พญาครุฑ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย piyaa, 12 สิงหาคม 2012.

  1. piyaa

    piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,072
    [FONT=&quot] พญาครุฑ[FONT=&quot] ที่คนเรารู้จักกันส่วนมาก ก็เป็นการรู้จักมาจากภาพวาดหรือไม่ก็เป็นรูปที่ปั้นขึ้น คนไทยมีความรู้สึกใกล้ชิดคุ้นเคยก็คือ พญาครุฑ เป็นตราสัญญาลักษณ์ ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของปวงชนชาวไทย พญาครุฑที่เล่าขานสืบต่อกันมาว่า มีที่อยู่ในป่าหิมพานต์ มนุษย์ธรรมดาอย่างเราๆไม่สามารถรู้ได้ว่า ป่าหิมพานต์นั้นอยู่แห่งหนใด ใกล้หรือไกลแค่ไหน หรือเป็นเพียงนิทาน พญาครุฑจึงไม่มีผู้ใดเคยเห็น หรือยืนยันได้ว่าเคยพบเห็นมาแล้ว ไม่เหมือนกับพญานาคที่มีทั้งพระอริยบุคคลผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ หาทางหลุดพ้นจากภพชาติตามป่าตามเขา ได้พบเห็นพญานาคมาแล้ว มีเรื่องเล่าให้ได้ยินได้ฟังมา ยกตัวอย่างเช่น หลวงปู่มั่น หลวงปู่ชอบ และยังมีอีกหลายๆ องค์ ก็เคยพบเคยเห็นพญานาคมาแล้ว ทั้งพญาครุฑและพญานาคมีที่อาศัยในอีกมิติหนึ่งว่ามีตัวตนจริง และผู้คนที่เชื่อก็อยากพบเห็น [/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]สำหรับผู้เขียนก็เหมือนคนอื่นๆ แต่อาจจะโชคดีสักหน่อย เมื่อสงสัยหรือข้องใจในสิ่งใด ส่วนมากมักจะได้ความกระจ่างชัดจากสิ่งที่กังขานั้น เพราะจะมีเหตุการณ์หรือบุคคล หรือผู้อยู่ในอีกมิติหนึ่งเป็นพยานยืนยันในเหตุการณ์ต่างๆ ให้รู้ว่าสิ่งที่ติดข้องกังขานั้นมันจริงหรือไม่จริงตลอดมา สำหรับพญาครุฑก็เหมือนกัน เมื่อได้เห็นก็มีคนอื่นเคยเห็นแบบจะๆตา และยืนยันรูปลักษณ์ของพญาครุฑกับผู้เขียนให้หายข้องใจมาแล้ว โดยที่เขาไม่รู้ว่าผู้เขียนคอยจับผิดในสิ่งที่เขาเล่าและตอบคำถามของผู้เขียน เมื่อเราได้คุยกันจบเรื่องแล้วผู้เขียนสรุปได้ว่า คนที่เห็นนั้นคงไม่ได้โกหก เพราะการเห็นนั้นตรงกันกับที่ผู้เขียนเห็นทุกอย่างไม่มีผิด ผู้เขียนก็จะเขียนถ่ายทอดเล่าสู่กันฟัง เรื่องราวที่ประสบมานั้นช่างแปลกประหลาดอย่างเหลือเชื่อว่าเป็นความจริง แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่เล่ามามันก็มีความจริงในตัวเอง ขอให้ท่านผู้อ่านวินิจฉัยด้วยตนเองก็แล้วกัน เชื่อหรือไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร เพราะได้ยินได้ฟังและเห็นมาอย่างไรก็เขียนเล่าให้อ่านให้ฟังแบบนั้น[/FONT]
    [FONT=&quot]เดิมทีผู้เขียนไม่อยากจะเขียนเรื่องของพญาครุฑและพญานาค ซึ่งเป็นตัวเอกของนวนิยาย เรื่องตำนานรักข้ามภพ เป็นนวนิยายที่ผู้ไม่ปรากฏกายได้สื่อทางจิต ให้ผู้เขียนเป็นผู้ถ่ายทอดเขียนเป็นนวนิยายออกมาขาย โดยมีบริษัท ซีเอ็ดบุ๊ค จัดจำหน่ายเป็นรายใหญ่ ตามศูนย์หนังสือในห้างสรรพสินค้าทั้งในกรุงและต่างจังหวัด ผู้เขียนไม่ได้เล่าถึงพญาครุฑพญานาคและความเป็นมาของต้นสายปลายเหตุว่ามีความเป็นมาอย่างไร

    จาก มิติซ้อนมิติ เรื่องจริงเล่าสู่กันฟังเล่ม1
    วารุณี สวัสดิภักดิ์
    ยังมีต่อครับ
    [/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 สิงหาคม 2012
  2. Prophecy

    Prophecy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,221
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,605
    รอฟัง รอฟัง :)
     
  3. piyaa

    piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,072
    อัพไม่ขึ้น งงมากเดี๋ยวพรุ่งนี้มาเล่าใหม่ครับ
     
