3พ.ย.นี้กฐินเดียวที่ชีวิต1ไม่ควรพลาด!!!ผ้าขาวให้สงฆ์ชนบทใช้ตัดสบงกฐิน+ฆณฑปพระพุทธบาท

อานิสงส์กฐิน<!-- google_ad_section_end -->
<HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->ถาม : ...........................
ตอบ : ช่วงนี้เป็นช่วงของกาลกฐิน คำว่ากาลนี่ กาละแปลว่าเวลา เวลาของกฐิน กฐินจริง ๆ ความหมายก็คือผ้าสะดึง คือผ้าที่ขึง เครื่องขึงที่ยึดผ้าให้ตึงจะได้ประกอบให้เป็นสิ่งโน้นสิ่งนี้ได้ ไม่ว่าจะเย็บปักถักร้อยอะไรก็ง่าย กาลกฐินนี่จะเป็นเรื่องกำหนดตามระเบียบพิธีของสงฆ์โดยเฉพาะพระภิกษุที่จำพรรษาแล้วเป็นเวลาครบถ้วน ๓ เดือน

สมัยก่อนนั้นพระพุทธเจ้าท่านอนุญาตให้เปลี่ยนจีวรได้ คราวนี้ว่าการเปลี่ยนจีวรนี้ต้องสมเหตุสมผล คือว่าเป็นผู้ที่จีวรเก่าจริง ๆ ชนิดที่เรียกว่าหมดสภาพแล้วก็อนุญาตให้เปลี่ยนได้ ท่านก็ให้เสาะหาผ้าที่จะมาทำจีวร ภายหลังการเสาะหาผ้าเต็มไปด้วยความยากลำบาก นางวิสาขาก็ดี อนาถบิณฑิกเศรษฐีก็ดี ก็ขอให้รับคหปติจีวร คือจีวรที่มีผู้น้อมมาถวายได้ คราวนี้พอจำพรรษาแล้วครบสามเดือนมีสิทธิรับกฐินได้ กาลกฐิน คือเวลาของการรับกฐิน เริ่มตั้งแต่แรมหนึ่งค่ำเดือนสิบเอ็ดไปสิ้นสุดเอากลางเดือนสิบสองเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็ม ช่วงระยะนี้วัดไหนก็ตามที่มีเจ้าภาพตั้งใจว่าจะถวายกฐินก็จะจัดให้ถวายกฐินขึ้นมา คราวนี้กฐินเป็นงานบุญพิเศษ
ความจริงกฐินเป็นสังฆทานเหมือนกันแต่บังเอญว่าจำกัดด้วยเวลาคือทำได้แค่เดือนเดียวเท่านั้นในหนึ่งปี ก็เลยจะมีอานิสงส์พิเศษ หลวงพ่อวัดท่าซุงเคยบอกเอาไว้ว่าให้เรารู้จักสังเกตตัวเอง ใครก็ตามที่ได้มีโอกาสเป็นเจ้าภาพทำบุญกฐิน คำว่าเจ้าภาพไม่ได้หมายความว่าจะต้องเจาะจงว่าตัวเองเป็นประธานหรือว่าหาสิ่งของทั้งหมดมา เราร่วมเป็นเจ้าภาพด้วยจะเล็กน้อยยังไงก็ตามถือว่าเป็นเจ้าภาพเหมือนกัน ท่านบอกว่าบุคคลที่ตั้งใจเป็นเจ้าภาพกฐินติดต่อกันได้ถึงสามปี ให้สังเกตความเป็นอยู่ของตัวเอง ความเป็นอยู่จะคล่องตัวกว่าคนอื่นเขา จะมีความสะดวกกว่า

