ไม่น่าเชื่อว่าผลกรรมจากการร่วมกันฆ่ากบเพียงตัวเดียว สามารถตามทันในชาตินี้

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย ดาวศุกร์, 31 สิงหาคม 2012.

  1. ดาวศุกร์

    ดาวศุกร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +554
    เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวและคนรู้จัก ดังนี้
    วันหนึ่งพ่อของผมขี่จักรยานยนต์โดยมีเพื่อนของพ่อซ้อนท้ายไปตามถนน พบกบตัวหนึ่งอยู่ข้างทางซึ่งมีขนาดใหญ่กว่ากบที่เคยเห็นมา เพื่อนของพ่อบอกให้พ่อผมจอดรถเพื่อลงไปดู กบตัวนั้นมันก็ไม่กระโดดหนีไปไหน เพื่อนของพ่อจึงจับกบตัวนั้นขึ้นมาแล้วหักขาทั้งสองข้างพร้อมกับพูดว่า"วันนี้มีกบตัวใหญ่ไปแกล้มเหล้าแล้ว" หลังจากนั้นทั้งสองก็พากันขี่รถจักรยานยนต์กลับไปบ้านพักเพื่อนของพ่อที่อยู่ติดกันกับบ้านพักของพ่อ
    เมื่อถึงบ้านพักเพื่อนของพ่อได้ส่งกบตัวนั้นให้เมียของเขาเพื่อนำไปประกอบอาหาร เมียของเขาจึงฆ่ากบตัวนั้นแล้วถลกหนังออกนำมาทำผัดเผ็ดกบเพื่อแกล้มเหล้า
    ในวงเหล้านั้นมีอยู่ 5 คน คือ พ่อและแม่ของผม เพื่อนของพ่อและเมียของเขา และเพื่อนร่วมงานอีกหนึ่งคน แม่ของผมและเพื่อนร่วมงานเห็นกบตั้งแต่ก่อนฆ่าก็เลยไม่กล้ากิน ดังนั้นคนที่กินก็มี 3 คน คือ พ่อของผม เพื่อนของพ่อและเมียของเขา

    วันเวลาผ่านไปหลังจากนั้นไม่กี่เดือน ผลกรรมได้ทยอยตามทัน 3 คน นั้น ดังนี้

    คนแรก คือ เมียของเพื่อนพ่อ เกิดทะเลาะกันในครอบครัว เลยเอาน้ำมันราดตัวแล้วจุดไฟถือไว้เพื่อประชดสามี แต่เกิดพลาดไฟลามไปติดที่แขนแล้วลุกไหม้ทั้งตัว ถึงไม่ตายแต่ก็เป็นแผลเป็นทั้งหน้าและตัว ผิวหนังบางส่วนตามข้อพับ เช่น แขน คอ ติดกัน ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เหมือนเดิม

    คนที่สอง คือ เพื่อนของพ่อเกิดอุบัติเหตุจนต้องตัดขาทิ้ง

    คนสุดท้าย คือ พ่อของผม ซึ่งแค่ร่วมกันเท่านั้นยังได้รับผลกรรมไปด้วย พ่อซ้อมกีฬาอยู่เกิดเส้นพลิกเป็นอัมพฤกษ์เดินไม่ได้ ต้องรักษาตัวอยู่หลายเดือน ในระหว่างรักษาตัวพ่อระลึงถึงเรื่องนี้แล้วอธิษฐานว่า ถ้าหากหายจะบวชเพื่ออุทิศส่วนกุศล หลังจากนั้นจึงค่อยๆหายกลับมาเดินได้ตามปกติ

    ไม่น่าเชื่อว่าการฆ่ากบเพียงตัวเดียวจะส่งผลกรรมได้รวดเร็วและทั่วถึงขนาดนี้ ไม่เว้นแม้กระทั่งคนที่กิน ซึ่งไม่ได้มีส่วนร่วมในการฆ่าโดยตรง
     
