เพื่อการกุศล นิ่มป่าแดง...ตามอ่านประสบการณ์จริง

"พี่หนู" เด็กวัดที่มีพรสวรรค์มาทดแทนความพิการทางสมอง จดจำทุกอย่างได้เหมือนภาพถ่าย....
ตอนนี้สวมชฎาอยู่บนสวรรค์แล้วครับ

ปล. การไม่เคยได้ของฟรี ถือว่าไม่เคยเป็นหนี้บุญคุณใคร การไม่เป็นหนี้เป็นลาปอันประเสริฐ

 

ผมตอบแทนให้ก็ได้ คุณคนวิเศษฯ

ฝากผ่านไปถึง คุณ เซฟาโร่ ด้วย Knowledge Sharing มา ผมก็ต้อง

Acknowledge ไป ผมบอกไว้หลายครั้งแล้วว่าภาษาผมแย่ แต่พยายามจะ

ทำความเข้าใจ ขนาดคำง่ายๆ เช่น NEWS ผมยังโง่หลงผิดคิดว่าเป็นภาษา

อังกฤษเสียจนอายุย่างเข้า ๔๕ ปี ถึงได้รู้ที่มา...??? น่าละอาย...

เอาเรื่อง"หนู" หรือไอ้หนู ที่ชาวบ้านเรียกติดปาก

อายุอานามปัจจุบันน่าจะใกล้ ๗๐ ปี เคยคุยกับผมตอนที่เขาอารมย์ดีว่า

เคยเรียนหนังสือชั้นประถมที่วัดน้ำพุ "หลวงพี่ผมไม่รู้เป็นยังไง เรียนเป็นปีๆ

ผมจำอะไรไม่ได้เลย แต่แปลกผมจำคนทุกคนได้ ได้คุยรู้จักชื่อครั้งเดียวจะ

จำได้ตลอดไป" เขาจึงต้องออกจากโรงเรียน และเป็นคนบกพร่องทางอารมย์

นิดๆ ถ้าหิวเป็นไม่ได้ด่าหมดตั้งแต่สมภารยันลูกวัด เมื่อปีที่แล้วผมไปพบเขาที่

วัด ยังคุยกันยังมีความจำดีแต่ไม่ค่อยจะแข็งแรงนัก มีรายละเอียดเท่าที่จำได้.-

๑. เป็นคนที่มีความจำแม่น ทำให้มีเงินเยอะ มีนาฬิกาเยอะ เพราะสามารถทัก

คนได้ถูกต้องแม้จะไม่เจอกันเป็นสิบๆปีก็ตาม เวลามีงานเช่นเข้า-ออกพรรษา

งานวันปิยะมหาราช สงการนต์ จะทักคนที่กลับไปทำบุญบ้านเกิดได้ถูกต้อง

และขอเงินหรือขอนาฬิกาทันที

๒. ชอบรำวงเป็นชีวิตจิตใจ มีเงินเท่าไหร่ก็รำจนหมดแรง

๓. ชอบเที่ยวผู้หญิงโสเภณีทั้งที่ตลาดวิเศษ,จนถึงตัวเมืองอ่างทอง

๔. เป็นคนที่แต่งตัวดี มีเสื้อผ้าราคาแพง เพราะเวลาจะขอเสื้อผ้าใครก็ตาม

จะเลือกแต่คนที่แต่งตัวดี มีฐานะ ประกอบกับเป็นคนมืออ่อนจึงได้แต่ของดี

และของใหม่ๆ เสื้อผ้าเก่าๆ นาฬิกาไม่ดี ไม่เอา แต่ละงานได้เงินหลายพันฯ

๕. เที่ยวจนเป็นโรคผู้หญิง,เมาเหล้า จนหลวงน้าไล้ อดีตเจ้าอาวาสที่ละ

สังขารไปแล้ว ไปเอามาเลี้ยงเมื่อตอนอายุใกล้ ๓๐ ปีแล้ว และจับบวชเณร

"หลวงพี่...ผ้าป่ามาจากกรุงเทพฯ รำวงกันเต็มหัวเรือเลย ผมไปบอกหลวงพ่อ

ขอสึก จะไปรำวง"หลวงพ่อว่ายังไง? "หลวงพ่อบอกสึกไม่ได้"หนูก็เลยอดรำ

วงใช่ไหม? เปล่า...ผมไปหน้าโบสถ์ สึกกับต้นโพธิ์ แล้วไปรำวงเลย

๖. เคยหิวจัดตอนเป็นเณร คว้านมข้นหน้ากุฏิหลวงพ่อเอามากินหลวงพ่อล้อ

ว่าเป็นเณรทำได้ยังไง "ผมไม่ฟัง..หลวงพี่เชื่อไหม?ผมดูดทีเดียวหมดกระป๋อง

โดยไม่ต้องยกออกจากปากเลย"(ตอนนั้นหลวงน้าไล้ยังเป็นรองเจ้าอาวาส)