  4. piyaa

    piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,072
    [FONT=&quot]นอกจากบอกว่า เป็นเค้าโครงเรื่องของผู้ไม่ปรากฏกาย เพราะไม่ต้องการให้ท่านผู้อ่านติดข้องกังขาว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง แต่ต้องการให้ท่านผู้อ่านสนุกสนาน บันเทิงใจ และคติเรื่องบาปบุญแค่นั้นเอง แต่ก็ผิดคาด หลังจากนวนิยายเรื่องตำนานรักข้ามภพออกวางจำหน่าย ท่านผู้อ่านได้ให้การสนับสนุนบอกกันต่อๆไป ทำให้ยอดขายหมดลงในเวลาอันรวดเร็ว มีท่านผู้อ่านโทรศัพท์กลับมาและมีบางท่านได้มาพบผู้เขียนด้วยตนเอง แต่ละท่านอยากรู้ความเป็นมาเรื่องของพญาครุฑและพญานาคว่า ผู้เขียนเห็นอย่างไร รูปลักษณ์เป็นอย่างไร ผู้เขียนขอบอกว่า เป็นเรื่องที่ยากลำบากมากที่จะพูดถึงพญาครุฑและพญานาค เพราะไม่ค่อยมีใครเคยเห็น
    [/FONT]มีคนเคยเห็นพญาครุฑแบบจะจะกับตาตน เองอย่างคาดไม่ถึงได้เล่าให้ผู้เขียนฟัง แต่ตอนนี้ได้ไปเรียนต่อต่างประเทศที่ประเทศออสเตรเลียแล้ว ก่อนไปเรียนต่อต่างประเทศผู้เขียนได้ขอให้เขียนเรื่องพญาครุฑที่ได้พบมากับ ตนเองให้ด้วย เนื่องจากความวุ่นวายและเตรียมตัวจะไปเรียนต่อต่างประเทศ ทำให้เขาไม่มีเวลาเขียนเรื่องเล่าสู่กันฟัง เมื่อขาดพยานผู้เขียนจึงเป็นผู้เดียวที่เคยสัมผัสเห็น การเขียนเรื่องนี้จะมองว่าเป็นการมอมเมาผู้อ่าน แต่ทางท่านผู้อ่านได้บอกว่า ก็เขาเพียงแค่อยากรู้และไม่ได้คิดอะไรมากมาย ก็เพียงแค่ประสบการณ์ของคนๆ หนึ่งซึ่งก็บอกอยู่แล้วว่า เล่าสู่กันฟัง ทำให้ผู้เขียนตัดสินใจเขียนเรื่องพญาครุฑและพญานาค เป็นการเล่าสู่กันฟังอีกเรื่องหนึ่ง เริ่มด้วยพญาครุฑ
    [FONT=&quot]ความเชื่อ ว่าพญาครุฑเกิดจากจินตนาการของคนเรานี่เองไม่ใช่เรื่องจริง รู้มาจากภาพวาด จากรูปปั้น ผู้เขียนก็เคยคิดแบบเดียวกันกับคนอื่นๆเหมือนกัน เคยเห็นในธนบัตรและตามหน้าธนาคารต่างๆ พญาครุฑยังเป็นตราสัญลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ประชาชนคนไทย ให้ความเคารพเทิดทูนเหนือเกล้า ดังนั้นจึงมีความคุ้นเคยกับพญาครุฑก็เพราะสาเหตุนี้ และจากความเชื่อของคนอีกกลุ่มหนึ่งที่เชื่อเรื่องของมิติ ที่ถูกปลูกฝังมาว่าพญาครุฑเป็นมนุษย์ครึ่งคนครึ่งสัตว์อยู่ในแดนป่าหิมพานต์ มนุษย์ธรรมดาอย่างพวกเราไม่สามารถรู้ได้ว่า ป่าหิมพานต์ที่เล่ามาอยู่แห่งหนใด ใกล้หรือไกลหรือเป็นเพียงแค่นิทาน พญาครุฑไม่ค่อยมีคนพูดถึงว่าเคยพบเห็น ต่างกับพญานาคที่มีคนเคยพบเห็นพูดถึงบ่อยๆ[/FONT]
    [FONT=&quot]ทั้ง พญาครุฑกับพญานาคมีการเล่าขานมาว่า ทั้งสองไม่ถูกกันเป็นศัตรูกันมานาน พบกันเมื่อใดเป็นต้องต่อสู้กัน ทำให้สงสัยว่าพญาครุฑไม่ค่อยปรากฏให้คนเห็น [FONT=&quot](ผู้เขียนคิดแบบตลกๆว่า สงสัยพญาครุฑคงขี้เหร่และขี้อายมั้ง จึงไม่กล้าให้ผู้ใดพบเห็น)
    ยังมีต่อครับ
    อัพไม่ขึ้นต่อพรุ่งนี้นะครับ
    [/FONT]
    [/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 สิงหาคม 2012
  5. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    :cool:({) เมื่ออ่านแล้วมันก็เป็นธรรมดาของคนในโลกนี้ มีทั้งเชื่อและไม่เชื่อ เพราะ พยาครุฑเป็นกรึ่งเทพครึ่ง สัตว์ เหมือนกับพยานาค คล้ายคลึงกัน จะว่าเป็นเทวดา ก็ไม่ใช่ จะเป็นสัตว์ก็ยังไม่เชิง หลวงปู่ โทน หลำแพ ท่านเล่าว่า ไม่แน่ใจว่า พ.ศ. อะไรท่านเล่าให้ฟัง ท่านมรณะไปหลายปีแล้ว แต่พวกชาวหนังสือโลกทิพย์รู้จักท่านดี บ้านท่านอยู่ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ผมเคยไปหาท่านหลายครั้ง ตอนท่านอายุ ๑๐๖ ปี มองดูแค่คนอายุ ๖๐ปีเท่า

    นั้น ท่านเล่าว่า หลวงปู้โลกอุดร พาท่านไป ป่าหิมพานมาแล้ว หลายครั้ง เพราะว่าท่านเป็นลูกศิษย์ เห็นสัตว์ในป่าหิมพาน หลายรูปแบบ พยาครุฑ คนธรรต์ เพชรพยาธร ต้นไม้ออกลูก เป็นคน สาวสวย อยู่เจ็ดวัน ก็ตาย ส่วนใหญ่พวกเพชรพยาธรจะมาเสพ กินร กินรี เหมือนนวะนิยายเลย ท่านบอกอีก หลวงคำน้อย ที่อยู่มุกดาหารก็เคยพาไป ท่านมีของดีๆมากมายหลายอย่างเอามา ให้พวกเราดู และบอก วิธิผสมธาตุวิธีทำทองคำ ไป ว่ากันต่อครับ มาที่ อ.ศรีสวัส จ.กาญจนบุรี มีพระองค์หนึ่ง ท่านชื่อหลวงพ่อทวน ส่วนท่านจะอยู่ที่ วัดตีนตก ต.เขาโจน อ.ศรีสวัสครับ ท่านเดินธุดงค์ มาหลายสิบปี ชาวพระธุดงค์จะเรียกท่านว่า ปรมาจารย์ตักม้อ ถ้าพระหรือเณร เดินธุ ดงค์ในห้วยขาแข้งไม่ได้ยินกิตติศัพของท่านถือว่า ไม่เคยมาเดินธุดงค์ในห้วยขาแข้ง
    ท่านบอกกับผมว่า เทวดา ชั้นปรนิมมานรดี ให้เดินธุดงค์ ระหว่างไทยกับพม่า ในห้วยขาแข้ง เพื่อ
    คอยช่วยเหลือ พระเณร เถร ชี ที่ออกธุดงค์ แล้วหลงป่า คอยตามช่วยเหลือออกจากป่า ท่านเล่าให้