เพราะฉะนั้นก็ให้พวกเราตั้งใจลักษณะนี้ ตัวอาตมาเองตั้งใจตั้งแต่ก่อนบวชจนกระทั่งถึงบวชแล้ว แต่ละปีจะทำบุญกฐินปีละมาก ๆ หลาย ๆ วัด สมัยที่ก่อนบวชถึงเวลาหน้ากฐินก็เตรียมซองไว้เลย ซองละพัน ๆ เจอเขาทำที่ไหนก็ถวายร่วมกับเขาที่นั่น พอเป็นพระมาก็ใช้วิธีจัดแบบนี้ คือว่านิมนต์พระที่ท่านไม่ีมีกฐินหรือว่าพระที่เป็นมิตรสหายคุ้นเคยกันมา มารับกฐินที่วัดของเรา หรือว่าอย่างระยะหลัง ๆ นี่ไปเป็นประธานทอดให้เขาด้วย หรือว่าทางด้านโน้นเขาเรียกร้องมาก็ต้องไป
อานิสงส์ที่ชัดที่สุด ก็คือสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา พระพุทธเจ้าสมัยที่ท่านเกิดเป็นมหาทุกขตะ คือคนที่จนมาก ท่านเป็นคนรับใช้คนอื่นเขา ในสมัยนั้น สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีนามว่าปทุมมุตตระ ท่านเป็นคนใช้เขา
เจ้านายจะจัดกฐินก็สั่งให้มหาทุกขตะจัดการให้ทุึกอย่าง มหาทุกขตะก็บอกว่า ข้าแต่นายขอร่วมมีส่วนในกฐินนี้ได้หรือไม่ นายก็บอกว่าได้ซิเรามีอะไรล่ะ บอกว่าเดี๋ยวขอเสาะหาก่อน คราวนี้เขามีแต่ผ้านุ่งอยู่ผืนเดียว แขกเขาจะมีผ้านุ่งอยู่ผืนหนึ่งแล้วผ้าห่มผืนหนึ่ง แต่มหาทุกขตะจนมากมีผ้านุ่งผืนเดียวก็ไม่ทราบจะทำอย่างไรดี เลยเข้าไปในป่าเอาใบไม้มาเย็บทำเป็นเครื่องนุ่งห่มแทน แล้วเอาผ้าผืนนั้นไปที่ตลาดไปถามกับพ่อค้าว่าผ้าผืนนี้สามารถแลกของอะไรได้บ้าง เขาถามว่าเธอจะเอาไปทำอะไรผ้าก็เก่าเต็มทีจะแลกของอะไรได้นักหนาเชียว เขาก็บอกว่านายของเรานี่จัดกฐินขึ้นมาเพื่อทอดถวายพระภิกษุสงฆ์ในพระพุทธศาสนา เราก็อยากทำบุญด้วยก็บอกว่าถ้าอย่างนั้นก็ให้เข็มไปเล่มหนึ่งแล้วก็ด้ายไปกลุ่มหนึ่ง เพราะว่าผ้าเก่ามากแล้วมีค่าน้อยมาก ท่านก็เอาเข็มกับด้ายนั้นเข้าไปร่วมในกองกฐินแล้วตั้งใจอธิษฐานว่าขอให้ผลบุญที่ได้ทำบุญกฐินครั้งนี้ขอให้ท่านบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณดังที่ปรารถนาด้วยเถิด เสร็จแล้วปรากฏว่าพอถึงชาติปัจจุบันนี้ท่านบรรลุมรรผลได้จริง ๆ

หลวงพ่อท่านเคยเทศน์ถึงอานิสงส์กฐินท่านบอกว่าบุคคลที่ตั้งใจทำบุญกฐินพระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าแม้แต่ทิพจักษุแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งถือว่าเลิศแล้วที่สุด ยังมองไม่เห็นเลยว่าอานิสงส์นั้นจะไปสิ้นสุดตรงไหน ส่วนใหญ่ถ้าเกิดเป็นมนุษย์ก็จะเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ จะเป็นพระมหากษัตริย์ หรือเป็นเศรษฐีมหาเศรษฐี เกิดแล้วเกิดอีกอยู่ในระดับของความดีนี้ตลอดจนกระทั่งไม่สิ้นสุดของอานิสงส์กฐินก็จะเข้านิพพานเสียก่อน ฟังดูแล้วน่าทำไหม ร่วมกับเขาบ่อย ๆ

http://www.grathonbook.net/book/18.3.html

 

