      ขนาดไฟล์:
      456.9 KB
      เปิดดู:
      446
    • IMG_6006.JPG
      IMG_6006.JPG
      ขนาดไฟล์:
      456.4 KB
      เปิดดู:
      432
    • IMG_6007.JPG
      IMG_6007.JPG
      ขนาดไฟล์:
      472.3 KB
      เปิดดู:
      452
    • IMG_6008.JPG
      IMG_6008.JPG
      ขนาดไฟล์:
      473.7 KB
      เปิดดู:
      457
    • IMG_6009.JPG
      IMG_6009.JPG
      ขนาดไฟล์:
      177.7 KB
      เปิดดู:
      434
    • IMG_6010.JPG
      IMG_6010.JPG
      ขนาดไฟล์:
      208.9 KB
      เปิดดู:
      432
    • IMG_6011.JPG
      IMG_6011.JPG
      ขนาดไฟล์:
      325.6 KB
      เปิดดู:
      421
    • IMG_6014.JPG
      IMG_6014.JPG
      ขนาดไฟล์:
      482.8 KB
      เปิดดู:
      443
    • IMG_6015.JPG
      IMG_6015.JPG
      ขนาดไฟล์:
      463.4 KB
      เปิดดู:
      433
    • IMG_6017.JPG
      IMG_6017.JPG
      ขนาดไฟล์:
      447.8 KB
      เปิดดู:
      448
    • IMG_6018.JPG
      IMG_6018.JPG
      ขนาดไฟล์:
      157.3 KB
      เปิดดู:
      432
    • IMG_6019.JPG
      IMG_6019.JPG
      ขนาดไฟล์:
      170.7 KB
      เปิดดู:
      436
    • IMG_6020.JPG
      IMG_6020.JPG
      ขนาดไฟล์:
      370.9 KB
      เปิดดู:
      467
    • IMG_6025.JPG
      IMG_6025.JPG
      ขนาดไฟล์:
      228.5 KB
      เปิดดู:
      413
    • IMG_6026.JPG
      IMG_6026.JPG
      ขนาดไฟล์:
      258.7 KB
      เปิดดู:
      447
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    ตลาดโบราณบางพลี พ.ศ.2400 ที่อยู่ข้างวัดบางพลีใหญ่ใน

    และห้องน้ำ ของวัดบางพลีใหญ่ใน อันโด่งดังและอลังการมากๆครับ

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]


    [​IMG] [​IMG]


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    [​IMG] [​IMG]

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_6030.JPG
      IMG_6030.JPG
      ขนาดไฟล์:
      6.3 MB
      เปิดดู:
      70
    • IMG_6031.JPG
      IMG_6031.JPG
      ขนาดไฟล์:
      471.3 KB
      เปิดดู:
      439
    • IMG_6032.JPG
      IMG_6032.JPG
      ขนาดไฟล์:
      612.1 KB
      เปิดดู:
      424
    • IMG_6042.JPG
      IMG_6042.JPG
      ขนาดไฟล์:
      311.3 KB
      เปิดดู:
      427
    • IMG_6041.JPG
      IMG_6041.JPG
      ขนาดไฟล์:
      425.1 KB
      เปิดดู:
      367
    • IMG_6038.JPG
      IMG_6038.JPG
      ขนาดไฟล์:
      329 KB
      เปิดดู:
      415
    • IMG_6040.JPG
      IMG_6040.JPG
      ขนาดไฟล์:
      477.4 KB
      เปิดดู:
      405
    • IMG_6036.JPG
      IMG_6036.JPG
      ขนาดไฟล์:
      478.5 KB
      เปิดดู:
      426
    • IMG_6043.JPG
      IMG_6043.JPG
      ขนาดไฟล์:
      414.6 KB
      เปิดดู:
      432
    • IMG_6044.JPG
      IMG_6044.JPG
      ขนาดไฟล์:
      826.2 KB
      เปิดดู:
      416
    • IMG_6045.JPG
      IMG_6045.JPG
      ขนาดไฟล์:
      314.9 KB
      เปิดดู:
      433
    • IMG_6046.JPG
      IMG_6046.JPG
      ขนาดไฟล์:
      271.2 KB
      เปิดดู:
      418
    • IMG_6047.JPG
      IMG_6047.JPG
      ขนาดไฟล์:
      169.9 KB
      เปิดดู:
      426
    • IMG_5969.JPG
      IMG_5969.JPG
      ขนาดไฟล์:
      389.2 KB
      เปิดดู:
      421
    • IMG_5970.JPG
      IMG_5970.JPG
      ขนาดไฟล์:
      299.6 KB
      เปิดดู:
      357
    • IMG_5971.JPG
      IMG_5971.JPG
      ขนาดไฟล์:
      444.4 KB
      เปิดดู:
      38
    • IMG_5973.JPG
      IMG_5973.JPG
      ขนาดไฟล์:
      370.1 KB
      เปิดดู:
      333
    • IMG_5980.JPG
      IMG_5980.JPG
      ขนาดไฟล์:
      469.2 KB
      เปิดดู:
      407
    • IMG_5984.JPG
      IMG_5984.JPG
      ขนาดไฟล์:
      458 KB
      เปิดดู:
      50
    • IMG_5985.JPG
      IMG_5985.JPG
      ขนาดไฟล์:
      431.1 KB
      เปิดดู:
      390
    • IMG_5986.JPG
      IMG_5986.JPG
      ขนาดไฟล์:
      439 KB
      เปิดดู:
      404
    • IMG_5987.JPG
      IMG_5987.JPG
      ขนาดไฟล์:
      415.5 KB
      เปิดดู:
      403
    • IMG_5993.JPG
      IMG_5993.JPG
      ขนาดไฟล์:
      285.9 KB
      เปิดดู:
      430
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    วัดสุดท้ายในการตะเวณกราบพระในวันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน 2555

    ไปกราบหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย ที่คลองด่านมาครับ

    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_5936.JPG
      IMG_5936.JPG
      ขนาดไฟล์:
      333.8 KB
      เปิดดู:
      439
    • IMG_5937.JPG
      IMG_5937.JPG
      ขนาดไฟล์:
      227.2 KB
      เปิดดู:
      402
    • IMG_5938.JPG
      IMG_5938.JPG
      ขนาดไฟล์:
      460 KB
      เปิดดู:
      323
    • IMG_5939.JPG
      IMG_5939.JPG
      ขนาดไฟล์:
      461.8 KB
      เปิดดู:
      400
    • IMG_5940.JPG
      IMG_5940.JPG
      ขนาดไฟล์:
      936.2 KB
      เปิดดู:
      396
    • IMG_5945.JPG
      IMG_5945.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1 MB
      เปิดดู:
      409
    • IMG_5946.JPG
      IMG_5946.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.3 MB
      เปิดดู:
      312
    • IMG_5948.JPG
      IMG_5948.JPG
      ขนาดไฟล์:
      321.6 KB
      เปิดดู:
      402
    • IMG_5949.JPG
      IMG_5949.JPG
      ขนาดไฟล์:
      404.3 KB
      เปิดดู:
      50
    • IMG_5950.JPG
      IMG_5950.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.7 MB
      เปิดดู:
      64
    • IMG_5951.JPG
      IMG_5951.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.6 MB
      เปิดดู:
      59
    • IMG_5952.JPG
      IMG_5952.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.3 MB
      เปิดดู:
      61
    • IMG_5953.JPG
      IMG_5953.JPG
      ขนาดไฟล์:
      259.8 KB
      เปิดดู:
      386
    • IMG_5954.JPG
      IMG_5954.JPG
      ขนาดไฟล์:
      468.9 KB
      เปิดดู:
      393
    • IMG_5955.JPG
      IMG_5955.JPG
      ขนาดไฟล์:
      504.2 KB
      เปิดดู:
      395
    • IMG_5956.JPG
      IMG_5956.JPG
      ขนาดไฟล์:
      539.8 KB
      เปิดดู:
      400
    • IMG_5957.JPG
      IMG_5957.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.2 MB
      เปิดดู:
      421
    • IMG_5960.JPG
      IMG_5960.JPG
      ขนาดไฟล์:
      527.1 KB
      เปิดดู:
      404
    • IMG_5961.JPG
      IMG_5961.JPG
      ขนาดไฟล์:
      849.3 KB
      เปิดดู:
      434
    • IMG_5962.JPG
      IMG_5962.JPG
      ขนาดไฟล์:
      349.1 KB
      เปิดดู:
      372
    • IMG_5963.JPG
      IMG_5963.JPG
      ขนาดไฟล์:
      122.4 KB
      เปิดดู:
      367
    • IMG_5966.JPG
      IMG_5966.JPG
      ขนาดไฟล์:
      109.6 KB
      เปิดดู:
      402
    • IMG_5967.JPG
      IMG_5967.JPG
      ขนาดไฟล์:
      341.9 KB
      เปิดดู:
      391
    • IMG_5968.JPG
      IMG_5968.JPG
      ขนาดไฟล์:
      314 KB
      เปิดดู:
      379
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สืบตำนาน “อุ้มพระดำน้ำ” สู่ประเพณีดีงามเมืองมะขามหวาน
    -http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9550000120933-