  2. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    ขออนุโมทนากับธรรมทานนะคะ น่ากลัวค่ะ .. เมื่อก่อนตอนเป็นเด็กพอฝนตกเราจะพากันไปจับกบ ไปกับพ่อค่ะ เอาไฟฉายชนิดคาดหัวไป กบตาแดงๆเวลาโดนไฟฉายส่อง มันไม่ยักกะหนีเวลาดิฉันใช้มือตะปบ ... เด็กบ้านนอก ... แมลง กบ เห็ด ฯลฯ มันก็เป็นวิถีชาวบ้านธรรมดาๆ ถ้ารู้สักนิดคงไม่ทำแน่ๆ คนในเมืองเดี๋ยวนี้ไม่ต้องได้ออกไปล่าหาสัตว์กิน เหมือนคนบ้านนอก เดินเข้าห้างก็มีให้เลือกแล้ว ลด ละ เลิก การเบียดเบียนกันดีที่สุดค่ะ สาธุ
     
  3. porntips

    porntips เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    955
    ค่าพลัง:
    +2,410
    เป็นธรรมดาของสัตว์โลกที่ยังต้องยังชีพครับ ผมตอนเด็กบ้านผมขายกับข้าวสด ปลาผมมีหน้าที่ทุบหัว ขอดเกล็ด หั่น แล่ แล้วแต่จะสั่ง หอยแมลงภู่ผมแกะวันเป็นสิบกิโล หอยแครงลวกน้ำร้อนไม่รู้เท่าไหร่ แต่กบไม่เคยทำเพราะทำไม่เป็น แม่เป็นคนทำเอง หอยขมเป็นล้านๆตัวที่ผมตัดตูดมัน ทำขายให้ลูกค้าและทั้งทำกินเองในครอบครัวทุกชนิด นึกย้อนหลังแล้วก็สลดใจก็ได้แต่ขออโหสิกับพวกเขาทั้งหลายที่ได้เบียดเบียนกันมา และก็ลด ละ เลิก กินพวกเขาในที่สุด คุณก็อย่าเอาจิตไปจับกับอดีตอีกเลย เพราะปัจจุบันพวกเราไม่ได้ยินดีกับการเช่นนั้นอีกแล้ว
     
  4. na_krub

    na_krub "นโม ธรรมะสุขัง อรหังพุทโธ นโมพุทธายะ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +2,917
    อนุโมทนาสาธุกับเจ้าของกระทู้ด้วยครับ ที่นำเรื่องราวดีๆมาเล่าสู่กันอ่าน

    เห็นกระทู้และทำให้นึกไปถึงเพื่อน ตอนที่เริ่มแก้กรรมให้เพื่อนใหม่ๆ ลองอ่านเรื่องราวดูนะครับ

    เรื่องก็มีอยู่ว่า เพื่อนของผมและกลุ่มสมัยที่ยังเรียนอยู่ในระดับมัธยม กลุ่มนึงมีประมาณ 4-5 คนในชั่วโมงมีวิชาการเรียนการสอนที่ต้องมีการนำกบมาผ่าตัดเพื่อดูอวัยวะภายใน ก็ต้องมีการผ่าท้อง เพื่อแหวะดูอวัยวะข้างในของกบ ว่ามีอะไรบ้าง ทั้งๆที่กบตัวนั้นยังมีชีวิตอยู่ คนที่ทำการผ่าตัดคือเพื่อนๆในกลุ่ม ส่วนเพื่อนผมเป็นคนดูเฉยๆแต่ก็มีส่วนร่วมในกลุ่ม เพราะว่าเป็นการเรียนแบบเป็นกลุ่ม ผลกรรมคือ เพื่อนเป็นมะเร็งที่ลำไส้ต้องมีการผ่าตัดเหมือนกับกบที่พวกเพื่อนๆเค้าผ่านั่นแหละ แล้วเพื่อนๆเค้าที่เหลือเป็นยังไงกันบ้าง ตายหมดแล้ว ทั้งๆที่อายุตอนนี้พวกเค้าก็น่าจะประมาณ 32 ปี ซึ่งแต่ละคนได้เสียชีวิตก่อนอายุ 30 ปีด้วยซ้ำ คงเหลือก็แต่เพื่อนผมคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่รอดได้ ทั้งๆที่เป็นมะเร็ง โชคดีที่ว่าเพื่อนได้เข้าธรรมมะทัน ไม่เช่นนั้นชะตากรรมก็คงเป็นเหมือนเพื่อนๆในกลุ่ม เพราะหลังจากที่เพื่อนเข้าธรรมมะได้ วิญญาณของกบเค้าก็ได้มาเข้าฝันและก็มายืนยันว่าผู้ที่ทำก็คือเค้านั่นเอง ขนาดไม่ได้ลงมือทำแค่อยู่ในส่วนร่วมก็เหมือนกับร่วมกันทำ