๗. มีอยู่ครั้งหนึ่งเป็นครั้งสำคัญ พระที่วัดถูกนิมนต์ไปฉันเพลหมดเหลือแต่

หลวงพ่อองค์เดียว เมื่อพระกลับมาถึงวัดหาหลวงพ่อไม่เจอ ได้ความว่าหนู

หิวจัดหลวงพ่อผลัดให้รอก่อน หนูรอไม่ได้เลยไล่หลวงพ่อให้ไปอยู่ที่โบสถ์

ทำให้หลวงน้าไล้โกรธมาก พอดีหลวงพ่อมีธุระต้องไป ไชโย หรือโพธิ์ทอง

จึงมีการชำระความ โดยหลวงน้าเป็นคนตี ตีแบบไม่ต้องการให้หลวงพ่อรู้

คือตีที่หน้าแข้งจนแทบเดินไม่ได้ และสั่งสอนทุกอย่างในวันนั้น ทำให้เลิกรำวง

ทำให้เลิกกินเหล้า เก็บเงินที่หาได้และไม่ใช้เลย จนเป็นที่รู้กันเวลาที่หลวงพ่อ

พูดว่า"คนบางคนมีเงินเหมือนก้อนดิน เงินก็เงินติดคุก"นั่นคือเป็นการล้อ"ไอ้หนู"

ของหลวงพ่อ(ถ้าคุณให้เงินเขาไป ๓๐๐ บาท แล้วยืมกลับ ๒๐ บาท..อด)

๘. ปี ๒๕๓๔ เขาคุยกับผม ทิดผมมีเงินฝากเกือบสามแสนแล้วนะ " ผมเอา

มาทำบุญสร้างกำแพงแก้วและร่วมทำบุญสร้างเมรุเผาศพฯ"( รวมแล้วก็หลักแสนฯ)

***เขากลับตัวกลับใจจนเหมือนคนดีเพราะถูกตีครั้งเดียวแท้ๆ แต่ไม่มีใครคิด

ถึงสุภาษิตดีๆ จะเปลี่ยนจากตีให้เป็นกอด...ก็ว่ากันไป...อย่ากอดคอกันเข้าคุก

ก็แล้วกัน....ขอบคุณมากครับ

 

ขอขอบคุณ พี่ประดูและคุณหนุ่มทิพย์มากครับ
ที่ให้ข้อมูล
เราจะตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอกไม่ได้เลยจริง ๆ

 

ถึง คุณหนุ่มทิพย์
ผมลำดับจองที่ 13 ขอจองตะกรุด 4 มหาอำนาจเพิ่มอีก 1 ชุดครับ

​

รวมเป็น 2ชุด ขอบคุณครับ

 

สวัสดี คุณทิพย์
ผมจองหนุมานกายทิพย์3ตนวานนี้ ผมโอนให้3x600+ค่าส่ง100=1,900 บาท วันนี้21กย.55เวลา 17.15น. ตู้กรุงไทยพาต้าปิ่นเกล้า(แนบรูปสลิปมาด้วย)
ที่อยู่จัดส่ง มรรคเวทย์ลำดับที่ 26

 

ขอร่วมด้วยครับ เหรียญกรมหลวง ชนวน 1 เหรียญ เหรียญพระเจ้าตาก ชนวน 1 หมูเขี้ยวตัน 1 ครับ แผ่นชนวนดวง 1 ครับ

 

จองได้หมดครับ ยกเว้นแผ่นชนวนดวง ต้องทำตามกติกาครับ

 

(หมูทองแดง เสกมาก่อนเหรียญฯเป็นเดือนครับ แต่ผมประมาท ไม่ได้ทำบันทึก ได้แต่บันทึกรายวันไว้ในกระทู้ ตอนนี้วานให้น้องๆ ช่วยตรวจทานให้อยู่ ต้องขออภัย)

บันทึกนี้ ได้พี่ไพรัชคอยช่วยบันทึก ต้องขอบคุณมากๆ

.................................

เหตุการณ์เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2555 วันคอนสวรรค์
พี่นิ่ม ได้รับเมตตาให้ร่วมงานอธิฐานจิต วัตถุมงคลรุ่นฉลองอายุหลวงปู่สุภา 118 ปี

ก็คล้ายๆกับงานฝากเสกทั่วๆไป .... เมื่อหลวงปู่ฯอธิฐานจิตให้เสร็จพิธีแล้ว ก็วานให้คนใกล้ตัวเรียกพี่นิ่มเข้ามาหา

พี่นิ่มเพิ่งจะมากราบหลวงปู่สุภาครั้งแรก ก็งงๆ คนอื่นก็อยู่กันเยอะแยะ.....แต่เมื่อท่านฯเรียก ก็ต้องเข้าไปกราบใกล้ๆ
ท่านฯก็วานให้พี่นิ่มช่วยประคองเข้ากุฏิ คนอื่นได้แต่มองตาม....

ระหว่างพิธีฯไม่มีใครได้บันทึกภาพ เพราะหลวงปู่ฯไม่อนุญาต
แต่เมื่อเข้ากุฏิได้แล้ว ท่านฯก็เมตตาชักยันต์กลางอากาศครอบศรีษะพี่นิ่ม แล้วอนุญาตให้พี่นิ่มนำวัตถุมงคลที่เอามา ขนเข้ากุฏิเสกเดี่ยวให้อีกครั้ง....

พี่นิ่มยังไม่หายงง หลวงปู่ฯก็อนุญาตให้พี่นิ่มบันทึกภาพท่านฯได้

เมื่อตั้งสติได้แล้ว ก็กราบเรียนถามท่านฯว่า เหรียญกรมหลวงชุมพร ปี2466 นั้น เมื่อเทียบกับเหรียญรุ่นนี้ พอจะเทียบได้ไหม?

หลวงปู่สุภา ท่านฯเอ่ยว่า "ทำไมจะไม่ได้ฯ....ครูอาจารย์ฯเรามาเสกเองหมด...เรารับรอง..."