    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>2 ตุลาคม 2555 17:05 น</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]

    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300><TBODY><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
    พระพุทธมหาธรรมราชา พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเพชรบูรณ์​
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ในแต่ละจังหวัดของประเทศไทยมักจะมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองอันเป็นสิ่งเคารพบูชาของชาวเมืองและประชาชนทั่วไป อีกทั้งพระพุทธรูปแต่ละองค์ก็มักมีเรื่องเล่าถึงตำนานความเชื่อและอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์อันปรากฏแก่ชาวเมือง และได้เล่าขานสืบต่อจากรุ่นสู่รุ่น จนกลายมาเป็นประเพณีที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาจนปัจจุบัน

    ดังเช่น “พระพุทธมหาธรรมราชา” พระพุทธรูปศักสิทธิ์ของจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่มีตำนานเล่าขานถึงความอัศจรรย์กลางลุ่มน้ำป่าสัก โดยองค์พระพุทธมหาธรรมราชาเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิหล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ ไม่ปรากฎหลักฐานแน่ชัดว่าสร้างขึ้นเมื่อใด แต่รูปแบบศิลปะขององค์พระพุทธรูปเป็นแบบขอม การพบพระพุทธรูปองค์นี้เล่ากันว่า ชาวประมงคนหนึ่งได้ทอดแหหาปลาบริเวณคุ้งมะขามแฟบ ในแม่น้ำป่าสัก ในเวลานั้นมีลมพายุฝนฟ้าคะนองและกระแสน้ำวนเกิดขึ้น แต่เพียงชั่วครู่ก็เงียบหายไป น้ำที่ไหลเชียวก็หยุดนิ่ง และปรากฏเป็นพระพุทธรูปลอยน้ำขึ้นมา สร้างความอัศจรรย์ให้แก่ชาวบ้านที่พบเห็น หลังจากนั้นชาวเมืองจึงได้อัญเชิญพระพุทธรูปมาประดิษฐานที่วัดไตรภูมิ และถวายนามว่าพระพุทธมหาธรรมราชา เนื่องจากพระวรกายสวมใส่เครื่องประดับของกษัตริย์นักรบสมัยขอมโบราณ


    [​IMG]
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450><TBODY><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ขณะประกอบพิธีอุ้มพระดำน้ำ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    ตำนานพระพุทธรูปลอยน้ำมีมากมาย แต่เรื่องราวขององค์พระพุทธมหาธรรมราชามีความอัศจรรย์ยิ่งกว่านั้น เพราะเมื่อถึงวันสารทไทย หรือวันแรม 15 ค่ำ เดือนสิบ องค์พระก็ได้หายไปจากวัดอย่างไร้ร่องรอย และหลังจากการตามหาของชาวบ้านจึงได้พบองค์พระลอยอยู่ในแม่น้ำป่าสัก บริเวณเดียวกับที่พบพระพุทธรูปเป็นครั้งแรก

    หลังจากนั้นเป็นต้นมา ทุกๆ วันแรม 15 ค่ำ เดือนสิบ เพื่อมิให้องค์พระต้องไปลอยอยู่ในแม่น้ำด้วยตัวเองอีกชาวบ้านจึงร่วมกันอัญเชิญพระพุทธมหาธรรมราชาไปประกอบพิธีดำน้ำ และได้กระทำสืบทอดกันมาด้วยความเชื่อและแรงศรัทธา จนทำให้เกิดเป็น “ประเพณีอุ้มพระดำน้ำ” ของทางจังหวัดเพชรบูรณ์สืบต่อมา

    สำหรับผู้ที่จะอุ้มองค์พระดำน้ำนั้นก็คือเจ้าเมืองหรือพ่อเมือง หรือในสมัยปัจจุบันก็คือผู้ว่าราชการจังหวัด โดยจะประกอบพิธีพราหมณ์เพื่อเสี่ยงทายทิศทางในการอุ้มพระดำน้ำ นอกจากนั้นก็ยังจะทำพิธีคัดเลือกบุคคล 4 คน ซึ่งเป็นประชาชนธรรมดาจากหลากหลายอาชีพเพื่อเป็นตัวแทนของ เวียง วัง คลัง นา หรือกรมการปกครองทั้งสี่ในอดีต มาดำน้ำพร้อมผู้ว่าฯ ในตำแหน่งสี่ทิศด้านข้างท่านผู้ว่าฯ และจะดำน้ำพร้อมกันทั้งหมด 6 ครั้ง ตามประเพณีที่สืบต่อกันมา ในขณะทำพิธีชาวเมืองเพชรบูรณ์จะมาร่วมแรงร่วมใจกันอธิษฐานให้บ้านเมืองมีความสุขสงบร่มเย็น


    [​IMG]
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350><TBODY><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>พระพุทธมหาธรรมราชาองค์ใหญ่ ณ พุทธอุทยานเพชบุระ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    ปัจจุบัน พระพุทธมหาธรรมราชาประดิษฐานอยู่ในมณฑปของวัดไตรภูมิ อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ เฉพาะในช่วงเทศกาลสารทไทยของทุกปีที่จะถูกอัญเชิญไปประกอบพิธีอุ้มพระดำน้ำ นอกจากนั้น ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ยังได้ร่วมกันสร้างพระพุทธมหาธรรมราชาองค์ใหญ่เพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสที่ทรงมีพระชนมายุครบ 84 พรรษา เมื่อปี 2554 โดยพระพุทธมหาธรรมราชาองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ที่พุทธอุทยานเพชบุระ ใน อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์

    สำหรับคำร่ำลือถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธมหาธรรมราชาองค์ใหญ่ที่ชาวบ้านได้พบนั้น นางจำนงค์สุข วีรพันธุ์ และนางสุรินทร์ มีเนตร แม่บ้านประจำพุทธอุทยานเพชบุระ ได้เล่าให้ฟังว่า หากใครปรารถนาเรื่องสุขภาพและหน้าที่การงาน ถ้ามาขอกับองค์พระก็จะสำเร็จกันทุกคน และมักจะแก้บนด้วยผลไม้ 9 อย่าง และหากวันไหนมีฝนตกหนักในยามค่ำ ชาวบ้านก็จะเห็นแสงที่ด้านหลังเศียรพระ เชื่อว่าอาจจะเป็นเพราะองค์ท่านจะชอบน้ำ เมื่อฝนมาจึงได้เกิดความอัศจรรย์ให้คนได้เห็นอยู่บ่อยครั้ง

    สำหรับในปีนี้หากใครสนใจอยากมาร่วมงานประเพณีอุ้มพระดำน้ำ ก็สามารถมาได้ตั้งแต่วันที่ 13-17 ตุลาคมนี้ ณ บริเวณริมแม่น้ำป่าสัก วัดโบสชนะมาร ซึ่งนอกจากจะได้มาเห็นประเพณีแห่งความศรัทธาแล้ว ก็ยังจะได้มากราบสักการะขอพรพระพุทธมหาธรรมราชาองค์ใหญ่ และเป็นโอกาสดีที่จะได้ท่องเที่ยวในจังหวัดเพชรบูรณ์อีกด้วย


    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Image1.jpg
      Image1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      22.9 KB
      เปิดดู:
      49
    • Image2.jpg
      Image2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      38.1 KB
      เปิดดู:
      62
    • Image3.jpg
      Image3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      24.2 KB
      เปิดดู:
      101
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .
    พระพุทธมหาธรรมราชา วัดไตรภูมิ จ.เพชรบูรณ์

    คอลัมน์ เดินสายไหว้พระพุทธ
    มานิต นีรคุปต์ / อารีย์ สีแก้ว
    ที่มาหนังสือพิมพ์ข่าวสด

    พระ พุทธรูป พระพุทธมหาธรรมราชา เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดเพชรบูรณ์ เคียงคู่กับหลวงพ่อเพชรมีชัย พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานอยู่ที่วัดมหาธาตุ พระอารามหลวง จ.เพชรบูรณ์

