สวดมนต์แบบในใจ กับ แบบออกเสียง โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

ผู้ถาม : "หลวงพ่อคะ สวดมนต์แบบในใจ กับ สวดมนต์แบบออกเสียง อานิสงส์เท่ากันไหมคะ.?"

หลวงพ่อ : "ไม่เท่าหรอก เพราะมันเหนื่อยไม่เท่ากัน… อานิสงส์ ถ้าแปลตามความหมายแปลว่า ผลที่พึงจะได้รับ ลีลาการสวดมนต์ในใจก็ไม่แน่ สุดแท้แต่คน บางคนนึกในใจ จิตเข...าฟุ้งซ่านใช่ไหม..บางคนออกเสียงเหนื่อยเกินไป ในใจดีกว่า

ก็รวมความว่า สุดแล้วแต่ทำอย่างไหนจิตจะมีสมาธิดีกว่ากัน บางคนนึกในใจไม่ได้หรอก จิตฟุ้งซ่าน ต้องว่าออกเสียงดังๆ

ถ้าอย่างหลวงพ่อออกเสียงดังไม่ดี นึกในใจดีกว่า ก็สุดแล้วแต่คน นี่ผลก็ต้องอยู่ที่ว่าคนใดจิตมีสมาธิดีกว่า และสวดมนต์ได้ดีกว่ากัน ต้องถือตามนั้นนะ

การสวดมนต์มีอานิสงส์ใหญ่ สวดน้อยก็มีอานิสงส์ใหญ่ อานิสงส์ใหญ่จริงๆ อยู่ที่เจตนา จิตมีความเคารพในพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์จริง

และเวลาสวดมนต์ด้วยความเคารพจริง ถึงสวดน้อยก็มีอานิสงส์ใหญ่ ถ้าสวดมนต์ว่าเรื่อยเปื่อยไปไม่ได้ตั้งใจ ว่าส่งเดช อย่างนี้ว่ามากก็มีอานิสงส์น้อย


ทีนี้ถ้าจะถามว่าสวดมนต์กับภาวนา อย่างไหนจะมีอานิสงส์มากกว่า ถ้าสวดมนต์ก็อยู่แค่อุปจารสมาธิ ถ้าภาวนาสั้นๆจิตเป็นฌานได้ต่างกัน ทีนี้ถ้าคนภาวนาส่งเดชก็ไม่เป็นเรื่องเหมือนกัน แต่ภาวนาส่งเดชก็ดีกว่าไม่ภาวนาเลย ใช่ไหม.."


※ จากหนังสือหลวงพ่อตอบปัญหาธรรมเล่ม ๔
พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง)

 

สงสัยเรื่องนี้อยู่พอดีเลย ขอบคุณคะ ^^

 

anumothana sathu kha

 

สาธุครับ ผมเองถ้าฟุ้งซ่านผมก็สวดน้อยๆแล้วก็สมาธิหลับไปเลย ;aa22

 

ขอบคุณมากครับ ที่นำสิ่งดีๆมาให้ได้อ่านนับว่าได้ความรู้เพิ่มขึ้นอีกมากครับ

 

สาธุ อนุโมทามิ สวดทุกวัน/วันไหนไม่สวดจะมีคนมากะซิบข้างหูเลย

 

สงสัยมานาน กระจ่างวันนี้เองครับ
อนุโมทนาสาธุกับผู้เผยแพร่ด้วยครับ

 

ในใจแล้วมันฟุ่งซ่านแต่ไม่เหนื่อย
แบบเสียงออกมันเหนื่อยแต่ไม่ฟุ่งซ่าน ยอมเหนื่อยปากแห้ง

 

ประสบการณ์การสวดมนต์ ตอนเริ่มชีวิตการสวดมนต์เช้าเย็น ใหม่ ๆ มีความรู้สึกเหมือนมีใครสักคนเตือนให้ไปสวดมนต์ จิตใจชักไม่สุข กำลังทำอะไรอยู่ต้องวางมือ ไปอาบน้ำ เข้าห้องพระ บ่อยครั้งเข้าก็กลายเป็นกิจวัตรประจำวัน จนเคยเป็นนิสัย