    ฟังมากมาย และมีอีกหนึ่ง ท่านปู่พระอินทร์ด้วย ท่านจะเอ่ยบ่อย มีครั้งหนึ่ง ท่านเล่าว่า เทวดา ท่านเปิดมหาสมบัติให้ดูในป่าเมืองกาญ ท่านบอกทองคำเต็มไปหมด เนื้อที่ ๔-๕ ไร่ เห็นจะได้ ตัวท่านเอง ก็เดินขึ้นไปเหยียบ บนทองคำ แกล้ง เทวดาเล่น ท่านบอก เอาทองคำไปเต็ม บารต ธุดงค์ นี่เป็นไง เทวดา บอก ต้องถามไม้ตะบองผมก่อนครับ แหมแค่เล่นๆ บอกต้องถามตะบองก่อน ฮาๆๆฮ่าๆๆฮ้าๆๆๆๆ หอมปากหอมคอน้อ มาว่าต่ออีกเรื่องหนึ่ง ท่านบอกว่า ป่าหิมพานมันเขตุติดต่อ ป่าเมืองกาญ แต่อยู่ในอีกมิติหนึ่งครับ ท่านเล่าว่า อยู่มาวัน หนึ่ง พยาครุฑ ได้มาหาท่าน มากายเนื้อ อยู่ห่างกันแค่วาเศษๆ คุยกันอยู่นานพอดู เวลาคุยไม่ได้ ใช้ปากคุยกัน แต่ใช้จิต คุยกัน ด้วยภาษาจิต แต่เวลากลับ หันมาแล้วหันกลับ แวบเดียว ไปไหนแล้ว ขอเอ่ยถึงท่านพระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน ท่านเคยกล่าวไว้ว่า พยาครุฑ กระพือปีกครั้งหนึ่ง ไปไกล ๑๖ โยชน์ ถ้าจำไม่ผิด ๆขออภัย ครับ

    มาว่าต่ออีกหน่อยครับ ตอนผมบวชผ้าขาว สมัยนั้นผมบำเพ็ญสมธรรม อยู่ในถ้ำ ปี ๒๕๓๕ ก่อนเข้าพรรษา ณ.หมู่บ้านตะเพินคี่ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณ ติดห้วยขาแข้ง ตอนนั้นเราอยู่คนเดียว เมื่อไปบินถบารต ในหมู่บ้าน กระเหรี่ยง เมื่อฉันข้าวเสร็จ เราไปนั่งหน้าพระ สวดมนต์ไหว้พระเสร็จ เราได้ไปนั่ง หน้าพระ หันหน้า ไปทิศเหนือ หันหลังให้พระพุทธ หลับตาทำสมาธิ พอนั่งได้สักพักหนึ่ง จิตสงบพอควร ได้มีพยาครุฑ ตนหนึ่ง มานั่งยองๆ รูปแบบในหนังสือเลยหน้าตาดีมาก เราตกใจ นิดหนึ่ง สมาธิตก รวบรวมกำลังใจ เขากล่าว ข้าพเจ้า ขอคารวะท่าน คุยกันกันอยู่พักหนึ่ง เขาลากลับ เวลาไปเขาบินไปทางภูเขาเทวดา เวลาคุยด้วยจิต ครับ ผมทำสมาธิ ไปอีกพัก และลงไปทำกิจวัตรประจำวันต่อครับ จบลงตรงแค่นี้ครับผม :cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2012
  6. piyaa

    piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,072
    [FONT=&quot]แล้ววันหนึ่ง โลกเร้นลับมิติของพญาครุฑเปิดออกให้ผู้เขียนที่เป็นคนขี้สงสัยได้หมดข้อกังขาที่ว่า พญาครุฑนั้นมีจริงหรือไม่จริง เรื่องเล่าต่อไปนี้ต่อเนื่องจากตอนที่ท่านผู้เฒ่าทั้งสามผู้มาจากสระอโนดาตภูกระดึง ได้คาดโทษผู้เขียนและบอกว่าจะไม่มาให้ผู้เขียนเห็นอีก ขอให้ท่านผู้อ่าน อ่านเรื่องพญานาคตอนต่อจากเรื่องนี้แล้วจะเข้าใจต่อเนื่องได้ดี บทความตรงนี้ขอให้ท่านผ่านไปก่อน หลังจากท่านผู้เฒ่าบอกว่าจะไม่มาให้เห็นอีกต่อไป ความเป็นอยู่ของผู้เขียนจะไม่ได้รับการช่วยเหลือ ทรัพย์สินเงินทองที่มีอยู่จะค่อยๆหมดไปจนกว่าท่านผู้เฒ่าจะยกโทษให้ [/FONT]
    [FONT=&quot]วันหนึ่งถึงเวลาที่จะรู้ความจริง ในขณะที่ผู้เขียนนั่งสมาธิอยู่และมีความรู้สึกตัวตลอด จิตของผู้เขียนมองเห็นสถานที่แห่งหนึ่งมีแสงสว่างสลัวๆ ได้มองเห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ ผู้ชายคนนั้นมีรูปร่างแปลกประหลาด ผู้เขียนไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใด เขาไม่ได้พูดกับผู้เขียนแม้แต่คำเดียว ยืนนิ่งเฉยปล่อยให้ผู้เขียนมองเพ่งพิจารณา ตั้งแต่ใบหน้า ผมหยิกหยองปกต้นคอดำสนิท หน้าผากมนนูนกว้างพอประมาณ หนังตานูน ขนตายาว นัยตาสีอำพัน โหนกแก้มนูนขึ้น สันกรามกว้างเรียวแหลมมาที่ปลายคาง ช่วงจมูกเป็นแบบปากนกคล้ายปากนกแก้วแต่งุ้มน้อยกว่า จะงอยปากสีเหลืองสด ลำคอใหญ่ไหล่กว้าง อกใหญ่ แขนใหญ่ เอวเล็ก มีกล้ามท้องเป็นชั้นๆ เหมือนนักกล้ามร่างกำยำแข็งแรง ต่อจากเอวลงไปตั้งแต่สะโพกจะมีรูปลักษณ์แบบไก่ชน จนกระทั่งถึงขาที่เหมือนขานกทั่วไป ขามีสีเหลืองสด อุ้งเท้าใหญ่โตมาก ร่างครึ่งคนครึ่งนกยืนปรากฏให้ดูเฉยไม่พูดอะไร จากนั้นก็ค่อยๆ หันหลังกลับ ทำให้มองเห็นปีกอันใหญ่โตที่ติดอยู่ตรงสะบักหลังทั้งสองข้าง ปีกหุบเข้าหากันยาวถึงข้อเข่าที่เป็นขานก พู่หางก็ไม่ต่างจากนกและไม่ได้นุ่งผ้ามีเพียงขนปกคลุมไว้เท่านั้น เครื่องประดับประเภทสังวาลย์ก็ไม่มีแม้แต่ชิ้นเดียว ไม่เหมือนที่เราเห็นในรูปภาพวาด ผิวออกสีน้ำตาลอมทองเป็นมันวาว คล้ายกับนักกล้ามที่ทาน้ำมันทำให้มองดูแปลกๆ ร่างครึ่งคนครึ่งนกนั้นรู้ว่าผู้เขียนเพ่งพิจารณาเขาเรียบร้อยแล้ว จึงเอาแขนแนบกับลำตัวแล้วพุ่งทะยานจากพื้นขึ้นสู่ฟ้า พอได้ระดับความสูงแล้วจึงขยับปีกบิน ก่อนที่จะบินจากไปผู้เขียนได้ถามเขาว่า [/FONT]
    “[FONT=&quot]ท่านจะไปไหน[/FONT]
    [FONT=&quot]สื่อสัมผัสตอบกลับมาว่า[/FONT]
    “[FONT=&quot]กลับรัง