    พระพุทธมหาธรรมราชา วัดไตรภูมิ จ เพชรบูรณ์ เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ศิลปะลพบุรีทรงเครื่อง สร้างด้วยเนื้อทองสำริด หน้าตักกว้าง 13 นิ้ว สูง 18 นิ้ว ไม่มีฐาน

    มีพุทธลักษณะ พระพักตร์กว้าง พระโอษฐ์แบะ พระกรรณยาวย้อยจรดพระอังสะ พระเศียรทรงชฎาเทริด หรือมีกะบังหน้า ทรงสร้อยพระศอพาหุรัด ทรงประคดเป็นลายสวยงาม

    สาเหตุ ที่พระพุทธรูปองค์นี้ มีนามว่า พระพุทธมหาธรรมราชา เนื่องจากพระวรกายสวมใส่เครื่องประดับของกษัตริย์นักรบสมัยโบราณ ชาวบ้านจึงพากันเรียกขานว่า "พระพุทธมหาธรรมราชา"

    สันนิษฐานว่า พระพุทธมหาธรรมราชา สร้างในราวปี พ.ศ.1600 สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 6 กษัตริย์แห่งอาณาจักรขอม ในระหว่างที่สร้างนั้นก็ได้นิมนต์พระภิกษุที่เป็นพระเกจิอาจารย์มาปลุกเสก ด้วย และยังมีเรื่องเล่ากันว่าพระเกจิอาจารย์บางรูปสามารถรู้ภาษาสัตว์ได้ หลังจากสร้างเสร็จแล้วก็มีการฉลองสมโภช 9 คืน 9 วัน

    ครั้นเมื่อพระ เจ้าชัยวรมันที่ 7 ครองราชสมบัติต่อจากกษัตริย์องค์ก่อน ก็ได้พระราชทานพระพุทธมหาธรรมราชาให้กับพ่อขุนผาเมือง เพื่อเป็นการเจริญสัมพันธไมตรี นอกจากนี้ ยังได้มอบพระราชธิดา พระนามว่า นางสุขรมหาเทวี และพระราชโอรสพระนามว่า กมรเตงอัญศรีทราทิตย์ หรือ ศรีอินทราทิตย์ ต่อมาพ่อขุนผาเมืองกับพ่อขุนบางกลางหาว ได้กอบกู้กรุงสุโขทัยคืนจากขอมสมาดโขลญได้แล้วพ่อขุนผาเมือง จึงได้สถาปนาให้พ่อขุนบางกลางหาว เป็นกษัตริย์ปกครองกรุงสุโขทัย
    ทำให้ นางสุขรมหาเทวีไม่พอพระทัย จึงได้โยน พระพุทธมหาธรรมราชา ลงแม่น้ำป่าสัก และพระนางก็ได้กระโดดน้ำตาย เวลาผ่านไป ได้มีชาวประมงได้ไปหาปลาเวียงแห แต่แล้วก็ได้พระพุทธมหาธรรมราชา สถานที่พบนั้น คือ วัดโบสถ์ชนะมาร (ซึ่งวัดโบสถ์ชนะมารในสมัยนั้นยังไม่ได้สร้าง) ซึ่งอยู่ในเขต อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ชาวบ้านเห็นเป็นที่อัศจรรย์ คิดว่าพระพุทธรูปองค์นี้ คงเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ จึงช่วยกันนำขึ้นมาจากแม่น้ำป่าสัก หลังจากนั้น ได้อัญเชิญไปประดิษฐานไว้ที่วัดไตรภูมิ พอถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 ซึ่งตรงกับวันสารทไทย ปรากฏว่า พระพุทธมหาธรรมราชา ได้หายไปจากวัดไตรภูมิ

    ทำให้เจ้าอาวาส พระลูกวัด และชาวบ้านต่างพากันค้นหา ในที่สุดก็พบ พระพุทธมหาธรรมราชา ดำผุดดำว่ายอยู่บริเวณที่พบครั้งแรก จากนั้นเป็นต้นมา เมื่อถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 จึงมีการแห่พระพุทธมหาธรรมราชาไปรอบเมือง จนถึงบริเวณหน้าวัดไตรภูมิ จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งเป็นตัวแทนของชาวเพชรบูรณ์ จะเป็นผู้อุ้มพระพุทธมหาธรรมราชา ลงดำน้ำทั้ง 4 ทิศ ซึ่งถือว่าเป็นสิริมงคลแก่จังหวัด จนกลายเป็นประเพณีอุ้มพระดำน้ำของจังหวัดเพชรบูรณ์ จนถึงทุกวันนี้

    ชาว เมืองเพชรบูรณ์ มีความเชื่อว่า ประเพณีอุ้มพระดำน้ำ จะทำให้ข้าวกล้าในท้องนา พืชผลทางการเกษตร เจริญงอกงาม ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล จนกลายเป็นประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์ ความเชื่อใน การอัญเชิญพระพุทธมหาธรรมราชาดำน้ำ ผู้ที่อัญเชิญจะต้องเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเท่านั้น ทั้งนี้ ด้วยตำแหน่งดังกล่าว เทียบได้กับเจ้าเมืองในสมัยโบราณ ซึ่งเป็นใหญ่ที่สุดในเมือง ความเสียสละของผู้เป็นใหญ่ ในนครที่มีความห่วงใยในทุกข์สุขของราษฎรและได้ชื่อว่าเป็นผู้ทะนุบำรุงพุทธ ศาสนาให้มั่นคงสืบไป พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์องค์นี้ จะให้ผู้อื่นที่ไม่ใช่เจ้าเมืองอัญเชิญไปดำน้ำแทนไม่ได้ หากปีใดไม่มีการอัญเชิญพระพุทธรูปองค์ดังกล่าวไปดำน้ำ ชาวเพชรบูรณ์ เชื่อกันว่าปีนั้นบ้านเมืองจะเกิดความแห้งแล้ง ข้าวยากหมากแพง และพระพุทธรูปองค์นี้จะหายไปด้วย

    ประเพณีอุ้มพระดำน้ำ ยังสะท้อนให้เห็นความร่วมมือเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของชาวเพชรบูรณ์ ที่ต้องการสืบทอดและรักษามรดกทางวัฒนธรรมอันนี้ไว้ อย่างทรงคุณค่าตลอดกาลนาน ปัจจุบัน พระพุทธมหาธรรมราชา วัดไตรภูมิ ประดิษฐานในมณฑปวัดไตรภูมิ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ เฉพาะในช่วงเทศกาลสารทไทยของทุกปี ที่จะถูกอัญเชิญไปประกอบพิธีอุ้มพระดำน้ำ

    ส่วน วันปกติประดิษฐานไว้ในมณฑป เพื่อให้ประชาชนได้บูชาสัก การะอธิษฐานจิตขอพร ปรากฏเป็นที่เลื่องลือว่า ใครได้มากราบไหว้บูชาพระพุทธมหาธรรมราชา จะเกิดความสบายใจ ประสบความสำเร็จสมหวังในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการ

    คอลัมน์ เดินสายไหว้พระพุทธ
    มานิต นีรคุปต์ / อารีย์ สีแก้ว
    ที่มาหนังสือพิมพ์ข่าวสด
    ----------------------------------------------------------------

    ประวัติของพระพุทธ มหาธรรมราชา

    สำหรับ "พระพุทธมหาธรรมราชา" นั้นเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ศิลปะสมัยลพบุรี หล่อด้วยเนื้อทอง สัมฤทธิ์หน้าตักกว้าง 13 นิ้วสูง 18 นิ้ว ไม่มีฐาน มีพุทธลักษณะ พระพักตร์กว้าง พระโอษฐ์แบะ พระกรรณยาวย้อย จนจรดพระอังสาที่พระเศียรทรงชฎาเทริดหรือมีกระบังหน้า ทรงสร้อยพระศอพาหุรัด และประคตเป็นลวดลาย งดงามอีกทั้งแลดูน่าเกรงขามอย่างยิ่ง
    ส่วน ประวัติการสร้างนั้นไม่ปรากฏเด่นชัด แต่ชาวเพชรบูรณ์มีความเชื่อว่าพ่อขุนผาเมือง เจ้าเมืองราด (อ.หล่มสัก) ได้รับพระราชทานจาก พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 กษัตริย์แห่งนครธม ให้นำไปประดิษฐานเป็นพระคู่บ้านคู่เมือง หลังจากทรงอภิเษกสมรสกับ พระนางสิงขรมหาเทวี แต่หลังจากพ่อขุนผาเมืองร่วมกับพ่อขุนบางกลางท่าว เจ้าเมืองบางยาง (อ.นครไทย) พระสหาย กอบกู้อิสรภาพ ให้กับคนไทย ทำให้พระนางสิงขรมหาเทวี แค้นเคืองถึงกับเผาเมืองราดจนย่อยยับจากนั้นตัดสินใจกระโดด แม่น้ำป่าสักฆ่าตัวตาย ทำให้ไพร่พลเสนาอำมาตย์ ต้องอัญเชิญพระพุทธมหาธรรมราชาลงแพล่องไปตามแม่น้ำป่าสัก เพื่อหลบหนีไฟ แต่ปรากฎว่าแม่น้ำป่าสักมีความคดเคี้ยว และกระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก ทำให้แพที่อัญเชิญ พระพุทธมหาธรรมราชาแตก จนองค์พระจมดิ่งลงสู้ก้นแม่น้ำหายไป กระทั่งต่อมาชาวประมงได้ไปพบ จนก่อให้เกิด ตำนานมหัศจรรย์และ "ประเพณีอุ้มพระดำน้ำ" ขึ้น