.....................

หลวงปู่สุภา ท่านฯเล่าความลับกับพี่นิ่มเยอะ แต่ผมเอ่ยไม่ได้ พี่นิ่มขอไว้
เพียงแต่เที่ยวนี้ผมสบายใจเรื่องเหรียญเสด็จกรมหลวงฯได้เยอะเลย......

 

ขอประท้วงออกสื่อหน่อย รายชื่อผมตกหล่นครับพี่
หรือว่าเลือกปฎิบัติ+สองมาตรฐาน (อันนี้ล้อเล่นนะครับ)

 

ถ้าผมไม่ใช่คนสองมาตรฐาน แฟนคลับผมไม่เยอะขนาดนี้ดอกครับ
ให้ผมสองมาตรฐานเถิด

เชิญนั่งลงก่อนเถอะครับ แล้วจะปรับแก้ตารางให้

 

อิ่มบุญผ้าป่า รับแจกพระบูชาศักดิ์สิทธิ์ สร้างอาคาร รร.วัดโพธิ์ (ผักไห่วิทยาคาร) - เหนือลิขิตประกาศิตฟ้าดิน | เดลินิวส์


พระอาจารย์พิจารณ์ เป็นแม่งานให้กับทางวัดประดู่โรงธรรม ในการตีมีดตามตำราโบราณ
ด้วยความชำนาญ จึงต้องเตรียมการให้เพรียบพร้อม หาสมุดหน้าเหลือไม่เจอ แต่นึกหน้าคนหน้าเหลือออก โทรฯหาหนุ่มทิพย์ง่ายดี

"ช่วยหาท่อทองเหลือง ขนาดนี้ๆๆๆ ให้หน่อย เอาด่วนนนน"

ขอหนึ่งวัน คนหน้าเหลือจะหามาถวาย
หนุ่มทิพย์ไม่ได้ตัวเปล่า แต่เล่าเปลือย เลยจัดให้ตามสามารถ ได้พี่ไพรัช กับหน้าม้าอีกสองคน (คุณวินัย กับคุณเซฟาโร่) มาช่วยเป็นมือเป็นแรงถวายวัด

 

มวลสารที่ใช้ทำมีดให้กับวัดประดู่ฯ ก็ได้มาจากแหล่งนี้แหละ
และถ้าใครจองมีดฯไป ก็ให้รู้ว่ามาจากคนในรูปด้านบนดังที่เห็น

จากในภาพ จะเห็นเหล็กยอดเจดีย์ หอกสัมฤทธิ์โบราณ เหล็กสังฆวานร ฯลฯ

ตอนแรก ก็ว่าจะรับแผ่นดวงฯกลับมาเลย... แต่พระอาจารย์ฯ ขออีก7วัน สวดมนต์ให้
ผมถวายปัจจัยไปอีกเป็นครั้งที่สาม ท่านก็ทัก "จะให้อะไรบ่อยๆ..."


ใครชอบสีผึ้ง ก็แจ้งมา ไม่รับจองนะครับ เพราะสีผึ้ง คนใช้ต้องว่าคาถาด้วย ถึงจะขลัง
ถ้าทาปากอย่างเดียวแล้วใช้ปากไม่เป็น จะเปลืองสีผึ้งเสียเปล่า

 

วันนี้โทรศัพท์ที่วัดโพธิผักไห่ ดังทั้งวัน หลังจากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ลงข่าวประชาสัมพันธ์
ตัวผมเอง ไม่ค่อยได้ยุ่งกับวัตถุมงคลของวัดฯนานแล้ว ก็จำราคาไม่ได้ รู้แต่อุปเห่ห์ และรายละเอียดจัดสร้าง แต่ไม่เห็นมีใครถึงเรื่องที่เรารู้ ถามแต่ราคา ตอบไม่ได้ งง....

แต่ยอมรับเลยว่า หนังสือพิมพ์ฯ เพียงฉบับเดียว วันเดียว ทำเอาพระอาจารย์ฯ วางสายแทบไม่ได้ ขนาดจะลากลับ ยังต้องคอยไปร่วม10 นาที

..................................

อิ่มบุญผ้าป่า รับแจกพระบูชาศักดิ์สิทธิ์ สร้างอาคาร รร.วัดโพธิ์ (ผักไห่วิทยาคาร) - เหนือลิขิตประกาศิตฟ้าดิน


ความว่า...

ปัจจุบันพระภิกษุสงฆ์ในประเทศไทยผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบนั้นยังมีอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ละรูปจะมีข้อเด่นข้อด้อยแตกต่างกันออกไป บางรูปเชี่ยวชาญวิชาโหราศาสตร์ บางรูปชำนาญการใช้เวทมนตร์คาถาและไสยเวท แต่จุดประสงค์สำคัญที่เหมือนกันคือ การช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ให้ญาติโยมและสืบสานพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ยั่งยืนนาน

วัดโพธิ์ผักไห่ อ.ผักไห่ จ.พระนคร ศรีอยุธยา ในวันนี้ได้กลายเป็นศูนย์รวมใจและความศรัทธาของญาติโยม เมื่อมีหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่อย่าง พระปลัดพิจารณ์ วิจารโณ ซึ่งเป็นพระลูกวัดธรรมดา ๆ แต่เก่งกล้าอาคมและเชี่ยวชาญในการผูกดวงชะตา มาช่วยเหลือพัฒนาวัดจนเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าวัดอื่น ๆ ในละแวกใกล้เคียง

