ผลของการแยก กาย ใจ จิต

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย oatthidet, 23 สิงหาคม 2012.

  1. jintanakarn

    jintanakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +236
    มีพระอนาคามีด้วยวุ๊ย อืม..ไม่เสียเที่ยวที่ได้เข้ามาในที่นี้ คอยดูต่อไป เผื่อจะมีพระอรหันต์มาโพสในนี้บ้าง..
     
  2. MindSoul1

    MindSoul1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2012
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +496
    Search เข้ามาพบโดยบังเอิญค่ะ อ่านรวดเดียวจบ 12 หน้า และตามอ่านกระทู้อื่นอีกนิดหน่อย

    ขออนุโมทนากับท่านเจ้าของกระทู้ค่ะ

    น่าเสียดายที่เลิกโพสเรื่องนี้ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ จะกล่าวว่าสำคัญที่สุดก็ได้
    เราเข้าใจสิ่งที่ท่านสื่อ เป็นกำลังใจให้นะค่ะ
     
  3. Ndantchor

    Ndantchor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +1,123
    ^
    หมดทุกข์ หมดโศก หมดโชค หมดลาภ แล้วสิ ดีนักแล (^_^)
     
  4. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    แสดงออกถึงการปรุงแต่งที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆแล้วครับ หยุดดีกว่าไหมครับ

    หยุดอย่างที่คุณได้กล่าวเอาไว้น่ะครับ อย่าได้ปรุงแต่งอีกเลยครับ

    สาธุครับ
     
  5. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ดิ้นรนไปเถิด อยากเกิดต่อไป ใคร่รู้ใช่ไหม สิ่งใดที่จริง

    มีอยู่ทุกสิ่ง อ้างอิงกันไป เขาสอนเอาไว้ เข้าใจรู้ทัน

    สาธุครับ
     
  6. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ผมได้อธิบายไปแล้วในกระทู้นี้ครับ ส่วนคุณจะเข้าใจอย่างไรเป็นสิทธิ์ของคุณครับ

    คุณจะเข้ามาด้วยเหตุ-ผลใด ก็เป็นสิทธิ์ของคุณครับ ผมไม่ได้ห้ามครับ เพราะห้ามไม่ได้

    กระทู้ผมตั้งขึ้นมาก็ไม่น้อยแล้วครับ จะให้กลับไปคอยดูแลด้วยเหตุ-ผลใดครับ

    รับผิดชอบทุกสิ่งในโลกไม่ได้ครับ ความเข้าใจของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

    สาธุครับ
     
  7. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    กรรมนั้นมีเป็นของตน ผมจะว่าเพื่ออะไรครับ ในเมื่อผมเตือนไม่ได้ ผมก็ไม่สนใจครับ

    ด่าว่ามาก็ไม่เกิดผล เพราะผมไม่รู้จักใคร จะให้โกรธคนไม่รู้จัก จะทำไปเพื่ออะไรครับ

    ผมไม่เคยโกรธใครในเว็บแห่งนี้เลยครับ คุณถามด้วยเหตุ-ผลใด คุณรู้ตัวคุณเองดีครับ

    สาธุครับ
     
  8. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ผมไม่ได้ปลงครับ แต่ผมมองไม่เห็นประโยชน์ครับ ว่าจะสนใจไปเพื่ออะไรครับ

    สาธุครับ
     
  9. MindSoul1

    MindSoul1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2012
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +496
    ตรงนี้ยังไม่ค่อยเข้าใจค่ะ ว่าที่คุณสื่อหมายถึงอย่างไร
    ระหว่างจิตกับใจเป็นคนละสิ่งแต่แยกจากกันไม่ได้ กับ จิตกับใจเป็นสิ่งเดียวกันและแยกจากกันไม่ได้

    ตรงนี้ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจค่ะ ว่าคุณยาวๆยากๆเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย
    ว่าจิตกับใจเป็นคนละส่วนกัน และแยกจากกันได้
    หรือเห็นด้วยแต่ต้องใช้คำพูดว่า แยก จิต ออกจาก ใจ

    ขอบคุณนะคะ
     
  10. MindSoul1

    MindSoul1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2012
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +496
    ตามหากระทู้ที่คุณ oatthidet เล่าถึงเรื่องมีดบาดมือ
    อยากอ่านรายละเอียดค่ะ แต่ยังตามหาไม่เจอเลยค่ะ
    เห็นแต่ที่กล่าวถึงว่าเคยเล่าเรื่องมีดบาดมือไว้แต่ไม่กล่าวรายละเอียด

