พอใจรูม

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย ppojai, 3 ตุลาคม 2010.

  1. นางพญา20

    นางพญา20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +1,163
  2. นางพญา20

    นางพญา20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +1,163
  3. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,907
    ค่าพลัง:
    +16,490
  4. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,907
    ค่าพลัง:
    +16,490
  5. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,907
    ค่าพลัง:
    +16,490
    [​IMG]
    พระเจ้า!! จะเกิดอะไรขึ้นบนวิดีโอยูทูป “เมื่อคุณตายไปแล้ว”
    บริการหลังจากที่เราได้เสียชีวิต เพราะโซเชียล มีเดีย นี่แหล่ะ ที่เป็นสมุดสะสมความทรงจำต่างๆ ในช่วงที่เรามีชีวิตอยู่ แล้ว Youtube ล่ะ จะเกิดอะไรขึ้นหากเราเสียชีวิตไป แล้ว
    สำหรับ Facebook นั้น ทาง Daily Dot ได้นำเสนอบริการเพื่อให้คนในครอบครัวสามารถบันทึกความทรงจำในช่วงที่เรามีชีวิตอยู่ สร้างเป็นอนุสรณ์บนสุสานดิจิตอล และเราสามารถกำหนดให้ภาพความทรงจำต่างๆ นั้นคงอยู่และเป็นเหมือนสมุดบันทึกประจำวันได้โดยไม่เผยแพร่ให้ผู้อื่นเห็น เข้าใจง่ายๆคือเหมือนหนังสืองานศพที่ญาติสร้างไว้ แต่สำหรับ YouTube เอง อาจจะเทียบกันไม่ได้ เพราะไม่มีระบบในการเทียบเคียง หรือแสดงให้เห็นว่า วีดีโอได้ถูกบันทึกโดยคนรักของผู้เสียชีวิต แต่มันก็ยากที่จะไปกล่าวหาว่า YouTube ไม่สนใจ หรือพยายามลดวีดีโอ ในเมื่อข้อมูลล่าสุดใน 72 ชั่วโมงมีการอัพโหลดเข้าสู่เว็บไซต์ทุกๆ นาที
    ตัวอย่าง Ben Breedlove เสียชีวิตในเดือนธันวาคม ปี 2011 ด้วยสาเหตุจากโรคหัวใจ ญาติของผู้เสียชีวิต หรือคนรักก็อยากจะทำอนุสรณ์วีดีโอสุสานดิจิตอลไว้บน Youtube “เบน, ฉันรักคุณ!! ไม่มีคุณแล้วฉันจะอยู่ยังไง… ฉันคิดถึงคุณตลอดเวลา บางครั้ง ฉันก็แค่อยากจะเห็นอยากได้ยินเสียงคุณ การจากไปของคุณทำให้หัวใจฉันแหลกสลาย ประมาณนี้
     
  6. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    43,442
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,037
    ที่นี่ก็มีมาหลายปีแล้วค่ะ เว็ป Legacy.com ใส่ภาพ เพลงและคํากลอนต่างๆแต่ต้องเสึยค่าสมาชิกราวๆ$35ต่อปี แต่เปิดดูทีไรก็มีแต่นํ้าตาๆๆ เลยเลิกดูเพราะเหมือนกับเราจะจมอยู่กับอดีต เฮ้อๆๆ แวะมาทักทายค่ะ(f);aa49
     
  7. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,907
    ค่าพลัง:
    +16,490
    (k):cool: อดีต..บางทีก็น่าจดจำ บางทีก็ไม่น่าจดจำค่ะ..คุณพี่ต้อย..น้ำตาไหลเพราะปิตินะคะ..ธรรมดาโลก..เกิดขึ้น ตั้งมั่นอยู่..แล้วก็ดับไป ๆ ๆ ทำวันนี้..ให้ดีที่สุดนะคะ ไม่ทุกข์ ไม่เศร้า จิตว่าง ๆ ๆ ค่ะคุณพี่..
     