วัดโพธิ์ผักไห่ เป็นวัดราษฎร์ สังกัดมหานิกาย อยู่ในเขตการปกครองของคณะสงฆ์ตำบลผักไห่ และอยู่ทางทิศตะวันตกของแม่น้ำน้อย ที่ดินธรณีสงฆ์มีจำนวน ๔๗ ไร่ ๒ งาน ๘๓ ตารางวา ตามหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน (โฉนดที่ดิน สค.๑ เลขที่ ๔๑ โฉนดเลขที่ ๙๗๓๔ โฉนดเลขที่ ๑๐๓๗๙ และโฉนดเลขที่ ๑๒๐๒๗)
ประวัติดั้งเดิมกล่าวไว้ว่า วัดโพธิ์ผักไห่ ได้รับการอนุญาตก่อสร้างเป็นวัดประมาณ พ.ศ.๒๓๒๕-๒๓๒๖ ในยุคกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น หรือในยุคกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเป็นวัดอย่างเป็นทางการ ประมาณ พ.ศ. ๒๓๒๕-๒๓๒๖

แต่เดิมชื่อว่า “วัดโพธิ์” ต่อมาในภายหลังได้นำชื่อตำบลไปต่อท้ายกลายเป็น “วัดโพธิ์ผักไห่” เมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๔๖๐ ในยุคเจ้าอาวาสรูปที่ ๑๒ ในสมัยพระครูพิสิษฐ์สังฆการ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต (เฮง เขมจารี) เจ้าคณะมณฑล ได้ออกตรวจการณ์คณะสงฆ์ และมีดำริให้เติมชื่อวัดต่อท้ายจากนั้นมา
การพัฒนาวัดในสมัย พระครูพิสิษฐ์สังฆการ ได้สั่งจัดแผนผังของวัดใหม่ ให้มีสนามหน้าวัด กุฏิสร้างเป็นสองแถวตามแนวลำน้ำจวบจนปัจจุบันนี้

โบราณวัตถุและของเก่าแก่คู่วัดโพธิ์ผักไห่ มีด้วยกันมากมาย อาทิ เจดีย์โบราณ สร้างสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ลักษณะย่อมุมไม้ ๑๒ และมีการซ่อมมาแล้วถึง ๓ ครั้ง พระอุโบสถหลังใหม่ สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๖ แล้วเสร็จและทำพิธีฉลองในวันที่ ๘-๙ เม.ย. ๒๔๖๓ เป็นการสร้างหลังที่สอง พระอุโบสถหลังเก่า ทรงโบราณขนาดเล็ก เคยมีเรื่องเล่าขานถึงความมหัศจรรย์ คือมีปรอทกรอที่คนโบราณทำซ่อนเอาไว้ หากใครเข้าไปทำเสียงดัง ปรบมือ ก็จะเกิดเสียงกึกก้องไปทั่วทั้งหลัง นอกจากนี้ยังมีพระประธาน เนื้อโลหะหล่อปิดทอง ปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง ๑.๙๐ เมตร และสูงสุด ๒.๕๐ เมตร และพระโมคคัลลาน์ พระสารีบุตร ปางยืนพนมมือ ขนาดสูง ๑.๖๐ เมตร

ศาลาคอนกรีตตรีมุข หอสวดมนต์ กุฏิโบราณ ๑๐ หลัง หลวงพ่อทันใจ พระพุทธรูปศิลปะเชียงแสน สิงห์ ๑ หน้าตักกว้าง ๓๙ นิ้ว สร้างเมื่อวันที่ ๒๘ ม.ค. ๒๕๕๐ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุพุทธสาวก เส้นเกศาพระเถระสำคัญ ปรอทสำเร็จ พระยันต์มงคลต่าง ๆ ถือว่าเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ สร้างเสร็จภายในวันเดียว

วัดโพธิ์ผักไห่ ยังเป็นแหล่งประวัติศาสตร์ที่สำคัญ เจ้าจอมมารดาทับทิม ในล้นเกล้ารัชกาลที่ ๕ เสด็จประพาสแม่น้ำน้อยมาประทับแรม และทรงบริจาคทรัพย์สร้างสะพานหน้าวัดถวายเอาไว้ เป็นสะพานไม้เนื้อแข็ง เมื่อหมดอายุต้องรื้อออกและมีการสร้างสะพานคอนกรีตแทน

สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เคยเสด็จประพาสแม่น้ำน้อยและแวะประทับแรมที่วัดโพธิ์ผักไห่ และนำพระพุทธรูปปางห้ามญาติ ที่พระกรชำรุดไปซ่อมและปิดทองส่งคืนมาพร้อมต้นเทียนทองเหลืองหล่อถวายไว้ โดยที่อาสนะได้จารึกพระนามของพระองค์ท่านไว้ด้วย