หลวงพ่อหลวงพี่นำไปช่วยหล่อองค์ปฐมให้วัดท่าเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานีเพื่อให้ชาวเมืองอุบลราชธานีและจังหวัดใกล้เคียงได้มีพระพุทธรุปองค์ปฐมใหญ่ไหว้กราบไหวว้บูชา อนุโมทนาสาธุด้วยเจ้าคะ ขอบุญอันประเสริฐจงบังเกิดแด่ผู้ร่วมบุญทั้งหลายขอให้จงสำเร็จสมปรารถนาในสิ่งที่อธิษฐานโดยฉับพลันเทอญสาธุ สาธุ สาธุ

<!-- google_ad_section_end -->
​

 

กฐินปี 53 พวกเราได้ร่วมกันสร้างสวนปฏิบัติธรรมองค์ปฐมกลางแจ้ง
นำภาพพระพุทธรูปองคืปฐมใหญ่และสวนปฏิบัติธรรมกลางแจ้งมาฝากกันคร่า





​

 

บรรยากาศยามค่ำคืนอุทยานปฏิบัติธรรมกลางแจ้งองค์ปฐม เงียนสงบเหมาแก่การปฏิบัติธรรมอย่างยิ่งคะ หน้าหนาวนี้พลาดไม่ได้เลยคะ แต่อย่าลืมนำผ้าห่มกันไปให้เพียง
งพอนะคะเพราะลมกลางคืนหัดหนาวๆมากๆจริงคร่า ^_^


<LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>









​

 

นำภาพมาฝากตรงจากวัดคะการหล่อสมเด็จองค์ใหญ่องค์ที่ 12<!-- google_ad_section_end --> คร่า
​

<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>










</FIELDSET>

 

การสร้างมหาบารมีท่ามกลางแสงแดดตอนกลางวันและความหนาวเย็นในตอนกลางคืนมหาอนุโมทนาคะ<!-- google_ad_section_end -->
<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>








</FIELDSET>​

 

^_^ เก๋ขอให้พรอัน ประเสริฐ จงบังเกิดแด่ท่านผู้ร่วมบุญทุกท่านและท่านผู้ร่วมบุญทุกท่าน อย่าลืมมาร่วมบุญกฐินร่วมสร้างฆณฑปครอบรอยพระพุทธบาทผุดครั้งนี้ให้สำเร้จไปด้วยกันอีกครั้งนะคะ ผู้ที่เกี่ยวข้องกันอยู่ที่ใดก็อย่าลืมมาช่วยสร้างบารมีครั้งนี้ให้สำเร็จตามที่เด้ปวารณากันไว้นะคะอนุโมทนาสาะการคะ ^_^
​

 

พิธีบวงสรวงบอกกล่าวเทพพยาดาฟ้าดินเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2554<!-- google_ad_section_end --><HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->เตรียมพิธีบวงสรวงก่อนเริ่มสร้างแถวที่ 3 (องค์ที่ 15-21)<!-- google_ad_section_end -->


<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>






</FIELDSET>
​

 

^_^ เชิญร่วมสร้างมหาบารมีสร้างฆณฑปครอบรอยพระพุทธบาทกันให้สำเร็จ
ไปด้วยกันอีกครั้งนะคะ อนุโมทนาสาธุคะ



<LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>






​

 

ไม่ทราบอธิษฐานอะไรคะ ตอนนั้นจำไม่ได้แล้วคะ แต่สำหรับตัวเก๋เองมักจะอธิษฐานเสมอๆคะว่า ขอให้เกิดมาชาติภพใดก็ขอให้จิตเราเป็นบุญเป็นมหากุศลตั้งอยู่บนความดีงาม ^_^ ก็คิดว่าคงอธิษฐานแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรจึงเป็นคนชอบทำบุญตั้งแต่เด็กๆ 555 แต่ที่แน่ๆลืมอธิษฐานขอความเรียบร้อยติดตัวมาด้วยแน่นอนคร่าแบบว่างานไหนงานนั้นซุ่มซ่ามตลอดคะ