  8. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,907
    ค่าพลัง:
    +16,490
    :cool: ฝากเพลงให้คุณพี่ต้อย 1 เพลงค่ะ..
    [​IMG]

    [​IMG]

    file music


    ชื่อเพลง : อสงไขย
    ศิลปิน : The Sis

    3..ปล่อยความ คิดถึง ปลิว ไปใน อากาศ
    ล่องลอย หัวใจ สะอาด ลอย ไปไกลแสน ไกล
    กรุ่นกลิ่น บุหงา พัดมา ด้วยรัก จากใจ
    เพียง หวังให้ถึง ใคร คน ที่รอ คนนั้น
    ส่งความ คิดถึง ปลิว ไปใน อากาศ
    คิดถึง ใจ จะขาด เธอ อาจไม่ เข้า ใจ
    แค่อยาก ให้รู้ ไม่ได้ ต้องการ สิ่งใด
    เธอ ไม่ต้องคืน ใจ ถ้าเธอ ไม่ต้อง การ
    ฝากเป็นเพลง ที่ลอย เล่นลมไป
    ล่อง ลอย ผ่าน ไปถึง เธอ แม้จะเนิ่น นาน
    ยัง รัก เธอ ตราบนาน อสงไขยเว ลา
    หากเพลง คิดถึง ที่ปลิว ไปใน อากาศ
    เพียง ถ้ามัน พลั้งพลาด ไป ไม่พบ เธอ
    ให้บท เพลงนี้ ล่องลอย เรื่อยไป เสมอ
    รอ ซักวัน ที่เจอ คน ที่เขา ต้อง การ
    ดนตรี 8 ห้อง...7... 8..ฝากเป็นเพลง
    ที่ลอย เล่นลมไป ล่อง ลอย ผ่าน ไปถึง เธอ
    แม้จะเนิ่น นาน ยัง รัก เธอ
    ตราบนาน อสงไขยเว ลา แม้จะเนิ่น นาน
    ยัง รัก เธอ ตราบนาน อสงไขยเว ลา
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]

    รักและคิดถึงเสมอค่ะ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 สิงหาคม 2012
  9. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,907
    ค่าพลัง:
    +16,490
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=iz1jC5FfHvU&feature=relmfu]33 ชีวิตนี้เพื่อใคร - YouTube[/ame]
     
  10. ชญามณี

    ชญามณี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    230
    ค่าพลัง:
    +29
    พี่พอใจขา เพลงนี้เพราะดี เอามาฝากค่ะ

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=ITswHbJPHhQ&feature=player_detailpage]Richard Clayderman - Love Story ( CHiquitita bebe ) - YouTube[/ame]
     
  11. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,907
    ค่าพลัง:
    +16,490
    :cool:ขอบคุณนะคะน้องชญามณี ..ช่างรู้ใจว่า ..พี่ใจชอบเพลงนี้มาก ๆ
    เคยดูหนัง เลิฟสตอรี่ แล้วชอบเนื้อเรื่องและเพลงนี้เหลือเกิน จำได้ว่าร้องไห้ตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบเรื่องมังคะ..

    [​IMG]

    หากจะรักจงลืมคำว่า เสียใจ...
    ไม่ป๊ะกันนานเลย หวังว่าคงสบายดีนะคะ...
     
  12. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,907
    ค่าพลัง:
    +16,490
    [​IMG] [​IMG]


    การตามดูใจของตัวเองนี้ น่าสนใจมาก ใจที่ยังไม่ได้ฝึก มันก็คอยวิ่งไปตาม นิสัยเคยชินที่ยังไม่ได้ฝึก ไม่ได้อบรม มันเต้นคึกคักไปตามเรื่องตามราว ตามความคะนอง เพราะมันยังไม่เคยถูกฝึก

    ดังนั้น จงฝึกใจของตัวเอง การปฏิบัติภาวนาในทางพุทธศาสนาก็คือการปฏิบัติเรื่องใจ ฝึกจิตฝึกใจของตัว ฝึกอบรมจิตของตัวเองนี่แหละ เรื่องนี้สำคัญมาก การฝึกใจเป็นหลักสำคัญ พุทธศาสนาเป็นศาสนาของใจ มันมีเท่านี้ ผู้ที่ฝึกปฏิบัติทางจิต คือผู้ปฏิบัติธรรมในทางพุทธศาสนา