    อนุโมทนาบุญแด่ผู้ที่ใฝ่ในธรรมมะทุกๆท่านด้วยนะครับ
     
  5. porntips

    porntips เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    955
    ค่าพลัง:
    +2,410
    ลืมเล่าถึงกรรมที่ได้รับครับ ตั้งแต่ผมเป็นเด็กเรียนอยู่ ป 2 ถึง ม3 ผมต้องป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ปีละ 2 ถึง 3 ครั้ง น้ำมูกไม่มี จามไม่มี นอกจากปวดหัวจนแทบระเบิดทุกครั้ง ครั้งละ สอง สามวันเป็นอย่างน้อย ไข้แทบไม่มี แต่ผมไม่เข้าใจว่านั้นคือกรรม พออยู่ ม 4 ผมไปอยู่ที่อื่น ผมไม่ได้ทำกรรมเพิ่มอีก ผมมีอาการอีกแค่ครั้งเดียว แทบตายเหมือนกัน แต่ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำเกือบคอหักตายอีกครั้ง หมอต้อง เอาสว่านเจาะกระโหลกเอาเหล็กยึดไว้กับลูกตุ้มเหล็ก นอนขี้ นอนเยี่ยว นอนกินข้าว อยู่กับที่ลุกจากเตียงไม่ได้ 2 เดือนกว่า ก็ยังไม่คิดว่าเป็นกรรมนะ หลังจากนั้นมาผมไม่เคยเป็นไข้แบบปวดหัวแทบระเบิดอีกเลย มีเป็นแบบน้ำมูกไหล เจ็บคอ กินยาก็หาย มีผ่าชีสต์ที่ข้อมือ 2 ครั้ง นอกนั้นก็นิดหน่อย แต่ทุกวันนี้รู้แล้วว่าเป็นกรรมที่เราต้องได้รับจากการกระทำ ก็ได้แต่บอกเขาว่าเราสำนึกแล้ว อุทิศให้แล้วนะ ก็สบายใจ มีโอกาสก็ปล่อยพวกเขาบ้าง ครบทุกชนิดแล้วที่ปล่อย
     
  6. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    เรื่องกรรมที่ทำกับกบนี้น่ากลัวมากนะคะ
    โชคดีที่ติงไม่เคยทำ เพราะว่ากบมีลักษณะเหมือนคน
    ติงก็เลยไม่กล้า เพราะทั้งกลัวทั้งสงสาร
    เคยไปตลาดสดยโสธร เห็นกบที่เขาถลกหนังออก
    แต่ยังไม่ตาย ตัวสีแดงด้วยเลือด กระโดดไปมา น่าเวทนามากค่ะ

    เพื่อนรุ่นพี่ที่โรงเรียน เคยทำกรรมหักขากบ
    เมื่อวานเดินทางเข้ากรุงเทพฯแล้วค่ะ
    คุณหมอบอกว่าเป็นโรคกระดูกทับเส้น
    ปวดขาจนนอนไม่หลับ ทรมานมากค่ะ
    อาจต้องผ่าตัดเพื่อรักษา
     