ทุกวันนี้วัดโพธิ์ผักไห่ มีพุทธศาสนิกชนหลั่งไหลมาทำบุญและสะเดาะเคราะห์ต่อดวงชะตาราศีอย่างต่อเนื่อง ด้วยบารมีของ พระปลัดพิจารณ์ วิจารโณ ที่ร่ำเรียนวิชาอาคมมาจนเข้มขลังจนสามารถเป็นที่พึ่งให้ผู้ศรัทธาได้อย่างสนิทใจ
พระปลัดพิจารณ์ ภูมิลำเนาเดิมอยู่ย่านบางขุนเทียน เป็นบุตรคนที่ ๖ ของพี่น้องทั้งหมด ๙ คน เรียนชั้นประถมต้นที่โรงเรียนวัดยายร่ม เรียนประถมปลายที่โรงเรียนวัดใหม่สีสุก จบมัธยมต้นและมัธยมปลายที่โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ บางขุนเทียน และจบปริญญาตรีรัฐศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง
อุปสมบทครั้งแรกที่วัดชลประทานรังสฤษฏ์ โดยมีหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุเป็นพระอุปัชฌาย์ และล่องใต้ไปศึกษาพระธรรมกับท่านพุทธทาสภิกขุที่สวนโมกขพลาราม จากนั้นลาสิกขาออกมาทำงานนานสิบปี จนเกิดเบื่อหน่ายทางโลก จึงอุทิศชีวิตให้ร่มกาสาวพัสตร์ อุปสมบทครั้งที่สองที่วัดโพธิ์ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา

เมื่อคราวอุปสมบทครั้งที่สองนี้เอง ท่านได้พบตำราเก่ามากมาย ซึ่งอดีตเจ้าอาวาส พระครูพิสิษฐ์สังฆการ ลูกศิษย์หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และ พระครูบวรสังฆกิจ ลูกศิษย์หลวงพ่อจงวัดหน้าต่างนอก เก็บรักษาเอาไว้ จึงเริ่มศึกษาและแสวงหาวิชาต่าง ๆ มาเพิ่มเติม ทั้งวิชาสายหลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ และอดีตพระเกจิอื่น ๆ จนพลังจิตเข้มขลัง ปลุกเสกวัตถุมงคลดังระบือไกล เป็นที่เล่าขานถึงประสบการณ์กันมาก

วัตถุมงคลที่พระปลัดพิจารณ์เคยสร้างไว้ ก็มี ฤาษีโปร่งฟ้า ปั้นจากดิน ๗ ทุ่ง ๗ ท่า ๗ โป่ง ๗ ป่าช้า ผงไม้ไผ่แทง

ทะลุปล้องสู่ยอด ตะกรุดสาลิกาลิ้นทองคำ แจกกฐินและผ้าป่า ตะกรุดมหาสะท้อน (ใช้ยันต์จากใบลานทองคำโบราณที่ค้นพบที่ อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี) ตะกรุดมหาระงับ ตะกรุดสี่มหาอำนาจ ตะกรุดพระเจ้า ๑๖ พระองค์ ตะกรุดมหาจักรพรรดิ์
ตำรับวัดประดู่ทรงธรรม ตะกรุดรารายณ์รวมแผ่นดิน ตะกรุดอะสิสัตติ พระเจ้าห้ามอาวุธ ตำรับหลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ พระปิดตาไม้โพธิ์นิพพานแกะ หลวงพ่อโต พิมพ์วัดชีปะขาวหาย พระผง พระปิดตาเนื้อผงยาจินดามณี พระขุนแผนจันทร์ฤทธิ์ กุมารไม้แกะ ลิงไม้แกะ วัวธนูดิน ๗ โป่ง นกสาลิกาไม้กาหลง เทวากาหลง สีผึ้งจันทร์เพ็ญ ถึงเงินเรียกทรัพย์ ธงเขียนมือ ปลัดขิกไม้จานมือ เป็นต้น

ที่ผ่านมา พระปลัดพิจารณ์ ทุ่มเทเพื่อพระศาสนาและพัฒนาโรงเรียนวัดโพธิ์ (ผักไห่วิทยาคาร) จนสามารถก่อสร้างอาคารได้สำเร็จ ๑ หลัง ใช้งบประมาณ ๓ ล้านบาท โดยไม่พึ่งพางบประมาณของรัฐบาล

ต่อมาเมื่อปลายปี พ.ศ. ๒๕๕๕ พระปลัดพิจารณ์ ได้จัดโครงการก่อสร้างอาคารเรียนใหม่ให้โรงเรียนวัดโพธิ์ (ผักไห่วิทยาคาร) อีก ๑ หลัง ตั้งงบประมาณไว้ที่ ๙ ล้านบาท รวมทั้งใช้เป็นทุนการศึกษาให้เด็กนักเรียน โดยผู้ร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพผ้าป่า ๑ กอง จะได้รับพระปิดตาไม้แกะและพระพุทธรูปปางห้ามญาติไม้แกะขนาดบูชาเป็นที่ระลึกด้วย

สนใจร่วมสร้างกุศล สอบถามรายละเอียดได้ที่ พระปลัดพิจารณ์ วิจารโณ วัดโพธิ์ผักไห่ ต.ผักไห่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา โทร. ๐๘-๙๙๐๒-๖๒๑๓, ๐-๓๕๓๙-๑๒๔๘ หรือดูที่เว็บไซต์ www.watphophakhai.com

นสพ.เดลินิวส์ เสาร์ที่ 22 กันยายน 2555

 

วันนี้พี่นิ่ม ขนพระฯและเครื่องรางฯ ไปขออนุเคราะห์อาจารย์ธรรมนูญ สำนักบัวแปดกลีบอีกรอบ....