    • การฝึกใจ


    ใจของเรานี่มันอยู่ในกรง ยิ่งกว่านั้นมันยังมีเสือที่กำลังอาละวาดอยู่ในกรงนั้นด้วย ใจที่มันเอาแต่ใจของเรานี้ ถ้าหากมันไม่ได้อะไรตามที่มันต้องการแล้ว มันก็อาละวาด

    เราจะต้องอบรมใจด้วยการปฏิบัติภาวนาด้วยสมาธิ นี้แหละที่เราเรียกว่า “การฝึกใจ” พื้นฐานของการปฏิบัติธรรม

    ในเบื้องต้นของการฝึกปฏิบัติธรรม จะต้องมีศีลเป็นพื้นฐานหรือรากฐาน ศีลนี้เป็นสิ่งอบรม กาย วาจา ซึ่งบางทีก็จะเกิดการวุ่นวายขึ้นในใจเหมือนกัน เมื่อเราพยายามจะบังคับใจ ไม่ให้ทำตามความอยาก

    กินน้อย นอนน้อย พูดน้อย นิสัยความเคยชินอย่างโลกๆ ลดมันลง อย่ายอมตามความอยาก อย่ายอมตามความคิดของตน หยุดเป็นทาสมันเสีย พยายามต่อสู้ เอาชนะอวิชชาให้ได้ ด้วยการบังคับตัวเองเสมอ นี้เรียกว่าศีล

    เมื่อพยายามบังคับจิตของตัวเองนั้น จิตมันก็จะดิ้นรนต่อสู้ มันจะรู้สึกถูกจำกัด ถูกข่มขี่ เมื่อมันไม่ได้ทำตามที่มันอยาก มันก็จะกระวนกระวายดิ้นรน ทีนี้เห็นทุกข์ชัดล่ะ

    • เห็นทุกข์
    ทำให้เกิดปัญญา

    “ทุกข์”
    เป็นข้อแรกของอริยสัจจ์ คนทั้งหลายพากันเกลียดกลัวทุกข์ อยากหนีทุกข์ ไม่อยากให้มีทุกข์เลย

    ความจริง.. ทุกข์ที่แหละจะทำให้เราฉลาดขึ้น ทำให้เกิดปัญญา ทำให้เรารู้จักพิจารณาทุกข์ สุขนั่นสิมันจะปิดหูปิดตาเรา มันจะทำให้ไม่รู้จักอด ไม่รู้จักทนความสุขสบายทั้งหลายจะทำให้เราประมาท

    กิเลสสองตัวนี้ทุกข์เห็นได้ง่าย ดังนั้นเราจึงต้องเอาทุกข์นี่แหละมาพิจารณาแล้วพยายามทำความดับทุกข์ให้ได้ แต่ก่อนจะปฏิบัติภาวนาก็ต้องรู้จักเสียก่อนว่า ทุกข์คืออะไร

    ตอนแรกเราจะต้องฝึกใจของเราอย่างนี้ เราอาจยังไม่เข้าใจว่ามันเป็นอย่างไร ฉะนั้น เมื่อครูอาจารย์บอกให้ทำอย่างใด ก็ทำตามไปก่อน แล้วก็จะค่อยมีความอดทนอดกลั้นขึ้นเอง ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรให้อดทนอดกลั้นไว้ก่อน เพราะมันเป็นอย่างนั้นเอง อย่างเช่น เมื่อเริ่มฝึกนั่งสมาธิ เราก็ต้องการความสงบทีเดียว แต่ก็จะไม่ได้ความสงบ เพราะมันไม่เคยทำสมาธิมาก่อน ใจก็บอกว่า “จะนั่งอย่างนี้แหละจนกว่าจะได้ความสงบ” อย่าทอดทิ้งจิต แต่พอความสงบไม่เกิดก็เป็นทุกข์ ก็เลยลุกขึ้นวิ่งหนีเลย

    การปฏิบัติอย่างนี้ไม่เป็น “การพัฒนาจิต” แต่มันเป็น “การทอดทิ้งจิต” ไม่ควรปล่อยใจไปตามอารมณ์ ควรที่จะฝึกฝนอบรมตนเองตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ขี้เกียจก็ช่าง ขยันก็ช่าง ให้ปฏิบัติมันไปเรื่อยๆ ลองคิดดูซิ ทำอย่างนี้จะไม่ดีกว่าหรือ