  7. ดาวศุกร์

    ดาวศุกร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +554
    พ่อของผมบอกว่า พบกบตัวนี้ตอนหน้าแล้ง น่าจะเป็นช่วงกบจำศีล และกบตัวนี้มีขนาดใหญ่มาก ผิดกับกบที่เคยพบเจอ จึงอาจเป็นไปได้ว่ากบตัวนี้คงมีความพิเศษมากกว่ากบตัวอื่นๆ แต่ก็ไม่อยากเชื่องมงายว่าเป็นกบเจ้าที่อะไรพวกนั้น และไม่คิดว่าการกินกบที่คนอื่นฆ่าเพียงตัวเดียวจะเกิดวิบากกรรมมากมายกับชีวิตของตนเองเพียงนี้
     
  8. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ถ้าเป็นกบโพธิสัตว์ นี่ก็... ประมาณเหมือนฆ่าผู้มีศีลมีธรรมเลยหละครับ...
     
  9. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    นึกขึ้นมาได้เรื่องหนึ่งค่ะ
    ปีนี้เองที่ลูกศิษย์มาเล่าให้ฟังว่า
    มีชาวบ้าน....ที่จังหวัดยโสธร ไปจับปลาที่อ่างเก็บน้ำห้วยสะแบก
    ได้ปลามาตัวหนึ่ง เป็นปลาที่มีตัวโตมากๆ ไม่ทราบว่าเป็นปลาอะไร
    พอกลับมาถึงบ้าน ด้วยความเหนื่อย
    จึงขังปลาไว้แล้วนอนพัก
    เขาฝันว่า ปลานั้นมาร้องขอชีวิต บอกว่ามาเที่ยว อยากกลับบ้าน
    ให้ปล่อยชีวิตด้วย
    ชายคนนี้ตื่นมา ระลึกถึงความฝันได้ แต่ไม่เชื่อ
    ก็ฆ่าปลา เอาไปขายในตลาด
    ด้วยความที่ปลาตัวใหญ่ จึงทำได้หลายกอง

    พบว่า คนที่ซื้อปลาไปกิน มีเหตุให้ถึงแก่ความตายทุกคน
    แต่ติงก็แปลกใจว่า ทำไมคนฆ่า ถึงไม่เป็นอะไร
    กรรมไปตกที่คนกิน ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
     
  10. แพรแพร

    แพรแพร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    144
    ค่าพลัง:
    +638
    อ่านแล้วสะเทือนใจจังคะ เขาอุตส่าห์มาเข้าฝันมาร้องขอชีวิตขนาดนั้นแล้ว ยังฆ่าเขาลงอีก Y_Y
     
  11. rawats_99

    rawats_99 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +1,947
    ความเห็นส่วนตัวผนวกกับเรื่องราวชาดกบ้าง...ในชาดกที่เกี่ยวข้องกับพระโพธิสัตว์มีอยู่ชาติหนึ่งที่พระโพธิสัตว์เกิดเป็นปลาดุก.....คิดแบบเทียบเคียงง่ายๆว่ากบหรือสัตว์บางตัวก็อาจจะเป็นผู้บำเพ็ญเพียรอยู่ก็ได้....การไปเบียดเบียบชีวิตกันก็เป็นการก่อเวรสร้างกรรมกันอยู่แล้ว....
     
  12. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    เรื่องกรรม เป็นเรื่องซับซ้อนครับ...
    ผมเคยโดน "ปลาเกาะหลัง" ทำให้ปวดหลัง
    เพียงเพราะว่า เดินผ่านไปเจอมัน ตอนมันกำลังจะตาย มันทรมาน แล้วมันดันเห็นผมพอดีก่อนตาย เท่านั้นเอง
     