    ยังมีต่อครับ
    [/FONT]
     
  7. piyaa

    piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,072
    [FONT=&quot]พอได้ยินคำตอบเช่นนั้นรู้สึกตกใจคิดว่าคงไม่ใช่พญาครุฑจริง อาจจะเป็นปริศนาเกี่ยวกับเหตุที่จะเกิดขึ้น เพราะครุฑก็คือเงิน ในธนบัตรที่ใช้กันอยู่นั้นจะมีรูปครุฑติดอยู่เป็นสัญลักษณ์ ถ้าจะแปลความหมายว่า คงจะมีเหตุให้ต้องสูญเสียเงินไป ซึ่งตรงกับที่ท่านผู้เฒ่าได้คาดโทษเอาไว้ ทำให้ไม่สบายใจจิตจึงถอนออกแล้วนั่งพิจารณาสาเหตุ ขออย่าให้เรื่องไม่ดีเกิดขึ้นเลย สำหรับพญาครุฑที่เห็นในครั้งนั้น ผู้เขียนจำได้ติดตาจนถึงทุกวันนี้ และจำท่าโจนทะยานได้ไม่เคยลืม เป็นท่าที่สวยงามมากสมกับเป็นเจ้าใหญ่แห่งนกจริงๆ รูปร่างสง่างามครึ่งคนครึ่งนกที่เรียกขานกันว่า [FONT=&quot]พญาครุฑ [/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]หลังจากผู้เขียนได้เห็นครั้งนั้นและมีผู้ไม่ปรากฏกายมาสอนให้เขียนหนังสือ พญาครุฑก็ได้มาปรากฏให้เห็นอีกครั้ง เพราะนึกภาพพจน์ของท่านเพื่อที่จะเขียนหนังสือไม่ออก ครั้งหลังนี้ผู้เขียนบอกว่าผู้คนเขาอาศัยภาพของท่านทรงเครื่องประดับ ถ้าหากภาพท่านตามความเป็นจริงที่มองเห็น เขาคงจะขัดแย้งตามความรู้สึกที่ได้เคยเห็นภาพของท่านจากรูปปั้นหรือภาพวาด ขอให้ท่านแต่งเครื่องทรงยืนให้ผู้เขียนดู เพื่อบรรยายภาพในการเขียนนวนิยาย เรื่องตำนานรักข้ามภพด้วย แล้วภาพพญาครุฑก็เปลี่ยนเป็นภาพดังที่บรรยายไว้ในหนังสือ ถ้าอยากรู้ว่าเป็นอย่างไรก็ต้องหาอ่านกันเอาเองก็แล้วกัน [/FONT]
    [FONT=&quot]จบเรื่องที่ได้สัมผัสเห็นพญาครุฑแล้ว ผู้เขียนก็ยังค้างคาใจอยู่ เพราะไม่มีอะไรเป็นเครื่องพิสูจน์ ต่อมาเพื่อนของลูกชายคนหนึ่งเป็นลูกชายของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ถ้าเอ่ยชื่อท่านผู้อ่านอาจรู้จัก เพราะเคยเห็นทางหน้าหนังสือพิมพ์หรือทีวี ผู้เขียนเห็นเด็กคนนี้มาหลายปีแล้ว เขากับลูกชายเป็นเพื่อนรักกันสมัยเรียนหนังสือมัธยมมาด้วยกัน [/FONT]
    [FONT=&quot]วันหนึ่งเพื่อนลูกชายคนนี้ได้มาคุยกับผู้เขียน และมาถามเรื่องพญาครุฑที่เขาเคยเห็นว่า พญาครุฑมาได้อย่างไรและมาจากไหน เขาได้เล่าให้ผู้เขียนฟังว่า บ้านเขาอยู่แถวพงษ์เพชรหมู่บ้านชินเขต เย็นวันหนึ่งเขาขับรถกลับเข้าบ้าน วันนั้นไม่มีใครอยู่บ้านจึงจอดรถแล้วเอากุญแจลงไปไขประตูบ้านเอง ขณะนั้นเองได้มีลมพัดมาวูบใหญ่พัดปะทะเข้ากับใบหน้า แต่เขาก็ไม่สนใจยังคงไขประตูต่อไป เมื่อไขประตูออกแล้วได้มีลมพัดมาอีกวูบใหญ่ปะทะเข้ากับใบหน้าแรงกว่าครั้งแรก เขาจึงหันไปมองที่รั้วบ้าน ทันทีที่เขามองเห็นก็ต้องตกใจ เพราะที่กำแพงรั้วบ้าน เขาเห็นนกประหลาดตัวใหญ่โตมากยืนเกาะกำแพงรั้วบ้านโดยใช้อุ้งเท้าอันใหญ่จับขอบกำแพงรั้ว และกำลังเอียงคอมองมาทางเขา