แต่ครั้งนี้ไม่ได้ไปเจอบรรยากาศเงียบๆเหมือนก่อน แต่เจอคณะศิยษ์ของอาจารย์ธรรมนูญด้วย

หนึ่งในกลุ่มศิยษ์ฯ ได้เล่าให้พี่นิ่มฟังว่า หนุมานฯของพี่นิ่ม ไปประกาศศักดา ให้หนุ่มชลบุรีที่เอาหลังเป็นเป้ารับลูกปืน .38 ซะ3นัด ถึงไม่เข้า แต่ก็เป็นรอย แค่นั้นก็พอจะทำให้พี่นิ่มต้องควักหนุมานแจกเปิดทางกลับบ้าน

อาจารย์ธรรมนูญ เอ่ยปากแนะนำหนุมานกายทิพย์ของพี่นิ่มให้คณะศิยษ์ฯของท่าน
ผมไม่แน่ใจว่า พี่นิ่มได้มอบหนุมานฯให้อาจารย์ธรรมนูญเป็นที่ระลึกอีกหรือเปล่า แต่ถ้าใครอยู่ใกล้ ลองเรียบๆเคียงๆถามไถ่กันดู

ผมเองก็ว่าจะเข้าไปเยี่ยมพี่ต่อ รณธรรม ธาราพรรณ ศิยษ์รุ่นใหญ่ของอาจารย์ธรรมนูญอยู่หลายเที่ยว ก็ไม่ได้ไปซักที...(ถ้าใครรู้จักพี่ต่อ ฝากความคิดถึงไปให้ด้วยครับ)

 

สวัสดีครับคุณหนุ่มทิพย์
ผมลำดับจองที่ 68 ขอจองเหรียญเพิ่ม ดังนี้ครับ

๑. เพิ่มเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เนื้อชนวน 1 เหรียญ รวมเป็น 3 เหรียญ
๒. เพิ่มเหรียญเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพร เนื้อชนวน 1 เหรียญ รวมเป็น 3 เหรียญ
๓. หมูทองแดง 2 ตัว เท่าเดิมครับ

​

ขอบคุณครับผม

 

เรื่อง : ประโยชน์ของนิทานที่ใช้ในการอบรมเด็กฯ

ตอน : ช่วยตั้งชื่อให้ทีว่า..เกินพอดี หรือ ผักชีโรยหน้า

ผู้ใหญ่สมัยนี้มีอยู่ไม่น้อยที่มักจะพูดเหมือนที่ผมคิดเสมอๆ คือ เด็กเดี๋ยวนั้ไม่มีสัมมาคารวะ

ไม่รู้จักเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่,ไม่รู้จักพระไม่รู้จักเจ้า อะไรๆ ที่ไม่ดีก็โยนให้เด็กไป แต่ก็ไม่รู้ว่า

จะแก้กันอย่างไร(ตามข้ออ้าง)เพราะต้องปล่อยไปตามสังคมที่ถูกกำหนดโดยเศรษฐกิจ,

ตามวิถีของหลักสูตรการเรียนการสอน วัฒนธรรมตะวันตกมันเข้ามา เทคโนโลยี่ต่างๆมัน

มาทำให้เป็นอย่างนี้ ฯลฯ แล้วเราอยากได้เด็กแบบไหน เอาอย่างเก่าก็ไม่ได้ เอาอย่าง

สมัยใหม่ก็ไม่ชอบในบางอย่าง สรุปรวมๆ แล้วพวกเราผู้ใหญ่ก็เห็นแก่ตัวอยากได้ในสิ่งที่ตัว

พวกเราเองต้องการ คือ เรียนดีเรียนเก่งทันสมัยและเป็นเด็กดีสุภาพเรียบร้อยแบบไทยๆ

ที่เราจำแบบหรือออกแบบมาแต่โบราณ แล้วเราทำอะไรกันบ้างหรือเราเคยกลับไปสำรวจ

ตรวจสอบกันบ้างไหมว่า ตรงไหนที่เราทำได้ให้กับเด็กโดยไม่ต้องพึ่งโรงเรียน เช่นคงเคย

ได้ยินกันมาบ้างว่า เด็กสมัยก่อนมันอยู่ใกล้วัดโรงเรียนก็เรียนกันที่วัด ได้ฟังพระเทศน์ฟัง

พระสอนมันถึงดี แล้วเราพาเด็กไปวัดเข้าวัดแบบที่เราเคยผ่านมาไหม? เด็กสมัยก่อนจิตใจ

อ่อนโยนรู้จักแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง ก็เกิดจาก"อาขยาน" เช่น ท่องกันเรื่อง แมวเอ๋ยแมว

เหมียว ฯ หรือเรื่องรู้จักหลบเป็นปีกรู้จักหลีกเป็นหาง หรือเรื่องประหยัดประยูร ดอกรักสัตว์

แสนรู้ฯลฯ ทำให้เด็กอ่อนโยน,รักสัตว์,รู้จักประหยัดเป็นต้น หรือนิทาน"อีสป" เรื่องเด็ก

เลี้ยงแกะเด็กอ่านแล้วก็ไม่อยากโกหก เรื่องโคนันทวิศาล เด็กอ่านแล้วก็อยากเป็นคนพูด

จาไพเราะ เรื่องเหล่านี้ถ้าทำได้เราก็ควรทำเอง ไม่ต้องรอคนอื่นมาทำให้ ผมเองก็เป็น

ห่วงหลานๆ ผมเหมือนกัน แต่โชคดีตรงที่ลูกสาวเป็นคนชอบอ่านจึงอ่านนิทานให้ลูกฟัง

ก่อนนอนแทบทุกคืนจึงรอดตัวไป เราอ่านให้ฟังไม่ได้ก็หาซื้อหนังสือพวกนี้ทิ้งไว้ในบ้านจะ