  13. nunoiyja

    nunoiyja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2010
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,733
    คุณพี่ครับ คนที่ตายนั้นอาจจะไม่ได้เป็นเพราะกรรมที่กินปลาตัวนั้นนะครับ อาจจะเป็นกรรมอันอื่นที่เข้ามาช่วงนั้นพอดี
    บางทีเราได้รับผลกรรมอยู่แต่เรายังไม่มีญาณที่จะรู้ว่าเป็นเพราะกรรมอะไรที่เราทำไว้ เราก็เดาเอาเองว่าคงเป็นเพราะกรรมตัวนี้แหละ แต่ความจริงมันอาจจะเป็นเพราะกรรมอันอื่นก็ได้นะครับ
     
  14. Moderator6

    Moderator6 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,354
    ค่าพลัง:
    +3,721
    รู้ว่าอะไรเป็นบาป ก็ควรจะละ ผลของบาป น่ากลัวยิ่งนัก สำคัญเพียรบอกคนใกล้ตัวถึงผลของกรรม เพื่อคนที่คุณรักจะไม่ประมาททำบาปทำกรรม
     
  15. Moderator6

    Moderator6 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,354
    ค่าพลัง:
    +3,721
    นั่นสิครับ ฝันอย่างนี้ยังจะทำอีกนะครับ กรรมต้องตกถึงเขาแน่นอน แต่อาจจะยังไม่ถึงเวลา ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
     
  16. NnaresS

    NnaresS Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +62
    ถ้าไม่ได้ฆ่า แต่รู้ว่ามันจะถูกฆ่า จะบาปมั้ยครับ คือน้าผมเค้าซื้อกบมาทำอาหารแต่มันยังไม่ตายนะ ถ้าผมเอามันไปปล่อยมันคงรอด แต่สงสัยตัวผมเองจะไม่รอด แหะๆ ;k01
     
  17. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    สาธุค่ะ อาจเป็นดังที่ท่านว่า
    คือเหตุการณ์ประจวบเหมาะพอดี

    เรื่องกรรมและวิบากกรรมเป็นเรื่องอจินไตยที่คนธรรมดาอย่างเราไม่อาจคิดเองได้
     
  18. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    ถ้าเป็นเรา ฝันอย่างนั้น เราคงรีบเอาไปปล่อยนะคะ
    นั่นแหละนะคะ คนเราคิดไม่เหมือนกัน

    คนโบราณ ท่านมักห้ามว่าถ้าเป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ
    แบบที่ไม่เคยพบเห็น ห้ามนำมารับประทานให้ปล่อยไปเสีย
     
  19. baimaingam

    baimaingam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    634
    ค่าพลัง:
    +880
    ขออนุโมทนาที่นำเรื่องกฏแห่งกรรมมาเล่าให้ฟังครับ
    ...หันหลังคืนฝั่ง พ้นจากทะเลทุกข์...
     
  20. tanjaioui

    tanjaioui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +191
    นั่งไล่อ่านข้อความแล้วนึกถึงเรื่องๆนึงของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ. การยินดีในการกิน สัตว์ที่เปนอาหารก้อบาปแล้ว ถึงแม้ไม่ได้ยินดีในการฆ่าก้อตาม
    "..อาตมาให้ชื่อเรื่องนี้ว่า "กรรมไก่ของฉัน" เมื่อวันที่ ๗ มกราคม ๒๕๓๒ ตอนเช้ามีอาการมึนงงมาก จึงนอนภาวนาคิดว่าร่างกายอาจจะตายก็ได้ เพราะท้องก็ปวดจัด เสมหะก็มาก ขณะที่ภาวนาไปใกล้เวลา ๔ โมงเช้า ก็ปรากฏว่าจิตตกวูบลงจากนิวรณ์ มีอารมณ์สว่างไสว เห็นร่างกายของตัวเองนอนอยู่ แต่ร่างกายนั้นตัวใหญ่มาก ร่างกายสมบูรณ์ทุกอย่าง ผิวพรรณสวยสดงดงาม ผิวขาวเหลือง แต่สองมือกุมขมับแสดงว่ามีอาการปวดศีรษะมาก นอนลุกไม่ขึ้นพร้อมกันนั้นก็มีภาพไก่ตัวเมียประเภทไก่ชนสีนํ้าเงินแก่ค่อนข้างดำ มีลายจุดขาวทั้งตัว ยืนอยู่เหนือศีรษะ