    ขอบคุณนะคะ
     
  11. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    หากจำไม่ผิดผมตอบในกระทู้ของผู้อื่นกระมังครับ คงไม่ใช่ว่าตั้งกระทู้เองครับ

    แต่ว่านานมาแล้วครับ เรื่องของเรื่อง คือ ผมมีอาชีพค้าขายครับ

    ขายก๋วยเตี๋ยวเครื่องในหมู ผมเป็นคนทำเครื่องใน บางครั้งมีดก็จะบาดมือ

    ในขณะที่ทำเครื่องในครับ ตอนนั้นเองที่ผมเห็น "จิต" คือ ความรู้สึกที่เกิดขึ้น

    ในขณะนั้นความเจ็บปวดยังไม่เกิดขึ้น แต่การรับรู้ความรู้สึกที่ถูกมีดบาดมีขึ้นแล้ว

    พอไม่สนใจ ไม่รับรู้ความรู้สึกที่ถูกมีดบาด ความเจ็บปวดก็ไม่เกิดขึ้น ผมยังทดลอง

    นำไปใช้ในการถอดเล็บที่โรงพยาบาล และ นำไปใช้ในการผ่าตัดด้วยครับ

    ปรากฎว่า ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นครับ แต่มองดูอยู่ครับ

    สาธุครับ
     
  12. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ผู้ที่ไม่เคยเห็น จิต ย่อมไม่มีทางเห็น ใจ

    หากไร้ความสงบนิ่งแล้วย่อมไม่เห็น จิต

    การฝึกสมถะก่อให้เกิดผลเช่นนี้ครับ

    การนึกคิดเอาเอง เดาเอาเอง ด้วยการอ่านเพียงอย่างเดียว

    ไม่มีทางที่จะรู้ และ เข้าใจได้อย่างแท้จริงหลอกครับ

    สาธุครับ

     
  13. จิตเปโม

    จิตเปโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2012
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +253
    คุณ oatthidte ครับผม ขอเรียนถามธรรมะข้อหนึ่งครับ หวังว่าคงพอทำให้คนปัญญาน้อยพอหายสงสัยได้บ้างนะครับ ดังนี้ครับ ช่วยอธิบายสภาวะของจิตแต่ละตัวที่เกิดขึ้นให้หายสงสัยหน่อยครับ

    วันหนึ่งผมอ่านประวัติของหลวงปู่หล้าถึงตอนที่ท่านสอนว่า เหตุแห่งดีหรือเหตุความชั่วเราต่างก็รู้กันดีอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นให้เราเป็นครูสอนตัวเอง

    มาถึงตรงนี้จิตมันตัดความรับรู้ภายนอกทั้งหมด ตาที่อ่านอยู่มันก็ดับพรึบ หลือแต่ดวงความรู้สึกอันหนึ่งเด่นอยู่ มันมีพลังแผ่กระแสรู้ออกรอบตัว พาตัวเองวิ่งแหวกความมืดไปข้างหน้า แล้วหลุดเข้าไปในความว่างๆ จากนั้นในความว่างนั้นก็แสดงภาพนิมิตสีเขียวๆขึ้นมา เป็นรูปเพื่อนร่วมงานมายืนชี้หน้าแสดงท่าทางด่าทอ ต่อว่าแต่ไม่มีเสียง จิตขณะนั้นไม่ได้เป็นดวงความรู้สึก แต่เหมือนจะดูอยู่เฉยๆ ไม่มีจุดหรือดวงอะไร ดูอยู่

    แต่มันก็เกิดความเข้าใจขึ้นว่า ที่เขามาด่านั้นเขาสอนให้ฝึกรู้ฝึกดูผัสสะที่มากระทบ

    แล้วมันก็มีความรู้ผุดขึ้นมาเตือนว่า "คนทุกคนล้วนเป็นครูสอนเรา"

    แล้วจิตมันก็ถอนขึ้นมารับรู้ภายนอก ตามองเห็น รู้ร่างกายปรกติ จิตสงบตั้งมั่นมากแต่มันก็เกิดปิติแรงมาก มันเกิดความปิติสุขขึ้นอย่างแรง ซ่านไปหมดเหมือนใจจะขาด สุขเหมือนใจมันจะทนไม่ไหว อ่านธรรมะต่อไม่ได้ ก็เดินเข้าไปในไลน์การผลิต เห็นพนักงานหรือเพื่อน ปรกติมองคนแต่ละคนใจมันคิดปรุงให้ค่า ของแต่ละคนต่างกัน คนนี้รักคนนี้เกลียด แต่คราวนั้นมันเป็นกลางหมด