    ยังมีต่อ
    [/FONT]
     
  8. piyaa

    piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,072
    [FONT=&quot]ด้วยความตกใจเขาจึงรีบเปิดประตูแล้ววิ่งเข้าบ้านไป พอตั้งสติได้แล้วจึงค่อยๆ ย่องออกมาดูที่กำแพง แต่ก็ไม่พบนกประหลาดครึ่งคนครึ่งนกไม่รู้ว่าหายไปไหน[/FONT]
    [FONT=&quot]ผู้เขียนอยากจับผิดจึงถามเขาว่า [/FONT]
    “[FONT=&quot]พญาครุฑตัวโตขนาดไหน[/FONT]
    [FONT=&quot] “สูงประมาณร้อยแปดสิบเซ็นติเมตรได้[/FONT]
    “[FONT=&quot]รูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร[/FONT]
    “[FONT=&quot]หน้าเหมือนคน ปากเหมือนนกมีสีเหลือง ไหล่กว้างอกล่ำแบบนักกล้าม ท่อนล่างจากเอวลงมาเหมือนไก่ อุ้งเท้าใหญ่คีบเกาะอยู่บนกำแพง[/FONT]
    [FONT=&quot]เพื่อให้แน่ใจว่าที่เขาบอกมานั้นตรงกับที่ผู้เขียนเคยเห็นหรือเปล่า จึงได้ถามเพื่อพิสูจน์เป็นคำถามสุดท้ายว่า [/FONT]
    “[FONT=&quot]พญาครุฑมีเครื่องทรงเครื่องประดับแบบไหน[/FONT]
    [FONT=&quot]เด็กหนุ่มตอบว่า[/FONT]
    “[FONT=&quot]พญาครุฑไม่ได้นุ่งผ้าและไม่มีเครื่องประดับอะไร[/FONT]
    [FONT=&quot]ขอให้ท่านผู้อ่านลองพิจารณาดู พญาครุฑในความเคยชินของพวกเรานั้น จะต้องมีเครื่องทรงเครื่องประดับ มีสร้อยสังวาลย์ตามที่เคยเห็นในภาพวาดหรือรูปปั้น แต่ที่ผู้เขียนกับเด็กหนุ่มเห็นมาตรงกัน ซึ่งแตกต่างจากภาพวาดโดยสิ้นเชิง ในความรู้สึกส่วนตัวและความเคยชินก็เหมือนท่านผู้อ่าน ที่จะชินกับภาพลักษณ์ของพญาครุฑที่เห็นตามหน้าธนาคาร ตามวัดและตามสถานที่ต่างๆ จะแต่งตัวทรงเครื่องประดับมีสังวาลย์ห้อยคอ ถ้าหากไม่มีภาพซ้อนขึ้นมาให้เห็นคงนึกไม่ถึง ว่าภาพของพญาครุฑจะไม่ได้นุ่งผ้าไม่มีเครื่องประดับ ผู้เขียนจึงไม่ลังเลที่จะเชื่อว่าเด็กหนุ่มคนนี้ได้เห็นพญาครุฑจริง เด็กหนุ่มคนนี้เป็นคนใกล้ตัวที่จะเป็นพยานให้ผู้เขียน เชื่อในสิ่งที่เห็นมาทางจิตสัมผัสว่าสิ่งนั้นเป็นความจริง[/FONT]
    [FONT=&quot]เด็กหนุ่มคนนี้ได้ถามผู้เขียนว่า[/FONT]
    “[FONT=&quot]ทำไม[FONT=&quot]..? พญาครุฑถึงได้มาปรากฏในกรุงเทพฯ มาให้เห็นได้อย่างไร? แล้วทำไม? คนกรุงเทพฯ อื่นๆ ไม่เห็น[/FONT]”[/FONT]
    [FONT=&quot]คำถามอันนี้ก็หาคำตอบทันทีทันใดไม่ได้ เพราะผู้เขียนเองก็สงสัยเหมือนกันว่าเป็นไปได้อย่างไร[FONT=&quot]? ก็ต้องพึ่งปัญญาสมาธิกำหนดจิตถาม ไม่นานความรู้ก็ผุดขึ้นมาเป็นคำตอบที่จิตว่า [/FONT][/FONT]
     
  9. แม่หนูน้อย

    แม่หนูน้อย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +96
    อนุโมทนา สาธุค่ะ มารออ่านด้วยคนค่ะ เมื่อกี้ก่อนเข้ามาอ่านกะทู้นี้ พอดีที่บ้านมีเข็มติดเสื้อเป็นรูปพญาครุฑเอาวางไว้ที่บนหัวนอนเผอิญท่านกระเด็นตกลงมาจึงวางเก็บไว้ที่เดิม หันหลังจะเดินออกห้องกระเด็นตกจากที่อีกค่ะ (ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ค่ะ) แล้วก็บังเอิญมาอ่านเจอกะทู้ ขอติดตามอ่านด้วยนะคะ
     
  10. piyaa

    piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,072
  11. Prophecy

    Prophecy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,221
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,605
    ได้เจอพยาครุฑในกทมเมื่อไหร่ครับ
     
  12. piyaa

    piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,072
    เป็นเรื่องเล่าเมื่อประมาณปี2540ครับเรื่องนี้ทางผู้ชายเป็นคนนามสกุลดังตอนนี้จบแล้วอายุตอนนี้ประมาณ35-36เป็นข้าราชการซี8จะขึ้นซี9 ส่วนผู้เขียนคืออาจารย์ผู้นี้ครับตามได้จากเฟสวารุณี สวัสดิภักดิ์ | Facebook
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2012
  13. piyaa

    piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,072
    ขอบคุณที่ติดตามครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงผุ้เล่าและอยู่ในเหตุการณ์หลักฐานพยานยืนยันเป้นคนมีชื่อเสียงทั้งสิ้นครับ
     