    ขณะนั้นก็มีเสียงกังวานดังมาจากข้างบน เป็นเสียงค่อนข้างใหญ่ แต่กังวานมากเพราะมาก บอกว่า "จงบวชเณรๆ"

    เมื่อฟังแล้วก็คิดในใจว่าการที่ป่วยคราวนี้เป็นมาเดือนเศษ อาการป่วยพิเศษก็คือมันหนักที่ศีรษะมากและก็ปวดขมับ พอถึงเวลาใกล้จะ ๓ โมงเย็น ก็จะปวดขมับทนแทบไม่ไหว และก็มึนศีรษะมาก ศีรษะหนักลุกขึ้นก็มึนงง ขาไม่มีแรงเดินจวนจะล้ม อาการอย่างนี้เป็นมาเดือนเศษ

    เมื่อเห็นภาพไก่อย่างนั้นก็ใช้กำลังใจควบคุม อดทนต่ออาการปวดศีรษะ ทนต่ออาการมึนงง ทนต่ออาการปวดท้อง ใช้กำลังขันติเข้าควบคุมแล้วก็รวบรวมกำลังใจด้วย สังขารุเปกขาญาณ กับใช้กำลังใจอีกส่วนหนึ่งที่เรียกว่า ปุพเพนิวาสานุสสติญาณและยถากัมมุตาญาณ คิดว่าอาการที่เกิดขึ้นอย่างนี้มันมาจากไหน ชาตินี้ทั้งชาติไก่ตัวเมียไม่เคยฆ่า แต่ที่ฆ่าจริงๆ ในชีวิตนี้มีไก่ตัวผู้ ๒ ตัวเท่านั้น และก็ไม่ใช่ลงมือฆ่าเอง คนอื่นเขาฆ่าแต่พลอยกินกับเขา ถ้าถามว่า "ยินดีกับเขาไหม" เวลานั้นเป็นเด็กในเมื่อผู้ใหญ่เขาจะฆ่ากินมันก็ต้องยินดี แต่ก็ไม่ใช่ยินดีในการฆ่า แต่ยินดีในการกิน ถ้าจะถามว่า "บาปไหม" ก็ต้องตอบว่า "บาป" ร่วมบาปกับเขาเพราะโมทนาความชั่ว การโมทนาความดีได้ไปสวรรค์ การโมทนาความบาปมันก็ไปนรกเหมือนกัน

    สำหรับไก่ตัวเมียไม่มีในชาตินี้ ก็ทบทวนกำลังใจหาเหตุหาผล การรู้เองนี่ไม่ค่อยจะแม่นยำนัก บางทีก็พลาด ถึงแม้ว่าการสอบถามก็เหมือนกัน ถ้ากำลังใจของเรามีอุปาทานควบคุมอยู่ก็พลาดเหมือนกัน ต้องทำกำลังใจให้เป็นปกติ