    การปล่อยใจตามอารมณ์นั้น จะไม่มีวันถึงธรรมของพระพุทธเจ้า เมื่อเราปฏิบัติธรรม ไม่ว่าอารมณ์ใดจะเกิดขึ้นก็ช่างมัน แต่ให้ปฏิบัติไปเรื่อยๆ ปฏิบัติให้สม่ำเสมอ การตามใจตัวเองไม่ใช่แนวทางของพระพุทธเจ้า ถ้าเราปฏิบัติธรรมตามความคิดความเห็นของเรา เราจะไม่มีวันรู้แจ้งว่าอันใดผิด อันใดถูก จะไม่มีวันรู้จักใจของตัวเราเอง และไม่มีวันรู้จักตัวเอง

    ดังนั้น ถ้าปฏิบัติธรรมตามแนวทางของตนเองแล้วย่อมเป็นการเสียเวลามากที่สุด แต่การปฏิบัติตามแนวทางของ พระพุทธเจ้าแล้วย่อมเป็นหนทางตรงที่สุด

    • การพัฒนาจิต


    ขอให้จำไว้ว่า ถึงจะขี้เกียจก็ให้พยายามปฏิบัติไป ขยันก็ให้ปฏิบัติไปทุกเวลา และทุกหนทุกแห่ง นี่จึงจะเรียกว่า “การพัฒนาจิต” ถ้าหากปฏิบัติตามความคิดความเห็นของตนเองแล้ว ก็จะเกิดความคิดความสงสัยไปมากมาย มันจะให้คิดไปว่า “เราไม่มีบุญ เราไม่มีวาสนา ปฏิบัติธรรมก็นานหนักหนาแล้ว ยังไม่รู้ เรายังไม่เห็นธรรมเลยสักที” การปฏิบัติธรรมอย่างนี้ไม่เรียกว่าเป็น “การพัฒนาจิต” แต่เป็น “การพัฒนาความหายนะของจิต”

    ถ้าเมื่อใดที่ปฏิบัติธรรมไปแล้ว มีความรู้สึกอย่างนี้ว่ายังไม่รู้อะไร ยังไม่เห็นอะไร ยังไม่มีอะไรใหม่ๆ เกิดขึ้นบ้างเลย นี่ก็เพราะที่ปฏิบัติมามันผิด ไม่ได้ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งจะสิ้นสงสัยด้วยการปฏิบัติที่ถูกต้อง

    พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า “อานนท์ ปฏิบัติให้มาก ทำให้มาก แล้วจะสิ้นสงสัย” ความสงสัยไม่มีวันสิ้นไปได้ด้วยการคิด ด้วยทฤษฎี ด้วยการคาดคะเน หรือด้วยการถกเถียงกัน หรือจะอยู่เฉยๆ ไม่ปฏิบัติ ภาวนาเลย ความสงสัยก็หายไปไม่ได้อีกเหมือนกัน

    กิเลสจะหายสิ้นไปได้ก็ด้วยการพัฒนาทางจิต ซึ่งจะเกิดได้ก็ด้วยการปฏิบัติที่ถูกต้องเท่านั้น การปฏิบัติทางจิตที่พระพุทธเจ้าทรงสอนนั้น ตรงกันข้ามกับหนทางของโลกอย่างสิ้นเชิง คำสั่งสอนของพระองค์มาจากพระทัยอันบริสุทธิ์ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิเลสอาสวะทั้งหลาย นี่คือแนวทางของพระพุทธเจ้าและสาวกของพระองค์

    เมื่อเราปฏิบัติธรรม เราต้องทำใจของเราให้เป็นธรรม ไม่ใช่เอาธรรมะมาตามใจเรา ถ้าปฏิบัติอย่างนี้ ทุกข์ก็จะเกิดขึ้น แต่ไม่มีใครสักคนหรอกที่จะพ้นทุกข์ไปได้ พอเริ่มปฏิบัติ ทุกข์ก็อยู่ตรงนั้นแล้ว หน้าที่ของผู้ปฏิบัติจะต้องมีสติสำรวม และสันโดษ สิ่งเหล่านี้จะทำให้เราหยุด คือเลิกนิสัยความเคยชินที่เคยทำมาแต่เก่าก่อน ทำไมถึงต้องทำอย่างนี้ ถ้าไม่ทำอย่างนี้ ไม่ฝึกฝนอบรมใจตนเองแล้ว มันก็จะคึกคะนอง วุ่นวายไปตามธรรมชาติของมัน