​

 

อุทยานองค์ปฐมสร้างขึ้นมาแล้ว กฐินปีนี้เราจะสร้างฆณฑปปครอบรอยพระพุทธบาทคะ
จึงขอเชิญญาติโยมสาธุชนผู้ใจบุญทั้งหลายร่วมเป็นเจ้าภาพกฐินวัดในวันเสาร์ที่ 3 พศจิกายน 2555 นี้คะ อนุโมทนาสาธุ


<LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>





​

 

เมื่อใดที่ใจเรามีศรัทธา ปาฏิหาร์เกิดเสมอ...






​

 

เก๋อายุสามสิบต้นๆอาจจะอายุแล้วคะในทางโลก แต่สำหรับงานสร้างวัดวาอาราม งานสร้างบารมีต่างๆ ถือว่าอายุน้อยคะ เพระงานประเภทนี้เป้นงานประเภทที่ต้องอาศัยอายุงาน อาศัยประสบการณ์ เห็นเก๋แค่สามสิบต้นๆแบบนี้มีคนมาทาบทามเก๋ไปสร้างวัด สร้างโรงพยาบาล โรงเรียนเยอะมากเลยคะ คนเราเมื่อยังไม่ลองก็ไม่รู้ ขอให้ ศรัทธา+ตั้งมัน+สู้ไม่ถอย ขอแค่มีสามอย่างที่กล่าวมา เก๋เชื่อว่าอายุจะเป้นเพียงตัวเลข และไม่ว่าใครก็สามารถที่จะสร้างวัดวาอาราม ศาสนสถาน สร้างบารมีให้สำเร็จลุล่วงลงได้อย่างแน่นอนคะ ขออนุโมทนาบุญกันท่านผู้สร้างบารมีทั้งหลายด้วยนะคะสาธุ สาธุ สาธคะ แล้วอย่าลืมมาร่วมกันสร้างบารมีครั้งนี้ให้สำเร็จไปด้วยกันนะคะ ^_^


<LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>









​

 

การสร้างบารมีไม่เคยง่ายคะแต่จะไม่อยากเกินความพยายามเช่นกัน เมื่อใดที่ศรัทธอย่างแรงกล้าเกิดขึ้นใจ และเราตั่งมั่นที่จะสร้าง ความสำเร็จอยู่ไม่ไกลคะ
หากเราไม่หยุดเดิน สักวันนึงอย่างไรต้องถืงอย่างแน่นอน
อนุโมทนาสาธุการคะ​

 

วัดป่าโนนจ่าหอมแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่บ้านโพนเมือง จังหวัดอุบลราชธานี

วัดนี้ตั้งอยู่ในชนบทมาก ๆ และแต่เดิมแทบจะเป็นวัดร้างไปแล้ว แต่ด้วยเมตตาของพระอาจารย์ชยางกูร
ท่านเจ้าอาวาส ที่ได้ธุดงค์ผ่านมาเพื่อมาโปรดโยมบิดามารดา


ต่อมาพระอาจารย์ท่านจึงได้มาจำวัดที่วัดป่าโนนจ่าหอมแห่งนี้ และได้ทำการพัฒนาและปรับปรุงวัด
รวมถึงช่วยเหลือชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงมาโดยตลอด


พระอาจารย์ชยางกูรท่านเป็นทั้งพระปฏิบัติและเป็นพระนักพัฒนาครับ
นอกจากงานวัดป่าโนนจ่าหอมที่ท่านเป็นเจ้าอาวาสแล้ว ท่านยังได้ช่วยพัฒนาวัดอื่น
และได้ช่วยงานพระเถระผู้ใหญ่ของทางจังหวัดในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา




​

 