    เมื่อกำลังใจเป็นปกติก็ถาม ถามว่า "ไก่ตัวนี้ฆ่าตายมาตั้งแต่เมื่อไร" เสียงกังวานนั้นก็ตอบลงมาว่า "ไก่ตัวนี้เจ้าฆ่าตายเมื่อสมัย ๓ ชาติที่ผ่านมา" คือชาตินี้ไม่นับ ถอยกลับไป ๑, ๒ และ ๓ ถามว่า "ในสมัยนั้นเกิดที่ไหน" เสียงก็ตอบมาว่า "เกิดที่จังหวัดอยุธยา" ถามว่า "เหตุที่ฆ่าเป็นเพราะอะไรจึงฆ่า อยากกินหรือว่าฆ่าด้วยความโกรธ" เสียงนั้นก็ตอบมาพร้อมกับทำภาพปรากฏชัดว่า เวลานั้นเป็นเด็กอายุประมาณ ๑๐ ปี เป็นเด็กวัดอยู่ที่หันตรา จังหวัดอยุธยา ขณะเดินไปเห็นสุนัขของชาวบ้านมันเข้ามาในวัดเป็นสุนัขดุ เวลานั้นไก่ฝูงหนึ่งกำลังกินอาหารอยู่ พอเดินผ่านเข้าไปสุนัขดุมันก็ไล่กวดจะกัด ขณะนั้นมีไม้ท่อนสั้นๆ อยู่ที่มือ ก็ขว้างเจ้าสุนัข แต่เจ้าสุนัขมันหลบ เผอิญไปโดนไก่ตัวนี้ตายพอดี เป็นไก่ชนตัวเมียสีนํ้าเงินแก่และก็มีจุดสีขาวตามตัวสวยมาก เห็นเข้าแล้วก็รู้สึกเสียใจว่า ไก่ที่เรารักไม่น่าจะมาตายเพราะเจ้าสุนัขดุตัวนี้ ก็เข้าไปประคับประคองนำไปหาพระท่าน พระก็พยายามทำการปฐมพยาบาลทุกอย่างแต่ไก่ก็ไม่ฟื้น

    ในที่สุดเมื่อไก่ตายแล้ว คนอื่นเขาจะนำไก่ไปกินก็ไม่ยอมเพราะฉันรักไก่มาก จึงขอนำไก่ไปฝัง เวลานั้นมีสตางค์เหลืออยู่ ๑ ไพ พ่อให้ไปเพื่ออยู่ที่วัด ก็นิมนต์พระท่านบังสุกุล เมื่อพระบังสุกุลเสร็จก็ลงมือทำการฝัง ไก่ตัวนี้เราก็รักและพระในวัดท่านก็มีความรักในสัตว์ ท่านจัดอาหารมาก็ให้อาตมาเป็นคนเลี้ยง เมื่อเลี้ยงแล้วปรากฏว่าอาตมาก็รักมัน จึงถามว่า "เวลานี้ไก่ตัวนี้ตายแล้วไปอยู่ไหน ไปเกิดเป็นไก่หรือว่าเกิดเป็นคน หรือเกิดเป็นสัตว์ เกิดเป็นเทวดา เกิดเป็นนางฟ้า" เสียงท่านตอบมาว่า "เจ้าจงไปดาวดึงส์ ไปที่ปัญจสิกขเทพบุตร เจ้าจะพบไก่ตัวที่เจ้าขว้างตายและเป็นไก่ที่เจ้ารัก" จึงตามเสียงนั้นขึ้นไปที่ดาวดึงส์ ไปหาท่านปัญจสิกขเทพบุตร

    เมื่อไปถึงแล้วก็ปรากฏว่าท่านคอยต้อนรับอยู่ ก็ถามท่านว่า "ไก่ที่ฉันขว้างถึงแก่ความตายเวลานี้อยู่ที่ไหน" ท่านตอบว่า "ถามผิดให้ถามใหม่ คือว่าไก่ที่เธอขว้างถึงแก่ความตายนั้นไม่มี (ตั้งใจขว้างไก่) มีแต่ไก่ตัวที่เธอตั้งใจขว้างสุนัขแต่เผอิญไปถูกไก่นี้มีอยู่" ก็เลยบอกท่านว่า "ตามนั้นแหละ" ท่านก็ชี้ให้ไปดู นางฟ้าที่นั่งใกล้ๆ เป็นคนโปร่งบาง ผิวขาว แต่งตัวสวยมาก เธอยิ้มแย้มแจ่มใส พอหันหน้าไปหาเธอ เธอก็ยกมือไหว้และถามว่า "จำดิฉันได้ไหมเจ้าคะ" ก็เลยบอกว่า "ถ้าเป็นไก่อาจจะจำได้" ภาพไก่ก็ปรากฏข้างเธอ เธอก็บอกว่า "ฉันคือไก่ตัวนี้เจ้าค่ะ"