    ประมาณ 20 นาที จิตจึงเริ่มคลาย กลับมาปรุงแต่งต่อ ผมไม่ได้เข้าใจว่าตัวเองบรรลุนะครับ กิเลสเต็มอยู่ในใจเหมือนเดิมแหละ

    แต่หลังจากนั้นมาถึงวันนี้มันมองคนเปลี่ยนไปในทางดีขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย

    ช่วยอธิบายวิถีจิตนี้ให้แจ้งทีครับ ขอบคุณครับ
     
  14. จิตเปโม

    จิตเปโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2012
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +253
    ผมธรรมปฏิบัติดูกายดูจิตมา 5 ปีแล้วครับ ฝึกสติปัฏฐานสี่ โดยเริ่ม ที่จิตตานุปัสนา เลือกเอาจิตในจิต คือเอาเจตสิก พวกความโกรธมาเป็นตัวฝึกรู้ฝึกดู ผมขี้โมโหร้ายครับ แต่ตั้งตัวรู้ได้เพราะเห็นลมเคลื่อนตอนนั่งดูลม เป็นงั้นไป แต่ตอนนี้จิตไม่เลือกอารมณ์ในการรู้แล้ว เห็นกายขยับก็รู้อยู่นืองๆ เห็นความอยาก ความโกรธก็ตามรู้ได้เองไม่ได้บังคับ มันรู้ของมันได้เอง แต่ก็ไม่เหมือนกันในแต้ละวันแล้วแต่ ความขันในการปฏิบัติ แต่ก็รู้อริยาบทในชีวิตประจำนได้เนืองๆ ไม่ทิ้ง แต่กิเลสก็เยอะ ก็ขอทำไปเรื่อยๆ จนตายพ้นไม่พ้นก็ช่างไม่เป็นไรครับ
     
  15. ploynoppakaw

    ploynoppakaw Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +45
    อ่านเรื่องมีดบาดแล้ว ขอแชร์ประสบการณ์นิดหนึ่งนะคะ เข้าใจในสิ่งที่อธิบาย เพราะเคยมีประสบการณ์ตอนให้เคมีบำบัด ถ้าไม่มีเราความเจ็บปวดในความเป็นเราก็จะไม่มี เพียงแควางก็เท่านั้น
     
  16. ploynoppakaw

    ploynoppakaw Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +45
    ตัวรู้นี่ทำงานตลอดเวลาหรือไม่คะ
     
  17. จิตเปโม

    จิตเปโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2012
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +253
    ความคิดคือสิ่งที่จิตเข้าไปรู้
     
  18. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    เห็นตัวที่เข้าไปยินดียินร้่ายกับสิ่งที่ปรากฏมั้ยครับ อารมณ์เหนี่ยวรั้ง/ผลักไสเห็นมั้ยครับ ตัวอยาก/ไม่อยาก เห็นมั้ยครับ
     
  19. จิตเปโม

    จิตเปโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2012
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +253
    เยี่ยม..เห็นแล้วจิตเกิดจำสภาวะธรมมได้ เกิดจิตผู้รู้ ตื่นเบิกบาน ขึ้นมา เรียกว่า สติผู้รู้ สายวัดป่าเรียกจิตผู้รู้ สติกับจิตผู้รู้ ตื่น อันเดียวกัน เกิดแล้วดับเหมือนกันอยู่ใต้ไตรลักษณ์เหมือนกัน เราเอาตัวนี้แหละไปเจริญวิปัสนาปัญญา
     
  20. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ก็ดีแล้วครับ ที่เล่ามาทั้งหมด คุณลองมองดูชีวิตทั้งชีวิตนะครับ อย่ามองใกล้ๆ

    ลองมองออกไปอีกสิบปี ยี่สิบปี สามปี จะยังมีความรู้สึกแบบนี้อยู่อีกไหม

    แล้วเฝ้ามองดูทุกวันว่าเป็นอย่างที่คุณเป็นอยู่ขณะนี้ไหม

    มองดูอดีตที่เคยผ่านมาว่าเป็นแบบตอนนี้ไหม

    ช่วงที่ปิติเกิดก็เป็นแบบที่คุณเล่ามาครับ แต่จะอยู่คงทนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายครับ

    สาธุครับ

     

แชร์หน้านี้

Loading...