    • ธรรมชาติของจิต
    ฝึกได้เสมอ

    ธรรมชาติของใจนี้มันฝึกกันได้ เอามาใช้ประโยชน์ได้
    เปรียบได้กับต้นไม้ในป่า ถ้าปล่อยทิ้งไว้ตามธรรมชาติของมัน เราก็จะเอามันมาสร้างบ้านไม่ได้ จะเอามาทำแผ่นกระดานก็ไม่ได้ หรือทำอะไรอย่างอื่นที่จะใช้สร้างบ้านก็ไม่ได้ แต่ถ้าช่างไม้ผ่านมา ต้องการไม้ไปสร้างบ้าน เขาก็จะมองหาต้นไม้ในป่านี้ และตัดต้นในป่านี้เอาไปใช้ประโยชน์ ไม่ช้าเขาก็สร้างบ้านเสร็จเรียบร้อย

    การปฏิบัติภาวนาและการพัฒนาจิต ก็คล้ายกันอย่างนี้ ก็ต้องเอาใจที่ยังไม่ได้ฝึกเหมือนไม้ในป่านี่แหละ มาฝึกมัน จนมันละเอียดประณีตขึ้น รู้ขึ้น และว่องไวขึ้น ทุกอย่างมันเป็นไปตามภาวะธรรมชาติของมัน เมื่อเรารู้จักธรรมชาติ เข้าใจธรรมชาติ เราก็เปลี่ยนมันได้ ทิ้งมันก็ได้ ปล่อยมันไปก็ได้ แล้วเราก็จะไม่ทุกข์อีกต่อไป

    (จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 139 กรกฎาคม 2555 โดย พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภัทโท) วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี)
     
  13. pporjaii

    pporjaii สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +22
    :cool:วันนี้ ได้ไปสมัครฝึกยกจิต ที่เวปของครูใหญ่ภู
    โดยพี่ต้อยสุภาทร เป็นผู้แนะนำ ไม่รู้ว่าจะมีบุญสามารถปฏิบัติได้อย่างที่ใจมุ่งหวังหรือไม่เหมือนกัน


    http://palungjit.org/threads/จิตพร้อม-รับภัยพิบัติ.334019/page-219
     
  14. pporjaii

    pporjaii สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +22
    [​IMG]

    ดอกไม้จะบาน
    หวังไว้ว่าดอกไม้จะบานสะพรั่ง เหมือนธรรมะเบ่งบานในใจ

    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1838869/[/MUSIC]

    ไฟล์เพลง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2012
  15. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    เสียงหวานจับใจ (เสียงป้าใจป่าว?) เอ่อ..ทำไมต้องสมัครใหม่? ลืมpw เหรอจ๊ะ?
     
  16. pporjaii

    pporjaii สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +22
    (k) ช่ายแว๊วววววววว เสียงป้าใจเอง น้อง ISAA
    ม่ะได้ร้องนานเหมือนกัน...

    ป้าใจเปลี่ยนรูปแทนตัวเพื่อไปเข้าเวปธรรมะยกจิตของครูใหญ่ภู .. ภาพเดิมมันหวานแหววปายนิดนึง เด่ว..เพื่อน ๆ ปฏิบัติธรรมจะนึกตำหนิในใจเอาน่ะจ๊ะ..

    :cool: ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียนกันนะคะ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2012
  17. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    อย่างดิฉันเนี่ย พอจะไปเวปนั้นได้ป่าวคะ? (ถามไว้ก่อน)
     
  18. pporjaii

    pporjaii สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +22
    (k) ได้ซิคะ ทั้งครูเพ็ญ ครูใหญ่ภู ยินดีต้อนรับทุกท่านล่ะค่ะ แต่อาจจะปฏิบัติยากหน่อย ต้องมีความเพียรนะคะ..ก็ถามใจนู่น่ะแหละว่ากายพร้อม ใจพร้อมหรือยัง..แต่ป้าใจน่ะ ครึ่ง ๆ นะ หวั่น ๆ ว่าจะปฏิบัติได้มากน้อยแค่ไหนเหมือนกัน ลองแวะเข้าไปอ่านดูก่อนก็ได้นะคะ แล้วค่อยสมัคร..
    คลิกที่นี่เลยค่ะ