    ถามเธอว่า "เธอตายจากไก่ที่ถูกขว้างขณะกำลังกินอาหารอยู่ แล้วเธอมาเกิดเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์นี้ได้อย่างไร"

    เธอก็ตอบว่า "เวลานั้นเธอมีจิตรักพระมาก พระทุกองค์ในวัดมีจิตเมตตาปรานีในสัตว์ เวลาพระมาเลี้ยงอาหารก็ไม่ต้องเรียก ไม่ต้องต้อน ไก่ทุกตัวเห็นพระก็วิ่งเข้ามาหา และท่านเองก็เป็นคนลงมือเลี้ยง ฉันก็มีความรักในท่าน อาศัยที่มีความรักในพระและมีความรักในท่านที่มีจิตเมตตา ขณะที่ถูกขว้างก็ยังไม่ตายทีเดียว แต่ก็ไม่ใช่สลบเพราะความรู้สึกตัวยังมีอยู่ ขณะที่ท่านเข้าไปอุ้มก็ยังมีความรู้สึก เวลาที่พระทำปฐมพยาบาลเอามือลูบตัวไปลูบตัวมา ก็มีความรู้สึกคลายจากความเจ็บปวด เมื่อความเจ็บปวดหายไป ประเดี๋ยวหนึ่งจิตใจก็ชุ่มชื่น เวลานั้นจิตก็ออกจากร่างทันที แต่ก่อนที่จิตจะออกจากร่างก็เห็นนางฟ้าลอยอยู่ในอากาศมากมาย จิตใจก็รักนางฟ้า เมื่อจิตออกจากร่างกายก็กลายเป็นนางฟ้า และติดตามนางฟ้าพวกนั้นไป"

    จึงได้ถามว่า "ในเมื่อเธอเป็นนางฟ้าแล้วยังจองเวรจองกรรมฉันอยู่อีกหรือ"

    เธอก็ตอบว่า "การจองเวรจองกรรมไม่มีในฉัน คือไม่มีเวรไม่มีกรรมที่จะจอง อาการที่ท่านป่วยไข้ไม่สบายเป็นกฎของกรรม ไม่ใช่ตัวถูกกระทำ ผู้ถูกกระทำมีความสุขและมีความรู้สึกขอบคุณในพระในท่านที่ช่วยเหลือ ทำไมฉันจะต้องจองเวรจองกรรม แต่นั่นเป็นกฎของกรรมที่ฉันไม่ได้เกี่ยวข้อง"

    ทุกคนจงจำไว้ด้วยว่าการกระทำ เราฆ่าปลาก็ดี ฆ่าเป็ด ฆ่าไก่ ฆ่าวัว ฆ่าควายก็ตาม จงอย่านึกว่าเขาเป็นผู้จองเวรจองกรรม แต่ทว่าสิ่งที่กระทำกับเราก็คือ กฎของกรรม คือความชั่วที่เราฆ่าเขามันมาสนองตัวเรา ก็รวมความว่าเธอไม่ได้จองเวรจองกรรม ถามเธอว่า "อโหสิกรรมไหม" เธอตอบว่า "ไม่มีกรรมอันใดที่จะต้องอโหสิ เพราะฉันไม่ถืออยู่แล้วว่าฆ่าฉัน ฉันไม่ได้โกรธ เป็นแต่เพียงว่าขอให้ท่านปฏิบัติแก้กฎของกรรมให้พ้นไปก็แล้วกัน ฉันตามช่วย"    ถามเธอว่า "เสียงบอกให้บวชเณร เธอจะว่าอย่างไร"

    เธอตอบว่า "ต้องบวชเณรเป็นการแก้กฎของกรรม"

    ก็ตกลงจะบวชเณรให้ในวันอาทิตย์ที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๓๒.."
     

แชร์หน้านี้

Loading...