ได้ผลหรือไม่ได้ก็ช่างมัน อย่างน้อยเราก็ทำให้แล้วไม่ว่าจะเป็นลูกเป็นหลานฯ พอบอกแม่

บ้านว่าอยากเขียนเรื่องทำนองนี้ ได้รับคำถามว่าใครจะอ่าน? ก็ตอบว่า ต้องมีคนที่กำลัง

เป็นพ่อเป็นแม่ หรือเป็นพี่ป้าน้าอาอยู่บ้างแหละน่า แม่บ้านก็บอกว่าเขาก็คิดเป็น ก็ตอบ

ว่า เผื่อเขาลืมคิดล่ะ ก็ตามใจอยากเขียนก็เขียน พ่อก็ดื้อเหมือนหลานพ่อน่ะแหละ ผม

เลยเขียนและแถมนิทานให้หนึ่งเรื่อง เพราะคิดได้ว่าสมัยผมเป็นเด็ก เวลาปิดภาคเรียน

ทางโรงเรียนจะจัดให้มีการเล่านิทานประกวดกัน พ่อแม่ปู่ย่าตายายก็ต้องหานิทานมาป้อน

ให้ลูกหลานเอาไปเล่าแข่งกัน นิทานที่ได้รางวัลก็จะเป็นเรื่องที่มีคติสอนใจ นี่ก็เป็นอีก

สาเหตุหรือปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เด็กได้ถูกสอนทางอ้อม นิทานเรื่องนี้เป็นเด็กนักเรียนหญิงรุ่น

น้องคนหนึ่งเป็นคนนำมาเล่าแล้วได้รางวัลที่ ๑ ผมจำชื่อเรื่องไม่ได้ เรื่องมีอยู่ว่า.-

มีสองผัวเมียอยู่กินกันมาแบบมีความสุข ถ้อยทีถ้อยอาศัย แต่ฝ่ายเมียเป็นคนทำกับข้าว

ไม่เก่งและคิดไม่ค่อยเป็น วันหนึ่งฝ่ายผัวได้ไปเยี่ยมเพื่อนที่เคยรักใคร่ชอบพอกันมาก

เมื่อไปถึงบ้านเพื่อน เมียเพื่อนได้ทำกับข้าวเลี้ยงดูเป็นอย่างดี เมื่อกลับมาถึงบ้านจึงได้

เล่าให้เมียตัวเองฟังว่า เมียเพื่อนฉันเขาทำกับข้าวทำขนมอร่อยมาก เขาทำต้มยำให้

ฉันกินอร่อยและหอมน่ากินมาก เมียก็ถามว่าเขาใส่อะไรแกจำได้ไหม? ผัวก็ตอบว่าเขา

ก็ใส่เหมือนๆ ที่แกทำน่ะแหละ แต่เขาใส่ผักชีด้วยน่ะมันถึงหอมและอร่อยมาก ต่อไปแก

ทำอะไรแกอย่าลืมใส่ผักชีนะ ตั้งแต่นั้นมาเวลาทำกับข้าวไม่ว่าอะไรก็ตาม เมียเขาคนนั้นก็

จะใส่ผักชีทุกครั้งและทุกอย่งไป มีอยู่วันหนึ่งผัวกลับจากทำนารู้สึกกระหายน้ำเป็นอย่าง

มาก จึงร้องบอกเมียว่า ขอน้ำฝนเย็นๆ กินสักขันซิ เมียก็รีบตักเอามาให้และไม่ลืมที่จะ

ใส่ผักชี...?

ผมไม่เล่าต่อแล้ว...ละเอาไว้เพราะเข้าใจกันเอง เพียงแต่เอามาประกอบทำความเข้าใจว่า

นิทานก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เด็กดี และทำให้เด็กอ่านหนังสือแตกฉาน รวมทั้งนิทานก็ให้

ข้อคิดดีๆ มีประโยชน์ ก็ไม่มีอะไรมากอยากหนีผีสักพักเท่านั้นแหละ....นิทานเรื่องนี้สอน

ให้รู้ว่า...ผมกำลังขว้างก้อนหินถามทาง....ขอบคุณมากครับ

 

ขอบคุณครับ เป็นตัวอย่างที่ดีในการแจ้งยอดจริงๆครับ

................

ผมจะเจอพี่นิ่มอีกทีก็สัปดาห์หน้า คงจะมีภาพมาอัพเดท

ศิลปินไม่ใช่พ่อค้า
พ่อค้าขายศิลปะ
ถ้าสิ่งนั้นถูกผลิตตามความต้องการของพ่อค้า สิ่งนั้นก็ไม่ใช่ศิลปะ

พี่นิ่มทำพระฯได้ขลัง เพราะไม่ตั้งใจขาย
เหรียญฯนี้ได้วางแผนแจกทหารและถวายวัดไว้แล้ว ตั้งใจจะให้หมดให้เร็วที่สุด โดยไม่ต้องรบกวนคนอื่นมาช่วยแจก
หลังงานพิธีฯ เหรียญนี้จะเป็นเหรียญฯที่ชุดผลัดเปลี่ยนกำลังพลเรียกร้องที่สุด

เรามารอดูกัน....