  14. เมตต

    เมตต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2010
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +240
    เมื่อครั้งที่ไปประชุมที่กรุงเทพ หลังจากเสร็จการประชุมก็พอมีเวลาตอนเย็น จึงชวนเพื่อนๆไปไหว้พระตามวัดต่างๆที่ใกล้กันและสามารถเดินได้ในระยะทางที่ไม่ไกลมาก ก็จะมีวัดสระเกษ วัดราชนัดดา และวัดสุทัศน์ จุดแรกก็ไปวัดสระเกษไปขึ้นภูเขาทองได้สักการะพระบรมสารีริกธาตุ และได้ถ่ายรูปวิวสวยๆกันด้วย เสร็จแล้วก็เดินมาที่วัดราชนัดดามาชมโล่หะปราสาท ระหว่างกำลังจะเดินไปวัดสุทัศน์ได้ผ่านป้ายรถเมล์ที่อยู่ตรงข้ามกับสำนักงานไทยประกันชีวิตบนยอดอาคารตึกจะมีครุฑกางปีกอยู่บนยอดตึก สวยงามมากจึงหยุดถ่ายรูปกัน เสร็จแล้วก็ไปวัดสุทัศน์ต่อ หลังจากวันนั้นสองวันฝันว่า กำลังจะเดินกลับบ้านก็เกือบจะถึงแล้ว ได้เห็นวิมานหลายหลังลอยผ่านหน้าไปก็มองขึ้นไปบนท้องฟ้า เห็นครุฑกำลังบินตรงมาหาเมื่อถึงตัวก็ยื่นมือออกมาเอาแหวนหนึ่งวง และก็ผ้าสีแดงผืนเล็กๆใส่มือให้ เราก็เอาแหวนใส่นิ้วไว้ แล้วก็เดินกลับบ้านเห็นบ้านของเราสว่างไสวผู้คนเต็มบ้านเลย ตามระเบียงบ้านก็มีผ้าจับจีบตามราวระเบียงสวยงามมาก เช้ามาก็ไม่กล้าเล่าให้ใครฟังว่าฝันเห็นครุฑกลัวเขาจะหาว่าบ้า แต่เราก็ลองเสี่ยงโชคเล่นๆก็ได้ตังมาใช้นิดหน่อย นั่นเป็นครั้งหนึ่งที่ฝันเห็นครุฑก่อนนั้นก็เคยฝันเห็นมาแล้ว
     
  15. piyaa

    piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,072
    [FONT=&quot]การที่พญาครุฑมาปรากฏให้เด็กหนุ่มคนนั้นเห็น ตัวพญาครุฑเองยังคงอยู่ในถิ่นที่อาศัยภพแดนของพญาครุฑ ฝ่ายเด็กหนุ่มก็อยู่ในบ้านภพแดนของมนุษย์ จังหวะนั้นเองที่มิติระหว่างภพมนุษย์กับมิติของภพพญาครุฑเปิดตรงกันพอดี พญาครุฑที่ยืนเอียงคอมองเด็กหนุ่ม ในความเป็นจริงแล้วพญาครุฑยืนเกาะกิ่งต้นไม้ใหญ่ ส่วนเด็กหนุ่มยืนไขประตูบ้านอยู่ที่บ้านของตนเอง พญาครุฑก็ยืนเอียงคอมองด้วยความสงสัยเหมือนกันว่า เจ้ามนุษย์มาปรากฏในถิ่นภพแดนของตนได้อย่างไร[FONT=&quot]? มาทำไม? ส่วนเด็กหนุ่มก็ตกใจกลัว พญาครุฑมาปรากฏได้อย่างไร? ทำไม? จึงมายืนเกาะบนกำแพงรั้วบ้านตนเอง อีกนัยหนึ่งคงเป็นเพราะทั้งสองคงเคยมีความผูกพันเกี่ยวข้องกันมาในภพชาติไหน จึงทำให้มองเห็นซึ่งกันและกันได้ทั้งๆที่อยู่ต่างภพกัน [/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]สรุปเรื่องนี้ก็คือ มิติเปิดชั่วครู่ตรงกันพอดีแค่นั้นเอง เรื่องของพญาครุฑที่ผู้เขียนเคยสัมผัสเห็นและมีส่วนในการช่วยให้เขียนหนังสือ เรื่องตำนานรักข้ามภพ ทำให้เชื่อว่าสิ่งที่คนโบราณพูดกันมันมีมูลความจริง ส่วนเด็กหนุ่มเองก็ยังไม่เคยฟังผู้เขียนเล่าเรื่องนี้มาก่อน [/FONT]
    [FONT=&quot]เรื่องของพญานาคและพญาครุฑ ว่ามีจริงหรือไม่ เกี่ยวข้องกับผู้เขียนอย่างไรก็ได้เล่าสู่กันฟังจบลงเพียงแค่นี้ สำหรับผู้เขียนยังไม่จบ ยังคงต้องมีเรื่องอีกมากมายเข้ามาเป็นบทเรียนให้ได้เรียนรู้ ตราบใดที่ยังนั่งสมาธิและมีลมหายใจอยู่ เรื่องราวต่างๆ ก็ยังคงเข้ามาผจญไม่มีวันจบสิ้น [/FONT]

    [FONT=&quot]ตอนนี้ต้องขอเล่าเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้อง และต่อเนื่องกับเรื่องที่เล่ามาแล้วเพื่อให้ท่านเข้าใจว่า เมื่อมีความรู้ทำไมถึงไม่รู้ว่าตนเองจะพบกับเรื่องร้ายๆอะไรบ้าง คล้ายกับว่าดูแต่คนอื่นแต่ถึงทีตนเองกลับไม่รู้ เพื่อความเข้าใจและต่อเนื่องจึงจำเป็นต้องแทรกเรื่องนี้ให้ท่านผู้อ่านได้รับรู้ [/FONT]
    [FONT=&quot]ได้มีนักธุรกิจที่มีระดับท่านหนึ่ง ได้พาครอบครัวและพี่น้องมาพบผู้เขียน เมื่อได้คุยกันจึงทราบว่าเขาชื้อหุ้นไว้หลายสิบล้านบาท เขาได้ถามผู้เขียนว่า หุ้นที่ซื้อไว้ตอนนี้ถ้าหากนำออกเทขายจะทำกำไรให้เขามากทีเดียว เขาตัดสินใจไม่ได้เพราะหุ้นกำลังดีมาก จึงอยากให้ผู้เขียนช่วยทำจิตดูให้เขาหน่อยว่า จะเสี่ยงซื้อไว้อีกหรือจะขายหุ้นที่มีอยู่ออกไป [/FONT]
     