    -https://sites.google.com/site/praphenixumphradana/prawati-khxng-phraphuthth-mha-thrrm-racha-


    https://sites.google.com/site/praphenixumphradana/prawati-khxng-phraphuthth-mha-thrrm-racha
    .
    <script type="text/javascript"><!--google_ad_client = "pub-1590357468802909";/* 336x280, ถูกสร้างขึ้นแล้ว 3/6/09 */google_ad_slot = "2381184145";google_ad_width = 336;google_ad_height = 280;//--></script><script type="text/javascript" src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"></script>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ตุลาคม 2012
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .

    พ่อขุนศรีอินทราทิตย์

    <!-- /firstHeading --><!-- bodyContent --><!-- tagline -->จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
    <!-- /tagline --><!-- subtitle -->



    พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ หรือพระนามเต็ม กำมรเตงอัญศรีอินทรบดินทราทิตย์ พระนามเดิม พ่อขุนบางกลางหาว (ไม่ใช่ กลางท่าว) ทรงเป็นปฐมกษัตริย์แห่งประวัติศาสตร์ไทย ครองราชสมบัติ ตั้งแต่ พ.ศ. 1792 (คำนวณศักราชจากคัมภีร์สุริยยาตรตามข้อเสนอของ ศ. ประเสริฐ ณ นครและ พ.อ.พิเศษ เอื้อน มณเฑียรทอง) แต่ไม่ปรากฏหลักฐานการสวรรคตหรือสิ้นสุดการครองราชสมบัติปีใด มีผู้สันนิษฐานที่มาของพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ จากคัมภีร์ชินกาลมาลีปกรณ์ว่าบ้านเดิมของพระองค์อาจอยู่ที่ "บ้านโคน" ในจังหวัดกำแพงเพชร


    พระนาม
    1. บางกลางหาว
    2. ศรีอินทราทิตย์
    3. อรุณราช
    4. ไสยรังคราช หรือสุรังคราช หรือไสยนรงคราช หรือรังคราช
    5. พระร่วง หรือโรจนราช
    สำหรับพระนามแรก คือ พ่อขุนบางกลางหาวนั้น เป็นพระนามดั้งเดิมเมื่อครั้งเป็นเจ้าเมืองบางยาง พระนามนี้ไม่มีปัญหาอะไรมากนัก และเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่า พ่อขุนบางกลางหาวเป็นพระนามสมัยเป็นเจ้าเมืองบางยางโดยแท้จริง
    พระนามที่สองนั้น เป็นพระนามที่ใช้กันทางราชการ เป็นพระนามที่เชื่อกันว่าทรงใช้เมื่อราชาภิเษกแล้ว คำว่าศรีอินทราทิตย์นั้น ไมมีปัญหา เพราะมีบ่งอยู่ในศิลาจารึก แต่สิ่งที่เป็นปัญหาคือ คำที่นำหน้า คำว่า "ศรีอินทราทิตย์" เพราะเรียกแตกต่างกันไปว่า ขุนศรีอินทราทิตย์บ้าง พ่อขุนศรีอินทราทิตย์บ้าง พระเจ้าศรีอินทราทิตย์บ้าง และบางทีก็เรียกพระเจ้าขุนศรีอินทราทิตย์
    [แก้] พระราชกรณียกิจ

    พ่อขุนศรีอินทราทิตย์เมื่อครั้งยังเป็นพ่อขุนบางกลางหาวได้ร่วมกับพ่อขุนผาเมือง เจ้าเมืองราดแห่งราชวงศ์ศรีนาวนำถุม รวมกำลังพลกัน กระทำรัฐประหารขอมสบาดโขลญลำพง โดยพ่อขุนบางกลางหาวตีเมืองศรีสัชนาลัยและเมืองบางขลงได้ และยกทั้งสองเมืองให้พ่อขุนผาเมือง ส่วนพ่อขุนผาเมืองตีเมืองสุโขทัยได้ ก็ได้มอบเมืองสุโขทัยให้พ่อขุนบางกลาวหาว พร้อมพระขรรค์ชัยศรีและพระนาม "ศรีอินทรบดินทราทิตย์" ซึ่งได้นำมาใช้เป็นพระนาม ภายหลังได้คลายเป็น ศรีอินทราทิตย์ การเข้ามาครองสุโขทัยของพระองค์ ส่งผลให้ราชวงศ์พระร่วงเข้ามามีอิทธิพลในเขตนครสุโขทัยเพิ่มมากขึ้น และได้แผ่ขยายดินแดนกว้างขวางมากออกไป แต่เขตแดนเมืองสรลวงสองแคว ก็ยังคงเป็นฐานกำลังของราชวงศ์ศรีนาวนำถุมอยู่
    ในกลางรัชสมัย ทรงมีสงครามกับขุนสามชน เจ้าเมืองฉอด ทรงชนช้างกับขุนสามชน แต่ช้างทรงพระองค์ ได้เตลิดหนีดังคำในศิลาจารึกว่า "หนีญญ่ายพ่ายจแจ" ขณะนั้นพระโอรสองค์เล็ก ทรงมีพระปรีชาสามารถ ได้ชนช้างชนะขุนสามชน ภายหลังจึงทรงเฉลิมพระนามพระโอรสว่ารามคำแหง
    ในยุคประวัติศาสตร์ชาตินิยม มีคติหนึ่งที่เชื่อกันว่า พระองค์ทรงเป็นผู้นำชนชาติไทย ต่อสู้กับอิทธิพลขอมในสุวรรณภูมิ ทรงได้ชัยชนะและประกาศอิสรภาพตั้งราชอาณาจักรสุโขทัยขึ้น และทรงเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรไทย แต่ภายหลัง คติดังกล่าวได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่จริง เพราะพระองค์ไม่ได้เป็นปฐมกษัตริย์ อีกทั้งยังมีพ่อขุนศรีนาวนำถุม ครองสุโขทัยอยู่ก่อนแล้ว
    [แก้] พระราชวงศ์

    พ่อขุนศรีอินทราทิตย์มีพระราชโอรสและพระธิดารวม 5 พระองค์ ได้แก่
    1. พระราชโอรสองค์โต (ไม่ปรากฏนาม) เสียชีวิตตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์
    2. พ่อขุนบานเมือง
    3. พ่อขุนรามคำแหงมหาราช (พระนามขณะที่ยังทรงพระเยาว์ไม่ปรากฏ)
    4. พระธิดา (ไม่ปรากฏนาม)
    5. พระธิดา (ไม่ปรากฏนาม)
    แม้ไม่ทราบแน่นอนว่าพระองค์สิ้นพระชนม์ในปีใด แต่ภายหลังจากพระองค์สิ้นพระชนม์แล้ว พ่อขุนบานเมือง ผู้เป็นพระราชโอรสองค์ใหญ่ ได้สืบราชสมบัติแทน

    .
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .

    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=757 NOF="LY"><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD height=175 colSpan=2></TD><TD vAlign=center width=445 align=middle><!-- Start of Picture (Picture13) -->[​IMG]</TD><TD></TD></TR><TR vAlign=top align=left><TD height=16 colSpan=4></TD></TR><TR vAlign=top align=left><TD></TD><TD width=740 colSpan=3><!-- Start of Text (Text1) -->[FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif][SIZE=-1][/SIZE][/FONT][FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif]พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ เดิมคือ ขุนบางกลางหาว (ชื่อ [/FONT][FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif]“ร่วง” [/FONT][FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif]ในสิหิงคนิทานว่า[/FONT][FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif] รณรงโค [/FONT][FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif]แปลว่า[/FONT][FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif] พระร่วง นักรบ[/FONT][FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif]) เจ้าเมืองบางยาง (เมืองนครไทย) ได้ร่วมกับขุนผาเมือง เจ้าเมืองราด ทำการยึดอำนาจขอม และครองราชย์ในปี พ.ศ. ๑๗๖๒

    เรื่องศักราชการยึดอำนาจจากขอม และการขึ้นครองราชย์นั้นสรุปไม่ได้ มีบางแห่ง (ศจ.ดร.ประเสริฐ ณ นคร) สรุปว่าครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. ๑๗๖๒ -๑๗๘๑ (๑๙ ปี) บางแห่งว่าครองราชย์ราวพ.ศ. ๑๗๖๒ บางแห่งว่าพระองค์ทรงตั้งอาณาจักรสยามที่เมืองสุโขทัยทำการขับไล่ขอมเมื่อ พ.ศ. ๑๗๖๒ บางแห่งระบุว่าปีครองราชย์ประมาณ พ.ศ. ๑๘๐๐ ทำให้เกิดปัญหาเวลาการครองราชย์ของขุนบานเมืองต่อไป

    พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ มีมเหสีพระนามว่า [/FONT][FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif]“นางเสือง” [/FONT][FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif](เป็นพระธิดาของพ่อขุนศรีนาวนำถุม) ทรงมีพระโอรสธิดาราม ๕ องค์ เป็นโอรส ๓ องค์ ธิดา ๒ องค์ โอรสองค์ใหญ่ไม่ปรากฏพระนามด้วยสิ้นพระชนม์เสียตั้งแต่ยังเยาว์วัย องค์ที่สอง คือ บานเมืองหรือปาลราช องค์ที่สามเดิมไม่มีพระนาม แต่พอไปชนช้างชนะขุนสามชนเจ้าเมืองฉอด (เมืองตาก) มีความชอบจึงประทานชื่อ (หรือชื่อตามยศศักดิ์) ว่า[/FONT][FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif]พระรามคำแหง[/FONT][FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif] ในหนังสืออื่น เรียก รามราช ส่วนธิดาอีก ๒ คนไม่ปรากฏนาม

    <!-- Start of Table (Table1) -->[/FONT]<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" NOF="TE"><TBODY><TR><TD align=middle><!-- Start of Table (Table1) --><TABLE id=Table1 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="63%"><TBODY><TR><TD height=273 width="34%"><!-- Start of Cell (Cell1) -->[FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif][SIZE=-1]<!-- Start of Picture (Picture6) -->[​IMG][/SIZE][/FONT]
    </TD><TD width="65%"><!-- Start of Cell (Cell2) -->[FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif][SIZE=-1]<!-- Start of Picture (Picture7) -->[​IMG][/SIZE][/FONT]
    </TD></TR><TR><TD width="34%"><!-- Start of Cell (Cell3) -->
    [FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif][SIZE=-1][/SIZE][/FONT][FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif][SIZE=-1]พระร่วง (ฝีพระหัตถ์ ร. ๖)[/SIZE][/FONT] ​
    </TD><TD width="65%"><!-- Start of Cell (Cell4) -->
    [FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif][SIZE=-1][/SIZE][/FONT][FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif][SIZE=-1]แผนที่เิมืองสุโขทัย (เก่า)[/SIZE][/FONT]​
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>[FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif]
    การขึ้นครองเมืองสุโขทัยของพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ (ขุนบางกลางหาว) นั้นแม้สามารถ ขับไล่ขอมสบาดโขลญลำพงออกไปจากเขตเมืองได้ ก็ยังทำให้พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ รู้สึกกังวลต่อฐานอำนาจเดิมที่พ่อขุนศรีนาวนำถุมมีอยู่แต่เดิม (ไม่ค่อยจะมั่นคง) แม้ขุนผาเมืองจะไม่ครองเมืองสุโขทัยแทนพระบิดา หรือเห็นว่านางเสือง เป็นมเหสีของขุนบางกลางหาวอยู่แล้วก็ตามพ่อขุนผาเมืองก็ยังระแวงว่ากำลังจากอาณาจักรขอมนั้นจะยกเข้ามาทำสงครามชิงเมืองคืน ขุนผาเมืองจึงกลับไปครองเมืองราดเพื่อให้มเหสี คือนางสิขรมหาเทวีซึ่งเป็นพระธิดากษัตริย์ขอม นั้นเป็นผู้เชื่อมไมตรีกับพระบิดาคือ พระเจ้าเจ้าสุริยวรมันที่ ๗ ดังนั้น ขุนผาเมืองจึงให้ขุนบางกลางหาวนั้นรับเอาพระนาม[/FONT][FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif] “ศรีบดิทรอินทราทิตย์” [/FONT][FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif](กมรเตงอัญศรีอินทราบดินทราทิตย์) และพระขรรค์ชัยศรีจากขุนผาเมือง มาใช้เป็นการป้องกันเมือง และสร้างความเป็นไมตรีต่ออาณาจักรขอมไว้ก่อน

    พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ขึ้นครองราชย์ที่เมืองสุโขทัยได้ไม่นานประมาณ พ.ศ. ๑๘๐๐-๑๘๐๒ ขุนสามชนเจ้าเมืองฉอดก็แสดงท่าทีจะชิงเมือง โดยยกทัพเข้าจะตีเอาเมืองตาก กำลังของขุนสามชน เมืองฉอดที่ยกทัพมาครั้งนี้ เข้าใจว่าน่าจะมีกำลังของขอมสบาดโขลญลำพงที่พ่ายหนีไปส่วนหนึ่งนั้นสมทบเข้ามาด้วย?

    <!-- Start of Table (Table2) -->[/FONT]<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" NOF="TE"><TBODY><TR><TD align=middle><!-- Start of Table (Table2) --><TABLE id=Table2 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="71%"><TBODY><TR><TD height=161 width="50%"><!-- Start of Cell (Cell12) -->[FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif][SIZE=-1]<!-- Start of Picture (Picture9) -->[/SIZE][/FONT]<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" NOF="TE"><TBODY><TR><TD align=middle><!-- Start of Picture (Picture9) -->[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD><TD width="50%"><!-- Start of Cell (Cell5) -->
    [FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif][SIZE=-1]<!-- Start of Picture (Picture10) -->[/SIZE][/FONT]<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" NOF="TE"><TBODY><TR><TD align=middle><!-- Start of Picture (Picture10) -->[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>​
    </TD></TR><TR><TD width="50%"><!-- Start of Cell (Cell13) -->
    [FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif][SIZE=-1][/SIZE][/FONT][FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif][SIZE=-1]พ่อขุนรามฯ ชนช้างกับขุนสามชน[/SIZE][/FONT]​
    </TD><TD width="50%"><!-- Start of Cell (Cell11) -->
    [FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif][SIZE=-1][/SIZE][/FONT][FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif][SIZE=-1]เมืองสุโขทัย (ฐานพระราชวัง)[/SIZE][/FONT]​
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>[FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif]
    ครั้งนั้นพ่อขุนศรีอินทราทิตย์เห็นว่าหากปล่อยให้ขุนสามชนตีได้เมืองตากแล้ว ก็จะเป็นอันตรายกับเมืองสุโขทัย ดังนั้นพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ จึงยกทัพออกจากเมืองสุโขทัยพร้อมกับโอรสคนเล็ก (นามว่าพระรามราช?) ซึ่งมีอายุ ๑๙ พรรษา และได้ติดตามบิดาออกสงครามด้วย

    [/FONT][FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif]การสู้รบนั้นได้มีการทำยุทธหัตถีกัน ระหว่างขุนศรีอินทราทิตย์กับขุนสามชนและ (พระรามราช?) โอรสองค์นี้ได้เข้าชนช้างช่วยพระบิดาจน มีชัยชนะขุนสามชน ด้วยความกล้าหาญของโอรสองค์นี้ จึงได้รับการเฉลิมพระนามว่า[/FONT][FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif] [/FONT][FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif]รามกำแหง หรือรามคำแหง