 

ถ้าคุณอ่านเฉพาะหน้าสุดท้าย(ไม่อ่านทุกหน้า) ก็จะเข้าใจว่า ทำไมถึงไม่เห็นชื่อคุณในกระดานชนวน
และจะเข้าใจว่า ทำไมผมถึงโดนต่อว่า เป็นคนสองมาตรฐาน.....
ถ้าทุกคนใช้มาตรฐานเดียวกันหมด การเป็นบุคคลอภิสิทธิ์ก็จะไม่มี เสมอภาคกันหมด.....
............โอนแล้วแจ้งด้วยนะครับ ปัจจัยค่ากระดานชนวนผมถวายพระอาจารย์ฯไปเรียบร้อยแล้ว
..............................................

อ.ธรรมนูญ สำนักบัวแปดกลีบ : มาลองของหรือเปล่า? ของที่ยกมาก็ดีอยู่แล้ว
21 ส.ค. 55 : หลวงพ่อลี วัดหัวตลุก : "ท่านท้าวสักกะเทวราชท่านมาเองเลยนะ...มาร่วมโมทนากับคุณด้วย"
27 ส.ค. 55 : ครูบาสายทอง วัดท่าไม้แดง : "ของที่อยู่ในลังนี้ มีรูปพระเจ้าตากสองพิมพ์ใช่ไหม ท่านมาเองเลยนะ..."
6 ก.ย. 55 : หลวงพ่อสมบุญ วัดปอแดง : "ของที่ยกมา ไม่ต้องเสกแล้วก็ได้นี่..."
6 ก.ย. 55 : หลวงปู่ผ่าน วัดป่าโพธิ์แก้ว : "หมูเขี้ยวตันนะ มีชีวิตแล้วนะ คุ้มตัวคนใช้ได้แล้ว"
21 ส.ค. 55 : พระอาจารย์สมคิด วัดเนินสาธารณ์ : "ผมมีเท่าไหร่ ผมทำให้คุณนิ่มหมดเลย..."
12 ก.ย. 55 : พระปลัดนิวัติ วัดคมบาง : "เสียลั่นเปรี้ยะๆ รอบพระอุโบสถตลอด ข้างบนเค้าร่วมโมทนาด้วยนะ..."
15 ก.ย. 55 : หลวงปู่สุภา กันตสีโล : "ทำไมจะสู้เหรียญปี 2466 ไม่ได้... ครูอาจารย์เรามาเสกเองหมด..."

คลิกที่ภาพเพื่อขยาย

**คุณ R-LEK เพิ่มหนุมานฯ+เสือฯ (600฿+600฿)<!-- google_ad_section_end -->

***เพื่อนสมาชิกใหม่ ต้องแจ้งโอนหน้ากระทู้นะครับ ผมจะได้โกงยากหน่อย แจ้งทางพีเอ็ม ผมเปิดอ่านไม่ทันครับ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

หากพบเห็นตารางผิดพลาด รีบแจ้งด่วนครับ จะปรับปรุงให้ทันที

..........................................................................




เฉพาะตะกรุด 4 มหาอำนาจ ได้โปรดอย่าเพิ่งโอนนะครับ....

แววๆ ว่าต้นทุนต่อห้องเรียน ตกอยู่ที่ 500,000 บาท ท่านใดใจบุญ พร้อมกับทุนทรัพย์ที่ไม่จำกัด จะรับเป็นเจ้าภาพ ก็ขอโมทนาด้วยครับ
ทุกท่านจะได้รับใบอนุโมทนาจากทางโรงเรียนนะครับ จะลดภาษีได้มากกว่า<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

เพื่อการกุศล นิ่มป่าแดง หมูทองแดงหลวงปู่ผาด เหรียญพระเจ้าตากฯ+เสด็จกรมหลวงชุมพร (33 คน กำลังดูอยู่) ( 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ... หน้าสุดท้าย)
numthip

หน้ากระทู้ มีคนดู 33 คน
แต่ในกระทู้ มีคนดู 17 คน.......

ข้อมูลไหนเชื่อได้มากกว่ากัน เป็นที่ระบบหรือเปล่า....

 

ได้มาเนื้อละสอง-สามองค์....ใครตังค์เหลือใช้ รีบแจ้งครับ จะเข้าไปเอามาให้ โอนสิ้นเดือนก็ได้ รู้จักเจ้าของดี ผมโอนไปแล้วด้วย ถ้าไม่มีใครเอา ผมเอาไว้เอง....(นึกถึงเมื่อก่อน มีคนตามไถถึงบ้าน ผมให้ไปองค์ละ 700 ได้กำไร 200 นึกแล้วจะเสียดายดีไหม...)

กับอีก1ตัว ที่เจ้าของไม่แคร์ว่าจะมีคนซื้อหรือเปล่า...คนขายก็ไม่แคร์เหมือนกัน
ฝากขาย-หมายเลข 11 เนื้อเงิน (จัดสร้าง 33 ตัว)
55,000 บาท......... ถ้าสนใจ 089-9676387

..........................................................................

วันนี้ผมลืมส่งพัสดุให้คุณมรรคเวทย์.... ต้องขออภัย ขอผลัดเป็นพรุ่งนี้เย็นนะครับ

....................................................

เสือเนื้อนวะ ยังมีใครอยากได้หรือเปล่าครับ จะได้สืบค้นให้

ส่วนหนุมานเนื้อนวะ อย่าถามหานะครับ ถ้าจะถามก็เนื้อธรรมดา ก็ยังว่ายากเลย .....