  16. piyaa

    piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,072
    [FONT=&quot]ผู้เขียนเห็นว่าท่านผู้นี้เป็นคนที่คุ้นเคยกันมานาน จึงได้กำหนดจิตดูเรื่องนี้ ก่อนทำได้บอกไว้ก่อนแล้วว่า ถ้าหากไม่รู้ไม่เห็นก็อย่าว่ากันนะ ทุกคนเข้าใจ พอกำหนดจิตก็เห็นกระดานหุ้นขึ้นมา ผู้เขียนจึงป้อนคำถามไปว่าหุ้นจะดีหรือไม่ดีและจะเป็นยังไงต่อไป ปรากฏว่าตัวเลขในกระดานหุ้นนั้นเป็นสีแดงและมีตัวหนังสือเป็นภาษาไทยขึ้นมาว่า ตกติดดินในอีกไม่นานนี้และธุรกิจอื่นๆจะทรุดไปอีกนานหลายปี เมื่อถอนจิตออกมาแล้วได้บอกกับพี่น้องกลุ่มนั้น ตามภาพที่มองเห็น บอกเขาว่า ควรขายหุ้นที่มีอยู่ดีกว่าที่จะซื้อไว้ ที่กล้าพูดแบบนั้นออกไปเพราะจิตที่สัมผัสเห็นไม่มีอาการลังเลเลย จึงมีความมั่นใจมาก ผู้ที่อยู่ในนั้นจึงแตกออกเป็นสองฝ่าย อีกฝ่ายหนึ่งเชื่อ อีกฝ่ายหนึ่งแย้ง เหตุผลที่แย้งก็เพราะมันไม่น่าจะเป็นไปได้ เมืองไทยตอนนั้นทุกสิ่งทุกอย่างกำลังรุ่งโรจน์ ที่ดินก็ขึ้นสูงขายกันเป็นว่าเล่นไม่น่าจะมีปัญหาอะไร คนที่เชื่อก็ขายหุ้นที่ซื้อไว้ไม่เก็งกำไรอีกต่อไป คนที่ไม่เชื่อก็ซื้อเก็บไว้อีก [/FONT]
    [FONT=&quot]การรู้ล่วงหน้าในส่วนตัวของผู้เขียน โดยผ่านปัญหาของคนอื่น ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป แต่ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เพราะว่าได้รับงานไว้มากมาย และงานที่ทำต้องใช้เงินสกุลดอลลาร์ เมื่อก่อนหนึ่งดอลลาร์นั้นแค่ยี่สิบหกบาท ต่อมาก็ขึ้นเรื่อยๆ ดังที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ สองสามปีมาแล้วก็ไม่เคยลงต่ำกว่าสี่สิบบาทสักที ทำให้การค้าขายของผู้เขียนขาดทุนตั้งแต่นั้นมา ซึ่งก็เป็นการพิสูจน์คำพูดของผู้เฒ่าทั้งสามว่าเป็นจริงในเวลาต่อมา [/FONT]
    [FONT=&quot]ธุระกิจของผู้เขียนเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จึงได้ตัดรายจ่ายทั้งหมดด้วยการขายรถที่มีอยู่ทั้งสองคัน ตัวผู้เขียนเองก็ตกอยู่สภาพเครียดจัด แต่ก็พยายามรักษาสมบัติที่เหลืออยู่ให้ได้ โชคดีที่สามีมีงานทำที่ดีมีเงินเดือนหลายหมื่น พอที่จะบรรเทาเบาบางลงไปได้บ้าง แต่ก็ยังไม่เพียงพอจึงทำให้ความเครียดไม่ได้ลดน้อยลง พยายามสงบสติอารมณ์ด้วยการสวดมนต์ภาวนานั่งสมาธิ ก็ช่วยหยุดความฟุ้งซ่านได้บ้าง ผู้เขียนพยายามประคับประคองตนและจิตสมาธิเต็มกำลังที่มีอยู่ด้วยความยากลำบาก[/FONT]
    [FONT=&quot]ช่วงเวลาผ่านไปประมาณสองปี วันหนึ่งผู้เขียนก็ถึงวาระจิตตก ขาดการควบคุมชั่วขณะปล่อยให้ความฟุ้งซ่านเข้ามาเป็นผู้บงการจิต ต้นเหตุมาจากความสงสารลูกๆ ที่กำลังเรียนกันอยู่ และรำพันออกมาคนเดียวว่า [/FONT]
    [FONT=&quot]“[FONT=&quot]ตัวเราไม่เคยทำความเดือนร้อนให้ผู้ใด แต่ถ้าใครเดือนร้อนและมาขอความช่วยเหลือทั้งทางโลกและทางธรรมก็ไม่เคยปฏิเสธ สิ่งเหล่านี้น่าจะส่งเสริมผู้เขียนให้พ้น[/FONT][/FONT]
     