    <!-- Start of Table (Table3) -->
    [/FONT]<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="27%" align=left NOF="TE"><TBODY><TR><TD><!-- Start of Table (Table3) --><TABLE id=Table3 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="100%"><!-- Start of Cell (Cell9) -->[FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif][SIZE=-1]<!-- Start of Picture (Picture11) -->[​IMG][/SIZE][/FONT]
    </TD></TR><TR><TD width="100%"><!-- Start of Cell (Cell10) -->
    [FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif][SIZE=-1][/SIZE][/FONT][FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif][SIZE=-1]เจดีย์วัดพระมหาธาตุ เมืองสุโขทัย[/SIZE][/FONT]​
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>[FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif]ระยะแรกนั้นเมืองสุโขทัยได้ทำการขยายอาณาเขตด้วยการทำสงครามกับเมืองต่างๆ ที่ไม่ยอมเป็นไมตรี เนื่องจากเมืองสุโขทัยนั้นเปลี่ยนราชวงศ์ใหม่ ไม่ใช่เชื้อสายราชวงศ์ของขุนศรีนาวนำถุม ผู้ครองเมืองเดิม ขณะนั้นบรรดาเมืองต่างๆ ส่วนใหญ่นิยมที่จะนับถือราชวงศ์ศรีนามนำถุมอยู่ จึงทำให้เมืองนั้น ไม่ยอมอ่อนน้อมยอมขึ้นด้วย จนพ่อขุนต้องออกทำการปราบปรามเมืองต่างๆ ในที่สุด เมืองเหล่านั้นก็ยอมอ่อนน้อม

    ในที่สุดเมืองสุโขทัยก็สามารถขยายเขตของอาณาจักรได้กว้างขวาง ทำให้เมืองสุโขทัยสามารถวางรากฐานอาณาจักรมั่นคง และสามารถรวบรวมชนชาติไทยเป็นหนึ่งเดียวกันได้โดยเฉพาะเชื้อพระวงศ์ของขุนศรีนาวนำถุมนั้น ได้อยู่รับราชการกับพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ด้วย คือ พระยาคำแหงพระราม เป็นพระอนุชาของขุนผาเมือง ซึ่งมีพระโอรสคือ ขุนศรีสัทธา ภายหลังได้ออกบวชในพุทธศาสนาลังกาวงศ์ และได้เป็นสังฆราชเมืองสุโขทัย

    พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ สวรรคตปีใดนั้นไม่มีหลักฐาน บางแห่งว่าพ่อขุนศรีอินทราทิตย์สวรรคตราว ปี พ.ศ. ๑๘๒๒ ขุนบานเมืองหรือพญาปาลราชโอรสองค์ที่สองได้ครองเมืองสุโขทัยต่อมา.[/FONT]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    -http://haab.catholic.or.th/history/history002/sukhothai6/sukhothai6.html-

    .

    http://haab.catholic.or.th/history/history002/sukhothai6/sukhothai6.html
    .
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949


    ดูเพิ่ม
    [แก้] อ้างอิง

    1. ^ พระราชประวัติพ่อขุนรามคำแหง จากเว็บไซต์มหาวิทยาลัยรามคำแหง
    <TABLE style="BORDER-BOTTOM: #aaa 1px solid; BORDER-LEFT: #aaa 1px solid; BACKGROUND-COLOR: #f7f8ff; MARGIN: 0px auto; WIDTH: 80%; BORDER-COLLAPSE: collapse; FONT-SIZE: 95%; BORDER-TOP: #aaa 1px solid; BORDER-RIGHT: #aaa 1px solid" class=wikitable><TBODY><TR><TH>รัชสมัยก่อนหน้า</TH><TH></TH><TH>พ่อขุนศรีอินทราทิตย์</TH><TH></TH><TH>รัชสมัยถัดไป</TH></TR><TR style="TEXT-ALIGN: center; VERTICAL-ALIGN: middle"><TD style="WIDTH: 26%">ไม่ทราบ </TD><TD style="WIDTH: 4%">[​IMG]</TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0.5em; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 40%; PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-TOP: 0.5em">เจ้าเมืองบางยาง
    (ไม่ทราบปี - 1792)
    </TD><TD style="WIDTH: 4%">[​IMG]</TD><TD style="WIDTH: 26%">ไม่ทราบ </TD></TR><TR style="TEXT-ALIGN: center; VERTICAL-ALIGN: middle"><TD style="WIDTH: 26%">ขอมสบาดโขลญลำพง
    <SMALL>ไม่มีราชวงศ์ (พ.ศ. 1724 - 1792) </SMALL>
    </TD><TD style="WIDTH: 4%">[​IMG]</TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0.5em; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 40%; PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-TOP: 0.5em">พระร่วงเจ้าสุโขทัย
    (พ.ศ. 1792 - 1821)
    </TD><TD style="WIDTH: 4%">[​IMG]</TD><TD style="WIDTH: 26%">พ่อขุนบานเมือง
    <SMALL>ราชวงศ์พระร่วง (พ.ศ. 1821 - 1822) </SMALL>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    <!-- NewPP limit reportPreprocessor visited node count: 8266/1000000Preprocessor generated node count: 32489/1500000Post-expand include size: 521047/2048000 bytesTemplate argument size: 346907/2048000 bytesHighest expansion depth: 14/40Expensive parser function count: 3/500--><!-- Saved in parser cache with key thwiki:pcache:idhash:29809-0!*!0!!th!4!* and timestamp 20121002115906 --><!-- /bodycontent --><!-- printfooter -->​
    ดึงข้อมูลจาก "พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ - วิกิพีเดีย".

    <!-- /printfooter --><!-- catlinks -->หมวดหมู่:
    <!-- /catlinks -->



    <!-- /1 -->
    <!-- 0 -->

    <!-- /2 -->

    <!-- /header --><!-- panel --><!-- logo -->
    <!-- /logo --><!-- navigation -->

    <!-- /navigation --><!-- SEARCH --><!-- /SEARCH --><!-- มีส่วนร่วม -->ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2555 เวลา 18:59 น.
    -http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%82%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A2%E0%B9%8C-

    .
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    งงครับ เมื่อวานนี้โพสข้อความ

    เมื่อเช้าก็โพส

    แต่ทำไมกระทู้ยังอยู่หน้า 3 อยู่


    [​IMG]

    รูปแรก กระทู้อยู่หน้าที่ 3

    [​IMG]

    รูปที่สอง โพสเมื่อวานนี้

    [​IMG]

    รูปที่ 3 โพสเมื่อเช้านี้ครับ
    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • p1.JPG
      p1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      153.4 KB
      เปิดดู:
      62
    • p2.JPG
      p2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      183.2 KB
      เปิดดู:
      44
    • p3.JPG
      p3.JPG
      ขนาดไฟล์:
      172.3 KB
      เปิดดู:
      62
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    กลับมาเป็นปกติแล้วครับ

    หลังจากโพสนี้ กลับไปหน้าแรกแล้ว

    สงสัยเป็นที่การตั้งเวลาของเว็บครับ

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_6308.JPG
      IMG_6308.JPG
      ขนาดไฟล์:
      158.2 KB
      เปิดดู:
      53
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2012
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .

    พ่อขุนศรีอินทราทิตย์

    จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี




    พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ หรือพระนามเต็ม กำมรเตงอัญศรีอินทรบดินทราทิตย์ พระนามเดิม พ่อขุนบางกลางหาว (ไม่ใช่ กลางท่าว) ทรงเป็นปฐมกษัตริย์แห่งประวัติศาสตร์ไทย ครองราชสมบัติ ตั้งแต่ พ.ศ. 1792 (คำนวณศักราชจากคัมภีร์สุริยยาตรตามข้อเสนอของ ศ. ประเสริฐ ณ นครและ พ.อ.พิเศษ เอื้อน มณเฑียรทอง) แต่ไม่ปรากฏหลักฐานการสวรรคตหรือสิ้นสุดการครองราชสมบัติปีใด มีผู้สันนิษฐานที่มาของพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ จากคัมภีร์ชินกาลมาลีปกรณ์ว่าบ้านเดิมของพระองค์อาจอยู่ที่ "บ้านโคน" ในจังหวัดกำแพงเพชร