เสียงสวดมนต์ของตนเองแรก ๆ จะงุ้งงิ้ง ๆ ในลำคอ ไม่มีพลัง เหมือนกลัวสวดผิด ไม่มั่นใจ แต่ปัจจุบันนี้ พลังจากการสวดมนต์ มันทะลุออกมาจากทรวงอกข้างใน หนักแน่น เข็มแข็ง มีพลัง ยิ่งดังเหมือนยิ่งได้ปลดปล่อยอะไรบางอย่างออกจากบริเวณทรวงอก แล้วทำให้โล่ง เบา สบาย วันไหนได้ไปปฏิบัติธรรม ถือศีล 8 ที่วัด ช่วงสวดมนต์หมู่ เป็นอะไรที่ชอบมาก
พลังภายในมีเท่าไหร่ เปลี่ยนออกมาเป็นพลังการสวดมนต์ให้หมด ที่แน่น ๆ หน้าอก ก็หาย เบากาย เบาใจ กลับบ้าน เมื่อก่อนเคยสงสัยเหมือนกันว่าเวลาเห็นใครสวดมนต์เสียงดัง แสดงความเก่งกล้าสามารถที่สวดเป็นหรือ ตอนนี้เจอกับตัวเองแล้วค่ะ

 

สิ้นสงสัย ขอบคุณมากค่ะ เพราะเราเองก็สวดมนต์ในใจไม่ออกเสียงในเวลาว่างอยู่ อนุโมทนาสาธุ ค่ะ

 

ถ้าสวดไม่จบบท จะบาปไหม....?

 

ไม่บาป

ไม่บาปแน่นอนครับ สวดไม่จบยังดีกว่าไม่ได้สวดเลยใช่ไหมครับ

 

ภาวนานี้คือท่องบทสวดอยู่ในใจก็ได้ค่ะ สำหรับผู้ปฏิบัติคือเวลานั่งว่างๆก็ท่องได้ค่ะ เช่น บทอิติปิโส
ถ้าสวดมนต์คือการออกเสียงค่ะ เป็นการกล่าวคำทบทวนคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เทวดาได้ยินจะอนุโมทนาและลงรักษาค่ะ ;39

 

ผมขออนุโมทนาครับ

และขอเพิ่มเติมดังนี้
1.) การสวดมนต์ ออกเสียง กับในใจ อย่างแรกที่พึงได้รับ คือ เรื่องของสมาธิครับ ได้แน่นอน พอได้สมาธิ ก็เกิด กุศลกรรม ได้ทำกรรมดี เพื่อได้ทำกรรมดี ก็ย่อมได้ผลบุญด้วยครับ
2.) การสวดออกเสียง มีผลวิจัยจากต่างประเทศ (แต่ตอนนี้ผมหา Web อ้างอิงไม่ได้แล้วนะครับ ไม่รู้หายไปไหน) ว่ามีผลกระทบกับร่างกายโดยตรง ซึ่งแต่ละอักขระเกี่ยวกับการออกเสียง มีผลกับร่างกาย ตับ ม้าน หัวใจ อะไรทำนองนี้ครับ โดยเสียงอัขระของบทสวด มีความสอดคล้องกับเสียงโน๊ต ของดนตรี
3.) การสวดมนต์ ควรรู้ความหมายของบทสวด (เคยอ่านเจอนะครับ) เพราะจะมีผลในการอนุโมทนา จาก โอปะติกกะ ที่อยู่ในบริเวณที่ได้ยิน เพราะถ้ามองในเรื่องของพลังงานเสียง (พลังงานไม่มีการสูญหาย มีแต่การเปลี่ยนรูปพลังงาน)
4.) อัขระที่ออกเสียงเช่น สังฆัง ออกเสียงเป็น สังคัง ทันทีถ้าคุณออกฐานกระทบเสียง บริเวณ ช่องปากครับ เพราะสังฆัง เป็นการออกเสียงที่ลำคอ ลองดูนะที่เสียงกระทบ (เคยบวช เจอพระที่เรียนเปรียญในการออกเสียงอักขระ)
ดังนั้น การออกเสียง จะทำให้เราทราบ เกี่ยวกับ ฐานการออกเสียงว่า ออกที่ไหนครับ (เมื่อมีความพยายามในการออกเสียง ย่อมได้บุญแรงเช่นเดียวกันครับ)

 

ขอบคุณครับ

 

สวดในใจครับ อิติปิโส ๙ จบ ไม่ทำปากขมุบขมิบ นับในใจ ไม่นับนิ้ว
สติ+สมาธิต้องตั้งมั่นดี

 

โมทนาบุญครับ

โมทนาบุญครับผม สวดในใจสมาธิดีกว่า