  17. piyaa

    piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,072
    [FONT=&quot]วิบากกรรมตรงนี้บ้าง แต่ทำไมกุศลผลบุญจึงไม่ตอบสนอง ทำไมถึงต้องมาพบกับวิกฤติชีวิตแสนสาหัสแบบนี้ด้วย แล้วก็ไม่อยากจะเบียดเบียนสามีอีกต่อไป คิดว่าควรจะเลิกสงเคราะห์ผู้อื่นที่ทุกข์ร้อนเสียที ตนเองนั้นลำบากไม่เป็นไร แต่ถ้าต้องแลกด้วยชีวิตเพื่อให้ลูกได้พบกับชีวิตที่ดีกว่า ที่กำลังได้รับอยู่จะเอาชีวิตก็ยอม[/FONT]
    [FONT=&quot]ขณะที่ซบหน้าร้องไห้ด้วยความอัดอั้นตันใจอยู่นั้น จิตของผู้เขียนได้ยินเสียงกระซิบว่า[/FONT]
    “[FONT=&quot]ยอมแล้วหรือ[FONT=&quot]..?[/FONT]”[/FONT]
    [FONT=&quot]ปากก็โต้ตอบไปทันทีว่า[/FONT]
    “[FONT=&quot]ยอมแล้วจะเอาชีวิตหรือจะฆ่าให้ตายก็เอาไปเลย เพียงแต่ขอให้ครอบครัวอยู่ดี มีความสุขก็แล้วกัน[/FONT]
    [FONT=&quot]ตอนที่พูดออกไปนั้นก็พูดแบบไม่มีสติ คิดว่าพูดกับตนเอง แบบรำพันไปเรื่อยๆ ก็ได้ยินเสียงสั่งกลับมาอีกว่า [/FONT]
    “[FONT=&quot]ถ้ายอมแล้วก็ไปเอาสมุดปากกามา[/FONT]
    [FONT=&quot]ตรงนี้เองที่ทำให้ผู้เขียนเริ่มมีสติ และรู้สึกตัวว่าไม่ได้รำพึงกับตนเองแต่กำลังพูดกับใครคนหนึ่งอยู่ จึงรวบรวมสติสัมปชัญญะ แล้วก็กำหนดจิตให้เป็นสมาธิว่า กำลังพูดกับผู้ใดอยู่และได้สัมผัสกระแสจิตของผู้ที่ได้พูดคุยกับผู้เขียน กระแสจิตที่ได้รับนั้นไม่ปรากฏรูปกายให้เห็นแต่สัมผัสได้ เป็นกระแสจิตที่สื่อถึงกัน ผู้เขียนจึงได้ถามว่า [/FONT]
    “[FONT=&quot]จะให้เอาปากกากับสมุดมาทำไม[FONT=&quot]?[/FONT]”[/FONT]
    [FONT=&quot]เจ้าของกระแสจิตจึงตอบกลับมาว่า[/FONT]
    “[FONT=&quot]จะสอนการเขียนหนังสือให้ จะได้มีรายได้เข้ามาเจือจุนครอบครัว และมีกำลังใจในการที่จะสงเคราะห์ช่วยเหลือ คนที่มีความทุกข์ที่จะมาหา เป็นการสร้างกุศลในด้านนี้ต่อไป[/FONT]
    [FONT=&quot]ตอนนี้จิตของผู้เขียนก็ลดทิฐิลงมา ทำให้มองเห็นและเรียนรู้ได้แล้วว่า ความทุกข์ทางโลกนั้นไม่มีคำว่าสิ้นสุดจนกว่าจะตาย กรรมนั้นไม่มีผู้ใดหนีพ้น ถ้าหากยังตกอยู่ในวัฏสงสารแห่งกรรม กรรมคือผู้กำหนด ถึงแม้จะตายไปแล้ว ก็ยังคงมีกระแสบุญกระแสบาป เป็นผู้นำพาจิตวิญญาณ ไปเสวยบุญเสวยกรรมแต่ละภพภูมิ ฉะนั้นกรรมที่เกิดจากกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม จึงเป็นสิ่งที่ควรระวังให้จงหนัก โดยเฉพาะผู้ที่ปฏิบัติธรรมพึงระวังไว้ให้มากๆ [/FONT]
     
  18. piyaa

    piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,072
    [FONT=&quot]ผู้เขียนได้ถามท่านผู้ไม่ปรากฏกายว่า การที่จะสอนให้ผู้เขียน เขียนหนังสือขายนั้นคงเป็นไปไม่ได้ เพราะในส่วนตัวของผู้เขียนเอง ไม่มีความรู้ความสามารถพอที่จะทำสิ่งเหล่านี้ ท่านผู้ไม่ปรากฏกายเจ้าของกระแสจิตได้บอกว่า [/FONT]
    “[FONT=&quot]ไม่ต้องโต้แย้งทำตามที่บอกก็แล้วกัน[/FONT]
    [FONT=&quot]ผู้เขียนจึงได้ทำตามและลงมือเขียนนวนิยายอิงธรรมะ เรื่องตำนานรักข้ามภพ[FONT=&quot] ใช้เวลาเพียงห้าวันก็เสร็จสิ้น ถ้าหากท่านได้อ่านเรื่องนี้แล้วท่านจะเข้าใจ รายละเอียดทั้งหมดผู้เขียนขอผ่านไป ถ้าอยากรู้ขอให้ท่านติดตามหาอ่านเอาเอง ตามศูนย์หนังสือต่างๆ [/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]สรุปเรื่องแล้วความปากพล่อยของผู้เขียน เพียงแค่เล็กๆก็เปลี่ยนแปลงชีวิตผู้เขียน ทั้งดีขึ้นและเลวลงอย่างกลับหน้ามือเป็นหลังมือทีเดียว ความสงสัยที่ท่านผู้เฒ่าได้พาผู้เขียนไปดูสถานที่อยู่บนภูกระดึงนั้น ตอนนี้ได้รู้แล้วว่ามีความหมายและความจำเป็นอย่างไร คำตอบก็คือ เพื่องานเขียนนวนิยายเรื่อง ตำนานรักข้ามภพ นั่นเอง และคำขอโทษที่ออกจากจิตก็ไม่มีการปรุงแต่ง แต่มันผุดขึ้นมาเองโดยที่ไม่ได้คิดหาคำมาก่อนล่วงหน้า และก็เป็นบทเรียนอีกบทให้ผู้เขียนได้เรียนรู้ว่า การปรุงแต่งกับการที่ไม่ได้ปรุงแต่งนั้น อารมณ์จิตมันแตกต่างกันแบบไหน[/FONT]
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=CmkXLnckzrM]ตำนานรักข้ามภพ(animation).wmv - YouTube[/ame]


    หนังสือเล่มนี้ติดต่อได้ที่ วารุณี สวัสดิภักดิ์ | Facebook หรือ สั่งซื้อมาได้ที่ได้ที่คุณเ<wbr>ปิ้ล 0896614774 จัดส่งให้ฟรีครับ
     
  19. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,441
    ค่าพลัง:
    +35,042
    แถวๆเขาพระสุเมร ก็มีครับ ไม่ใช่ที่ป่าหิมพานต์อย่างเดียว
     
  20. piyaa

    piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,072

แชร์หน้านี้

Loading...