    พระนาม
    1. บางกลางหาว
    2. ศรีอินทราทิตย์
    3. อรุณราช
    4. ไสยรังคราช หรือสุรังคราช หรือไสยนรงคราช หรือรังคราช
    5. พระร่วง หรือโรจนราช
    สำหรับพระนามแรก คือ พ่อขุนบางกลางหาวนั้น เป็นพระนามดั้งเดิมเมื่อครั้งเป็นเจ้าเมืองบางยาง พระนามนี้ไม่มีปัญหาอะไรมากนัก และเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่า พ่อขุนบางกลางหาวเป็นพระนามสมัยเป็นเจ้าเมืองบางยางโดยแท้จริง
    พระนามที่สองนั้น เป็นพระนามที่ใช้กันทางราชการ เป็นพระนามที่เชื่อกันว่าทรงใช้เมื่อราชาภิเษกแล้ว คำว่าศรีอินทราทิตย์นั้น ไมมีปัญหา เพราะมีบ่งอยู่ในศิลาจารึก แต่สิ่งที่เป็นปัญหาคือ คำที่นำหน้า คำว่า "ศรีอินทราทิตย์" เพราะเรียกแตกต่างกันไปว่า ขุนศรีอินทราทิตย์บ้าง พ่อขุนศรีอินทราทิตย์บ้าง พระเจ้าศรีอินทราทิตย์บ้าง และบางทีก็เรียกพระเจ้าขุนศรีอินทราทิตย์
    [แก้] พระราชกรณียกิจ

    พ่อขุนศรีอินทราทิตย์เมื่อครั้งยังเป็นพ่อขุนบางกลางหาวได้ร่วมกับพ่อขุนผาเมือง เจ้าเมืองราดแห่งราชวงศ์ศรีนาวนำถุม รวมกำลังพลกัน กระทำรัฐประหารขอมสบาดโขลญลำพง โดยพ่อขุนบางกลางหาวตีเมืองศรีสัชนาลัยและเมืองบางขลงได้ และยกทั้งสองเมืองให้พ่อขุนผาเมือง ส่วนพ่อขุนผาเมืองตีเมืองสุโขทัยได้ ก็ได้มอบเมืองสุโขทัยให้พ่อขุนบางกลาวหาว พร้อมพระขรรค์ชัยศรีและพระนาม "ศรีอินทรบดินทราทิตย์" ซึ่งได้นำมาใช้เป็นพระนาม ภายหลังได้คลายเป็น ศรีอินทราทิตย์ การเข้ามาครองสุโขทัยของพระองค์ ส่งผลให้ราชวงศ์พระร่วงเข้ามามีอิทธิพลในเขตนครสุโขทัยเพิ่มมากขึ้น และได้แผ่ขยายดินแดนกว้างขวางมากออกไป แต่เขตแดนเมืองสรลวงสองแคว ก็ยังคงเป็นฐานกำลังของราชวงศ์ศรีนาวนำถุมอยู่
    ในกลางรัชสมัย ทรงมีสงครามกับขุนสามชน เจ้าเมืองฉอด ทรงชนช้างกับขุนสามชน แต่ช้างทรงพระองค์ ได้เตลิดหนีดังคำในศิลาจารึกว่า "หนีญญ่ายพ่ายจแจ" ขณะนั้นพระโอรสองค์เล็ก ทรงมีพระปรีชาสามารถ ได้ชนช้างชนะขุนสามชน ภายหลังจึงทรงเฉลิมพระนามพระโอรสว่ารามคำแหง
    ในยุคประวัติศาสตร์ชาตินิยม มีคติหนึ่งที่เชื่อกันว่า พระองค์ทรงเป็นผู้นำชนชาติไทย ต่อสู้กับอิทธิพลขอมในสุวรรณภูมิ ทรงได้ชัยชนะและประกาศอิสรภาพตั้งราชอาณาจักรสุโขทัยขึ้น และทรงเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรไทย แต่ภายหลัง คติดังกล่าวได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่จริง เพราะพระองค์ไม่ได้เป็นปฐมกษัตริย์ อีกทั้งยังมีพ่อขุนศรีนาวนำถุม ครองสุโขทัยอยู่ก่อนแล้ว
    [แก้] พระราชวงศ์

    พ่อขุนศรีอินทราทิตย์มีพระราชโอรสและพระธิดารวม 5 พระองค์ ได้แก่
    1. พระราชโอรสองค์โต (ไม่ปรากฏนาม) เสียชีวิตตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์
    2. พ่อขุนบานเมือง
    3. พ่อขุนรามคำแหงมหาราช (พระนามขณะที่ยังทรงพระเยาว์ไม่ปรากฏ)
    4. พระธิดา (ไม่ปรากฏนาม)
    5. พระธิดา (ไม่ปรากฏนาม)
    แม้ไม่ทราบแน่นอนว่าพระองค์สิ้นพระชนม์ในปีใด แต่ภายหลังจากพระองค์สิ้นพระชนม์แล้ว พ่อขุนบานเมือง ผู้เป็นพระราชโอรสองค์ใหญ่ ได้สืบราชสมบัติแทน

    .<!-- google_ad_section_end -->
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    ดูเพิ่ม
    [แก้] อ้างอิง

    1. ^ พระราชประวัติพ่อขุนรามคำแหง จากเว็บไซต์มหาวิทยาลัยรามคำแหง
    <TABLE style="BORDER-BOTTOM: #aaa 1px solid; BORDER-LEFT: #aaa 1px solid; BACKGROUND-COLOR: #f7f8ff; MARGIN: 0px auto; WIDTH: 80%; BORDER-COLLAPSE: collapse; FONT-SIZE: 95%; BORDER-TOP: #aaa 1px solid; BORDER-RIGHT: #aaa 1px solid" class=wikitable><TBODY><TR><TH>รัชสมัยก่อนหน้า</TH><TH></TH><TH>พ่อขุนศรีอินทราทิตย์</TH><TH></TH><TH>รัชสมัยถัดไป</TH></TR><TR style="TEXT-ALIGN: center; VERTICAL-ALIGN: middle"><TD style="WIDTH: 26%">ไม่ทราบ </TD><TD style="WIDTH: 4%">[​IMG]</TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0.5em; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 40%; PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-TOP: 0.5em">เจ้าเมืองบางยาง
    (ไม่ทราบปี - 1792)
    </TD><TD style="WIDTH: 4%">[​IMG]</TD><TD style="WIDTH: 26%">ไม่ทราบ </TD></TR><TR style="TEXT-ALIGN: center; VERTICAL-ALIGN: middle"><TD style="WIDTH: 26%">ขอมสบาดโขลญลำพง
    <SMALL>ไม่มีราชวงศ์ (พ.ศ. 1724 - 1792) </SMALL>
    </TD><TD style="WIDTH: 4%">[​IMG]</TD><TD style="PADDING-BOTTOM: 0.5em; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 40%; PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-TOP: 0.5em">พระร่วงเจ้าสุโขทัย
    (พ.ศ. 1792 - 1821)
    </TD><TD style="WIDTH: 4%">[​IMG]</TD><TD style="WIDTH: 26%">พ่อขุนบานเมือง
    <SMALL>ราชวงศ์พระร่วง (พ.ศ. 1821 - 1822) </SMALL>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>



    ดึงข้อมูลจาก "พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ - วิกิพีเดีย".

    หมวดหมู่:

    ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2555 เวลา 18:59 น.
    -http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%82%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A2%E0%B9%8C-

    .<!-- google_ad_section_end -->
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .

    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=757 NOF="LY"><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD height=175 colSpan=2></TD><TD vAlign=center width=445 align=middle>[​IMG]</TD><TD></TD></TR><TR vAlign=top align=left><TD height=16 colSpan=4></TD></TR><TR vAlign=top align=left><TD></TD><TD width=740 colSpan=3>[FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif]พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ เดิมคือ ขุนบางกลางหาว (ชื่อ [/FONT][FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif]“ร่วง” [/FONT][FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif]ในสิหิงคนิทานว่า[/FONT][FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif] รณรงโค [/FONT][FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif]แปลว่า[/FONT][FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif] พระร่วง นักรบ[/FONT][FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif]) เจ้าเมืองบางยาง (เมืองนครไทย) ได้ร่วมกับขุนผาเมือง เจ้าเมืองราด ทำการยึดอำนาจขอม และครองราชย์ในปี พ.ศ. ๑๗๖๒

    เรื่องศักราชการยึดอำนาจจากขอม และการขึ้นครองราชย์นั้นสรุปไม่ได้ มีบางแห่ง (ศจ.ดร.ประเสริฐ ณ นคร) สรุปว่าครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. ๑๗๖๒ -๑๗๘๑ (๑๙ ปี) บางแห่งว่าครองราชย์ราวพ.ศ. ๑๗๖๒ บางแห่งว่าพระองค์ทรงตั้งอาณาจักรสยามที่เมืองสุโขทัยทำการขับไล่ขอมเมื่อ พ.ศ. ๑๗๖๒ บางแห่งระบุว่าปีครองราชย์ประมาณ พ.ศ. ๑๘๐๐ ทำให้เกิดปัญหาเวลาการครองราชย์ของขุนบานเมืองต่อไป

    พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ มีมเหสีพระนามว่า [/FONT][FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif]“นางเสือง” [/FONT][FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif](เป็นพระธิดาของพ่อขุนศรีนาวนำถุม) ทรงมีพระโอรสธิดาราม ๕ องค์ เป็นโอรส ๓ องค์ ธิดา ๒ องค์ โอรสองค์ใหญ่ไม่ปรากฏพระนามด้วยสิ้นพระชนม์เสียตั้งแต่ยังเยาว์วัย องค์ที่สอง คือ บานเมืองหรือปาลราช องค์ที่สามเดิมไม่มีพระนาม แต่พอไปชนช้างชนะขุนสามชนเจ้าเมืองฉอด (เมืองตาก) มีความชอบจึงประทานชื่อ (หรือชื่อตามยศศักดิ์) ว่า[/FONT][FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif]พระรามคำแหง[/FONT][FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif] ในหนังสืออื่น เรียก รามราช ส่วนธิดาอีก ๒ คนไม่ปรากฏนาม

    [/FONT]<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" NOF="TE"><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE id=Table1 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="63%"><TBODY><TR><TD height=273 width="34%">[FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif][SIZE=-1][​IMG][/SIZE][/FONT]
    </TD><TD width="65%">[FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif][SIZE=-1][​IMG][/SIZE][/FONT]
    </TD></TR><TR><TD width="34%">
    [FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif][SIZE=-1]พระร่วง (ฝีพระหัตถ์ ร. ๖)[/SIZE][/FONT] ​
    </TD><TD width="65%">
    [FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif][SIZE=-1]แผนที่เิมืองสุโขทัย (เก่า)[/SIZE][/FONT]​
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>[FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif]
    การขึ้นครองเมืองสุโขทัยของพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ (ขุนบางกลางหาว) นั้นแม้สามารถ ขับไล่ขอมสบาดโขลญลำพงออกไปจากเขตเมืองได้ ก็ยังทำให้พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ รู้สึกกังวลต่อฐานอำนาจเดิมที่พ่อขุนศรีนาวนำถุมมีอยู่แต่เดิม (ไม่ค่อยจะมั่นคง) แม้ขุนผาเมืองจะไม่ครองเมืองสุโขทัยแทนพระบิดา หรือเห็นว่านางเสือง เป็นมเหสีของขุนบางกลางหาวอยู่แล้วก็ตามพ่อขุนผาเมืองก็ยังระแวงว่ากำลังจากอาณาจักรขอมนั้นจะยกเข้ามาทำสงครามชิงเมืองคืน ขุนผาเมืองจึงกลับไปครองเมืองราดเพื่อให้มเหสี คือนางสิขรมหาเทวีซึ่งเป็นพระธิดากษัตริย์ขอม นั้นเป็นผู้เชื่อมไมตรีกับพระบิดาคือ พระเจ้าเจ้าสุริยวรมันที่ ๗ ดังนั้น ขุนผาเมืองจึงให้ขุนบางกลางหาวนั้นรับเอาพระนาม[/FONT][FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif] “ศรีบดิทรอินทราทิตย์” [/FONT][FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif](กมรเตงอัญศรีอินทราบดินทราทิตย์) และพระขรรค์ชัยศรีจากขุนผาเมือง มาใช้เป็นการป้องกันเมือง และสร้างความเป็นไมตรีต่ออาณาจักรขอมไว้ก่อน

    พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ขึ้นครองราชย์ที่เมืองสุโขทัยได้ไม่นานประมาณ พ.ศ. ๑๘๐๐-๑๘๐๒ ขุนสามชนเจ้าเมืองฉอดก็แสดงท่าทีจะชิงเมือง โดยยกทัพเข้าจะตีเอาเมืองตาก กำลังของขุนสามชน เมืองฉอดที่ยกทัพมาครั้งนี้ เข้าใจว่าน่าจะมีกำลังของขอมสบาดโขลญลำพงที่พ่ายหนีไปส่วนหนึ่งนั้นสมทบเข้ามาด้วย?

    [/FONT]<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" NOF="TE"><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE id=Table2 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="71%"><TBODY><TR><TD height=161 width="50%">[FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif][SIZE=-1][/SIZE][/FONT]<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" NOF="TE"><TBODY><TR><TD align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD><TD width="50%">
    [FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif][SIZE=-1][/SIZE][/FONT]<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" NOF="TE"><TBODY><TR><TD align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>​
    </TD></TR><TR><TD width="50%">
    [FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif][SIZE=-1]พ่อขุนรามฯ ชนช้างกับขุนสามชน[/SIZE][/FONT]​
    </TD><TD width="50%">
    [FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif][SIZE=-1]เมืองสุโขทัย (ฐานพระราชวัง)[/SIZE][/FONT]​
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>[FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif]
    ครั้งนั้นพ่อขุนศรีอินทราทิตย์เห็นว่าหากปล่อยให้ขุนสามชนตีได้เมืองตากแล้ว ก็จะเป็นอันตรายกับเมืองสุโขทัย ดังนั้นพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ จึงยกทัพออกจากเมืองสุโขทัยพร้อมกับโอรสคนเล็ก (นามว่าพระรามราช?) ซึ่งมีอายุ ๑๙ พรรษา และได้ติดตามบิดาออกสงครามด้วย

    [/FONT][FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif]การสู้รบนั้นได้มีการทำยุทธหัตถีกัน ระหว่างขุนศรีอินทราทิตย์กับขุนสามชนและ (พระรามราช?) โอรสองค์นี้ได้เข้าชนช้างช่วยพระบิดาจน มีชัยชนะขุนสามชน ด้วยความกล้าหาญของโอรสองค์นี้ จึงได้รับการเฉลิมพระนามว่า[/FONT][FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif]รามกำแหง หรือรามคำแหง

    [/FONT]<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="27%" align=left NOF="TE"><TBODY><TR><TD><TABLE id=Table3 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="100%">[FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif][SIZE=-1][​IMG][/SIZE][/FONT]
    </TD></TR><TR><TD width="100%">
    [FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif][SIZE=-1]เจดีย์วัดพระมหาธาตุ เมืองสุโขทัย[/SIZE][/FONT]​
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>[FONT=Microsoft Sans Serif,sans-serif]ระยะแรกนั้นเมืองสุโขทัยได้ทำการขยายอาณาเขตด้วยการทำสงครามกับเมืองต่างๆ ที่ไม่ยอมเป็นไมตรี เนื่องจากเมืองสุโขทัยนั้นเปลี่ยนราชวงศ์ใหม่ ไม่ใช่เชื้อสายราชวงศ์ของขุนศรีนาวนำถุม ผู้ครองเมืองเดิม ขณะนั้นบรรดาเมืองต่างๆ ส่วนใหญ่นิยมที่จะนับถือราชวงศ์ศรีนามนำถุมอยู่ จึงทำให้เมืองนั้น ไม่ยอมอ่อนน้อมยอมขึ้นด้วย จนพ่อขุนต้องออกทำการปราบปรามเมืองต่างๆ ในที่สุด เมืองเหล่านั้นก็ยอมอ่อนน้อม

    ในที่สุดเมืองสุโขทัยก็สามารถขยายเขตของอาณาจักรได้กว้างขวาง ทำให้เมืองสุโขทัยสามารถวางรากฐานอาณาจักรมั่นคง และสามารถรวบรวมชนชาติไทยเป็นหนึ่งเดียวกันได้โดยเฉพาะเชื้อพระวงศ์ของขุนศรีนาวนำถุมนั้น ได้อยู่รับราชการกับพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ด้วย คือ พระยาคำแหงพระราม เป็นพระอนุชาของขุนผาเมือง ซึ่งมีพระโอรสคือ ขุนศรีสัทธา ภายหลังได้ออกบวชในพุทธศาสนาลังกาวงศ์ และได้เป็นสังฆราชเมืองสุโขทัย

    พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ สวรรคตปีใดนั้นไม่มีหลักฐาน บางแห่งว่าพ่อขุนศรีอินทราทิตย์สวรรคตราว ปี พ.ศ. ๑๘๒๒ ขุนบานเมืองหรือพญาปาลราชโอรสองค์ที่สองได้ครองเมืองสุโขทัยต่อมา.[/FONT]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    -http://haab.catholic.or.th/history/history002/sukhothai6/sukhothai6.html-

    .

    http://haab.catholic.or.th/history/h...ukhothai6.html
    .<!-- google_ad_section_end -->
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949

แชร์หน้านี้

Loading...