นำบุญมากฝากคะเก๋ไปสร้างองค์ปฐมหน้าตัก 4 ศอกมาคะยังปวดอยู่เลยคะมือก็เละตามระเบียบเพราะแพ้ปูนแต่ไม่เป็นไรคะเห็นองค์ปฐมที่หล่อเสร็จก็ปิติลืมเจ็บมือเลยคะ นี่แหละคะใจกับกายแยกออกจากกันคะ ^_^ แม้เกิดเป็นหญิงแต่ใจไม่แพ้ชายแน่นอนคะในเรื่องการทำบุญสร้างกุศลสืบทอดพระศาสนา











​

 

รูปด้านล่างคือการเทปูนหล่อองค์ปฐมใหญ่องค์ที่ 17 กว่าจะเสร็จก็ดึกคะ คิวปูนยาวเหยียดแต่ละวันมันไม่ได้ดั่งใจก็ต้องรอไป อากาศเย็นลงกว่าทุกวันมาก ถ้ามีผ้าห่มโตโต้ก็จะดีมากกว่านี้ พระเป็นไข้งอมกันหมดต้องออกไปพักผ่อนอีกสามท่านคะ แรงงานก็ลดลงไปอีก หลวงพ่อท่านก็เป็นไม่สบายพูดแทบไม่ออกเจ็บคอมากแต่ก็ต้องฝืนยังรับแขกเพราะทางวัดต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายจำนวนมากในส่วนค่าคนงาน ค่าตกแต่งองค์ปฐมเพื่อให้ญาติโยมได้มีโอกาสสร้างองค์ปฐมในงบประมาณไม่สูงมากคือ ให้ฐาติโยมได้เป็นเจ้าภาพเฉพาะค่าปูนในการหล่อพระพุทธรูปองค์ปฐม เพราะเราต้องการให้คนได้ทำบุญสร้างความดีร่วมมหาทานบารมีครั้งครั้งยิ่งใหญ่นี้ไปด้วยกันคะ
<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>








</FIELDSET>

 

การสร้างองค์ปฐมบรมศาสดาหน้าตัก 6 เมตรจำนวน 28 องค์ ตอนกฐินปี 2553
สร้างไปแล้วคะ อนุโมทนาสาธุ


<LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>




​

 

ค่ำคืนวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2554 หลวงพ่อนำชาวบ้านร่วมทำบายศรีสำหรับพิธีบวงสรวงในเช้าวันที่ 4 กุมภาพันธ์ อนุโมทนาสาธุคะ ช่วงนั้นเก๋ติดบอกบุญอยู่ทางกรุงเทพเลยไม่ได้ไปร่วมพิธีบวงสรวงด้วยคะ








​

 

งานสร้างวัด สร้างองค์ปฐม และอุทยานองค์ปฐมบรมศาสดาแห่งนี้พวกเราสร้างขึ้นมาด้วยความศรัทธา สร้างมาจากชีวิตจิตใจคะ วัดที่เห็น องค์ปฐมที่สร้างขึ้นมา บายศรีในพิธีลวงสรวง สร้างมากับมือค่ะ บายศรีที่เห็นงดงามนี่หลวงพ่อและชาวบ้านลงมือช่วยกันทำเองคะ เพราะวัดเราไม่ได้มีปัจจัยมากมาย คือบอกปั๊บสร้างปุ๊บปัจจัยที่ญาติโยมร่วมมาเพราะต้องการสร้างเพื่อเอาบุญเราก็สร้างทันทีสร้างปปัีบก็หมด ก้ต้องบอกใหญ่ จึงต้องบอกกันตลอดคะ ในส่วนไหนที่ทำได้ก็หลวงพ่อเจ้าอาวาสนำหลวงพี่ และชาวบ้านลงมือทำเอง สร้างเองคะ ขอร่วมอนุโมทนาสาธุด้วยคะกับกำลังใจของเหล่าเนื้อนาบุญและพุทธศาสนิกชนทั้งหลายเหล่านี้คะ<!-- google_ad_section_end -->








​