     
  19. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    เพียรขนาดไหนล่ะคะ? ใจพร้อม แต่กายขี้เกียจค่ะ555+ ขอบคุณมากนะคะ เด๊ยวจะคลิ๊กเข้าไปดู
    (น่ารักไม่เปลี่ยนเลยป้าใจ)
     
  20. pporjaii

    pporjaii สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +22
    การปฎิบัติธรรมจิตเกาะพระ.. โดยสังเขป
    .โดย จิตเกาะพระ เมื่อ 18 สิงหาคม 2012 เวลา 21:38 น. ?.ลูกพลัง : การปฎิบัติธรรมจิตเกาะพระ.. โดยสังเขป

    สืบเนื่องมาจากมีผู้คนสงสัยในการปฎิบัติธรรมจิตเกาะพระกันมาก คือว่าเป็นของใหม่สำหรับท่านๆเหล่านั้น จึงมีการดำริขึ้นมาว่าควรที่จะทำการรวบรวมข้อมูลอธิบายความการปฎิบัติธรรมจิตเกาะพระโดยสังเขป เพื่อเป็นธรรมทานแก่ผู้อ่านทั่วไปหรือผู้สนใจจะปฎิบัติธรรมอย่างจริงจัง จะได้รับทราบโดยองค์รวมของการปฎิบัติรวมถึงเป้าหมายปลายทางว่าเป็นเช่นไร

    ที่มา: สมเด็จองค์ปฐมพระพุทธเจ้าทรงมีเมตตา แนะนำถ่ายทอดผ่านท่านพี่ภูลงมา โดยมีท่านพี่ภูเป็นผู้ปฎิบัติสำเร็จเป็นคนแรกแล้วก็ถ่ายทอดต่อมายังบุคคลท่านอื่นๆตามลำดับต่อมา แล้วในวันหนึ่งกาลภายภาคหน้า การปฎิบัติธรรมจิตเกาะพระนี้จะเป็นที่แพร่หลายแก่พุทธศาสนิกชนสืบต่อไป ตั้งแต่ยุคกึ่งพุทธกาลนี้เป็นต้นไป..

    วัตถุประสงค์: เป็นการปฎิบัติธรรมซึ่งเจริญรอยตามอริยมรรควิธีของพุทธศาสนา (ศีล สมาธิ ปัญญา) เพื่อนำไปสู่ความหลุดพ้นมีดวงตาเห็นธรรมโดยใช้เวลาไม่นานนัก คือนอกจากจะเป็นทางสายตรงแล้วก็ยังเป็นทางลัดด้วย..(คำว่าทางลัดในที่นี้หมายถึง ผลแห่งการปฎิบัติจะเกิดประสิทธิผลด้านเวลาอยู่มาก)

    อานิสงค์: มีดวงตาเห็นธรรม สามารถตัดสิ้นอาสาวะกิเลสทั้งปวง ถึงมรรค ผล นิพพานในภพชาตินี้

    อรรถาบรรยาย: ความจริงแล้วก็เป็นการปฎิบัติธรรมเชกเช่นเดียวกับการปฎิบัติธรรมในรูปแบบอื่นๆ สายอื่นๆสำนักอื่นๆ แต่ที่มีความต่างอย่างเห็นได้ชัดเจนคือ รูปแบบการปฎิบัติสามารถเข้ากับภาระกิจทางโลกได้ง่ายไม่ยุ่งยาก สามารถปฎิบัติได้ทุกที่ทุกเวลา มีความคล่องตัวในการปฎิบัติไม่มีเงื่อนไขมาก ทำแบบสบายๆ ทำไปเรื่อยๆ และที่สำคัญคือ ประสิทธิภาพประสิทธิผลแห่งการปฎิบัติเมื่อเทียบกับเวลาที่สูญเสียไปทุกวันๆ (ลองไปหาดูในกระทู้เก่าๆที่เขียนข้อเด่นเอาไว้แล้ว)
     

แชร์หน้านี้

Loading...